ความเบื่อหน่าย: หนทางสู่ความคิดสุดล้ำ
-
0:01 - 0:05ลูกชายของฉันกับไอโฟน
เกิดห่างกันสามสัปดาห์ -
0:05 - 0:07ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2007
-
0:08 - 0:11ดังนั้น ในขณะคนที่เห่อซื้อไอโฟนรุ่นแรก
ต่างต่อแถวกรูกันอยู่ด้านนอก -
0:11 - 0:14รอคอยที่จะได้สัมผัสอุปกรณ์ใหม่
อันเยี่ยมยอดนี้ -
0:14 - 0:18ฉันกลับติดแหง็กอยู่ที่บ้าน
โดยที่มือของฉันวุ่นอยู่กับอะไรอย่างอื่น -
0:18 - 0:20ที่ส่งเสียงเตือนอยู่ตลอดเวลา
-
0:20 - 0:22(เสียงหัวเราะ)
-
0:22 - 0:25ทารกน้อยผู้ทุกข์ทรมานจากอาการโคลิก
-
0:25 - 0:30ผู้ที่จะหลับได้ต่อเมื่ออยู่ในรถเข็น
ในสภาวะที่ไร้เสียงเท่านั้น -
0:30 - 0:33ฉันต้องเดินถึง 10 ถึง 15 ไมล์
ในแต่ละวัน -
0:33 - 0:35และน้ำหนักของเขา
ก็ออกมาตามคาด -
0:35 - 0:37ซึ่งยอดเยี่ยมเลยล่ะ
-
0:37 - 0:39แต่ให้ตาย คิดว่าฉันไม่เบื่อหรือไง
-
0:39 - 0:42ก่อนที่จะมาเป็นแม่คน
ฉันเป็นนักข่าวมาก่อน -
0:42 - 0:44คนที่รีบออกไปตอนที่เครื่องบินคองคอร์ดตก
-
0:44 - 0:47ฉันเป็นหนึ่งในบรรดาคนแรก ๆ
ที่เข้าไปในเมืองเบลเกรด -
0:47 - 0:49ตอนที่ประเทศเซอร์เบียมีการปฏิวัติ
-
0:49 - 0:52มาถึงตอนนี้ ฉันกลับสิ้นไร้เรี่ยวแรง
-
0:52 - 0:55การเดินนั้นกินเวลานานหลายสัปดาห์
-
0:55 - 1:01จนกระทั่งประมาณสามเดือนต่อมา
ที่บางสิ่งเปลี่ยนไป -
1:01 - 1:03ในขณะที่ฉันเดินย่ำทางเท้าอยู่นั้น
-
1:03 - 1:06ความคิดของฉันก็เริ่มล่องลอยไปด้วย
-
1:06 - 1:10และฉันก็เริ่มจินตนาการว่าฉันจะทำอะไร
เมื่อฉันได้กลับมานอนหลับเต็มอิ่มอีกครั้ง -
1:10 - 1:12สุดท้ายอาการโคลิกก็หายไป
-
1:12 - 1:15และฉันก็ได้ไอโฟนมาเครื่องหนึ่ง
-
1:15 - 1:18แล้วฉันก็ใช้เวลาในโมงยามเหล่านั้น
ระหกระเหินเข้าไปสู่การลงมือทำ -
1:18 - 1:22ฉันสร้างงานในฝันของฉันขึ้นมา
ซึ่งก็คือการจัดรายการวิทยุสาธารณะ -
1:22 - 1:24ดังนั้น จึงไม่มีการลงพื้นที่
ไปตามเขตสงครามอีกต่อไป -
1:24 - 1:26แต่ต้องขอบคุณสมาร์ทโฟนของฉัน
-
1:26 - 1:28ที่ทำให้ฉันได้เป็นทั้งแม่คน
และนักข่าว -
1:28 - 1:33ฉันสามารถอยู่ที่สนามเด็กเล่น
แล้วเล่นทวิตเตอร์ได้ในคราวเดียวกัน -
1:34 - 1:35และแน่นอน เมื่อฉันนึกถึงเรื่องนั้น
-
1:35 - 1:38ในตอนที่เทคโนโลยีมาถึงและเริ่มยึดครอง
-
1:38 - 1:40ตอนนั้นเองคือตอนที่ฉันถึงจุดอิ่มตัว
-
1:40 - 1:43ดังนั้น ฉันอยากให้พวกคุณลองนึกภาพดู
-
1:43 - 1:45คุณจัดรายการพอดแคสต์
และคุณต้องพิสูจน์ให้ได้ -
1:45 - 1:48ว่าการลงทุนด้วยเม็ดเงินดอลลาร์
ในรายการวิทยุสาธารณะทรงคุณค่าของคุณ -
1:48 - 1:49นั้นคุ้มค่า
-
1:50 - 1:54เป้าหมายของฉันคือการเพิ่ม
จำนวนผู้ฟังสิบเท่า -
1:54 - 1:56ดังนั้น ในวันหนึ่ง ฉันจึงนั่งระดมสมอง
-
1:56 - 1:58ในแบบที่คุณมักทำ
-
1:58 - 2:00และฉันก็คิดอะไรใหม่ ๆ ไม่ได้เลย
-
2:00 - 2:02และมันก็ไม่เหมือนกับ
การเขียนงานไม่ออกด้วยสิ -
2:02 - 2:05มันไม่ใช่ว่ามีอะไรบางอย่างรอคอย
อยู่ตรงนั้นให้คุณขุดพบ -
2:05 - 2:06มันไม่มีอะไรอยู่เลย
-
2:06 - 2:08ดังนั้น ฉันจึงเริ่มคิดย้อนกลับไป
-
2:08 - 2:11ว่าฉันมีความคิดดี ๆ
จริง ๆ ล่าสุดเมื่อไรล่ะ -
2:11 - 2:13ใช่แล้ว มันคือตอนที่ฉันกำลัง
เข็นรถเข็นบ้านั่นอยู่ยังไงล่ะ -
2:14 - 2:17ในตอนนี้ ช่วงเวลาว่าง ๆ ในแต่ละวัน
ถูกเติมเต็มไปด้วยโทรศัพท์ -
2:17 - 2:21ฉันนั่งอ่านหัวข่าวตอนที่นั่งรอกาแฟลาตเท
-
2:21 - 2:25ฉันอัปเดตปฏิทินของฉัน
ในตอนที่ฉันนั่งอยู่บนโซฟา -
2:25 - 2:28การส่งข้อความเปลี่ยนช่วงเวลา
ที่เหลือว่างทั้งหมด -
2:28 - 2:31ให้เป็นโอกาสในการแสดงให้
เพื่อนร่วมงานและสามีสุดที่รักของฉัน -
2:31 - 2:33ว่าฉันเป็นคนที่ฉับไวแค่ไหน
-
2:34 - 2:36หรืออย่างน้อยที่สุดก็เป็นโอกาส
ตามหาโซฟาสมบูรณ์แบบอันใหม่ -
2:36 - 2:38สำหรับเพจของฉันบนพินเทอเรสต์
-
2:39 - 2:42จู่ ๆ ฉันก็รู้ตัวขึ้นมา
ว่าฉันไม่รู้สึกเบื่ออีกเลย -
2:42 - 2:45ว่าแต่ว่า ไม่ใช่คนน่าเบื่อ
เท่านั้นที่รู้สึกเบื่อหรอกหรอ -
2:45 - 2:47แต่จากนั้นฉันก็เริ่มสงสัย
-
2:47 - 2:49ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา
กันแน่เวลาที่เราเบื่อ -
2:49 - 2:53หรือที่สำคัญกว่านั้น คือจะมีอะไรเกิดขึ้น
กับเราหากเราไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย -
2:53 - 2:58แล้วอะไรจะเกิดขึ้นหากเราสามารถกำจัด
อารมณ์นี้ของมนุษย์ออกไปให้สิ้นซากได้ -
2:58 - 3:02ฉันเริ่มพูดคุยกับนักประสาทวิทยา
และนักจิตวิทยาการรู้คิดหลายคน -
3:02 - 3:05และสิ่งที่พวกเขาบอกก็
น่าตื่นตาตื่นใจอย่างมาก -
3:05 - 3:07ผลปรากฏว่าเมื่อใดก็ตามที่คุณเบื่อ
-
3:07 - 3:11คุณจะจุดประกายโครงข่ายในสมองของคุณ
ที่เรียกว่า "ดีฟอลต์โหมด" -
3:11 - 3:16ดังนั้น ร่างกายของเราจะทำอะไร
อัตโนมัติในตอนที่เราพับผ้า -
3:16 - 3:17หรือเดินไปทำงาน
-
3:17 - 3:20แต่จริง ๆ แล้วตอนนั้นคือช่วงเวลาที่
สมองของเรานั้นยุ่งเหยิงจริง ๆ -
3:20 - 3:23นี่คือนักวิจัยด้านความเบื่อหน่าย
ดร.แซนดี แมนน์ -
3:24 - 3:27(เสียงบันทึก) ดร.แซนดี แมนน์
เมื่อคุณเริ่มฝันกลางวัน -
3:27 - 3:28และปล่อยให้ความคิดของคุณล่องลอยไป
-
3:28 - 3:31คุณจะเริ่มคิดออกห่างจากจิตสำนึก
-
3:31 - 3:33แล้วดำดิ่งเข้าไปยังจิตใต้สำนึก
-
3:33 - 3:36ที่ทำให้การเชื่อมโยงต่าง ๆ เกิดขึ้นได้
-
3:36 - 3:37จริง ๆ แล้วมันยอดเลยทีเดียว
-
3:38 - 3:40มานอช โซโมโรดี: ยอดสุด ๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ
-
3:40 - 3:42และนี่ก็คือสมองของฉัน
ในเครื่องสแกนสมอง (fMRI) -
3:42 - 3:46และฉันก็ได้รู้ว่าดีฟอลต์โหมด คือช่วงเวลา
ที่เราเชื่อมโยงความคิดต่าง ๆ เข้าถึงกัน -
3:46 - 3:49เราแก้ปัญหาบางอย่างที่ก่อกวน
ใจเรามาเป็นเวลานาน -
3:49 - 3:52และเราก็ทำบางสิ่งที่เรียกว่า
"การตั้งเป้าหมายส่วนตัวในอนาคต" -
3:52 - 3:54มันคือเวลาที่เรามองชีวิตเราย้อนกลับไป
-
3:54 - 3:57เราจดบันทึกช่วงเวลาที่สำคัญ ๆ
เราสร้างเรื่องราวส่วนตัวขึ้นมา -
3:57 - 3:58แล้วเราก็ตั้งเป้าหมาย
-
3:59 - 4:02และเราก็หาทางว่าเราจะต้อง
ใช้วิธีไหนบ้างในการไปถึงเป้าหมายนั้น -
4:02 - 4:06แต่ในตอนนี้ เรานั่งเล่นอยู่บนโซฟา
ไปพร้อม ๆ กับอัปเดตกูเกิลด็อก -
4:06 - 4:08หรือตอบกลับอีเมล์
-
4:08 - 4:11เราเรียกมันว่าการ "ทำให้มันเสร็จ ๆ ไปซะ"
-
4:11 - 4:14แต่นี่คือสิ่งที่นักประสาทวิทยา
ดร.แดเนียล เลวิทิน บอก -
4:14 - 4:15ว่าจริง ๆ เรากำลังทำอะไร
-
4:16 - 4:19(เสียงบันทึก) ดร.แดเนียล เลวิทิน:
ในทุกครั้งที่คุณเปลี่ยนความสนใจ -
4:19 - 4:20จากสิ่งหนึ่งไปสู่อีกสิ่ง
-
4:20 - 4:23สมองจะต้องทำการสับสวิตช์
สารเคมีในสมองของคุณ -
4:23 - 4:26ซึ่งต้องอาศัยสารอาหารทั้งหมด
ในสมองของเราเพื่อทำแบบนั้น -
4:26 - 4:29ดังนั้นถ้าคุณกำลังพยายาม
ทำหลายอย่างในคราวเดียวกัน -
4:29 - 4:31แบบว่า ทำสี่ห้าอย่างพร้อมกัน
-
4:31 - 4:33จริง ๆ แล้วคุณไม่ได้กำลังทำ
สี่ห้าอย่างนั้นพร้อม ๆ กัน -
4:33 - 4:35เพราะว่าสมองของเราไม่ได้ทำงานแบบนั้น
-
4:35 - 4:38ตรงกันข้าม คุณกำลังเปลี่ยนความสนใจ
จากสิ่งหนึ่งไปอีกสิ่งอย่างรวดเร็ว -
4:38 - 4:40และใช้ทรัพยากรทางประสาท
ไปเรื่อย ๆ ในตอนที่คุณทำ -
4:40 - 4:44(เสียงบันทึก) มซ: เท่ากับพอเราเปลี่ยนไป
เปลี่ยนมา เราก็ใช้กลูโคสไปเรื่อย ๆ สินะคะ -
4:44 - 4:47(เสียงบันทึก) ดล: ถูกเผ็งเลยครับ
และเราก็มีกลูโคสอยู่จำกัดเสียด้วย -
4:48 - 4:50มซ: เมื่อสิบปีที่แล้ว เราเปลี่ยนความสนใจ
เวลาอยู่ที่ทำงาน -
4:50 - 4:51ทุก ๆ สามนาที
-
4:51 - 4:54ในตอนนี้ เราทำแบบนั้นทุก ๆ 45 วินาที
-
4:54 - 4:56และเราก็ทำแบบนั้นทั้งวัน
-
4:56 - 4:59โดยเฉลี่ยแล้วคนหนึ่งคนจะ
เช็กอีเมล์ 74 ครั้งต่อวัน -
4:59 - 5:02และเปลี่ยนงานไปมาเวลาใช้คอมพิวเตอร์
-
5:02 - 5:06566 ครั้งต่อวัน
-
5:06 - 5:09ฉันรู้เรื่องทั้งหมดนี้ จากการได้พูดคุยกับ
ศาสตราจารย์ด้านสนเทศศาสตร์ท่านหนึ่ง -
5:09 - 5:11ดร.กลอเรีย มาร์ก
-
5:11 - 5:15(เสียงบันทึก) ดร.กลอเรีย มาร์ก:
เราพบว่าเมื่อคนเรารู้สึกเครียด -
5:15 - 5:18พวกเขามักจะเปลี่ยนความสนใจถี่มากขึ้น
-
5:18 - 5:20เราพบด้วยว่า แปลกดีที่
-
5:20 - 5:26ยิ่งเรานอนน้อยเท่าไร
-
5:26 - 5:28เราก็จะยิ่งมีโอกาสเช็กเฟสบุ๊คมากเท่านั้น
-
5:28 - 5:32ดังนั้น เราจึงอยู่ในวัฏจักร
เลวร้ายที่ติดเป็นนิสัยนี้ -
5:32 - 5:34มซ: ว่าแต่เราสามารถทำลายวัฏจักรนี้ได้ไหม
-
5:34 - 5:38จะเป็นอย่างไรหากเราทำลาย
วัฏจักรอันเลวร้ายนี้ -
5:39 - 5:42บางที ผู้ฟังของฉันอาจช่วยฉัน
หาคำตอบนี้ได้ก็ได้ -
5:43 - 5:46จะเป็นอย่างไรหากเรานำช่วงเวลา
ว่าง ๆ ในแต่ละวันของเรากลับมา -
5:47 - 5:50มันจะช่วยให้เรามีความคิดสร้างสรรค์
มากขึ้นไหม -
5:51 - 5:55เราเรียกโครงการนี้ว่า
"ความเบื่อกับความฉลาด" -
5:56 - 5:59และตอนนั้นฉันก็คาดไว้ว่า
จะมีคนแค่สองสามร้อยคนสนใจ -
5:59 - 6:02แต่ปรากฏว่ามีคนนับพันเข้าร่วม
-
6:02 - 6:05และพวกเขาก็บอกฉันว่า
พวกเขาทำแบบนั้น -
6:05 - 6:08เพราะว่าพวกเขากังวลว่า ความสัมพันธ์
ของพวกเขากับโทรศัพท์มือถือ -
6:08 - 6:12ได้เริ่มกลายเป็นแบบ "พึ่งพากัน"
เราอาจจะพูดแบบนั้นก็ได้ -
6:12 - 6:16(เสียงบันทึก) ผู้ชาย: ความสัมพันธ์
ระหว่างเด็กทารกกับตุ๊กตาหมี -
6:16 - 6:18หรือเด็กทารกกับจุกหลอก
-
6:18 - 6:21หรือเด็กทารกที่ต้องการให้แม่อุ้ม
-
6:21 - 6:24เวลาที่เบื่อกับการให้คนแปลกหน้าอุ้มแล้ว
-
6:24 - 6:25(หัวเราะ)
-
6:25 - 6:28นั่นคือความสัมพันธ์ระหว่างผม
กับโทรศัพท์ของผม -
6:28 - 6:31(เสียงบันทึก) ผู้หญิง: ฉันมองโทรศัพท์
มือถือเป็นเหมือนเครื่องมือกล -
6:31 - 6:35มีประโยชน์อย่างมาก แต่อันตราย
หากฉันใช้มันผิดวิธี -
6:35 - 6:37(เสียงบันทึก) ผู้หญิง 2: ถ้าฉัน
ไม่เพ่งความสนใจมาก ๆ -
6:37 - 6:40ฉันจะฉุกคิดขึ้นมาได้ทันทีว่า
ฉันทิ้งเวลาไปเป็นชั่วโมง -
6:40 - 6:42ในการทำเรื่องไร้สาระสุด ๆ
-
6:42 - 6:44มซ: โอเค แต่ถ้าเราต้องการวัด
ว่ามีอะไรดีขึ้นบ้างไหม -
6:44 - 6:45เราต้องอาศัยข้อมูล ถูกไหมคะ
-
6:45 - 6:48เพราะว่านั่นคือสิ่งที่เราทำในทุกวันนี้
-
6:48 - 6:51ดังนั้น เราจึงร่วมกับแอปบางแอป
ที่จะวัดว่าเราใช้เวลาไปกับมือถือของเรา -
6:51 - 6:53ไปมากเท่าไรในแต่ละวัน
-
6:53 - 6:54และถ้าคุณคิดว่ามันย้อนแย้ง
-
6:54 - 6:57ที่ฉันขอให้คนดาวน์โหลด
แอปอีกแอปหนึ่ง -
6:57 - 6:59เพื่อให้พวกเขาใช้เวลากับโทรศัพท์น้อยลง
-
6:59 - 7:01ก็นะ แต่ยังไงคุณก็ยังต้องไปหา
ผู้คนในที่ที่พวกเขาอยู่อยู่ดี -
7:01 - 7:03(เสียงหัวเราะ)
-
7:03 - 7:05ดังนั้น ก่อนถึงสัปดาห์แห่งการท้าทาย
-
7:05 - 7:08เราใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง
ต่อวันไปกับโทรศัพท์ -
7:08 - 7:09และหยิบมันขึ้นมา 60 ครั้ง
-
7:09 - 7:12แบบว่า อย่างการดูผ่าน ๆ
เพื่อดูว่ามีอีเมล์ใหม่มาไหมน่ะ -
7:12 - 7:14นี่คือสิ่งที่ทีนา นักเรียนจาก
มหาวิทยาลัยบาร์ด -
7:14 - 7:16ค้นพบเกี่ยวกับตัวเธอเอง
-
7:17 - 7:19(เสียงบันทึก) ทีนา: ที่ผ่านมา ฉันใช้เวลา
-
7:19 - 7:22ประมาณ 150 ถึง 200 นาที
ไปกับโทรศัพท์ในแต่ละวัน -
7:22 - 7:26และฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาประมาณ
วันละ 70 ถึง 100 ครั้ง -
7:26 - 7:28และมันก็เป็นเรื่องน่ากังวลมาก
-
7:28 - 7:31เพราะว่านั่นเป็นเวลามหาศาล
ที่ฉันสามารถใช้ -
7:31 - 7:34ไปกับการทำอะไรที่มีประโยชน์กว่า
สร้างสรรค์กว่า เพื่อตัวเองมากกว่า -
7:34 - 7:37เพราะว่าเวลาที่ฉันเล่นโทรศัพท์
ฉันไม่ได้ทำอะไรที่สลักสำคัญเลย -
7:37 - 7:41มซ: เช่นเดียวกับทีนา ผู้คนเริ่ม
สังเกตพฤติกรรมของตัวเอง -
7:41 - 7:43พวกเขาพร้อมแล้วสำหรับ
สัปดาห์แห่งการท้าทาย -
7:43 - 7:45และวันจันทร์นั้นเอง
-
7:45 - 7:48พวกเขาก็ตื่นมาพบกับคำสั่ง
ในกล่องขาเข้าของพวกเขา -
7:48 - 7:50การทดลองที่พวกเขาต้องลอง
-
7:50 - 7:52วันที่หนึ่ง:
-
7:52 - 7:53"ใส่มันลงไปในกระเป๋ากางเกง"
-
7:53 - 7:56นำโทรศัพท์นั้นออกไปจากมือของคุณ
-
7:56 - 7:59ดูซิว่าคุณสามารถกำจัดสัญชาติญาณ
ที่ต้องเช็กโทรศัพท์ทั้งวันได้ไหม -
7:59 - 8:00แค่วันเดียวเท่านั้น
-
8:00 - 8:02และถ้ามันฟังเหมือนง่าย
-
8:02 - 8:03แสดงว่าคุณยังไม่ได้ลอง
-
8:03 - 8:05นี่คือผู้ฟังอีกคน อมานดา อิตซ์โกะ
-
8:05 - 8:09(เสียงบันทึก) อมานดา อิตซ์โกะ:
ฉันกำลังอยู่ไม่สุข -
8:09 - 8:11ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองบ้าหน่อย ๆ
-
8:11 - 8:16เพราะว่าฉันสังเกตว่า
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา -
8:16 - 8:20แม้แต่ตอนที่ฉันแค่เดินจาก
ห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่ง -
8:20 - 8:21เวลาขึ้นลงลิฟต์
-
8:21 - 8:25หรือแม้กระทั่ง และนี่คือสิ่งที่ฉัน
รู้สึกอับอายมาก -
8:25 - 8:27ที่จะพูดมันออกมาดัง ๆ
-
8:27 - 8:28เวลาที่ฉันอยู่ในรถ
-
8:28 - 8:30มซ: หยึย
-
8:30 - 8:31ก็นะ แต่ อมานดาก็ได้เรียนรู้ว่า
-
8:31 - 8:35ความรู้สึกอยู่ไม่สุขที่เธอมีนั้น
ไม่ใช่ความผิดของเธอแต่อย่างใด -
8:35 - 8:39มันคือพฤติกรรมที่เทคโนโลยีถูกสร้าง
ขึ้นมาเพื่อกระตุ้นโดยเฉพาะแค่นั้นเอง -
8:39 - 8:42(เสียงหัวเราะ)
-
8:44 - 8:46แบบว่า ใช่ไหมล่ะ
-
8:46 - 8:49นี่คืออดีตนักออกแบบของกูเกิล
ทริสตัน แฮร์ริส -
8:49 - 8:53(เสียงบันทึก) ทริสตัน แฮรร์ริส ถ้าผมเป็น
เฟสบุ๊ค หรือเน็ตฟลิกซ์ หรือสแนปแชต -
8:53 - 8:55ผมก็จะมีวิศวกรเป็นพันคน
-
8:55 - 8:57ที่มีหน้าที่เรียกความสนใจจากคุณให้มากขึ้น
-
8:57 - 8:59ผมถนัดเรื่องนี้มาก
-
8:59 - 9:00และผมก็ไม่อยากให้คุณหยุดมัน
-
9:00 - 9:03และคุณรู้ใช้ไหมว่า ซีอีโอเน็ตฟลิกซ์
เพิ่งพูดไปหมาด ๆ ว่า -
9:03 - 9:06"คู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของเราคือ
เฟสบุ๊ค ยูทูป และการนอน" -
9:06 - 9:09ผมหมายถึง ในโลกนี้มีเป็นล้านอย่าง
ที่คุณสามารถให้ความสนใจได้ -
9:09 - 9:11แต่สงครามหนึ่งกำลังเกิดขึ้น
เพื่อแย่งชิงสิ่งนั้น -
9:11 - 9:13มซ: แบบว่า คุณเข้าใจ
ความรู้สึกใช่ไหมล่ะคะ -
9:13 - 9:15แบบเวลาที่ซีรีส์ "Transparent"
สักตอนจบลงไป -
9:15 - 9:17แล้วอีกตอนหนึ่งก็เล่นต่อขึ้นมา
-
9:17 - 9:20คุณก็จะคิดแบบว่า เอ โอเค ได้
ฉันจะอยู่ดึกแล้วดูมันต่อ -
9:20 - 9:23หรืออย่างแถบวัดความก้าวหน้าบนเว็บ
LinkedIn ที่บอกว่าคุณเกือบจะมี -
9:23 - 9:25ประวัติที่สมบูรณ์แบบแล้วนะ
-
9:25 - 9:28คุณเลยเพิ่มข้อมูลส่วนตัว
เข้าไปอีกนิดหน่อย -
9:28 - 9:30อย่างที่นักออกแบบยูเอกซ์คนหนึ่งบอกกับฉัน
-
9:30 - 9:34คนกลุ่มเดียวที่เรียกลูกค้าว่า "ผู้ใช้"
-
9:34 - 9:36คือพวกค้ายากับนักเทคโนโลยี
-
9:36 - 9:37(เสียงหัวเราะ)
-
9:37 - 9:40(เสียงปรบมือ)
-
9:43 - 9:47และผู้ใช้ อย่างที่เรารู้กัน
มีมูลค่าทางการเงินสูงมาก -
9:47 - 9:50นี่คืออดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์
เฟสบุ๊คและนักเขียน -
9:50 - 9:53อันโตนิโอ การ์เซีย มาร์ติเนซ
-
9:54 - 9:56(เสียงบันทึก) อกม: มีคำพูดหนึ่งว่า
ถ้าผลิตภัณฑ์อะไรสักอย่างฟรี -
9:56 - 9:59เมื่อนั้นคุณนั่นแหละคือผลิตภัณฑ์
ความสนใจของคุณคือผลิตภัณฑ์ -
9:59 - 10:01ว่าแต่ความสนใจของคุณมีค่าตรงไหนล่ะ
-
10:01 - 10:03ที่ทำให้ทุก ๆ ครั้งที่คุณ
โหลดหน้าสักหน้าขึ้นมา -
10:03 - 10:05ไม่เพียงแค่เฟสบุ๊ค
หรือแอปใดแอปหนึ่ง -
10:05 - 10:08ถึงมีการประมูลเกิดขึ้นแทบในทันที
หลายพันล้านครั้งต่อวัน -
10:08 - 10:10เพื่อหาว่าจำนวนครั้งที่ผู้ใช้
เห็นโฆษณามีมูลค่าเท่าไร -
10:10 - 10:14มซ: ขอนอกเรื่องนิดหน่อย โดยเฉลี่ยแล้ว
คนเราจะใช้เวลาสองปีของชีวิต -
10:14 - 10:15ไปกับเฟสบุ๊ค
-
10:15 - 10:17ทีนี้ กลับมาสู่สัปดาห์
แห่งการท้าทาย -
10:17 - 10:20ในทันทีทันใด เราเห็น
ความคิดสร้างสรรค์เริ่มต้นขึ้น -
10:20 - 10:22นี่คือลิซา อัลเพิร์ต จากนิวยอร์ก
-
10:23 - 10:25(เสียงบันทึก) ลิซา อัลเพิร์ต:
ฉันเบื่อ ฉันว่างั้นนะ -
10:25 - 10:30จู่ ๆ ฉันเลยมองไปที่ขั้นบันได
ที่ขึ้นไปยังด้านบนสุดของสถานี -
10:30 - 10:31แล้วฉันก็คิดว่า แบบว่า
-
10:31 - 10:34ฉันเพิ่งเดินลงมาเอง
แต่ว่าฉันเดินกลับขึ้นไปก็ได้นะ -
10:34 - 10:37แล้วก็เดินกลับลงมา
เพื่อให้เลือดสูบฉีดหน่อย -
10:37 - 10:38ฉันเลยทำแบบนั้น
-
10:38 - 10:42แล้วฉันก็เหลือเวลาอีกนิดหน่อย
ฉันเลยทำมันอีกครั้ง แล้วก็ทำอีกครั้ง -
10:42 - 10:44แล้วฉันก็ทำไปสิบรอบด้วยกัน
-
10:44 - 10:46แล้วฉันก็ได้ออกกำลังกายจนครบชุด
-
10:46 - 10:49แล้วฉันก็ขึ้นไปบนรถไฟสายอาร์นั้น
และรู้สึกเหนื่อยหน่อย ๆ -
10:49 - 10:51แต่แบบว่า ว้าว ฉันไม่เคยรู้สึก
แบบนั้นมาก่อนเลย -
10:51 - 10:53มันเป็นไปได้ยังไงกัน
-
10:53 - 10:54(เสียงหัวเราะ)
-
10:54 - 10:58มซ: ดังนั้น ฉันจึงได้เรียนรู้ว่า ความคิด
สร้างสรรค์จะเป็นแบบไหนขึ้นกับแต่ละคน -
10:58 - 10:59(เสียงหัวเราะ)
-
10:59 - 11:02แต่ทุกคนต่างพบว่า
คำท้าในวันที่สามนั้นยากที่สุด -
11:03 - 11:05มันมีชื่อว่า "ลบแอปนั้นซะ"
-
11:05 - 11:07นำแอปนั้น คุณรู้ดีว่าแอปอะไร
-
11:07 - 11:09แอปที่ทำให้คุณติดอยู่ตลอด
แอปที่ดูดคุณให้ติดหนึบ -
11:09 - 11:11นำมันออกไปจากมือถือของคุณเสีย
-
11:11 - 11:12ถึงแม้จะแค่วันนั้นก็ตาม
-
11:12 - 11:15ฉันลบเกม Two Dots
แล้วก็เกือบเสียน้ำตาให้มัน -
11:15 - 11:16(เสียงหัวเราะ)
-
11:16 - 11:19ก็นะ ผู้เล่น Two Dots คงรู้ว่า
ฉันกำลังพูดถึงอะไร -
11:19 - 11:21แต่ความทุกข์ทรมานของฉันก็ถือเป็นเรื่องดี ๆ
-
11:24 - 11:27(เสียงบันทึก) ผู้ชาย 2: ผมเลียม
จากลอสแอนเจลิส -
11:27 - 11:31และผมก็ลบทวิตเตอร์ เฟสบุ๊ค
อินสตาแกรม ทัมเบลอร์ สแนปแชต และไวน์ -
11:32 - 11:33ออกไปจากโทรศัพท์ของผม
-
11:33 - 11:34ในรวดเดียว
-
11:34 - 11:39และตอนแรกมันก็ดูเหมือนเป็นประสบการณ์
ทางอารมณ์ที่น่าอับอายเหลือเกิน -
11:39 - 11:43มันรู้สึกแปลก ๆ เคว้ง ๆ กับ
การต้องจ้องมองล็อกหน้าจอนั้น -
11:43 - 11:45โดยที่ไม่มีการแจ้งเตือนใหม่ ๆ ขึ้นมา
-
11:45 - 11:48แต่ผมก็ชอบมากเวลาที่ได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง
-
11:48 - 11:52ว่าจะนึกถึงหรือใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเมื่อไร
-
11:52 - 11:55โดยที่ไม่ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ใต้อำนาจ
การตัดสินใจของโทรศัพท์ -
11:56 - 11:57ดังนั้น ขอบคุณครับ
-
11:57 - 12:00(เสียงบันทึก 3) ผู้หญิง 3: การลบ
แอปทวิตเตอร์นั้นเป็นเรื่องเศร้ามาก -
12:00 - 12:03และฉันรู้สึกเหมือนว่า บางที ตลอดหนึ่งปีที่
ผ่านมาที่ฉันนั่งเล่นทวิตเตอร์ -
12:03 - 12:05ฉันเริ่มมีอาการเสพติดมัน
-
12:05 - 12:08และการท้าทาย "ความเบื่อกับความฉลาด"
ก็ทำให้ฉันตระหนักถึงอาการนั้น -
12:08 - 12:11หลังจากที่รู้สึกแย่มากกับการ
ถูกตัดขาดออกจากโลกอยู่ช่วงหนึ่ง -
12:11 - 12:13เหมือนกับเวลาที่ปวดหัวเพราะขาดกาเฟอีน
-
12:13 - 12:15ตอนนี้ฉันรู้สึกดี
-
12:15 - 12:17ฉันได้ทานอาหารเย็นกับ
ครอบครัวอย่างมีความสุข -
12:17 - 12:22และฉันก็หวังว่าจะควบคุมการใช้
อุปกรณ์ต่าง ๆ พวกนี้ต่อไป -
12:22 - 12:24(เสียงบันทึก) ผู้หญิง 4: ฉันไม่ได้
รู้สึกผิดลึก ๆ อะไร -
12:24 - 12:26ฉันรู้สึกในตอนที่ฉันรู้ตัวว่า
กำลังเสียเวลาไปกับโทรศัพท์ -
12:26 - 12:29บางทีฉันอาจต้องเริ่มท้าทายตัวเอง
และเตือนตัวเองแบบนี้ -
12:29 - 12:30ในทุก ๆ เช้า
-
12:30 - 12:33มซ: ฉันแบบว่า ใช่เลย
นี่แหละความก้าวหน้า -
12:33 - 12:35ฉันอดใจรอดูตัวเลขที่จะปรากฏ
-
12:35 - 12:37ในตอนท้ายของสัปดาห์ไม่ไหวแล้ว
-
12:38 - 12:40แต่ในตอนที่ข้อมูลมาถึง
-
12:40 - 12:42ปรากฏว่าเราทำให้คนใช้เวลาลดลงไป
-
12:42 - 12:44โดยเฉลี่ยแล้ว
-
12:44 - 12:46แค่หกนาทีเท่านั้น
-
12:46 - 12:49จาก 120 นาทีต่อวันที่ใช้ไปกับโทรศัพท์
-
12:49 - 12:51ลงมาที่ 114
-
12:52 - 12:53ก็นั่นแหละค่ะ
-
12:53 - 12:57ดังนั้น ฉันจังกลับไปหานักวิทยาศาสตร์
คนเดิม ๆ และรู้สึกแย่หน่อย ๆ -
12:57 - 12:59แล้วพวกเขาก็หัวเราะเยาะฉัน
-
12:59 - 13:01และพวกเขาก็พูดว่า คุณรู้ไหม
การเปลี่ยนพฤติกรรมของคน -
13:01 - 13:03ในช่วงเวลาที่สั้นขนาดนั้นน่ะ
-
13:03 - 13:05ดูจะทะเยอทะยานจนเพ้อฝันไปหน่อยนะ
-
13:05 - 13:10และจริง ๆ แล้วความสำเร็จที่คุณได้รับ
ไปไกลกว่าที่เราคาดว่าเป็นไปได้อยู่มาก -
13:10 - 13:14เพราะว่าสิ่งที่สำคัญกว่าตัวเลข
คือเรื่องราวของผู้คนต่างหาก -
13:14 - 13:16พวกเขารู้สึกมีพลัง
-
13:16 - 13:18มือถือของพวกเขาถูกแปลงโฉม
-
13:18 - 13:20จากตัวสั่งงาน
-
13:20 - 13:22มาเป็นเครื่องมือบ้าน ๆ เหมือนเดิม
-
13:23 - 13:27และจริง ๆ แล้ว ฉันพบว่าสิ่งที่
คนหนุ่มสาวพูดนั้นน่าสนใจมากที่สุด -
13:27 - 13:28พวกเขาบางคนบอกฉัน
-
13:28 - 13:30ว่าพวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงอารมณ์บางอย่าง
-
13:30 - 13:32ที่พวกเขารู้สึกในช่วง
สัปดาห์แห่งการท้าทายนั้น -
13:32 - 13:33เพราะว่า ถ้าคุณลองนึกดูแล้ว
-
13:33 - 13:36หากคุณไม่เคยรู้จักชีวิต
ที่ปราศจากการเชื่อมต่อมาก่อน -
13:36 - 13:39คุณอาจไม่ได้สัมผัสความเบื่อหน่ายเลยก็ได้
-
13:39 - 13:42และนั่นก็อาจมีผลบางอย่างตามมา
-
13:42 - 13:45นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยยูเอสซีได้พบบางอย่าง
พวกเขาศึกษาวัยรุ่น -
13:45 - 13:48ที่เล่นโซเชียลในขณะที่พวกเขา
พูดคุยอยู่กับเพื่อน -
13:48 - 13:49หรือทำการบ้าน
-
13:49 - 13:53และสองปีหลังจากนั้น พวกเขา
มีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่ลดต่ำลง -
13:53 - 13:55เกี่ยวกับอนาคตส่วนตัวของพวกเขาเอง
-
13:55 - 13:59และเกี่ยวกับการแก้ปัญหาสังคม
อย่างเช่น ความรุนแรงในชุมชนของพวกเขา -
14:00 - 14:02และเราก็จำเป็นจะต้อง
ทำให้คนรุ่นถัดจากเรานี้ -
14:02 - 14:05สามารถเพ่งความสนใจให้กับ
ปัญหาใหญ่ ๆ บางอย่างได้ -
14:05 - 14:07อย่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ -
14:07 - 14:09ความแตกต่างสุดขั้วทางวัฒนธรรม
-
14:10 - 14:12ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมซีอีโอจาก
การสำรวจหนึ่งของไอบีเอ็ม -
14:12 - 14:17ถึงระบุว่าความคิดสร้างสรรค์ เป็นส่วนสำคัญ
ที่สุดของความสามารถในการเป็นผู้นำ -
14:18 - 14:20แต่ว่าข่าวดีก็มีอยู่
-
14:20 - 14:24ในตอนจบ คน 20,000 คนที่เข้าร่วม
"ความเบื่อหน่ายกับความฉลาด" ในสัปดาห์นั้น -
14:24 - 14:26กว่าร้อยละ 90 ลดเวลาใช้มือถือของพวกเขา
-
14:26 - 14:29ร้อยละ 70 มีเวลาในการคิดมากขึ้น
-
14:29 - 14:31หลายคนบอกฉันว่าพวกเขานอนหลับสบายขึ้น
-
14:31 - 14:33พวกเขามีความสุขมากขึ้น
-
14:33 - 14:36ข้อความที่ฉันชอบมาจากผู้ชายคนหนึ่ง
ที่บอกว่าเขารู้สึกเหมือนเขาตื่นมา -
14:36 - 14:38จากภาวะการจำศีลทางจิตสักอย่างหนึ่ง
-
14:40 - 14:43ข้อมูลส่วนตัวบางอย่าง ผนวกกับ
ประสาทวิทยาศาสตร์อีกเล็กน้อย -
14:43 - 14:46ทำให้เราสามารถออกจากโลกออนไลน์
ได้นานขึ้นกว่าเดิมอีกนิดหน่อย -
14:46 - 14:49และความเบื่อหน่ายเล็กน้อยนี้
จะทำให้เราเข้าใจอะไรชัดมากขึ้น -
14:49 - 14:51และช่วยเราบางคนในการตั้งเป้าหมายบางอย่าง
-
14:52 - 14:54แบบว่า บางทีการเชื่อมโยง
ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา -
14:54 - 14:57อาจไม่ใช่เรื่องที่มองว่าเจ๋ง
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็ได้ -
14:58 - 15:02แต่ในระหว่างนั้น การสอนผู้คน
โดยเฉพาะเด็ก ๆ -
15:02 - 15:05ให้ใช้เทคโนโลยีในการ
ปรับปรุงคุณภาพชีวิตตนเอง -
15:05 - 15:06รวมถึงให้ควบคุมตัวเองได้
-
15:06 - 15:09จำเป็นจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของการรู้ดิจิทัล
-
15:11 - 15:13ดังนั้นครั้งต่อไปที่คุณเช็กโทรศัพท์ของคุณ
-
15:14 - 15:18จำไว้ว่าถ้าคุณไม่ตัดสินใจว่า
คุณจะใช้เทคโนโลยีนั้นอย่างไร -
15:18 - 15:20อุปกรณ์พวกนั้นจะตัดสินใจให้คุณเอง
-
15:21 - 15:23และลองถามตัวคุณเองดูว่า
-
15:23 - 15:24จริง ๆ แล้วคุณอยากทำอะไรกันแน่
-
15:24 - 15:28เพราะว่าถ้าหากคุณอยากเช็กอีเมล์จริง ๆ
ก็ไม่มีปัญหาอะไร ทำแบบนั้นให้เสร็จไป -
15:28 - 15:31แต่ถ้ามันเป็นการเบี่ยงความสนใจคุณ
จากการทำงานที่ยาก -
15:31 - 15:33ที่ต้องอาศัยการคิดที่ลึกกว่านั้น
-
15:33 - 15:35ให้ลองพักดู
-
15:35 - 15:36มองออกไปนอกหน้าต่าง
-
15:37 - 15:40และรู้ว่าการที่คุณไม่ได้ทำอะไรนั้น
-
15:40 - 15:44จริง ๆ แล้วคุณกำลังอยู่ในช่วงที่
ตนเองมีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด -
15:44 - 15:47ในตอนแรก คุณอาจรู้สึกแปลก ๆ หรืออึดอัด
-
15:47 - 15:50แต่ความเบื่อหน่ายนี้เองสามารถนำไปสู่
ความคิดที่ยอดเยี่ยมได้ -
15:50 - 15:52ขอบคุณค่ะ
-
15:52 - 15:56(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ความเบื่อหน่าย: หนทางสู่ความคิดสุดล้ำ
- Speaker:
- มานุช โซโมโรดี (Manoush Zomorodi)
- Description:
-
มีบางไหมในบางครั้งที่คุณคิดอะไรเจ๋ง ๆ ออกตอนที่กำลังพับผ้า ล้างจาน หรือทำอะไรไปเรื่อยเปื่อย ถ้าคุณเคย นั่นก็เพราะเมื่อร่างกายของคุณทำงานอัตโนมัติด้วยตัวเอง สมองของคุณจะยุ่งอยู่กับการสร้างการเชื่อมโยงของเซลล์ประสาทใหม่ ๆ ที่เชื่อมความคิดเข้าด้วยกันและแก้ปัญหาต่าง ๆ ขึ้นมา มาเรียนรู้วิธีรักความเบื่อหน่ายจากที่มานุช โซโมโรดีอธิบายการเชื่อมโยงระหว่างความใจลอยและความคิดสร้างสรรค์
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 16:13
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for How boredom can lead to your most brilliant ideas | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for How boredom can lead to your most brilliant ideas | ||
Rawee Ma accepted Thai subtitles for How boredom can lead to your most brilliant ideas | ||
Purich Worawarachai edited Thai subtitles for How boredom can lead to your most brilliant ideas | ||
Rawee Ma declined Thai subtitles for How boredom can lead to your most brilliant ideas | ||
Rawee Ma edited Thai subtitles for How boredom can lead to your most brilliant ideas | ||
Retired user edited Thai subtitles for How boredom can lead to your most brilliant ideas | ||
Purich Worawarachai edited Thai subtitles for How boredom can lead to your most brilliant ideas |