ไอโอ ทิลเล็ต ไรท์: 50 เฉดสีของความเป็นเกย์
-
0:01 - 0:03มนุษย์เราแบ่งผู้คนรอบตัวใส่กล่องต่างๆ
-
0:03 - 0:05ตั้งแต่วินาทีแรกที่เราพบกัน
-
0:05 - 0:08คนคนนี้อันตรายหรือเปล่า? น่าสนใจไหม?
-
0:08 - 0:11เหมาะสมที่จะเป็นคู่ของเราหรือเปล่า?
หรือจะเป็นโอกาสในการติดต่องานไหม? -
0:11 - 0:14เราทำการสอบสวนเล็กๆ เมื่อเราพบกัน
-
0:14 - 0:16เพื่อทำประวัติของพวกเขาในหัวเรา
-
0:16 - 0:18คุณชื่ออะไร? มาจากที่ไหน?
-
0:18 - 0:21อายุเท่าใหร่? ทำอาชีพอะไร?
-
0:21 - 0:24แล้วเราก็ถามลึกลงไปถึงเรื่องส่วนตัว
-
0:24 - 0:27คุณเคยป่วย เป็นโรคอะไรมารึเปล่า?
-
0:27 - 0:29เคยหย่ามั้ย?
-
0:29 - 0:32คุณมีกลิ่นปากรึเปล่า ในระหว่างที่ตอบคำถามอยู่นี่
-
0:32 - 0:34คุณสนใจเรื่องอะไร? คุณสนใจใคร?
-
0:34 - 0:36คุณชอบมีสัมพันธ์กับคนเพศไหน?
-
0:36 - 0:38ฉันเข้าใจ
-
0:38 - 0:40เราถูกโปรแกรมทางพันธุกรรมกำหนดไว้
-
0:40 - 0:42ให้ตามหาผู้คนที่มีลักษณะเหมือนกับเรา
-
0:42 - 0:45เราเริ่มสร้างกลุ่มของตัวเองทันทีที่เราโตพอ
-
0:45 - 0:47ที่จะรู้ว่าความรู้สึกของการได้รับการยอมรับเป็นอย่างไร
-
0:47 - 0:49เราผูกพันกันด้วยทุกสิ่งที่เราจะสัมพันธ์กันได้
-
0:49 - 0:54ความชอบด้านดนตรี เชื้อชาติ เพศ หรือแม้แต่ละแวกบ้านที่เราโตมา
-
0:54 - 1:01เรามองหาสภาพแวดล้อมที่ขับเน้นความชอบของเรา
-
1:01 - 1:04แต่ว่าก็ว่าเหอะ บางครั้งคำถามธรรมดาว่า คุณทำงานอะไร?
-
1:04 - 1:06อาจทำให้เรารู้สึกว่า เค้ากำลังเปิดกล่องใบเล็กจิ๋ว
-
1:06 - 1:07แล้วขอให้คุณยัดตัวของคุณลงในนั้น
-
1:07 - 1:11เพราะการแบ่งประเภทแบบนั้น ฉันพบว่า เป็นขอบเขตที่แคบเกินไป
-
1:11 - 1:13กล่องเหล่านั้นแคบเกินไป
-
1:13 - 1:15และสิ่งนั้นก็อาจเป็นเรื่องอันตรายได้
-
1:15 - 1:17ดังนั้น เพื่อทำความรู้จัก และปฏิเสธข้อจำกัดต่างๆเกี่ยวกับฉัน
-
1:17 - 1:18ก่อนที่เราจะลงลึกกันต่อไป
-
1:18 - 1:21ฉันเติบโตขึ้นมาในสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการปกป้องจากขนบ
-
1:21 - 1:25ฉันถูกเลี้ยงดูมา ในแมนฮัตตัน ในช่วงต้นทศวรรษ 1980
-
1:25 - 1:29ห่างจากศูนย์กลางของดนตรีแนวพังค์ ไปสองช่วงตึก
-
1:29 - 1:31ฉันได้รับการปกป้องจากความเชื่อที่ไม่มีเหตุผลทั้งหลาย
-
1:31 - 1:35และจากข้อจำกัดทางสังคมต่างๆ ที่มีอยู่ในการเลี้ยงดูเด็กในสังคมเคร่งศาสนา
-
1:35 - 1:39ในแถบที่ฉันโตมา ถ้าคุณไม่ใช่นางโชว์ หรือ นักคิดหัวสมัยใหม่
-
1:39 - 1:41หรือนักแสดง อะไรซักอย่างแล้วล่ะก็
-
1:41 - 1:43คุณเป็นตัวประหลาด
-
1:43 - 1:44(หัวเราะ)
-
1:44 - 1:46มันเป็นการเลี้ยงดูที่ผิดไปจากขนบ
-
1:46 - 1:49แต่ในฐานะที่เป็นเด็กนิวยอรค์
-
1:49 - 1:51คุณจะเรียนรู้ที่จะเชื่อสัญชาติญาณของตัวเอง
-
1:51 - 1:53คุณเรียนรู้ที่จะทำตามความคิดของคุณ
-
1:53 - 1:57เพราะงั้น ตอนหกขวบ ฉันจึงตัดสินใจที่จะเป็นเด็กผู้ชาย
-
1:57 - 2:00ฉันไปโรงเรียนวันหนึ่ง แล้วคนอื่นๆ
ไม่ยอมให้ฉันเล่นบาสเก็ตบอลกับพวกเขา -
2:00 - 2:02พวกเขาบอกว่า ไม่ให้ผู้หญิงเล่นหรอก
-
2:02 - 2:03เพราะงั้น ฉันจึงกลับบ้าน โกนหัว
-
2:03 - 2:06แล้วก็กลับมาในวันรุ่งขึ้น แล้วบอกว่า "ฉันเป็นผู้ชาย"
-
2:06 - 2:07ใครจะไปรู้ ใช่ไหม
-
2:07 - 2:10ตอนคุณอายุหกขวบ คุณอาจจะสามารถทำแบบนั้นได้
-
2:10 - 2:14ฉันไม่อยากให้ใครรู้ว่าฉันเป็นเด็กผู้หญิง แล้วพวกเขาก็ไม่รู้
-
2:14 - 2:17ฉันเก็บความลับไว้ได้ เป็นเวลาแปดปี
-
2:17 - 2:21นี่คือภาพของฉันตอนฉันอายุสิบเอ็ด
-
2:21 - 2:22ฉันเล้นเป็นเด็กผู้ชายชื่อ วอลเตอร์
-
2:22 - 2:25ในหนังเรื่อง "จูเลียน โป"
-
2:25 - 2:28เป็นเด็กข้างถนนที่เดินตาม คอยกวนใจ คริสเตียน สเลเตอร์
-
2:28 - 2:30เห็นมั้ย ฉันเป็นนักแสดงเด็กด้วย
-
2:30 - 2:33ซึ่งทำให้มีชั้นของการแสดงมาปกคลุม ตัวตนของฉันเพิ่มขึ้นไปอีก
-
2:33 - 2:39เพราะไม่มีใครรู้ว่า ที่จริงแล้วฉันเป็นเด็กผู้หญิงที่เล่นเป็นเด็กผู้ชาย
-
2:39 - 2:42อันที่จริง ไม่มีใครในชีวิตฉันตอนนั้น รู้เลยว่าฉันเป็นผู้หญิง
-
2:42 - 2:44คุณครู หรือเพื่อนที่โรงเรียนก็ไม่รู้
-
2:44 - 2:46ผู้กำกับที่ฉันทำงานด้วยก็ไม่รู้
-
2:46 - 2:48เด็กคนอื่นๆ มักจะเดินเข้ามาหาฉันในห้องเรียน
-
2:48 - 2:51แล้วก็จับคอฉันเพื่อหาลูกกระเดือก
-
2:51 - 2:54หรือจับเป้ากางเกงเพื่อเช็คดู
-
2:54 - 2:56เวลาเข้าห้องน้ำ ฉันจะหันรองเท้ากลับในห้องน้ำ
-
2:56 - 2:59เพื่อให้ดูเหมือนว่าฉันกำลังยืนฉี่อยู่
-
2:59 - 3:01เวลาไปนอนบ้านเพื่อน ฉันจะหวาดผวา
-
3:01 - 3:03พยายามบอกพวกเด็กผู้หญิงว่า พวกเธอไม่ควรจะจูบฉันหรอก
-
3:03 - 3:05โดยไม่เปิดเผยว่าฉันเป็นผู้หญิง
-
3:05 - 3:07ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นเรื่องจำเป็นที่ฉันจะต้องบอกว่า
-
3:07 - 3:11ฉันไม่ได้รังเกียจร่างกาย หรืออวัยวะเพศของฉัน
-
3:11 - 3:13ฉันไม่ได้รู้สึกว่าฉันอยู่ในร่างที่ไม่ใช่
-
3:13 - 3:15ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังแสดงบทบาทหนึ่งอยู่
-
3:15 - 3:19ฉันคงไม่ผ่านคุณสมบัติการเป็นคนข้ามเพศหรอก
-
3:19 - 3:21ถ้าครอบครัวของฉันเป็นพวกที่เชื่อในการบำบัดเรื่องเหล่านี้
-
3:21 - 3:23พวกเขาก็คงวินิจฉัยฉันไปแล้ว
-
3:23 - 3:24ว่าเป็นอะไรประมาณ ภาวะสับสนทางเพศ
-
3:24 - 3:27แล้วก็ให้ฮอร์โมนฉัน เพื่อเลื่อนวัยเจริญพันธุ์ออกไป
-
3:27 - 3:28แต่ในกรณีของฉัน
-
3:28 - 3:29ฉันก็แค่ตื่นขึ้นมาวันนึง ตอนฉันอายุสิบสี่
-
3:29 - 3:32แล้วตัดสินใจว่า ฉันอยากจะเป็นผู้หญิงละ
-
3:32 - 3:35ฉันเข้าสู่วัยสาว แต่ฉันไม่รู้เลยว่า การเป็นผู้หญิงคืออะไร
-
3:35 - 3:39ฉันพร้อมที่จะค้นหาคำตอบว่า ฉันเป็นใครกันแน่
-
3:39 - 3:41เมื่อเด็กคนหนึ่งทำแบบที่ฉันทำ
-
3:41 - 3:43พวกเขาไม่ได้จำเป็นจะต้องพูดมันออกมา ใช่ไหม
-
3:43 - 3:45ก็ไม่มีใครถึงกับประหลาดใจหรอกนะ
-
3:45 - 3:49(หัวเราะ)
-
3:49 - 3:53แต่พ่อแม่ไม่ได้ถามฉัน ให้ระบุว่าฉันเป็นอะไร
-
3:53 - 3:55ตอนฉันอายุสิบห้า ฉันโทรหาพ่อ
-
3:55 - 3:57เพื่อบอกว่า ฉันตกหลุมรัก
-
3:57 - 3:59มันเป็นสิ่งสุดท้ายในความคิดของพวกเราทั้งสองฝ่าย
-
3:59 - 4:01ที่จะคุยกันถึงผลลัพธ์
-
4:01 - 4:03ของความจริงที่ว่า รักครั้งแรกของฉันเป็นผู้หญิง
-
4:03 - 4:05สามปีต่อมา ตอนที่ฉันตกหลุมรักผู้ชาย
-
4:05 - 4:08พ่อกับแม่ของฉันก็ไม่ได้เห็นว่ามันแปลกหรืออะไร
-
4:08 - 4:11เห็นไหมคะว่า นี่เป็นข้อดีอย่างนึงของการโตมานอกขนบ
-
4:11 - 4:13ที่ฉันไม่ได้ถูกขอให้ ให้คำจำกัดความเกี่ยวกับตัวเอง
-
4:13 - 4:16ไม่ว่าจะเป็นอะไร ตอนไหน
-
4:16 - 4:20ฉันได้รับอนุญาตให้เป็นฉัน เติบโต และเปลี่ยนแปลงไปในทุกขณะ
-
4:20 - 4:23เมื่อสี่ หรือเกือบห้าปีก่อน
-
4:23 - 4:26ข้อเสนอที่ 8 ซึ่งเป็นการถกเถึยงครั้งใหญ่
เกี่ยวกับความเท่าเทียมกันด้านการแต่งงาน -
4:26 - 4:28ได้ทำให้เกิดความสับสนมากมายในประเทศนี้
-
4:28 - 4:31ตอนนั้น การแต่งงานไม่ใช่เรื่องอะไรที่
-
4:31 - 4:32ฉันจะใช้เวลาคิดถึงมันเท่าไหร่นัก
-
4:32 - 4:35แต่ฉันกลับประหลาดใจกับการที่ อเมริกา
-
4:35 - 4:37ประเทศซึ่งมีสถิติอันมัวหมองเรื่องสิทธิพลเมือง
-
4:37 - 4:39จะย้อนรอยความผิดตัวเองได้อย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้
-
4:39 - 4:41และฉันจำได้ว่า ฉันดูการถกกันเรื่องนี้ในโทรทัศน์
-
4:41 - 4:43แล้วก็คิดว่ามันช่างน่าสนใจอะไรเช่นนี้
-
4:43 - 4:46ที่การแบ่งเขตการปกครอง และ เขตสังฆมณฑล
-
4:46 - 4:50เป็นสิ่งที่แบ่งแยก และสร้างขอบเขตต่างๆขึ้นในประเทศนี้
-
4:50 - 4:51ระหว่างพื้นที่ที่ผู้คนเชื่อ
-
4:51 - 4:53และพื้นที่ๆผู้คนไม่เชื่อ
-
4:53 - 4:59แล้วการถกกันนั้นก็ได้สร้างขอบเขตรอบๆตัวฉันด้วย
-
4:59 - 5:02เพราะถ้านี่เป็นการทำสงครามระหว่างสองฝ่าย
-
5:02 - 5:05ฉันก็กลายเป็นฝ่ายรักร่วมเพศ โดยอัตโนมัติ
-
5:05 - 5:08เพราะฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์
-
5:08 - 5:12ในตอนนั้น ฉันพึ่งจะโผล่ขึ้นมา
-
5:12 - 5:15จากช่วงเวลาแปดปี ที่ฉันสับสนเกี่ยวกับตัวตนของตัวเอง
-
5:15 - 5:17เส้นทางที่เริ่มจากการเป็นเด็กผู้ชาย
-
5:17 - 5:21กลายเป็นเด็กผู้หญิงประหลาด
ที่ดูเหมือนเด็กผู้ชายในเสื้อผ้าเด็กผู้หญิง -
5:21 - 5:23กลายเป็นขั้วตรงข้าม คือสาวผอมเพรียว
-
5:23 - 5:26ที่แสดงความเป็นผู้หญิ๊ง ผู้หญิง
ตามจีบผู้ชาย เพื่อกลบเกลื่อน -
5:26 - 5:30จนท้ายที่สุด นี่เป้นแค่การค้นหาตนเองอย่างคร่าวๆว่าฉันเป็นอะไรแน่เท่านั้นนะ
-
5:30 - 5:32กลายเป็นสาวห้าว
-
5:32 - 5:36ที่ชอบทั้งผู้ชายและผู้หญิง แล้วแต่ว่าคนๆนั้นนิสัยเป็นไง
-
5:36 - 5:41ฉันใช้เวลาหนึ่งปีในการเก็บภาพเด็กผู้หญิงในยุคใหม่นี้
ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆกับฉัน -
5:41 - 5:42ซึ่งรู้สึกก้ำกึ่งระหว่างสองเพศ
-
5:42 - 5:46เด็กผู้หญิงที่เล่นสเก็ตบอร์ด แต่สวมชั้นในลูกไม้
-
5:46 - 5:50เด็กผู้หญิงที่ตัดผมทรงเด็กผู้ชาย แต่ทาเล็บแบบเด็กผู้หญิง
-
5:50 - 5:53เด็กผู้หญิงที่ทาอายแชโดว์ ให้เข้ากับรอยหัวเข่าถลอก
-
5:53 - 5:56เด็กผู้หญิงที่ชอบผู้หญิง และเด็กผู้ชาย ที่ชอบทั้งผู้ชายและผู้หญิง
-
5:56 - 5:58คนซึ่งรังเกียจการถูกจับใส่กล่องแยกประเภท ให้ เป็น อะไร
-
5:58 - 6:02ฉันรักผู้คนเหล่านี้ และชื่นชมในเสรีภาพของพวกเขา
-
6:02 - 6:05แต่ฉันก็เฝ้ามองดู ในขณะที่โลก
นอกฟองสบู่แห่งยูโทเปียของพวกเรา -
6:05 - 6:06ได้ระเบิดขึ้น กลายเป็นการโต้แย้งที่รุนแรงเหล่านี้
-
6:06 - 6:12โลกที่ซึ่งผู้รู้เริ่มพยายามสร้างภาพให้ความรักของพวกเรากลายเป็นการสมสู่ ผ่านทางรายการโทรทัศน์ทั่วประเทศ
-
6:12 - 6:14ฉันเกิดความรู้สึกขึ้นมาอย่างรุนแรงว่า
-
6:14 - 6:20ฉันกลายเป็นชนกลุ่มน้อย ในประเทศของตัวเอง
-
6:20 - 6:22เพียงเพราะลักษณะบางอย่างของตัวฉัน
-
6:22 - 6:28ฉันกลายเป็นพลเมืองชั้นสองตามกฏหมายอย่างโต้แย้งไม่ได้
-
6:28 - 6:29ฉันไม่ใช่นักเรียกร้องสิทธิ
-
6:29 - 6:32ฉันไม่ค่อยโบกธงแสดงความเป็นอะไรเท่าใหร่ ในชีวิตของฉัน
-
6:32 - 6:34แต่ฉันได้รับผลกระทบ จากคำถามนี้
-
6:34 - 6:37เป็นไปได้อย่างไร ที่จะมีใครสักคนสามารถเลือก
ที่จะถอดถอนสิทธิ -
6:37 - 6:39ของผู้คนหลากหลายจำนวนมากที่ชั้นรู้จัก
-
6:39 - 6:43เพียงเพราะเสี้ยวหนึ่งของบุคลิกลักษณะของพวกเขา
-
6:43 - 6:44พวกเขาพูดได้อย่างไรว่า พวกเรา ในกลุ่มนี้
-
6:44 - 6:47ไม่มีสิทธิที่จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันกับคนอื่นๆ
-
6:47 - 6:49พวกเราเป็นกลุ่มด้วยหรือ? กลุ่มอะไรล่ะ?
-
6:49 - 6:53แล้วผู้คนเหล่านี้ เขาเคยพบเหยื่อ
จากการแบ่งแยกของพวกเขาอย่างจริงจังหรือไม่ -
6:53 - 6:57พวกเขารู้หรือไม่ว่ากำลังต่อต้านใคร หรือ
ผลของการโหวตนี้คืออะไร? -
6:57 - 6:59แล้วฉันก็คิดขึ้นมาว่า
-
6:59 - 7:02บางทีถ้าพวกเขาได้มองตา
-
7:02 - 7:05มองหน้าคนที่พวกเขากำลังตัดสินให้เป็นพลเมืองชั้นสอง
-
7:05 - 7:07มันอาจจะทำให้พวกเขาตัดสินใจลำบากขึ้น
-
7:07 - 7:09อาจจะทำให้พวกเขาหยุดคิด
-
7:09 - 7:15แน่นอนว่า เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะพาคนยี่สิบล้านคน
มาทานข้าวเย็นด้วยกัน -
7:15 - 7:19ฉันก็เลยหาทางที่จะทำให้พวกเขาได้รู้จักกันผ่านภาพถ่าย
-
7:19 - 7:22โดยไม่มีการตกแต่ง จัดแสง
-
7:22 - 7:26หรือการจัดการใดๆ เลย
-
7:26 - 7:28เพราะจากภาพถ่าย คุณสามารถจ้องดูหนวดของสิงโตได้
-
7:28 - 7:31โดยไม่ต้องกลัวว่ามันจะขย้ำคุณ
-
7:31 - 7:34สำหรับฉัน การถ่ายภาพ ไม่ใช่แค่การนำรูปมาแสดง
-
7:34 - 7:36มันเป็นการเปิดโลก ให้กับผู้ชม
-
7:36 - 7:38พาเขาไปเจอสิ่งใหม่ๆ ไปที่ๆพวกเขาไม่เคยไป
-
7:38 - 7:42และที่สำคัญ ไปพบผู้คนที่พวกเขาหวาดกลัว
-
7:42 - 7:44นิตยสาร Life ได้แนะนำคนหลายรุ่น
-
7:44 - 7:48ให้รู้จักกับวัฒนธรรมที่ห่างไกล
ที่พวกเขาไม่เคยนึกว่าจะมีอยู่ ผ่านภาพถ่าย -
7:48 - 7:54ฉันเลยตัดสินใจจะเก็บภาพบุคคลจำนวนหนึ่ง
-
7:54 - 7:56ภาพถ่ายหน้าตรงแบบที่ตำรวจใช้
-
7:56 - 7:59แล้วก็ตัดสินใจถ่ายรูปใครก็แล้วแต่ในประเทศนี้
-
7:59 - 8:02ที่ไม่แมน หรือ หญิงร้อยเปอร์เซ็นต์
-
8:02 - 8:05ซึ่งก็ ถ้าคุณไม่รู้ เป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนทีเดียว
-
8:05 - 8:07(หัวเราะ)
-
8:07 - 8:10นี่เป็นงานใหญ่มากทีเดียว
-
8:10 - 8:12และเราก็ต้องการความช่วยเหลือ
-
8:12 - 8:14ฉันวิ่งออกไปในช่วงที่หนาวมาก
-
8:14 - 8:18ไปถ่ายรูปทุกๆคน เท่าที่ฉันจะหาได้
-
8:18 - 8:22ในเดือนกุมภาพันธ์ ประมาณสองปีที่แล้ว
-
8:22 - 8:26ฉันถ่ายรูป แล้วก็ไปที่องค์กรสิทธิมนุษยชน เพื่อขอให้พวกเขาช่วย
-
8:26 - 8:28พวกเขาให้ทุนสนับสนุนการถ่ายภาพในนิวยอร์ก สองอาทิตย์
-
8:28 - 8:31ทำให้เราได้สิ่งนี้มาค่ะ
-
8:31 - 8:43(ดนตรี)
-
8:43 - 8:48วีดีโอ: ฉัน ไอโอ ทิลลเลท ไรท์ เป็นศิลปินที่เกิดและโตในนิวยอร์ก
-
8:48 - 9:01(ดนตรี)
-
9:01 - 9:05โครงการความจริงเกี่ยวกับตัวเรา
เป็นการบันทึกภาพชาวเกย์ในอเมริกา -
9:05 - 9:07เป้าหมายของฉันคือการถ่ายภาพหน้าตรง
-
9:07 - 9:10ของใครก็ตามที่เป็นอะไรก็แล้วแต่
ที่ไม่แมน หรือ หญิงร้อยเปอร์เซ็นต์ -
9:10 - 9:15หรือรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในกลุ่ม เกย์ เลสเปี้ยน ในทางใดก็ตาม
-
9:15 - 9:18เป้าหมายของฉันคือการแสดงถึง
ความเป็นมนุษย์ที่มีอยู่ในตัวเราทุกคน -
9:18 - 9:20ผ่านรูปลักษณ์ธรรมดาๆ ของใบหน้า
-
9:20 - 9:23(ดนตรี)
-
9:23 - 9:26เรายึดถือความจริงนี้ที่ปรากฏอยู่แก่เราว่า ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน
-
9:26 - 9:28ควาามจริงนี้เขียนอยู๋ใน คำประกาศอิสรภาพ [แห่งอเมริกา]
-
9:28 - 9:30เรากำลังล้มเหลว ในฐานะรัฐชาติ
-
9:30 - 9:32ในการรักษาแนวทางแห่งสิทธิ ที่เป็นที่มาของการก่อตั้งประเทศนี้
-
9:32 - 9:34ไม่มีความเท่าเทียมกันในสหรัฐฯ
-
9:34 - 9:36[ความเท่าเทียมกันหมายถึงอะไรสำหรับคุณ?]
-
9:36 - 9:38[การแต่งงาน] [อิสรภาพ] [สิทธิของพลเมือง]
-
9:38 - 9:40[จงปฏิบัติกับคนอื่น เช่นเดียวกับที่ปฏิบัติต่อตนเอง]
-
9:40 - 9:44เป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องใช้ความคิด
-
9:44 - 9:46การต่อสู้เพื่อสิทธิที่เท่าเทียม
ไม่ใช่แค่เรื่องการแต่งงานของคนรักร่วมเพศ -
9:46 - 9:51ทุกวันนี้ ใน 29 รัฐ หรือกว่าครึ่งของประเทศเรา
-
9:51 - 9:55คุณสามารถถูกไล่ออกได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
เพียงเพราะเพศของคุณ -
9:55 - 9:58[ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ เรื่อง ความเท่าเทียมกัน?]
-
9:58 - 10:01ฉันได้ยินผู้คนนับร้อย ให้คำตอบเดียวกัน
-
10:01 - 10:05"พวกเราทุกคนควรรับผืดชอบ"
-
10:05 - 10:07จนถึงตอนนี้เราได้ถ่ายภาพ ของคน 300 คนในนิวยอร์ก
-
10:07 - 10:09และเราจะทำไม่ได้เลย
-
10:09 - 10:12หากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก องค์กรรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน
-
10:12 - 10:14ฉันอยากจะทำแบบนี้ทั่วประเทศ
-
10:14 - 10:18อยากจะไปถ่ายรูปคน 4 พันหรือ 5 พันคน ใน 25 เมือง
-
10:18 - 10:22นี่คือสิ่งที่ฉันทำได้ เพื่อเรียกร้องสิทธิให้กับคนในยุคเดียวกับฉัน
-
10:22 - 10:24ฉันขอท้าให้พวกคุณมองใบหน้าของผู้คนเหล่านี้
-
10:24 - 10:27แล้วบอกกับพวกเขาว่า พวกเขาสมควรได้รับสิทธิ
น้อยกว่ามนุษย์คนอื่นๆ -
10:27 - 10:29(ดนตรี)
-
10:29 - 10:31["ความจริงจากตัวเรา"]
-
10:31 - 10:33[4000 ใบหน้าจากทั่วอเมริกา]
-
10:33 - 10:37(ดนตรี)
-
10:37 - 10:46(เสียงปรบมือ)
-
10:46 - 10:50เราไม่ได้เตรียมใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเลย
-
10:50 - 10:53มีคนประมาณแปดหมื่นห้าพันคนดูวีดีโอนั้น
-
10:53 - 10:56แล้วก็เริ่มส่งเมลมาหาพวกเรา จากทั่วทั้งประเทศ
-
10:56 - 11:00ขอให้พวกเราไปยังเมืองของเขา ไปถ่ายรูปพวกเขา
-
11:00 - 11:05มีคนที่ยินยอมให้พวกเราถ่ายภาพ มากกว่าที่เราคาดเอาไว้
-
11:05 - 11:08ฉันจึงเปลี่ยนเป้าหมายของเราเป็น หนึ่งหมื่น
-
11:08 - 11:12วีดีโอนั้น ทำขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ ปี 2011
-
11:12 - 11:16จนถึงวันนี้ ฉันได้เดินทางไป 20 เมือง
-
11:16 - 11:19และถ่ายรูปคนกว่า 2000 คน
-
11:19 - 11:22ฉันรู้ว่านี่เป็นการพูด
-
11:22 - 11:25แต่ฉันอยากจะขอเวลาเงียบๆสักนาทีหนึ่ง
-
11:25 - 11:26ให้ทุกคนมองดูใบหน้าเหล่านี้
-
11:26 - 11:30เพราะว่าสิ่งที่ฉันพูดคงไม่สามารถอธิบายภาพเหล่านี้ได้
-
11:30 - 11:32เพราะถ้าภาพหนึ่งแทนคำพูดร้อยพัน
-
11:32 - 11:36ภาพใบหน้าคนหนึ่งคนนั้นคงต้องใช้คำศัพท์ใหม่ทั้งหมดมาอธิบาย
-
11:57 - 12:01หลังจากที่ฉันได้เดินทาง และ พูดคุยกับผู้คนมากมาย
-
12:01 - 12:05ในเมืองอย่าง โอคลาโฮมา หรือ เมืองเล็กๆ ในเทกซัส
-
12:05 - 12:08เราได้พบว่า การตั้งสมมติฐานเบื้องต้นนั้น ผิดเสมอ
-
12:08 - 12:10การมอง การดู เป็นกุญแจสำคัญ
-
12:10 - 12:13ความคุ้นเคย เป็นประตู ที่นำไปสู่การเห็นอกเห็นใจกัน
-
12:13 - 12:17และเมื่อเรื่องราวหนึ่งเกิดขึ้นในบ้าน หรือในครอบครัวของคุณเอง
-
12:17 - 12:20คุณมักจะมีความเห็นอกเห็นใจกันมากกว่า
-
12:20 - 12:21หรือมีมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับเรื่องนั้นมากขึ้น
-
12:21 - 12:24แน่นอน ในระหว่างที่เดินทาง ฉันได้พบผู้คน
-
12:24 - 12:28คนที่ไม่ยอมรับลูกๆ ของพวกเขา ถ้าพวกเขาไม่รักเพศตรงข้าม
-
12:28 - 12:30แต่ฉันก็ได้พบผู้คนเคร่งศาสนาทางตอนใต้
-
12:30 - 12:33ที่เปลี่ยนโบสถ์ที่พวกเขาไป
เนื่องจากว่าลูกของเขาเป็นเลสเบี้ยน -
12:33 - 12:38ความเห็นอกเห็นใจ กลายเป็นประเด็นสำคัญ ของโครงการนี้
-
12:38 - 12:41แต่นี่เป็นสิ่งที่ฉันได้เริ่มเรียนรู้ว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจจริงๆ:
-
12:41 - 12:45ความจริงเกี่ยวกับตัวเราไม่ได้ลบความแตกต่างระหว่างเรา
-
12:45 - 12:49ที่จริง มันยิ่งทำให้ความแตกต่างนั้น ชัดเจนขึ้น
-
12:49 - 12:51มันไม่เพียงนำเสนอความซับซ้อน
-
12:51 - 12:53ที่อยู่ในตัวตนของมนุษย์คนอื่นๆเท่านั้น
-
12:53 - 12:57แต่ยังแสดงความซับซ้อนที่อยู่ในตัวของแต่ละบุคคลด้วย
-
12:57 - 13:01มันไม่ใช่ว่าเรามีกล่องมากเกินไป เรายังมีน้อยเกินไปต่างหาก
-
13:08 - 13:14ผ่านไประยะหนึ่ง ฉันเริ่มรู้สึกว่า
ความตั้งใจที่จะถ่ายรูปชาวเกย์ เป็นความตั้งใจที่ผิด -
13:14 - 13:17เพราะเรามีชาวเกย์มากมายหลายแบบ
-
13:17 - 13:20ฉันกำลังพยายามจะช่วย
-
13:20 - 13:23แต่กลายเป็นว่าฉันได้ทำสิ่งที่ฉันพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดชีวิต
-
13:23 - 13:26การแบ่งกลุ่ม จับคนใส่กล่อง
-
13:26 - 13:29ผ่านไประยะนึง ฉันเพิ่มคำถาม ลงในแบบยินยอมให้ใช้ภาพ
-
13:29 - 13:31ขอให้พวกเขา ระบุเปอร์เซ็นต์ความเป็นเกย์
-
13:31 - 13:34จากหนึ่ง ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์
-
13:34 - 13:38แล้วฉันก็ได้เห็น วิกฤติการณ์ด้านตัวตน เกิดขึ้นต่อหน้า มากมาย
-
13:38 - 13:41(หัวเราะ)
-
13:41 - 13:42หลายคนไม่รู้ว่าจะทำยังไง
-
13:42 - 13:44เพราะพวกเขาไม่เคยได้รับทางเลือกแบบนี้มาก่อน
-
13:44 - 13:46คุณสามารถระบุ ปริมาณความเปิดเผยของคุณได้หรือไม่
-
13:46 - 13:48หลังจากที่หายชีอก แล้ว
-
13:48 - 13:52คนส่วนมากจะเลือกอยู่ที่ 75 ถึง 95 เปอร์เซ็นต์
-
13:52 - 13:55หรือ 3 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์
-
13:55 - 13:58แน่นอนว่า มีคนจำนวนมากเหมือนกันที่เลือก 100 หรือ 1
-
13:58 - 14:00แต่ฉันพบว่าคนจำนวนมากกว่ามาก
-
14:00 - 14:03ที่ระบุตัวเองว่าอยู่ระหว่างกลาง
-
14:03 - 14:09ฉันพบว่าคนส่วนใหญ่จะตกอยู่ในกลุ่มที่เป็น สีเทา
-
14:09 - 14:13เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะเรื่องนี้สำคัญมาก
-
14:13 - 14:18ฉันไม่ได้บอกว่า ความนิยมทางเพศไม่มีอยู่จริง
-
14:18 - 14:23และฉันจะไม่พาดพิงถึงลักษณะการเลือกชอบเพศ
หรือผลของลักษณะทางชีวะภาพของบุคคล -
14:23 - 14:25เพราะถ้าจะมีใครเชื่อว่า
-
14:25 - 14:27ความนิยมทางเพศ เป็นทางเลือก
-
14:27 - 14:29ฉันจะขอให้คุณพยายาม ลองเป็นชาวสีเทาดู
-
14:29 - 14:31ฉันจะถ่ายรูปคุณ แค่ขอให้คุณลองดู
-
14:31 - 14:33(หัวเราะ)
-
14:33 - 14:37สิ่งที่ฉันจะบอกก็คือ มนุษย์เราไม่ได้มีเพียงด้านเดียว
-
14:37 - 14:43และสิ่งทำคัญ ที่เราได้จากการให้เปอร์เซ็นต์ความเกย์ ก็คือ
-
14:43 - 14:45ถ้าคุณบอกว่าคนฝั่งนี้เป็นเกย์
-
14:45 - 14:49แล้วฝั่งนี้เป็นคนธรรมดา
-
14:49 - 14:52และเราทราบว่า คนส่วนใหญ่บอกว่า
-
14:52 - 14:54พวกเขาอยู่ค่อนไปทางใดทางหนึ่ง
-
14:54 - 14:59ระหว่างตรงกลางนี้ ยังมีผู้คนอยู่อีกมากมาย
-
14:59 - 15:02ความจริงที่เราพบซับซ้อนกว่านั้นมาก
-
15:02 - 15:05ตัวอย่างเช่น ถ้าเราผ่านกฏหมาย
-
15:05 - 15:08อนุญาตให้เจ้านายไล่ลูกน้องออก หากเขาเป็นพวกรักร่วมเพศ
-
15:08 - 15:11คุณจะขีดเส้น ที่ตรงไหน
-
15:11 - 15:17ตรงนี้กับคนที่มีประสบการณ์กับเพศตรงข้ามเพียงหนึ่งหรือสองครั้ง
-
15:17 - 15:18หรือตรงนี้
-
15:18 - 15:22กับคนที่มีประสบการณ์รักร่วมเพศเพียงหนึ่งหรือสองครั้ง
-
15:22 - 15:27ตรงไหนที่แบ่งให้เราเป็นพลเมืองชั้นสอง
-
15:27 - 15:32สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้อีกอย่างหนึ่งจากการเดินทาง และโปรเจ๊กต์นี้
-
15:32 - 15:36คือ การจัดกลุ่มด้วยความนิยมทางเพศ นั้น ไม่ครอบคลุมเอาซะเลย
-
15:36 - 15:38หลังจากที่ฉันเดินทาง และพบผู้คนมากมาย
-
15:38 - 15:42ฉันจะบอกว่า มีพวกงี่เง่า มากพอๆกับคนน่ารัก
-
15:42 - 15:45มีพวกพรรคนี้ พรรคโน้น พวกนักกีฬา พวกแต๋ว
-
15:45 - 15:48แล้วก็กลุ่มอื่นๆ อีกมากมาย เท่าที่เราจะนึกออก
-
15:48 - 15:50ภายในกลุ่มชาวเกย์ และรักร่วมเพศนี่แหละ
-
15:50 - 15:53เช่นเดียวกับในมนุษยชาติ
-
15:53 - 15:58นอกเหนือจากความเป็นจริงที่ว่า
เราต่างถูกมัดมือข้างนึงด้วยกฏหมาย -
15:58 - 16:02เมื่อคุณสามารถดิ้นรน ต่อสู้ มองข้ามอคติมาได้ คุณจะเห็นว่า
-
16:02 - 16:03การเป็นคน ที่ไม่ได้รักเพศตรงข้าม
-
16:03 - 16:08ไม่ได้หมายความว่า เราไม่มีอย่างอื่นเหมือนกันเลย
-
16:08 - 16:17ใบหน้าหลากหลายที่เป็นส่วนหนึ่งของ
โครงการ ความจริงเกี่ยวกับตัวเรานี้ ได้กลายเป็น -
16:17 - 16:20สิ่งที่เราหวังว่าจะได้เผยแพร่ออกไปในสื่อ อีกหลายๆแขนง
-
16:20 - 16:25ทั้งป้ายรถเมล์ ป้ายโฆษณา หน้า facebook หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์
-
16:25 - 16:28บางทีการมองดูใบหน้าของมนุษยชาติ
-
16:28 - 16:31อาจนำไปสู่ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์
-
16:31 - 16:35และหวังว่าการแบ่งกลุ่ม แบ่งขั้ว
-
16:35 - 16:37และ กล่องที่ง่าย และธรรมดาเกินไปเหล่านี้
-
16:37 - 16:42จะเริ่มกลายเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ และหมดไปจากสังคมเรา
-
16:42 - 16:45เพราะแท้จริงแล้ว มันไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เรามองเห็นได้
-
16:45 - 16:49และไม่ไดอธิบายใครที่เรารู้จัก หรืออะไรที่เราเป็น
-
16:49 - 16:54ที่เราเห็น คือ ความหลากหลายของมนุษย์
-
16:54 - 16:58และยิ่งได้เห็น ยิ่งยากที่จะปฏิเสธ ความเป็นมนุษย์ของพวกเขา
-
16:58 - 17:02อย่างน้อย ฉันหวังว่า มันจะยากขึ้น
ที่จะปฏิเสธสิทธิมนุษยชนของพวกเขา -
17:02 - 17:06เฉพาะฉันรึเปล่านะ
-
17:06 - 17:09ที่คุณปฏิเสธที่จะให้สิทธิในการเป็นเจ้าของที่พักอาศัย
-
17:09 - 17:12สิทธิในการรับเลี้ยงดูบุตร สิทธิในการแต่งงาน
-
17:12 - 17:16เสรีภาพในการจับจ่าย หรืออยู่อาศัย
-
17:16 - 17:18ฉันรึเปล่า ที่คุณเลือกจะตัดขาด ห้ามไม่ให้เป็น
-
17:18 - 17:22ในฐานะที่เป็น ลูก เป็น พี่น้อง หรือ เป็นแม่ เป็นพ่อ
-
17:22 - 17:25เป็นเพื่อนบ้าน เป็นญาติ เป็นลุง เป็นประธานาธิปดี
-
17:25 - 17:28เป็นตำรวจหญิง หรือ เป็นพนักงานดับเพลิง
-
17:28 - 17:31มันสายไปแล้ว
-
17:31 - 17:34เพราะฉันเป็นในสิ่งเหล่านั้นแล้ว
-
17:34 - 17:39เราเป็นไปแล้ว และเราก็เป็นมาตลอด
-
17:39 - 17:42เพราะฉะนั้น อย่ามองว่าเราเป็นคนแปลกหน้า
-
17:42 - 17:45ปฏิบัติต่อเรา อย่างเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
-
17:45 - 17:46ขอบคุณค่ะ
-
17:46 - 17:57(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ไอโอ ทิลเล็ต ไรท์: 50 เฉดสีของความเป็นเกย์
- Speaker:
- iO Tillett Wright
- Description:
-
ศิลปินไอโอ ทิลเล็ต ไรท์ ได้ถ่ายภาพผู้คน 2,000 คนที่คิดว่าตนเองอยู่ในจุดใดจุดหนึ่งบนแถบสีความเป็นเกย์ (LBGTQ spectrum) และถามพวกเขาว่า คุณจะระบุเปอร์เซ็นต์ความเป็นเกย์หรือความเป็นชายจริงหญิงแท้ (straight) ของคุณได้หรือไม่? ผลปรากฏว่า คนส่วนใหญ่ตอบว่าตนเองอยู่ในบริเวณที่เป็นสีเทาของเพศสภาพ ไม่ได้เป็นเกย์หรือ straight ร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาที่แท้่จริงเกี่ยวกับการแบ่งแยก: คุณจะขีดเส้นไว้ที่ตรงไหน? (ถ่ายทำจาก TEDxWomen.)
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 18:18
Dimitra Papageorgiou approved Thai subtitles for Fifty shades of gay | ||
Chatthip Chaichakan accepted Thai subtitles for Fifty shades of gay | ||
Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for Fifty shades of gay | ||
Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for Fifty shades of gay | ||
Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for Fifty shades of gay | ||
Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for Fifty shades of gay | ||
Chatthip Chaichakan declined Thai subtitles for Fifty shades of gay | ||
Chatthip Chaichakan commented on Thai subtitles for Fifty shades of gay |