ทำไมเราถึงรู้สึกโหยหาอดีต (Nostalgia) - เคลย์ รูทเลดจ์ (Clay Routledge)
-
0:06 - 0:08เมื่อปลายศตวรรษที่ 17
-
0:08 - 0:12นักศึกษาแพทย์นาม โยฮันเนส โฮเฟอร์
ได้ค้นพบโรคประหลาด -
0:12 - 0:16เกิดขึ้นกับทหารรับจ้างชาวสวิส
ที่ถูกส่งไปยังต่างแดน -
0:16 - 0:17มีอาการคือ
-
0:17 - 0:18เหนื่อยล้า
-
0:18 - 0:19นอนไม่หลับ
-
0:19 - 0:20หัวใจเต้นผิดปกติ
-
0:20 - 0:21อาหารไม่ย่อย
-
0:21 - 0:23และมีไข้ขึ้นสูง
-
0:23 - 0:27จนทหารเหล่านี้จำต้องถูกปลดระวางไป
-
0:27 - 0:30โฮเฟอร์ พบว่าสาเหตุนั้น ไม่ได้เกิดจาก
ความผิดปกติทางร่างกาย -
0:30 - 0:34แต่มาจากความโหยหาบ้านเกิด
แดนขุนเขาอย่างรุนแรง -
0:34 - 0:36เขาขนานนามภาวะเช่นนี้ว่า
นอสแตลเจีย (nostalgia) -
0:36 - 0:39ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษากรีกคำว่า
"นอสโตส" คือ การกลับบ้าน -
0:39 - 0:42และ "อัลโกส" คือ ความเจ็บปวด
หรือความโหยหา -
0:42 - 0:47แรกเริ่ม นอสแตลเจียถูกเข้าใจว่า
เป็นโรคที่เกิดกับคนสวิสเท่านั้น -
0:47 - 0:51แพทย์บางส่วนลงความเห็นว่า เสียงกระดิ่ง
ที่ดังต่อเนื่องของวัวบนเทือกเขาแอลป์ -
0:51 - 0:55ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บที่แก้วหูและสมอง
-
0:55 - 1:00ทำให้พวกผู้บัญชาการถึงกับสั่งห้าม
ไม่ให้เหล่าทหารร้องเพลงพื้นเมืองสวิส -
1:00 - 1:04ด้วยความกลัวว่ามันจะนำไปสู่การหนีทหาร
หรือการฆ่าตัวตาย -
1:04 - 1:10แต่เมื่อเกิดการย้ายถิ่นฐานมากขึ้นในทั่วโลก
นอสแตลเจียก็ได้ถูกพบในหลากหลายกลุ่ม -
1:10 - 1:14ปรากฏว่า ใครก็ตามที่พลัดพราก
จากบ้านเกิดเมืองนอนมาเป็นระยะเวลานาน -
1:14 - 1:17กลับมีความเสี่ยงที่จะเป็นนอสแตลเจีย
-
1:17 - 1:19และในต้นศตวรรษที่ 20
-
1:19 - 1:22ผู้เชี่ยวชาญไม่ได้มองว่า
เป็นโรคทางระบบประสาทอีกต่อไป -
1:22 - 1:26แต่เป็นสภาวะทางจิตที่
คล้ายคลึงกับโรคซึมเศร้า -
1:26 - 1:28นักจิตวิทยาในเวลานั้นคาดเดาว่า
-
1:28 - 1:31มันแสดงถึงความยากเย็นในการ
ปล่อยวางช่วงเวลาในวัยเด็ก -
1:31 - 1:35หรือแม้แต่ความโหยหาที่จะ
กลับไปสู่สภาวะทารกในครรภ์ -
1:35 - 1:37แต่ในไม่กี่ทศวรรษถัดมา
-
1:37 - 1:41ความเข้าใจเกี่ยวกับนอสแตลเจีย
ได้พลิกโฉมเป็นสองลักษณะที่สำคัญคือ -
1:41 - 1:44ความหมายของมัน
ได้ขยายความจากอาการคิดถึงบ้าน -
1:44 - 1:47มาเป็นการโหยหาอดีตโดยทั่วไป
-
1:47 - 1:49และจากการถูกมองว่าเป็นโรคที่น่ากลัว
-
1:49 - 1:54กลับเริ่มประจักษ์ว่ามันเป็นประสบการณ์
ที่มีทั้งความเจ็บปวดและน่าพอใจ -
1:54 - 1:56ตัวอย่างที่มีชื่อเสียงที่สุด
ของความเข้าใจในเรื่องนี้ -
1:56 - 1:59ถูกนำเสนอโดยนักเขียนชาวฝรั่งเศส
"มาร์แซล พรุสต์" -
1:59 - 2:03เขาอธิบายถึงการได้กินเค้กแมเดลินน์
ที่เขาไม่ได้กินนับแต่ตอนเด็กเป็นต้นมา -
2:03 - 2:09ได้กระตุ้นความรู้สึกทางกายสัมพันธ์
อันแสนอบอุ่นและแรงกล้าได้อย่างไร -
2:09 - 2:14แล้วอะไรกันที่ทำให้มุมมองของเรา
ที่มีต่อนอสแตลเจียเกิดกลับตาลปัตร -
2:14 - 2:16ส่วนหนึ่งนั้นเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์
-
2:16 - 2:20จิตวิทยาได้เปลี่ยนจากทฤษฎีบริสุทธิ์
-
2:20 - 2:25มาสู่การสังเกตหลักฐานเชิงประจักษ์
อย่างเป็นระบบและใส่ใจยิ่งขึ้น -
2:25 - 2:28ดังนั้น บรรดาผู้เชี่ยวชาญจึงพบว่า
กลุ่มอาการด้านลบหลายประการ -
2:28 - 2:31อาจแค่สัมพันธ์กับนอสแตลเจีย
-
2:31 - 2:33มากกว่าจะเกิดจากมันเป็นต้นเหตุ
-
2:33 - 2:37และอันที่จริง แทนที่จะเป็น
สภาวะทางอารมณ์ที่ซับซ้อน -
2:37 - 2:40ที่อาจรวมถึงความรู้สึกสูญเสีย
และเศร้าโศก -
2:40 - 2:44นอสแตลเจียไม่ได้ก่อให้เกิด
อารมณ์เชิงลบเสมอไป -
2:44 - 2:48หากแต่เป็นการทำให้ปัจเจกบุคคล
จดจำช่วงเวลาดี ๆ ที่มีความหมาย -
2:48 - 2:52และทรงคุณค่าที่เคยมีร่วมกับผู้อื่น
-
2:52 - 2:55นอสแตลเจียสามารถยกระดับ
สุขภาวะทางจิตได้ -
2:55 - 2:58การศึกษาวิจัยพบว่าการกระตุ้น
ให้เกิดนอสแตลเจียในคนเรา -
2:58 - 3:03สามารถช่วยเสริมความภูมิใจในตัวเอง
และการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม -
3:03 - 3:05สร้างความเจริญทางจิตใจ
-
3:05 - 3:08ทั้งยังทำให้คนเรา
ปฏิบัติตนอย่างมีเมตตามากขึ้น -
3:08 - 3:11ฉะนั้น แทนที่จะเป็นสาเหตุของสภาวะ
"เครียดเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์แปลกใหม่"
(Mental Distress) -
3:11 - 3:16นอสแตลเจียสามารถใช้เป็น
วิธีในการฟื้นฟูเพื่อรับมือกับมัน -
3:16 - 3:19ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคนประสบ
กับสภาวะทางอารมณ์เชิงลบ -
3:19 - 3:23พวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้นอสแตลเจีย
ในการคลายเครียด -
3:23 - 3:26และฟื้นคืนสุขภาวะ
-
3:26 - 3:29ปัจจุบันนอสแตลเจียนั้น
เป็นที่พบเห็นได้ทั่วทุกหนทุกแห่ง -
3:29 - 3:33ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบริษัทโฆษณา
พบว่ามันทรงอานุภาพมากแค่ไหน -
3:33 - 3:35ในฐานะเครื่องมือทางการตลาด
-
3:35 - 3:39เป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นมันเป็นเสมือน
สัญลักษณ์ว่าเรายึดติดกับอดีต -
3:39 - 3:42แต่นั่นไม่ใช่ลักษณะที่แท้จริง
ของนอสแตลเจีย -
3:42 - 3:47ในทางกลับกัน นอสแตลเจียช่วยย้ำเตือนเรา
ว่าชีวิตนี้มีความหมายและคุณค่า -
3:47 - 3:51ช่วยให้เราค้นพบความมั่นใจ
และแรงบันดาลใจ -
3:51 - 3:53เพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายในอนาคต
- Title:
- ทำไมเราถึงรู้สึกโหยหาอดีต (Nostalgia) - เคลย์ รูทเลดจ์ (Clay Routledge)
- Speaker:
- Clay Routledge
- Description:
-
ชมบทเรียนฉบับสมบูรณ์ : http://ed.ted.com/lessons/why-do-we-feel-nostalgia-clay-routledge
ภาวะโหยหาอดีต (Nostalgia) เคยถูกเข้าใจว่าเป็นความเจ็บป่วยที่จำกัดอยู่แต่ในเฉพาะคนบางกลุ่ม ทว่าปัจจุบันผู้คนทั่วโลกต่างก็ประสบพบเจอและมีความพึงพอใจกับภาวะนอสแตลเจียด้วยกันทั้งสิ้น ว่าแต่มันทำงานอย่างไร แล้วมันมีผลดีต่อตัวเราหรือไม่
เคลย์ รูทเลดจ์ จะมาอธิบายถึงวิธีการทำความเข้าใจกับภาวะนอสแตลเจียที่ถูกพลิกโฉมหน้าไปนับตั้งแต่ที่มีการบัญญัติคำนี้ขึ้นมาในปลายศตวรรษที่ 17บทเรียนโดย Clay Routledge แอนิเมชันโดย Anton Bogaty
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TED-Ed
- Duration:
- 04:09
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for Why do we feel nostalgia? | ||
Retired user accepted Thai subtitles for Why do we feel nostalgia? | ||
Retired user edited Thai subtitles for Why do we feel nostalgia? | ||
Retired user declined Thai subtitles for Why do we feel nostalgia? | ||
Retired user edited Thai subtitles for Why do we feel nostalgia? | ||
Retired user edited Thai subtitles for Why do we feel nostalgia? | ||
Pawee Sirimai edited Thai subtitles for Why do we feel nostalgia? | ||
Retired user declined Thai subtitles for Why do we feel nostalgia? |