1 00:00:00,632 --> 00:00:03,737 ฉันอยากแนะนำให้คุณรู้จักสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง 2 00:00:03,737 --> 00:00:05,829 ชื่อว่า ราเมือก (Physarum polycephalum) 3 00:00:07,921 --> 00:00:10,015 ราสายพันธุ์นี้มีปัญหาวิกฤติอัตลักษณ์ เพราะว่าจริงๆ แล้วมันไม่ใช่รา 4 00:00:10,015 --> 00:00:11,945 เพื่อให้เข้าใจตรงกัน ก่อนที่จะเริ่ม 5 00:00:11,945 --> 00:00:14,481 มันเป็นหนึ่งในราเมือกที่มีทั้งหมด 700 ชนิด 6 00:00:14,481 --> 00:00:16,618 ซึ่งถูกจัดให้อยู่ใน อาณาจักรเดียวกับพวกอะมีบา 7 00:00:16,618 --> 00:00:19,241 เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ราเมือกแต่ละเซลล์ 8 00:00:19,241 --> 00:00:21,481 จะเกาะกลุ่มอยู่กับเซลล์ของราตัวอื่นๆ 9 00:00:21,481 --> 00:00:23,713 เพื่อรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนเซลล์ขนาดยักษ์ 10 00:00:23,713 --> 00:00:25,953 เพื่อทำให้การใช้ทรัพยากร อย่างเกิดประโยชน์มากที่สุด 11 00:00:25,953 --> 00:00:28,113 ดังนั้นราเมือกกลุ่มนึงอาจจะมีเซลล์เป็นพันๆ 12 00:00:28,113 --> 00:00:30,360 หรืออาจจะถึงหลายล้านเซลล์ได้ 13 00:00:30,360 --> 00:00:32,121 โดยที่ทุกเซลล์ใช้ผนังเซลล์ร่วมกันเพียงอันเดียว 14 00:00:32,121 --> 00:00:35,229 ทุกๆ เซลล์ทำงานร่วมกัน เป็นองคาพยพเดียว 15 00:00:35,229 --> 00:00:36,833 ตามธรรมชาติของราเมือก 16 00:00:36,833 --> 00:00:39,629 คุณอาจพบราเมือกหากินอยู่ตามต้นไม้ในป่า 17 00:00:39,629 --> 00:00:43,330 อยู่ตามซากพืชที่ย่อยสลาย 18 00:00:43,330 --> 00:00:44,870 แต่คุณก็อาจจะพบราเมือก ในที่อื่นๆได้เช่นกัน 19 00:00:44,870 --> 00:00:46,412 เข่น ในห้องปฏิบัติการวิจัย 20 00:00:46,412 --> 00:00:50,614 ในห้องเรียน หรือแม้แต่ ในสตูดิโอของศิลปิน 21 00:00:50,614 --> 00:00:53,549 ฉันได้มาเจอกับเจ้าราเมือกโดยบังเอิญ เมื่อประมาณห้าปีก่อน 22 00:00:53,549 --> 00:00:55,106 เพื่อนนักจุลชีววิทยาคนหนึ่ง 23 00:00:55,106 --> 00:00:58,230 ได้มอบจานเพาะเชื้อ ที่มีคราบเล็กๆ สีเหลืองอยู่ข้างในให้ฉัน 24 00:00:58,230 --> 00:01:01,238 และบอกให้เอามันกลับไปบ้าน และเล่นสนุกกับมันดู 25 00:01:01,238 --> 00:01:03,245 คำแนะนำที่ฉันได้รับก็แค่ 26 00:01:03,245 --> 00:01:05,029 มันชอบที่ที่มืดๆ และชื้นๆ 27 00:01:05,029 --> 00:01:09,360 และอาหารที่มันชอบ คือ ข้าวโอ๊ต 28 00:01:09,360 --> 00:01:11,378 ฉันเป็นศิลปินที่ทำงานมาหลายปี 29 00:01:11,378 --> 00:01:14,225 ที่เกี่ยวข้องกับชีววิทยา หรือพวกกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 30 00:01:14,225 --> 00:01:17,236 ดังนั้น งานที่ต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิต จึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรสำหรับฉัน 31 00:01:17,236 --> 00:01:19,341 ฉันเคยทำงานกับทั้งพวกพืช พวกแบคทีเรีย 32 00:01:19,341 --> 00:01:20,860 แล้วก็หมึกกระดอง รวมถึงแมลงวันผลไม้ 33 00:01:20,860 --> 00:01:23,462 ดังนั้นฉันจึงรู้สึกกระตือรือร้น ที่จะนำงานชิ้นใหม่นี้กลับบ้าน 34 00:01:23,462 --> 00:01:24,838 แล้วดูซิว่ามันจะทำอะไรได้บ้าง 35 00:01:24,838 --> 00:01:28,040 แล้วฉันก็ได้เอาราเมือกกลับมาที่บ้านดู 36 00:01:28,040 --> 00:01:30,810 ฉันให้อาหารชนิดต่างๆ แก่ราเมือก 37 00:01:30,810 --> 00:01:32,734 เฝ้ามองมันสร้างเครือข่าย 38 00:01:32,734 --> 00:01:35,010 มันสร้างการเชื่อมต่อ ระหว่างแหล่งอาหารที่ต่างๆ 39 00:01:35,010 --> 00:01:37,848 เฝ้าดูร่องรอยที่มันทิ้งเอาไว้ 40 00:01:37,848 --> 00:01:39,607 ที่ช่วยบ่งบอกว่ามันเคยอยู่ตรงไหน 41 00:01:39,607 --> 00:01:42,555 แล้วฉันพบว่า ขณะที่เจ้าราเมือก เริ่มเบื่อจานเพาะเชื้อนี้แล้ว 42 00:01:42,555 --> 00:01:45,534 มันได้หนีออกมาจากจานเพาะเชื้อ ไปหาที่อยู่ใหม่ที่ดีกว่า 43 00:01:45,534 --> 00:01:47,262 ฉันได้บันทึกสิ่งที่ฉันสังเกตเห็น 44 00:01:47,262 --> 00:01:49,022 ด้วยเทคนิคการบันทึกภาพแบบย่นย่อเวลา (time-lapse photography) 45 00:01:49,022 --> 00:01:51,860 ราเมือกมีอัตราการเจริญเติบโต ประมาณ 1 ซม./ชั่วโมง 46 00:01:51,860 --> 00:01:54,441 จึงไม่ง่ายนักที่จะมานั่งดูมันค่อยๆ เติบโต 47 00:01:54,441 --> 00:01:57,294 นอกจากว่าคุณจะมีสมาธิขั้นสุดยอด 48 00:01:57,294 --> 00:01:59,822 แต่ด้วยเทคนิคดังที่ได้กล่าวไป 49 00:01:59,822 --> 00:02:02,918 ฉันจึงได้เห็นพฤติกรรมบางอย่างที่น่าสนใจ 50 00:02:02,918 --> 00:02:06,418 ตัวอย่างเช่น ขณะที่เจ้าราเมือกได้รับอาหารเป็นอย่างดี 51 00:02:06,418 --> 00:02:10,862 มันก็ได้เติบโตขยายออกไปสำรวจอาณาเขตใหม่ๆ 52 00:02:10,862 --> 00:02:13,594 ในทิศทางต่างๆ ไปพร้อมๆกัน 53 00:02:13,594 --> 00:02:15,833 สำรวจไปเรื่อย จนเมื่อมันมาเจอกัน 54 00:02:15,833 --> 00:02:17,700 มันต่างรู้ว่า นั่นเป็นที่ที่เคยสำรวจมาแล้ว 55 00:02:17,700 --> 00:02:19,654 มันรู้ว่ามันเคยไปที่นั่นมาแล้ว 56 00:02:19,654 --> 00:02:21,201 มันจึงถอยกลับมาตั้งหลักใหม่ 57 00:02:21,201 --> 00:02:24,881 และเริ่มออกสำรวจในทิศทางใหม่อีกครั้ง 58 00:02:24,881 --> 00:02:27,205 ฉันค่อนข้างประทับใจกับ ความสามารถนี้ของมัน 59 00:02:27,205 --> 00:02:30,755 ที่เป็นไปได้อย่างไรที่ ลำพังกลุ่มเซลล์ราเมือก 60 00:02:30,755 --> 00:02:33,985 จะสามารถทำแผนที่อาณาเขตของมันได้ 61 00:02:33,985 --> 00:02:37,457 มันรู้จักตัวเอง และเคลื่อนไหวราวกับว่า มันมีเจตจำนง 62 00:02:37,457 --> 00:02:41,110 ฉันพบว่ามีทั้งงานศึกษาทางวิทยาศาสตร์ 63 00:02:41,110 --> 00:02:43,155 งานวิจัย บทความวิชาการ จำนวนนับไม่ถ้วน 64 00:02:43,155 --> 00:02:47,379 ซึ่งทั้งหมดมีการอ้างถึง ผลงานอันเหลือเชื่อของเจ้าราเมือกนี้ 65 00:02:47,379 --> 00:02:49,343 และฉันก็ตั้งใจจะเล่าเรื่องราว เหล่านั้นบางส่วนให้คุณฟัง 66 00:02:49,343 --> 00:02:52,303 ตัวอย่างการทดลองแรก มีทีมนักวิจัยหนึ่ง ที่มหาวิทยาลัยฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น 67 00:02:52,303 --> 00:02:53,679 ได้ทำการทดลองโดย ใส่ราเมือกลงไปจนเต็มทางเขาวงกต 68 00:02:55,055 --> 00:02:56,431 ราเมือกทั้งหมดเชื่อมต่อกันรวมตัวกัน เหมือนเป็นเซลล์ขนาดยักษ์หนึ่งเซลล์ 69 00:02:56,431 --> 00:02:58,783 หลังจากนั้นทีมนักวิจัยได้ใส่อาหาร ลงไปในเขาวงกตสองตำแหน่ง 70 00:02:58,783 --> 00:02:59,981 แน่นอนว่าต้องเป็นข้าวโอ๊ตของโปรด 71 00:02:59,981 --> 00:03:01,627 และเจ้าราเมือกก็ทำการสร้างทางเชื่อมต่อ 72 00:03:01,627 --> 00:03:03,041 ระหว่างแหล่งอาหารสองแห่งนั้น 73 00:03:03,041 --> 00:03:05,525 ราเมือกได้หดตัวจากบริเวณที่ไม่มีอาหาร และบริเวณทางตันทั้งหลาย 74 00:03:05,525 --> 00:03:08,335 เป็นไปได้ 4 วิธีที่จะสร้างทางเชื่อมต่อ 75 00:03:08,335 --> 00:03:10,440 ครั้งแล้วครั้งเล่า 76 00:03:10,440 --> 00:03:12,607 เจ้าราเมือกได้สร้างทางเชื่อมต่อที่สั้นที่สุดเสมอ 77 00:03:12,607 --> 00:03:15,060 และเป็นเส้นทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด 78 00:03:15,060 --> 00:03:16,311 มันฉลาดมาก 79 00:03:16,311 --> 00:03:18,050 ข้อสรุปที่ได้จากการทดลองนี้ ก็คือ 80 00:03:18,050 --> 00:03:21,047 เจ้าราเมือกนี้ ถือได้ว่า มีรูปแบบหนึ่งของสติปัญญาขั้นต้น 81 00:03:21,047 --> 00:03:24,910 อีกการทดลองหนึ่ง ได้ให้ราเมือกสัมผัสกับอากาศเย็น เป็นช่วงๆ โดยเว้นระยะเวลาที่แน่นอน 82 00:03:24,910 --> 00:03:27,255 เจ้าราเมือกนี้ไม่ชอบอากาศเย็น 83 00:03:27,255 --> 00:03:28,448 และก็ไม่ชอบสภาพแวดล้อมที่แห้ง 84 00:03:28,448 --> 00:03:30,563 เมื่อให้ราเมือกได้สัมผัสกับอากาศเย็นเป็นพักๆ 85 00:03:30,563 --> 00:03:32,221 ทุกๆ ครั้ง เจ้าราเมือก 86 00:03:32,221 --> 00:03:35,351 จะตอบสนองโดยการเติบโตช้าลง 87 00:03:35,351 --> 00:03:37,195 อย่างไรก็ตาม มีอยู่ครั้งหนึ่ง 88 00:03:37,195 --> 00:03:40,019 ที่นักวิจัยไม่ได้เปิดสวิตซ์พัดลม 89 00:03:40,019 --> 00:03:43,313 เจ้าราเมือกก็ยังคงตอบสนองโดยการเติบโตช้าลง ซึ่งเป็นผลจากการคาดเดาล่วงหน้า 90 00:03:43,313 --> 00:03:44,649 ว่าจะได้เจอกับอากาศเย็น 91 00:03:44,649 --> 00:03:47,175 มันมีการรับรู้ได้ว่ามันใกล้จะถึงเวลา 92 00:03:47,175 --> 00:03:49,131 ที่จะเกิดอากาศเย็นที่มันไม่ชอบ 93 00:03:49,131 --> 00:03:50,820 ข้อสรุปที่ได้จากการทดลองนี้ ก็คือ 94 00:03:50,820 --> 00:03:54,090 เจ้าราเมือกมีความสามารถในการเรียนรู้ 95 00:03:54,090 --> 00:03:55,321 ตัวอย่างการทดลองที่สาม 96 00:03:55,321 --> 00:03:57,088 คราวนี้เจ้าราเมือกได้รับโอกาส 97 00:03:57,088 --> 00:04:01,280 ให้ออกสำรวจอาณาเขตที่ปกคลุมไปด้วยหย่อมข้าวโอ๊ต 98 00:04:01,280 --> 00:04:04,327 มันกระจายตัวออกสำรวจ ในลักษณะแตกกิ่งก้านสาขาออกไป 99 00:04:04,327 --> 00:04:06,975 เมื่อมันเจออาหารแต่ละจุด 100 00:04:06,975 --> 00:04:09,675 มันก็สร้างการเครือข่ายเชื่อมต่อกัน 101 00:04:09,675 --> 00:04:11,423 มันยังคงขยายอาณาเขตต่อไปเรื่อยๆ 102 00:04:11,423 --> 00:04:13,864 26 ชั่วโมงผ่านไป เครือข่ายก็สมบูรณ์ 103 00:04:13,864 --> 00:04:15,481 ดูค่อนข้างมั่นคง 104 00:04:15,481 --> 00:04:17,271 ระหว่างกองข้าวโอตแต่ละจุด 105 00:04:17,271 --> 00:04:19,091 ดูไม่มีอะไรโดดเด่นนักสำหรับการทดลองนี้ 106 00:04:19,091 --> 00:04:21,503 จนกระทั่งได้รู้ว่า ข้าวโอ๊ตตรงกลางที่เป็นจุดเริ่มต้นนั้น 107 00:04:21,503 --> 00:04:23,517 แสดงถึงตำแหน่งของเมืองโตเกียว 108 00:04:23,517 --> 00:04:27,583 และกองข้าวโอ๊ตที่กระจายอยู่รอบๆ ก็คือ สถานีรถไฟรอบๆเมือง 109 00:04:27,583 --> 00:04:30,064 เจ้าราเมือกได้ทำสำเนาของ 110 00:04:30,064 --> 00:04:32,480 เครือข่ายรถไฟเมืองโตเกียวขึ้นมา 111 00:04:32,480 --> 00:04:34,135 (เสียงหัวเราะ) 112 00:04:34,135 --> 00:04:37,130 ระบบเครือข่ายอันซับซ้อนที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ 113 00:04:37,130 --> 00:04:41,030 โดยอาศัย เคหะชุมชน งานวิศวกรรมโยธา การวางผังเมือง 114 00:04:41,030 --> 00:04:43,303 ซึ่งสังคมมนุษย์ได้ใช้เวลา เป็นร้อยปีกว่าจะสร้างขึ้นมา 115 00:04:43,303 --> 00:04:46,469 แต่เจ้าราเมือกกลับใช้เวลาเพียงแค่วันเศษๆ 116 00:04:46,469 --> 00:04:48,122 ข้อสรุปที่ได้จาการทดลองนี้ ก็คือ 117 00:04:48,122 --> 00:04:50,632 เจ้าราเมือกนี้สามารถสร้างเครือข่าย ที่มีประสิทธิภาพขึ้นมาได้เอง 118 00:04:50,632 --> 00:04:53,255 และแก้โจทย์ปัญหาการเดินทางของเซลล์แมนได้ (Traveling salesman problem) 119 00:04:53,255 --> 00:04:55,519 มันก็คือ คอมพิวเตอร์ชีวภาพ ดีๆ นี่เอง 120 00:04:55,519 --> 00:04:58,143 ด้วยเหตุนี้ มันได้ถูกสร้างเป็นโมเดลเชิงคณิตศาสตร์ 121 00:04:58,143 --> 00:04:59,804 ถูกวิเคราะห์อย่างเป็นขั้นตอน 122 00:04:59,804 --> 00:05:02,509 ทั้งถูกแปลงข้อมูลเป็นสัญญาณเสียง ถูกทำซ้ำ ถูกจำลองขึ้นใหม่ 123 00:05:02,509 --> 00:05:05,479 ทีมนักวิจัยหลายแห่งทั่วโลก 124 00:05:05,479 --> 00:05:08,449 กำลังถอดรหัสการทำงานของพวกมัน 125 00:05:08,449 --> 00:05:10,590 เพื่อที่จะได้เข้าใจหลักเกณฑ์ที่มันใช้คิดคำนวณ 126 00:05:10,590 --> 00:05:12,844 และนำความรู้เหล่านั้นไปประยุกต์ใช้ ในงานเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ 127 00:05:12,844 --> 00:05:15,080 การสร้างโปรแกรม และศาสตร์เกี่ยวกับหุ่นยนต์ 128 00:05:15,080 --> 00:05:17,234 ดังนั้น คำถามสำคัญคือ 129 00:05:17,234 --> 00:05:19,254 เจ้าราเมือกทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร? 130 00:05:19,254 --> 00:05:21,414 มันไม่มีระบบประสาทส่วนกลาง 131 00:05:21,414 --> 00:05:23,112 มันไม่มีสมอง 132 00:05:23,112 --> 00:05:24,940 แต่มันยังคงสามารถ แสดงพฤติกรรมเหล่านั้นได้ 133 00:05:24,940 --> 00:05:26,928 พฤติกรรมเดียวกับที่เรา ต้องใช้สมองในการสั่งการ 134 00:05:26,928 --> 00:05:28,836 ราเมือกสามารถเรียนรู้ สามารถจดจำ 135 00:05:28,836 --> 00:05:31,593 สามารถแก้ปัญหา สามารถตัดสินใจได้เอง 136 00:05:31,593 --> 00:05:34,308 แล้วสติปัญญาของราเมือกตั้งต้นมาจากจุดไหน? 137 00:05:34,308 --> 00:05:36,800 นี่เป็นภาพวีดีโอจากกล้องจุลทรรศน์ 138 00:05:36,800 --> 00:05:39,453 ซึ่งมีกำลังขยายประมาณ 100 เท่า 139 00:05:39,453 --> 00:05:42,320 เร่งความเร็วขึ้นประมาณ 20 เท่า 140 00:05:42,320 --> 00:05:44,106 ภายในเจ้าราเมือกนี้ 141 00:05:44,106 --> 00:05:47,548 มีกระแสการไหลเวียนของของเหลวเป็นจังหวะ 142 00:05:47,548 --> 00:05:49,716 สิ่งที่คล้ายกับเส้นเลือดกำลังลำเลียง 143 00:05:49,716 --> 00:05:53,488 ชิ้นส่วนเซลล์ สารอาหาร และสัญญาณเคมี 144 00:05:53,488 --> 00:05:55,346 ผ่านไปตามกลุ่มเซลล์ขนาดยักษ์นี้ 145 00:05:55,346 --> 00:05:58,964 การไหลเริ่มในทิศทางหนึ่ง แล้วก็ไหลย้อนกลับไปอีกทิศหนึ่ง 146 00:05:58,964 --> 00:06:02,781 และการไหลเวียนกลับไปมาอย่างสอดคล้องต่อเนื่อง 147 00:06:02,781 --> 00:06:05,037 ภายในเซลล์นี้เอง ที่ทำให้เกิด 148 00:06:05,037 --> 00:06:08,019 การรับรู้ที่ค่อนข้างซับซ้อน ต่อสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวมัน 149 00:06:08,019 --> 00:06:11,388 โดยปราศจากศูนย์สั่งการใดๆภายในเซลล์ 150 00:06:11,388 --> 00:06:13,969 นี่คือต้นตอของสติปัญญาของมัน 151 00:06:13,969 --> 00:06:17,213 ไม่เพียงแต่เหล่านักวิจัย 152 00:06:17,213 --> 00:06:19,857 ในมหาวิทยาลัยที่สนใจในเจ้าราเมือกนี้ 153 00:06:19,857 --> 00:06:22,730 ไม่กี่ปีก่อน ฉันได้สร้างกลุ่ม SliMoCo ขึ้นมา 154 00:06:22,730 --> 00:06:25,070 ซึ่งย่อมาจาก Slime Mould Collective 155 00:06:25,070 --> 00:06:28,293 มันเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่เปิดกว้างและเป็นประชาธิปไตย 156 00:06:28,293 --> 00:06:30,389 สำหรับผู้ที่ทำการศึกษาราเมือก และผู้ที่สนใจทั่วไป 157 00:06:30,389 --> 00:06:33,118 ได้แบ่งปันความรู้และผลการทดลอง 158 00:06:33,118 --> 00:06:36,086 จากหลากหลายสาขาอาชีพ 159 00:06:36,086 --> 00:06:39,781 และหลากหลายสถาบันศึกษา 160 00:06:39,781 --> 00:06:43,221 สมาชิกในกลุ่ม มาโดยสมัครใจ 161 00:06:43,221 --> 00:06:46,027 เหล่าสมาชิกได้มาพบเจอกับกลุ่ม SliMoCo 162 00:06:46,027 --> 00:06:49,611 เหมือนกับที่เจ้าราเมือกได้เจออาหารโปรดของมัน 163 00:06:49,611 --> 00:06:51,408 ในกลุ่มเรามีทั้ง นักวิทยาศาสตร์ 164 00:06:51,408 --> 00:06:52,967 นักคอมพิวเตอร์ นักวิจัย 165 00:06:52,967 --> 00:06:55,254 แม้แต่ศิลปิน เหมือนกับฉัน 166 00:06:55,254 --> 00:07:00,346 สถาปนิก ดีไซน์เนอร์ นักเขียน นักเคลื่อนไหวรณรงค์ และอีกมากมาย 167 00:07:00,346 --> 00:07:04,529 ซึ่งน่าสนใจมาก กับความหลากหลาย ของสมาชิกในกลุ่ม 168 00:07:04,529 --> 00:07:05,866 ลองมาดูสักสองสามตัวอย่าง 169 00:07:05,866 --> 00:07:08,991 สมาชิกที่เป็นศิลปินคนหนึ่ง วาดรูปโดยใช้ราเมือกเรืองแสง 170 00:07:08,991 --> 00:07:10,563 สมาชิกอีกกลุ่มหนึ่งได้ร่วมมือกัน 171 00:07:10,563 --> 00:07:14,341 ทำการออกแบบทางอิเล็กทรอนิสก์ ผสานกับการออกแบบทางชีวภาพ 172 00:07:14,341 --> 00:07:17,486 โดยอาศัยเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติ 173 00:07:17,486 --> 00:07:19,620 ศิลปินอีกคน ใช้เจ้าราเมือก 174 00:07:19,620 --> 00:07:21,720 เป็นเครื่องมือในการปฏิสัมพันธ์กับชุมชน 175 00:07:21,720 --> 00:07:24,724 เพื่อทำแผนที่ของชุมชนนั้น 176 00:07:24,724 --> 00:07:26,886 นี่เอง ที่เจ้าราเมือกได้ถูกนำมาใช้โดยตรง 177 00:07:26,886 --> 00:07:29,764 ไม่เพียงแต่ในฐานะเครื่องมือที่มีชีวิตเท่านั้น แต่ยังเปรียบได้กับ 178 00:07:29,764 --> 00:07:31,748 สัญลักษณ์ที่สื่อถึงวิธีการพูดคุยกัน 179 00:07:31,748 --> 00:07:35,602 เกี่ยวกับแรงยึดเหนี่ยวทางสังคม การสื่อสารระหว่างกัน 180 00:07:35,602 --> 00:07:37,466 และการให้ความร่วมมือกันในสังคม 181 00:07:37,466 --> 00:07:39,976 อีกหนึ่ง กิจกรรมที่สร้างความผูกพันในชุมชน 182 00:07:39,976 --> 00:07:41,994 ฉันได้จัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ เกี่ยวกับราเมือกนี้มาหลายครั้ง 183 00:07:41,994 --> 00:07:44,456 เป็นหนึ่งในวิธีที่สร้างสรรค์ ในการปฏิสัมพันธ์ทำความเข้าใจเกี่ยวกับมัน 184 00:07:44,456 --> 00:07:46,140 ผู้คนได้รับเชิญให้เข้าร่วมและเรียนรู้ 185 00:07:46,140 --> 00:07:48,036 เกี่ยวกับความสามารถที่น่าทึ่งของเจ้าราเมือก 186 00:07:48,036 --> 00:07:50,682 ผู้เข้าร่วมแต่ละคนจะได้ทำการออกแบบ การทดลองในจานเพาะเชื้อเอง 187 00:07:50,682 --> 00:07:52,998 กำหนดสภาพแวดล้อมที่จะให้ราเมือกเจริญเติบโต 188 00:07:52,998 --> 00:07:54,636 ดังนั้นพวกเขาก็จะได้ลอง ทดสอบเจ้าราเมือกนี้ดู 189 00:07:54,636 --> 00:07:57,080 ทุกคนกลับบ้านไปพร้อมกับราเมือกในจานเพาะเชื้อ 190 00:07:57,080 --> 00:08:00,020 และได้รับเชิญให้มาแสดงผลการทดลองเหล่านั้น 191 00:08:00,020 --> 00:08:02,438 บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ของกลุ่ม 192 00:08:02,438 --> 00:08:03,886 และกลุ่มนี้ก็ทำให้ฉันสามารถ 193 00:08:03,886 --> 00:08:06,248 สร้างผลงานร่วมกับคนอื่นๆ 194 00:08:06,248 --> 00:08:08,841 กับคนที่น่าสนใจมากมาย 195 00:08:08,841 --> 00:08:10,434 ฉันได้ทำงานร่วมกับผู้ผลิตภาพยนตร์อยู่ 196 00:08:10,434 --> 00:08:13,900 ในงานสารคดีขนาดยาวเกี่ยวกับราเมือก 197 00:08:13,900 --> 00:08:16,558 ขอย้ำอีกครั้งว่านี่เป็นสารคดีขนาดยาว 198 00:08:16,558 --> 00:08:18,267 ซึ่งอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการตัดต่อ 199 00:08:18,267 --> 00:08:21,293 และจะได้ฉายในโรงภาพยนตร์เร็วๆนี้ 200 00:08:21,293 --> 00:08:22,773 (เสียงหัวเราะ) 201 00:08:22,773 --> 00:08:26,108 นอกจากนี้ยังทำให้ฉันได้มีโอกาสทำการทดลอง 202 00:08:26,108 --> 00:08:28,981 ซึ่งคิดว่านี่เป็นการทดลองมนุษย์ราเมือกครั้งแรกในโลก 203 00:08:28,981 --> 00:08:31,953 นี่เป็นส่วนหนึ่งของงานนิทรรศการ ที่รอตเทอร์ดาม เมื่อปีก่อน 204 00:08:31,953 --> 00:08:36,644 เราเชิญให้ผู้ร่วมกิจกรรม ทดลองเป็นราเมือก เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง 205 00:08:36,644 --> 00:08:39,985 โดยการให้แต่ละคนมาผูกโยงติดกัน 206 00:08:39,985 --> 00:08:42,309 เสมือนเป็นเซลล์ยักษ์หนึ่งเซลล์ 207 00:08:42,309 --> 00:08:45,153 และก็ให้พวกเขาทำตัวตามกฎของราเมือก 208 00:08:45,153 --> 00:08:48,584 นั่นคือพวกเขาต้องสื่อสารด้วยวิธีการสั่นเป็นจังหวะ 209 00:08:48,584 --> 00:08:49,880 ห้ามใช้คำพูดใดๆ 210 00:08:49,880 --> 00:08:54,813 พวกเขาต้องปฏิบัติการราวกับว่าเป็นองคาพยพเดียวกัน 211 00:08:54,813 --> 00:08:56,397 ไม่มีอัตตา 212 00:08:56,397 --> 00:08:58,982 และมีแรงจูงใจในการเคลื่อนที่ 213 00:08:58,982 --> 00:09:00,890 และสำรวจสภาพแวดล้อม 214 00:09:00,890 --> 00:09:02,789 เพียงเพื่อหาอาหาร 215 00:09:02,789 --> 00:09:06,420 ผลที่ตามมา คือ การเดินสะเปะสะปะ ขณะที่กลุ่มคนแปลกหน้า 216 00:09:06,420 --> 00:09:10,328 ที่สวมเสื้อเขียนว่า "เป็นราเมือก" ถูกโยงติดกันด้วยเชือกสีเหลือง 217 00:09:10,328 --> 00:09:13,284 ค่อยๆ เคลื่อนที่ผ่านสวนของพิพิธภัณฑ์ 218 00:09:13,284 --> 00:09:16,610 เมื่อพวกเขาเจอต้นไม้ พวกเขาต้องเปลี่ยนรูปแบบของการเชื่อมต่อกัน 219 00:09:16,610 --> 00:09:19,742 และจัดรูปใหม่ในฐานะเป็นองคาพยพเดียว 220 00:09:19,742 --> 00:09:23,729 โดยปราศจากการพูดคุย 221 00:09:23,729 --> 00:09:27,087 นี่เป็นการทดลองที่น่าขันในหลายๆ แง่มุม 222 00:09:27,087 --> 00:09:29,036 มันไม่ได้เกิดจากสมมุติฐานใดๆ 223 00:09:29,036 --> 00:09:31,479 เราไม่ได้ต้องการจะพิสูจน์ หรือจะสาธิตอะไร 224 00:09:31,479 --> 00:09:33,613 แต่สิ่งที่เราได้รับมา คือ 225 00:09:33,613 --> 00:09:35,961 วิธีที่ทำให้คนในวงกว้าง ได้มีส่วนร่วม 226 00:09:35,961 --> 00:09:40,392 ในแนวคิดเรื่อง สติปัญญา หน้าที่ การพึ่งตนเอง 227 00:09:40,392 --> 00:09:42,721 และได้มอบพื้นที่สบายๆ แก่เรา 228 00:09:42,721 --> 00:09:46,453 สำหรับถกเถึยงเกี่ยวกับ 229 00:09:46,453 --> 00:09:48,837 สิ่งที่เป็นผลตามมา 230 00:09:48,837 --> 00:09:51,170 หนึ่งในสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุด 231 00:09:51,170 --> 00:09:54,030 เกี่ยวกับการทดลองนี้ 232 00:09:54,030 --> 00:09:56,217 ก็คือ การเสวนาที่เกิดขึ้นตามมา 233 00:09:56,217 --> 00:10:00,040 ได้เกิดการชุมนุมอภิปรายกันขึ้นมาเองในสวนนั้น 234 00:10:00,040 --> 00:10:02,069 ผู้เข้าร่วมพูดคุยกัน ทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับจิตวิทยาของมนุษย์ 235 00:10:02,069 --> 00:10:03,726 เกี่ยวกับความยากลำบากในการปล่อยวาง 236 00:10:03,726 --> 00:10:07,035 เกี่ยวกับตัวตนและอัตตาของพวกเขา 237 00:10:07,035 --> 00:10:10,218 อีกกลุ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับ การสื่อสารกันระหว่างแบคทีเรีย 238 00:10:10,218 --> 00:10:12,197 แต่ละคนได้เสนอความเห็น 239 00:10:12,197 --> 00:10:15,054 ตามการตีความของพวกเขาเอง 240 00:10:15,054 --> 00:10:16,959 และข้อสรุปที่ได้จากการทดลองนี้ คือ 241 00:10:16,959 --> 00:10:20,865 ผู้เข้าร่วมที่ รอตเทอร์ดาม ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี 242 00:10:20,865 --> 00:10:23,661 โดยเฉพาะเวลาที่ได้รับการแจกจ่ายเบียร์ 243 00:10:23,661 --> 00:10:25,627 เราไม่ได้ให้อาหารพวกเขาด้วยข้าวโอ๊ตเท่านั้น 244 00:10:25,627 --> 00:10:27,189 เราแจกเบียร์ให้พวกเขาอีกด้วย 245 00:10:27,189 --> 00:10:29,383 แต่กระนั้น พวกเขาก็ไม่มีประสิทธิภาพ เทียบเท่ากับเจ้าราเมือก 246 00:10:29,383 --> 00:10:31,367 สำหรับฉันแล้ว เจ้าราเมือกนี้ 247 00:10:31,367 --> 00:10:33,736 เป็นเรื่องราวที่น่าหลงใหล 248 00:10:33,736 --> 00:10:35,593 มันน่าหลงไหล ในเชิงชีววิทยา 249 00:10:35,593 --> 00:10:37,177 มันน่าสนใจ ในแง่การคำนวณ 250 00:10:37,177 --> 00:10:39,251 และมันก็ยังเป็นสัญลักษณ์ 251 00:10:39,251 --> 00:10:42,909 เป็นวิธีเชื่อมโยงถึงแนวคิด เรื่องชุมชน 252 00:10:42,909 --> 00:10:46,563 พฤติกรรมรวมหมู่ และความร่วมมือกัน 253 00:10:46,563 --> 00:10:48,689 งานของฉันหลายอย่างได้ข้อมูลมาจากงานวิจัย 254 00:10:48,689 --> 00:10:51,873 ซึ่งวีดิโอนี้ก็เป็นการรำลึกถึงการทดลองเขาวงกต 255 00:10:51,873 --> 00:10:53,455 ในอีกแง่มุมหนึ่ง 256 00:10:53,455 --> 00:10:55,813 เจ้าราเมือกยังถือเป็นวัตถุดิบสำหรับงานของฉันด้วย 257 00:10:55,813 --> 00:11:01,030 มันเป็นผู้ช่วยผลิตทั้งใน งานภาพถ่าย งานพิมพ์ งานแอนิเมชั่น 258 00:11:01,030 --> 00:11:02,629 รวมถึง การจัดกิจกรรมแบบมีส่วนร่วม 259 00:11:02,629 --> 00:11:04,977 ในขณะที่เจ้าราเมือกนี้ไม่ได้เลือกเอง 260 00:11:04,977 --> 00:11:06,883 ที่จะมาทำงานร่วมกับฉัน 261 00:11:06,883 --> 00:11:09,485 แต่มันก็ให้ความร่วมมือดี 262 00:11:09,485 --> 00:11:11,577 ฉันสามารถคาดการณ์พฤติกรรมบางอย่าง 263 00:11:11,577 --> 00:11:13,633 โดยการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมัน 264 00:11:13,633 --> 00:11:15,363 แต่ฉันไม่สามารถควบคุมมันได้ 265 00:11:15,363 --> 00:11:16,947 เจ้าราเมือกยังคงทำสิ่งมันอยากทำ 266 00:11:16,947 --> 00:11:19,078 ในกระบวนการคิดสร้างสรรค์ 267 00:11:19,078 --> 00:11:22,567 อย่างไรก็ตาม มันก็มีนิยามความสุนทรีย์ในแบบของมัน 268 00:11:22,567 --> 00:11:24,371 รูปแบบกิ่งก้านสาขาที่เราเห็นอยู่นี้ 269 00:11:24,371 --> 00:11:26,921 สามารถพบได้ในทุกรูปแบบของสิ่งต่างๆ เป็นสัดส่วนของธรรมชาติ 270 00:11:26,921 --> 00:11:29,721 จากดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ไปจนถึงฟ้าผ่า 271 00:11:29,721 --> 00:11:33,757 จากแขนงหลอดเลือด ไปจนถึงเครือข่ายเส้นประสาท 272 00:11:33,757 --> 00:11:36,220 แน่นอนว่าต้องมีกฎยิ่งใหญ่บางอย่างควบคุมมันอยู่ 273 00:11:36,220 --> 00:11:38,485 ในสิ่งมีชีวิตที่เรียบง่ายแต่ซับซ้อนนี้ 274 00:11:38,485 --> 00:11:42,277 ไม่ว่าเราจะมาจากสาขาไหน หรือเราจะศึกษามันในแง่มุมใด 275 00:11:42,277 --> 00:11:44,060 เราก็ได้เรียนรู้มากมาย 276 00:11:44,060 --> 00:11:45,829 จากการเฝ้าสังเกตและการมีปฏิสัมพันธ์ 277 00:11:45,829 --> 00:11:48,950 กับเจ้าคราบรอยเปี้ยนที่งดงาม และไม่มีแม้แต่สมองนี้ 278 00:11:48,950 --> 00:11:52,165 และนี่ก็คือเรื่องราวของเจ้าราเมือก ( Physarum polycephalum ) 279 00:11:52,165 --> 00:11:53,918 ขอบคุณค่ะ 280 00:11:53,918 --> 00:11:54,880 (เสียงปรบมือ)