บล็อกเชนเปลี่ยนแปลงการเงินและธุรกิจได้อย่างไร
-
0:01 - 0:04เทคโนโลยีที่ดูเหมือน
จะส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด -
0:04 - 0:06ในอีกสองสามทศวรรษข้างหน้า
-
0:06 - 0:07ได้มาถึงแล้ว
-
0:08 - 0:10และมันไม่ใช่สื่อสังคมออนไลน์
-
0:10 - 0:12มันไม่ได้เป็นบิ๊กดาต้า (Big Data)
-
0:12 - 0:13มันไม่ได้เป็นวิทยาการหุ่นยนต์
-
0:13 - 0:15มันไม่ได้เป็นแม้กระทั่งปัญญาประดิษฐ์
-
0:15 - 0:17คุณจะประหลาดใจเมื่อรู้ว่า
-
0:17 - 0:22มันเป็นเทคโนโลยีพื้นฐาน
ของเงินดิจิตอล อย่างเช่น บิทคอยน์ -
0:22 - 0:26มันถูกเรียกว่า บล็อกเชน (Block chain)
-
0:26 - 0:29ครับ มันไม่ได้เป็นคำ
ที่ดังก้องกังวาลที่สุดในโลก -
0:30 - 0:33แต่ผมเชื่อว่าในตอนนี้
-
0:33 - 0:35เรื่องนี้เป็นยุคต่อไปของอินเตอร์เน็ต
-
0:35 - 0:40และก็เชื่อว่ามันจะรองรับคำมั่นสัญญา
สำหรับทุก ๆ ธุรกิจทุก ๆ สังคม -
0:40 - 0:42และสำหรับคุณทุกคน เป็นรายบุคคล
-
0:42 - 0:47ครับ ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมานั้น
เรามีข้อมูลอินเตอร์เน็ต -
0:47 - 0:51เมื่อผมส่งอีเมลไปให้คุณ หรือ
ไฟล์พาวเวอร์พ้อยท์ หรือบางสิ่งบางอย่าง -
0:51 - 0:53จริง ๆ ผมไม่ได้ส่งต้นฉบับไปให้คุณ
-
0:53 - 0:55แต่ผมส่งสำเนาไปให้คุณ
-
0:55 - 0:57และนั่นมันเยี่ยมยอด
-
0:57 - 0:59เรื่องนี้เป็นข้อมูลที่
ถูกทำให้เป็นประชาธิปไตยแล้ว -
1:00 - 1:03แต่เมื่อกล่าวถึงเรื่องของทรัพย์สิน
-
1:03 - 1:06อย่างเช่น เงินตรา
-
1:06 - 1:08ทรัพย์สินทางการเงิน
เช่น หุ้น และ พันธบัตร -
1:08 - 1:12การเก็บสะสมแต้ม ทรัพย์สินทางปัญญา
-
1:12 - 1:14ดนตรี ศิลปะ คะแนนเสียง
-
1:15 - 1:18คาร์บอนเครดิต และทรัพย์สินอย่างอื่น
-
1:18 - 1:20การส่งสำเนาไปให้คุณ
เป็นความคิดที่ไม่ดีเป็นอย่างยิ่ง -
1:20 - 1:22ถ้าผมส่งเงิน 100 ดอลล่าร์ไปให้คุณ
-
1:22 - 1:25มันสำคัญจริง ๆ ว่าผมไม่ได้ยังคง
มีเงินนั้นอยู่-- -
1:25 - 1:26(เสียงหัวเราะ)
-
1:26 - 1:29และผมก็ไม่สามารถส่งเงินนั้นไปให้คุณ
-
1:29 - 1:31ปัญหานี้เรียกว่า "จ่ายสองต่อ"
(Double spending) -
1:31 - 1:33โดยนักวิทยาการเข้ารหัสลับ
มาเป็นเวลานาน -
1:33 - 1:39ในวันนี้ ทั้งหมดนั้น
เราจึงต้องอาศัยคนกลางใหญ่ ๆ -
1:39 - 1:41คนกลาง อย่างเช่น ธนาคาร รัฐบาล
-
1:41 - 1:45บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ใหญ่ๆ
บริษัทเครดิตการ์ดใหญ่ ๆ และอื่น ๆ -
1:45 - 1:47เพื่อสร้างความไว้วางใจขึ้น
ในเศรษฐกิจของเรา -
1:48 - 1:53และตัวกลางเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่
ด้านตรรกะทางธุรกิจและธุรกรรมทั้งหมด -
1:53 - 1:54ของการค้าขายทุกประเภท
-
1:54 - 1:57ตั้งแต่เรื่องการพิสูจน์ตัวตน
การแสดงตัวของบุคคล -
1:57 - 2:01ผ่านทางการเรียกเก็บเงิน การชำระเงิน
และการบันทึกข้อมูล -
2:02 - 2:04โดยรวมแล้ว พวกเขาทำงานได้ดีมาก
-
2:04 - 2:05แต่ก็มีปัญหาที่พอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ
-
2:06 - 2:07พวกเขารวมอำนาจไว้ที่ศูนย์กลาง
-
2:07 - 2:10นั่นหมายถึงว่าพวกเขาสามารถถูกแฮ็กได้
และก็ถูกแฮ็กเพิ่มขึ้น -
2:10 - 2:13บริษัทเจพีมอร์แกน รัฐบาลกลางสหรัฐ
-
2:13 - 2:15สื่อออนไลด์ลิงด์อิน โฮมดีพอต และอื่น ๆ
-
2:15 - 2:16เมื่อพบก็ต้องเดือดร้อนยุ่งยาก
-
2:17 - 2:20พวกเขาแยกคนหลายพันล้านคน
ออกไปจากเศรษฐกิจโลก -
2:20 - 2:23ตัวอย่างเช่น คนที่ไม่มีเงินพอ
-
2:23 - 2:24ที่จะมีบัญชีฝากธนาคาร
-
2:25 - 2:27พวกเขาทำให้เรื่องให้มันช้าลง
-
2:27 - 2:31มันใช้แค่หนึ่งวินาทีเพื่อส่งอีเมล
ไปรอบโลกได้ -
2:31 - 2:33แต่มันใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ก็ได้
-
2:33 - 2:36เพื่อให้เงินย้ายผ่านระบบธนาคาร
ไปที่เมืองต่าง ๆ -
2:36 - 2:38และพวกเขาได้ส่วนแบ่งที่มาก
จากการทำงานนั้น -
2:38 - 2:4110-20 เปอร์เซ็นต์ แค่เพียงส่งเงิน
ไปอีกประเทศหนึ่ง -
2:42 - 2:44พวกเขายึดครองข้อมูลของเราไว้
-
2:44 - 2:46หมายถึง เราไม่สามารถเอาตัวเงินออกมา
-
2:46 - 2:48หรือใช้เงินนั้นไปเพื่อจัดการอย่างดีกว่า
กับชีวิตของเรา -
2:48 - 2:51ความเป็นส่วนตัวของเราถูกบั่นทอนไป
-
2:51 - 2:53และปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือ โดยรวมแล้ว
-
2:54 - 3:00พวกเขาได้ยึดครองเงินปันที่ส่งไป
ของยุคดิจิตอลอย่างไม่สมดุลกัน -
3:00 - 3:04กล่าวคือ เรามีการสร้างความมั่งคั่ง แต่เรา
มีความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมเพิ่มมากขึ้น -
3:05 - 3:09ดังนั้น จะเป็นอย่างไรหากเรา
ไม่มีแค่อินเตอร์เน็ตในเรื่องของข้อมูล -
3:09 - 3:12สมมุติว่าเรามีอินเตอร์เน็ต
ในเรื่องของมูลค่า -
3:13 - 3:17ในแบบของบัญชีที่ไม่ได้เก็บไว้ที่ศูนย์กลาง
(Distributed ledger) ที่กว้างระดับโลก -
3:17 - 3:19กำลังวิ่งอยู่ในคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่อง
-
3:19 - 3:21และคนทุกคนสามารถเข้าไปใช้ได้
-
3:21 - 3:25และเป็นที่ซึ่งทรัพย์สินทุกรูปแบบ
ตั้งแต่เงินจนถึงดนตรี -
3:25 - 3:31สามารถถูกเก็บไว้ เคลื่อนย้ายไป ซื้อขาย
แลกเปลี่ยน และจัดการได้ -
3:31 - 3:33ทั้งหมดนั้นทำได้โดยไม่ต้องมีคนกลาง
ผู้ทรงอำนาจ -
3:34 - 3:37จะเป็นอย่างไร
หากมีตัวกลางของมูลค่าแท้ ๆ ขึ้นมา -
3:38 - 3:43ครับ ในปี ค.ศ 2008 อุตสาหกรรมการเงิน
ล่มสลายลง -
3:43 - 3:46และบางทีเมื่อฤกษ์งามยามดี
-
3:46 - 3:50บุคคลนิรนามคนหนึ่งหรือหลายคน ที่ชื่อว่า
ซาโตชิ นากาโมโต -
3:51 - 3:58สร้างกระดาษขึ้นมาแผ่นหนึ่ง ซึ่งพัฒนาเป็น
เกณฑ์วิธีของเงินสดดิจิตอล (Digital cash) -
3:58 - 4:02ซึ่งใช้สกุลเงินดิจิตอลที่เรียกกันว่า
บิทคอย (Bitcoin) เป็นตัวรองรับ -
4:02 - 4:08และสกุลเงินดิจิตอลตัวนี้เองทำให้ผู้คน
สามารถก่อตั้งเครดิดขึ้นมาและทำธุรกิจได้ -
4:08 - 4:10โดยไม่ต้องมีบุคคลที่สาม
-
4:10 - 4:14และงานที่ดูง่าย ๆ นี้เอง ได้จุดชนวน
-
4:14 - 4:16ซึ่งจุดชนวนโลก
-
4:16 - 4:21ซึ่งทำให้ทุกคนตื่นเต้น หวาดกลัว
หรือไม่ก็สนอกสนใจ -
4:21 - 4:22ขึ้นในหลาย ๆ ที่
-
4:23 - 4:25ครับ อย่าสับสนในเรื่องของบิทคอย
-
4:25 - 4:28บิทคอยเป็นทรัพย์สิน มันขึ้นได้ลงได้
-
4:28 - 4:31และเรื่องนั้นเป็นสิ่งที่คุณควรจะสนใจ
หากว่าคุณเป็นนักเก็งกำไร -
4:32 - 4:34พูดง่าย ๆ กว้าง ๆ มันเป็นสกุลเงินดิจิตอล
-
4:34 - 4:37มันไม่ได้เป็นเงินกระดาษที่พิมพ์ออกมา
โดยการควบคุมของรัฐประชาชาติ -
4:37 - 4:39และนั่นเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากกว่า
-
4:39 - 4:43แต่ที่เป็นเรื่องจริง ๆ ตรงนี้คือ
เทคโนโลยี่ที่รองรับมัน -
4:43 - 4:44ที่เรียกกันว่า บล็อกเชน
-
4:46 - 4:49จึงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
-
4:49 - 4:52ที่คนทุกหนทุกแห่งไว้วางใจกันและกันได้
-
4:52 - 4:54และทำธุรกิจค้าขายระหว่างจุดต่อจุด
-
4:55 - 4:59และความไว้วางใจกันก็ก่อเกิดขึ้นมาได้
ไม่ได้เกิดจากสถาบันใหญ่โต -
4:59 - 5:02แต่เกิดขึ้นโดยการร่วมมือกัน โดยการเข้ารหัส
-
5:02 - 5:04และโดยรหัสที่ชาญฉลาด
-
5:05 - 5:08และเพราะเหตุว่าความไว้วางใจกัน
เป็นเนื้อแท้ของเทคโนโลยี -
5:08 - 5:11เรียกมันว่า "เกณฑ์วิธีไว้วางใจ"
(The Trust Protocol) -
5:11 - 5:14คุณก็อาจสงสัยว่า ทำไมสิ่งนี้จึงทำงานได้
-
5:14 - 5:15ก็พอเข้าใจกันได้
-
5:16 - 5:21ทรัพย์สินนั้น ทรัพย์สินดิจิตอล เช่น
เงิน จนถึง ดนตรี และที่อยู่ระหว่างนั้น -
5:21 - 5:23ไม่ได้ถูกเก็บไว้ที่กองกลาง
-
5:23 - 5:26แต่มันเป็นบัญชีที่ถูกแจกจ่ายไปทั่วโลก
-
5:26 - 5:28ใช้การเข้ารหัสระดับสูง
-
5:29 - 5:32และเมื่อมีการทำธุรกิจค้าขายเกิดขึ้น
-
5:32 - 5:34มันก็ถูกโพสท์เข้าไปทั้งโลก
-
5:34 - 5:37ทั่วทั้งคอมพิวเตอร์หลาย ๆ ล้านเครื่อง
-
5:38 - 5:39และที่ตรงนั้น รอบไปทั้งโลก
-
5:39 - 5:42คือกลุ่มของคนที่เรียกกันว่า "มายเนอร์"
(Miners) -
5:42 - 5:45คนเหล่านี้ไม่ใช่คนหนุ่มสาว
แต่เป็นบิทคอยมายเนอร์ -
5:45 - 5:48พวกเขามีพลังอำนาจในการใช้คอมพิวเตอร์
มากมายอยู่ที่ปลายนิ้ว -
5:48 - 5:5310 ถึง 100 เท่าใหญ่ยิ่งกว่ากูเกิลทั้งหมด
ที่มีอยู่ทั่วโลก -
5:54 - 5:56มายเนอร์เหล่านี้ทำงานมากมาย
-
5:56 - 5:57และในทุก ๆ 10 นาที่
-
5:58 - 6:00คล้าย ๆ กับเป็นจังหวะการเต้นของหัวใจ
ของเครือข่าย -
6:00 - 6:02บล็อกธุรกรรมออนไลน์ถูกสร้างขึ้นมา
-
6:02 - 6:05ซึ่งมีข้อมูลการทำธุรกรรมทั้งหมด
จากเมื่อ 10 นาทีก่อน -
6:06 - 6:11แล้วมายเนอร์เหล่านั้นก็จะเข้าทำงาน
โดยพยายามที่จะแก้ปัญหายาก ๆ ที่มี -
6:11 - 6:12และพวกเขาก็แข่งขันกัน เช่น
-
6:12 - 6:17มายเนอร์คนแรกที่พบความจริง
และทำให้บล็อกนั้นใช้การได้ -
6:17 - 6:19ก็จะได้รับรางวัลเป็นเงินดิจิตอล
-
6:19 - 6:22ในกรณีของบล็อกเชนบิทคอยน์
ก็จะได้รางวัลเป็นบิทคอยน์ -
6:22 - 6:24และแล้ว ตรงนี้เป็นกุญแจสำคัญ
-
6:24 - 6:27บล็อกนั้นก็จะถูกเชื่อมต่อ
เข้ากับบล็อกก่อนหน้านี้ -
6:27 - 6:28และก็บล็อกก่อนหน้านี้
-
6:28 - 6:31เพื่อสร้างสายโซ่ที่เชื่อมต่อกันของบล็อก
-
6:31 - 6:33และทุก ๆ บล็อกก็ถูกประทับเวลาไว้
-
6:33 - 6:35คล้ายกับประทับตราไว้ด้วยขี้ผึ้งแบบดิจิตอล
-
6:36 - 6:38ดังนั้น หากคุณอยากจะไปแฮ็กบล็อก ๆ หนึ่ง
-
6:38 - 6:42และบอกว่า จ่ายเงินมาให้คุณ
ด้วยเงินแบบเดียวกันนั้น -
6:42 - 6:44ผมก็ต้องแฮ็กบล็อกที่ว่านั้น
-
6:44 - 6:45บวกกับบล็อกก่อนหน้านั้นทั้งหมด
-
6:45 - 6:49หรือประวัติของการค้าขายในบล็อกเชน
ทั้งหมดนั้น -
6:49 - 6:52ไม่เพียงในคอมพิวเตอร์แค่เครื่องหนึ่ง
แต่ทั่วทั้งคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่อง -
6:52 - 6:54ในเวลาเดียวกัน
-
6:54 - 6:57ทั้งหมดนั้นใช้การเข้ารหัสระดับสูง
-
6:57 - 7:01เมื่อพิจารณาถึงแหล่งคอมพิวเตอร์
ที่ทรงพลังที่สุดในโลก -
7:01 - 7:02ซึ่งกำลังเฝ้าดูผมอยู่
-
7:02 - 7:03เป็นเรื่องยากที่จะทำได้
-
7:04 - 7:06สิ่งนี้จึงปลอดภัยกว่าอย่างเหลือคณานับ
-
7:06 - 7:08ยิ่งกว่าระบบคอมพิวเตอร์
ที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน -
7:08 - 7:11บล็อกเชน นั่นแหละคือการทำงานของมัน
-
7:11 - 7:14บิตคอยน์บล็อกเชน จึงเป็นแค่เพียงอย่างหนึ่ง
-
7:14 - 7:15มันมีมากมายเยอะแยะ
-
7:15 - 7:20อิเตียเรียมบล็อกเชน ได้ถูกพัฒนาขึ้นโดย
ชาวคานาดา ชื่อว่า ไวทาลิก บิวเทอริน -
7:20 - 7:22เขาอายุ 22 ปี
-
7:22 - 7:26และบล็อกเชนที่ว่านี้ มีความสามารถพิเศษ
บางประการ -
7:26 - 7:29ประการหนึ่งก็คือ คุณสามารถ
สร้างสมาร์ทคอนแทคขึ้นได้ -
7:29 - 7:31คล้ายกับชื่อของมัน
-
7:31 - 7:34มันเป็นคอนแทคที่มีผลบังคับทันที
-
7:34 - 7:39และคอนแทคนั้นดำเนินการเรื่องการบังคับใช้
การจัดการ การปฏิบัติงาน -
7:39 - 7:43และการชำระเงิน คอนแทคนั้นจะว่าไป
ก็คล้ายกับมีบัญชีธนาคารอยู่ด้วย -
7:43 - 7:46ของข้อตกลงระหว่างบุคคล
-
7:46 - 7:48และในปัจจุบัน ในอิเตียเรียมบล็อกเชน
-
7:48 - 7:51มีโครงการต่าง ๆ กำลังดำเนินอยู่
เพื่อทำทุก ๆ เรื่อง -
7:51 - 7:54ตั้งแต่สร้างสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาแทนที่
ตลาดหลักทรัพย์ -
7:54 - 7:56จนถึงรูปแบบใหม่ของประชาธิปไตย
-
7:56 - 7:59ซึ่งนักการเมืองต้องรับผิดชอบต่อประชาชน
-
7:59 - 8:02(เสียงปรบมือ)
-
8:02 - 8:06เพื่อให้เข้าใจว่า การเปลี่ยนแปลงที่สุดโต่ง
สิ่งนี้จะนำอะไรมาให้นั้น -
8:07 - 8:09เรามาดูที่อุตสาหกรรมหนึ่ง
คือ บริการด้านการเงิน -
8:09 - 8:11จำสิ่งนี้ได้หรือไม่ครับ
-
8:11 - 8:13เครื่องรูบโกลด์เบิร์ก (Rube Goldberg)
-
8:13 - 8:17เป็นเครืองมือที่ซับซ้อนอย่างตลก
ซึ่งทำบางสิ่งบางอย่างที่ง่ายอย่างยิ่ง -
8:17 - 8:19เช่น ตอกไข่ หรือ ปิดประตู
-
8:20 - 8:23ครับ คล้ายกับเตือนผมถึง
อุตสาหกรรมบริการด้านการเงิน -
8:23 - 8:25พูดตรง ๆ
-
8:25 - 8:28ผมหมายถึง คุณแตะบัตรของคุณ
ในร้านสะดวกซื้อตรงมุมถนน -
8:28 - 8:31กระแสการส่งรับข้อมูลบิตสตรีม
(Bitstream) ก็จะไปตามบริษัททั้งหลาย -
8:31 - 8:33แต่ละบริษัทก็มีระบบคอมพิวเตอร์ของตนเอง
-
8:33 - 8:36ซึ่งบางบริษัทเป็นเมนเฟรม
ของช่วงปี ค.ศ 1970-1979 -
8:36 - 8:38ที่มีอายุมากกว่าหลาย ๆ ท่านในห้องนี้
-
8:38 - 8:41แล้วสามวันต่อมาการชำระหนี้ จึงเกิดขึ้น
-
8:42 - 8:45ครับ เมื่อใช้อุตสาหกรรมการเงินบล็อกเชน
-
8:45 - 8:47ก็จะไม่มีการชำระหนี้
-
8:47 - 8:50เพราะว่าการจ่ายเงินและการชำระหนี้
เป็นกิจกรรมอย่างเดียวกัน -
8:50 - 8:51มันเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนแปลงในบัญชี
-
8:52 - 8:54ดังนั้นวอลสตรีทและทั้งหมดทั่วโลก
-
8:54 - 8:58อุตสาหกรรมการเงินนั้น จึงอยู่ในภาวะวุ่นวาย
ครั้งใหญ่ในเรื่องนี้ -
8:58 - 9:00สงสัยกันว่า ตัวเรานั้นจะถูกแทนที่หรือไม่
-
9:00 - 9:03หรือว่า เราจะรับเทคโนโลยีนี้
เพื่อให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร -
9:03 - 9:05แล้วทีนี้ ทำไมเราต้องสนใจด้วยเล่า
-
9:06 - 9:09ครับ ขอให้ผมอธิบายถึงการนำไปใช้บางอย่าง
-
9:10 - 9:11ความเจริญรุ่งเรือง
-
9:11 - 9:13ยุคแรก ๆ ของอินเตอร์เน็ตนั้น
-
9:13 - 9:15ข้อมูลอินเตอร์เน็ต
-
9:15 - 9:18นำเราไปสู่ความมั่งคั่ง
แต่ไม่ได้แบ่งปันความเจริญรุ่งเรือง -
9:18 - 9:21เพราะความเหลื่อมลํ้าทางสังคมมีเพิ่มมากขึ้น
-
9:21 - 9:25และสิ่งนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของทั้งหมด
ของความโกรธเคือง ลัทธิหัวรุนแรง -
9:25 - 9:28ลัทธิปกป้องทางการค้า ความเกลียดกลัว
ชาวต่างชาติ และที่เลวร้ายกว่านั้น -
9:28 - 9:31ซึ่งเราก็เห็นว่ากำลังเติบโตขึ้นในโลก
ทุกวันนี้ -
9:31 - 9:34เบร็กซิท (Brexit) เป็นกรณีล่าสุด
-
9:35 - 9:41ดังนั้น เราจะพัฒนาวิธีใหม่ ๆ บางอย่าง
สำหรับปัญหาความเหลื่อมลํ้านี้ได้หรือไม่ -
9:41 - 9:44เพราะว่าวิธีการเดียวในปัจจุบัน คือ
เพื่อกระจายความมั่งคั่งขึ้นมาใหม่ -
9:44 - 9:47การเก็บภาษีอากร
และขยายมันออกไปโดยรอบมากขึ้น -
9:47 - 9:49เราอาจจะกระจายความมั่งคั่งขึ้นมาล่วงหน้า
ได้หรือไม่ -
9:50 - 9:53เราอาจจะเปลี่ยนวิธีที่ความมั่งคั่ง
ถูกสร้างขึ้นมาในตอนแรก ได้หรือไม่ -
9:53 - 9:55โดยทำให้การสร้างความมั่งคั่ง
ให้เป็นประชาธิปไตย -
9:55 - 9:57นำคนเข้ามามีส่วนร่วมในด้านเศรษฐกิจ
ให้มากขึ้น -
9:58 - 10:01แล้วก็ทำให้มั่นใจได้ว่า
พวกเขาได้ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม -
10:01 - 10:04ขอให้ผมอธิบายวิธีการ 5 วิธี
ที่จะทำสิ่งนี้ได้ -
10:05 - 10:06วิธีที่หนึ่ง
-
10:06 - 10:11คุณทราบหรือไม่ว่า 70 เปอร์เซ็นต์
ของคนในโลก ที่มีที่ดินนั้น -
10:11 - 10:13สิทธิการครอบครองนั้นแทบจะไม่มีความหมาย
-
10:14 - 10:17ดังนั้น หากคุณมีฟาร์มเล็ก ๆ ในฮอนดูรัส
เมื่อเผด็จการเข้ามามีอำนาจ -
10:17 - 10:21และบอกว่า "ผมรู้นะว่าคุณมีแผ่นกระดาษ
ที่บอกว่าคุณเป็นเจ้าของฟาร์มของคุณ -
10:21 - 10:25แต่คอมพิวเตอร์ของรัฐบาลบอกว่า
เพื่อนของผมเป็นเจ้าของฟาร์มของคุณนี้" -
10:25 - 10:27เรื่องนี้เกิดขึ้นมากมายทั่วไปในฮอนดูรัส
-
10:27 - 10:30และปัญหานี้มีอยู่ในทุก ๆ ที่
-
10:30 - 10:33เฮอนานโด เดอะ โซโต นักเศรษฐศาสตร์
ลาตินอเมริกันที่ยิ่งใหญ่ -
10:33 - 10:35กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาอันดับแรก
ในโลก -
10:35 - 10:37ในเรื่องการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ
-
10:37 - 10:39สำคัญยิ่งกว่าการมีบัญชีฝากเงินในธนาคาร
-
10:39 - 10:42เพราะว่าหากคุณไม่มีกรรมสิทธิที่ถูกต้อง
ในที่ดินของคุณ -
10:42 - 10:43ก็ใช้มันคํ้าประกันกู้เงินไม่ได้
-
10:43 - 10:45และคุณก็วางแผนสำหรับอนาคตไม่ได้
-
10:46 - 10:49ดังนั้น ปัจจุบัน บริษัททั้งหลาย
จึงกำลังทำงานกับรัฐบาล -
10:49 - 10:52เพื่อนำเอากรรมสิทธิที่ดินไปไว้ในบล็อกเชน
-
10:52 - 10:54และทันทีที่มันอยู่ที่นั่น
ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ -
10:55 - 10:56คุณแฮ็กมันไม่ได้
-
10:56 - 10:59สิ่งนี้ทำให้เกิดสภาวะ
เพื่อความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา -
10:59 - 11:02สำหรับคนหลายพันล้านคนที่จะมี
ในอนาคต -
11:03 - 11:04วิธีที่สอง
-
11:04 - 11:07นักเขียนจำนวนมากพูดถึง อูเบอร์ (Uber)
-
11:07 - 11:10แอร์บีเอ็นบี (Airbnb) ทาส์คแร็บบิท
(Taskrabbit) ลิฟท์ (Lyft) และอื่น ๆ -
11:10 - 11:12ว่าเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน
-
11:12 - 11:14เรื่องนี้เป็นแนวคิดที่ทรงพลังมาก
-
11:14 - 11:17ที่ให้เพื่อนสามารถมาร่วมกันสร้างและแบ่งปัน
ความรํ่ารวยมั่งคั่ง -
11:18 - 11:19ในความเห็นของผมคือ ...
-
11:20 - 11:24บริษัทเหล่านี้ไม่ได้แบ่งปันกันอย่างแท้จริง
-
11:24 - 11:28ในความเป็นจริง ว่ากันตรง ๆ ที่สำเร็จได้
ก็เพราะพวกเขาไม่ได้แบ่งปัน -
11:28 - 11:31พวกเขารวบรวมบริการไว้ แล้วก็ขายมันไป
-
11:32 - 11:37สมมุติว่าแทนที่จะใช้บริการของแอร์บีเอ็นบี
ซึ่งเป็นบริษัท 25 พันล้านดอลลาร์ -
11:37 - 11:42กลับมีโปรแกรมการใช้กันกระจายออกไป
ในบล็อกเชน เราจะเรียกมันว่า บีแอร์บีเอ็นบี -
11:42 - 11:46และที่สำคัญ คนทั้งหมดนั้นเป็นเจ้าของมัน
-
11:46 - 11:48ผู้คนที่มีห้องให้เช่า
-
11:49 - 11:51และเมื่อมีใครต้องการจะเช่าห้อง ๆ หนึ่ง
-
11:51 - 11:55พวกเขาก็เข้าไปในฐานข้อมูลของบล็อกเชน
และเกณฑ์ทั้งหมดเหล่านั้น -
11:55 - 11:58แล้วเขาก็เลือกดู มันจะช่วยให้พบห้องพัก
ที่เหมาะสมได้ -
11:58 - 12:01แล้วบล็อกเชนยังช่วยเกี่ยวกับการติดต่อ
-
12:01 - 12:03มันระบุได้ว่าใครเป็นใคร
-
12:03 - 12:04มันจัดการเรื่องการชำระเงิน
-
12:04 - 12:07แค่ผ่านทางการชำระเงินดิจิตอล
ซึ่งถูกสร้างไว้ในระบบ -
12:07 - 12:09จัดการได้แม้กระทั่งด้านชื่อเสียง
-
12:09 - 12:13เพราะว่าถ้าเธอจัดอันดับห้องเป็นระดับห้าดาว
-
12:13 - 12:14ห้องนั้นก็ยังอยู่ที่นั่น
-
12:14 - 12:16และมันก็ถูกจัดระดับไว้แล้ว
และก็เปลี่ยนไม่ได้ -
12:17 - 12:22ผู้ที่ทำให้เศรษฐกิจแบบแบ่งปันล่มรายใหญ่ ๆ
ในซิลิคอนแวลลีย์นั้น -
12:23 - 12:24ก็อาจถูกทำให้ล่มไปได้
-
12:24 - 12:26และเรื่องนี้ก็จะดีต่อความเจริญรุ่งเรือง
-
12:26 - 12:28วิธีที่สาม
-
12:28 - 12:31การไหลของเงินทุนที่ใหญ่ที่สุด
จากโลกที่พัฒนาแล้ว -
12:31 - 12:32ไปยังโลกที่กำลังพัฒนา
-
12:32 - 12:35ไม่ใช่การลงทุนของบริษัท
-
12:35 - 12:37และไม่ใช่แม้กระทั่งเงินช่วยจากต่างชาติ
-
12:38 - 12:40มันเป็นการส่งเงินไปให้กัน
-
12:40 - 12:42ซึ่งเป็นเรื่องการอพยพของคนในระดับโลก
-
12:42 - 12:45เมื่อคนได้ละทิ้งแผ่นดินของบรรพบุรุษ
-
12:45 - 12:49และพวกเขาก็ส่งเงินกลับมาให้ครอบครัว
ที่บ้าน -
12:49 - 12:52เรื่องนี้เป็นเงิน 600 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ -
12:52 - 12:54และคนเหล่านี้กำลังถูกขโมยเงินไป
-
12:55 - 12:57อนาเลีย โดมินโก ทำงานเป็นแม่บ้าน
-
12:58 - 13:00เธออยู่ในกรุงโตรอนโต
-
13:00 - 13:05ทุก ๆ เดือน เธอไปที่
สำนักงานเวสเทอร์นยูเนียน -
13:05 - 13:06พร้อมกับเงินสด
-
13:06 - 13:09เพื่อส่งเงินไปให้แม่ของเธอ ในกรุงมนิลา
-
13:10 - 13:12เธอต้องเสียค่าใช้จ่ายราว 10 เปอร์เซ็นต์
-
13:12 - 13:14และเงินนั้นใช้เวลาสี่ถึงเจ็ดวัน
จึงไปถึงที่นั่น -
13:14 - 13:16แม่ของเธอไม่เคยรู้เลยว่า
มันจะมาถึงเมื่อไหร่ -
13:16 - 13:19เธอใช้เวลาห้าชั่วโมงจากสัปดาห์ของเธอ
เพื่อทำเรื่องนี้ -
13:20 - 13:21เมื่อหกเดือนที่แล้ว
-
13:21 - 13:25อนาเลีย โดมินโก ใช้บล็อกเชน
ที่เรียกว่า แอบรา (Abra) -
13:26 - 13:28จากเครื่องมือในมือถือของเธอ
เธอส่งเงินไป 300 ดอลลาร์ -
13:28 - 13:31มันส่งตรงไปที่มือถือของแม่เธอ
-
13:31 - 13:33โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง
-
13:33 - 13:36แล้วแม่เของเธอก็ดูไปที่มือถือของเธอ
-
13:36 - 13:40คล้าย ๆ กับตัวประสานอูเบอร์อย่างหนึ่ง
มีคนจ่ายเงินแอบรา (Abra) เคลื่อนที่ไปทั่ว -
13:40 - 13:42เธอก็คลิกไปที่เทลเลอร์
ซึ่งเป็นเทลเลอร์ระดับห้าดาว -
13:42 - 13:44ซึ่งอยู่ไกลออกไปเจ็ดนาที
-
13:44 - 13:47คนนั้นก็มาถึงหน้าประตู
นำเงินเปโซพิลิปปินส์มาให้เธอ -
13:47 - 13:49แล้วเธอก็เอาเงินใส่ในกระเป๋า
-
13:49 - 13:51ทั้งหมดนั้นใช้เวลาไม่กี่นาที
-
13:51 - 13:53และเธอเสียเงินไปสองเปอร์เซ็นต์
-
13:54 - 13:57เรื่องนี้เป็นโอกาสใหญ่
สำหรับความเจริญรุ่งเรือง -
13:58 - 14:02วิธีที่สี่ ทรัพย์สินที่ทรงอำนาจที่สุด
ของยุคดิจิตอล คือ ข้อมูล -
14:02 - 14:06และข้อมูลก็เป็นประเภทของทรัพย์สิน
แบบใหม่อย่างแท้จริง -
14:06 - 14:08บางทีอาจใหญ่กว่าทรัพย์สิน
ประเภทก่อน ๆ ก็ได้ -
14:08 - 14:11อย่างเช่น ที่ดินในเศรษฐกิจแบบการเกษตร
-
14:11 - 14:13หรือโรงงานอุตสาหกรรม
-
14:13 - 14:14หรือแม้กระทั่งเงินตรา
-
14:15 - 14:18และทุก ๆ ท่านพวกเราสร้างข้อมูลนี้ขึ้นมา
-
14:18 - 14:19เราสร้างทรัพย์สินขึ้นมา
-
14:19 - 14:22และเราก็สร้างร่องรอยของเศษชิ้นดิจิตอล
ทิ้งไว้เบื้องหลังเรา -
14:22 - 14:24ตลอดทางที่เราดำเนินชีวิต
-
14:24 - 14:27และเศษชิ้นพวกนี้ก็ถูกรวบรวมเป็น
ภาพสะท้อนในกระจกเงาของคุณ -
14:27 - 14:28เป็นภาพเสมือนของคุณ
-
14:28 - 14:31และภาพเสมือนซึ่งอาจรู้เรื่องของคุณ
ยิ่งกว่าที่คุณรู้ -
14:31 - 14:34เพราะว่าคุณจำไม่ได้ว่าคุณซื้ออะไรไปบ้าง
เมื่อปีที่แล้ว -
14:34 - 14:36พูดอะไรไปบ้างเมื่อปีที่แล้ว
อยู่ตรงไหนบ้างปีที่แล้ว -
14:36 - 14:39แต่ภาพเสมือนคุณที่ว่านี้
ไม่ได้เป็นของคุณ -
14:39 - 14:41นั่นแหละคือปัญหาใหญ่
-
14:41 - 14:44ดังนั้นในวันนี้ มีหลายบริษัทกำลังทำงานอยู่
-
14:44 - 14:48เพื่อสร้างเอกลักษณ์ขึ้นมาในกล่องสีดำ
ซึ่งก็คือ -
14:48 - 14:49ภาพเสมือนคุณ ที่คุณเองเป็นเจ้าของ
-
14:50 - 14:53และกล่องดำใบนี้ก็เคลื่อนที่ไปกับคุณ
-
14:53 - 14:55ขณะคุณเดินทางไปทั่วโลก
-
14:55 - 14:57และมันตระหนี่ขี้เหนียวอย่างมาก ๆ
-
14:57 - 15:00มันจะให้แค่เพียงเศษชิ้นของข้อมูล
-
15:00 - 15:02เท่าที่จำเป็นต้องเอาไปทำบางสิ่ง
-
15:02 - 15:03ในธุรกรรมมากมาย
-
15:03 - 15:06ผู้ขายไม่จำเป็นต้องรู้แม้กระทั่งว่า
คุณเป็นใคร -
15:06 - 15:08พวกเขาต้องรู้แค่เพียงว่าพวกเขาจะได้รับเงิน
-
15:09 - 15:13และแล้วตัวตนเสมือนนี้ก็เก็บกวาด
ข้อมูลทั้งหมดไว้ -
15:13 - 15:15และให้คุณทำให้มันเป็นเงินขึ้นมาได้
-
15:16 - 15:18และเรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์
-
15:18 - 15:21เพราะว่ามันยังช่วยให้เราปกป้อง
ความเป็นส่วนตัวของเราได้ -
15:21 - 15:25และความเป็นส่วนตัวนั้น
เป็นพื้นฐานของสังคมที่เป็นอิสระ -
15:25 - 15:27ขอให้เราเอาทรัพย์สินที่เราสร้างขึ้นมานี้
-
15:27 - 15:29กลับมาอยู่ในความควบคุมของเรา
-
15:29 - 15:31ในที่ซึ่งเราเป็นเจ้าของเอกลักษณ์ของเราเอง
-
15:31 - 15:33และจัดการกับมันได้ด้วยความรับผิดชอบ
-
15:34 - 15:35วิธีสุดท้าย
-
15:35 - 15:40(เสียงปรบมือ)
-
15:40 - 15:42วิธีสุดท้าย, ข้อที่ห้า
-
15:42 - 15:45มีตัวเลขของผู้สร้างเนื้อหาสาระ
-
15:45 - 15:47ซึ่งไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม
-
15:47 - 15:50เพราะว่าระบบเพื่อทรัพย์สินทางปัญญา
ใช้การไม่ได้ -
15:50 - 15:54มันเสียหายไป ตั้งแต่อินเทอร์เน็ตยุคแรก ๆ
-
15:54 - 15:55ตัวอย่างเช่น ดนตรี
-
15:56 - 15:59นักดนตรีได้รับส่วนแบ่งที่เหลือนิดเดียว
ที่ปลายสุดของห่วงโซ่อาหาร -
15:59 - 16:04คนคงทราบ ถ้าคุณเป็นคนแต่งเพลง
เมื่อ 25 ปีก่อน คนเขียนเพลงที่เป็นที่นิยม -
16:04 - 16:06ได้เงินจากเพลงเป็นล้าน
-
16:06 - 16:10คุณอาจได้ค่าลิขสิทธิ์ประมาณ 45000 ดอลลาร์
-
16:10 - 16:12ขณะนี้ คุณเป็นนักแต่งเพลง
แต่งเพลงที่คนนิยมกัน -
16:12 - 16:13เพลงนั้นถูกดาวโหลดเป็นล้าน
-
16:13 - 16:15คุณไม่ได้เงิน 45000 หรอก
-
16:15 - 16:18คุณได้รับ 35 ดอลลาร์
-
16:18 - 16:20พอที่จะซื้อพิซซ่าดี ๆ กิน
-
16:21 - 16:22ดังนั้น อิโมเจน ฮิป
-
16:22 - 16:25นักร้อง-นักแต่งเพลง ที่ได้รับรางวัลแกรมมี
-
16:25 - 16:29ซึ่งขณะนี้กำลังเอาเพลงเข้าไปไว้ใน
ระบบนิเวศบล็อกเชน -
16:29 - 16:30เธอเรียกมันว่า "มายซีเลีย" (Mycelia)
-
16:30 - 16:35เพลงที่ว่านี้มีตัว สัญญาอัจฉริยะ
(Smart contract) ล้อมรอบมัน -
16:35 - 16:38และเพลงนั้นปกป้องสิทธิทางปัญญา
ของเธอไว้ -
16:38 - 16:40หากคุณต้องการจะฟังเพลงนั้นหรือ
-
16:40 - 16:43ฟังได้ฟรี หรืออาจต้องจ่ายไม่กี่ไมโครเซ็นต์
ซึ่งจะไหลเข้าไปบัญชีดิจิตอล -
16:43 - 16:46หากอยากจะเอาเพลงไปใส่ใน
ภาพยนต์ เรื่องนั้นต่างออกไป -
16:46 - 16:48ทรัพย์สินทางปัญญาระบุไว้ในทุก ๆ เรื่อง
-
16:48 - 16:50หากอยากทำเป็นสัญญาณเรียก
นั่นก็ต่างออกไป -
16:50 - 16:53เธออธิบายว่า เพลงที่ว่านั้นกลายเป็นธุรกิจ
-
16:53 - 16:56มันอยู่บนแพลตฟอร์มนี้
เป็นการตลาดให้ตัวมันเอง -
16:56 - 16:58ปกป้องสิทธิของผู้แต่งเพลง
-
16:58 - 17:00และเพราะว่าเพลงนี้มีระบบของการจ่ายเงิน
-
17:00 - 17:02ในความหมายของบัญชีธนาคาร
-
17:02 - 17:04เงินทั้งหมดจึงไหลกลับไปสู่ศิลปิน
คนแต่งเพลงนั้น -
17:04 - 17:07พวกเขาจึงควบคุมอุตสาหกรรมที่ว่านี้ได้
-
17:07 - 17:09แทนที่จะเป็นพวกคนกลางที่มีอิทธิพล
-
17:10 - 17:11ครับ นี่คือ
-
17:11 - 17:15(เสียงปรบมือ)
-
17:16 - 17:17นี่ไม่ใช่แค่นักแต่งเพลง
-
17:17 - 17:19จะเป็นผู้สร้างสรรค์สิ่งใดก็ได้
-
17:19 - 17:20อย่างเช่น ศิลปะ
-
17:20 - 17:23สิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ
-
17:23 - 17:26การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ นักข่าว
-
17:26 - 17:29เหล่านี้เป็นคนทุกประเภท
ซึ่งไม่ได้รับค่าตอบแทนที่ยุติธรรม -
17:29 - 17:30และเมื่อใช้บล็อกเชน
-
17:30 - 17:34พวกเขาจะสามารถทำเงินได้ในบล็อกเชน
-
17:34 - 17:36และนั่นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม
-
17:37 - 17:41เหล่านี้เป็นโอกาสที่ดีห้าประการ
-
17:41 - 17:43จากเป็นสิบ ๆ อย่าง
-
17:43 - 17:45ที่จะแก้ปัญหาหนึ่งปัญหา คือ
ความเจริญรุ่งเรือง -
17:45 - 17:48ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหามากมายเหลือคณานับ
-
17:48 - 17:50ซึ่งบล็อกเชนจะถูกนำไปใช้ได้
-
17:51 - 17:55เทคโนโลยีไม่ได้สร้างความเจริญรุ่งเรือง
แน่นอนครับ คนเป็นคนสร้าง -
17:56 - 17:59แต่ในกรณีของผมกับท่านคือ ขอยํ้าอีกครั้ง
-
18:00 - 18:03ภูตผีปีศาจทางเทคโนโลยี หนีออกมาจากขวด
ได้แล้ว -
18:03 - 18:07และมันก็ถูกเรียกตัวมา
โดยผู้คนที่เราไม่รู้จัก -
18:07 - 18:09ณ. เวลาที่ไม่แน่นอนในเสถียรภาพ
ในประวัติศาสตร์มนุษยชาตินี้ -
18:10 - 18:13และมันกำลังจะให้โอกาสกับเราอีกครั้ง
-
18:14 - 18:19โอกาสที่จะเขียนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง โครงข่าย
การเชื่อมต่อที่ทรงพลังทางเศรษฐกิจ -
18:19 - 18:20กับระบบระเบียบแบบที่มีอยู่เดิม
-
18:20 - 18:25และแก้ปัญหาบางปัญหาที่ยากที่สุดของโลก
-
18:25 - 18:27ถ้าหากว่าเรามุ่งมั่นกับมัน
-
18:28 - 18:29ขอบคุณครับ
-
18:29 - 18:35(เสียงปรบมือ)
- Title:
- บล็อกเชนเปลี่ยนแปลงการเงินและธุรกิจได้อย่างไร
- Speaker:
- ดอน แทพส์กอตท์ (Don Tapscott)
- Description:
-
บล็อกเชนคืออะไรหรือ ถ้าคุณไม่รู้คุณก็ควรจะรู้ ถ้าคุณรู้แล้วก็เป็นไปได้ว่าคุณยังคงต้องการความกระจ่างชัดในเรื่องที่ว่ามันทำงานได้อย่างไร ดอน แทพสกอตท์อยู่ตรงนี้แล้วเพื่อช่วยไขความลึกลับของเทคโนโลยีซึ่งกำลังสร้างความไว้วางใจและกำลังเปลี่ยนแปลงโลกอยู่นี้ เทคโนโลยีซึ่งเขาบอกว่าแน่นอนเป็นยุคที่สองของอินเตอร์เน็ตนั่นเอง และมันมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องการเงิน ธุรกิจ รัฐบาล และสังคม
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 18:49
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for How the blockchain is changing money and business | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How the blockchain is changing money and business | ||
Chanchai Tasujai accepted Thai subtitles for How the blockchain is changing money and business | ||
Chanchai Tasujai edited Thai subtitles for How the blockchain is changing money and business | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut rejected Thai subtitles for How the blockchain is changing money and business | ||
Chanchai Tasujai accepted Thai subtitles for How the blockchain is changing money and business | ||
Chanchai Tasujai edited Thai subtitles for How the blockchain is changing money and business | ||
yamela areesamarn edited Thai subtitles for How the blockchain is changing money and business |