Return to Video

โจเซฟ คิม (Joseph Kim): ครอบครัวที่ผมสูญเสียในเกาหลีเหนือ และครอบครัวที่ผมได้มา

  • 0:01 - 0:04
    ผมเกิดและเติบโตในเกาหลีเหนือ
  • 0:04 - 0:09
    ถึงแม้ว่าครอบครัวของผม
    ต้องต่อสู้กับความอดอยากตลอดมา
  • 0:09 - 0:13
    แต่ผมก็ได้รับความรักและการเอาใจใส่เสมอ
  • 0:13 - 0:15
    ประการแรก เพราะว่าผมเป็นลูกชายคนเดียว
  • 0:15 - 0:18
    และเป็นน้องคนเล็กในบรรดาลูกสองคนของครอบครัว
  • 0:18 - 0:22
    แต่แล้วมหาทุพภิกขภัยก็ได้เริ่มขึ้นในปีค.ศ. 1994
  • 0:22 - 0:24
    ตอนนั้นผมมีอายุได้สี่ขวบ
  • 0:24 - 0:28
    พี่สาวและผมต้องออกไปหาไม้ฟืน
  • 0:28 - 0:30
    ตั้งแต่ตีห้า
  • 0:30 - 0:33
    และกว่าจะกลับมาก็หลังเที่ยงคืน
  • 0:33 - 0:37
    ผมต้องเดินร่อนเร่ตามถนนเพื่อหาอาหาร
  • 0:37 - 0:39
    และผมก็จำได้ว่า เห็นเด็กเล็กๆ
  • 0:39 - 0:42
    ที่อยู่บนหลังของแม่ กำลังกินมันฝรั่งทอด
  • 0:42 - 0:45
    และผมก็อยากจะขโมยอาหารจากเขา
  • 0:45 - 0:50
    ความหิวโหยเป็นความอัปยศ
    ความหิวโหยเป็นความสิ้นหวัง
  • 0:50 - 0:53
    สำหรับเด็กที่หิวโหยนั้น การเมืองและเสรีภาพ
  • 0:53 - 0:56
    ไม่ได้เป็นสิ่งที่อยู่ในความคิดของพวกเขาเลย
  • 0:56 - 0:58
    ในวันเกิดครบหกปีของผม พ่อแม่ของผม
  • 0:58 - 1:02
    มิอาจจะหาอะไรมาให้ผมกินได้
  • 1:02 - 1:06
    แต่ถึงแม้ว่าผมจะเป็นเด็ก
    ผมก็สามารถรับรู้ได้ถึงภาระอันหนักหนา
  • 1:06 - 1:09
    ในหัวใจของพวกเขา
  • 1:09 - 1:14
    ชาวเกาหลีเหนือกว่าล้านคน
    ต้องเสียชีวิตเพราะความโหยหิวที่เกิดขึ้นในเวลานั้น
  • 1:14 - 1:18
    และในปี ค.ศ. 2003 เมื่อผมอายุได้ 13 ปี
  • 1:18 - 1:21
    คุณพ่อของผมก็เป็นหนึ่งในนั้น
  • 1:21 - 1:24
    ผมมองคุณพ่อ ค่อยๆ โรยรา และตายจากไป
  • 1:24 - 1:29
    ในปีเดียวกัน วันหนึ่งแม่ของผมก็หายไป
  • 1:29 - 1:30
    และจากนั้น พี่สาวก็บอกผมว่า
  • 1:30 - 1:33
    เธอจะไปยังประเทศจีนเพื่อทำงานหาเงิน
  • 1:33 - 1:37
    แต่เธอจะกลับมาพร้อมกับเงินและอาหารในอีกไม่นาน
  • 1:37 - 1:40
    เนื่องจากเราไม่เคยที่จะแยกห่างกัน
  • 1:40 - 1:43
    และผมคิดว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
  • 1:43 - 1:47
    ผมไม่ได้แม้แต่จะกอดเธอเมื่อเธอกำลังจะไป
  • 1:47 - 1:51
    มันเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงที่สุด
    เท่าที่ผมเคยทำในชีวิต
  • 1:51 - 1:53
    แต่จะว่าไปแล้ว ผมก็ไม่อาจรู้ได้
  • 1:53 - 1:56
    ว่ามันจะเป็นการอำลาจากกันที่ยาวนานเหลือเกิน
  • 1:56 - 2:01
    ผมไม่ได้เห็นแม่หรือพี่สาวของผมตั้งแต่นั้น
  • 2:01 - 2:06
    ผมกลายเป็นเด็กกำพร้า ไร้บ้าน เร่ร่อน ในบัดดล
  • 2:06 - 2:09
    ชีวิตประจำวันของผมกลายเป็นความยากลำบาก
  • 2:09 - 2:11
    แต่ก็เรียบง่ายนัก
  • 2:11 - 2:15
    เป้าหมายของผมคือ
    การหาเศษขนมปังสกปรกในถังขยะ
  • 2:15 - 2:18
    แต่นั่นไม่ใช่หนทางที่จะทำให้รอดชีวิต
  • 2:18 - 2:22
    ผมเริ่มที่จะตระหนักว่า
    การขอนั้นไม่อาจเป็นการแก้ปัญหาได้
  • 2:22 - 2:28
    ดังนั้น ผมจึงเริ่มขโมยอาหาร
    จากรถเข็นขายอาหารในตลาดมืด
  • 2:28 - 2:31
    บางครั้ง ผมก็ทำงานเล็กๆ
  • 2:31 - 2:33
    เพื่อแลกกับอาหาร
  • 2:33 - 2:36
    ครั้งหนึ่ง ผมเคยใช้เวลาถึงสองเดือนในฤดูหนาว
  • 2:36 - 2:38
    ทำงานในเหมืองถ่านหิน
  • 2:38 - 2:44
    ลึกลงไป 33 เมตรใต้ดิน โดยไม่มีเครื่องป้องกันใดๆ
  • 2:44 - 2:47
    นานถึง 16 ชั่วโมงต่อวัน
  • 2:47 - 2:49
    ชีวิตแบบนั้นไม่ได้แปลกประหลาด
  • 2:49 - 2:57
    เด็กกำพร้าอีกมากมาย มีชีวิตอยู่ด้วยวิถีชีวิตแบบนั้น
    หรืออาจแย่กว่าด้วยซ้ำ
  • 2:57 - 3:01
    เมื่อผมไม่สามารถจะข่มตาหลับได้
    เพราะความหนาวอันแสนสาหัส
  • 3:01 - 3:03
    หรือเพราะความหิวที่แสนทรมาน
  • 3:03 - 3:05
    ผมหวังว่า เช้าวันรุ่งขึ้น
  • 3:05 - 3:08
    พี่สาวของผมจะกลับมา ปลุกผมให้ตื่นขึ้น
  • 3:08 - 3:10
    พร้อมกับอาหารโปรดของผม
  • 3:10 - 3:13
    ความหวังนั้นเอง ที่ทำให้ผมมีชีวิตอยู่
  • 3:13 - 3:16
    ผมไม่ได้หมายถึงความฝันอันยิ่งใหญ่อะไรแบบนั้น
  • 3:16 - 3:19
    ผมหมายถึงความหวัง แบบที่ทำให้ผมเชื่อ
  • 3:19 - 3:22
    ว่าถังขยะอันถัดไปอาจมีขนมปัง
  • 3:22 - 3:25
    ถึงแม้ว่าปกติแล้วมันจะไม่มี
  • 3:25 - 3:28
    แต่ถ้าผมไม่เชื่อแบบนั้น ผมก็คงจะไม่พยายาม
  • 3:28 - 3:30
    และแล้ว ผมก็คงจะต้องตายแน่
  • 3:30 - 3:34
    ความหวังทำให้ผมยังคงมีชีวิตอยู่
  • 3:34 - 3:37
    ทุกๆ วัน ผมบอกตัวเองว่า
  • 3:37 - 3:40
    ไม่ว่ามันจะลำบากยากแค้นแค่ไหนก็ตาม
  • 3:40 - 3:44
    ยังไงซะ ผมก็ต้องรอดให้ได้
  • 3:44 - 3:48
    หลังจากการรอคอยการกลับมาของพี่สาวถึงสามปี
  • 3:48 - 3:52
    ผมตัดสินใจที่จะไปประเทศจีน เพื่อตามหาเธอด้วยตนเอง
  • 3:52 - 3:55
    ผมตระหนักว่า
  • 3:55 - 3:59
    ผมไม่สามารถที่จะเอาชีวิตรอดด้วยวิถีแบบนี้
    ไปได้นานกว่านี้อีกแล้ว
  • 3:59 - 4:02
    ผมรู้ว่าการเดินทางนั้นมีความเสี่ยง
  • 4:02 - 4:04
    แต่ถึงผมไม่ไป ผมก็เสี่ยงชีวิตอยู่ดี
  • 4:04 - 4:09
    ผมอาจอดตายเหมือนกับพ่อของผมในเกาหลีเหนือก็ได้
  • 4:09 - 4:12
    อย่างน้อย ผมควรที่จะลองดูเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
  • 4:12 - 4:15
    โดยหลบหนีไปประเทศจีน
  • 4:15 - 4:19
    ผมได้ทราบมาว่าคนมากมาย พยายามที่จะ
  • 4:19 - 4:23
    ข้ามชายแดนไปยังประเทศจีนช่วงตอนกลางคืน
    เพื่อที่จะไม่ให้ถูกจับได้
  • 4:23 - 4:27
    ตำรวจชายแดนเกาหลีเหนือมักจะยิง และฆ่าคน
  • 4:27 - 4:31
    ที่พยายามข้ามชายแดนโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • 4:31 - 4:33
    ทหารจีนจะจับ
  • 4:33 - 4:35
    และส่งชาวเกาหลีเหนือกลับมา
  • 4:35 - 4:40
    ซึ่งพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับการลงโทษขั้นรุนแรง
  • 4:40 - 4:43
    ผมตัดสินใจที่จะข้ามชายแดนในช่วงกลางวัน
  • 4:43 - 4:48
    ประการแรก เพราะว่าผมยังเด็ก และกลัวความมืด
  • 4:48 - 4:53
    ประการที่สอง เพราะผมรู้กำลังเข้าเสี่ยงอยู่แล้ว
  • 4:53 - 4:56
    และในเมื่อไม่มีคนพยายามจะข้ามชายแดนในช่วงกลางวัน
  • 4:56 - 4:58
    ผมคิดว่า ผมอาจจะข้ามชายแดนสำเร็จ
  • 4:58 - 5:01
    โดยไม่ถูกพบก็เป็นได้
  • 5:01 - 5:05
    ผมไปยังประเทศจีนได้สำเร็จ
    ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2006
  • 5:05 - 5:07
    ผมอายุ 16 ปีในขณะนั้น
  • 5:07 - 5:10
    ผมคิดว่าชีวิตในประเทศจีนจะดีกว่า
  • 5:10 - 5:14
    เพราะว่าที่นั่นมีอาหารมากมาย
  • 5:14 - 5:17
    ผมคิดว่า จะมีคนช่วยเหลือผมมากขึ้น
  • 5:17 - 5:21
    แต่ว่า มันอยู่ยากว่าในเกาหลีเหนือเสียอีก
  • 5:21 - 5:22
    เพราะว่าผมไม่ได้มีอิสรภาพ
  • 5:22 - 5:25
    ผมวิตกกังวลตลอดเวลาว่าจะถูกจับได้
  • 5:25 - 5:28
    และถูกส่งกลับไป
  • 5:28 - 5:31
    แต่ด้วยปาฏิหาร ไม่กี่เดือนต่อมา
  • 5:31 - 5:33
    ผมได้พบกับบุคคล
  • 5:33 - 5:36
    ที่ทำปฎิบัติการใต้ดินให้ที่พักพิงกับชาวเกาหลีเหนือ
  • 5:36 - 5:39
    และได้รับอนุญาตให้อยู่ที่นั่น
  • 5:39 - 5:44
    และได้กินอาหารเป็นมื้อปกติเป็นครั้งแรกในหลายปี
  • 5:44 - 5:48
    ต่อมาในปีนั้น นักปฎิบัติการคนหนึ่งได้ช่วยผม
    หลบหนีออกจากประเทศจีน
  • 5:48 - 5:53
    และไปยังสหรัฐฯ ในฐานะผู้ลีภัย
  • 5:53 - 5:56
    ผมไปยังอเมริกาโดยไม่รู้ภาษาอังกฤษสักคำ
  • 5:56 - 6:00
    ถึงกระนั้น นักสังคมสงเคราะห์ก็ยังบอกผมว่า
    ผมต้องไปโรงเรียนมัธยมปลาย
  • 6:00 - 6:04
    แม้แต่ในเกาหลีเหนือ ผมยังเป็นนักเรียนขั้นบ๊วย
  • 6:04 - 6:06
    (เสียงหัวเราะ)
  • 6:06 - 6:10
    และผมแทบจะไม่จบโรงเรียนประถมด้วยซ้ำ
  • 6:10 - 6:13
    และผมจำได้ว่าผมมีเรื่องชกต่อยในโรงเรียน
    มากกว่าหนึ่งครั้งต่อวัน
  • 6:13 - 6:17
    ตำราและห้องสมุดไม่ใช่ที่สนุกของผมเลย
  • 6:17 - 6:21
    คุณพ่อของผมพยายามมาก ที่จะผลักดันผมให้เรียนหนังสือ
  • 6:21 - 6:23
    แต่มันก็ไม่สำเร็จ
  • 6:23 - 6:26
    ณ จุดหนึ่ง พ่อของผมหมดหวังในตัวผม
  • 6:26 - 6:30
    ท่านบอกว่า "แกมันไม่ใช่ลูกของฉันอีกแล้ว"
  • 6:30 - 6:35
    ผมอายุได้ 11 หรือ 12 ปี
    แต่นั่นมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมาก
  • 6:35 - 6:38
    แต่อย่างไรก็ตาม ระดับความพยายามของผม
  • 6:38 - 6:42
    ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต
  • 6:42 - 6:45
    ดังนั้นในอเมริกา มันออกจะเป็นอะไรที่น่าขัน
  • 6:45 - 6:48
    ที่พวกเขาบอกว่า ผมควรจะเข้าโรงเรียนมัธยมปลาย
  • 6:48 - 6:51
    ผมยังไม่เคยไปโรงเรียนมัธยมต้นเลยด้วยซ้ำ
  • 6:51 - 6:54
    ผมตัดสินใจไป แค่เพราะว่าพวกเขาบอกให้ผมไป
  • 6:54 - 6:56
    โดยไม่ได้พยายามอะไรมากนัก
  • 6:56 - 7:00
    แต่วันหนึ่ง ผมกลับบ้านมาและแม่บุญธรรมของผม
  • 7:00 - 7:03
    ทำปีกไก่ย่างเอาไว้สำหรับเป็นมื้อเย็น
  • 7:03 - 7:06
    และระหว่างมื้อเย็นนั้น ผมอยากที่จะกินปีกไก่อีกสักชิ้น
  • 7:06 - 7:09
    แต่ผมก็รู้ว่า มันมีไม่พอสำหรับทุกคน
  • 7:09 - 7:13
    ผมก็เลยตัดสินใจที่จะไม่กิน
  • 7:13 - 7:15
    เมื่อผมมองลงไปยังจานของผม
  • 7:15 - 7:20
    ผมเห็นปีกไก่ชิ้นสุดท้าย
    ที่พ่อบุญธรรมของผมยกส่วนของท่านให้
  • 7:20 - 7:23
    ผมดีใจมาก
  • 7:23 - 7:25
    ผมมองไปที่ท่านซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ผม
  • 7:25 - 7:28
    ท่านแค่มองกลับมายังผมด้วยสายตาที่อบอุ่น
  • 7:28 - 7:31
    แต่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ
  • 7:31 - 7:36
    ทันใดนั้นเอง ผมนึกถึงคุณพ่อแท้ๆ ของผม
  • 7:36 - 7:39
    การแสดงออกเล็กๆ อันเนื่องด้วยความรัก
    ของพ่อบุญธรรมของผม
  • 7:39 - 7:41
    ทำให้ผมระลึกได้ถึงคุณพ่อ
  • 7:41 - 7:44
    ผู้ซึ่งยินดีที่จะแบ่งอาหารของท่านให้กับผม
  • 7:44 - 7:49
    เมื่อท่านหิวโหย แม้ว่าตัวท่านเองนั้นก็อดอยาก
  • 7:49 - 7:53
    ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ
    ผมมีอาหารมากมายในอเมริกา
  • 7:53 - 7:56
    แต่พ่อของผมต้องตายเพราะความอดอยาก
  • 7:56 - 8:01
    พรข้อเดียวที่ผมอธิษฐานในคืนนั้น
    คือขอให้ผมได้ทำอาหารสักมื้อให้ท่าน
  • 8:01 - 8:04
    และในคืนนั้นเอง ผมก็ได้คิดอีกว่า
    ผมยังจะทำอะไรได้อีก
  • 8:04 - 8:06
    เพื่อที่จะเป็นเกียรติแก่ท่าน
  • 8:06 - 8:09
    และคำตอบของผมก็คือ การปฏิญาณสัญญากับตัวเอง
  • 8:09 - 8:13
    ว่าผมจะตั้งใจเรียนให้หนัก
    เพื่อความเป็นเลิศทางการศึกษา
  • 8:13 - 8:16
    ในอเมริกา เพื่อที่จะเป็นเกียรติแก่การอุทิศของท่าน
  • 8:16 - 8:19
    ผมตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง
  • 8:19 - 8:21
    และเป็นครั้งแรกในชีวิตของผม
  • 8:21 - 8:25
    ที่ผมได้รับรางวัลความเป็นเลิศทางวิชาการ
  • 8:25 - 8:31
    และอยู่ในรายชื่อนักเรียนกลุ่มหัวกระทิ
    ตั้งแต่เทอมแรกในโรงเรียนมัธยมปลาย
  • 8:31 - 8:39
    (เสียงปรบมือ)
  • 8:39 - 8:41
    ปีกไก่ย่างนั้นเปลี่ยนชีวิตผม
  • 8:41 - 8:45
    (เสียงหัวเราะ)
  • 8:45 - 8:49
    ความหวังนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล
    ความหวังเป็นอะไรบางอย่าง
  • 8:49 - 8:51
    ที่ไม่มีใครสามารถให้กับคุณได้
  • 8:51 - 8:54
    คุณต้องเลือกที่จะเชื่อในความหวัง
  • 8:54 - 8:58
    คุณต้องสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวคุณเอง
  • 8:58 - 9:01
    ในเกาหลีเหนือ ผมสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง
  • 9:01 - 9:04
    ความหวัง นำผมไปยังอเมริกาฯ
  • 9:04 - 9:07
    แต่ในอเมริกาฯ ผมไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
  • 9:07 - 9:12
    เพราะว่าผมมีอิสรภาพที่แสนจะมากมายท่วมท้น
  • 9:12 - 9:16
    ณ ที่โต๊ะอาหารเย็นนั้น พ่อบุญธรรมของผมได้ชี้ทางให้ผม
  • 9:16 - 9:19
    และเขาได้ผลักดันผม และให้จุดหมายกับผม
  • 9:19 - 9:23
    ในการมีชีวิตอยู่ในอเมริกาฯ
  • 9:23 - 9:26
    ผมไม่ได้มาที่นี่ด้วยตัวผมเอง
  • 9:26 - 9:31
    ผมมีความหวัง
    แต่ความหวังอย่างเดียวนั้นมันไม่เพียงพอ
  • 9:31 - 9:35
    มีคนมากมายที่ช่วยผมตลอดทางจนผมมาถึงจุดนี้
  • 9:35 - 9:39
    ชาวเกาหลีเหนือยังคงต่อสู้อย่างมาก
    เพื่อที่จะเอาชีวิตรอด
  • 9:39 - 9:42
    พวกเขาต้องบังคับตัวเองให้มีชีวิตรอด
  • 9:42 - 9:45
    มีความหวังที่จะมีชีวิตรอด
  • 9:45 - 9:50
    แต่พวกเขาไม่สามารถที่จะทำได้
    โดยปราศจากความช่วยเหลือ
  • 9:50 - 9:52
    นี่คือข้อความจากผมสำหรับพวกคุณนะครับ
  • 9:52 - 9:55
    จงมีความหวังสำหรับตัวคุณเอง
  • 9:55 - 9:58
    แต่จงช่วยเหลือกันและกันด้วย
  • 9:58 - 10:04
    ชีวิตอาจจะยากลำบากสำหรับทุกๆ คน
    ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน
  • 10:04 - 10:08
    พ่อบุญธรรมของผม
    ไม่ได้ตั้งใจที่จะเปลี่ยนชีวิตของผม
  • 10:08 - 10:12
    เช่นกัน บางทีคุณอาจจะเปลี่ยนชีวิตใครสักคน
  • 10:12 - 10:17
    ด้วยการแสดงออกเพียงเล็กน้อยด้วยความรัก
  • 10:17 - 10:22
    ขนมปังชิ้นเล็กๆ สามารถทำให้คุณหายหิว
  • 10:22 - 10:25
    และการมีความหวังจะนำขนมปังมาให้คุณ
  • 10:25 - 10:28
    เพื่อให้คุณมีชีวิตต่อไป
  • 10:28 - 10:31
    แต่ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า
  • 10:31 - 10:34
    การแสดงออกด้วยความรักและความห่วงใยของคุณ
  • 10:34 - 10:38
    สามารถที่จะช่วยชีวิตของโจเซฟอีกคน
  • 10:38 - 10:43
    และเปลี่ยนชีวิตของโจเซฟอีกหลายพันคน
  • 10:43 - 10:47
    ผู้ที่ยังคงมีความหวังที่จะมีชีวิตรอด
  • 10:47 - 10:48
    ขอบคุณครับ
  • 10:48 - 10:57
    (เสียงปรบมือ)
  • 11:25 - 11:27
    เอเดรียน ฮอง: โจเซฟ ขอบคุณสำหรับการแบ่งปัน
  • 11:27 - 11:31
    เรื่องราวส่วนตัวที่แสนพิเศษนี้กับพวกเรานะครับ
  • 11:31 - 11:34
    ผมรู้ว่าคุณไม่ได้พบพี่สาวของคุณเลย ตามที่คุณพูดนี่ก็
  • 11:34 - 11:36
    เกือบจะสิบปีได้แล้ว
  • 11:36 - 11:39
    และเผื่อว่า นี่จะเป็นโอกาสที่เธออาจได้เห็น
  • 11:39 - 11:40
    เราอยากให้โอกาสคุณ
  • 11:40 - 11:43
    ส่งข้อความถึงเธอน่ะครับ
  • 11:43 - 11:44
    โจเซฟ: เป็นภาษาเกาหลีหรอครับ
  • 11:44 - 11:46
    เอเดรียน: คุณพูดภาษาอังกฤษ
    แล้วพูดภาษาเกาหลีต่อได้เลยครับ
  • 11:46 - 11:50
    (เสียงหัวเราะ)
  • 11:50 - 11:53
    โจเซฟ: เออ ผมคงจะไม่พูดเป็นภาษาเกาหลีแล้วล่ะครับ
  • 11:53 - 11:55
    เพราะว่าผมคิดว่าผมคงจะทำ
  • 11:55 - 11:59
    โดยที่จะไม่ปล่อยโฮไม่ได้แน่ๆ
  • 11:59 - 12:04
    นูนะ นี่ก็ 10 ปีมาแล้ว
  • 12:04 - 12:10
    ที่ผมไม่ได้เจอพี่
  • 12:10 - 12:14
    ผมแค่อยากจะบอก
  • 12:14 - 12:18
    ว่าผมคิดถึงพี่ และผมรักพี่นะ
  • 12:18 - 12:22
    และได้โปรดด้วยเถอะ
    กลับมาหาผมและโปรดมีชีวิตอยู่ด้วย
  • 12:22 - 12:27
    และผม -- โอ้พระเจ้าช่วย
  • 12:27 - 12:31
    ผมยังไม่หมดหวังที่จะได้พบกับพี่
  • 12:34 - 12:38
    ผมจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
  • 12:38 - 12:42
    และขยันเรียนให้มาก
  • 12:42 - 12:44
    จนกว่าผมจะได้พบพี่
  • 12:44 - 12:48
    และผมขอสัญญาว่า ผมจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว
  • 12:48 - 12:50
    (เสียงหัวเราะ)
  • 12:50 - 12:52
    ครับ ผมจะตั้งตารอที่จะได้พบพี่
  • 12:52 - 12:55
    และถ้าพี่ไม่สามารถตามหาผมได้
  • 12:55 - 12:58
    ผมจะมองหาพี่อีกแรง
  • 12:58 - 13:00
    และผมหวังว่าจะได้เจอพี่ในสักวัน
  • 13:00 - 13:04
    และ ให้ผมส่งข้อความสั้นๆ
    ให้แม่ของผมด้วยได้ไหมครับ
  • 13:04 - 13:05
    เอเดรียน: แน่นอน เชิญเลยครับ
  • 13:05 - 13:08
    โจเซฟ: ผมไม่ได้ใช้เวลามากมายกับแม่
  • 13:08 - 13:10
    แต่ผมรู้ว่า แม่ยังรักผมอยู่
  • 13:10 - 13:13
    และบางที ยังคงสวดมนต์เผื่อผม
  • 13:13 - 13:16
    และคิดถึงผม
  • 13:16 - 13:18
    ผมแค่อยากจะบอกว่า ขอบคุณครับ
  • 13:18 - 13:22
    ที่ให้ผมได้เกิดมาบนโลกใบนี้
  • 13:22 - 13:23
    ขอบคุณครับ
  • 13:23 - 13:29
    (เสียงปรบมือ)
Title:
โจเซฟ คิม (Joseph Kim): ครอบครัวที่ผมสูญเสียในเกาหลีเหนือ และครอบครัวที่ผมได้มา
Speaker:
Joseph Kim
Description:

โจเซฟ คิม ผู้ลี้ภัยที่ขณะนี้อยู่ในสหรัฐอเมริกา บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเขาในเกาหลีเหนือในช่วงแห่งทุพภิกขภัย เขาได้เริ่มต้นสร้างชีวิตใหม่ แต่เขายังคงตามหาครอบครัวที่พลัดพรากกันไป

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
13:34

Thai subtitles

Revisions Compare revisions