WEBVTT 00:00:06.645 --> 00:00:09.047 ในปี คศ. 1978 หลุยส์ บราวน์ 00:00:09.047 --> 00:00:14.450 กลายเป็นทารกคนแรกของโลก ที่เกิดจากการปฏิสนธิในหลอดแก้ว หรือ IVF 00:00:14.450 --> 00:00:17.780 การกำเนิดของเธอ ได้ปฏิวัติแวดวงเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ 00:00:17.780 --> 00:00:20.931 เพราะประมาณหนึ่งในแปดของคู่สามีภรรยา 00:00:20.931 --> 00:00:22.997 ที่มีปัญหามีบุตรยาก 00:00:22.997 --> 00:00:25.172 และคู่ชายรักชาย หญิงรักหญิง พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว 00:00:25.172 --> 00:00:27.804 ที่มักต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ เพื่อให้มีบุตร 00:00:27.804 --> 00:00:30.561 ความต้องการเด็กหลอดแก้ว จึงเพิ่มสูงขึ้นมาตลอด 00:00:30.561 --> 00:00:36.889 เด็กหลอดแก้วมีเยอะมาก ทารกมากกว่า 5 ล้านคนเกิดมาด้วยเทคโนโลยีนี้ NOTE Paragraph 00:00:36.889 --> 00:00:42.645 เด็กหลอดแก้วเกิดขึ้นได้จากการเลียนแบบ การออกแบบอันชาญฉลาดของการสืบพันธุ์ 00:00:42.645 --> 00:00:44.789 เพื่อที่จะเข้าใจถึงการทำเด็กหลอดแก้ว 00:00:44.789 --> 00:00:49.516 เราต้องพิจารณาขั้นตอนตามธรรมชาติ ในการสร้างทารกก่อน 00:00:49.516 --> 00:00:53.788 เชื่อหรือไม่ว่า ทั้งหมดมันเริ่มต้นที่สมอง 00:00:53.788 --> 00:00:57.127 ประมาณ 15 วันก่อนการปฏิสนธิจะเกิดขึ้น 00:00:57.127 --> 00:01:02.612 ต่อมใต้สมองส่วนหน้า จะหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นฟอลลิเคิล (FSH) 00:01:02.612 --> 00:01:05.476 ชึ่งจะทำให้ฟอลลิเคิลจำนวนหนึ่งในรังไข่สุก 00:01:05.476 --> 00:01:07.817 และนั่นจะทำให้เกิดการหลั่งเอสโตรเจน 00:01:07.817 --> 00:01:09.788 แต่ละฟอลลิเคิลมีไข่หนึ่งฟอง 00:01:09.788 --> 00:01:14.340 และโดยทั่วไปแล้ว จะมีเพียงฟอลลิเคิลอันเดียวที่จะโตเต็มที่ 00:01:14.340 --> 00:01:17.295 ขณะที่มันเติบโต และหลั่งเอสโตรเจนออกมาเรื่อยๆ 00:01:17.295 --> 00:01:21.664 ฮอร์โมนนี้ไม่เพียงแต่จะช่วย ประสานการเติบโตและการเตรียมตัวของมดลูก 00:01:21.664 --> 00:01:27.088 มันยังสื่อสารกับสมองว่า ฟอลลิเคิลเจริญดีแค่ไหนแล้ว 00:01:27.088 --> 00:01:29.466 เมื่อระดับเอสโตรเจนสูงพอ 00:01:29.466 --> 00:01:35.378 ต่อมใต้สมองส่วนหน้าจะปล่อยฮอร์โมน ลูทิไนซิ่ง (LH) ปริมาณสูงมากทันที 00:01:35.378 --> 00:01:37.213 ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการตกไข่ 00:01:37.213 --> 00:01:42.417 และทำให้ฟอลลิเคิลแตกออก ปล่อยไข่ออกมา NOTE Paragraph 00:01:42.417 --> 00:01:44.468 เมื่อไข่ออกจากรังไข่ 00:01:44.468 --> 00:01:49.179 มันจะถูกนำไปที่ท่อฟอลลาเปียน ด้วยฟิมเบรียที่เหมือนนิ้วมือ 00:01:49.179 --> 00:01:52.681 ถ้าไข่ไม่ถูกผสมพันธุ์ด้วยสเปิร์ม ภายใน 24 ชั่วโมง 00:01:52.681 --> 00:01:54.807 ไข่ที่ไม่ปฏิสนธินี้จะตาย 00:01:54.807 --> 00:01:57.266 และระบบทั้งหมดก็จะเริ่มต้นใหม่ 00:01:57.266 --> 00:02:02.087 เตรียมตัวที่จะสร้างไข่ฟองใหม่ และเยื่อบุมดลูกในเดือนต่อมา NOTE Paragraph 00:02:02.087 --> 00:02:05.011 ไข่เป็นเซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย 00:02:05.011 --> 00:02:08.473 และถูกป้องกันด้วย เปลือกน้ำตาลหนาๆ ภายนอก 00:02:08.473 --> 00:02:12.325 และโปรตีนที่เรียกว่า โซนา เพลลูซิดา (zona pellucida) 00:02:12.325 --> 00:02:16.576 โซนานี้ป้องกันไม่ให้สเปิร์มเข้าไปผสม มากกว่าหนึ่งตัว 00:02:16.576 --> 00:02:19.978 สเปิร์มเป็นเซลล์ที่เล็กที่สุดในร่างกาย NOTE Paragraph 00:02:19.978 --> 00:02:23.060 ผู้ชายใช้เวลาสองถึงสามเดือน ในการสร้างสเปิร์ม 00:02:23.060 --> 00:02:26.220 และกระบวนการนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา 00:02:26.220 --> 00:02:31.856 การปล่อยสเปิร์มระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ จะมีสเปิร์มออกมามากกว่า 100 ล้านตัวต่อครั้ง 00:02:31.856 --> 00:02:37.035 แต่แค่ประมาณ 100 ตัวเท่านั้น ที่สุดท้ายแล้วจะเข้าไปใกล้ๆ ไข่ได้ 00:02:37.035 --> 00:02:43.232 และเพียงตัวเดียวเท่านั้นจะประสบความสำเร็จ ทะลุผ่านเกราะโซนา เพลลูซิดาไปได้ NOTE Paragraph 00:02:43.232 --> 00:02:45.514 เมื่อการปฏิสนธิสำเร็จ 00:02:45.514 --> 00:02:48.756 ไซโกตจะเริ่มเจริญเติบโตไปเป็นตัวอ่อนทันที 00:02:48.756 --> 00:02:52.006 และใช้เวลาประมาณสามวัน ในการไปถึงมดลูก 00:02:52.006 --> 00:02:54.282 ที่นั่น มันใช้เวลาอีกประมาณสามวัน 00:02:54.282 --> 00:02:59.742 ในการเกาะติดแน่นกับเนื้อเยื่อ ที่บุอยู่ภายในมดลูก 00:02:59.742 --> 00:03:02.895 เมื่อฝังตัวแล้ว เซลล์ที่จะกลายเป็นรก 00:03:02.895 --> 00:03:06.037 หลั่งฮอร์โมนที่ส่งสัญญาณไปยัง ฟอลลิเคิลที่ทำให้เกิดการตกไข่ 00:03:06.037 --> 00:03:08.898 ว่ามีการตั้งครรภ์ที่มดลูก 00:03:08.898 --> 00:03:12.403 นี่จะช่วยให้ฟอลลิเคิลที่ตอนนี้เรียกว่า คอปัส ลูเตียม (corpus luteum) 00:03:12.403 --> 00:03:17.697 ไม่สลายไปตามธรรมชาติ ตามวงรอบของประจำเดือน 00:03:17.697 --> 00:03:20.839 คอปัส ลูเตียม ผลิตฮอร์โมนโปรเจสเทอโรน 00:03:20.839 --> 00:03:25.594 ที่จำเป็นเพื่อให้การตั้งครรภ์ดำเนินไปได้ จนถึงสัปดาห์ที่หกหรือเจ็ดของการปฏิสนธิ 00:03:25.594 --> 00:03:28.273 เมื่อรกพัฒนาขึ้นแล้วและทำหน้าที่แทน 00:03:28.273 --> 00:03:32.213 ไปจนกระทั่งทารกเกิดออกมา ประมาณ 40 สัปดาห์ให้หลัง NOTE Paragraph 00:03:32.213 --> 00:03:35.587 เอาล่ะ ตอนนี้คุณจะผลิตทารก ในห้องทดลองได้อย่างไรล่ะ 00:03:35.587 --> 00:03:37.926 ในผู้ที่ทำเด็กหลอดแก้ว 00:03:37.926 --> 00:03:42.333 ฮอร์โมน FSH จะถูกฉีด ให้ได้ระดับที่สูงกว่าที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ 00:03:42.333 --> 00:03:45.859 เพื่อให้เกิดการกระตุ้น การควบคุมการผลิตไข่มากกว่าปกติ 00:03:45.859 --> 00:03:49.599 เพื่อให้มันสร้างไข่จำนวนมาก 00:03:49.599 --> 00:03:53.462 ไข่เหล่านี้จะถูกเก็บก่อนที่จะเกิดการตกไข่ 00:03:53.462 --> 00:03:55.738 ขณะที่ผู้หญิงได้รับยาชา 00:03:55.738 --> 00:04:00.111 ผ่านทางเข็มดูด โดยอัลตราซาวด์ ช่วยกำหนดทำแหน่ง 00:04:00.111 --> 00:04:05.029 สเปิร์มส่วนใหญ่ที่ใช้ จะถูกผลิตโดยการช่วยตัวเอง NOTE Paragraph 00:04:05.029 --> 00:04:09.599 ในห้องทดลอง ไข่ที่ถูกเลือก จะถูกเอาเซลล์รอบๆ ออก 00:04:09.599 --> 00:04:13.594 และถูกเตรียมเพื่อการปฏิสนธิในจานเพาะเชื้อ 00:04:13.594 --> 00:04:16.851 การปฏิสนธิเกิดขึ้นโดยหนึ่งในสองวิธี 00:04:16.851 --> 00:04:20.307 วิธีแรก ไข่จะถูกฟักด้วยสเปิร์มเป็นพันๆ ตัว 00:04:20.307 --> 00:04:24.725 และการปฏิสนธิจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ภายในไม่กี่ชั่วโมง 00:04:24.725 --> 00:04:27.835 วิธีที่สอง เพิ่มความแน่นอน ในการปฏิสนธิให้มากขึ้น 00:04:27.835 --> 00:04:32.465 ด้วยการใช้เข็ม นำสเปิร์มหนึ่งตัวเข้าไปในไข่ 00:04:32.465 --> 00:04:37.181 วิธีนี้มีประโยชน์มาก กรณีที่มีปัญหาเรื่องคุณภาพของสเปิร์ม NOTE Paragraph 00:04:37.181 --> 00:04:41.819 หลังจากปฏิสนธิตัวอ่อนจะถูกคัดกรอง ดูความเหมาะสมทางพันธุกรรม 00:04:41.819 --> 00:04:44.480 แล้วแช่แข็งไว้เพื่อทำการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป 00:04:44.480 --> 00:04:48.687 หรือนำใส่เข้าไปในมดลูกของผู้หญิงทางสายสวน 00:04:48.687 --> 00:04:53.913 วิธีทั่วไปคือ การนำตัวอ่อน อายุสามวันหลังปฏิสนธิ 00:04:53.913 --> 00:04:56.542 เมื่อตัวอ่อนมีแปดเซลล์ 00:04:56.542 --> 00:05:01.137 หรือในวันที่ห้า เมื่อตัวอ่อนเรียกว่า บลาสโตซิสต์ (blastocyst) 00:05:01.137 --> 00:05:03.769 และมีหลายร้อยเซลล์ 00:05:03.769 --> 00:05:08.717 ถ้าไข่ของผู้หญิงมีคุณภาพไม่ดี เนื่องจากอายุหรือการถูกสารพิษ 00:05:08.717 --> 00:05:11.478 หรือถูกตัดออกไปเพราะเป็นมะเร็ง 00:05:11.478 --> 00:05:14.237 อาจจะใช้ไข่จากการบริจาคแทน 00:05:14.237 --> 00:05:18.671 ในกรณีผู้ที่จะเป็นแม่มีปัญหาทางมดลูก หรือไม่มีมดลูก 00:05:18.671 --> 00:05:22.622 หญิงอื่นที่เรียกว่า ผู้รับการตั้งครรภ์ หรือแม่อุ้มบุญ 00:05:22.622 --> 00:05:26.448 สามารถใช้มดลูกของเธอในการตั้งครรภ์ NOTE Paragraph 00:05:26.448 --> 00:05:28.378 เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จ 00:05:28.378 --> 00:05:32.330 ซึ่งอาจจะสูงถึง 40% สำหรับหญิงอายุน้อยกว่า 35 00:05:32.330 --> 00:05:36.536 บางครั้งแพทย์จะใส่ตัวอ่อนหลายๆ ตัว ในครั้งเดียว 00:05:36.536 --> 00:05:39.512 จึงทำให้เด็กหลอดแก้วเป็นฝาแฝด หรือแฝดสาม 00:05:39.512 --> 00:05:43.050 บ่อยกว่าการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ 00:05:43.050 --> 00:05:48.003 อย่างไรก็ตาม คลินิกส่วนใหญ๋จะพยายามลด โอกาสการเกิดเด็กแฝดให้น้อยที่สุด 00:05:48.003 --> 00:05:51.726 เพราะมันเสี่ยงมากขึ้นสำหรับแม่และทารก NOTE Paragraph 00:05:51.726 --> 00:05:56.336 ทารกหลายล้านคน เช่นเดียวกับ หลุยส์ บราวน์ เกิดขึ้นมาโดยวิธีนี้ 00:05:56.336 --> 00:05:59.501 และมีชีวิตทีปกติ แข็งแรง 00:05:59.501 --> 00:06:02.728 ผลพวงระยะยาวต่อสุขภาพ จากการกระตุ้นรังไข่มากเกินไป 00:06:02.728 --> 00:06:05.879 โดยวิธีเด็กหลอดแก้วนี้ยังไม่ชัดเจน 00:06:05.879 --> 00:06:09.920 อย่างไรก็ดี จนถึงวันนี้ เด็กหลอดแก้ว ดูเหมือนจะปลอดภัยสำหรับผู้หญิง 00:06:09.920 --> 00:06:11.876 เพราะการทดสอบทางพันธุกรรมที่ดีขึ้น 00:06:11.876 --> 00:06:13.714 การมีบุตรช้า 00:06:13.714 --> 00:06:16.765 การเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และค่าใช้จ่ายที่ลดลง 00:06:16.765 --> 00:06:22.582 ก็ยังไม่ยากที่จะเห็นว่าการทำเด็กหลอดแก้วด้วยวิธี ปฏิสนธิภายนอกร่างกายและเทคนิคที่เกี่ยวข้อง 00:06:22.582 --> 00:06:26.717 จะก้าวล้ำการสืบพันธุ์ทางธรรมชาติ ในหลายปีข้างหน้า