โจเซฟ คิม (Joseph Kim): ครอบครัวที่ผมสูญเสียในเกาหลีเหนือ และครอบครัวที่ผมได้มา
-
0:01 - 0:04ผมเกิดและเติบโตในเกาหลีเหนือ
-
0:04 - 0:09ถึงแม้ว่าครอบครัวของผม
ต้องต่อสู้กับความอดอยากตลอดมา -
0:09 - 0:13แต่ผมก็ได้รับความรักและการเอาใจใส่เสมอ
-
0:13 - 0:15ประการแรก เพราะว่าผมเป็นลูกชายคนเดียว
-
0:15 - 0:18และเป็นน้องคนเล็กในบรรดาลูกสองคนของครอบครัว
-
0:18 - 0:22แต่แล้วมหาทุพภิกขภัยก็ได้เริ่มขึ้นในปีค.ศ. 1994
-
0:22 - 0:24ตอนนั้นผมมีอายุได้สี่ขวบ
-
0:24 - 0:28พี่สาวและผมต้องออกไปหาไม้ฟืน
-
0:28 - 0:30ตั้งแต่ตีห้า
-
0:30 - 0:33และกว่าจะกลับมาก็หลังเที่ยงคืน
-
0:33 - 0:37ผมต้องเดินร่อนเร่ตามถนนเพื่อหาอาหาร
-
0:37 - 0:39และผมก็จำได้ว่า เห็นเด็กเล็กๆ
-
0:39 - 0:42ที่อยู่บนหลังของแม่ กำลังกินมันฝรั่งทอด
-
0:42 - 0:45และผมก็อยากจะขโมยอาหารจากเขา
-
0:45 - 0:50ความหิวโหยเป็นความอัปยศ
ความหิวโหยเป็นความสิ้นหวัง -
0:50 - 0:53สำหรับเด็กที่หิวโหยนั้น การเมืองและเสรีภาพ
-
0:53 - 0:56ไม่ได้เป็นสิ่งที่อยู่ในความคิดของพวกเขาเลย
-
0:56 - 0:58ในวันเกิดครบหกปีของผม พ่อแม่ของผม
-
0:58 - 1:02มิอาจจะหาอะไรมาให้ผมกินได้
-
1:02 - 1:06แต่ถึงแม้ว่าผมจะเป็นเด็ก
ผมก็สามารถรับรู้ได้ถึงภาระอันหนักหนา -
1:06 - 1:09ในหัวใจของพวกเขา
-
1:09 - 1:14ชาวเกาหลีเหนือกว่าล้านคน
ต้องเสียชีวิตเพราะความโหยหิวที่เกิดขึ้นในเวลานั้น -
1:14 - 1:18และในปี ค.ศ. 2003 เมื่อผมอายุได้ 13 ปี
-
1:18 - 1:21คุณพ่อของผมก็เป็นหนึ่งในนั้น
-
1:21 - 1:24ผมมองคุณพ่อ ค่อยๆ โรยรา และตายจากไป
-
1:24 - 1:29ในปีเดียวกัน วันหนึ่งแม่ของผมก็หายไป
-
1:29 - 1:30และจากนั้น พี่สาวก็บอกผมว่า
-
1:30 - 1:33เธอจะไปยังประเทศจีนเพื่อทำงานหาเงิน
-
1:33 - 1:37แต่เธอจะกลับมาพร้อมกับเงินและอาหารในอีกไม่นาน
-
1:37 - 1:40เนื่องจากเราไม่เคยที่จะแยกห่างกัน
-
1:40 - 1:43และผมคิดว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
-
1:43 - 1:47ผมไม่ได้แม้แต่จะกอดเธอเมื่อเธอกำลังจะไป
-
1:47 - 1:51มันเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงที่สุด
เท่าที่ผมเคยทำในชีวิต -
1:51 - 1:53แต่จะว่าไปแล้ว ผมก็ไม่อาจรู้ได้
-
1:53 - 1:56ว่ามันจะเป็นการอำลาจากกันที่ยาวนานเหลือเกิน
-
1:56 - 2:01ผมไม่ได้เห็นแม่หรือพี่สาวของผมตั้งแต่นั้น
-
2:01 - 2:06ผมกลายเป็นเด็กกำพร้า ไร้บ้าน เร่ร่อน ในบัดดล
-
2:06 - 2:09ชีวิตประจำวันของผมกลายเป็นความยากลำบาก
-
2:09 - 2:11แต่ก็เรียบง่ายนัก
-
2:11 - 2:15เป้าหมายของผมคือ
การหาเศษขนมปังสกปรกในถังขยะ -
2:15 - 2:18แต่นั่นไม่ใช่หนทางที่จะทำให้รอดชีวิต
-
2:18 - 2:22ผมเริ่มที่จะตระหนักว่า
การขอนั้นไม่อาจเป็นการแก้ปัญหาได้ -
2:22 - 2:28ดังนั้น ผมจึงเริ่มขโมยอาหาร
จากรถเข็นขายอาหารในตลาดมืด -
2:28 - 2:31บางครั้ง ผมก็ทำงานเล็กๆ
-
2:31 - 2:33เพื่อแลกกับอาหาร
-
2:33 - 2:36ครั้งหนึ่ง ผมเคยใช้เวลาถึงสองเดือนในฤดูหนาว
-
2:36 - 2:38ทำงานในเหมืองถ่านหิน
-
2:38 - 2:44ลึกลงไป 33 เมตรใต้ดิน โดยไม่มีเครื่องป้องกันใดๆ
-
2:44 - 2:47นานถึง 16 ชั่วโมงต่อวัน
-
2:47 - 2:49ชีวิตแบบนั้นไม่ได้แปลกประหลาด
-
2:49 - 2:57เด็กกำพร้าอีกมากมาย มีชีวิตอยู่ด้วยวิถีชีวิตแบบนั้น
หรืออาจแย่กว่าด้วยซ้ำ -
2:57 - 3:01เมื่อผมไม่สามารถจะข่มตาหลับได้
เพราะความหนาวอันแสนสาหัส -
3:01 - 3:03หรือเพราะความหิวที่แสนทรมาน
-
3:03 - 3:05ผมหวังว่า เช้าวันรุ่งขึ้น
-
3:05 - 3:08พี่สาวของผมจะกลับมา ปลุกผมให้ตื่นขึ้น
-
3:08 - 3:10พร้อมกับอาหารโปรดของผม
-
3:10 - 3:13ความหวังนั้นเอง ที่ทำให้ผมมีชีวิตอยู่
-
3:13 - 3:16ผมไม่ได้หมายถึงความฝันอันยิ่งใหญ่อะไรแบบนั้น
-
3:16 - 3:19ผมหมายถึงความหวัง แบบที่ทำให้ผมเชื่อ
-
3:19 - 3:22ว่าถังขยะอันถัดไปอาจมีขนมปัง
-
3:22 - 3:25ถึงแม้ว่าปกติแล้วมันจะไม่มี
-
3:25 - 3:28แต่ถ้าผมไม่เชื่อแบบนั้น ผมก็คงจะไม่พยายาม
-
3:28 - 3:30และแล้ว ผมก็คงจะต้องตายแน่
-
3:30 - 3:34ความหวังทำให้ผมยังคงมีชีวิตอยู่
-
3:34 - 3:37ทุกๆ วัน ผมบอกตัวเองว่า
-
3:37 - 3:40ไม่ว่ามันจะลำบากยากแค้นแค่ไหนก็ตาม
-
3:40 - 3:44ยังไงซะ ผมก็ต้องรอดให้ได้
-
3:44 - 3:48หลังจากการรอคอยการกลับมาของพี่สาวถึงสามปี
-
3:48 - 3:52ผมตัดสินใจที่จะไปประเทศจีน เพื่อตามหาเธอด้วยตนเอง
-
3:52 - 3:55ผมตระหนักว่า
-
3:55 - 3:59ผมไม่สามารถที่จะเอาชีวิตรอดด้วยวิถีแบบนี้
ไปได้นานกว่านี้อีกแล้ว -
3:59 - 4:02ผมรู้ว่าการเดินทางนั้นมีความเสี่ยง
-
4:02 - 4:04แต่ถึงผมไม่ไป ผมก็เสี่ยงชีวิตอยู่ดี
-
4:04 - 4:09ผมอาจอดตายเหมือนกับพ่อของผมในเกาหลีเหนือก็ได้
-
4:09 - 4:12อย่างน้อย ผมควรที่จะลองดูเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
-
4:12 - 4:15โดยหลบหนีไปประเทศจีน
-
4:15 - 4:19ผมได้ทราบมาว่าคนมากมาย พยายามที่จะ
-
4:19 - 4:23ข้ามชายแดนไปยังประเทศจีนช่วงตอนกลางคืน
เพื่อที่จะไม่ให้ถูกจับได้ -
4:23 - 4:27ตำรวจชายแดนเกาหลีเหนือมักจะยิง และฆ่าคน
-
4:27 - 4:31ที่พยายามข้ามชายแดนโดยไม่ได้รับอนุญาต
-
4:31 - 4:33ทหารจีนจะจับ
-
4:33 - 4:35และส่งชาวเกาหลีเหนือกลับมา
-
4:35 - 4:40ซึ่งพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับการลงโทษขั้นรุนแรง
-
4:40 - 4:43ผมตัดสินใจที่จะข้ามชายแดนในช่วงกลางวัน
-
4:43 - 4:48ประการแรก เพราะว่าผมยังเด็ก และกลัวความมืด
-
4:48 - 4:53ประการที่สอง เพราะผมรู้กำลังเข้าเสี่ยงอยู่แล้ว
-
4:53 - 4:56และในเมื่อไม่มีคนพยายามจะข้ามชายแดนในช่วงกลางวัน
-
4:56 - 4:58ผมคิดว่า ผมอาจจะข้ามชายแดนสำเร็จ
-
4:58 - 5:01โดยไม่ถูกพบก็เป็นได้
-
5:01 - 5:05ผมไปยังประเทศจีนได้สำเร็จ
ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2006 -
5:05 - 5:07ผมอายุ 16 ปีในขณะนั้น
-
5:07 - 5:10ผมคิดว่าชีวิตในประเทศจีนจะดีกว่า
-
5:10 - 5:14เพราะว่าที่นั่นมีอาหารมากมาย
-
5:14 - 5:17ผมคิดว่า จะมีคนช่วยเหลือผมมากขึ้น
-
5:17 - 5:21แต่ว่า มันอยู่ยากว่าในเกาหลีเหนือเสียอีก
-
5:21 - 5:22เพราะว่าผมไม่ได้มีอิสรภาพ
-
5:22 - 5:25ผมวิตกกังวลตลอดเวลาว่าจะถูกจับได้
-
5:25 - 5:28และถูกส่งกลับไป
-
5:28 - 5:31แต่ด้วยปาฏิหาร ไม่กี่เดือนต่อมา
-
5:31 - 5:33ผมได้พบกับบุคคล
-
5:33 - 5:36ที่ทำปฎิบัติการใต้ดินให้ที่พักพิงกับชาวเกาหลีเหนือ
-
5:36 - 5:39และได้รับอนุญาตให้อยู่ที่นั่น
-
5:39 - 5:44และได้กินอาหารเป็นมื้อปกติเป็นครั้งแรกในหลายปี
-
5:44 - 5:48ต่อมาในปีนั้น นักปฎิบัติการคนหนึ่งได้ช่วยผม
หลบหนีออกจากประเทศจีน -
5:48 - 5:53และไปยังสหรัฐฯ ในฐานะผู้ลีภัย
-
5:53 - 5:56ผมไปยังอเมริกาโดยไม่รู้ภาษาอังกฤษสักคำ
-
5:56 - 6:00ถึงกระนั้น นักสังคมสงเคราะห์ก็ยังบอกผมว่า
ผมต้องไปโรงเรียนมัธยมปลาย -
6:00 - 6:04แม้แต่ในเกาหลีเหนือ ผมยังเป็นนักเรียนขั้นบ๊วย
-
6:04 - 6:06(เสียงหัวเราะ)
-
6:06 - 6:10และผมแทบจะไม่จบโรงเรียนประถมด้วยซ้ำ
-
6:10 - 6:13และผมจำได้ว่าผมมีเรื่องชกต่อยในโรงเรียน
มากกว่าหนึ่งครั้งต่อวัน -
6:13 - 6:17ตำราและห้องสมุดไม่ใช่ที่สนุกของผมเลย
-
6:17 - 6:21คุณพ่อของผมพยายามมาก ที่จะผลักดันผมให้เรียนหนังสือ
-
6:21 - 6:23แต่มันก็ไม่สำเร็จ
-
6:23 - 6:26ณ จุดหนึ่ง พ่อของผมหมดหวังในตัวผม
-
6:26 - 6:30ท่านบอกว่า "แกมันไม่ใช่ลูกของฉันอีกแล้ว"
-
6:30 - 6:35ผมอายุได้ 11 หรือ 12 ปี
แต่นั่นมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมาก -
6:35 - 6:38แต่อย่างไรก็ตาม ระดับความพยายามของผม
-
6:38 - 6:42ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต
-
6:42 - 6:45ดังนั้นในอเมริกา มันออกจะเป็นอะไรที่น่าขัน
-
6:45 - 6:48ที่พวกเขาบอกว่า ผมควรจะเข้าโรงเรียนมัธยมปลาย
-
6:48 - 6:51ผมยังไม่เคยไปโรงเรียนมัธยมต้นเลยด้วยซ้ำ
-
6:51 - 6:54ผมตัดสินใจไป แค่เพราะว่าพวกเขาบอกให้ผมไป
-
6:54 - 6:56โดยไม่ได้พยายามอะไรมากนัก
-
6:56 - 7:00แต่วันหนึ่ง ผมกลับบ้านมาและแม่บุญธรรมของผม
-
7:00 - 7:03ทำปีกไก่ย่างเอาไว้สำหรับเป็นมื้อเย็น
-
7:03 - 7:06และระหว่างมื้อเย็นนั้น ผมอยากที่จะกินปีกไก่อีกสักชิ้น
-
7:06 - 7:09แต่ผมก็รู้ว่า มันมีไม่พอสำหรับทุกคน
-
7:09 - 7:13ผมก็เลยตัดสินใจที่จะไม่กิน
-
7:13 - 7:15เมื่อผมมองลงไปยังจานของผม
-
7:15 - 7:20ผมเห็นปีกไก่ชิ้นสุดท้าย
ที่พ่อบุญธรรมของผมยกส่วนของท่านให้ -
7:20 - 7:23ผมดีใจมาก
-
7:23 - 7:25ผมมองไปที่ท่านซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ผม
-
7:25 - 7:28ท่านแค่มองกลับมายังผมด้วยสายตาที่อบอุ่น
-
7:28 - 7:31แต่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ
-
7:31 - 7:36ทันใดนั้นเอง ผมนึกถึงคุณพ่อแท้ๆ ของผม
-
7:36 - 7:39การแสดงออกเล็กๆ อันเนื่องด้วยความรัก
ของพ่อบุญธรรมของผม -
7:39 - 7:41ทำให้ผมระลึกได้ถึงคุณพ่อ
-
7:41 - 7:44ผู้ซึ่งยินดีที่จะแบ่งอาหารของท่านให้กับผม
-
7:44 - 7:49เมื่อท่านหิวโหย แม้ว่าตัวท่านเองนั้นก็อดอยาก
-
7:49 - 7:53ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ
ผมมีอาหารมากมายในอเมริกา -
7:53 - 7:56แต่พ่อของผมต้องตายเพราะความอดอยาก
-
7:56 - 8:01พรข้อเดียวที่ผมอธิษฐานในคืนนั้น
คือขอให้ผมได้ทำอาหารสักมื้อให้ท่าน -
8:01 - 8:04และในคืนนั้นเอง ผมก็ได้คิดอีกว่า
ผมยังจะทำอะไรได้อีก -
8:04 - 8:06เพื่อที่จะเป็นเกียรติแก่ท่าน
-
8:06 - 8:09และคำตอบของผมก็คือ การปฏิญาณสัญญากับตัวเอง
-
8:09 - 8:13ว่าผมจะตั้งใจเรียนให้หนัก
เพื่อความเป็นเลิศทางการศึกษา -
8:13 - 8:16ในอเมริกา เพื่อที่จะเป็นเกียรติแก่การอุทิศของท่าน
-
8:16 - 8:19ผมตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง
-
8:19 - 8:21และเป็นครั้งแรกในชีวิตของผม
-
8:21 - 8:25ที่ผมได้รับรางวัลความเป็นเลิศทางวิชาการ
-
8:25 - 8:31และอยู่ในรายชื่อนักเรียนกลุ่มหัวกระทิ
ตั้งแต่เทอมแรกในโรงเรียนมัธยมปลาย -
8:31 - 8:39(เสียงปรบมือ)
-
8:39 - 8:41ปีกไก่ย่างนั้นเปลี่ยนชีวิตผม
-
8:41 - 8:45(เสียงหัวเราะ)
-
8:45 - 8:49ความหวังนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล
ความหวังเป็นอะไรบางอย่าง -
8:49 - 8:51ที่ไม่มีใครสามารถให้กับคุณได้
-
8:51 - 8:54คุณต้องเลือกที่จะเชื่อในความหวัง
-
8:54 - 8:58คุณต้องสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวคุณเอง
-
8:58 - 9:01ในเกาหลีเหนือ ผมสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง
-
9:01 - 9:04ความหวัง นำผมไปยังอเมริกาฯ
-
9:04 - 9:07แต่ในอเมริกาฯ ผมไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
-
9:07 - 9:12เพราะว่าผมมีอิสรภาพที่แสนจะมากมายท่วมท้น
-
9:12 - 9:16ณ ที่โต๊ะอาหารเย็นนั้น พ่อบุญธรรมของผมได้ชี้ทางให้ผม
-
9:16 - 9:19และเขาได้ผลักดันผม และให้จุดหมายกับผม
-
9:19 - 9:23ในการมีชีวิตอยู่ในอเมริกาฯ
-
9:23 - 9:26ผมไม่ได้มาที่นี่ด้วยตัวผมเอง
-
9:26 - 9:31ผมมีความหวัง
แต่ความหวังอย่างเดียวนั้นมันไม่เพียงพอ -
9:31 - 9:35มีคนมากมายที่ช่วยผมตลอดทางจนผมมาถึงจุดนี้
-
9:35 - 9:39ชาวเกาหลีเหนือยังคงต่อสู้อย่างมาก
เพื่อที่จะเอาชีวิตรอด -
9:39 - 9:42พวกเขาต้องบังคับตัวเองให้มีชีวิตรอด
-
9:42 - 9:45มีความหวังที่จะมีชีวิตรอด
-
9:45 - 9:50แต่พวกเขาไม่สามารถที่จะทำได้
โดยปราศจากความช่วยเหลือ -
9:50 - 9:52นี่คือข้อความจากผมสำหรับพวกคุณนะครับ
-
9:52 - 9:55จงมีความหวังสำหรับตัวคุณเอง
-
9:55 - 9:58แต่จงช่วยเหลือกันและกันด้วย
-
9:58 - 10:04ชีวิตอาจจะยากลำบากสำหรับทุกๆ คน
ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน -
10:04 - 10:08พ่อบุญธรรมของผม
ไม่ได้ตั้งใจที่จะเปลี่ยนชีวิตของผม -
10:08 - 10:12เช่นกัน บางทีคุณอาจจะเปลี่ยนชีวิตใครสักคน
-
10:12 - 10:17ด้วยการแสดงออกเพียงเล็กน้อยด้วยความรัก
-
10:17 - 10:22ขนมปังชิ้นเล็กๆ สามารถทำให้คุณหายหิว
-
10:22 - 10:25และการมีความหวังจะนำขนมปังมาให้คุณ
-
10:25 - 10:28เพื่อให้คุณมีชีวิตต่อไป
-
10:28 - 10:31แต่ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า
-
10:31 - 10:34การแสดงออกด้วยความรักและความห่วงใยของคุณ
-
10:34 - 10:38สามารถที่จะช่วยชีวิตของโจเซฟอีกคน
-
10:38 - 10:43และเปลี่ยนชีวิตของโจเซฟอีกหลายพันคน
-
10:43 - 10:47ผู้ที่ยังคงมีความหวังที่จะมีชีวิตรอด
-
10:47 - 10:48ขอบคุณครับ
-
10:48 - 10:57(เสียงปรบมือ)
-
11:25 - 11:27เอเดรียน ฮอง: โจเซฟ ขอบคุณสำหรับการแบ่งปัน
-
11:27 - 11:31เรื่องราวส่วนตัวที่แสนพิเศษนี้กับพวกเรานะครับ
-
11:31 - 11:34ผมรู้ว่าคุณไม่ได้พบพี่สาวของคุณเลย ตามที่คุณพูดนี่ก็
-
11:34 - 11:36เกือบจะสิบปีได้แล้ว
-
11:36 - 11:39และเผื่อว่า นี่จะเป็นโอกาสที่เธออาจได้เห็น
-
11:39 - 11:40เราอยากให้โอกาสคุณ
-
11:40 - 11:43ส่งข้อความถึงเธอน่ะครับ
-
11:43 - 11:44โจเซฟ: เป็นภาษาเกาหลีหรอครับ
-
11:44 - 11:46เอเดรียน: คุณพูดภาษาอังกฤษ
แล้วพูดภาษาเกาหลีต่อได้เลยครับ -
11:46 - 11:50(เสียงหัวเราะ)
-
11:50 - 11:53โจเซฟ: เออ ผมคงจะไม่พูดเป็นภาษาเกาหลีแล้วล่ะครับ
-
11:53 - 11:55เพราะว่าผมคิดว่าผมคงจะทำ
-
11:55 - 11:59โดยที่จะไม่ปล่อยโฮไม่ได้แน่ๆ
-
11:59 - 12:04นูนะ นี่ก็ 10 ปีมาแล้ว
-
12:04 - 12:10ที่ผมไม่ได้เจอพี่
-
12:10 - 12:14ผมแค่อยากจะบอก
-
12:14 - 12:18ว่าผมคิดถึงพี่ และผมรักพี่นะ
-
12:18 - 12:22และได้โปรดด้วยเถอะ
กลับมาหาผมและโปรดมีชีวิตอยู่ด้วย -
12:22 - 12:27และผม -- โอ้พระเจ้าช่วย
-
12:27 - 12:31ผมยังไม่หมดหวังที่จะได้พบกับพี่
-
12:34 - 12:38ผมจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
-
12:38 - 12:42และขยันเรียนให้มาก
-
12:42 - 12:44จนกว่าผมจะได้พบพี่
-
12:44 - 12:48และผมขอสัญญาว่า ผมจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว
-
12:48 - 12:50(เสียงหัวเราะ)
-
12:50 - 12:52ครับ ผมจะตั้งตารอที่จะได้พบพี่
-
12:52 - 12:55และถ้าพี่ไม่สามารถตามหาผมได้
-
12:55 - 12:58ผมจะมองหาพี่อีกแรง
-
12:58 - 13:00และผมหวังว่าจะได้เจอพี่ในสักวัน
-
13:00 - 13:04และ ให้ผมส่งข้อความสั้นๆ
ให้แม่ของผมด้วยได้ไหมครับ -
13:04 - 13:05เอเดรียน: แน่นอน เชิญเลยครับ
-
13:05 - 13:08โจเซฟ: ผมไม่ได้ใช้เวลามากมายกับแม่
-
13:08 - 13:10แต่ผมรู้ว่า แม่ยังรักผมอยู่
-
13:10 - 13:13และบางที ยังคงสวดมนต์เผื่อผม
-
13:13 - 13:16และคิดถึงผม
-
13:16 - 13:18ผมแค่อยากจะบอกว่า ขอบคุณครับ
-
13:18 - 13:22ที่ให้ผมได้เกิดมาบนโลกใบนี้
-
13:22 - 13:23ขอบคุณครับ
-
13:23 - 13:29(เสียงปรบมือ)
- Title:
- โจเซฟ คิม (Joseph Kim): ครอบครัวที่ผมสูญเสียในเกาหลีเหนือ และครอบครัวที่ผมได้มา
- Speaker:
- Joseph Kim
- Description:
-
โจเซฟ คิม ผู้ลี้ภัยที่ขณะนี้อยู่ในสหรัฐอเมริกา บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเขาในเกาหลีเหนือในช่วงแห่งทุพภิกขภัย เขาได้เริ่มต้นสร้างชีวิตใหม่ แต่เขายังคงตามหาครอบครัวที่พลัดพรากกันไป
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 13:34
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The family I lost in North Korea. And the family I gained. | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for The family I lost in North Korea. And the family I gained. | ||
Uzma Daraman commented on Thai subtitles for The family I lost in North Korea. And the family I gained. | ||
Uzma Daraman accepted Thai subtitles for The family I lost in North Korea. And the family I gained. | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut commented on Thai subtitles for The family I lost in North Korea. And the family I gained. | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The family I lost in North Korea. And the family I gained. | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The family I lost in North Korea. And the family I gained. | ||
Uzma Daraman declined Thai subtitles for The family I lost in North Korea. And the family I gained. |