มนุษย์ได้เรียนรู้อะไรจาก ราเมือก ที่ (เกือบ) ทรงปัญญา
-
0:01 - 0:04ฉันอยากแนะนำให้คุณรู้จักสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง
-
0:04 - 0:06ชื่อว่า ราเมือก (Physarum polycephalum)
-
0:08 - 0:10ราสายพันธุ์นี้มีปัญหาวิกฤติอัตลักษณ์
เพราะว่าจริงๆ แล้วมันไม่ใช่รา -
0:10 - 0:12เพื่อให้เข้าใจตรงกัน ก่อนที่จะเริ่ม
-
0:12 - 0:14มันเป็นหนึ่งในราเมือกที่มีทั้งหมด 700 ชนิด
-
0:14 - 0:17ซึ่งถูกจัดให้อยู่ใน
อาณาจักรเดียวกับพวกอะมีบา -
0:17 - 0:19เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
ราเมือกแต่ละเซลล์ -
0:19 - 0:21จะเกาะกลุ่มอยู่กับเซลล์ของราตัวอื่นๆ
-
0:21 - 0:24เพื่อรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนเซลล์ขนาดยักษ์
-
0:24 - 0:26เพื่อทำให้การใช้ทรัพยากร
อย่างเกิดประโยชน์มากที่สุด -
0:26 - 0:28ดังนั้นราเมือกกลุ่มนึงอาจจะมีเซลล์เป็นพันๆ
-
0:28 - 0:30หรืออาจจะถึงหลายล้านเซลล์ได้
-
0:30 - 0:32โดยที่ทุกเซลล์ใช้ผนังเซลล์ร่วมกันเพียงอันเดียว
-
0:32 - 0:35ทุกๆ เซลล์ทำงานร่วมกัน
เป็นองคาพยพเดียว -
0:35 - 0:37ตามธรรมชาติของราเมือก
-
0:37 - 0:40คุณอาจพบราเมือกหากินอยู่ตามต้นไม้ในป่า
-
0:40 - 0:43อยู่ตามซากพืชที่ย่อยสลาย
-
0:43 - 0:45แต่คุณก็อาจจะพบราเมือก
ในที่อื่นๆได้เช่นกัน -
0:45 - 0:46เข่น ในห้องปฏิบัติการวิจัย
-
0:46 - 0:51ในห้องเรียน หรือแม้แต่
ในสตูดิโอของศิลปิน -
0:51 - 0:54ฉันได้มาเจอกับเจ้าราเมือกโดยบังเอิญ
เมื่อประมาณห้าปีก่อน -
0:54 - 0:55เพื่อนนักจุลชีววิทยาคนหนึ่ง
-
0:55 - 0:58ได้มอบจานเพาะเชื้อ
ที่มีคราบเล็กๆ สีเหลืองอยู่ข้างในให้ฉัน -
0:58 - 1:01และบอกให้เอามันกลับไปบ้าน
และเล่นสนุกกับมันดู -
1:01 - 1:03คำแนะนำที่ฉันได้รับก็แค่
-
1:03 - 1:05มันชอบที่ที่มืดๆ และชื้นๆ
-
1:05 - 1:09และอาหารที่มันชอบ คือ ข้าวโอ๊ต
-
1:09 - 1:11ฉันเป็นศิลปินที่ทำงานมาหลายปี
-
1:11 - 1:14ที่เกี่ยวข้องกับชีววิทยา
หรือพวกกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ -
1:14 - 1:17ดังนั้น งานที่ต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิต
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรสำหรับฉัน -
1:17 - 1:19ฉันเคยทำงานกับทั้งพวกพืช พวกแบคทีเรีย
-
1:19 - 1:21แล้วก็หมึกกระดอง รวมถึงแมลงวันผลไม้
-
1:21 - 1:23ดังนั้นฉันจึงรู้สึกกระตือรือร้น
ที่จะนำงานชิ้นใหม่นี้กลับบ้าน -
1:23 - 1:25แล้วดูซิว่ามันจะทำอะไรได้บ้าง
-
1:25 - 1:28แล้วฉันก็ได้เอาราเมือกกลับมาที่บ้านดู
-
1:28 - 1:31ฉันให้อาหารชนิดต่างๆ แก่ราเมือก
-
1:31 - 1:33เฝ้ามองมันสร้างเครือข่าย
-
1:33 - 1:35มันสร้างการเชื่อมต่อ
ระหว่างแหล่งอาหารที่ต่างๆ -
1:35 - 1:38เฝ้าดูร่องรอยที่มันทิ้งเอาไว้
-
1:38 - 1:40ที่ช่วยบ่งบอกว่ามันเคยอยู่ตรงไหน
-
1:40 - 1:43แล้วฉันพบว่า ขณะที่เจ้าราเมือก
เริ่มเบื่อจานเพาะเชื้อนี้แล้ว -
1:43 - 1:46มันได้หนีออกมาจากจานเพาะเชื้อ
ไปหาที่อยู่ใหม่ที่ดีกว่า -
1:46 - 1:47ฉันได้บันทึกสิ่งที่ฉันสังเกตเห็น
-
1:47 - 1:49ด้วยเทคนิคการบันทึกภาพแบบย่นย่อเวลา
(time-lapse photography) -
1:49 - 1:52ราเมือกมีอัตราการเจริญเติบโต
ประมาณ 1 ซม./ชั่วโมง -
1:52 - 1:54จึงไม่ง่ายนักที่จะมานั่งดูมันค่อยๆ เติบโต
-
1:54 - 1:57นอกจากว่าคุณจะมีสมาธิขั้นสุดยอด
-
1:57 - 2:00แต่ด้วยเทคนิคดังที่ได้กล่าวไป
-
2:00 - 2:03ฉันจึงได้เห็นพฤติกรรมบางอย่างที่น่าสนใจ
-
2:03 - 2:06ตัวอย่างเช่น ขณะที่เจ้าราเมือกได้รับอาหารเป็นอย่างดี
-
2:06 - 2:11มันก็ได้เติบโตขยายออกไปสำรวจอาณาเขตใหม่ๆ
-
2:11 - 2:14ในทิศทางต่างๆ ไปพร้อมๆกัน
-
2:14 - 2:16สำรวจไปเรื่อย
จนเมื่อมันมาเจอกัน -
2:16 - 2:18มันต่างรู้ว่า
นั่นเป็นที่ที่เคยสำรวจมาแล้ว -
2:18 - 2:20มันรู้ว่ามันเคยไปที่นั่นมาแล้ว
-
2:20 - 2:21มันจึงถอยกลับมาตั้งหลักใหม่
-
2:21 - 2:25และเริ่มออกสำรวจในทิศทางใหม่อีกครั้ง
-
2:25 - 2:27ฉันค่อนข้างประทับใจกับ
ความสามารถนี้ของมัน -
2:27 - 2:31ที่เป็นไปได้อย่างไรที่
ลำพังกลุ่มเซลล์ราเมือก -
2:31 - 2:34จะสามารถทำแผนที่อาณาเขตของมันได้
-
2:34 - 2:37มันรู้จักตัวเอง และเคลื่อนไหวราวกับว่า
มันมีเจตจำนง -
2:37 - 2:41ฉันพบว่ามีทั้งงานศึกษาทางวิทยาศาสตร์
-
2:41 - 2:43งานวิจัย บทความวิชาการ จำนวนนับไม่ถ้วน
-
2:43 - 2:47ซึ่งทั้งหมดมีการอ้างถึง
ผลงานอันเหลือเชื่อของเจ้าราเมือกนี้ -
2:47 - 2:49และฉันก็ตั้งใจจะเล่าเรื่องราว
เหล่านั้นบางส่วนให้คุณฟัง -
2:49 - 2:52ตัวอย่างการทดลองแรก มีทีมนักวิจัยหนึ่ง
ที่มหาวิทยาลัยฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น -
2:52 - 2:54ได้ทำการทดลองโดย
ใส่ราเมือกลงไปจนเต็มทางเขาวงกต -
2:55 - 2:56ราเมือกทั้งหมดเชื่อมต่อกันรวมตัวกัน
เหมือนเป็นเซลล์ขนาดยักษ์หนึ่งเซลล์ -
2:56 - 2:59หลังจากนั้นทีมนักวิจัยได้ใส่อาหาร
ลงไปในเขาวงกตสองตำแหน่ง -
2:59 - 3:00แน่นอนว่าต้องเป็นข้าวโอ๊ตของโปรด
-
3:00 - 3:02และเจ้าราเมือกก็ทำการสร้างทางเชื่อมต่อ
-
3:02 - 3:03ระหว่างแหล่งอาหารสองแห่งนั้น
-
3:03 - 3:06ราเมือกได้หดตัวจากบริเวณที่ไม่มีอาหาร
และบริเวณทางตันทั้งหลาย -
3:06 - 3:08เป็นไปได้ 4 วิธีที่จะสร้างทางเชื่อมต่อ
-
3:08 - 3:10ครั้งแล้วครั้งเล่า
-
3:10 - 3:13เจ้าราเมือกได้สร้างทางเชื่อมต่อที่สั้นที่สุดเสมอ
-
3:13 - 3:15และเป็นเส้นทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
-
3:15 - 3:16มันฉลาดมาก
-
3:16 - 3:18ข้อสรุปที่ได้จากการทดลองนี้ ก็คือ
-
3:18 - 3:21เจ้าราเมือกนี้ ถือได้ว่า
มีรูปแบบหนึ่งของสติปัญญาขั้นต้น -
3:21 - 3:25อีกการทดลองหนึ่ง ได้ให้ราเมือกสัมผัสกับอากาศเย็น
เป็นช่วงๆ โดยเว้นระยะเวลาที่แน่นอน -
3:25 - 3:27เจ้าราเมือกนี้ไม่ชอบอากาศเย็น
-
3:27 - 3:28และก็ไม่ชอบสภาพแวดล้อมที่แห้ง
-
3:28 - 3:31เมื่อให้ราเมือกได้สัมผัสกับอากาศเย็นเป็นพักๆ
-
3:31 - 3:32ทุกๆ ครั้ง เจ้าราเมือก
-
3:32 - 3:35จะตอบสนองโดยการเติบโตช้าลง
-
3:35 - 3:37อย่างไรก็ตาม มีอยู่ครั้งหนึ่ง
-
3:37 - 3:40ที่นักวิจัยไม่ได้เปิดสวิตซ์พัดลม
-
3:40 - 3:43เจ้าราเมือกก็ยังคงตอบสนองโดยการเติบโตช้าลง
ซึ่งเป็นผลจากการคาดเดาล่วงหน้า -
3:43 - 3:45ว่าจะได้เจอกับอากาศเย็น
-
3:45 - 3:47มันมีการรับรู้ได้ว่ามันใกล้จะถึงเวลา
-
3:47 - 3:49ที่จะเกิดอากาศเย็นที่มันไม่ชอบ
-
3:49 - 3:51ข้อสรุปที่ได้จากการทดลองนี้ ก็คือ
-
3:51 - 3:54เจ้าราเมือกมีความสามารถในการเรียนรู้
-
3:54 - 3:55ตัวอย่างการทดลองที่สาม
-
3:55 - 3:57คราวนี้เจ้าราเมือกได้รับโอกาส
-
3:57 - 4:01ให้ออกสำรวจอาณาเขตที่ปกคลุมไปด้วยหย่อมข้าวโอ๊ต
-
4:01 - 4:04มันกระจายตัวออกสำรวจ
ในลักษณะแตกกิ่งก้านสาขาออกไป -
4:04 - 4:07เมื่อมันเจออาหารแต่ละจุด
-
4:07 - 4:10มันก็สร้างการเครือข่ายเชื่อมต่อกัน
-
4:10 - 4:11มันยังคงขยายอาณาเขตต่อไปเรื่อยๆ
-
4:11 - 4:1426 ชั่วโมงผ่านไป เครือข่ายก็สมบูรณ์
-
4:14 - 4:15ดูค่อนข้างมั่นคง
-
4:15 - 4:17ระหว่างกองข้าวโอตแต่ละจุด
-
4:17 - 4:19ดูไม่มีอะไรโดดเด่นนักสำหรับการทดลองนี้
-
4:19 - 4:22จนกระทั่งได้รู้ว่า
ข้าวโอ๊ตตรงกลางที่เป็นจุดเริ่มต้นนั้น -
4:22 - 4:24แสดงถึงตำแหน่งของเมืองโตเกียว
-
4:24 - 4:28และกองข้าวโอ๊ตที่กระจายอยู่รอบๆ
ก็คือ สถานีรถไฟรอบๆเมือง -
4:28 - 4:30เจ้าราเมือกได้ทำสำเนาของ
-
4:30 - 4:32เครือข่ายรถไฟเมืองโตเกียวขึ้นมา
-
4:32 - 4:34(เสียงหัวเราะ)
-
4:34 - 4:37ระบบเครือข่ายอันซับซ้อนที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ
-
4:37 - 4:41โดยอาศัย เคหะชุมชน
งานวิศวกรรมโยธา การวางผังเมือง -
4:41 - 4:43ซึ่งสังคมมนุษย์ได้ใช้เวลา
เป็นร้อยปีกว่าจะสร้างขึ้นมา -
4:43 - 4:46แต่เจ้าราเมือกกลับใช้เวลาเพียงแค่วันเศษๆ
-
4:46 - 4:48ข้อสรุปที่ได้จาการทดลองนี้ ก็คือ
-
4:48 - 4:51เจ้าราเมือกนี้สามารถสร้างเครือข่าย
ที่มีประสิทธิภาพขึ้นมาได้เอง -
4:51 - 4:53และแก้โจทย์ปัญหาการเดินทางของเซลล์แมนได้
(Traveling salesman problem) -
4:53 - 4:56มันก็คือ คอมพิวเตอร์ชีวภาพ ดีๆ นี่เอง
-
4:56 - 4:58ด้วยเหตุนี้ มันได้ถูกสร้างเป็นโมเดลเชิงคณิตศาสตร์
-
4:58 - 5:00ถูกวิเคราะห์อย่างเป็นขั้นตอน
-
5:00 - 5:03ทั้งถูกแปลงข้อมูลเป็นสัญญาณเสียง
ถูกทำซ้ำ ถูกจำลองขึ้นใหม่ -
5:03 - 5:05ทีมนักวิจัยหลายแห่งทั่วโลก
-
5:05 - 5:08กำลังถอดรหัสการทำงานของพวกมัน
-
5:08 - 5:11เพื่อที่จะได้เข้าใจหลักเกณฑ์ที่มันใช้คิดคำนวณ
-
5:11 - 5:13และนำความรู้เหล่านั้นไปประยุกต์ใช้
ในงานเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ -
5:13 - 5:15การสร้างโปรแกรม และศาสตร์เกี่ยวกับหุ่นยนต์
-
5:15 - 5:17ดังนั้น คำถามสำคัญคือ
-
5:17 - 5:19เจ้าราเมือกทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร?
-
5:19 - 5:21มันไม่มีระบบประสาทส่วนกลาง
-
5:21 - 5:23มันไม่มีสมอง
-
5:23 - 5:25แต่มันยังคงสามารถ
แสดงพฤติกรรมเหล่านั้นได้ -
5:25 - 5:27พฤติกรรมเดียวกับที่เรา
ต้องใช้สมองในการสั่งการ -
5:27 - 5:29ราเมือกสามารถเรียนรู้ สามารถจดจำ
-
5:29 - 5:32สามารถแก้ปัญหา สามารถตัดสินใจได้เอง
-
5:32 - 5:34แล้วสติปัญญาของราเมือกตั้งต้นมาจากจุดไหน?
-
5:34 - 5:37นี่เป็นภาพวีดีโอจากกล้องจุลทรรศน์
-
5:37 - 5:39ซึ่งมีกำลังขยายประมาณ 100 เท่า
-
5:39 - 5:42เร่งความเร็วขึ้นประมาณ 20 เท่า
-
5:42 - 5:44ภายในเจ้าราเมือกนี้
-
5:44 - 5:48มีกระแสการไหลเวียนของของเหลวเป็นจังหวะ
-
5:48 - 5:50สิ่งที่คล้ายกับเส้นเลือดกำลังลำเลียง
-
5:50 - 5:53ชิ้นส่วนเซลล์ สารอาหาร และสัญญาณเคมี
-
5:53 - 5:55ผ่านไปตามกลุ่มเซลล์ขนาดยักษ์นี้
-
5:55 - 5:59การไหลเริ่มในทิศทางหนึ่ง
แล้วก็ไหลย้อนกลับไปอีกทิศหนึ่ง -
5:59 - 6:03และการไหลเวียนกลับไปมาอย่างสอดคล้องต่อเนื่อง
-
6:03 - 6:05ภายในเซลล์นี้เอง ที่ทำให้เกิด
-
6:05 - 6:08การรับรู้ที่ค่อนข้างซับซ้อน
ต่อสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวมัน -
6:08 - 6:11โดยปราศจากศูนย์สั่งการใดๆภายในเซลล์
-
6:11 - 6:14นี่คือต้นตอของสติปัญญาของมัน
-
6:14 - 6:17ไม่เพียงแต่เหล่านักวิจัย
-
6:17 - 6:20ในมหาวิทยาลัยที่สนใจในเจ้าราเมือกนี้
-
6:20 - 6:23ไม่กี่ปีก่อน ฉันได้สร้างกลุ่ม SliMoCo ขึ้นมา
-
6:23 - 6:25ซึ่งย่อมาจาก Slime Mould Collective
-
6:25 - 6:28มันเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์
ที่เปิดกว้างและเป็นประชาธิปไตย -
6:28 - 6:30สำหรับผู้ที่ทำการศึกษาราเมือก และผู้ที่สนใจทั่วไป
-
6:30 - 6:33ได้แบ่งปันความรู้และผลการทดลอง
-
6:33 - 6:36จากหลากหลายสาขาอาชีพ
-
6:36 - 6:40และหลากหลายสถาบันศึกษา
-
6:40 - 6:43สมาชิกในกลุ่ม มาโดยสมัครใจ
-
6:43 - 6:46เหล่าสมาชิกได้มาพบเจอกับกลุ่ม SliMoCo
-
6:46 - 6:50เหมือนกับที่เจ้าราเมือกได้เจออาหารโปรดของมัน
-
6:50 - 6:51ในกลุ่มเรามีทั้ง นักวิทยาศาสตร์
-
6:51 - 6:53นักคอมพิวเตอร์ นักวิจัย
-
6:53 - 6:55แม้แต่ศิลปิน เหมือนกับฉัน
-
6:55 - 7:00สถาปนิก ดีไซน์เนอร์ นักเขียน
นักเคลื่อนไหวรณรงค์ และอีกมากมาย -
7:00 - 7:05ซึ่งน่าสนใจมาก กับความหลากหลาย
ของสมาชิกในกลุ่ม -
7:05 - 7:06ลองมาดูสักสองสามตัวอย่าง
-
7:06 - 7:09สมาชิกที่เป็นศิลปินคนหนึ่ง
วาดรูปโดยใช้ราเมือกเรืองแสง -
7:09 - 7:11สมาชิกอีกกลุ่มหนึ่งได้ร่วมมือกัน
-
7:11 - 7:14ทำการออกแบบทางอิเล็กทรอนิสก์
ผสานกับการออกแบบทางชีวภาพ -
7:14 - 7:17โดยอาศัยเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติ
-
7:17 - 7:20ศิลปินอีกคน ใช้เจ้าราเมือก
-
7:20 - 7:22เป็นเครื่องมือในการปฏิสัมพันธ์กับชุมชน
-
7:22 - 7:25เพื่อทำแผนที่ของชุมชนนั้น
-
7:25 - 7:27นี่เอง ที่เจ้าราเมือกได้ถูกนำมาใช้โดยตรง
-
7:27 - 7:30ไม่เพียงแต่ในฐานะเครื่องมือที่มีชีวิตเท่านั้น
แต่ยังเปรียบได้กับ -
7:30 - 7:32สัญลักษณ์ที่สื่อถึงวิธีการพูดคุยกัน
-
7:32 - 7:36เกี่ยวกับแรงยึดเหนี่ยวทางสังคม
การสื่อสารระหว่างกัน -
7:36 - 7:37และการให้ความร่วมมือกันในสังคม
-
7:37 - 7:40อีกหนึ่ง กิจกรรมที่สร้างความผูกพันในชุมชน
-
7:40 - 7:42ฉันได้จัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ
เกี่ยวกับราเมือกนี้มาหลายครั้ง -
7:42 - 7:44เป็นหนึ่งในวิธีที่สร้างสรรค์
ในการปฏิสัมพันธ์ทำความเข้าใจเกี่ยวกับมัน -
7:44 - 7:46ผู้คนได้รับเชิญให้เข้าร่วมและเรียนรู้
-
7:46 - 7:48เกี่ยวกับความสามารถที่น่าทึ่งของเจ้าราเมือก
-
7:48 - 7:51ผู้เข้าร่วมแต่ละคนจะได้ทำการออกแบบ
การทดลองในจานเพาะเชื้อเอง -
7:51 - 7:53กำหนดสภาพแวดล้อมที่จะให้ราเมือกเจริญเติบโต
-
7:53 - 7:55ดังนั้นพวกเขาก็จะได้ลอง
ทดสอบเจ้าราเมือกนี้ดู -
7:55 - 7:57ทุกคนกลับบ้านไปพร้อมกับราเมือกในจานเพาะเชื้อ
-
7:57 - 8:00และได้รับเชิญให้มาแสดงผลการทดลองเหล่านั้น
-
8:00 - 8:02บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ของกลุ่ม
-
8:02 - 8:04และกลุ่มนี้ก็ทำให้ฉันสามารถ
-
8:04 - 8:06สร้างผลงานร่วมกับคนอื่นๆ
-
8:06 - 8:09กับคนที่น่าสนใจมากมาย
-
8:09 - 8:10ฉันได้ทำงานร่วมกับผู้ผลิตภาพยนตร์อยู่
-
8:10 - 8:14ในงานสารคดีขนาดยาวเกี่ยวกับราเมือก
-
8:14 - 8:17ขอย้ำอีกครั้งว่านี่เป็นสารคดีขนาดยาว
-
8:17 - 8:18ซึ่งอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการตัดต่อ
-
8:18 - 8:21และจะได้ฉายในโรงภาพยนตร์เร็วๆนี้
-
8:21 - 8:23(เสียงหัวเราะ)
-
8:23 - 8:26นอกจากนี้ยังทำให้ฉันได้มีโอกาสทำการทดลอง
-
8:26 - 8:29ซึ่งคิดว่านี่เป็นการทดลองมนุษย์ราเมือกครั้งแรกในโลก
-
8:29 - 8:32นี่เป็นส่วนหนึ่งของงานนิทรรศการ
ที่รอตเทอร์ดาม เมื่อปีก่อน -
8:32 - 8:37เราเชิญให้ผู้ร่วมกิจกรรม
ทดลองเป็นราเมือก เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง -
8:37 - 8:40โดยการให้แต่ละคนมาผูกโยงติดกัน
-
8:40 - 8:42เสมือนเป็นเซลล์ยักษ์หนึ่งเซลล์
-
8:42 - 8:45และก็ให้พวกเขาทำตัวตามกฎของราเมือก
-
8:45 - 8:49นั่นคือพวกเขาต้องสื่อสารด้วยวิธีการสั่นเป็นจังหวะ
-
8:49 - 8:50ห้ามใช้คำพูดใดๆ
-
8:50 - 8:55พวกเขาต้องปฏิบัติการราวกับว่าเป็นองคาพยพเดียวกัน
-
8:55 - 8:56ไม่มีอัตตา
-
8:56 - 8:59และมีแรงจูงใจในการเคลื่อนที่
-
8:59 - 9:01และสำรวจสภาพแวดล้อม
-
9:01 - 9:03เพียงเพื่อหาอาหาร
-
9:03 - 9:06ผลที่ตามมา คือ การเดินสะเปะสะปะ
ขณะที่กลุ่มคนแปลกหน้า -
9:06 - 9:10ที่สวมเสื้อเขียนว่า "เป็นราเมือก"
ถูกโยงติดกันด้วยเชือกสีเหลือง -
9:10 - 9:13ค่อยๆ เคลื่อนที่ผ่านสวนของพิพิธภัณฑ์
-
9:13 - 9:17เมื่อพวกเขาเจอต้นไม้
พวกเขาต้องเปลี่ยนรูปแบบของการเชื่อมต่อกัน -
9:17 - 9:20และจัดรูปใหม่ในฐานะเป็นองคาพยพเดียว
-
9:20 - 9:24โดยปราศจากการพูดคุย
-
9:24 - 9:27นี่เป็นการทดลองที่น่าขันในหลายๆ แง่มุม
-
9:27 - 9:29มันไม่ได้เกิดจากสมมุติฐานใดๆ
-
9:29 - 9:31เราไม่ได้ต้องการจะพิสูจน์
หรือจะสาธิตอะไร -
9:31 - 9:34แต่สิ่งที่เราได้รับมา คือ
-
9:34 - 9:36วิธีที่ทำให้คนในวงกว้าง ได้มีส่วนร่วม
-
9:36 - 9:40ในแนวคิดเรื่อง สติปัญญา หน้าที่ การพึ่งตนเอง
-
9:40 - 9:43และได้มอบพื้นที่สบายๆ แก่เรา
-
9:43 - 9:46สำหรับถกเถึยงเกี่ยวกับ
-
9:46 - 9:49สิ่งที่เป็นผลตามมา
-
9:49 - 9:51หนึ่งในสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุด
-
9:51 - 9:54เกี่ยวกับการทดลองนี้
-
9:54 - 9:56ก็คือ การเสวนาที่เกิดขึ้นตามมา
-
9:56 - 10:00ได้เกิดการชุมนุมอภิปรายกันขึ้นมาเองในสวนนั้น
-
10:00 - 10:02ผู้เข้าร่วมพูดคุยกัน
ทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับจิตวิทยาของมนุษย์ -
10:02 - 10:04เกี่ยวกับความยากลำบากในการปล่อยวาง
-
10:04 - 10:07เกี่ยวกับตัวตนและอัตตาของพวกเขา
-
10:07 - 10:10อีกกลุ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับ
การสื่อสารกันระหว่างแบคทีเรีย -
10:10 - 10:12แต่ละคนได้เสนอความเห็น
-
10:12 - 10:15ตามการตีความของพวกเขาเอง
-
10:15 - 10:17และข้อสรุปที่ได้จากการทดลองนี้ คือ
-
10:17 - 10:21ผู้เข้าร่วมที่ รอตเทอร์ดาม
ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี -
10:21 - 10:24โดยเฉพาะเวลาที่ได้รับการแจกจ่ายเบียร์
-
10:24 - 10:26เราไม่ได้ให้อาหารพวกเขาด้วยข้าวโอ๊ตเท่านั้น
-
10:26 - 10:27เราแจกเบียร์ให้พวกเขาอีกด้วย
-
10:27 - 10:29แต่กระนั้น พวกเขาก็ไม่มีประสิทธิภาพ
เทียบเท่ากับเจ้าราเมือก -
10:29 - 10:31สำหรับฉันแล้ว เจ้าราเมือกนี้
-
10:31 - 10:34เป็นเรื่องราวที่น่าหลงใหล
-
10:34 - 10:36มันน่าหลงไหล ในเชิงชีววิทยา
-
10:36 - 10:37มันน่าสนใจ ในแง่การคำนวณ
-
10:37 - 10:39และมันก็ยังเป็นสัญลักษณ์
-
10:39 - 10:43เป็นวิธีเชื่อมโยงถึงแนวคิด เรื่องชุมชน
-
10:43 - 10:47พฤติกรรมรวมหมู่ และความร่วมมือกัน
-
10:47 - 10:49งานของฉันหลายอย่างได้ข้อมูลมาจากงานวิจัย
-
10:49 - 10:52ซึ่งวีดิโอนี้ก็เป็นการรำลึกถึงการทดลองเขาวงกต
-
10:52 - 10:53ในอีกแง่มุมหนึ่ง
-
10:53 - 10:56เจ้าราเมือกยังถือเป็นวัตถุดิบสำหรับงานของฉันด้วย
-
10:56 - 11:01มันเป็นผู้ช่วยผลิตทั้งใน งานภาพถ่าย
งานพิมพ์ งานแอนิเมชั่น -
11:01 - 11:03รวมถึง การจัดกิจกรรมแบบมีส่วนร่วม
-
11:03 - 11:05ในขณะที่เจ้าราเมือกนี้ไม่ได้เลือกเอง
-
11:05 - 11:07ที่จะมาทำงานร่วมกับฉัน
-
11:07 - 11:09แต่มันก็ให้ความร่วมมือดี
-
11:09 - 11:12ฉันสามารถคาดการณ์พฤติกรรมบางอย่าง
-
11:12 - 11:14โดยการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมัน
-
11:14 - 11:15แต่ฉันไม่สามารถควบคุมมันได้
-
11:15 - 11:17เจ้าราเมือกยังคงทำสิ่งมันอยากทำ
-
11:17 - 11:19ในกระบวนการคิดสร้างสรรค์
-
11:19 - 11:23อย่างไรก็ตาม มันก็มีนิยามความสุนทรีย์ในแบบของมัน
-
11:23 - 11:24รูปแบบกิ่งก้านสาขาที่เราเห็นอยู่นี้
-
11:24 - 11:27สามารถพบได้ในทุกรูปแบบของสิ่งต่างๆ
เป็นสัดส่วนของธรรมชาติ -
11:27 - 11:30จากดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ
ไปจนถึงฟ้าผ่า -
11:30 - 11:34จากแขนงหลอดเลือด ไปจนถึงเครือข่ายเส้นประสาท
-
11:34 - 11:36แน่นอนว่าต้องมีกฎยิ่งใหญ่บางอย่างควบคุมมันอยู่
-
11:36 - 11:38ในสิ่งมีชีวิตที่เรียบง่ายแต่ซับซ้อนนี้
-
11:38 - 11:42ไม่ว่าเราจะมาจากสาขาไหน
หรือเราจะศึกษามันในแง่มุมใด -
11:42 - 11:44เราก็ได้เรียนรู้มากมาย
-
11:44 - 11:46จากการเฝ้าสังเกตและการมีปฏิสัมพันธ์
-
11:46 - 11:49กับเจ้าคราบรอยเปี้ยนที่งดงาม
และไม่มีแม้แต่สมองนี้ -
11:49 - 11:52และนี่ก็คือเรื่องราวของเจ้าราเมือก
( Physarum polycephalum ) -
11:52 - 11:54ขอบคุณค่ะ
-
11:54 - 11:55(เสียงปรบมือ)
- Title:
- มนุษย์ได้เรียนรู้อะไรจาก ราเมือก ที่ (เกือบ) ทรงปัญญา
- Speaker:
- เฮเธอร์ บาร์เนตต์
- Description:
-
เฮเธอร์ บาร์เนตต์ ศิลปินผู้ได้รับแรงบันดาลใจจาก รูปแบบทางชีวภาพ และ ระบบที่จัดการตัวเองได้ เธอได้สร้างสรรค์งานร่วมกับ ราเมือก (Phusarum Polycephalum) จุลชีพกลุ่มยูแคริโอต ที่ชอบอยู่ในที่เย็นและชื้น เราจะเรียนรู้อะไรจากสิ่งมีชีวิตที่ เกือบจะมีสติปัญญาเหล่านี้ ค้นหาคำตอบได้ในการบรรยายนี้
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 12:11
Kanawat Senanan approved Thai subtitles for What humans can learn from semi-intelligent slime | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for What humans can learn from semi-intelligent slime | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for What humans can learn from semi-intelligent slime | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for What humans can learn from semi-intelligent slime | ||
Kanawat Senanan accepted Thai subtitles for What humans can learn from semi-intelligent slime | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for What humans can learn from semi-intelligent slime | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for What humans can learn from semi-intelligent slime | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for What humans can learn from semi-intelligent slime |