วิธีผลิดทารก (ในห้องทดลอง) นาสซิม อัสสาฟี (Nassim Assefi) และ ไบรอัน เอ. เลวีน (Brian A. Levine)
-
0:07 - 0:09ในปี คศ. 1978 หลุยส์ บราวน์
-
0:09 - 0:14กลายเป็นทารกคนแรกของโลก
ที่เกิดจากการปฏิสนธิในหลอดแก้ว หรือ IVF -
0:14 - 0:18การกำเนิดของเธอ
ได้ปฏิวัติแวดวงเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ -
0:18 - 0:21เพราะประมาณหนึ่งในแปดของคู่สามีภรรยา
-
0:21 - 0:23ที่มีปัญหามีบุตรยาก
-
0:23 - 0:25และคู่ชายรักชาย หญิงรักหญิง
พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว -
0:25 - 0:28ที่มักต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์
เพื่อให้มีบุตร -
0:28 - 0:31ความต้องการเด็กหลอดแก้ว
จึงเพิ่มสูงขึ้นมาตลอด -
0:31 - 0:37เด็กหลอดแก้วมีเยอะมาก
ทารกมากกว่า 5 ล้านคนเกิดมาด้วยเทคโนโลยีนี้ -
0:37 - 0:43เด็กหลอดแก้วเกิดขึ้นได้จากการเลียนแบบ
การออกแบบอันชาญฉลาดของการสืบพันธุ์ -
0:43 - 0:45เพื่อที่จะเข้าใจถึงการทำเด็กหลอดแก้ว
-
0:45 - 0:50เราต้องพิจารณาขั้นตอนตามธรรมชาติ
ในการสร้างทารกก่อน -
0:50 - 0:54เชื่อหรือไม่ว่า ทั้งหมดมันเริ่มต้นที่สมอง
-
0:54 - 0:57ประมาณ 15 วันก่อนการปฏิสนธิจะเกิดขึ้น
-
0:57 - 1:03ต่อมใต้สมองส่วนหน้า
จะหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นฟอลลิเคิล (FSH) -
1:03 - 1:05ชึ่งจะทำให้ฟอลลิเคิลจำนวนหนึ่งในรังไข่สุก
-
1:05 - 1:08และนั่นจะทำให้เกิดการหลั่งเอสโตรเจน
-
1:08 - 1:10แต่ละฟอลลิเคิลมีไข่หนึ่งฟอง
-
1:10 - 1:14และโดยทั่วไปแล้ว
จะมีเพียงฟอลลิเคิลอันเดียวที่จะโตเต็มที่ -
1:14 - 1:17ขณะที่มันเติบโต
และหลั่งเอสโตรเจนออกมาเรื่อยๆ -
1:17 - 1:22ฮอร์โมนนี้ไม่เพียงแต่จะช่วย
ประสานการเติบโตและการเตรียมตัวของมดลูก -
1:22 - 1:27มันยังสื่อสารกับสมองว่า
ฟอลลิเคิลเจริญดีแค่ไหนแล้ว -
1:27 - 1:29เมื่อระดับเอสโตรเจนสูงพอ
-
1:29 - 1:35ต่อมใต้สมองส่วนหน้าจะปล่อยฮอร์โมน
ลูทิไนซิ่ง (LH) ปริมาณสูงมากทันที -
1:35 - 1:37ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการตกไข่
-
1:37 - 1:42และทำให้ฟอลลิเคิลแตกออก
ปล่อยไข่ออกมา -
1:42 - 1:44เมื่อไข่ออกจากรังไข่
-
1:44 - 1:49มันจะถูกนำไปที่ท่อฟอลลาเปียน
ด้วยฟิมเบรียที่เหมือนนิ้วมือ -
1:49 - 1:53ถ้าไข่ไม่ถูกผสมพันธุ์ด้วยสเปิร์ม
ภายใน 24 ชั่วโมง -
1:53 - 1:55ไข่ที่ไม่ปฏิสนธินี้จะตาย
-
1:55 - 1:57และระบบทั้งหมดก็จะเริ่มต้นใหม่
-
1:57 - 2:02เตรียมตัวที่จะสร้างไข่ฟองใหม่
และเยื่อบุมดลูกในเดือนต่อมา -
2:02 - 2:05ไข่เป็นเซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย
-
2:05 - 2:08และถูกป้องกันด้วย
เปลือกน้ำตาลหนาๆ ภายนอก -
2:08 - 2:12และโปรตีนที่เรียกว่า
โซนา เพลลูซิดา (zona pellucida) -
2:12 - 2:17โซนานี้ป้องกันไม่ให้สเปิร์มเข้าไปผสม
มากกว่าหนึ่งตัว -
2:17 - 2:20สเปิร์มเป็นเซลล์ที่เล็กที่สุดในร่างกาย
-
2:20 - 2:23ผู้ชายใช้เวลาสองถึงสามเดือน
ในการสร้างสเปิร์ม -
2:23 - 2:26และกระบวนการนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา
-
2:26 - 2:32การปล่อยสเปิร์มระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
จะมีสเปิร์มออกมามากกว่า 100 ล้านตัวต่อครั้ง -
2:32 - 2:37แต่แค่ประมาณ 100 ตัวเท่านั้น
ที่สุดท้ายแล้วจะเข้าไปใกล้ๆ ไข่ได้ -
2:37 - 2:43และเพียงตัวเดียวเท่านั้นจะประสบความสำเร็จ
ทะลุผ่านเกราะโซนา เพลลูซิดาไปได้ -
2:43 - 2:46เมื่อการปฏิสนธิสำเร็จ
-
2:46 - 2:49ไซโกตจะเริ่มเจริญเติบโตไปเป็นตัวอ่อนทันที
-
2:49 - 2:52และใช้เวลาประมาณสามวัน
ในการไปถึงมดลูก -
2:52 - 2:54ที่นั่น มันใช้เวลาอีกประมาณสามวัน
-
2:54 - 3:00ในการเกาะติดแน่นกับเนื้อเยื่อ
ที่บุอยู่ภายในมดลูก -
3:00 - 3:03เมื่อฝังตัวแล้ว เซลล์ที่จะกลายเป็นรก
-
3:03 - 3:06หลั่งฮอร์โมนที่ส่งสัญญาณไปยัง
ฟอลลิเคิลที่ทำให้เกิดการตกไข่ -
3:06 - 3:09ว่ามีการตั้งครรภ์ที่มดลูก
-
3:09 - 3:12นี่จะช่วยให้ฟอลลิเคิลที่ตอนนี้เรียกว่า
คอปัส ลูเตียม (corpus luteum) -
3:12 - 3:18ไม่สลายไปตามธรรมชาติ
ตามวงรอบของประจำเดือน -
3:18 - 3:21คอปัส ลูเตียม ผลิตฮอร์โมนโปรเจสเทอโรน
-
3:21 - 3:26ที่จำเป็นเพื่อให้การตั้งครรภ์ดำเนินไปได้
จนถึงสัปดาห์ที่หกหรือเจ็ดของการปฏิสนธิ -
3:26 - 3:28เมื่อรกพัฒนาขึ้นแล้วและทำหน้าที่แทน
-
3:28 - 3:32ไปจนกระทั่งทารกเกิดออกมา
ประมาณ 40 สัปดาห์ให้หลัง -
3:32 - 3:36เอาล่ะ ตอนนี้คุณจะผลิตทารก
ในห้องทดลองได้อย่างไรล่ะ -
3:36 - 3:38ในผู้ที่ทำเด็กหลอดแก้ว
-
3:38 - 3:42ฮอร์โมน FSH จะถูกฉีด
ให้ได้ระดับที่สูงกว่าที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ -
3:42 - 3:46เพื่อให้เกิดการกระตุ้น
การควบคุมการผลิตไข่มากกว่าปกติ -
3:46 - 3:50เพื่อให้มันสร้างไข่จำนวนมาก
-
3:50 - 3:53ไข่เหล่านี้จะถูกเก็บก่อนที่จะเกิดการตกไข่
-
3:53 - 3:56ขณะที่ผู้หญิงได้รับยาชา
-
3:56 - 4:00ผ่านทางเข็มดูด โดยอัลตราซาวด์
ช่วยกำหนดทำแหน่ง -
4:00 - 4:05สเปิร์มส่วนใหญ่ที่ใช้
จะถูกผลิตโดยการช่วยตัวเอง -
4:05 - 4:10ในห้องทดลอง ไข่ที่ถูกเลือก
จะถูกเอาเซลล์รอบๆ ออก -
4:10 - 4:14และถูกเตรียมเพื่อการปฏิสนธิในจานเพาะเชื้อ
-
4:14 - 4:17การปฏิสนธิเกิดขึ้นโดยหนึ่งในสองวิธี
-
4:17 - 4:20วิธีแรก ไข่จะถูกฟักด้วยสเปิร์มเป็นพันๆ ตัว
-
4:20 - 4:25และการปฏิสนธิจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
ภายในไม่กี่ชั่วโมง -
4:25 - 4:28วิธีที่สอง เพิ่มความแน่นอน
ในการปฏิสนธิให้มากขึ้น -
4:28 - 4:32ด้วยการใช้เข็ม
นำสเปิร์มหนึ่งตัวเข้าไปในไข่ -
4:32 - 4:37วิธีนี้มีประโยชน์มาก
กรณีที่มีปัญหาเรื่องคุณภาพของสเปิร์ม -
4:37 - 4:42หลังจากปฏิสนธิตัวอ่อนจะถูกคัดกรอง
ดูความเหมาะสมทางพันธุกรรม -
4:42 - 4:44แล้วแช่แข็งไว้เพื่อทำการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป
-
4:44 - 4:49หรือนำใส่เข้าไปในมดลูกของผู้หญิงทางสายสวน
-
4:49 - 4:54วิธีทั่วไปคือ การนำตัวอ่อน
อายุสามวันหลังปฏิสนธิ -
4:54 - 4:57เมื่อตัวอ่อนมีแปดเซลล์
-
4:57 - 5:01หรือในวันที่ห้า เมื่อตัวอ่อนเรียกว่า
บลาสโตซิสต์ (blastocyst) -
5:01 - 5:04และมีหลายร้อยเซลล์
-
5:04 - 5:09ถ้าไข่ของผู้หญิงมีคุณภาพไม่ดี
เนื่องจากอายุหรือการถูกสารพิษ -
5:09 - 5:11หรือถูกตัดออกไปเพราะเป็นมะเร็ง
-
5:11 - 5:14อาจจะใช้ไข่จากการบริจาคแทน
-
5:14 - 5:19ในกรณีผู้ที่จะเป็นแม่มีปัญหาทางมดลูก
หรือไม่มีมดลูก -
5:19 - 5:23หญิงอื่นที่เรียกว่า ผู้รับการตั้งครรภ์
หรือแม่อุ้มบุญ -
5:23 - 5:26สามารถใช้มดลูกของเธอในการตั้งครรภ์
-
5:26 - 5:28เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จ
-
5:28 - 5:32ซึ่งอาจจะสูงถึง 40%
สำหรับหญิงอายุน้อยกว่า 35 -
5:32 - 5:37บางครั้งแพทย์จะใส่ตัวอ่อนหลายๆ ตัว
ในครั้งเดียว -
5:37 - 5:40จึงทำให้เด็กหลอดแก้วเป็นฝาแฝด หรือแฝดสาม
-
5:40 - 5:43บ่อยกว่าการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ
-
5:43 - 5:48อย่างไรก็ตาม คลินิกส่วนใหญ๋จะพยายามลด
โอกาสการเกิดเด็กแฝดให้น้อยที่สุด -
5:48 - 5:52เพราะมันเสี่ยงมากขึ้นสำหรับแม่และทารก
-
5:52 - 5:56ทารกหลายล้านคน เช่นเดียวกับ หลุยส์ บราวน์
เกิดขึ้นมาโดยวิธีนี้ -
5:56 - 6:00และมีชีวิตทีปกติ แข็งแรง
-
6:00 - 6:03ผลพวงระยะยาวต่อสุขภาพ
จากการกระตุ้นรังไข่มากเกินไป -
6:03 - 6:06โดยวิธีเด็กหลอดแก้วนี้ยังไม่ชัดเจน
-
6:06 - 6:10อย่างไรก็ดี จนถึงวันนี้ เด็กหลอดแก้ว
ดูเหมือนจะปลอดภัยสำหรับผู้หญิง -
6:10 - 6:12เพราะการทดสอบทางพันธุกรรมที่ดีขึ้น
-
6:12 - 6:14การมีบุตรช้า
-
6:14 - 6:17การเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
และค่าใช้จ่ายที่ลดลง -
6:17 - 6:23ก็ยังไม่ยากที่จะเห็นว่าการทำเด็กหลอดแก้วด้วยวิธี
ปฏิสนธิภายนอกร่างกายและเทคนิคที่เกี่ยวข้อง -
6:23 - 6:27จะก้าวล้ำการสืบพันธุ์ทางธรรมชาติ
ในหลายปีข้างหน้า
- Title:
- วิธีผลิดทารก (ในห้องทดลอง) นาสซิม อัสสาฟี (Nassim Assefi) และ ไบรอัน เอ. เลวีน (Brian A. Levine)
- Speaker:
- Nassim Assefi and Brian A. Levine
- Description:
-
ชมบทเรียนแบบเต็มได้ที่ : http://ed.ted.com/lessons/how-to-make-a-baby-in-a-lab-nassim-assefi-and-brian-a-levine
การมีบุตรยากพบได้ใน 1 ใน 8 คู่สามีภรรยาทั่วโลก แต่ใน 40 ปีหลังนี้ ทารกมากกว่า 5 ล้านคนได้ถือกำเนิดมาด้วยวิธีปฏิสนธิภายนอก วิธีนี้เป็นอย่างไร นาสซิม อัสสาฟี และ ไบรอัน เอ.เลวีน ให้รายละเอียดวิทยาศาสตร์เบื้องหลังการผลิดทารกในห้องทดลอง
บทเรียนโดย นาสซิม อัสสาฟี และ ไบรอัน เอ.เลวีน แอนิเมชั่นโดย Kozmonot Animation Studio
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TED-Ed
- Duration:
- 06:43
Michelle Mehrtens edited Thai subtitles for How in vitro fertilization (IVF) works | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for How in vitro fertilization (IVF) works | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How in vitro fertilization (IVF) works | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut accepted Thai subtitles for How in vitro fertilization (IVF) works | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How in vitro fertilization (IVF) works | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How in vitro fertilization (IVF) works | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How in vitro fertilization (IVF) works | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How in vitro fertilization (IVF) works |