ระวังให้ดี เพื่อน ๆ อภิมหาเศรษฐีทั้งหลาย คราดจากชาวนากำลังมา
-
0:01 - 0:04คุณอาจจะไม่รู้จักผมก็ได้
-
0:04 - 0:07แต่ผมเป็นหนึ่งใน .01 เปอร์เซ็นต์
-
0:07 - 0:09ของพวกที่คุณได้ยินหรืออ่านเรื่องราวมา
-
0:09 - 0:13และโดยนิยามที่สมเหตุผล ผมเป็นอภิมหาเศรษฐี
-
0:13 - 0:16และคืนนี้ สิ่งที่ผมต้องการทำ คือ พูดตรงถึง
-
0:16 - 0:18อภิมหาเศรษฐีคนอื่น ๆ คือพูดกับพวกผมนั่นแหละ
-
0:18 - 0:21เพราะเหมือนกับว่า ถึงเวลาที่พวกเราทุกคน
-
0:21 - 0:23จะต้องมาคุยกันแล้ว
-
0:23 - 0:26เช่นเดียวกับอภิมหาเศรษฐีคนอื่น ๆ
-
0:26 - 0:28ผมก็เป็นนักทุนนิยมที่หยิ่ง
ที่ไม่เคยรู้สึกเสียใจ -
0:28 - 0:32ผมได้ก่อตั้ง ร่วมก่อตั้ง หรือให้ทุน
-
0:32 - 0:35กับมากกว่า 30 บริษัท ในอุตสาหกรรมหลายอย่าง
-
0:35 - 0:39ผมเป็นนักลงทุนนอกครอบครัวคนแรกใน Amazon.com
-
0:39 - 0:42ผมร่วมก่อตั้งบริษัทชื่อ เอควอนทีฟ
-
0:42 - 0:45ซึ่งขายให้ไมโครซอพท์
ไปในราคา 6.4 พันล้านเหรียญ -
0:45 - 0:48เพื่อนผม และตัวผม เราเป็นเจ้าของธนาคาร
-
0:48 - 0:51ผมบอกคุณเรื่องนี้ --(เสียงหัวเราะ)--
-
0:51 - 0:52ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ
-
0:52 - 0:55ผมบอกคุณเรื่องนี้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า
-
0:55 - 0:58ชีวิตผม ก็เหมือนกับอภิมหาเศรษฐีส่วนใหญ่
-
0:58 - 1:01ผมมีมุมมองที่กว้างขวาง ในเรื่องระบบทุนนิยม
-
1:01 - 1:03และธุรกิจ
-
1:03 - 1:07ผมได้รางวัลอย่างที่เรียกได้ว่าบ้าคลั่ง
จากสิ่งนั้น -
1:07 - 1:09ผมมีชีวิตที่ท่านทั้งหลายส่วนใหญ่
-
1:09 - 1:11ไม่สามารถแม้แต่จะจิตนาการได้
-
1:11 - 1:14บ้านหลายหลัง เรือยอร์ช เครื่องบินส่วนตัว
-
1:14 - 1:18และอื่น ๆ อีกมากมาย
-
1:18 - 1:22แต่พูดกันตรง ๆ ผมไม่ได้เป็นคนฉลาดที่สุด
ที่คุณเคยพบ -
1:22 - 1:24ที่แน่ ๆ ผมก็ไม่ได้เป็นคนที่ทำงานหนักที่สุด
-
1:24 - 1:26ผมเป็นนักเรียนระดับปานกลาง
-
1:26 - 1:27ผมไม่ได้เชี่ยวชาญอะไรเลย
-
1:27 - 1:30ผมไม่สามารถเขียนโปรแกรมง่าย ๆ ได้
-
1:30 - 1:33โดยแท้จริงแล้ว ความสำเร็จของผม เป็นผล
-
1:33 - 1:35ของโชคอันใหญ่หลวง
-
1:35 - 1:40ที่ได้เกิดในที่ดี ที่ได้อยู่สภาพแวดล้อมเหมาะสม ในเวลาที่ลงตัว
-
1:40 - 1:45แต่จริง ๆ แล้ว ผมก็เก่งมากในสองเรื่อง
-
1:45 - 1:49หนึ่ง ผมรับความเสี่ยงได้สูงเป็นพิเศษ
-
1:49 - 1:52และอีกอย่างหนึ่ง คือผมรู้สึกได้ไว
-
1:52 - 1:54มีลางสังหรณ์ดี ต่อเรื่องที่จะเกิดในอนาคต
-
1:54 - 1:58และผมคิดว่าลางสังหรณ์เกี่ยวกับ
เรื่องในอนาคตนั้น -
1:58 - 2:01เป็นปัจจัยสำคัญของผู้ประกอบการที่ดี
-
2:01 - 2:04แล้วผมเห็นอะไรในอนาคตของเราในวันนี้หรือ
-
2:04 - 2:06คุณจะถามใช่ไหมครับ
-
2:06 - 2:07ผมเห็นคราดของชาวไร่ชาวนา
(Pitchfork) -
2:07 - 2:12อย่างเช่น ที่ฝูงชนคนซึ่งกำลังโกรธเกรี้ยว
เขาถือกัน -
2:12 - 2:17เพราะในขณะที่อภิมหาเศรษฐี อย่างพวกเรา
-
2:17 - 2:21กำลังใช้ชีวิตเกินกว่าความฝันของผู้คน
-
2:21 - 2:24เพื่อนประชากรของเราอีก 99 เปอร์เซ็นต์
-
2:24 - 2:27กำลังถอยห่างไปอยู่ข้างหลัง
และห่างไกลไปเรื่อย ๆ -
2:27 - 2:29ในปี 1980 หนึ่งเปอร์เซ็นต์บนสุด
ของคนอเมริกัน -
2:29 - 2:32มีส่วนแบ่งราวแปดเปอร์เซ็นต์
ของรายได้ประชาชาติ -
2:32 - 2:34ขณะที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของคนอเมริกันด้านล่าง
-
2:34 - 2:37มีส่วนแบ่ง 18 เปอร์เซ็นต์
-
2:37 - 2:40แต่สามสิบปีถัดมา ซึ่งคือวันนี้
หนึ่งเปอร์เซ็นต์ส่วนบนสุดนั้น -
2:40 - 2:44กลับมีส่วนแบ่งเกินกว่า 20
เปอร์เซ็นต์ -
2:44 - 2:46ในขณะที่ส่วนล่าง 50 เปอร์เซ็นต์
-
2:46 - 2:49มีส่วนแบ่ง 12 หรือไม่ก็ 13 เปอร์เซ็นต์
-
2:49 - 2:51ถ้าแนวโน้มยังคงเป็นอยู่อย่างนี้
-
2:51 - 2:52พวกคนส่วนบนสุดหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ก็จะมีส่วนแบ่ง
-
2:52 - 2:55เกินกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ประชาชาติ
-
2:55 - 2:57ในอีก 30 ปี
-
2:57 - 2:59ขณะที่ส่วนล่าง 50 เปอร์เซ็นต์ของคนอเมริกัน
-
2:59 - 3:01จะมีส่วนแบ่งเพียงแค่หกเปอร์เซ็นต์
-
3:01 - 3:03เห็นไหมครับ ปัญหานั้นไม่ใด้เกี่ยวกับว่า
-
3:03 - 3:05เรามีความไม่เท่าเทียมกันอยู่บ้างเล็กน้อย
-
3:05 - 3:07ความไม่เท่าเทียมกันบ้างเล็กน้อยนั้น
-
3:07 - 3:10เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับทุนนิยมประชาธิปไตย
ที่มีประสิทธิภาพสูง -
3:10 - 3:12แต่ปัญหาคือ ความไม่เท่าเทียมกันนั้น
-
3:12 - 3:16กำลังอยู่ ณ จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์
-
3:16 - 3:19และมันก็แย่ลงทุกวัน
-
3:19 - 3:22และถ้าหากความรํ่ารวย อำนาจ และ รายได้นั้น
-
3:22 - 3:23ยังคงกระจุกตัว
-
3:23 - 3:26อยู่ที่ส่วนยอดสุด
-
3:26 - 3:28สังคมของเราก็จะเปลี่ยนจาก
-
3:28 - 3:29ประชาธิปไตยแบบทุนนิยม ไปเป็น
-
3:29 - 3:33สังคมเจ้าขุนมูลนายยุคใหม่
-
3:33 - 3:35เหมือนเช่นฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18
-
3:35 - 3:38นั่นคือฝรั่งเศสในอดีต
-
3:38 - 3:40ก่อนเกิดการปฏิวัติ
-
3:40 - 3:42ที่มาพร้อมกับฝูงชนที่โกรธกริ้วพร้อมและคราด
-
3:42 - 3:45ผมจึงมีข้อความส่งถึงเพื่อนอภิมหาเศรษฐี
-
3:45 - 3:46และอภิมหึมามหาเศรษฐีทั้งหลาย
-
3:46 - 3:48และสำหรับใครก็ตามที่ใช้ชีวิต
-
3:48 - 3:50ในโลกฟองสบู่ที่มีรั้วล้อมรอบอยู่นั้น
-
3:50 - 3:51จงตื่นขึ้น
-
3:51 - 3:55ตื่นขึ้นเถิด สภาวะเช่นนี้มันอยู่ได้ไม่นาน
-
3:55 - 3:57เพราะถ้าเราไม่ทำอะไรบางอย่าง เพื่อแก้ไข
-
3:57 - 4:01ความไม่เท่าเทียมที่เห็นชัดเจนในสังคมของเรา
-
4:01 - 4:04คราดนั้นก็จะหันมาหาเรา
-
4:04 - 4:08เพราะไม่มีสังคมเปิดแบบเสรีใด ๆ
จะทนอยู่ได้นานกับ -
4:08 - 4:11ความไม่สมดุลย์ทางเศรษฐกิจ
ที่พุ่งสูงแบบนี้ได้ -
4:11 - 4:14มันไม่เคยเกิดขึ้น และไม่มีตัวอย่างมาก่อน
-
4:14 - 4:16คุณให้ผมดูสังคมที่มีความแตกต่างกันสูง
-
4:16 - 4:17แล้วผมก็จะให้คุณดู รัฐตำรวจ
-
4:17 - 4:19หรือไม่ก็ การจลาจล
-
4:19 - 4:21คราดจะตรงมาหาเรา
-
4:21 - 4:23ถ้าเราไม่ตระหนักถึงปัญหานี้
-
4:23 - 4:27คำถามนั้นไม่ใช่ว่ามันจะเกิดหรือไม่ แต่เป็น เมื่อไหร่
-
4:27 - 4:31และมันจะเลวร้ายมาก เมื่อมันเกิดขึ้น
-
4:31 - 4:32กับทุกคน
-
4:32 - 4:37โดยเฉพาะคนอย่างพวกเรา อภิมหาเศรษฐี
-
4:37 - 4:41ผมรู้ตัวว่าเรื่องของของผมฟังดูราวกับ
ผมเป็นนักเสรีนิยมโลกสวย -
4:41 - 4:43ผมไม่ใช่เป็นอย่างนั้น
ผมไม่ได้ถกเถียงเรื่องศีลธรรม -
4:43 - 4:46ว่าความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจนั้นผิด
-
4:46 - 4:50สิ่งที่ผมถกเถียง คือ ความไม่เท่าเทียมที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
-
4:50 - 4:54เป็นความโง่เขลา และสุดท้ายก็จะทำร้ายตัวเอง
-
4:54 - 4:57ความไม่เท่าเทียมที่สูงขึ้น ไม่ได้แค่เพียง
-
4:57 - 4:59เพิ่มความเสี่ยงของเราจากคราด
-
4:59 - 5:04แต่มันยังเป็นอันตรายต่อธุรกิจอีกด้วย
-
5:04 - 5:07ต้นแบบสำหรับเรา คนรวย ควรเป็นเฮนรี ฟอร์ด
-
5:07 - 5:11เรารู้กันว่าฟอร์ดให้ค่าแรง 5 ดอลลาร์ ต่อวัน
-
5:11 - 5:14ซึ่งเป็นสองเท่าของค่าแรงทั่วไปในเวลานั้น
-
5:14 - 5:16เขาไม่ได้เพียงเพิ่มผลผลิต
-
5:16 - 5:18ของโรงงานของเขา แต่เขาได้เปลี่ยน
-
5:18 - 5:22คนงานผลิตรถยนต์ที่ถูกเอาเปรียบ ที่ยากจน
-
5:22 - 5:24ให้กลายเป็นคนชั้นกลางที่มีกินมีใช้
-
5:24 - 5:28มีปัญญาซื้อผลิตภัณฑ์
ที่พวกเขาผลิตขึ้นเองได้ -
5:28 - 5:32ฟอร์ดหยั่งรู้สิ่งที่เราเพิ่งจะตระหนักว่ามันเป็นจริง
-
5:32 - 5:36ที่จะต้องมองเศรษฐกิจให้เป็นระบบนิเวศน์
-
5:36 - 5:38ซึ่งมีลักษณะพิเศษแบบเดียวกับ
-
5:38 - 5:40ระบบป้อนกลับ (Feedback loops)
ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไป -
5:40 - 5:42ในระบบนิเวศน์ตามธรรมชาติ
-
5:42 - 5:46เป็นระบบป้อนกลับ
ระหว่าง ลูกค้าและธุรกิจ -
5:46 - 5:49การขึ้นค่าจ้างเป็นการเพิ่มอุปสงค์
-
5:49 - 5:51ซึ่งจะทำให้มีการจ้างงานมากขึ้น
-
5:51 - 5:53ซึ่งจะย้อนกลับมายัง ค่าจ้างที่สูงขึ้น
-
5:53 - 5:56อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น และกำไรที่เพิ่มขึ้น
-
5:56 - 6:01ซึ่งวงจรการเพิ่มความมั่งคั่งอย่างสร้างสรรนี้
-
6:01 - 6:03ชัดเจนแล้วว่า เป็นสิ่งที่ขาดหายไป
-
6:03 - 6:08จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของทุกวันนี้
-
6:08 - 6:13และนี่เป็นเหตุผลที่เราจะต้อง
-
6:13 - 6:16ลดความสำคัญของนโยบาย
ที่กวาดผลประโยชน์ลงไปให้คนจำนวนหยิบมือ -
6:16 - 6:18ซึ่งมีอิทธิพลกับทั้งสองพรรคการเมืองมาก
-
6:18 - 6:21แล้วไปโอบอุ้มสิ่งที่ผมเรียกว่า
-
6:21 - 6:24เศรษศาสตร์แบบมิดเดิลเอ้าท์ ซึ่งปฏิเสธ
-
6:24 - 6:26แนวคิดแบบนีโอคลาสสิค ที่ว่า เศรษฐกิจนั้น
-
6:26 - 6:30มีประสิทธิภาพ มีความสัมพันธ์เชิงเส้น เป็นกลไกแน่นอน
-
6:30 - 6:34และโน้มไปสู่ความสมดุลย์และความเป็นธรรม
-
6:34 - 6:37แต่หันไปรับเอาแนวคิดของศตวรรษที่ 21
-
6:37 - 6:41ที่ว่าเศรษฐกิจนั้น ซับซ้อน ปรับตัวได้
-
6:41 - 6:43เป็นระบบนิเวศน์
-
6:43 - 6:46ซึ่งโน้มเอียงจากความสมดุลย์
ไปสู่ความไม่เท่าเทียม -
6:46 - 6:48ที่ว่าเศรษฐกิจ ไม่มีประสิทธิภาพเลย
-
6:48 - 6:51แต่ก็มีประสิทธิผลได้ ถ้าจัดการให้ดี
-
6:51 - 6:54มุมมองของศตวรรษที่ 21 นี้
-
6:54 - 6:57ทำให้คุณเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ระบบทุนนิยม
-
6:57 - 7:00ไม่ได้จัดสรรทรัพยากรต่างๆ ที่มีอยู่
-
7:00 - 7:03อย่างมีประสิทธิภาพ
-
7:03 - 7:09มันทำงานโดยการสร้างคำตอบใหม่ ๆ ขึ้นมา
-
7:09 - 7:10ให้กับปัญหาของมนุษย์
-
7:10 - 7:12อัจฉริยภาพของระบบทุนนิยม ก็คือ
-
7:12 - 7:17มันเป็นระบบการหาวิธีแก้ปัญหาที่มีวิวัฒนาการ
-
7:17 - 7:23มันให้รางวัลกับคนที่แก้ปัญหาให้กับคนอื่น ๆ
-
7:23 - 7:26ความแตกต่างระหว่างสังคมที่ยากจน
-
7:26 - 7:28กับสังคมที่รํ่ารวย ที่เห็นได้อย่างชัดเจน
-
7:28 - 7:31ก็คือ ระดับขั้นที่สังคมนั้น
-
7:31 - 7:33ได้สร้างวิธีแก้ปัญหา ในรูปแบบ
-
7:33 - 7:36ของผลิตภัณฑ์ ให้กับประชากรของชุมชนนั้น
-
7:36 - 7:38ผลรวมของการแก้ปัญหา
-
7:38 - 7:40ที่เรามีอยู่ในสังคมของเรา
-
7:40 - 7:42แท้จริง คือ ความมั่งคั่งของเรา และสิ่งนี้
-
7:42 - 7:45อธิบายได้ว่าทำไมบริษัทเช่น กูเกิล อเมซอน
-
7:45 - 7:47ไมโครซอฟ และ แอปเปิล
-
7:47 - 7:50และนักลงทุน ที่สร้างบริษัทเหล่านั้น
-
7:50 - 7:53ได้มีส่วนช่วยอย่างมาก
-
7:53 - 7:56ให้กับความมั่งคั่งของชาติเรา
-
7:56 - 7:59มุมมองของศตวรรษที่ 21 นี้
-
7:59 - 8:02ยังทำให้เห็นชัดเจนอีกด้วยว่า
-
8:02 - 8:04สิ่งที่เราคิดว่าเป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
-
8:04 - 8:06ถ้าจะทำให้เข้าใจได้ดีที่สุดนั้น
ก็เป็นเหมือนกับ -
8:06 - 8:08อัตราความเร็วที่เราใช้ในการแก้ปัญหา
-
8:08 - 8:12แต่อัตราเร็วที่ว่านั้น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ
-
8:12 - 8:15เรามีคนแก้ปัญหาที่หลากหลาย
-
8:15 - 8:18และมีความสามารถ แค่ไหน
-
8:18 - 8:21และประชาชนทั่วไป ได้มีส่วนร่วม
-
8:21 - 8:23อย่างจริงจัง มากแค่ไหน
-
8:23 - 8:27ทั้งที่เป็นผู้ประกอบการ ที่เสนอการแก้ปัญหา
-
8:27 - 8:30และที่เป็นลูกค้า ซึ่งได้ประโยชน์
จากการแก้ปัญหาเหล่านั้น -
8:30 - 8:34แต่การมีส่วนร่วมอย่างเต็มกำลังนี้
-
8:34 - 8:36ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
-
8:36 - 8:38ไม่ได้เกิดขึ้นเอง
-
8:38 - 8:42แต่ต้องใช้ความพยายามและการลงทุนลงแรง
-
8:42 - 8:44ซึ่งเป็นสาเหตุว่า ทำไมเหล่าเขตเศรษฐกิจ
-
8:44 - 8:47ที่เป็นประชาธิปไตยแบบทุนนิยม
ซึ่งมีความมั่งคั่งสูงนั้น -
8:47 - 8:50มีคุณลักษณะพิเศษ คือการลงทุนขนานใหญ่
-
8:50 - 8:52ในกลุ่มชนชั้นกลาง และในโครงสร้างพื้นฐาน
-
8:52 - 8:55ที่พวกเขาต้องพึ่งพาอยู่
-
8:55 - 8:57พวกเรา อภิมหาเศรษฐี
จำเป็นต้องเอาวิถีเศรษฐกิจ -
8:57 - 9:00ที่ผลประโยชน์หลั่งไหลสู่คนหยิบมือนี้ ไปไว้ข้างหลัง
-
9:00 - 9:02ความคิดที่ว่า ยิ่งเราดีขึ้นมากเท่าใด
-
9:02 - 9:05คนอื่นก็จะดีขึ้นด้วยเช่นกันนั้น
-
9:05 - 9:09มันไม่เป็นความจริง มันจะเป็นไปได้อย่างไร
-
9:09 - 9:13ผมหาเงินได้เป็นพันเท่าของค่าแรงโดยเฉลี่ย
-
9:13 - 9:16แต่ผมก็ไม่ได้ซื้อของ มากถึงพันเท่า
-
9:16 - 9:17ใช่ไหมครับ
-
9:17 - 9:20จริง ๆ ผมซื้อกางเกงพวกนี้สองตัว
-
9:20 - 9:22ซึ่ง ไมค์ หุ้นส่วนของผม เรียกมันว่า
-
9:22 - 9:24กางเกงผู้จัดการ
-
9:24 - 9:27ผมอาจจะซื้อกางเกง 2,000 ตัวก็ได้
-
9:27 - 9:30แต่ผมจะเอามันไปทำอะไรครับ (เสียงหัวเราะ)
-
9:30 - 9:33ผมจะตัดผมได้สักกี่ครั้งกัน
-
9:33 - 9:36ผมจะไปทานอาหารเย็นนอกบ้าน
ได้บ่อยแค่ไหนกัน -
9:36 - 9:40ไม่ว่าอภิมหาเศรษฐีซึ่งมีจำนวนน้อย
จะรวยขนาดไหน -
9:40 - 9:44ก็ไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติ
ไปได้มากกว่านี้ -
9:44 - 9:50คนชั้นกลางที่มีกินมีใช้เท่านั้น ที่จะทำได้
-
9:50 - 9:51เช่นนั้น
ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องทำเลยงั้นสิ -
9:51 - 9:56เพื่อนอภิมหาเศรษฐีของผม อาจพูดอย่างนั้น
-
9:56 - 9:59เฮนรี ฟอร์ด อยู่ในยุคสมัยที่ต่างออกไป
-
9:59 - 10:01บางที เราก็ไม่สามารถทำอะไรได้
-
10:01 - 10:04บางที เราก็สามารถทำอะไรบางอย่างได้
-
10:04 - 10:08วันที่ 19 มิถุนายน 2013
-
10:08 - 10:11บลูมเบิร์ก เผยแพร่บทความที่ผมเขียน เรื่อง
-
10:11 - 10:16"กรณีนักทุนนิยมกับค่าแรงขั้นตํ่า 15 ดอลลาร์"
-
10:16 - 10:19หลาย ๆ คนที่นิตยสารฟอร์บ
-
10:19 - 10:21ในหมู่ผู้ที่นิยมชมชอบผมมากที่สุด เรียกมันว่า
-
10:21 - 10:26"ข้อเสนอที่ใกล้จะเพี้ยนของ นิก เฮนัวเออร์"
-
10:26 - 10:29แต่แล้ว แค่เพียง 350 วัน
-
10:29 - 10:32หลังจากที่บทความถูกตีพิมพ์
-
10:32 - 10:35ผู้ว่าการเมืองซีแอทเทิล เอ็ด เมอร์เรย์ ก็ได้ลงนาม
-
10:35 - 10:39เพิ่มค่าแรงขั้นตํ่าในซีแอทเทิล
-
10:39 - 10:40เป็น 15 ดอลลาร์ ต่อชั่วโมง
-
10:40 - 10:42ซึ่งสูงกว่าสองเท่า
-
10:42 - 10:46ของอัตราค่าแรงขั้นต่ำของประเทศที่ 7.25 ดอลลาร์
-
10:46 - 10:48สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
-
10:48 - 10:50คนที่มีเหตุผลอาจสงสัย
-
10:50 - 10:52มันเกิดขึ้นได้เพราะ กลุ่มคนของเรา
-
10:52 - 10:53ได้เตือนคนชั้นกลางว่า
-
10:53 - 10:55พวกเขาเป็นต้นกำเนิดของการเติบโต
-
10:55 - 10:59และความมั่งคั่ง ในเศรษฐกิจแบบทุนนิยม
-
10:59 - 11:02เราเตือนพวกเขาว่า เมื่อคนงานมีเงินมากขึ้น
-
11:02 - 11:04ธุรกิจก็จะมีลูกค้ามากขึ้น
-
11:04 - 11:06และจำเป็นต้องจ้างงานมากขึ้น
-
11:06 - 11:08เราได้เตือนพวกเขาว่า เมื่อธุรกิจ
-
11:08 - 11:11จ่ายค่าจ้างให้คนงานดำรงชีพได้อย่างเพียงพอ
-
11:11 - 11:13ผู้เสียภาษีก็ไม่ต้องรับภาระ
-
11:13 - 11:15ในการอุดหนุนโครงการ
แก้ปัญหาความยากจน -
11:15 - 11:18เช่น การแจกอาหาร
การช่วยเหลือทางการแพทย์ -
11:18 - 11:19และการสนับสนุนค่าเช่าบ้าน
-
11:19 - 11:22ซึ่งคนงานเหล่านั้นจำเป็นต้องได้รับ
-
11:22 - 11:25เราได้เตือนพวกเขาว่า คนงานที่ได้ค่าแรงตํ่า
-
11:25 - 11:27ก็จะจ่ายภาษีน้อย
-
11:27 - 11:29และเตือนว่า เมื่อคุณยกค่าแรงขั้นตํ่าขึ้นมา
-
11:29 - 11:31ทั่วทั้งองค์กรธุรกิจทั้งหมด
-
11:31 - 11:33สุดท้ายธุรกิจเองก็จะได้กำไร
-
11:33 - 11:36และยังสามารถแข่งขันได้
-
11:36 - 11:37แต่แรงต้านจากกลุ่มหัวโบราณ ก็มีอยู่
-
11:37 - 11:41เช่นว่า ถ้าขึ้นค่าแรงขั้นตํ่า
ตําแหน่งงานก็จะลดลง ไม่ใช่รึ -
11:41 - 11:44รวมไปถึงเหล่านักการเมือง
-
11:44 - 11:47ที่ชอบตอกย้ำแนวคิดเรื่องผลประโยชน์
ไหลรินไปหาคนหยิบมือ ก็จะบอกว่า -
11:47 - 11:49"เอาซิ ถ้าคุณเพิ่มต้นทุนค่าจ้างแรงงาน
-
11:49 - 11:52แล้วจะเป็นยังไงล่ะ คุณก็จะเหลือกำไรน้อยลง"
-
11:52 - 11:54แต่ คุณแน่ใจอย่างนั้นจริงหรือ
-
11:54 - 11:58เพราะว่ามีหลักฐานบางอย่างที่ขัดแย้งกันอยู่
-
11:58 - 12:03นับจาก 1980 เป็นต้นมา
ค่าจ้างซีอีโอในประเทศเรา -
12:03 - 12:05พุ่งสูงขึ้นจากราว 30 เท่าของค่าจ้างเฉลี่ย
-
12:05 - 12:07มาอยู่ที่ 500 เท่า
-
12:07 - 12:10นั่นเป็นการขึ้นราคาของการจ้างงาน
-
12:10 - 12:13แต่แล้ว เท่าที่ผมรู้
-
12:13 - 12:15ผมไม่เคยเห็นบริษัทไหน
-
12:15 - 12:19ใช้บริการซีอีโอต่อจากบริษัทอื่น
หรือใช้ระบบอัตโนมัติให้ทำงานสำคัญ ๆ หรือ -
12:19 - 12:21ส่งออกตําแหน่งงานไปยังประเทศจีน
-
12:21 - 12:23จริง ๆ แล้ว เรากำลังจ้าง
-
12:23 - 12:27ซีอีโอ และผู้บริหารระดับสูง
มากเป็นประวัติการ -
12:27 - 12:31คนทำงานด้านเทคโนโลยี ก็ไม่ต่างกัน
-
12:31 - 12:33รวมถึงคนทำงานภาคการเงิน
-
12:33 - 12:35พวกเขาได้ค่าจ้างเป็นทวีคูณของค่าแรงเฉลี่ย
-
12:35 - 12:37แต่เราก็จ้างพวกเขามากขึ้นและมากขึ้น
-
12:37 - 12:42จึงชัดเจนว่า คุณสามารถขึ้นค่าจ้างได้
-
12:42 - 12:44และก็จะได้ประโยชน์มากขึ้น
จากการขึ้นค่าจ้างนั้น -
12:44 - 12:47ผมทราบว่า คนส่วนใหญ่นั้น
-
12:47 - 12:48คิดว่าค่าแรงขั้นตํ่า 15 ดอลลาร์
-
12:48 - 12:52เป็นการทดลองทางเศรษฐกิจ ที่เพี้ยนและสุ่มเสี่ยง
-
12:52 - 12:54ซึ่งเราเห็นต่างไป
-
12:54 - 12:57เราเชื่อว่า ค่าแรงขั้นตํ่า 15 ดอลลาร์
-
12:57 - 12:58อย่างที่เมืองซีแอตเติลนั้น
-
12:58 - 13:00แท้จริงเป็นการดำเนินอย่างการต่อเนื่อง
-
13:00 - 13:03ของนโยบายเศรษฐกิจที่สมเหตุผล
-
13:03 - 13:04มันกำลังทำให้เมืองของเรา
-
13:04 - 13:07สามารถเอาชนะเมืองของคุณได้
-
13:07 - 13:09เพราะว่า คุณเห็นไหม
-
13:09 - 13:11รัฐวอชิงตันนั้นมี
-
13:11 - 13:12ค่าแรงขั้นตํ่า สูงที่สุด
-
13:12 - 13:14ในบรรดารัฐทั้งหลายในประเทศ
-
13:14 - 13:16เราให้คนงานทุกคน 9.32 ดอลลาร์
-
13:16 - 13:18ซึ่งเกือบจะมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์
-
13:18 - 13:21ของค่าแรงขั้นตํ่า 7.25 ของประเทศ
-
13:21 - 13:24แต่ที่สำคัญ นั่นมากกว่า 427 เปอร์เซ็นต์ของ
-
13:24 - 13:28ค่าแรงขั้นตํ่าระดับที่ต่ำสุดของประเทศ
สำหรับงานที่ได้ทิป นั่นคือ 2.13 ดอลลาร์ -
13:28 - 13:31ถ้าผู้ที่ยึดถือแนวคิด
ผลประโยชน์ไหลรินนั้นคิดถูก -
13:31 - 13:34รัฐวอชิงตันก็ควรจะมีการว่างงานเป็นจำนวนมาก
-
13:34 - 13:36ซีแอตเติลก็ควรจะลื่นไถลลงสู่มหาสมุทรแล้ว
-
13:36 - 13:40แต่แล้ว ซีแอตเติล
-
13:40 - 13:43เป็นเมืองใหญ่ในประเทศที่เติบโตเร็วที่สุด
-
13:43 - 13:48รัฐวอชิงตันกำลังสร้างงานในธุรกิจขนาดเล็ก
-
13:48 - 13:50ในอัตราที่สูงกว่ารัฐใหญ่อื่น ๆ
-
13:50 - 13:52ในประเทศ
-
13:52 - 13:56ธุรกิจภัตตาคารในซีแอตเติล
กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว -
13:56 - 14:00ทำไมหรือ เพราะกฎพื้นฐานของระบบทุนนิยม คือ
-
14:00 - 14:02เมื่อคนทำงานได้เงินมากขึ้น
-
14:02 - 14:03ธุรกิจมีลูกค้ามากขึ้น
-
14:03 - 14:06ก็ต้องการคนงานมากขึ้น
-
14:06 - 14:09เมื่อภัตตาคารจ่ายให้คนทำงานมากพอ
-
14:09 - 14:12คนทำงานเองก็จะมีเงินพอ
ที่จะไปทานอาหารตามภัตตาคารได้ -
14:12 - 14:15ซึ่งดูใช้ได้เลย สำหรับธุรกิจภัตตาคาร
-
14:15 - 14:17มันดีสำหรับธุรกิจภัตตาคาร
-
14:17 - 14:21แต่กระนั้น บางภัตตาคารก็อาจจะมีคำถามว่า
-
14:21 - 14:23มันซับซ้อนเกินกว่าที่ฉันจะทำได้หรือเปล่า
-
14:23 - 14:24ใช่ครับ มันไม่ง่าย
-
14:24 - 14:26มันมีพลวัตมากมายที่ต้องตามให้ทัน
-
14:26 - 14:29แต่ ได้โปรดหยุดต่อต้านโดยความเชื่อที่ว่า
-
14:29 - 14:31ถ้าคนงานค่าแรงตํ่า มีรายได้เพิ่มอีกสักนิด
-
14:31 - 14:33การว่างงานจะพุ่งขึ้นราวกับจรวด
-
14:33 - 14:34และเศรษฐกิจก็จะล้มครืนลงมา
-
14:34 - 14:37มันไม่มีหลักฐานในเรื่องนั้น
-
14:37 - 14:38มันเป็นความเชื่อผิด ๆ
ตาม ๆ กันมา -
14:38 - 14:40เกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ไหลริน
-
14:40 - 14:42ที่ว่า ถ้าคนรวยรวยขึ้น
-
14:42 - 14:44แล้วทุกคนก็จะรวยขึ้นด้วย
-
14:44 - 14:47มันเป็นคำกล่าวอ้างที่ถูกสร้างขึ้นมาโดย
-
14:47 - 14:49พวกที่ต่อต้านการขึ้นค่าแรงขั้นตํ่า
-
14:49 - 14:51ที่กล่าวว่า ถ้าคนจนรวยขึ้นแล้ว
-
14:51 - 14:53จะไม่ดีต่อเศรษฐกิจ
-
14:53 - 14:55เรื่องนี้ไร้สาระ
-
14:55 - 14:59ดังนั้น วาทะกรรมเช่นนี้
ควรถูกลบล้างไปดีกว่าไหม -
14:59 - 15:01วาทะกรรมที่ว่า คนรํ่ารวยอย่างผม
-
15:01 - 15:04และเพื่อนอภิมหาเศรษฐีของผม
-
15:04 - 15:06เป็นผู้สร้างประเทศนี้ขึ้นมา
-
15:06 - 15:08พวกเรา อภิมหาเศรษฐี รู้ว่า
-
15:08 - 15:10แม้เราไม่อยากจะยอมรับต่อสาธารณชน
-
15:10 - 15:13ว่าหากเราได้เกิดมาในที่อื่น ๆ
-
15:13 - 15:15ไม่ใช่ที่นี่ ในสหรัฐอเมริกา
-
15:15 - 15:18เราก็อาจจะเป็นแค่เพียง คนเท้าเปล่า
-
15:18 - 15:21อยู่ข้างทางลูกรัง ขายผลไม้
-
15:21 - 15:23มันไม่ใช่ว่า ที่อื่น ๆ ในโลก
จะไม่มีผู้ประกอบการเก่ง ๆ -
15:23 - 15:25แม้กระทั่งพื้นที่ที่ผู้คนยากจนมาก ๆ
-
15:25 - 15:27ใจความมันมีอยู่เพียงว่า
-
15:27 - 15:31ลูกค้าของผู้ประกอบการเหล่านั้น
ต้องมีกำลังในการใช้จ่าย -
15:31 - 15:36ดังนั้น ความคิดนี้จึงเป็น
-
15:36 - 15:37เศรษฐศาสตร์แบบใหม่ การเมืองแบบใหม่
-
15:37 - 15:40ที่ผมเรียกว่า ระบบทุนนิยมใหม่
-
15:40 - 15:43ขอให้เราตระหนักไว้เถิดว่า ระบบทุนนิยมนั้น
-
15:43 - 15:45ชนะทางเลือกอื่น ๆ
-
15:45 - 15:49และหากมีผู้คนมาอยู่ร่วมในระบบนี้มากขึ้น
-
15:49 - 15:52ทั้งที่เป็นผู้ประกอบการ และที่เป็นลูกค้า
-
15:52 - 15:54ระบบนี้ก็จะให้ผลที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
-
15:54 - 15:58ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ของรัฐบาลควรเล็กลง
-
15:58 - 16:01ไม่ใช่โดยการตัดโครงการช่วยเหลือผู้ยากจน
-
16:01 - 16:03แต่โดยการช่วยคนทำงานให้ได้รับเงินมากพอ
-
16:03 - 16:06เพื่อที่เขาเหล่านั้น
จะไม่ต้องพึ่งพารัฐอีกต่อไป -
16:06 - 16:09พวกเราต้องลงทุนให้มากพอในชนชั้นกลาง
-
16:09 - 16:12ให้เศรษฐกิจเรามีความยุติธรรม
และมีส่วนร่วมมากขึ้น -
16:12 - 16:16และเมื่อมีความยุติธรรมมากขึ้น
ก็จะแข่งขันกันได้มากขึ้น -
16:16 - 16:18และเมื่อแข่งขันกันได้มากขึ้น
-
16:18 - 16:21ก็จะมีแนวทางใหม่ ๆ มากขึ้น
-
16:21 - 16:22ในการแก้ปัญหาของผู้คน
-
16:22 - 16:28ซึ่งนั่นคือแรงขับเคลื่อนที่แท้จริง
ของการเติบโตและความมั่งคั่ง -
16:28 - 16:31ระบบทุนนิยม เป็นเทคโนโลยีทางสังคม
อันยิ่งใหญ่ที่สุด -
16:31 - 16:33ที่มีการสร้างกันขึ้นมา
-
16:33 - 16:35เพื่อสร้างความมั่งคั่งในสังคมมนุษยชาติ
-
16:35 - 16:37เมื่อมันถูกบริหารจัดการอย่างดี
-
16:37 - 16:40แต่ระบบทุนนิยมนั้น โดยพื้นฐานแล้ว
-
16:40 - 16:43มีความซับซ้อนและก้าวหน้าทวีคูณ
จึงมีแนวโน้มไปสู่ -
16:43 - 16:47ความไม่เสมอภาค การกระจุกตัว
-
16:47 - 16:51และการพังทลาย ที่มิอาจหยุดยั้งได้
-
16:51 - 16:54การทำงานของสังคมที่เป็นประชาธิปไตยนั้น
-
16:54 - 16:58ก็คือ การให้ทุกภาคส่วน
มีส่วนร่วมให้มากที่สุด -
16:58 - 17:01เพื่อสร้างความมั่งคั่ง
-
17:01 - 17:05ไม่ใช่แค่ช่วยคนเพียงหยิบมิือได้สะสมเงินทอง
-
17:05 - 17:08จริงแล้ว รัฐบาลก็สร้างความมั่งคั่ง
และความเจริญ -
17:08 - 17:11โดยการสร้างเงื่อนไข ที่เอื้อให้
-
17:11 - 17:14ทั้งผู้ประกอบการ และลูกค้าของเขา
-
17:14 - 17:16เจริญรุ่งเรือง
-
17:16 - 17:19ความสมดุลย์ของอำนาจ ระหว่างนายทุน เช่น ผม
-
17:19 - 17:22กับคนงาน ไม่ใช่เรื่องแย่ในระบบทุนนิยม
-
17:22 - 17:24จริง ๆ แล้วมันจำเป็นสำหรับระบบทุนนิยม
-
17:24 - 17:27โครงการ อย่างเช่น ค่าแรงขั้นตํ่าที่สมเหตุผล
-
17:27 - 17:29การรักษาพยาบาลที่ไม่แพงนัก
-
17:29 - 17:30การได้ค่าจ้างในขณะลาป่วย
-
17:30 - 17:34และการเก็บภาษีแบบก้าวหน้า
-
17:34 - 17:36เหล่านี้มีความจำเป็น
ต่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ -
17:36 - 17:40มีความจำเป็นต่อชนการพัฒนาชั้นกลาง
เช่น การศึกษา การวิจัยและพัฒนา -
17:40 - 17:42เหล่านี้เป็นเครื่องมือที่จำเป็น
-
17:42 - 17:44ที่นายทุนผู้มองการไกล ควรจะนำมาใช้
-
17:44 - 17:48เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต
เพราะจริง ๆ แล้ว ไม่มีใคร -
17:48 - 17:50ได้ประโยชน์จากมัน นอกจากพวกเรา
-
17:50 - 17:52นักเศรษฐศาสตร์หลายคน อาจจะทำให้คุณเชื่อ
-
17:52 - 17:55ว่าวิชาของเขา เป็นศาสตร์ที่เป็นรูปธรรม
-
17:55 - 17:58แต่ผมไม่เห็นด้วย และผมคิดว่า
-
17:58 - 18:00มันเป็นเครื่องมือที่มนุษย์ใช้ควบคุม
-
18:00 - 18:02และปลูกฝังให้กับสังคม
-
18:02 - 18:06ในเรื่องค่านิยมทางศีลธรรมและความลำเอียง
-
18:06 - 18:10ในเรื่องสถานะและอำนาจ
-
18:10 - 18:12ซึ่งสิ่งนี้เป็นสาเหตุว่า
ทำไมอภิมหาเศรษฐีอย่างผม -
18:12 - 18:16จึงกระตือรือล้นอยู่เสมอ
ในการคิดหาเรื่องราวที่จูงใจ -
18:16 - 18:18เพื่อบอกเล่าสู่คนอื่น ๆ
-
18:18 - 18:22ว่าทำไมสถานะของเรา เมื่อเทียบเคียงกันแล้ว
-
18:22 - 18:26จึงดีงามและถูกทำนองคลองธรรมกับทุกๆคน
-
18:26 - 18:30เช่น พวกเรานั้นมีความจำเป็นต่อคนอื่น
เป็นผู้สร้างงาน -
18:30 - 18:33แต่พวกคุณต่างหากที่ไม่ใช่
-
18:33 - 18:36เช่น การลดภาษีให้เรานั้น สร้างความเจริญ
-
18:36 - 18:38แต่การลงทุนเพื่อพวกคุณ
-
18:38 - 18:40จะทำให้หนี้ของเราเพิ่มทวีขึ้น
-
18:40 - 18:42และทำให้ประเทศที่ยิ่งใหญ่ของเราล้มละลาย
-
18:42 - 18:44และเรานั้นมีความสำคัญ
-
18:44 - 18:46แต่คุณไม่สำคัญ
-
18:46 - 18:49หลายพันปีมาแล้ว ที่เรื่องราวเหล่านี้
ถูกเรียกว่า -
18:49 - 18:50เทวสิทธิราชย์ (divine right)
-
18:50 - 18:55และในปัจจุบันนี้ เรามีเศรษฐกิจไหลริน
-
18:55 - 18:59เราจะนำทั้งหมดนี้มาช่วยตัวเราเอง
-
18:59 - 19:00อย่างชัดเจน และโปร่งใสได้อย่างไร
-
19:00 - 19:03พวกเราอภิมหาเศรษฐี ต้องเข้าใจ
-
19:03 - 19:05ว่าสหรัฐอเมริกา สร้างพวกเราขึ้นมา
-
19:05 - 19:07ไม่ใช่ในทางกลับกัน
-
19:07 - 19:10แต่ให้เห็นว่าชนชั้นกลางที่มั่งคั่ง
นั้นเป็นเหตุ -
19:10 - 19:12ของความเจริญในระบบเศรษฐกิจทุนนิยม
-
19:12 - 19:15มิใช่เป็นผล
-
19:15 - 19:17และเราไม่ควรจะลืมว่า แม้คนที่เก่งที่สุด
-
19:17 - 19:21หากไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แย่สุด
-
19:21 - 19:27ก็ต้องยืนเท้าเปล่าข้างทางลูกรัง ขายผลไม้
เช่นกัน -
19:27 - 19:29เพื่อนอภิมหาเศรษฐีทั้งหลาย
ผมคิดว่า มันถึงเวลาแล้ว -
19:29 - 19:32ที่จะให้คำมั่นสัญญากับประเทศของเราอีกครั้ง
-
19:32 - 19:34ที่จะให้คำมั่นสัญญา ต่อระบบทุนนิยมใหม่
-
19:34 - 19:39ซึ่งสนับสนุนการมีส่วนร่วมและประสิทธิภาพ
-
19:39 - 19:41เป็นระบบทุนนิยม ที่จะช่วยให้มั่นใจว่า
-
19:41 - 19:44เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาจะยังคง
-
19:44 - 19:47มีพลวัตและรุ่งเรืองที่สุดในโลก
-
19:47 - 19:49ขอให้เราคุ้มครองอนาคตของตัวเราเอง
-
19:49 - 19:52ลูกหลานของเรา และลูกหลานของพวกเขา
-
19:52 - 19:55หรือไม่เช่นนั้น เราอาจเลือกที่จะไม่ทำอะไรเลย
-
19:55 - 19:57ซ่อนตัวอยู่ในอาณาจักรล้อมรั้วของเรา
-
19:57 - 20:00หรือในโรงเรียนเอกชนชั้นนำ
-
20:00 - 20:02หรือหาความสุขจากเครื่องบินส่วนตัว
และเรือยอร์ชของเรา -
20:02 - 20:04-- เรื่องพวกนั้นน่ะบันเทิงใจ --
-
20:04 - 20:06แต่เตรียมรับมือ
คราดจากชาวนาไว้ได้เลย -
20:06 - 20:08ขอบคุณครับ
-
20:08 - 20:09(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ระวังให้ดี เพื่อน ๆ อภิมหาเศรษฐีทั้งหลาย คราดจากชาวนากำลังมา
- Speaker:
- นิค ฮานาวเออร์ (Nick Hanauer)
- Description:
-
นิค ฮานาวเออร์ เป็นคนรวย เป็นนายทุนที่ไม่ยอมเสียใจหรือขอโทษ--และเขามีบางอย่างที่จะพูดกับเพื่อนๆอภิมหาเศรษฐีของเขา ตื่นเถอะครับ ความไม่เท่าเทียมกันที่กำลังเพิ่มขี้น เกือบจะผลักให้สังคมของเรา เข้าสู่สภาวะที่คล้ายคลึงกับก่อนการปฏิวัติฝรั่งเศส ฟังข้อโต้แย้งเกี่ยวกับว่าทำไมการเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากของค่าแรงขั้นตํ่า จะทำให้คนชั้นกลางเติบโตขึ้น ส่งผลให้เกิดความเจริญทางเศรษฐกิจ...และจะป้องกันไม่ให้เกิดการปฏิวัติได้
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 20:26
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Beware, fellow plutocrats, the pitchforks are coming | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut commented on Thai subtitles for Beware, fellow plutocrats, the pitchforks are coming | ||
Kanawat Senanan approved Thai subtitles for Beware, fellow plutocrats, the pitchforks are coming | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for Beware, fellow plutocrats, the pitchforks are coming | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for Beware, fellow plutocrats, the pitchforks are coming | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for Beware, fellow plutocrats, the pitchforks are coming | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for Beware, fellow plutocrats, the pitchforks are coming | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for Beware, fellow plutocrats, the pitchforks are coming |
Trinsit Wasinudomrod
ขออนุญาตนะครับ
"แต่ผมเป็นหนึ่งใน .01 คน พวกนั้น"
อาจจะเป็น "แต่ผมเป็นหนึ่งในกลุ่มคน .01%" หรือไม่ครับ
Trinsit Wasinudomrod
ขออนุญาตนะครับ
บ้านเป็นทวีคูณ เรือยอร์ช เครื่องบินส่วนตัว
อาจจะเป็น "บ้านหลายหลัง" หรือไม่ครับ
yamela areesamarn
ใช่คะ "แต่ผมเป็นหนึ่งในกลุ่มคน .01% พวกนั้น" (หมายถึงพวกที่เป็นอภิมหาเศรษฐี)
ตอนแรกก็แปลว่า "บ้านหลายหลัง" แต่คิดว่ามันมากกว่านั้น หาคำที่ตรงกับความหมายของมันไม่ได้ ก็เลยแปลทับศัพท์ภาษาอังกฤษไป เราเคยได้ยินคำว่า "มีรายได้ทวีคูณ" ทำนองนั้น
Sakunphat Jirawuthitanant
ลองเน้นแปลตามบริบท ให้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พูด ไม่แปลตามศัพท์ทีละคำ
0:03.67: 0.01 percenters = คนพวก 0.01 เปอร์เซนต์ (ยิ่งกว่า 1%)
0:25.88: unapologetic capitalist = นักทุนนิยมสุดขั้วที่ไร้ความปราณี
0:35.29: amazon.com ไม่ใช่ amezon.com
0:41.61: microsoft = ไมโครซอฟท์ และ billion dollars = พันล้านดอลลาร์ (จะเติม "สหรัฐอเมริกา" ต่อท้ายก็ได้)
1:03.25: rewarded obscenely = ได้รับผลตอบแทนอย่างบ้าคลั้ง (มหาศาลเกินจิตนาการ)
1:11.46: multiple homes = บ้านจำนวนมากมาย
1:32.77: spectacular luck = โชคก้อนโต (spectacular ในบริบทนี้ใช้บรรยายขนาดของโชค ไม่ใช่ลักษณะของโชค)
1:44.62: high tolerance for risk = ยอมรับความเสี่ยงได้สูง (tolerance ในบริบทของความเสี่ยง หมายถึงระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ไม่ใช่ความอดทนต่อความยากลำบาก หรือความแตกต่างทางชาติพันธ์ ทำนองนั้น)
1:57.59: entrepreneurship ไม่ได้หมายถึงทางการเงินเท่านั้น แต่หมายถึงการทำธุรกิจใด ๆ ด้วยต้นเอง
2:05.68: pitchforks ในที่นี้หมายถึงคราดของชาวนา ที่ใช้ในการปฏิวัติล้มล้างระบอบการปกครองที่กดขี่
so and so
:)
Kelwalin Dhanasarnsombut
ชอบการแปลของคุณ Sakunphat ค่ะ :)