Return to Video

บล็อกเชนเปลี่ยนแปลงการเงินและธุรกิจได้อย่างไร

  • 0:01 - 0:04
    เทคโนโลยีที่ดูเหมือน
    จะส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
  • 0:04 - 0:06
    ในอีกสองสามทศวรรษข้างหน้า
  • 0:06 - 0:07
    ได้มาถึงแล้ว
  • 0:08 - 0:10
    และมันไม่ใช่สื่อสังคมออนไลน์
  • 0:10 - 0:12
    มันไม่ได้เป็นบิ๊กดาต้า (Big Data)
  • 0:12 - 0:13
    มันไม่ได้เป็นวิทยาการหุ่นยนต์
  • 0:13 - 0:15
    มันไม่ได้เป็นแม้กระทั่งปัญญาประดิษฐ์
  • 0:15 - 0:17
    คุณจะประหลาดใจเมื่อรู้ว่า
  • 0:17 - 0:22
    มันเป็นเทคโนโลยีพื้นฐาน
    ของเงินดิจิตอล อย่างเช่น บิทคอยน์
  • 0:22 - 0:26
    มันถูกเรียกว่า บล็อกเชน (Block chain)
  • 0:26 - 0:29
    ครับ มันไม่ได้เป็นคำ
    ที่ดังก้องกังวาลที่สุดในโลก
  • 0:30 - 0:33
    แต่ผมเชื่อว่าในตอนนี้
  • 0:33 - 0:35
    เรื่องนี้เป็นยุคต่อไปของอินเตอร์เน็ต
  • 0:35 - 0:40
    และก็เชื่อว่ามันจะรองรับคำมั่นสัญญา
    สำหรับทุก ๆ ธุรกิจทุก ๆ สังคม
  • 0:40 - 0:42
    และสำหรับคุณทุกคน เป็นรายบุคคล
  • 0:42 - 0:47
    ครับ ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมานั้น
    เรามีข้อมูลอินเตอร์เน็ต
  • 0:47 - 0:51
    เมื่อผมส่งอีเมลไปให้คุณ หรือ
    ไฟล์พาวเวอร์พ้อยท์ หรือบางสิ่งบางอย่าง
  • 0:51 - 0:53
    จริง ๆ ผมไม่ได้ส่งต้นฉบับไปให้คุณ
  • 0:53 - 0:55
    แต่ผมส่งสำเนาไปให้คุณ
  • 0:55 - 0:57
    และนั่นมันเยี่ยมยอด
  • 0:57 - 0:59
    เรื่องนี้เป็นข้อมูลที่
    ถูกทำให้เป็นประชาธิปไตยแล้ว
  • 1:00 - 1:03
    แต่เมื่อกล่าวถึงเรื่องของทรัพย์สิน
  • 1:03 - 1:06
    อย่างเช่น เงินตรา
  • 1:06 - 1:08
    ทรัพย์สินทางการเงิน
    เช่น หุ้น และ พันธบัตร
  • 1:08 - 1:12
    การเก็บสะสมแต้ม ทรัพย์สินทางปัญญา
  • 1:12 - 1:14
    ดนตรี ศิลปะ คะแนนเสียง
  • 1:15 - 1:18
    คาร์บอนเครดิต และทรัพย์สินอย่างอื่น
  • 1:18 - 1:20
    การส่งสำเนาไปให้คุณ
    เป็นความคิดที่ไม่ดีเป็นอย่างยิ่ง
  • 1:20 - 1:22
    ถ้าผมส่งเงิน 100 ดอลล่าร์ไปให้คุณ
  • 1:22 - 1:25
    มันสำคัญจริง ๆ ว่าผมไม่ได้ยังคง
    มีเงินนั้นอยู่--
  • 1:25 - 1:26
    (เสียงหัวเราะ)
  • 1:26 - 1:29
    และผมก็ไม่สามารถส่งเงินนั้นไปให้คุณ
  • 1:29 - 1:31
    ปัญหานี้เรียกว่า "จ่ายสองต่อ"
    (Double spending)
  • 1:31 - 1:33
    โดยนักวิทยาการเข้ารหัสลับ
    มาเป็นเวลานาน
  • 1:33 - 1:39
    ในวันนี้ ทั้งหมดนั้น
    เราจึงต้องอาศัยคนกลางใหญ่ ๆ
  • 1:39 - 1:41
    คนกลาง อย่างเช่น ธนาคาร รัฐบาล
  • 1:41 - 1:45
    บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ใหญ่ๆ
    บริษัทเครดิตการ์ดใหญ่ ๆ และอื่น ๆ
  • 1:45 - 1:47
    เพื่อสร้างความไว้วางใจขึ้น
    ในเศรษฐกิจของเรา
  • 1:48 - 1:53
    และตัวกลางเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่
    ด้านตรรกะทางธุรกิจและธุรกรรมทั้งหมด
  • 1:53 - 1:54
    ของการค้าขายทุกประเภท
  • 1:54 - 1:57
    ตั้งแต่เรื่องการพิสูจน์ตัวตน
    การแสดงตัวของบุคคล
  • 1:57 - 2:01
    ผ่านทางการเรียกเก็บเงิน การชำระเงิน
    และการบันทึกข้อมูล
  • 2:02 - 2:04
    โดยรวมแล้ว พวกเขาทำงานได้ดีมาก
  • 2:04 - 2:05
    แต่ก็มีปัญหาที่พอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ
  • 2:06 - 2:07
    พวกเขารวมอำนาจไว้ที่ศูนย์กลาง
  • 2:07 - 2:10
    นั่นหมายถึงว่าพวกเขาสามารถถูกแฮ็กได้
    และก็ถูกแฮ็กเพิ่มขึ้น
  • 2:10 - 2:13
    บริษัทเจพีมอร์แกน รัฐบาลกลางสหรัฐ
  • 2:13 - 2:15
    สื่อออนไลด์ลิงด์อิน โฮมดีพอต และอื่น ๆ
  • 2:15 - 2:16
    เมื่อพบก็ต้องเดือดร้อนยุ่งยาก
  • 2:17 - 2:20
    พวกเขาแยกคนหลายพันล้านคน
    ออกไปจากเศรษฐกิจโลก
  • 2:20 - 2:23
    ตัวอย่างเช่น คนที่ไม่มีเงินพอ
  • 2:23 - 2:24
    ที่จะมีบัญชีฝากธนาคาร
  • 2:25 - 2:27
    พวกเขาทำให้เรื่องให้มันช้าลง
  • 2:27 - 2:31
    มันใช้แค่หนึ่งวินาทีเพื่อส่งอีเมล
    ไปรอบโลกได้
  • 2:31 - 2:33
    แต่มันใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ก็ได้
  • 2:33 - 2:36
    เพื่อให้เงินย้ายผ่านระบบธนาคาร
    ไปที่เมืองต่าง ๆ
  • 2:36 - 2:38
    และพวกเขาได้ส่วนแบ่งที่มาก
    จากการทำงานนั้น
  • 2:38 - 2:41
    10-20 เปอร์เซ็นต์ แค่เพียงส่งเงิน
    ไปอีกประเทศหนึ่ง
  • 2:42 - 2:44
    พวกเขายึดครองข้อมูลของเราไว้
  • 2:44 - 2:46
    หมายถึง เราไม่สามารถเอาตัวเงินออกมา
  • 2:46 - 2:48
    หรือใช้เงินนั้นไปเพื่อจัดการอย่างดีกว่า
    กับชีวิตของเรา
  • 2:48 - 2:51
    ความเป็นส่วนตัวของเราถูกบั่นทอนไป
  • 2:51 - 2:53
    และปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือ โดยรวมแล้ว
  • 2:54 - 3:00
    พวกเขาได้ยึดครองเงินปันที่ส่งไป
    ของยุคดิจิตอลอย่างไม่สมดุลกัน
  • 3:00 - 3:04
    กล่าวคือ เรามีการสร้างความมั่งคั่ง แต่เรา
    มีความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมเพิ่มมากขึ้น
  • 3:05 - 3:09
    ดังนั้น จะเป็นอย่างไรหากเรา
    ไม่มีแค่อินเตอร์เน็ตในเรื่องของข้อมูล
  • 3:09 - 3:12
    สมมุติว่าเรามีอินเตอร์เน็ต
    ในเรื่องของมูลค่า
  • 3:13 - 3:17
    ในแบบของบัญชีที่ไม่ได้เก็บไว้ที่ศูนย์กลาง
    (Distributed ledger) ที่กว้างระดับโลก
  • 3:17 - 3:19
    กำลังวิ่งอยู่ในคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่อง
  • 3:19 - 3:21
    และคนทุกคนสามารถเข้าไปใช้ได้
  • 3:21 - 3:25
    และเป็นที่ซึ่งทรัพย์สินทุกรูปแบบ
    ตั้งแต่เงินจนถึงดนตรี
  • 3:25 - 3:31
    สามารถถูกเก็บไว้ เคลื่อนย้ายไป ซื้อขาย
    แลกเปลี่ยน และจัดการได้
  • 3:31 - 3:33
    ทั้งหมดนั้นทำได้โดยไม่ต้องมีคนกลาง
    ผู้ทรงอำนาจ
  • 3:34 - 3:37
    จะเป็นอย่างไร
    หากมีตัวกลางของมูลค่าแท้ ๆ ขึ้นมา
  • 3:38 - 3:43
    ครับ ในปี ค.ศ 2008 อุตสาหกรรมการเงิน
    ล่มสลายลง
  • 3:43 - 3:46
    และบางทีเมื่อฤกษ์งามยามดี
  • 3:46 - 3:50
    บุคคลนิรนามคนหนึ่งหรือหลายคน ที่ชื่อว่า
    ซาโตชิ นากาโมโต
  • 3:51 - 3:58
    สร้างกระดาษขึ้นมาแผ่นหนึ่ง ซึ่งพัฒนาเป็น
    เกณฑ์วิธีของเงินสดดิจิตอล (Digital cash)
  • 3:58 - 4:02
    ซึ่งใช้สกุลเงินดิจิตอลที่เรียกกันว่า
    บิทคอย (Bitcoin) เป็นตัวรองรับ
  • 4:02 - 4:08
    และสกุลเงินดิจิตอลตัวนี้เองทำให้ผู้คน
    สามารถก่อตั้งเครดิดขึ้นมาและทำธุรกิจได้
  • 4:08 - 4:10
    โดยไม่ต้องมีบุคคลที่สาม
  • 4:10 - 4:14
    และงานที่ดูง่าย ๆ นี้เอง ได้จุดชนวน
  • 4:14 - 4:16
    ซึ่งจุดชนวนโลก
  • 4:16 - 4:21
    ซึ่งทำให้ทุกคนตื่นเต้น หวาดกลัว
    หรือไม่ก็สนอกสนใจ
  • 4:21 - 4:22
    ขึ้นในหลาย ๆ ที่
  • 4:23 - 4:25
    ครับ อย่าสับสนในเรื่องของบิทคอย
  • 4:25 - 4:28
    บิทคอยเป็นทรัพย์สิน มันขึ้นได้ลงได้
  • 4:28 - 4:31
    และเรื่องนั้นเป็นสิ่งที่คุณควรจะสนใจ
    หากว่าคุณเป็นนักเก็งกำไร
  • 4:32 - 4:34
    พูดง่าย ๆ กว้าง ๆ มันเป็นสกุลเงินดิจิตอล
  • 4:34 - 4:37
    มันไม่ได้เป็นเงินกระดาษที่พิมพ์ออกมา
    โดยการควบคุมของรัฐประชาชาติ
  • 4:37 - 4:39
    และนั่นเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากกว่า
  • 4:39 - 4:43
    แต่ที่เป็นเรื่องจริง ๆ ตรงนี้คือ
    เทคโนโลยี่ที่รองรับมัน
  • 4:43 - 4:44
    ที่เรียกกันว่า บล็อกเชน
  • 4:46 - 4:49
    จึงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
  • 4:49 - 4:52
    ที่คนทุกหนทุกแห่งไว้วางใจกันและกันได้
  • 4:52 - 4:54
    และทำธุรกิจค้าขายระหว่างจุดต่อจุด
  • 4:55 - 4:59
    และความไว้วางใจกันก็ก่อเกิดขึ้นมาได้
    ไม่ได้เกิดจากสถาบันใหญ่โต
  • 4:59 - 5:02
    แต่เกิดขึ้นโดยการร่วมมือกัน โดยการเข้ารหัส
  • 5:02 - 5:04
    และโดยรหัสที่ชาญฉลาด
  • 5:05 - 5:08
    และเพราะเหตุว่าความไว้วางใจกัน
    เป็นเนื้อแท้ของเทคโนโลยี
  • 5:08 - 5:11
    เรียกมันว่า "เกณฑ์วิธีไว้วางใจ"
    (The Trust Protocol)
  • 5:11 - 5:14
    คุณก็อาจสงสัยว่า ทำไมสิ่งนี้จึงทำงานได้
  • 5:14 - 5:15
    ก็พอเข้าใจกันได้
  • 5:16 - 5:21
    ทรัพย์สินนั้น ทรัพย์สินดิจิตอล เช่น
    เงิน จนถึง ดนตรี และที่อยู่ระหว่างนั้น
  • 5:21 - 5:23
    ไม่ได้ถูกเก็บไว้ที่กองกลาง
  • 5:23 - 5:26
    แต่มันเป็นบัญชีที่ถูกแจกจ่ายไปทั่วโลก
  • 5:26 - 5:28
    ใช้การเข้ารหัสระดับสูง
  • 5:29 - 5:32
    และเมื่อมีการทำธุรกิจค้าขายเกิดขึ้น
  • 5:32 - 5:34
    มันก็ถูกโพสท์เข้าไปทั้งโลก
  • 5:34 - 5:37
    ทั่วทั้งคอมพิวเตอร์หลาย ๆ ล้านเครื่อง
  • 5:38 - 5:39
    และที่ตรงนั้น รอบไปทั้งโลก
  • 5:39 - 5:42
    คือกลุ่มของคนที่เรียกกันว่า "มายเนอร์"
    (Miners)
  • 5:42 - 5:45
    คนเหล่านี้ไม่ใช่คนหนุ่มสาว
    แต่เป็นบิทคอยมายเนอร์
  • 5:45 - 5:48
    พวกเขามีพลังอำนาจในการใช้คอมพิวเตอร์
    มากมายอยู่ที่ปลายนิ้ว
  • 5:48 - 5:53
    10 ถึง 100 เท่าใหญ่ยิ่งกว่ากูเกิลทั้งหมด
    ที่มีอยู่ทั่วโลก
  • 5:54 - 5:56
    มายเนอร์เหล่านี้ทำงานมากมาย
  • 5:56 - 5:57
    และในทุก ๆ 10 นาที่
  • 5:58 - 6:00
    คล้าย ๆ กับเป็นจังหวะการเต้นของหัวใจ
    ของเครือข่าย
  • 6:00 - 6:02
    บล็อกธุรกรรมออนไลน์ถูกสร้างขึ้นมา
  • 6:02 - 6:05
    ซึ่งมีข้อมูลการทำธุรกรรมทั้งหมด
    จากเมื่อ 10 นาทีก่อน
  • 6:06 - 6:11
    แล้วมายเนอร์เหล่านั้นก็จะเข้าทำงาน
    โดยพยายามที่จะแก้ปัญหายาก ๆ ที่มี
  • 6:11 - 6:12
    และพวกเขาก็แข่งขันกัน เช่น
  • 6:12 - 6:17
    มายเนอร์คนแรกที่พบความจริง
    และทำให้บล็อกนั้นใช้การได้
  • 6:17 - 6:19
    ก็จะได้รับรางวัลเป็นเงินดิจิตอล
  • 6:19 - 6:22
    ในกรณีของบล็อกเชนบิทคอยน์
    ก็จะได้รางวัลเป็นบิทคอยน์
  • 6:22 - 6:24
    และแล้ว ตรงนี้เป็นกุญแจสำคัญ
  • 6:24 - 6:27
    บล็อกนั้นก็จะถูกเชื่อมต่อ
    เข้ากับบล็อกก่อนหน้านี้
  • 6:27 - 6:28
    และก็บล็อกก่อนหน้านี้
  • 6:28 - 6:31
    เพื่อสร้างสายโซ่ที่เชื่อมต่อกันของบล็อก
  • 6:31 - 6:33
    และทุก ๆ บล็อกก็ถูกประทับเวลาไว้
  • 6:33 - 6:35
    คล้ายกับประทับตราไว้ด้วยขี้ผึ้งแบบดิจิตอล
  • 6:36 - 6:38
    ดังนั้น หากคุณอยากจะไปแฮ็กบล็อก ๆ หนึ่ง
  • 6:38 - 6:42
    และบอกว่า จ่ายเงินมาให้คุณ
    ด้วยเงินแบบเดียวกันนั้น
  • 6:42 - 6:44
    ผมก็ต้องแฮ็กบล็อกที่ว่านั้น
  • 6:44 - 6:45
    บวกกับบล็อกก่อนหน้านั้นทั้งหมด
  • 6:45 - 6:49
    หรือประวัติของการค้าขายในบล็อกเชน
    ทั้งหมดนั้น
  • 6:49 - 6:52
    ไม่เพียงในคอมพิวเตอร์แค่เครื่องหนึ่ง
    แต่ทั่วทั้งคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่อง
  • 6:52 - 6:54
    ในเวลาเดียวกัน
  • 6:54 - 6:57
    ทั้งหมดนั้นใช้การเข้ารหัสระดับสูง
  • 6:57 - 7:01
    เมื่อพิจารณาถึงแหล่งคอมพิวเตอร์
    ที่ทรงพลังที่สุดในโลก
  • 7:01 - 7:02
    ซึ่งกำลังเฝ้าดูผมอยู่
  • 7:02 - 7:03
    เป็นเรื่องยากที่จะทำได้
  • 7:04 - 7:06
    สิ่งนี้จึงปลอดภัยกว่าอย่างเหลือคณานับ
  • 7:06 - 7:08
    ยิ่งกว่าระบบคอมพิวเตอร์
    ที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน
  • 7:08 - 7:11
    บล็อกเชน นั่นแหละคือการทำงานของมัน
  • 7:11 - 7:14
    บิตคอยน์บล็อกเชน จึงเป็นแค่เพียงอย่างหนึ่ง
  • 7:14 - 7:15
    มันมีมากมายเยอะแยะ
  • 7:15 - 7:20
    อิเตียเรียมบล็อกเชน ได้ถูกพัฒนาขึ้นโดย
    ชาวคานาดา ชื่อว่า ไวทาลิก บิวเทอริน
  • 7:20 - 7:22
    เขาอายุ 22 ปี
  • 7:22 - 7:26
    และบล็อกเชนที่ว่านี้ มีความสามารถพิเศษ
    บางประการ
  • 7:26 - 7:29
    ประการหนึ่งก็คือ คุณสามารถ
    สร้างสมาร์ทคอนแทคขึ้นได้
  • 7:29 - 7:31
    คล้ายกับชื่อของมัน
  • 7:31 - 7:34
    มันเป็นคอนแทคที่มีผลบังคับทันที
  • 7:34 - 7:39
    และคอนแทคนั้นดำเนินการเรื่องการบังคับใช้
    การจัดการ การปฏิบัติงาน
  • 7:39 - 7:43
    และการชำระเงิน คอนแทคนั้นจะว่าไป
    ก็คล้ายกับมีบัญชีธนาคารอยู่ด้วย
  • 7:43 - 7:46
    ของข้อตกลงระหว่างบุคคล
  • 7:46 - 7:48
    และในปัจจุบัน ในอิเตียเรียมบล็อกเชน
  • 7:48 - 7:51
    มีโครงการต่าง ๆ กำลังดำเนินอยู่
    เพื่อทำทุก ๆ เรื่อง
  • 7:51 - 7:54
    ตั้งแต่สร้างสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาแทนที่
    ตลาดหลักทรัพย์
  • 7:54 - 7:56
    จนถึงรูปแบบใหม่ของประชาธิปไตย
  • 7:56 - 7:59
    ซึ่งนักการเมืองต้องรับผิดชอบต่อประชาชน
  • 7:59 - 8:02
    (เสียงปรบมือ)
  • 8:02 - 8:06
    เพื่อให้เข้าใจว่า การเปลี่ยนแปลงที่สุดโต่ง
    สิ่งนี้จะนำอะไรมาให้นั้น
  • 8:07 - 8:09
    เรามาดูที่อุตสาหกรรมหนึ่ง
    คือ บริการด้านการเงิน
  • 8:09 - 8:11
    จำสิ่งนี้ได้หรือไม่ครับ
  • 8:11 - 8:13
    เครื่องรูบโกลด์เบิร์ก (Rube Goldberg)
  • 8:13 - 8:17
    เป็นเครืองมือที่ซับซ้อนอย่างตลก
    ซึ่งทำบางสิ่งบางอย่างที่ง่ายอย่างยิ่ง
  • 8:17 - 8:19
    เช่น ตอกไข่ หรือ ปิดประตู
  • 8:20 - 8:23
    ครับ คล้ายกับเตือนผมถึง
    อุตสาหกรรมบริการด้านการเงิน
  • 8:23 - 8:25
    พูดตรง ๆ
  • 8:25 - 8:28
    ผมหมายถึง คุณแตะบัตรของคุณ
    ในร้านสะดวกซื้อตรงมุมถนน
  • 8:28 - 8:31
    กระแสการส่งรับข้อมูลบิตสตรีม
    (Bitstream) ก็จะไปตามบริษัททั้งหลาย
  • 8:31 - 8:33
    แต่ละบริษัทก็มีระบบคอมพิวเตอร์ของตนเอง
  • 8:33 - 8:36
    ซึ่งบางบริษัทเป็นเมนเฟรม
    ของช่วงปี ค.ศ 1970-1979
  • 8:36 - 8:38
    ที่มีอายุมากกว่าหลาย ๆ ท่านในห้องนี้
  • 8:38 - 8:41
    แล้วสามวันต่อมาการชำระหนี้ จึงเกิดขึ้น
  • 8:42 - 8:45
    ครับ เมื่อใช้อุตสาหกรรมการเงินบล็อกเชน
  • 8:45 - 8:47
    ก็จะไม่มีการชำระหนี้
  • 8:47 - 8:50
    เพราะว่าการจ่ายเงินและการชำระหนี้
    เป็นกิจกรรมอย่างเดียวกัน
  • 8:50 - 8:51
    มันเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนแปลงในบัญชี
  • 8:52 - 8:54
    ดังนั้นวอลสตรีทและทั้งหมดทั่วโลก
  • 8:54 - 8:58
    อุตสาหกรรมการเงินนั้น จึงอยู่ในภาวะวุ่นวาย
    ครั้งใหญ่ในเรื่องนี้
  • 8:58 - 9:00
    สงสัยกันว่า ตัวเรานั้นจะถูกแทนที่หรือไม่
  • 9:00 - 9:03
    หรือว่า เราจะรับเทคโนโลยีนี้
    เพื่อให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร
  • 9:03 - 9:05
    แล้วทีนี้ ทำไมเราต้องสนใจด้วยเล่า
  • 9:06 - 9:09
    ครับ ขอให้ผมอธิบายถึงการนำไปใช้บางอย่าง
  • 9:10 - 9:11
    ความเจริญรุ่งเรือง
  • 9:11 - 9:13
    ยุคแรก ๆ ของอินเตอร์เน็ตนั้น
  • 9:13 - 9:15
    ข้อมูลอินเตอร์เน็ต
  • 9:15 - 9:18
    นำเราไปสู่ความมั่งคั่ง
    แต่ไม่ได้แบ่งปันความเจริญรุ่งเรือง
  • 9:18 - 9:21
    เพราะความเหลื่อมลํ้าทางสังคมมีเพิ่มมากขึ้น
  • 9:21 - 9:25
    และสิ่งนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของทั้งหมด
    ของความโกรธเคือง ลัทธิหัวรุนแรง
  • 9:25 - 9:28
    ลัทธิปกป้องทางการค้า ความเกลียดกลัว
    ชาวต่างชาติ และที่เลวร้ายกว่านั้น
  • 9:28 - 9:31
    ซึ่งเราก็เห็นว่ากำลังเติบโตขึ้นในโลก
    ทุกวันนี้
  • 9:31 - 9:34
    เบร็กซิท (Brexit) เป็นกรณีล่าสุด
  • 9:35 - 9:41
    ดังนั้น เราจะพัฒนาวิธีใหม่ ๆ บางอย่าง
    สำหรับปัญหาความเหลื่อมลํ้านี้ได้หรือไม่
  • 9:41 - 9:44
    เพราะว่าวิธีการเดียวในปัจจุบัน คือ
    เพื่อกระจายความมั่งคั่งขึ้นมาใหม่
  • 9:44 - 9:47
    การเก็บภาษีอากร
    และขยายมันออกไปโดยรอบมากขึ้น
  • 9:47 - 9:49
    เราอาจจะกระจายความมั่งคั่งขึ้นมาล่วงหน้า
    ได้หรือไม่
  • 9:50 - 9:53
    เราอาจจะเปลี่ยนวิธีที่ความมั่งคั่ง
    ถูกสร้างขึ้นมาในตอนแรก ได้หรือไม่
  • 9:53 - 9:55
    โดยทำให้การสร้างความมั่งคั่ง
    ให้เป็นประชาธิปไตย
  • 9:55 - 9:57
    นำคนเข้ามามีส่วนร่วมในด้านเศรษฐกิจ
    ให้มากขึ้น
  • 9:58 - 10:01
    แล้วก็ทำให้มั่นใจได้ว่า
    พวกเขาได้ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม
  • 10:01 - 10:04
    ขอให้ผมอธิบายวิธีการ 5 วิธี
    ที่จะทำสิ่งนี้ได้
  • 10:05 - 10:06
    วิธีที่หนึ่ง
  • 10:06 - 10:11
    คุณทราบหรือไม่ว่า 70 เปอร์เซ็นต์
    ของคนในโลก ที่มีที่ดินนั้น
  • 10:11 - 10:13
    สิทธิการครอบครองนั้นแทบจะไม่มีความหมาย
  • 10:14 - 10:17
    ดังนั้น หากคุณมีฟาร์มเล็ก ๆ ในฮอนดูรัส
    เมื่อเผด็จการเข้ามามีอำนาจ
  • 10:17 - 10:21
    และบอกว่า "ผมรู้นะว่าคุณมีแผ่นกระดาษ
    ที่บอกว่าคุณเป็นเจ้าของฟาร์มของคุณ
  • 10:21 - 10:25
    แต่คอมพิวเตอร์ของรัฐบาลบอกว่า
    เพื่อนของผมเป็นเจ้าของฟาร์มของคุณนี้"
  • 10:25 - 10:27
    เรื่องนี้เกิดขึ้นมากมายทั่วไปในฮอนดูรัส
  • 10:27 - 10:30
    และปัญหานี้มีอยู่ในทุก ๆ ที่
  • 10:30 - 10:33
    เฮอนานโด เดอะ โซโต นักเศรษฐศาสตร์
    ลาตินอเมริกันที่ยิ่งใหญ่
  • 10:33 - 10:35
    กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาอันดับแรก
    ในโลก
  • 10:35 - 10:37
    ในเรื่องการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ
  • 10:37 - 10:39
    สำคัญยิ่งกว่าการมีบัญชีฝากเงินในธนาคาร
  • 10:39 - 10:42
    เพราะว่าหากคุณไม่มีกรรมสิทธิที่ถูกต้อง
    ในที่ดินของคุณ
  • 10:42 - 10:43
    ก็ใช้มันคํ้าประกันกู้เงินไม่ได้
  • 10:43 - 10:45
    และคุณก็วางแผนสำหรับอนาคตไม่ได้
  • 10:46 - 10:49
    ดังนั้น ปัจจุบัน บริษัททั้งหลาย
    จึงกำลังทำงานกับรัฐบาล
  • 10:49 - 10:52
    เพื่อนำเอากรรมสิทธิที่ดินไปไว้ในบล็อกเชน
  • 10:52 - 10:54
    และทันทีที่มันอยู่ที่นั่น
    ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
  • 10:55 - 10:56
    คุณแฮ็กมันไม่ได้
  • 10:56 - 10:59
    สิ่งนี้ทำให้เกิดสภาวะ
    เพื่อความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา
  • 10:59 - 11:02
    สำหรับคนหลายพันล้านคนที่จะมี
    ในอนาคต
  • 11:03 - 11:04
    วิธีที่สอง
  • 11:04 - 11:07
    นักเขียนจำนวนมากพูดถึง อูเบอร์ (Uber)
  • 11:07 - 11:10
    แอร์บีเอ็นบี (Airbnb) ทาส์คแร็บบิท
    (Taskrabbit) ลิฟท์ (Lyft) และอื่น ๆ
  • 11:10 - 11:12
    ว่าเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน
  • 11:12 - 11:14
    เรื่องนี้เป็นแนวคิดที่ทรงพลังมาก
  • 11:14 - 11:17
    ที่ให้เพื่อนสามารถมาร่วมกันสร้างและแบ่งปัน
    ความรํ่ารวยมั่งคั่ง
  • 11:18 - 11:19
    ในความเห็นของผมคือ ...
  • 11:20 - 11:24
    บริษัทเหล่านี้ไม่ได้แบ่งปันกันอย่างแท้จริง
  • 11:24 - 11:28
    ในความเป็นจริง ว่ากันตรง ๆ ที่สำเร็จได้
    ก็เพราะพวกเขาไม่ได้แบ่งปัน
  • 11:28 - 11:31
    พวกเขารวบรวมบริการไว้ แล้วก็ขายมันไป
  • 11:32 - 11:37
    สมมุติว่าแทนที่จะใช้บริการของแอร์บีเอ็นบี
    ซึ่งเป็นบริษัท 25 พันล้านดอลลาร์
  • 11:37 - 11:42
    กลับมีโปรแกรมการใช้กันกระจายออกไป
    ในบล็อกเชน เราจะเรียกมันว่า บีแอร์บีเอ็นบี
  • 11:42 - 11:46
    และที่สำคัญ คนทั้งหมดนั้นเป็นเจ้าของมัน
  • 11:46 - 11:48
    ผู้คนที่มีห้องให้เช่า
  • 11:49 - 11:51
    และเมื่อมีใครต้องการจะเช่าห้อง ๆ หนึ่ง
  • 11:51 - 11:55
    พวกเขาก็เข้าไปในฐานข้อมูลของบล็อกเชน
    และเกณฑ์ทั้งหมดเหล่านั้น
  • 11:55 - 11:58
    แล้วเขาก็เลือกดู มันจะช่วยให้พบห้องพัก
    ที่เหมาะสมได้
  • 11:58 - 12:01
    แล้วบล็อกเชนยังช่วยเกี่ยวกับการติดต่อ
  • 12:01 - 12:03
    มันระบุได้ว่าใครเป็นใคร
  • 12:03 - 12:04
    มันจัดการเรื่องการชำระเงิน
  • 12:04 - 12:07
    แค่ผ่านทางการชำระเงินดิจิตอล
    ซึ่งถูกสร้างไว้ในระบบ
  • 12:07 - 12:09
    จัดการได้แม้กระทั่งด้านชื่อเสียง
  • 12:09 - 12:13
    เพราะว่าถ้าเธอจัดอันดับห้องเป็นระดับห้าดาว
  • 12:13 - 12:14
    ห้องนั้นก็ยังอยู่ที่นั่น
  • 12:14 - 12:16
    และมันก็ถูกจัดระดับไว้แล้ว
    และก็เปลี่ยนไม่ได้
  • 12:17 - 12:22
    ผู้ที่ทำให้เศรษฐกิจแบบแบ่งปันล่มรายใหญ่ ๆ
    ในซิลิคอนแวลลีย์นั้น
  • 12:23 - 12:24
    ก็อาจถูกทำให้ล่มไปได้
  • 12:24 - 12:26
    และเรื่องนี้ก็จะดีต่อความเจริญรุ่งเรือง
  • 12:26 - 12:28
    วิธีที่สาม
  • 12:28 - 12:31
    การไหลของเงินทุนที่ใหญ่ที่สุด
    จากโลกที่พัฒนาแล้ว
  • 12:31 - 12:32
    ไปยังโลกที่กำลังพัฒนา
  • 12:32 - 12:35
    ไม่ใช่การลงทุนของบริษัท
  • 12:35 - 12:37
    และไม่ใช่แม้กระทั่งเงินช่วยจากต่างชาติ
  • 12:38 - 12:40
    มันเป็นการส่งเงินไปให้กัน
  • 12:40 - 12:42
    ซึ่งเป็นเรื่องการอพยพของคนในระดับโลก
  • 12:42 - 12:45
    เมื่อคนได้ละทิ้งแผ่นดินของบรรพบุรุษ
  • 12:45 - 12:49
    และพวกเขาก็ส่งเงินกลับมาให้ครอบครัว
    ที่บ้าน
  • 12:49 - 12:52
    เรื่องนี้เป็นเงิน 600 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
    และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
  • 12:52 - 12:54
    และคนเหล่านี้กำลังถูกขโมยเงินไป
  • 12:55 - 12:57
    อนาเลีย โดมินโก ทำงานเป็นแม่บ้าน
  • 12:58 - 13:00
    เธออยู่ในกรุงโตรอนโต
  • 13:00 - 13:05
    ทุก ๆ เดือน เธอไปที่
    สำนักงานเวสเทอร์นยูเนียน
  • 13:05 - 13:06
    พร้อมกับเงินสด
  • 13:06 - 13:09
    เพื่อส่งเงินไปให้แม่ของเธอ ในกรุงมนิลา
  • 13:10 - 13:12
    เธอต้องเสียค่าใช้จ่ายราว 10 เปอร์เซ็นต์
  • 13:12 - 13:14
    และเงินนั้นใช้เวลาสี่ถึงเจ็ดวัน
    จึงไปถึงที่นั่น
  • 13:14 - 13:16
    แม่ของเธอไม่เคยรู้เลยว่า
    มันจะมาถึงเมื่อไหร่
  • 13:16 - 13:19
    เธอใช้เวลาห้าชั่วโมงจากสัปดาห์ของเธอ
    เพื่อทำเรื่องนี้
  • 13:20 - 13:21
    เมื่อหกเดือนที่แล้ว
  • 13:21 - 13:25
    อนาเลีย โดมินโก ใช้บล็อกเชน
    ที่เรียกว่า แอบรา (Abra)
  • 13:26 - 13:28
    จากเครื่องมือในมือถือของเธอ
    เธอส่งเงินไป 300 ดอลลาร์
  • 13:28 - 13:31
    มันส่งตรงไปที่มือถือของแม่เธอ
  • 13:31 - 13:33
    โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง
  • 13:33 - 13:36
    แล้วแม่เของเธอก็ดูไปที่มือถือของเธอ
  • 13:36 - 13:40
    คล้าย ๆ กับตัวประสานอูเบอร์อย่างหนึ่ง
    มีคนจ่ายเงินแอบรา (Abra) เคลื่อนที่ไปทั่ว
  • 13:40 - 13:42
    เธอก็คลิกไปที่เทลเลอร์
    ซึ่งเป็นเทลเลอร์ระดับห้าดาว
  • 13:42 - 13:44
    ซึ่งอยู่ไกลออกไปเจ็ดนาที
  • 13:44 - 13:47
    คนนั้นก็มาถึงหน้าประตู
    นำเงินเปโซพิลิปปินส์มาให้เธอ
  • 13:47 - 13:49
    แล้วเธอก็เอาเงินใส่ในกระเป๋า
  • 13:49 - 13:51
    ทั้งหมดนั้นใช้เวลาไม่กี่นาที
  • 13:51 - 13:53
    และเธอเสียเงินไปสองเปอร์เซ็นต์
  • 13:54 - 13:57
    เรื่องนี้เป็นโอกาสใหญ่
    สำหรับความเจริญรุ่งเรือง
  • 13:58 - 14:02
    วิธีที่สี่ ทรัพย์สินที่ทรงอำนาจที่สุด
    ของยุคดิจิตอล คือ ข้อมูล
  • 14:02 - 14:06
    และข้อมูลก็เป็นประเภทของทรัพย์สิน
    แบบใหม่อย่างแท้จริง
  • 14:06 - 14:08
    บางทีอาจใหญ่กว่าทรัพย์สิน
    ประเภทก่อน ๆ ก็ได้
  • 14:08 - 14:11
    อย่างเช่น ที่ดินในเศรษฐกิจแบบการเกษตร
  • 14:11 - 14:13
    หรือโรงงานอุตสาหกรรม
  • 14:13 - 14:14
    หรือแม้กระทั่งเงินตรา
  • 14:15 - 14:18
    และทุก ๆ ท่านพวกเราสร้างข้อมูลนี้ขึ้นมา
  • 14:18 - 14:19
    เราสร้างทรัพย์สินขึ้นมา
  • 14:19 - 14:22
    และเราก็สร้างร่องรอยของเศษชิ้นดิจิตอล
    ทิ้งไว้เบื้องหลังเรา
  • 14:22 - 14:24
    ตลอดทางที่เราดำเนินชีวิต
  • 14:24 - 14:27
    และเศษชิ้นพวกนี้ก็ถูกรวบรวมเป็น
    ภาพสะท้อนในกระจกเงาของคุณ
  • 14:27 - 14:28
    เป็นภาพเสมือนของคุณ
  • 14:28 - 14:31
    และภาพเสมือนซึ่งอาจรู้เรื่องของคุณ
    ยิ่งกว่าที่คุณรู้
  • 14:31 - 14:34
    เพราะว่าคุณจำไม่ได้ว่าคุณซื้ออะไรไปบ้าง
    เมื่อปีที่แล้ว
  • 14:34 - 14:36
    พูดอะไรไปบ้างเมื่อปีที่แล้ว
    อยู่ตรงไหนบ้างปีที่แล้ว
  • 14:36 - 14:39
    แต่ภาพเสมือนคุณที่ว่านี้
    ไม่ได้เป็นของคุณ
  • 14:39 - 14:41
    นั่นแหละคือปัญหาใหญ่
  • 14:41 - 14:44
    ดังนั้นในวันนี้ มีหลายบริษัทกำลังทำงานอยู่
  • 14:44 - 14:48
    เพื่อสร้างเอกลักษณ์ขึ้นมาในกล่องสีดำ
    ซึ่งก็คือ
  • 14:48 - 14:49
    ภาพเสมือนคุณ ที่คุณเองเป็นเจ้าของ
  • 14:50 - 14:53
    และกล่องดำใบนี้ก็เคลื่อนที่ไปกับคุณ
  • 14:53 - 14:55
    ขณะคุณเดินทางไปทั่วโลก
  • 14:55 - 14:57
    และมันตระหนี่ขี้เหนียวอย่างมาก ๆ
  • 14:57 - 15:00
    มันจะให้แค่เพียงเศษชิ้นของข้อมูล
  • 15:00 - 15:02
    เท่าที่จำเป็นต้องเอาไปทำบางสิ่ง
  • 15:02 - 15:03
    ในธุรกรรมมากมาย
  • 15:03 - 15:06
    ผู้ขายไม่จำเป็นต้องรู้แม้กระทั่งว่า
    คุณเป็นใคร
  • 15:06 - 15:08
    พวกเขาต้องรู้แค่เพียงว่าพวกเขาจะได้รับเงิน
  • 15:09 - 15:13
    และแล้วตัวตนเสมือนนี้ก็เก็บกวาด
    ข้อมูลทั้งหมดไว้
  • 15:13 - 15:15
    และให้คุณทำให้มันเป็นเงินขึ้นมาได้
  • 15:16 - 15:18
    และเรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์
  • 15:18 - 15:21
    เพราะว่ามันยังช่วยให้เราปกป้อง
    ความเป็นส่วนตัวของเราได้
  • 15:21 - 15:25
    และความเป็นส่วนตัวนั้น
    เป็นพื้นฐานของสังคมที่เป็นอิสระ
  • 15:25 - 15:27
    ขอให้เราเอาทรัพย์สินที่เราสร้างขึ้นมานี้
  • 15:27 - 15:29
    กลับมาอยู่ในความควบคุมของเรา
  • 15:29 - 15:31
    ในที่ซึ่งเราเป็นเจ้าของเอกลักษณ์ของเราเอง
  • 15:31 - 15:33
    และจัดการกับมันได้ด้วยความรับผิดชอบ
  • 15:34 - 15:35
    วิธีสุดท้าย
  • 15:35 - 15:40
    (เสียงปรบมือ)
  • 15:40 - 15:42
    วิธีสุดท้าย, ข้อที่ห้า
  • 15:42 - 15:45
    มีตัวเลขของผู้สร้างเนื้อหาสาระ
  • 15:45 - 15:47
    ซึ่งไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม
  • 15:47 - 15:50
    เพราะว่าระบบเพื่อทรัพย์สินทางปัญญา
    ใช้การไม่ได้
  • 15:50 - 15:54
    มันเสียหายไป ตั้งแต่อินเทอร์เน็ตยุคแรก ๆ
  • 15:54 - 15:55
    ตัวอย่างเช่น ดนตรี
  • 15:56 - 15:59
    นักดนตรีได้รับส่วนแบ่งที่เหลือนิดเดียว
    ที่ปลายสุดของห่วงโซ่อาหาร
  • 15:59 - 16:04
    คนคงทราบ ถ้าคุณเป็นคนแต่งเพลง
    เมื่อ 25 ปีก่อน คนเขียนเพลงที่เป็นที่นิยม
  • 16:04 - 16:06
    ได้เงินจากเพลงเป็นล้าน
  • 16:06 - 16:10
    คุณอาจได้ค่าลิขสิทธิ์ประมาณ 45000 ดอลลาร์
  • 16:10 - 16:12
    ขณะนี้ คุณเป็นนักแต่งเพลง
    แต่งเพลงที่คนนิยมกัน
  • 16:12 - 16:13
    เพลงนั้นถูกดาวโหลดเป็นล้าน
  • 16:13 - 16:15
    คุณไม่ได้เงิน 45000 หรอก
  • 16:15 - 16:18
    คุณได้รับ 35 ดอลลาร์
  • 16:18 - 16:20
    พอที่จะซื้อพิซซ่าดี ๆ กิน
  • 16:21 - 16:22
    ดังนั้น อิโมเจน ฮิป
  • 16:22 - 16:25
    นักร้อง-นักแต่งเพลง ที่ได้รับรางวัลแกรมมี
  • 16:25 - 16:29
    ซึ่งขณะนี้กำลังเอาเพลงเข้าไปไว้ใน
    ระบบนิเวศบล็อกเชน
  • 16:29 - 16:30
    เธอเรียกมันว่า "มายซีเลีย" (Mycelia)
  • 16:30 - 16:35
    เพลงที่ว่านี้มีตัว สัญญาอัจฉริยะ
    (Smart contract) ล้อมรอบมัน
  • 16:35 - 16:38
    และเพลงนั้นปกป้องสิทธิทางปัญญา
    ของเธอไว้
  • 16:38 - 16:40
    หากคุณต้องการจะฟังเพลงนั้นหรือ
  • 16:40 - 16:43
    ฟังได้ฟรี หรืออาจต้องจ่ายไม่กี่ไมโครเซ็นต์
    ซึ่งจะไหลเข้าไปบัญชีดิจิตอล
  • 16:43 - 16:46
    หากอยากจะเอาเพลงไปใส่ใน
    ภาพยนต์ เรื่องนั้นต่างออกไป
  • 16:46 - 16:48
    ทรัพย์สินทางปัญญาระบุไว้ในทุก ๆ เรื่อง
  • 16:48 - 16:50
    หากอยากทำเป็นสัญญาณเรียก
    นั่นก็ต่างออกไป
  • 16:50 - 16:53
    เธออธิบายว่า เพลงที่ว่านั้นกลายเป็นธุรกิจ
  • 16:53 - 16:56
    มันอยู่บนแพลตฟอร์มนี้
    เป็นการตลาดให้ตัวมันเอง
  • 16:56 - 16:58
    ปกป้องสิทธิของผู้แต่งเพลง
  • 16:58 - 17:00
    และเพราะว่าเพลงนี้มีระบบของการจ่ายเงิน
  • 17:00 - 17:02
    ในความหมายของบัญชีธนาคาร
  • 17:02 - 17:04
    เงินทั้งหมดจึงไหลกลับไปสู่ศิลปิน
    คนแต่งเพลงนั้น
  • 17:04 - 17:07
    พวกเขาจึงควบคุมอุตสาหกรรมที่ว่านี้ได้
  • 17:07 - 17:09
    แทนที่จะเป็นพวกคนกลางที่มีอิทธิพล
  • 17:10 - 17:11
    ครับ นี่คือ
  • 17:11 - 17:15
    (เสียงปรบมือ)
  • 17:16 - 17:17
    นี่ไม่ใช่แค่นักแต่งเพลง
  • 17:17 - 17:19
    จะเป็นผู้สร้างสรรค์สิ่งใดก็ได้
  • 17:19 - 17:20
    อย่างเช่น ศิลปะ
  • 17:20 - 17:23
    สิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ
  • 17:23 - 17:26
    การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ นักข่าว
  • 17:26 - 17:29
    เหล่านี้เป็นคนทุกประเภท
    ซึ่งไม่ได้รับค่าตอบแทนที่ยุติธรรม
  • 17:29 - 17:30
    และเมื่อใช้บล็อกเชน
  • 17:30 - 17:34
    พวกเขาจะสามารถทำเงินได้ในบล็อกเชน
  • 17:34 - 17:36
    และนั่นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม
  • 17:37 - 17:41
    เหล่านี้เป็นโอกาสที่ดีห้าประการ
  • 17:41 - 17:43
    จากเป็นสิบ ๆ อย่าง
  • 17:43 - 17:45
    ที่จะแก้ปัญหาหนึ่งปัญหา คือ
    ความเจริญรุ่งเรือง
  • 17:45 - 17:48
    ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหามากมายเหลือคณานับ
  • 17:48 - 17:50
    ซึ่งบล็อกเชนจะถูกนำไปใช้ได้
  • 17:51 - 17:55
    เทคโนโลยีไม่ได้สร้างความเจริญรุ่งเรือง
    แน่นอนครับ คนเป็นคนสร้าง
  • 17:56 - 17:59
    แต่ในกรณีของผมกับท่านคือ ขอยํ้าอีกครั้ง
  • 18:00 - 18:03
    ภูตผีปีศาจทางเทคโนโลยี หนีออกมาจากขวด
    ได้แล้ว
  • 18:03 - 18:07
    และมันก็ถูกเรียกตัวมา
    โดยผู้คนที่เราไม่รู้จัก
  • 18:07 - 18:09
    ณ. เวลาที่ไม่แน่นอนในเสถียรภาพ
    ในประวัติศาสตร์มนุษยชาตินี้
  • 18:10 - 18:13
    และมันกำลังจะให้โอกาสกับเราอีกครั้ง
  • 18:14 - 18:19
    โอกาสที่จะเขียนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง โครงข่าย
    การเชื่อมต่อที่ทรงพลังทางเศรษฐกิจ
  • 18:19 - 18:20
    กับระบบระเบียบแบบที่มีอยู่เดิม
  • 18:20 - 18:25
    และแก้ปัญหาบางปัญหาที่ยากที่สุดของโลก
  • 18:25 - 18:27
    ถ้าหากว่าเรามุ่งมั่นกับมัน
  • 18:28 - 18:29
    ขอบคุณครับ
  • 18:29 - 18:35
    (เสียงปรบมือ)
Title:
บล็อกเชนเปลี่ยนแปลงการเงินและธุรกิจได้อย่างไร
Speaker:
ดอน แทพส์กอตท์ (Don Tapscott)
Description:

บล็อกเชนคืออะไรหรือ ถ้าคุณไม่รู้คุณก็ควรจะรู้ ถ้าคุณรู้แล้วก็เป็นไปได้ว่าคุณยังคงต้องการความกระจ่างชัดในเรื่องที่ว่ามันทำงานได้อย่างไร ดอน แทพสกอตท์อยู่ตรงนี้แล้วเพื่อช่วยไขความลึกลับของเทคโนโลยีซึ่งกำลังสร้างความไว้วางใจและกำลังเปลี่ยนแปลงโลกอยู่นี้ เทคโนโลยีซึ่งเขาบอกว่าแน่นอนเป็นยุคที่สองของอินเตอร์เน็ตนั่นเอง และมันมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องการเงิน ธุรกิจ รัฐบาล และสังคม

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
18:49

Thai subtitles

Revisions