Return to Video

ทำไมผู้หญิงจึงควรเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวของมนุษยชาติ

  • 0:01 - 0:03
    ทำไมพวกเราถึงคิดว่า
  • 0:03 - 0:08
    เรื่องราวที่ผ่านการบอกเล่าโดยผู้ชาย
    เป็นเรื่องราวที่มีความสำคัญในโลกนี้
  • 0:08 - 0:12
    แต่เรื่องราวที่ถูกบอกเล่าโดยผู้หญิง
    กลับเป็นเรื่องราวของผู้หญิงด้วยกันเท่านั้น
  • 0:15 - 0:18
    ยายของฉันออกจากโรงเรียนเมื่ออายุได้ 12 ปี
  • 0:18 - 0:19
    ท่านมีลูก 14 คน
  • 0:20 - 0:22
    แม่ของฉันออกจากโรงเรียนเมื่ออายุ 15 ปี
  • 0:22 - 0:24
    และท่านได้ทำงานเป็นเลขานุการ
  • 0:24 - 0:27
    ส่วนตัวฉันเรียนจบจากมหาวิทยาลัย
    และทำงานเป็นผู้กำกับโรงละคร
  • 0:27 - 0:32
    นั่นทำให้ฉันได้พบว่า
    มีคนมากมายที่ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อน
  • 0:32 - 0:34
    ที่ต่อสู้เพื่อให้ผู้หญิงได้รับสิทธิ
  • 0:34 - 0:37
    ได้รับเลือกตั้ง ได้รับการศึกษา
    และได้เจริญก้าวหน้า
  • 0:37 - 0:41
    ฉันก็ได้ตัดสินใจที่จะทำในสิ่งเดียวกันนี้
    และแน่นอน พวกคุณก็ด้วย
  • 0:41 - 0:42
    ใช่ไหมล่ะคะ
  • 0:42 - 0:43
    (เสียงปรบมือ)
  • 0:43 - 0:47
    ฉันได้จัดตั้งโครงการ วีเมน ออฟเดอะ เวิร์ลด์
    ขึ้นมาเมื่อ 7 ปีที่แล้ว
  • 0:47 - 0:50
    และตอนนี้ มันก็ได้ขยายไปถึง 20 ประเทศ
    ใน 5 ทวีป
  • 0:50 - 0:54
    หนึ่งในนั้น คือประเทศโซมาลีแลนด์
    ในทวีปแอฟริกา
  • 0:54 - 0:56
    ฉันจึงได้เดินทางไปที่นั่นเมื่อปีที่แล้ว
  • 0:56 - 1:01
    ฉันได้สนุกกับการไปเที่ยวถ้ำค่ะ
    ซึ่งถ้ำที่คุณเห็นนี้มีชื่อว่า
  • 1:03 - 1:05
    ถ้ำลาส์จีล
  • 1:05 - 1:10
    บางส่วนของภาพเขียนผนังถ้ำที่นี่
    เป็นภาพเขียนผนังถ้ำที่เก่าแก่ที่สุดในโลกค่ะ
  • 1:11 - 1:16
    คาดว่าภาพเขียนเหล่านี้มีอายุประมาณ
    9,000 ถึง 11,000 ปี
  • 1:17 - 1:19
    ศิลปะ:
  • 1:19 - 1:22
    สิ่งที่มนุษย์ได้ทำมา
    นับแต่วันแรกที่มนุษย์เกิดขึ้น
  • 1:22 - 1:24
    มันเป็นวิธีการแสดงออก
    ถึงตัวตนของพวกเรา
  • 1:24 - 1:26
    ว่าเรานั้นเข้าใจตัวตนของเราว่าอย่างไร
  • 1:26 - 1:28
    เรามองสิ่งรอบๆตัวเราอย่างไร
  • 1:28 - 1:31
    และเรามองคนอื่นๆรอบตัวว่าเป็นอย่างไร
  • 1:31 - 1:34
    เพราะศิลปะนั้นมีไว้เพื่อ
  • 1:34 - 1:35
    ให้ชีวิตของเรามีความหมาย
  • 1:36 - 1:38
    ลองดูภาพเล็กๆภาพนี้สิคะ
  • 1:38 - 1:40
    ฉันคิดว่ามันเป็นภาพของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ
  • 1:40 - 1:43
    ที่ดูไปก็มีส่วนคล้ายฉัน
    ในตอนที่เป็นเด็กอยู่เหมือนกันนะคะ
  • 1:43 - 1:47
    ฉันได้คิดว่า ใครกันนะที่เป็นคนเขียนภาพ
    เด็กผู้หญิงที่สนุกสนานสมวัยนี้ขึ้น
  • 1:47 - 1:49
    ฉันจึงถามจากผู้ดูแลถ้ำ
  • 1:50 - 1:53
    ฉันขอให้เขาอธิบายเกี่ยวกับผู้ชายและผู้หญิง
    ที่เป็นผู้เขียนภาพเหล่านี้ขึ้นมา
  • 1:53 - 1:57
    เขามองฉันด้วยความสงสัย และพูดว่า
  • 1:57 - 1:59
    ผู้หญิงไม่ได้เป็นคนเขียนภาพพวกนี้ขึ้นมาหรอก
  • 1:59 - 2:02
    ฉันจึงตอบไปว่า ภาพนี้ถูกเขียนขึ้น
    เมื่อ 11,000 ปีที่แล้วนะคะ
  • 2:02 - 2:03
    แล้วคุณรู้ได้อย่างไรล่ะ
  • 2:03 - 2:06
    (เสียงหัวเราะ)
  • 2:06 - 2:10
    เขาตอบว่า ผู้หญิงไม่ทำเรื่องพวกนี้หรอก
  • 2:10 - 2:13
    ผู้ชายต่างหากที่เป็นคนทำ ผู้หญิงไม่ได้ทำ
  • 2:15 - 2:18
    ฉันไม่ได้ประหลาดใจอะไรมากหรอกค่ะ
  • 2:18 - 2:22
    เพราะนั่นก็เป็นทัศนคติที่ฉันพบมาตลอด
  • 2:22 - 2:25
    การทำงานเป็นผู้กำกับโรงภาพยนตร์
    ซึ่งฉันทำมาตลอดชีวิต
  • 2:27 - 2:32
    พวกเราได้รับการปลูกฝังว่า
    ความรู้ทางธรรมนั้นสืบทอดผ่านผู้ชาย
  • 2:32 - 2:37
    ไม่ว่าจะเป็น อิหม่าม บาทหลวง
    แรบไบ หรือนักบวชต่างๆ
  • 2:37 - 2:43
    ในทำนองเดียวกัน เราก็ได้รับการปลูกฝังว่า
    ผู้ชายเป็นเพศที่มีความอัจฉริยะในการสร้างสรรค์
  • 2:43 - 2:44
    นั่นหมายความว่า ผู้ชาย
  • 2:45 - 2:48
    จะเป็นผู้ที่สามารถบอกเราได้ว่า
    จริงๆแล้วพวกเราคือใคร
  • 2:48 - 2:51
    ผู้ชาย จะเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราว
    ที่มีความสำคัญในโลกนี้
  • 2:51 - 2:53
    ในฐานะที่เป็นตัวแทนของพวกเราทั้งหมด
  • 2:53 - 2:57
    ในขณะที่ศิลปินหญิง
    ก็จะบอกเล่าแต่ประสบการณ์ของผู้หญิง
  • 2:57 - 3:01
    เรื่องของผู้หญิง
    ที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงเท่านั้น
  • 3:01 - 3:04
    เรื่องเกี่ยวกับ
    การดึงดูดความสนใจจากผู้ชาย
  • 3:04 - 3:06
    และเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายบางคนเท่านั้น
  • 3:06 - 3:08
    และนี่ก็คือสิ่งยึดมั่น
  • 3:08 - 3:10
    ที่พวกเราได้รับการสอนมา
  • 3:10 - 3:13
    และฉันก็คิดทบทวนอยู่มากค่ะ
    ว่าพวกเราพร้อมหรือยังที่จะเชื่อว่า
  • 3:13 - 3:16
    จริงๆแล้ว เรื่องราวของผู้หญิง
    ก็มีความสำคัญเหมือนกัน
  • 3:16 - 3:20
    ถ้าพวกเราไม่เชื่อว่า
    เรื่องราวของผู้หญิงนั้นสำคัญ
  • 3:20 - 3:23
    สิทธิของผู้หญิงก็จะไม่ได้มีความหมายจริงๆ
  • 3:23 - 3:25
    การเปลี่ยนแปลงก็จะไม่เกิดขึ้น
  • 3:27 - 3:32
    ฉันอยากจะเล่าเรื่องสองเรื่อง
    ให้คุณฟังเป็นตัวอย่างค่ะ
  • 3:32 - 3:35
    มันเป็นเรื่องราวที่สำคัญของโลกนี้นะคะ
  • 3:35 - 3:37
    นั่นคือเรื่อง "อีที" กับ "แฮมเลต" ค่ะ
  • 3:37 - 3:40
    (เสียงหัวเราะ)
  • 3:40 - 3:44
    ฉันได้พาลูกของฉันสองคน ซึ่งตอนนั้นพวกเขายังเด็กอยู่
  • 3:44 - 3:47
    แคโรลีน 8 ขวบ และ ร็อบบี้ 5 ขวบ
  • 3:47 - 3:49
    ไปดู "อีที"
  • 3:49 - 3:52
    มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจ
    เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวตัวเล็กๆ
  • 3:52 - 3:54
    ที่ได้มาอยู่กับครอบครัวชาวอเมริกัน
  • 3:54 - 3:57
    ที่มีแม่ ลูกชายสองคน และลูกสาวหนึ่งคน
  • 3:57 - 3:59
    แต่เขาก็ต้องการที่จะกลับบ้าน
  • 4:00 - 4:02
    ไม่เพียงเท่านั้นนะคะ
    มีนักวิทยาศาสตร์แย่ๆบางคน
  • 4:02 - 4:05
    ที่ต้องการจะเอาเขาไปทำการทดลอง
  • 4:05 - 4:06
    และได้ออกตามหาตัวเขา
  • 4:07 - 4:09
    ในเรื่องนี้ เด็กๆก็เลยได้รับบทบาท
  • 4:09 - 4:11
    ซึ่งพวกเขาตัดสินใจที่จะพาอีที
    กลับไปส่งที่ยาน
  • 4:11 - 4:13
    ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
  • 4:13 - 4:15
    พวกเขาจึงเอาอีทีใส่ในตะกร้ารถจักรยาน
  • 4:15 - 4:16
    แล้วขี่ออกไป
  • 4:16 - 4:20
    แต่โชคไม่ดีนัก
    ที่คนแย่ๆเหล่านั้นมาเจอเข้าและตามไล่ล่า
  • 4:20 - 4:23
    พวกเขามีรถหวอ มีปืน
  • 4:23 - 4:25
    มีโทรโข่ง ซึ่งมันน่ากลัวมาก
  • 4:25 - 4:27
    พวกเขาได้ไล่ล่ามาติดๆ
  • 4:27 - 4:29
    ชนิดที่ว่าเด็กๆไม่มีทางพาอีที
    หนีไปได้ทันแน่นอน
  • 4:29 - 4:34
    แต่ทันใดนั้น จักรยานก็ทะยานขึ้นไปในอากาศ
    ด้วยเวทมนตร์บางอย่าง
  • 4:34 - 4:35
    ขึ้นไปเหนือก้อนเมฆ
  • 4:35 - 4:36
    เหนือดวงจันทร์
  • 4:36 - 4:39
    และพวกเขากำลังจะช่วยอีทีได้สำเร็จ
  • 4:39 - 4:42
    ฉันได้หันไปมองหน้าพวกลูกๆ
  • 4:42 - 4:46
    ร็อบบี้กำลังรู้สึกปลาบปลื้มมาก
    เหมือนเขาได้เข้าไปอยู่ในนั้นด้วย เขากำลังช่วยอีที
  • 4:46 - 4:48
    เขากำลังมีความสุข
  • 4:48 - 4:51
    แต่เมื่อฉันมองแคโรลีน
    เธอกำลังร้องไห้อย่างหนัก
  • 4:52 - 4:53
    ฉันจึงถามเธอว่า "หนูเป็นอะไรเหรอลูก"
  • 4:53 - 4:59
    เธอตอบว่า "ทำไมหนูถึงช่วยอีทีไม่ได้
    ทำไมหนูถึงไปด้วยไม่ได้ล่ะคะ"
  • 4:59 - 5:02
    ทันใดนั้นฉันก็เห็นว่า
  • 5:02 - 5:03
    "พวกเขา" ไม่ใช่ "เด็กๆ"
  • 5:04 - 5:05
    แต่ "พวกเขา" คือ "พวกเด็กผู้ชาย"
  • 5:06 - 5:08
    ทุกคนเป็นเด็กผู้ชาย
  • 5:08 - 5:11
    และแคโรลีน ผู้ซึ่งก็รัก
    และอยากจะช่วยอีทีเหมือนกัน
  • 5:11 - 5:13
    กลับไม่ได้รับโอกาสที่จะปกป้องอีที
  • 5:13 - 5:16
    เธอจึงรู้สึกอับอายที่ถูกปฏิเสธ
  • 5:16 - 5:18
    ฉันจึงเขียนจดหมายไปหา สตีเว่น สปีลเบิร์ก
  • 5:18 - 5:24
    (เสียงหัวเราะ)(เสียงปรบมือ)
  • 5:24 - 5:27
    ฉันเขียนไปว่า
    "ฉันไม่แน่ใจว่าคุณจะเข้าใจหรือเปล่า
  • 5:27 - 5:29
    ถึงผลกระทบทางจิตใจ
    ที่ได้เกิดขึ้นกับลูกสาวของฉัน
  • 5:29 - 5:32
    แต่ฉันคิดว่าคุณต้องเตรียมตัวจ่ายค่ารักษาแล้วนะคะ"
  • 5:32 - 5:33
    (เสียงหัวเราะ)
  • 5:33 - 5:36
    ยี่สิบปีต่อมา ฉันก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากเขา
  • 5:36 - 5:38
    แต่ฉันก็ยังมีความหวังอยู่ค่ะ
  • 5:38 - 5:39
    (เสียงหัวเราะ)
  • 5:39 - 5:41
    ฉันว่ามันก็น่าสนใจอยู่นะคะ
  • 5:41 - 5:44
    เพราะในบทความ เขาได้บอกถึงความตั้งใจ
    ที่สร้างเรื่องอีทีขึ้นมา
  • 5:44 - 5:46
    ไว้อย่างเฉพาะเจาะจงว่า
  • 5:46 - 5:48
    "ผมอยากให้ผู้คนในโลกนี้ได้เข้าใจ
  • 5:48 - 5:51
    ว่าพวกเราควรรักและหวงแหนความแตกต่าง"
  • 5:52 - 5:56
    แต่เขาก็ไม่ได้ใส่แนวคิดของความแตกต่างระหว่างเพศ
  • 5:56 - 5:58
    ลงไปด้วยในความคิดของเขา
  • 5:58 - 6:02
    เขาคิดว่าเขาได้เขียนเรื่องราวของมนุษยชาติทั้งหมด
  • 6:02 - 6:04
    แต่แคโรลีนคิดว่าเรื่องของเขายังจำกัดอยู่แค่
  • 6:04 - 6:06
    มนุษย์เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น
  • 6:06 - 6:09
    เขาคิดว่าเขาได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับ
    คุณงามความดีของมนุษย์
  • 6:09 - 6:13
    แต่เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องการผจญภัย
    ของเด็กหนุ่มผู้กล้าหาญ
  • 6:14 - 6:16
    และนี่ก็เป็นเรื่องปกติค่ะ
  • 6:17 - 6:22
    พวกผู้ชายจะรู้สึกเหมือนตัวเอง
    เป็นศูนย์กลางของจักรวาล
  • 6:22 - 6:24
    แต่ทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้นได้ล่ะคะ
  • 6:24 - 6:28
    พวกเขากำลังเขียนเรื่องจาก
    ประสบการณ์และสายตาของผู้ชาย
  • 6:30 - 6:32
    ถึงเวลาที่พวกเรา
    จะต้องสนใจประเด็นนี้กันแล้วล่ะค่ะ
  • 6:32 - 6:36
    เราต้องเตรียมใจที่จะย้อนกลับไปดู
    หนังสือ ภาพยนตร์
  • 6:36 - 6:37
    และสิ่งต่างๆที่เราชอบ
  • 6:37 - 6:40
    และบอกตัวเองว่า "จริงๆแล้ว
    สิ่งนี้เขียนขึ้นมาโดยศิลปินชาย
  • 6:40 - 6:42
    ไม่ใช่ศิลปินคนหนึ่ง"
  • 6:42 - 6:45
    เรื่องราวเหล่านี้จำนวนมาก
  • 6:45 - 6:47
    ถูกเขียนขึ้นผ่านมุมมองของผู้ชาย
  • 6:47 - 6:49
    ซึ่งมันก็ไม่ได้ผิดอะไรค่ะ
  • 6:49 - 6:52
    แต่ผู้หญิงก็ควรจะมีสิทธิ์ครึ่งหนึ่ง
  • 6:52 - 6:55
    ในเวที ภาพยนตร์ นวนิยาย
  • 6:55 - 6:57
    และสิ่งแสดงความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ
  • 6:58 - 6:59
    ถ้าจะพูดถึงเรื่อง "แฮมเล็ต"
  • 6:59 - 7:01
    "อยู่หรือตายจะดีกว่ากัน"
  • 7:01 - 7:03
    นั่นเป็นวลีคำถามจากในเรื่องค่ะ
  • 7:03 - 7:04
    แต่ไม่ใช่คำถามของฉัน
  • 7:05 - 7:09
    คำถามของฉันคือ ทำไมฉันจึงถูกสอน
    ในตอนที่ฉันเป็นวัยรุ่น
  • 7:09 - 7:13
    ว่าเรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่สำคัญที่เล่าถึง
    วิกฤติการณ์ของมนุษย์
  • 7:13 - 7:15
    และประสบการณ์ของมนุษย์
  • 7:15 - 7:16
    มันเป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมมากค่ะ
  • 7:16 - 7:21
    แต่จริงๆแล้ว มันเป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่กลัวว่า
  • 7:21 - 7:24
    เขาจะทำหน้าที่เป็นผู้ปกครอง
    ในโลกของผู้ชายได้ไม่ดี
  • 7:24 - 7:27
    ถ้าเขาไม่ได้แก้แค้นให้กับพ่อของเขาที่ถูกฆ่า
  • 7:28 - 7:32
    เขาบอกกับพวกเราหลายครั้ง
    ว่าเขาอาจเลือกที่จะฆ่าตัวตาย
  • 7:32 - 7:37
    แต่คนที่ฆ่าตัวตายจริงๆ กลับเป็นโอฟีเลีย
  • 7:37 - 7:39
    จากการที่เขาได้ล่วงเกินเธอ
    และทำให้เธออับอาย
  • 7:39 - 7:43
    เธอไม่มีแม้โอกาสจะพูดถึง
    ความรู้สึกของเธอให้ผู้ชมได้รู้
  • 7:43 - 7:46
    หลังจากที่เขาได้จัดการกับโอฟีเลียแล้ว
    เขาก็หันไปจู่โจมแม่ของเขาแทน
  • 7:46 - 7:49
    เพราะอย่างน้อย เธอก็สามารถ
    จะตกหลุมรักกับลุงของเขาได้
  • 7:49 - 7:50
    และสนุกกับการทำกามกิจร่วมกัน
  • 7:50 - 7:52
    (เสียงหัวเราะ)
  • 7:52 - 7:54
    มันเป็นเรื่องราวที่ดีค่ะ
  • 7:54 - 7:59
    แต่มันเป็นเรื่องของความขัดแย้ง
    วิกฤติการณ์ และการดิ้นรนของผู้ชาย
  • 8:00 - 8:04
    แต่เขาบอกฉันว่า นี่เป็นเรื่องราวของมนุษย์
  • 8:04 - 8:07
    แม้ว่าในเรื่องจะมีผู้หญิงอยู่แค่สองคนก็ตาม
  • 8:07 - 8:10
    และถ้าฉันไม่พยายามจะทำความเข้าใจเองเสียใหม่
  • 8:10 - 8:12
    ฉันก็คงจะคิดอยู่เสมอว่า
  • 8:12 - 8:15
    เรื่องราวของผู้หญิงนั้น
    ไม่ได้มีความหมายเท่าเรื่องของผู้ชาย
  • 8:16 - 8:18
    ผู้หญิงอาจจะเขียนเรื่อง "แฮมเล็ต"
    ขึ้นมาก็ได้ค่ะ
  • 8:18 - 8:20
    แต่ก็คงจะเขียนออกมาแตกต่างจากฉบับนี้
  • 8:20 - 8:23
    และคงไม่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกแบบนี้
  • 8:23 - 8:25
    อย่างที่นักเขียน มาร์กาเร็ต แอทวูด
    ได้กล่าวไว้ว่า
  • 8:25 - 8:27
    "เมื่อผู้ชายเขียนเกี่ยวกับการล้างจาน
  • 8:27 - 8:29
    มันก็จะเป็นไปตามความจริง
  • 8:29 - 8:32
    แต่ถ้าผู้หญิงเป็นคนเขียน
  • 8:32 - 8:34
    มันก็จะกลายเป็นความด่างพร้อยทางพันธุกรรม
    ที่เกิดจากการโชคไม่ดีค่ะ
  • 8:34 - 8:35
    (เสียงหัวเราะ)
  • 8:35 - 8:39
    เรื่องแบบนี้ไม่ได้มีเพียงเท่านี้นะคะ
  • 8:39 - 8:41
    ตอนที่ฉันเป็นเด็ก
  • 8:41 - 8:44
    ฉันอยากจะเป็นผู้กำกับโรงละครเอามากๆ
  • 8:44 - 8:46
    แต่อาจารย์ผู้ชายคนหนึ่งก็ได้บอกฉันว่า
  • 8:46 - 8:51
    "ในประเทศอังกฤษ มีผู้กำกับหญิงสามคน
  • 8:51 - 8:55
    มี โจน ไนท์ ซึ่งเป็นเลสเบี้ยน
    มี โจน ลิตเติ้ลวู้ด ซึ่งก็เกษียณไปแล้ว
  • 8:55 - 8:57
    แล้วก็มีี บัซ กู๊ดบอดี้
    ซึ่งเธอได้ฆ่าตัวตาย
  • 8:58 - 9:00
    แล้วเธออยากจะเป็นคนไหนกันล่ะ"
  • 9:00 - 9:01
    (เสียงหัวเราะ)
  • 9:01 - 9:05
    ถึงแม้นี่จะมีประเด็นของการ
    เหยียดผู้หญิงที่ชอบผู้หญิงด้วยกันอยู่ด้วย
  • 9:05 - 9:08
    แต่ประเด็นก็คือ
    เขาแค่ต้องการทำให้ฉันอับอายแหละค่ะ
  • 9:08 - 9:12
    เขาคิดว่า การที่ฉันอยากเป็นผู้กำกับโรงละคร
    มันเป็นเรื่องเหลวไหล
  • 9:12 - 9:15
    ฉันเล่าให้เพื่อนของฉัน มาริน อัลซอพ
    ซึ่งเป็นวาทยกรฟัง และเธอก็บอกว่า
  • 9:15 - 9:18
    ใช่ ครูสอนดนตรีของฉันก็เคยพูดแบบนี้
  • 9:18 - 9:20
    เขาบอกว่า "ผู้หญิงกำกับวงไม่ได้หรอก"
  • 9:21 - 9:23
    แต่หลายปีต่อมา พวกเราก็มาถึงจุดนี้ได้ค่ะ
  • 9:23 - 9:26
    คุณอาจจะคิดว่า "ถ้าอย่างนั้น
    ตอนนี้อะไรๆก็เปลี่ยนไปแล้วน่ะสิ"
  • 9:26 - 9:28
    แต่ฉันคิดว่าไม่ค่ะ
  • 9:28 - 9:32
    เมื่อไม่นานมานี้ ผู้อำนวยการคนปัจจุบัน
    ของโรงเรียนสอนศิลปะแห่งปารีส
  • 9:32 - 9:35
    ได้พูดว่า "มันต้องใช้กำลังกายอย่างมาก
  • 9:35 - 9:37
    ในการกำกับวงดนตรี
  • 9:37 - 9:38
    และผู้หญิงก็อ่อนแอเกินไป"
  • 9:38 - 9:40
    (เสียงหัวเราะ)
  • 9:40 - 9:42
    ศิลปิน จอร์จ เบซลิทซ์ ได้กล่าวว่า
  • 9:42 - 9:44
    "ความจริงแล้ว ผู้หญิงเขียนภาพไม่ได้
  • 9:44 - 9:46
    ยังไงก็เถอะ พวกเธอเขียนภาพไม่ได้เลย"
  • 9:46 - 9:49
    นักเขียน วี.เอส. ไนพอล
    ก็ได้กล่าวไว้เมื่อสองปีที่แล้ว
  • 9:49 - 9:52
    "ฉันอ่านไปสองย่อหน้าก็รู้ได้แล้วล่ะ
    ว่าเรื่องนี้เขียนโดยผู้หญิงหรือเปล่า
  • 9:52 - 9:55
    และฉันก็จะหยุดอ่าน
    เพราะมันไม่ได้มีค่าพอสำหรับฉัน"
  • 9:55 - 9:57
    ผู้ชม: อ่าว
  • 9:57 - 9:59
    และมันก็มีเรื่องแบบนี้มาเรื่อยๆแหละค่ะ
  • 10:01 - 10:03
    พวกเราต้องหาหนทาง
  • 10:03 - 10:06
    ที่จะทำไม่ให้ผู้หญิง ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่
  • 10:06 - 10:09
    รู้สึกอีกต่อไปว่า
    เรื่องราวของพวกเขาไม่ได้สำคัญ
  • 10:09 - 10:12
    และพวกเขาก็ไม่ได้รับอนุญาต
    ให้เป็นผู้บอกเล่ามัน
  • 10:13 - 10:16
    เพราะถ้าคุณรู้สึกว่า
    คุณไม่สามารถเป็นศูนย์กลาง
  • 10:16 - 10:19
    และบอกเล่าเรื่องแทนคนทั้งโลกได้
  • 10:19 - 10:24
    คุณก็จะรู้สึกว่า ผลงานของคุณจะตอบสนอง
    ได้เพียงคนกลุ่มเล็กๆบางกลุ่มเท่านั้น
  • 10:24 - 10:28
    คุณก็จะทำแต่งานเล็กๆ ยืนอยู่แต่บนเวทีเล็กๆ
  • 10:28 - 10:30
    คุณก็จะมีกำลังทรัพย์น้อย
  • 10:30 - 10:32
    และเข้าถึงผู้ชมได้น้อย
  • 10:32 - 10:37
    คุณก็จะได้ชื่อเสียงในฐานะของศิลปิน
    น้อยกว่าที่ควรจะเป็นค่ะ
  • 10:38 - 10:43
    และในที่สุด พวกเราก็จะให้พื้นที่อันเหลือเชื่อ
    และโดดเด่น ให้พวกเขาได้แสดงผลงาน
  • 10:43 - 10:44
    ให้โลกได้รับรู้
  • 10:44 - 10:46
    เพราะพวกเขาคือนักเล่าเรื่องของเราค่ะ
  • 10:46 - 10:49
    คุณอาจจะสงสัยว่า เรื่องเหล่านี้
    จะมีผลกับคุณยังไงถ้าคุณไม่ใช่ศิลปิน
  • 10:49 - 10:52
    สมมุติว่าคุณเป็นนักบัญชี นักลงทุน แพทย์
  • 10:52 - 10:53
    หรือนักวิทยาศาสตร์
  • 10:53 - 10:56
    คุณจะสนใจเรื่องของศิลปินหญิงไปทำไม
  • 10:56 - 10:58
    แน่นอนค่ะ คุณต้องสนใจเรื่องนี้นะคะ
  • 10:58 - 11:02
    อย่างที่คุณได้เห็นจากรูปเขียนบนผนังถ้ำ
  • 11:02 - 11:03
    อารยธรรมต่างๆ
  • 11:03 - 11:05
    และทุกสิ่งทุกอย่างของมนุษยชาติ
  • 11:06 - 11:10
    ล้วนขึ้นอยู่กับศิลปิน
    ที่จะเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวของมนุษย์
  • 11:10 - 11:13
    และถ้าเรื่องราวของมนุษย์นั้น
    ถูกบอกเล่าโดยผู้ชาย
  • 11:13 - 11:15
    จำคำพูดของฉันไว้นะคะ
  • 11:15 - 11:17
    มันจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายค่ะ
  • 11:18 - 11:20
    เพราะฉะนั้น พวกเราต้องสร้างการเปลี่ยนแปลง
  • 11:20 - 11:23
    เราต้องเปลี่ยนแปลงจากหน่วยงานต่างๆ
  • 11:23 - 11:24
    และไม่ใช่ว่าทำในโลกตะวันตกเท่านั้น
  • 11:24 - 11:28
    อย่าลืมนะคะ
    ความคิดที่ว่าผู้หญิงนั้นไม่มีความสามารถ
  • 11:28 - 11:30
    ที่จะเป็นอัจฉริยะในการสร้างสรรค์
  • 11:30 - 11:35
    ก็ได้ถูกบอกกับผู้หญิง
    ในไนจีเรีย จีน รัสเซีย
  • 11:35 - 11:36
    อินโดนีเซีย
  • 11:37 - 11:39
    ทั่วทุกมุมโลก ผู้หญิงถูกบอกว่า
  • 11:39 - 11:44
    พวกเธอไม่สามารถ
    ที่จะคิดสร้างสรรค์สิ่งต่างๆได้
  • 11:45 - 11:47
    และฉันก็อยากถามพวกคุณค่ะ
  • 11:47 - 11:49
    ว่าพวกคุณเชื่อหรือไม่คะ
  • 11:49 - 11:52
    คุณเชื่อไหมคะว่า
    ผู้หญิงก็เป็นอัจฉริยะในการสร้างสรรค์ได้
  • 11:53 - 11:59
    (เสียงปรบมือและโห่ร้อง)
  • 11:59 - 12:01
    เพราะฉะนั้น พวกเราต้องเดินไปข้างหน้าค่ะ
  • 12:01 - 12:03
    เราต้องสนับสนุนศิลปินหญิง
  • 12:03 - 12:04
    ซื้อผลงานของพวกเธอ
  • 12:04 - 12:07
    ยืนยันว่าเราได้ยินเสียงของพวกเธอ
  • 12:07 - 12:10
    หาพื้นที่ให้พวกเธอได้แสดงความสามารถ
  • 12:11 - 12:12
    และจำไว้นะคะ
  • 12:12 - 12:16
    ถ้าพวกเราผ่านจุดนี้ไปได้
  • 12:16 - 12:20
    จุดที่โลกของเรา
    ยังมีความไม่เท่าเทียมกันอยู่
  • 12:20 - 12:23
    คนที่จะจินตนาการถึงโลกใบใหม่ของเรา
    ก็คือศิลปินค่ะ
  • 12:23 - 12:27
    ฉันอยากให้ศิลปินทุกคน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
  • 12:27 - 12:30
    ลองจินตนาการถึงโลกที่ผู้ชายและผู้หญิง
    เท่าเทียมกันดูสิคะ
  • 12:30 - 12:33
    เขียนภาพมันขึ้นมา วาดมันขึ้นมา
  • 12:33 - 12:34
    เขียนมันขึ้นมา สร้างมันให้เป็นภาพยนตร์
  • 12:34 - 12:36
    และถ้าพวกเราสามารถจินตนาการถึงมันได้
  • 12:36 - 12:40
    เราก็จะมีพลังและความอดทนมากพอ
  • 12:40 - 12:41
    ที่จะทำให้มันเป็นจริงได้ค่ะ
  • 12:42 - 12:44
    ตอนที่ฉันเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้
  • 12:44 - 12:46
    จากเมื่อ 11,000 ปีที่แล้ว
  • 12:46 - 12:49
    ฉันอยากจะได้รับรู้ว่า ในตอนนี้
  • 12:49 - 12:53
    เธอกำลังคิดว่า เธอมีสิทธิ์ที่จะฝัน
  • 12:53 - 12:55
    มีสิทธิ์ที่จะกำหนดชีวิตของตัวเธอเองได้
  • 12:55 - 12:59
    และเธอก็มีสิทธิ์ที่จะบอกเล่าเรื่องราว
    ในฐานะตัวแทนของคนทั้งโลก
  • 12:59 - 13:03
    ฝากไว้เท่านี้นะคะ
  • 13:03 - 13:04
    ขอบคุณค่ะ
  • 13:04 - 13:09
    (เสียงปรบมือ)
Title:
ทำไมผู้หญิงจึงควรเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวของมนุษยชาติ
Speaker:
จิวด์ เคลลีย์
Description:

เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้ว ที่มนุษย์เราต่างยอมรับกันว่า อัจฉริยะแห่งการสร้างสรรค์นั้นล้วนเกิดมาจากมุมมองทางความคิดของผู้ชาย ซึ่ง จิวด์ เคลลีย์ ผู้กำกับโรงละครจะมาชี้ให้เห็นถึงเรื่องนี้อย่างมีเหตุผลในการกล่าวบทพูดนี้ ความไม่เท่าเทียมนี้ได้มีผลต่อพวกเราในการตัดสินเรื่องราวของผู้หญิงในชีวิตจริง รวมไปถึงเรื่องของสิทธิสตรี เธอคิดว่า พวกเราควรจะปรับเปลี่ยนมุมมองต่อโลกใบนี้เสียใหม่ และเธอก็ได้ขอให้ศิลปินทั้งหลาย ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ได้ร่วมกันเขียนภาพ วาดภาพ เขียนเรื่อง สร้างภาพยนตร์ และจินตนาการถึงสังคมที่ทั้งสองเพศมีความเท่าเทียมกัน

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
13:22
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for Why women should tell the stories of humanity
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for Why women should tell the stories of humanity
Ashiraya Phobut accepted Thai subtitles for Why women should tell the stories of humanity
Suwapich Hanchaiphiboolkul edited Thai subtitles for Why women should tell the stories of humanity
Suwapich Hanchaiphiboolkul edited Thai subtitles for Why women should tell the stories of humanity
Suwapich Hanchaiphiboolkul edited Thai subtitles for Why women should tell the stories of humanity
Suwapich Hanchaiphiboolkul edited Thai subtitles for Why women should tell the stories of humanity
Suwapich Hanchaiphiboolkul edited Thai subtitles for Why women should tell the stories of humanity
Show all

Thai subtitles

Revisions