ทำไมหนังสือที่ดีจึงเป็นดั่งประตูลับ
-
0:00 - 0:03สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อแม็คครับ
-
0:03 - 0:07งานของผมคือ การโกหกเด็กๆ
-
0:07 - 0:09แต่มันเป็นการโกหกโดยสุจริตนะครับ
-
0:09 - 0:10ผมเขียนหนังสือเด็ก
-
0:10 - 0:14และมันก็มีวาทะจาก พาโบล ปิกัสโซ่ ที่ว่า
-
0:14 - 0:17"เราทั้งผองรู้ว่าศิลปะนั้นไม่ใช่ความจริง
-
0:17 - 0:20ศิลปะคือการโกหกที่ทำให้เราตระหนักถึงความจริง
-
0:20 - 0:23หรืออย่างน้อย
ความจริงที่ทำให้เราได้เข้าใจ -
0:23 - 0:25ศิลปินต้องรู้กลเม็ดที่ซึ่ง
-
0:25 - 0:30จะชักจูงคนอื่นๆ
ให้เข้าถึงความจริงในสิ่งที่เขาโกหก" -
0:30 - 0:33ผมได้ยินสิ่งนี้เมื่อผมยังเป็นเด็ก
-
0:33 - 0:35และผมก็รักมันมาก
-
0:35 - 0:37แต่ผมไม่รู้หรอก ว่ามันหมายถึงอะไร
-
0:37 - 0:39(เสียงหัวเราะ)
-
0:39 - 0:41ผมก็เลยคิดว่า จริงแล้วๆ
มันไม่ใช่ผมหรอกที่อยู่ตรงนี้ -
0:41 - 0:43พูดกับคุณในวันนี้ เกี่ยวกับความคิด
-
0:43 - 0:45ความจริง และการโกหก
นิยายและเรื่องจริง -
0:45 - 0:47แล้วผมจะแก้ปม
-
0:47 - 0:49ของประโยคซ่อนเงื่อนพวกนี้ได้อย่างไร
-
0:49 - 0:53และผมจะบอกว่า ผมมีเพาเวอร์พ้อย
มาสร้างแผนภาพเวนน์กัน -
0:53 - 0:55["ความจริง การโกหก"]
(เสียงหัวเราะ) -
0:55 - 0:57นั่นล่ะครับ นี่เลย ตู้ม
-
0:57 - 0:58เรามีความจริงและการโกหก
-
0:58 - 1:00และจากนั้นก็มีพื้นที่เล็กๆ
-
1:00 - 1:01เส้นขอบ ในตรงกลาง
-
1:01 - 1:08พื้นที่อันจำกัดจำเขี่ยนั้น คือศิลปะ
-
1:08 - 1:13เอาล่ะ แผนภาพเวนน์
(เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ) -
1:13 - 1:16แต่นั่นก็ไม่ได้มีประโยชน์สักเท่าไร
-
1:16 - 1:20สิ่งที่ทำให้ผมเข้าใจ
-
1:20 - 1:23วาทะนั้น และประเภทของศิลปะ
-
1:23 - 1:25อย่างน้อยๆ ก็ศิลปะของนิยาย ก็คือ
-
1:25 - 1:26การทำงานกับเด็กๆ
-
1:26 - 1:29ผมเคยเป็นที่ปรึกษาค่ายฤดูร้อน
-
1:29 - 1:31ผมจะทำงานนั้นในช่วงฤดูร้อนนอกวิทยาลัย
-
1:31 - 1:34และผมรักมันครับ
-
1:34 - 1:36มันเป็นค่ายกีฬาฤดูร้อน
-
1:36 - 1:38สำหรับเด็กอายุสี่ถึงหกปี
-
1:38 - 1:40ผมมีหน้าที่ดูแลเด็กสี่ขวบ
-
1:40 - 1:41ซึ่งมันดีเลยครับ เพราะว่า
-
1:41 - 1:45เด็กสี่ขวบเล่นกีฬาไม่เป็น
ผมก็เล่นไม่เป็นเหมือนกัน -
1:45 - 1:46(เสียงหัวเราะ)
-
1:46 - 1:49ผมเล่นกีฬาด้วยทักษะเท่าเด็กสี่ขวบ
-
1:49 - 1:53แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ
-
1:53 - 1:55เด็กๆ วิ่งเล่นอ้อมทุ่น แล้วก็รู้สึกร้อน
-
1:55 - 1:57และก็จะมานั่งใต้ต้นไม้
-
1:57 - 2:00ที่เดียวกับที่ผมนั่งอยู่ก่อนแล้ว
-(เสียงหัวเราะ)- -
2:00 - 2:02และผมก็จะสร้างเรื่องขึ้นมา เล่าให้พวกฟัง
-
2:02 - 2:04และผมจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตผม
-
2:04 - 2:06ผมจะเล่าเกี่ยวกับว่า ช่วงสุดสัปดาห์
-
2:06 - 2:09ผมจะกลับบ้านและไปเป็นสายลับ
ของราชินีแห่งอังกฤษได้อย่างไร -
2:09 - 2:12และไม่นาน เด็กคนอื่นๆ
-
2:12 - 2:14ผู้ซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่มเด็กของผมด้วยซ้ำ
-
2:14 - 2:16ก็จะเข้ามาหาผม และบอกว่า
-
2:16 - 2:18"คุณคือ แม็ค บาร์นเน็ต ใช่มั้ย
-
2:18 - 2:21คุณคือคนที่เป็นสายลับของราชินีอังกฤษ"
-
2:21 - 2:24ผมก็รอมาทั้งชีวิต เพื่อให้คนแปลกหน้า
-
2:24 - 2:26เข้ามาหาผมและถามคำถามนั้น
-
2:26 - 2:29ในความฝันของผม
คนเหล่านั้นเป็นสาวรัสเซียร่างสะโอดสะอง -
2:29 - 2:30แต่รู้อะไรไหมครับ ถึงมันจะมาจากเด็กสี่ขวบ
-
2:30 - 2:35คุณได้ในสิ่งที่คุณอยาก ในเบิร์คลีย์ แคลิฟอเนีย
-
2:35 - 2:39และผมตระหนักว่า เรื่องที่ผมเล่านั้น
-
2:39 - 2:42เป็นจริงในแง่มุมนี้ที่เป็นที่คุ้นเคยสำหรับผม
-
2:42 - 2:44และมันก็น่าตื่นเต้น
-
2:44 - 2:46ผมคิดว่า สิ่งสุดยอดที่สุดที่
ผมจะไม่มีวันลืมมันเลย -
2:46 - 2:49คือ มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ชื่อว่า ไรลี่
เธอตัวเล็กนิดเดียว -
2:49 - 2:51และเธอจะนำอาหารเที่ยงออกมาทุกวัน
-
2:51 - 2:53และเธอจะขว้างผลไม้ทิ้ง
-
2:53 - 2:55เธอจะเอาผลไม้มา
-
2:55 - 2:56แม่เธอเอาแตงใส่กล่องมาให้ทุกวัน
-
2:56 - 2:58และเธอก็จะปามันทิ้งใส่ต้นไอวี่
-
2:58 - 3:00แต่เธอจะกินอาหารว่าง ขนมผลไม้
-
3:00 - 3:03และขนมพุดดิ้ง ผมก็แบบว่า "ไรลี่
-
3:03 - 3:06เธอทำแบบนี้ไม่ได้นะ
เธอต้องกินผลไม้สิ" -
3:06 - 3:08และเธอก็แบบว่า "ทำไมล่ะ
-
3:08 - 3:09และผมบอกว่า
"เออ ตอนที่เธอโยนผลไม้ใส่ต้นไอวี่น่ะ -
3:09 - 3:13ไม่นาน มันก็จะโดนแตงบังซะหมด"
-
3:13 - 3:15ซึ่งนั่นเป็นเหตุว่าทำไมผมคิดว่า ผมเหมาะกับ
-
3:15 - 3:21การเล่านิทานให้เด็กๆ ฟัง
และไม่เป็นนักโภชนาการสำหรับเด็ก -
3:21 - 3:23และไรลี่ก็แบบว่า "นั่นคงไม่มีวันเกิดขึ้นหรอก
-
3:23 - 3:24ไม่เกิดขึ้นหรอกน่า"
-
3:24 - 3:27เพราะงั้น ในวันสุดท้ายของค่าย
-
3:27 - 3:29ผมตื่นเช้าและได้แตงลูกใหญ่
-
3:29 - 3:31มาจากร้านชำ
-
3:31 - 3:33และผมก็ซ่อนมันไว้ในไอวี่
-
3:33 - 3:35ตอนเวลาเที่ยง ผมก็แบบว่า
-
3:35 - 3:38"ไรลี่ มานี่หน่อย และดูสิว่าเธอทำอะไรลงไป"
-
3:38 - 3:41และ -(เสียงหัวเราะ)-
-
3:41 - 3:43เธอค่อยๆเดินเข้าไปที่ต้นไอวี่
แล้วจากนั้นตาของเธอ -
3:43 - 3:46ก็เบิ่งโพลง และเธอก็ชี้ไปยังแตง
-
3:46 - 3:48ที่ใหญ่กว่าหัวของเธอเสียอีก
-
3:48 - 3:51จากนั้นเด็กทุกคนก็วิ่งเข้ามา
และวิ่งไปหาเธอ -
3:51 - 3:52แล้วหนึ่งในนั้นก็พูดว่า "เฮ่
-
3:52 - 3:54ทำไมมันมีสติกเกอร์ติดอยู่ด้วยล่ะ"
-
3:54 - 3:57(เสียงหัวเราะ)
-
3:57 - 4:00ผมเลยบอกว่า "ถึงได้บอกไง
-
4:00 - 4:03ว่าอย่าปาสติ๊กเกอร์ใส่ต้นไอวี่
-
4:03 - 4:08ทิ้งถังขยะไปซะ เธอทำลายสิ่งแวดล้อมนะเนี่ย"
-
4:08 - 4:14และไรลี่ก็ถือแตงนั้นไปๆ มาๆ ทั้งวัน
-
4:14 - 4:16เธอภูมิใจมาก
-
4:16 - 4:21และไรลี่ก็รู้
ว่าเธอไม่ได้ปลูกแตงขึ้นมาในเจ็ดวัน -
4:21 - 4:23แต่เธอยังรู้อีกว่าเธอทำ
-
4:23 - 4:26และมันก็เป็นที่ที่แปลก
-
4:26 - 4:28แต่มันไม่ใช่แค่ที่ซึ่งเด็กสามารถไปถึง
-
4:28 - 4:32มันเป็นอะไรก็ได้
ศิลปะสามารถนำเราไปถึงที่นั่น -
4:32 - 4:34เธออยู่ตรงกลางของสถานที่นั้น
-
4:34 - 4:37ที่ซึ่งคุณอาจเรียกมันได้ว่าเป็นศิลปะหรือนิยาย
-
4:37 - 4:39ผมจะเรียกมันว่า ความอัศจรรย์
-
4:39 - 4:42มันเป็นสิ่งที่โคลริดจ์ (Coleridge) เรียกว่า
การยอมต่อการแขวนลอยของความเหลือเชื่อ -
4:42 - 4:44หรือ ศรัทธาทางกวี
-
4:44 - 4:46สำหรับวินาทีเหล่านั้น
ไม่ว่ามันจะประหลาดสักแค่ไหน ที่ที่เรื่องราว -
4:46 - 4:48มีความคล้ายใกล้กับความจริง
-
4:48 - 4:50และคุณก็จะเชื่อมัน
-
4:50 - 4:52มันไม่ใช่แค่เด็กที่จะไปถึงที่นั้นไปได้
-
4:52 - 4:54ผู้ใหญ่ก็เช่นกัน
และเราไปถึงที่นั่นได้เมื่อเราอ่าน -
4:54 - 4:57นั่นเป็นเหตุว่าทำไม คนถึงใช้เวลาสองวัน
-
4:57 - 5:00ลงไปที่ดับลินเพื่อเดินเที่ยวเมือง
-
5:00 - 5:06ในวันบลูม และชมทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ใน "ยูลิซิส" -
5:06 - 5:08แม้ว่ามันไม่เคยมีอะไรที่เกิดขึ้นจริงๆ
-
5:08 - 5:10หรือคนที่ไปลอนดอน และไปที่ถนนเบเคอร์
-
5:10 - 5:12เพื่อไปดูบ้านของเชอร์ล๊อค โฮล์ม
-
5:12 - 5:14แม้ว่า 221B จะเป็นแค่เลขที่บ้านที่ถูกพ่นไว้
-
5:14 - 5:17บนตึกที่ไม่เคยมีที่อยู่จริง
-
5:17 - 5:19เรารู้ว่าตัวละครพวกนี้ไม่มีจริง
-
5:19 - 5:21แต่เรามีความรู้สึกจริงๆ ต่อพวกมัน
-
5:21 - 5:22และพวกเราสามารถทำอย่างนั้นได้
-
5:22 - 5:24เรารู้ว่าตัวละครเหล่านี้ไม่มีอยู่จริง
-
5:24 - 5:28แต่กระนั้นเราก็ยังรู้ว่าพวกมันมีอยู่
-
5:28 - 5:31เด็กๆ สามารถไปถึงที่นั่นได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่
-
5:31 - 5:33และนั่นเป็นเหตุว่าทำไม
ผมจึงรักการเขียนเพื่อเด็กๆ -
5:33 - 5:35ผมคิดว่าเด็กๆ เป็นผู้ฟังที่ดี
-
5:35 - 5:39ต่อวรรณกรรมบันเทิงที่มีสาระ
-
5:39 - 5:42เมื่อผมเป็นเด็ก
-
5:42 - 5:45ผมหมกมุ่นกับนิยายประตูลับ
-
5:45 - 5:46อย่างเช่น "นาเนีย"
-
5:46 - 5:50เมื่อคุณเปิดตู้เสื้อผ้า
และเดินผ่านเข้าไปยังดินแดนอัศจรรย์ -
5:50 - 5:52และผมก็เชื่อว่าประตูลับนั้นมีอยู่จริง
-
5:52 - 5:54และผมก็ตามหามันและพยายามที่จะเข้าไป
-
5:54 - 5:58ผมต้องการที่จะมีชีวิตและเข้าไป
ยังโลกแห่งนิยาย -
5:58 - 6:04ผมจะพยายามเปิดตู้เสื้อผ้าเสมอ
(เสียงหัวเราะ) -
6:04 - 6:07ผมจะเข้าไปในตู้เสื้อผ้าของแฟนแม่ผม
-
6:07 - 6:09มันไม่มีโลกอัศจรรย์อะไรในนั้น
-
6:09 - 6:11แต่มันมีของแปลกๆ อย่างอื่น
ที่ผมคิดว่าแม่ผมควรรู้ -
6:11 - 6:13(เสียงหัวเราะ)
-
6:13 - 6:17และผมก็ดีใจที่ได้บอกเธอ
-
6:20 - 6:24หลังจากจบมหาวิทยาลัย
งานแรกของผมคือการทำงาน -
6:24 - 6:26หลังประตูลับบานหนึ่ง
-
6:26 - 6:28ที่แห่งนั้นคือ 826 บาเลนเซีย
-
6:28 - 6:30มันอยู่ที่ 826 ถนนบาเลนเซีย
-
6:30 - 6:33ในแมนชั่นในซานฟรานซิสโก
-
6:33 - 6:35และเมื่อผมทำงานที่นั่น
มันก็มีสำนักพิมพ์ -
6:35 - 6:37สำนักงานใหญ่ที่นั่นชื่อว่า แม็คสวีนี่
-
6:37 - 6:41เป็นศูนย์การเขียนที่ไม่แสวงหาผลกำไร
ชื่อ 826 บาเลนเซีย -
6:41 - 6:43แต่ทางด้านหน้า
-
6:43 - 6:44เป็นร้านแปลกๆ
-
6:44 - 6:46ร้านนี้อยู่ในเขตร้านค้า
-
6:46 - 6:49และในซานฟรานซิสโก
พวกเขาจะไม่ให้เราทำการเปลี่ยนแปลง -
6:49 - 6:52และนักเขียนผู้ก่อตั้งมัน
ชื่อว่า เดฟ เอกเกอร์ -
6:52 - 6:54ยอมทำตามกฎและบอกว่า "ก็ได้
-
6:54 - 6:59ผมจะสร้างร้านขายของโจรสลัด"
-
6:59 - 7:02และนั่นก็เป็นสิ่งที่เขาทำ (เสียงหัวเราะ)
-
7:02 - 7:04มันสวยงามครับ เป็นไม้ทั้งหมด
-
7:04 - 7:05มีเก๊ะที่คุณสามารถดึงออกมา
แล้วเจอมะนาว -
7:05 - 7:08คุณจะได้ไม่เป็นเลือดออกตามไรฟัน
-
7:08 - 7:11พวกเขามีที่ปิดตาสีต่างๆ
-
7:11 - 7:13เพราะเมื่อมันถึงฤดูใบไม้ผลิ
โจรสลัดก็อยากออกอาละวาด -
7:13 - 7:18คุณไม่รู้หรอก สีดำน่ะมันน่าเบื่อ
เลยมีสีพาสเทล -
7:18 - 7:20หรือตาที่มีสีต่างๆ
-
7:20 - 7:21ก็แค่ตาแก้ว ก็ขึ้นอยู่ว่าคุณต้องการแบบไหน
-
7:21 - 7:25เพื่อที่จะจัดการกับสถานการณ์นี้
-
7:25 - 7:28และเป็นที่น่าแปลกร้านนี้
-
7:28 - 7:32มีคนแวะเวียนมาและซื้อสินค้าจากร้าน
-
7:32 - 7:34จนทำให้ร้านจ่ายค่าเช่าที่
-
7:34 - 7:36สำหรับศูนย์สอนเสริม ซึ่งอยู่ทางด้านหลังได้
-
7:36 - 7:39แต่สำหรับผม สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ
-
7:39 - 7:42ผมคิดว่าคุณภาพงานที่เราทำ
-
7:42 - 7:44เด็กเข้ามาและได้รับการสอนการเขียน
-
7:44 - 7:49และเมื่อคุณต้องเดินเข้าไปยังที่แห่งนิยายที่ประหลาด
เพื่อที่จะทำงานเขียน -
7:49 - 7:52มันจะมีผลต่องานที่คุณจะทำ
-
7:52 - 7:55มันเป็นประตูลับที่คุณเดินผ่านเข้าไป
-
7:55 - 7:57ผมกำกับ 826 ในลอสแองเจลิส
-
7:57 - 8:01และมันก็เป็นหน้าที่ของผม
ที่จะสร้างห้องเก็บของข้างล่างนี้ -
8:01 - 8:04เราก็เลยมีเอคโคพาร์ค ทาม แทรเวล มาร์ท
(The Echo Park Time Travel Mart) -
8:04 - 8:07นั่นคำขวัญของเรา
"เมื่อใดก็ตามที่คุณอยู่ตรงนั้น พวกเราเคยอยู่ตรงนั้นแล้ว" -
8:07 - 8:11(เสียงหัวเราะ)
-
8:11 - 8:16และบนซันเซท โบลาวาร์ด
ในลอสแองเจลิส -
8:16 - 8:18เจ้าหน้าที่ผู้เป็นมิตรของเราก็พร้อมช่วยเหลือ
-
8:18 - 8:20พวกเขามาจากทุกยุค
-
8:20 - 8:24รวมถึง ยุค 1980 คนที่อยู่ตรงท้าย
-
8:24 - 8:26เขามาจากอดีตที่ย้อนไปไม่นานนัก
-
8:26 - 8:28มียอดพนักงานประจำเดือนของเรา
-
8:28 - 8:31รวมถึง เจงกิส ข่าน, ชาร์ล ดิคเกน
-
8:31 - 8:34บุคคลสำคัญบางคนก็เข้ามาในลำดับของเรา
-
8:34 - 8:36นี่คือส่วนที่เกี่ยวกับยา
-
8:36 - 8:37เรามียาสำหรับผู้ป่วย
-
8:37 - 8:40โหลคาโนปิกสำหรับอวัยวะ
-
8:40 - 8:41สบู่คอมมิวนิสต์ที่บอกว่า
-
8:41 - 8:46"นี่เป็นสบู่สำหรับทั้งปีนี้"
(เสียงหัวเราะ) -
8:46 - 8:48เครื่องทำน้ำปั่นเราเสีย
-
8:48 - 8:51ในคืนเปิดตัว
และเราก็ไม่รู้จะทำยังไง -
8:51 - 8:53พวกนักออกแบบถูกป้ายด้วยน้ำหวานแดง
-
8:53 - 8:55ให้เหมือนกับว่าเขาเพิ่งไปฆ่าใครมา
-
8:55 - 8:57ซึ่งมันก็เป็นที่กังขาอยู่
-
8:57 - 8:59สำหรับนักออกแบบคนนั้น
-
8:59 - 9:01และเราก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
-
9:01 - 9:02มันกำลังจะกลายเป็นจุดเด่นของร้านเรา
-
9:02 - 9:03เราก็เลยปะป้ายไว้ว่า
-
9:03 - 9:07"เสีย กลับมาพรุ่งนี้นะ"
(เสียงหัวเราะ) -
9:07 - 9:10และนั่นก็จบลงว่ามันเหมาะจะเป็นตลก
มากกว่าเป็นน้ำปั่น -
9:10 - 9:14เราก็เลยทิ้งไว้อย่างนั้นแหละ
-
9:14 - 9:18อึแมมมอธ แต่ละอันหนักประมาณเจ็ดปอนด์
-
9:18 - 9:20ยาไล่บาบาเรี่ยน มันมีสลัดเต็มเลยครับ
-
9:20 - 9:25และพอเพอร์รี่ - สิ่งที่บาบาเรี่ยนเกลียด
-
9:25 - 9:27ภาษาที่ตายแล้ว
-
9:27 - 9:29(เสียงหัวเราะ)
-
9:29 - 9:32ปลิง หมอตัวน้อยตามธรรมชาติ
-
9:32 - 9:36และกลิ่นไวกิ้ง ซึ่งมีอยู่หลายกลิ่นทีเดียว
-
9:36 - 9:40นิ้วเท้า เหงือ และผักเน่า ขี้เถ้า
-
9:40 - 9:42เพราะเราเชื่อว่าสเปรย์ดับกลิ่นแอ๊กซ์
-
9:42 - 9:43เป็นอะไรสิ่งเดียวที่คุณอาจเจอในสนามรบ
-
9:43 - 9:48ที่ไม่ได้เจออยู่ใต้วงแขน (เสียงหัวเราะ)
-
9:48 - 9:50และนี่คือแผงวงจรความรู้สึก
-
9:50 - 9:52ฉะนั้นหุ่นยนต์สามารถรักหรือกลัวได้
-
9:52 - 9:53ของที่เราขายดีที่สุดคือ ชรัดเดิร์นฟรอด
-
9:53 - 9:55ซึ่งเราคาดไม่ถึง
-
9:55 - 9:56(เสียงหัวเราะ)
-
9:56 - 9:58เราไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดขึ้น
-
9:58 - 10:01แต่มันมีการไม่แสวงหาผลกำไรอยู่เบื้องหลัง
-
10:01 - 10:02และเด็กๆ ก็ผ่านประตูเข้ามา
ตรงที่บอกว่า "สำหรับพนักงานเท่านั้น" -
10:02 - 10:04และพวกเขาก็เข้ามาในที่
-
10:04 - 10:06ซึ่งพวกเขาทำการบ้าน และเขียนเรื่องราว
-
10:06 - 10:08และสร้างภาพยนตร์ และงานเปิดตัวหนังสือ
-
10:08 - 10:10ซึ่งเด็กๆ จะอ่านมัน
-
10:10 - 10:12เรามีสาขาที่พิมพ์
-
10:12 - 10:13สิ่งที่เขียนโดยเด็กๆ
-
10:13 - 10:14ผู้ซึ่งมาที่นี่หลังโรงเรียนเลิกทุกวัน
-
10:14 - 10:16พวกเรามีงานเลี้ยงเปิดตัว
-
10:16 - 10:19พวกเขากินเค้ก และอ่านให้ผู้ปกครองฟัง
-
10:19 - 10:22และดื่มนมจากแก้วแชมเปญ
-
10:22 - 10:25มันกลายเป็นพื้นที่พิเศษ
-
10:25 - 10:28เพราะมันมีพื้นที่แปลกๆ ด้านหน้า
-
10:28 - 10:31ตลกนั้นไม่ตลก
-
10:31 - 10:34คุณไม่สามารถหารอยตะเข็บต่อบนนิยายได้
-
10:34 - 10:37และผมก็รักมัน
ส่วนเล็กๆ ของนิยายนี้เอง -
10:37 - 10:40ที่สร้างอาณานิคมบนโลกแห่งความจริง
-
10:40 - 10:44ผมเห็นมันเป็นดังหนังสือที่มีสามมิติ
-
10:44 - 10:46มีคำเรียกว่า เมทตาฟิกชั่น (metafiction)
-
10:46 - 10:50และนั่นก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับเรื่อง
-
10:50 - 10:52และการเล่าเรื่องแบบนั้นก็ได้รับโอกาสสำคัญแล้วในตอนนี้
-
10:52 - 10:54โอกาสสำคัญอันยิ่งใหญ่สุดท้ายของมัน
อาจเป็นในยุค 1960 -
10:54 - 10:57ที่มีนักประพันธ์อย่างจอห์น บาร์ท
และวิลเลี่ยม แกดดิซ -
10:57 - 10:58แต่มันก็ยังคงวนเวียนอยู่
-
10:58 - 11:01มันเก่าพอๆ กับเรื่องเล่าเอง
-
11:01 - 11:04และหนึ่งในเทคนิคการเล่าเรื่องซ้อนเรื่อง
-
11:04 - 11:06คือการทำลายกำแพงที่สี่ โอเคไหมครับ
-
11:06 - 11:09มันคือเมื่อนักแสดงจะหันไปหาผู้ชม
-
11:09 - 11:10และบอกว่า "ผมเป็นนักแสดง
-
11:10 - 11:13พวกนี้เป็นแค่คานค้ำหลังคา"
-
11:13 - 11:15และแม้ว่านั่นจะเป็นวินาทีแห่งความซื่อสัตย์
-
11:15 - 11:17ผมก็ยังอยากจะเถียงว่า มันเป็นการโกหก
-
11:17 - 11:20แต่มันควรจะเป็นอย่างนั้น
เพื่อปูพื้นสิ่งที่สร้างขึ้นมา -
11:20 - 11:21ของนิยาย
-
11:21 - 11:23สำหรับผม ผมชอบสิ่งที่ตรงกันข้าม
-
11:23 - 11:26ถ้าผมกำลังที่จะทำลายกำแพงที่สี่
-
11:26 - 11:28ผมต้องการให้นิยายหลบหนี
-
11:28 - 11:30และเข้าไปในโลกแห่งความจริง
-
11:30 - 11:35ผมต้องการให้หนังสือเป็นประตูลับที่เปิดออก
-
11:35 - 11:37และให้เรื่องราวหลั่งไหลออกสู่ความจริง
-
11:37 - 11:40และผมจึงพยายามที่จะทำสิ่งนี้
ในหนังสือของผม -
11:40 - 11:42และนี่เป็นตัวอย่างหนึ่ง
-
11:42 - 11:44นี่เป็นหนังสือเล่มแรกที่ผมได้ทำขึ้น
-
11:44 - 11:47มันเรียกว่า "บิลลี่ ทวิตเตอร์
และปัญหาปลาวาฬสีน้ำเงินของเขา" -
11:47 - 11:49และมันเกี่ยวกับเด็ก
ที่ได้ปลาวาฬสีน้ำเงินมาเป็นสัตว์เลี้ยง -
11:49 - 11:50แต่มันเป็นการลงโทษ
-
11:50 - 11:53และมันทำให้ชีวิตเขาแย่
-
11:53 - 11:56มันถูกส่งมาถึงเขาภายในข้ามคืน
โดย "เฟดอัพ" (สุดเซ็ง) -
11:56 - 11:58(เสียงหัวเราะ)
-
11:58 - 12:00และเขาต้องเอามันไปโรงเรียนด้วย
-
12:00 - 12:01เขาอยู่ในซานฟรานซิสโก —
-
12:01 - 12:04ซึ่งเป็นเมืองที่เลี้ยงปลาวาฬสีน้ำเงินลำบากมาก
-
12:04 - 12:08มีภูเขามากมาย ที่พักอาศัยก็หรูหรา
-
12:08 - 12:11ตลาดนี้ก็วุ่นวาย คนก็ด้วย
-
12:11 - 12:15แต่ภายใต้เปลือกนั้นคือสิ่งนี้
-
12:15 - 12:19และนั่นคือปกที่อยู่ใต้ส่วนคลุมปก
-
12:19 - 12:20และมันก็มีโฆษณา
-
12:20 - 12:24ที่เสนอให้ทดลองแบบไม่มีเงื่อนไขฟรี 30 วัน
-
12:24 - 12:25สำหรับปลาวาฬสีน้ำเงิน
-
12:25 - 12:28และคุณสามารถแค่ส่งมัน
ในซองจดหมายที่ติดแสตมป์ จ่าหน้าถึงตัวเอง -
12:28 - 12:32และเราจะส่งปลาวาฬไปให้คุณ
-
12:32 - 12:37และเด็กๆ ก็เขียนมา
-
12:37 - 12:40และนี่คือจดหมาย มันบอกว่า "ถึงผู้รับ
-
12:40 - 12:43ผมขอพนันคุณด้วยเงิน 10 ดอลลาร์
คุณจะไม่มีทางส่งปลาวาฬสีน้ำเงินมาหรอก -
12:43 - 12:46อีเลียต แกนนอน (6 ขวบ)"
-
12:46 - 12:49(เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)
-
12:51 - 12:53ดังนั้น ที่อีเลียตและเด็กคนอื่นๆ
-
12:53 - 12:55ที่ส่งสิ่งนี้มา ได้กลับไป
-
12:55 - 12:58คือจดหมายที่มีตัวพิมพ์เล็กๆ
จากบริษัทกฎหมายของนอร์เวย์ — -
12:58 - 13:02(เสียงหัวเราะ) —
-
13:02 - 13:06ที่บอกว่า ด้วยเหตุที่มีการเปลี่ยนแปลง
กฎหมายภาษี -
13:06 - 13:08ปลาวาฬของพวกเขาถูกกักอยู่ที่โซเนียมฟัว
(Sognefjord) -
13:08 - 13:09ซึ่งเป็นฟยอร์จสุดสวย
-
13:09 - 13:11และจากนั้น
มันก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับโซเนียมฟัว -
13:11 - 13:13และอาหารนอร์เวย์นิดหน้อย
มันพล่ามนอกเรื่อง -
13:13 - 13:15(เสียงหัวเราะ)
-
13:17 - 13:19แต่จบลงด้วยการบอกว่า
-
13:19 - 13:21ปลาวาฬของคุณอยากได้ยินจากคุณ
-
13:21 - 13:23เขามีเบอร์โทรศัพท์
-
13:23 - 13:28คุณสามารถโทรไปฝากข้อความให้เขาได้
-
13:28 - 13:30และเมื่อคุณโทรไปและฝากข้อความ
-
13:30 - 13:32คุณแค่...ตอนจบของข้อความออก
-
13:32 - 13:37จะมีเสียงปลาวาฬและเสียงปี๊บ
-
13:37 - 13:41ซึ่งเสียงมันก็คล้ายๆ เสียงปลาวาฬ
-
13:41 - 13:43และพวกเขาก็ได้รูปปลาวาฬด้วย
-
13:43 - 13:45นี่คือรูดอล์ฟ
-
13:45 - 13:49และรูดอล์ฟเป็นของเด็กที่ชื่อว่านิโก้
-
13:49 - 13:53ผู้ซึ่งเป็นเด็กคนแรกๆ ที่โทรเข้ามา
-
13:53 - 13:55และผมจะเล่นเสียงข้อความบางส่วนของนิโก้
-
13:55 - 14:00นี่คือข้อความแรกที่ผมได้จากนิโก้
-
14:00 - 14:02(เสียง) นิโก้: สวัสดี นี่นิโก้นะ
-
14:02 - 14:06ฉันเป็นเจ้าของเธอ รูดอล์ฟ สวัสดี
-
14:06 - 14:09นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้คุยกับเธอ
-
14:09 - 14:16และฉันอาจได้คุยกับเธอวันอื่นอีกเร็วๆ นี้ บาย
-
14:16 - 14:18แม็ค บาร์นเน็ต: นิโก้โทรกลับมา อีกสักชั่วโมงต่อมา
-
14:18 - 14:20(เสียงหัวเราะ)
-
14:20 - 14:24และอีกข้อความหนึ่งของนิโก้
-
14:24 - 14:28(เสียง) นิโก้: สวัสดี รูดอล์ฟ นี่นิโก้นะ
-
14:28 - 14:33ฉันไม่ได้พูดกับเธอมานาน
-
14:33 - 14:38แต่ฉันพูดกับเธอวันเสาร์หรืออาทิตย์
-
14:38 - 14:40ใช่ วันเสาร์หรืออาทิตย์
-
14:40 - 14:43ฉันเลยโทรมาอีกที
-
14:43 - 14:48เพื่อบอกว่า สวัสดี และฉันสงสัยว่า
เธอกำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้ -
14:48 - 14:51ฉันจะโทรหาเธออีกนะ
-
14:51 - 14:53พรุ่งนี้ หรือวันนี้
-
14:53 - 14:57แล้วฉันจะพูดกับเธออีก บาย
-
14:57 - 15:01แม็ค: เขาทำอีกครับ เขาโทรมาอีกในวันนั้น
-
15:01 - 15:05เขาทิ้งข้อความไว้ 25 ข้อความสำหรับรูดอล์ฟ
-
15:05 - 15:08เป็นเวลาตลอดสี่ปี
-
15:08 - 15:10คุณรู้เรื่องของเขาทั้งหมด
-
15:10 - 15:12และเรื่องย่าที่เขารัก
-
15:12 - 15:14และยายที่เขารักน้อยกว่านิดนึง —
-
15:14 - 15:16(เสียงหัวเราะ) —
-
15:16 - 15:19และปริศนาอักษรไขว้ที่เขาทำ
-
15:19 - 15:23และนี่ — ผมจะเล่นข้อความจากนิโก้
ให้คุณฟังอีกอัน -
15:23 - 15:26นี่คือข้อความคริสมาสต์จากนิโก้
-
15:26 - 15:28[บี๊บ] (เสียง) นิโก้: สวัสดี รูดอล์ฟ
-
15:28 - 15:32ขอโทษนะที่ฉันไม่ได้คุยกับเธอตั้งนาน
-
15:32 - 15:34ก็แบบว่า ฉันยุ่งมากๆ
-
15:34 - 15:37เพราะว่าโรงเรียนเปิดแล้ว
-
15:37 - 15:40ซึ่งบางทีเธออาจจะไม่รู้
-
15:40 - 15:44เพราะเธอเป็นปลาวาฬ คงไม่รู้หรอก
-
15:44 - 15:48และฉันก็โทรมาหาเพื่อจะบอกว่า
-
15:48 - 15:52สุขสันต์วันคริสมาสนะ
-
15:52 - 15:57มีความสุขมากๆ
-
15:57 - 16:04และบ้ายบาย รูดอฟ ลาก่อน
-
16:04 - 16:05แม๊ต: อันที่จริงผมได้ติดต่อนิโก้
-
16:05 - 16:08ที่ผมไม่ได้ข่าวคราวมา 18 เดือน
-
16:08 - 16:12และผมก็เพิ่งฝากข้อความไว้สองวันก่อน
-
16:12 - 16:15เสียงของเขาต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
-
16:15 - 16:18แต่เขาให้พี่เลี้ยงเด็กของเขามาคุยโทรศัพท์
-
16:18 - 16:22และเธอก็เป็นมิตรกับรูดอล์ฟเช่นกัน
-
16:22 - 16:27นิโก้เป็นนักอ่านที่ดีที่สุด
ที่ผมฝากความหวังไว้ได้ -
16:27 - 16:30ผมอยากจะเขียนเพื่อใครสักคน
-
16:30 - 16:32ให้เขาคนนั้นอยู่ในที่ซึ่งเขามีอารมณ์ร่วม
-
16:32 - 16:35ไปกับสิ่งที่ผมสร้างขึ้นมา
-
16:35 - 16:38ผมรู้สึกโชคดี เด็กๆ อย่าง นิโก้
เป็นนักอ่านที่ยอดเยี่ยม -
16:38 - 16:42และพวกเขาสมควรที่จะได้นิทานที่ดีทีสุด
ที่เราจะให้กับพวกเขาได้ -
16:42 - 16:44ขอบคุณมากๆ ครับ
-
16:44 - 16:47(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ทำไมหนังสือที่ดีจึงเป็นดั่งประตูลับ
- Speaker:
- แม็ค บาร์นเน็ต (Mac Barnett)
- Description:
-
วัยเด็กเป็นอะไรที่เหนือความจริง แล้วทำไมหนังสือเด็กจะเป็นแบบนั้นบ้างไม่ได้ ในการบรรยายที่แสนแปลกประหลาด นักเขียนเจ้าของรางวัล แม็ค บาร์นเน็ต พูดเกี่ยวกับการเขียนที่หลบหนีออกจากหน้าการะดาษ ศิลป์ที่เป็นดั่งประตูสู่ความอัศจรรย์ -- และเด็กๆ พูดกับปลาวาฬในนิยายว่าอย่างไร
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 16:59
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for Why a good book is a secret door | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Why a good book is a secret door | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Why a good book is a secret door | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Why a good book is a secret door | ||
Patarapen Manorompatrasal accepted Thai subtitles for Why a good book is a secret door | ||
Patarapen Manorompatrasal edited Thai subtitles for Why a good book is a secret door | ||
Patarapen Manorompatrasal edited Thai subtitles for Why a good book is a secret door | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Why a good book is a secret door |