New video technology that reveals an object's hidden properties
-
0:01 - 0:05พวกเราส่วนใหญ่คิดถึงการเคลื่อนไหว
ว่าคือสิ่งที่มองเห็นได้ -
0:06 - 0:11ถ้าผมเดินบนเวทีหรือยกมือยกไม้เวลาพูด
-
0:11 - 0:13การเคลื่อนไหวนั้นก็จะเป็นสิ่งที่คุณมองเห็นได้
-
0:14 - 0:20แต่ยังมีการเคลื่อนไหวสำคัญ ๆ อีกมากมาย
ที่ละเอียดซับซ้อนเกินว่าคนเราจะมองเห็น -
0:20 - 0:22แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
-
0:22 - 0:24เราค้นพบว่ากล้องวิดีโอ
-
0:24 - 0:27สามารถบันทึกการเคลื่อนไหวนี้ได้
แม้ว่าคนเราจะไม่สามารถรับรู้ -
0:28 - 0:30เอาล่ะ ผมจะแสดงให้คุณเห็นว่าผมหมายถึงอะไร
-
0:31 - 0:34ทางซ้ายนี้ คุณจะเห็นวิดีโอ
ข้อมือคนคนหนึ่ง -
0:34 - 0:37และทางขวา คุณจะเห็นวิดีโดของเด็กทารกที่หลับอยู่
-
0:37 - 0:41แต่ถ้าผมไม่บอกคุณว่านี่คือวิดีโอ
-
0:41 - 0:44คุณอาจคิดว่าคุณกำลังมองภาพนิ่งธรรมดา ๆ
-
0:44 - 0:46เพราะทั้งสองกรณีนั้น
-
0:46 - 0:49วิดีโอเหล่านี้ก็ดูแทบจะไม่ไหวติง
-
0:50 - 0:54ทั้งที่จริง ๆ แล้วมีการเคลื่อนไหว
ที่ละเอียดอ่อนเกิดขึ้นมากมาย -
0:54 - 0:56ถ้าคุณได้สัมผัสข้อมือทางด้านซ้าย
-
0:56 - 0:58คุณจะรับรู้ถึงชีพจร
-
0:58 - 1:01และถ้าคุณได้อุ้มทารกในวิดีโอฝั่งขวา
-
1:01 - 1:03คุณจะรู้สึกถึงการเคลื่อนที่ขึ้นลงของหน้าอก
-
1:03 - 1:05ขณะที่เธอหายใจในแต่ละครั้ง
-
1:06 - 1:09และการเคลื่อนไหวเหล่านี้ก็มีความสำคัญมาก
-
1:09 - 1:13เพียงแต่ว่ามันละเอียดอ่อน
เกินกว่าที่เราจะมองเห็น -
1:13 - 1:15เพราะอย่างนั้นเราจึงสังเกตมัน
-
1:15 - 1:18ผ่านการสัมผัสโดยตรงแทน
-
1:19 - 1:20แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
-
1:20 - 1:25เหล่าเพื่อนร่วมงานผมที่เอ็มไอทีได้พัฒนาสิ่งที่
เรียกว่ากล้องจุลทรรศน์แห่งการเคลื่อนไหว -
1:25 - 1:29ซึ่งเป็นซอฟท์แวร์ที่จับการเคลื่อนไหว
อันละเอียดอ่อนนี้ในวิดีโอ -
1:29 - 1:33และขยายการเคลื่อนไหวนั้น
ให้ใหญ่มากพอจนเรามองเห็นได้ -
1:33 - 1:37ดังนั้น ถ้าหากเราใช้ซอฟท์แวร์นี้
กับวิดีโอทางด้านซ้าย -
1:37 - 1:40มันจะทำให้เราเห็นชีพจรบนข้อมือ
-
1:40 - 1:42และถ้าเรานับจำนวนครั้งของชีพจรนั้น
-
1:42 - 1:44เราก็จะรู้อัตราการเต้นของหัวใจของคน ๆ นั้นด้วย
-
1:45 - 1:48และถ้าเราใช้ซอฟท์แวร์แบบเดียวกัน
กับวิดีโอทางด้านขวา -
1:48 - 1:51มันจะทำให้เราเห็นการหายใจแต่ละครั้งของทารกนี้
-
1:51 - 1:56และเราสามารถใช้วิธีที่ไม่ต้องสัมผัสตัวเธอ
ในการติดตามการหายใจของเธอ -
1:57 - 2:02เทคโนโลยีนี้ทรงพลังมาก
เพราะมันนำเอาปรากฏการณ์เช่นนี้ -
2:02 - 2:05ซึ่งปกติแล้วเราจะต้องรับรู้ด้วยการสัมผัส
-
2:05 - 2:08และทำให้เราตรวจจับมันได้ผ่านทางภาพ
โดยไม่มีการสัมผัส ๆ -
2:09 - 2:14เมื่อสองปีที่แล้ว ผมร่วมงาน
กับเหล่าผู้สร้างซอฟท์แวร์นี้ -
2:14 - 2:17และเราตัดสินใจจะทำตามแนวคิดหนึ่ง
ที่ดูออกจะเพี้ยน ๆ ให้เป็นจริง -
2:17 - 2:20เราคิดว่ามันดูเจ๋ง ที่จะใช้ซอฟท์แวร์
-
2:20 - 2:23เพื่อทำให้การเคลื่อนไหวเล็กนี้ ๆ มองเห็นได้
-
2:23 - 2:27คุณอาจมองว่ามันเป็นการขยาย
ประสาทด้านสัมผัสวิธีหนึ่งก็ได้ -
2:27 - 2:31แต่ถ้าเราสามารถทำสิ่งเดียวกันนี้
กับประสาทด้านการได้ยินล่ะ -
2:33 - 2:37ถ้าเราสามารถใช้วิดีโอ
เพื่อจับการสั่นไหวของคลื่นเสียง -
2:37 - 2:40ซึ่งก็นับเป็นการเคลื่อนไหวแบบหนึ่ง
-
2:40 - 2:43และเปลี่ยนทุกอย่างที่เราเห็นเห็นเป็นไมโครโฟน
-
2:44 - 2:46นี่อาจจะฟังดูเป็นแนวคิด ที่แปลก
-
2:46 - 2:49งั้นลองให้ผมอธิบายให้พวกคุณเข้าใจง่ายขึ้น
-
2:50 - 2:53ไมโครโฟนทั่ว ๆ ไป
ทำงานโดยการเปลี่ยนการเคลื่อนไหว -
2:53 - 2:57ของแผ่นไดอะแฟรมที่อยู่ข้างใน
ให้เป็นสัญญาณไฟฟ้า -
2:57 - 3:01และแผ่นไดอะแฟรมนั้นถูกออกแบบมา
เพื่อให้สั่นไหวไปพร้อมกับคลื่นเสียง -
3:01 - 3:06ดั้งนั้นการเคลื่อนไหวของมันจะถูกบันทึก
และแปลงออกมาเป็นสัญญาณเสียง -
3:06 - 3:09แต่คลื่นเสียงนั้นทำให้วัตถุทุกอย่างสั่นไหว
-
3:09 - 3:15การสั่นไหวนี้ โดยปกติจะเล็ก
และเร็วมากจนเราสังเกตไม่เห็น -
3:15 - 3:19แล้วถ้าเราบันทึกมันด้วยกล้องวิดีโอความเร็วสูง
-
3:19 - 3:22จากนั้นใช้ซอฟท์แวร์
เพื่อดึงการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ นั้นออกมาก -
3:22 - 3:24จากวิดีโอความเร็วสูงที่เราบันทึกไว้
-
3:24 - 3:29แล้ววิเคราะห์หาเสียงซึ่งเป็นต้นกำเนิด
ของการเคลื่อนไหวเหล่านั้น -
3:30 - 3:35ด้วยวิธีนี้ เราจึงสามารถแปลงวัตถุที่มองเห็น
ให้กลายเป็นไมโครโฟนระยะไกล -
3:37 - 3:39เราได้ทำการทดสอบ
-
3:39 - 3:41และนี่คือหนึ่งในการทดลองของเรา
-
3:41 - 3:44โดยเรานำเอาต้นไม้ในกระถางที่คุณเห็นในทางขวา
-
3:44 - 3:47บันทึกด้วยกล้องวีดิโอความเร็วสูง
-
3:47 - 3:50ในขณะที่ลำโพงที่อยู่ใกล้ ๆ กำลังเล่นเสียงนี้
-
3:50 - 3:58(เสียงเพลง: "Marry Had a Little Lamb")
-
4:00 - 4:03และนี่คือวิดีโอที่เราบันทึกไว้
-
4:03 - 4:07เราบันทึกด้วยความเร็วหลายพันเฟรมต่อวินาที
-
4:07 - 4:09แต่แม้ว่าคุณจะมองมันใกล้ ๆ
-
4:09 - 4:11คุณก็จะเห็นเพียงแค่ใบไม้
-
4:11 - 4:14ที่อยู่นิ่ง ๆ ไม่เคลื่อนไหวอะไร
-
4:14 - 4:19นั่นเป็นเพราะเสียงเคลื่อนที่ใบไม้เหล่านั้น
ไปเพียงหนึ่งไมโครเมตร -
4:19 - 4:23หรือ หนึ่งในหมื่นของเซนติเมตร
-
4:23 - 4:28ซึ่งคิดเป็นระยะทางในช่วง
หนึ่งในร้อย หรือหนึ่งในพัน -
4:28 - 4:30ของหนึ่งพิกเซลในภาพนี้
-
4:30 - 4:33ดังนั้น คุณจะเพ่งมองเท่าไหร่ก็คงมองไม่เห็น
-
4:33 - 4:36การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยนี้
ไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า -
4:38 - 4:42แต่ปรากฏว่า สิ่งที่ไม่สามารถ
สังเกตได้ด้วยตาเปล่านี้ -
4:42 - 4:45สามารถสร้างความแตกต่าง
ในเชิงเลขได้อย่างมีนัยสำคัญ -
4:45 - 4:47เพราะด้วยระเบียบวิธีที่ถูกต้อง
-
4:47 - 4:50เราสามารถแปลงวิดีโอเงียบ ๆ
ดูราวกับไร้การเคลื่อนไหวนี้ -
4:50 - 4:52แล้วกู้เอาเสียงนี้กลับมาได้
-
4:53 - 5:00(เสียงเพลง: "Marry Had a Little Lamb")
-
5:00 - 5:06(เสียงปรบมือ)
-
5:10 - 5:12มันเป็นไปได้อย่างไร
-
5:12 - 5:16ทำไมเราจึงได้ข้อมูลมหาศาล
จากการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย -
5:16 - 5:22สมมุติว่า ใบไม้เหล่านั้นเคลื่อนที่
ไปเพียงหนึ่งไมโครเมตร -
5:22 - 5:26และสมมุติว่านั่นทำให้ภาพ
เคลื่อนที่ไปหนึ่งในพันของพิกเซล -
5:27 - 5:30ซึ่งฟังดูแล้วอาจจะไม่มาก
-
5:30 - 5:32แต่ภายในวิดีโอหนึ่งเฟรม
-
5:32 - 5:35นั้นมีหลายล้านพิกเซล
-
5:35 - 5:39ถ้าเรารวมเอาการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ
เหล่านั้นที่เราเห็น -
5:39 - 5:41จากภาพทั้งภาพ
-
5:41 - 5:43หนึ่งในพันของพิกเซล
-
5:43 - 5:46ก็จะสะสมรวมกัน
เป็นบางสิ่งที่มีนัยสำคัญ -
5:47 - 5:51ผมจะบอกให้ว่า พวกเราแทบกระโดดตัวลอย
เมื่อคิดเรื่องนี้ออก -
5:51 - 5:53(เสียงหัวเราะ)
-
5:53 - 5:56แต่แม้กระทั่งด้วยระเบียบวิธีที่เหมาะสม
-
5:56 - 6:00เราก็ยังขาดชิ้นส่วนสำคัญของปัญหานี้
-
6:00 - 6:03มันมีองค์ประกอบหลายอย่างที่จะส่งผลกระทบ
ว่าเทคนิคนี้จะใช้ได้ผล -
6:03 - 6:05เมื่อไร และดีแค่ไหน
-
6:05 - 6:08วัตถุนั้นคืออะไร และมันอยู่ไกลแค่ไหน
-
6:08 - 6:11กล้องเป็นอย่างไร และใช้เลนส์แบบไหน
-
6:11 - 6:15มีแสงตกกระทบบนวัตถุมากน้อยแค่ไหน
และเสียงดังแค่ไหน -
6:16 - 6:19และแม้ว่าด้วยระเบียบวิธีที่เหมาะสม
-
6:19 - 6:23เราจะต้องใช้ความระมัดระวังมาก
ในการทดลองขั้นต้นของเรา -
6:23 - 6:25เพราะถ้าองค์ประกอบเหล่านี้
ผิดเพี้ยนไปสักอย่างหนึ่ง -
6:25 - 6:27จะไม่มีวิธีค้นพบว่า
เกิดความผิดพลาดตรงไหน -
6:27 - 6:30เราจะได้ยินแค่เสียงซ่า
-
6:30 - 6:33ดังนั้น การทดลองหลาย ๆ ครั้ง
ในขั้นต้นจึงเป็นแบบนี้ -
6:33 - 6:36นั่นคือผม
-
6:36 - 6:40และทางด้านซ้ายล่าง
คุณจะพอมองเห็นกล้องวิดีโอความเร็วสูง -
6:40 - 6:42ซึ่งจะจับไปยังถุงมันฝรั่ง
-
6:42 - 6:45ซึ่งถูกฉายด้วยไฟสว่างจ้า
-
6:45 - 6:49และอย่างที่บอก เราต้องระมัดระวังในการทดลอง
ขั้นต้นเหล่านี้มาก ๆ -
6:49 - 6:52มันจึงออกมาเป็นแบบนี้
-
6:52 - 6:55(วิดีโอ) เอบ เดวิส: สาม, สอง, หนึ่ง, เริ่ม
-
6:55 - 7:01แมรี มีลูกแกะตัวหนึ่ง!
ลูกแกะตัวหนึ่ง! ลูกแกะตัวหนึ่ง! -
7:01 - 7:05(เสียงหัวเราะ)
-
7:05 - 7:08เอบ: การทดลองนี้มันออกจะดูน่าขันไปหน่อย
-
7:08 - 7:10(เสียงหัวเราะ)
-
7:10 - 7:12ผมกำลังตะคอกใส่ถุงมันฝรั่ง
-
7:12 - 7:14(เสียงหัวเราะ) --
-
7:14 - 7:16และเราก็ส่องมันด้วยไฟสว่างจ้า
-
7:16 - 7:20เสียจนกระทั่งเราทำถุงมันฝรั่งละลายไปถุงหนึ่ง
เมื่อตอนเริ่มทดลอง (เสียงหัวเราะ) -
7:21 - 7:24แต่ แม้ว่าการทดลองนี้มันจะดูน่าขัน
-
7:24 - 7:26แต่มันก็เป็นการทดลองสำคัญ
-
7:26 - 7:29เพราะเราสามารถกู้เอาเสียงนี้ออกมาได้
-
7:29 - 7:33(เสียงบันทึก) แมรี่ มีลูกแกะตัวหนึ่ง!
ลูกแกะตัวหนึ่ง! ลูกแกะตัวหนึ่ง! -
7:33 - 7:37(เสียงปรบมือ)
-
7:37 - 7:39เอบ: และนี่คือสิ่งที่สำคัญมาก
-
7:39 - 7:43เพราะว่านั่นคือครั้งแรกที่เราสามารถ
กู้เสียงพูดมนุษย์ที่ฟังรู้เรื่อง -
7:43 - 7:46จากวิดีโอของวัตถุซึ่งไม่มีเสียง
-
7:46 - 7:48และมันเป็นจุดอ้างอิงแก่เรา
-
7:48 - 7:52และเราก็ค่อย ๆ เริ่มที่จะปรับปรุงการทดลอง
-
7:52 - 7:56โดยใช้วัตถุต่าง ๆ
หรือเคลื่อนที่วัตถุนั้นให้ห่างออกไป -
7:56 - 7:59โดยใช้แสงน้อยลง หรือเสียงที่เบาลง
-
8:00 - 8:03แล้วเราก็วิเคราะห์การทดลองทั้งหมดนี้
-
8:03 - 8:06จนกระทั่งเราเข้าใจถ่องแท้ถึง
ข้อจำกัดของเทคนิคนี้ -
8:06 - 8:08เพราะเมื่อเราเข้าใจข้อจำกัดเหล่านั้น
-
8:08 - 8:11เราก็สามารถหาทางที่จะผลักดันมันออกไป
-
8:11 - 8:14และนำไปสู่การทดลองเช่นนี้
-
8:14 - 8:17ซึ่งก็เหมือนเคย คือผมก็จะพูดกับถุงมันฝรั่ง
-
8:17 - 8:21และครั้งนี้เราย้ายกล้องให้ห่างออกไป 15 ฟุต
-
8:21 - 8:24อยู่หลังหน้าต่างกันเสียง
-
8:24 - 8:27และทุกอย่างนั้นถูกให้แสงโดยแสงธรรมชาติ
-
8:29 - 8:31และนี่คือวิดีโอที่เราบันทึกไว้
-
8:32 - 8:37และนี่คือเสียงจากด้านใน
ข้าง ๆ ถุงมันฝรั่ง -
8:37 - 8:42(เสียงบันทึก) แมรี่มีลูกแกะตัวหนึ่ง
ขนมันขาวราวหิมะ -
8:42 - 8:48และไม่ว่าแมรี่จะไปไหน
ลูกแกะก็จะตามไป -
8:48 - 8:52เอป: และนี่คือสิ่งที่เราสามารถกู้
กลับมาได้จากวีดิโอซึ่งไร้เสียง -
8:52 - 8:54ที่บันทึกจากนอกหน้าต่าง
-
8:54 - 8:58(เสียงบันทึก) แมรี่มีลูกแกะตัวหนึ่ง
ขนมันขาวราวหิมะ -
8:58 - 9:04และไม่ว่าแมรี่จะไปไหน
ลูกแกะก็จะตามไป -
9:04 - 9:10(เสียงปรบมือ)
-
9:10 - 9:14เอบ: ยังมีอีกหลายวิธีที่เรา
จะผลักดันขีดจำกัดเหล่านั้นออกไปอีก -
9:14 - 9:16นี่คือการทดลองที่เงียบขึ้น
-
9:16 - 9:20ซึ่งเราถ่ายวิดีโอหูฟังซึ่งเสียบอยู่กับแล็ปท็อป
-
9:20 - 9:24และในกรณีนี้ เป้าหมายของเรา
คือการกู้เสียงเพลงซึ่งกำลังเล่นจากแล็ปท็อป -
9:24 - 9:26จากวิดีโอเงียบๆ
-
9:26 - 9:29ของหูฟังพลาสติกสองชิ้นนี้
-
9:29 - 9:31และเราก็ทำได้ดีมาก
-
9:31 - 9:33เสียจนผมสามารถใช้เอาเสียงนี้
ไปใช้ค้นหาชื่อเพลงบน Shazam ได้ -
9:33 - 9:36(เสียงหัวเราะ)
-
9:37 - 9:47(เสียงเพลง: "Under Pressure" โดยวง Queen)
-
9:50 - 9:55(เสียงปรบมือ)
-
9:55 - 9:59เรายังสามารถผลักดันขีดจำกัด
โดยเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เราใช้ -
9:59 - 10:02เนื่องจากในการทดลอง
ที่ผมแสดงให้คุณดูมาตั้งแต่ต้นนั้น -
10:02 - 10:04ล้วนใช้กล้องวิดีโอความเร็วสูง
-
10:04 - 10:07ซึ่งสามารถบันทึกวิดีโอได้เร็วเป็น 100 เท่า
-
10:07 - 10:09ของกล้องบนโทรศัพท์มือถือ
-
10:09 - 10:12แต่กระนั้นเราก็ยังพบวิธีที่จะใช้เทคนิคนี้
-
10:12 - 10:14กับกล้องทั่ว ๆ ไปได้
-
10:14 - 10:18และเราทำได้โดยใช้ประโยชน์
จากสิ่งที่เรียกว่า โรลลิ่ง ชัตเตอร์ (rolling shutter) -
10:18 - 10:23กล้องทั่วไปบันทึกภาพทีละแถว
-
10:23 - 10:28และถ้าวัตถุเคลื่อนที่ในขณะที่มีการบันทึกภาพหนึ่ง ๆ
-
10:28 - 10:31จะเกิดการหน่วงเวลาขึ้นเล็กน้อยในแต่ละแถว
-
10:31 - 10:34และก่อให้เกิดสัญญาณปลอมปนนี้ขึ้นมา
-
10:34 - 10:38ซึ่งจะถูกบันทึกลงในแต่ละเฟรมของวิดีโอ
-
10:38 - 10:42สิ่งที่เราพบก็คือ
เมื่อเราวิเคราะห์สัญญาณปลอมปน -
10:42 - 10:46เราก็จะสามารถกู้เอาเสียงกลับคืนมาได้
โดยใช้ระเบียบวิธีที่ดัดแปลง -
10:46 - 10:48และนี่คือการทดลองที่เราทำ
-
10:48 - 10:50โดยเราถ่ายวิดีโอถุงลูกกวาด
-
10:50 - 10:51ขณะที่ลำโพงที่อยู่ใกล้ ๆ กำลังส่งเสียง
-
10:51 - 10:54เพลง "Mary Had a Little Lamb"
-
10:54 - 10:59แต่ครั้งนี้เราใช้กล้องที่หาซื้อได้ทั่ว ๆ ไป
-
10:59 - 11:02และในอีกสักครู่ ผมจะเล่นเสียงที่เรากู้คืนมาได้
-
11:02 - 11:04และมันจะฟังดูเพี้ยนหน่อยในครั้งนี้
-
11:04 - 11:07แต่ลองฟังดูว่าคุณยังพอฟังออก
ว่ามันเป็นเพลงอะไรหรือเปล่า -
11:08 - 11:14(เสียงเพลง: "Mary Had a Little Lamb")
-
11:26 - 11:29แม้เสียงจะฟังดูผิดเพี้ยนไป
-
11:29 - 11:33แต่สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ เราสามารถทำสิ่งนี้ได้
-
11:33 - 11:36ด้วยของที่คุณสามารถเดินออกไปหาซื้อได้
-
11:36 - 11:37จากร้านขายสินค้าอิเล็คทรอนิคส์ทั่วไป
-
11:39 - 11:40ณ จุดนี้
-
11:40 - 11:42หลาย ๆ คนที่เห็นงานวิจัยนี้
-
11:42 - 11:46จะนึกถึงงานด้านการสอดแนมในทันที
-
11:46 - 11:48ซึ่งพูดตรง ๆ แล้ว
-
11:48 - 11:52มันก็ไม่ยากนักที่จะคิดว่าจะนำเทคโนโลยีนี้
ไปใช้เพื่อสอดแนมใครบางคนได้อย่างไร -
11:52 - 11:56แต่ต้องอย่าลืมว่า มีเทคโนโลยีอีกมากมาย
ที่ได้ถูกวิจัยพัฒนาสมบูรณ์แล้ว -
11:56 - 11:58ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการสอดแนม
-
11:58 - 12:00อันที่จริงแล้ว ผู้คนได้ใช้แสงเลเซอร์
-
12:00 - 12:03เพื่อตรวจจับการสั่นไหวของวัตถุ
จากระยะไกลมานับสิบปีแล้ว -
12:04 - 12:06แต่สิ่งที่แปลกใหม่สำหรับเทคโนโลยีนี้
-
12:06 - 12:07สิ่งที่แตกต่างจริง ๆ
-
12:07 - 12:12ก็คือเรามีวิธีใหม่ที่จะบันทึกการสั่นไหวของวัตถุ
-
12:12 - 12:15ซึ่งให้มุมมองใหม่สู่โลกกว้างกับเรา
-
12:15 - 12:17และเราสามารถใช้มุมมองนี้
-
12:17 - 12:22ไม่เพียงแค่เรียนรู้ถึงแรงเช่นคลื่นเสียง
ที่ทำให้วัตถุสั่นไหว -
12:22 - 12:24แต่ยังเรียนรู้ถึงตัววัตถุนั้น ๆ
-
12:25 - 12:27ดังนั้นผมจึงอยากพาท่านถอยมาก้าวหนึ่ง
-
12:27 - 12:31และลองคิดว่ามันจะเปลี่ยนวิธี
ที่เราใช้วิดีโอได้อย่างไร -
12:31 - 12:34เพราะปกติแล้วเราใช้วิดีโอเพื่อดูสิ่งต่าง ๆ
-
12:34 - 12:37และผมก็เพิ่งแสดงให้คุณดูว่าเรา ใช้มัน
-
12:37 - 12:39เพื่อฟังเสียงต่าง ๆ ได้อย่างไร
-
12:39 - 12:43แต่ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่เรา
สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับโลกได้ -
12:43 - 12:45นั่นก็คือการมีปฏิสัมพันธ์กับมัน
-
12:45 - 12:48เราดัน และดึง และจิ้ม สิ่งต่าง ๆ
-
12:48 - 12:51เราเขย่ามันแล้วดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
-
12:51 - 12:55แต่นั่นเป็นอะไรที่วิดีโอไม่ยอมให้เราทำ
-
12:55 - 12:58อย่างน้อยก็วิดีโอทั่ว ๆ ไป
-
12:58 - 13:00ผมจึงอยากแสดงให้คุณเห็นถึงงานวิจัยใหม่
-
13:00 - 13:02ซึ่งเกิดขึ้นมาจากแนวคิดของผม
เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ -
13:02 - 13:06นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ผมแสดงมันต่อสาธารณะชน
-
13:06 - 13:11แนวคิดพื้นฐานก็คือ
เราจะใช้การสั่นไหวในวิดีโอนี้ -
13:11 - 13:15เพื่อตรวจจับวัตถุในแบบที่เราสามารถโต้ตอบกับมันได้
-
13:15 - 13:17และดูว่ามันจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
-
13:19 - 13:21นี่คือวัตถุชิ้นหนึ่ง
-
13:21 - 13:25และในกรณีนี้ มันคือลวดดัดเป็นรูปคน
-
13:25 - 13:28และเราก็จะถ่ายวิดีโอวัตถุนี้โดยใช้กล้องธรรมดา
-
13:28 - 13:30ไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับกล้องนี้
-
13:30 - 13:33อันที่จริงแล้ว ผมก็เคยทำการทดลองนี้
ด้วยกล้องมือถือของผมเอง -
13:33 - 13:35แต่เราก็อยากเห็นวัตถุนี้สั่นไหว
-
13:35 - 13:36เพื่อให้เป็นเช่นนั้น
-
13:36 - 13:40เราจะเคาะเบา ๆ บนพื้นที่มันตั้งอยู่
-
13:40 - 13:42ในขณะที่เราบันทึกวิดีโอ
-
13:47 - 13:51แค่นั้นเอง เพียงแค่วิดีโอยาว 5 วินาที
-
13:51 - 13:53ขณะที่เราเคาะพื้น
-
13:53 - 13:57และเราก็จะใช้การสั่นไหวในวิดีโอ
-
13:57 - 14:01เพื่อศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้าง
และคุณสมบัติเชิงวัสดุของวัตถุชิ้นนั้น -
14:01 - 14:06และเราก็จะใช้ข้อมูลนั้น
เพื่อสร้างบางสิ่งใหม่ ๆ ที่สามารถโต้ตอบได้ -
14:13 - 14:16นี่คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นมา
-
14:16 - 14:18มันดูเหมือนภาพธรรมดา
-
14:18 - 14:21แต่นี่ไม่ใช่รูปภาพ และมันก็ไม่ใช่วิดีโอ
-
14:21 - 14:23เพราะตอนนี้ผมสามารถเอาเมาส์
-
14:23 - 14:26ไปโต้ตอบกับวัตถุชิ้นนี้ได้
-
14:33 - 14:35และสิ่งที่คุณเห็นอยู่ตอนนี้
-
14:35 - 14:38คือการจำลองว่าวัตถุนี้
-
14:38 - 14:42จะตอบสนองต่อแรงใหม่ ๆ
ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน -
14:42 - 14:46และเราก็สร้างมันขึ้นจาก
วิดีโอธรรมดาความยาวแค่ 5 วินาที -
14:47 - 14:52(เสียงปรบมือ)
-
14:57 - 15:01นี่เป็นวิธีที่ทรงพลังมาก
ในการศึกษาโลกใบนี้ -
15:01 - 15:04เพราะมันทำให้เราทำนายได้
ว่าวัตถุจะตอบสนองอย่างไร -
15:04 - 15:05กับสถานการณ์ใหม่ ๆ
-
15:05 - 15:09และสมมุติว่าคุณมองดูสะพานเก่า ๆ แห่งหนึ่ง
-
15:09 - 15:12และเกิดสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
สะพานจะรับน้ำหนักได้หรือไม่ -
15:12 - 15:15ถ้าคุณขับรถข้ามสะพานนั้น
-
15:15 - 15:18และนั่นเป็นคำถามที่คุณต้องการคำตอบ
-
15:18 - 15:21ก่อนที่จะขับข้ามสะพานนั้น
-
15:22 - 15:25และแน่นอน มันก็จะต้องมีขีดจำกัดกับเทคนิคนี้
-
15:25 - 15:28เช่นเดียวกับโมโครโฟนภาพ
-
15:28 - 15:31แต่เราก็พบว่ามันใช้ได้ในหลาย ๆ สถานการณ์
-
15:31 - 15:33ที่คุณอาจคาดไม่ถึง
-
15:33 - 15:36โดยเฉพาะเมื่อคุณป้อนวิดีโอที่ยาวขึ้นให้มัน
-
15:36 - 15:38ยกตัวอย่างเช่น
นี่คือวิดีโอที่ผมถ่าย -
15:38 - 15:40ไม้พุ่มหนึ่งนอกอพาร์ทเมนต์ของผม
-
15:40 - 15:43ผมไม่ได้ทำอะไรกับพุ่มไม้นี้
-
15:43 - 15:46แต่ด้วยการถ่ายวิดีโอยาวหนึ่งนาที
-
15:46 - 15:50ลมที่พัดเบา ๆ ก็สร้างการสั่นไหวที่มากพอ
-
15:50 - 15:53ที่เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับพุ่มไม้นี้
เพื่อที่จะสร้างแบบจำลอง -
15:55 - 16:01(เสียงปรบมือ)
-
16:01 - 16:04และคุณคงพอนึกออกว่า
หากผู้กำกับภาพยนต์ได้ใช้มัน -
16:04 - 16:06และช่วยให้เขาควบคุม
-
16:06 - 16:11ความแรง หรือทิศทางลม
ในฉากหลังจากที่มันได้ถูกถ่ายไปแล้ว -
16:13 - 16:17หรือในกรณีนี้
เราตั้งกล้องไปยังผ้าม่านที่แขวนอยู่ -
16:17 - 16:21คุณอาจมองไม่เห็น
การเคลื่อนไหวใด ๆ ในวิดีโอนี้ -
16:21 - 16:24แต่โดยการบันทึกวิดีโอยาว 2 นาที
-
16:24 - 16:27กระแสลมตามธรรมชาติในห้องนี้
-
16:27 - 16:31สร้างการเคลื่อนไหว
ที่แทบมองไม่เห็นขึ้น -
16:31 - 16:34และเราสามารถเรียนรู้จากมันได้มากพอ
ที่จะสร้างแบบจำลอง -
16:36 - 16:39ซึ่งก็น่าตลก
-
16:39 - 16:42ที่เราคุ้นชินกับการโต้ตอบลักษณะนี้
-
16:42 - 16:44หากมันเป็นวัตถุเสมือน
-
16:44 - 16:48หรือวิดีโอเกมส์ และแบบจำลองสามมิติ
-
16:48 - 16:52แต่การที่เราสามารถดึงข้อมูลเหล่านี้
จากวัตถุจริง ๆ ในโลกจริง ๆ ได้ -
16:52 - 16:55โดยใช้วิดีโอธรรมดา ๆ นั้น
-
16:55 - 16:57เป็นบางสิ่งที่ใหม่และมีศักยภาพมาก
-
16:58 - 17:03และนี่คือกลุ่มคนที่น่าทึ่ง
ผู้ซึ่งร่วมงานกับผมในงานวิจัยเหล่านี้ -
17:04 - 17:10(เสียงปรบมือ)
-
17:13 - 17:16สิ่งทีผมแสดงให้คุณดูในวันนี้
เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น -
17:16 - 17:18เราเพียงแค่เริ่มเปิดประตู
-
17:18 - 17:21เข้าสู่โลกของหลากหลายสิ่ง
ที่คุณสามารถทำได้ด้วยเทคนิคนี้ -
17:21 - 17:23เพราะมันให้วิธีใหม่แก่เรา
-
17:23 - 17:28ในการดึงข้อมูลจากสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัว
ด้วยเทคโนโลยีที่เข้าถึงได้ทั่ว ๆ ไป -
17:28 - 17:30เมื่อมองไปในอนาคต
-
17:30 - 17:32มันคงน่าตื่นเต้นที่จะได้ค้นพบว่า
-
17:32 - 17:34สิ่งนี้จะช่วยบอกอะไรเราได้เกี่ยวกับโลกใบนี้
-
17:34 - 17:36ขอบคุณครับ
-
17:36 - 17:42(เสียงปรบมือ)
- Title:
- New video technology that reveals an object's hidden properties
- Speaker:
- เอบ เดวิส (Abe Davis)
- Description:
-
การเคลื่อนไหวที่ละเอียดอ่อนซับซ้อนเกิดขึ้นรอบตัวเราตลอดเวลา รวมถึงการสั่นไหวเล็กๆ อันเกิดจากคลื่นเสียง เทคโนโลยีแบบใหม่แสดงให้เราเห็นถึงการตรวจจับการสั่นไหวนี้ และสังเคราะห์เสียงและบทสนทนาขึ้นมาจากวิดีโอของวัตถุที่ดูราวกับหยุดนิ่ง แต่ เอบ เดวิส ได้พาเราก้าวไปอีกขั้น ชมการสาธิตซอฟท์แวร์ของเขาที่สามารถให้ทุกคนโต้ตอบกับวัตถุ และคุณสมบัติที่ซ่อนอยู่ของมันได้ จากเพียงวิดีโอธรรมดา ๆ
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 17:57
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for New video technology that reveals an object's hidden properties | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for New video technology that reveals an object's hidden properties | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for New video technology that reveals an object's hidden properties | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for New video technology that reveals an object's hidden properties | ||
Rawee Ma accepted Thai subtitles for New video technology that reveals an object's hidden properties | ||
Rawee Ma edited Thai subtitles for New video technology that reveals an object's hidden properties | ||
Rawee Ma edited Thai subtitles for New video technology that reveals an object's hidden properties | ||
Rawee Ma declined Thai subtitles for New video technology that reveals an object's hidden properties |