ความลับข้อแรกของการออกแบบคือ ... การสังเกต
-
0:01 - 0:04ในภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ยุคปี 1980 เรื่อง
พี่น้องตระกูลบลูส์ -
0:04 - 0:09มีฉากตอนหนึ่งที่ จอห์น เบลูชิ
ไปหา แดน อายครอยด์ที่ห้องพัก -
0:09 - 0:12ในเมืองชิคาโกเป็นครั้งแรก
-
0:12 - 0:15ห้องทั้งแคบทั้งเล็กมาก
-
0:15 - 0:17อยู่ห่างจากรางรถไฟเพียง 3 ฟุตเท่านั้น
-
0:19 - 0:20ขณะที่จอห์นนั่งบนเตียงแดน
-
0:20 - 0:23รถไฟก็แล่นผ่านไป
-
0:23 - 0:25ส่งเสียงดังกึกก้องไปทั้งห้อง
-
0:25 - 0:29จอห์นถาม รถไฟวิ่งผ่านบ่อยไหม
-
0:29 - 0:34แดนตอบ บ่อยมากจนเราไม่ทันสังเกต
-
0:34 - 0:36และแล้ว มีบางอย่างหล่นจากฝาพนัง
-
0:37 - 0:39เราต่างรู้ดีว่าเขากำลังพูดเรื่องอะไร
-
0:39 - 0:42ด้วยความเป็นมนุษย์
เราจะเคยชินกับเรื่องที่เจอทุกวัน -
0:42 - 0:43เคยชินอย่างรวดเร็วด้วย
-
0:44 - 0:47ผม ในฐานะผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์
ต้องสำรวจสิ่งของที่มักจะพบเจอทุกวันพวกนั้น -
0:47 - 0:51รู้สึกถึงมันและพยายามทำให้มันดีขึ้น
-
0:51 - 0:55เช่น ผลไม้ลูกนี้
-
0:56 - 0:58เห็นสติกเกอร์อันเล็กนี้หรือไม่
-
0:59 - 1:02ตอนผมยังเด็ก ยังไม่มีการติดสติกเกอร์
-
1:03 - 1:05หลายปีผ่านมา ณ ที่ใดที่หนึ่ง
-
1:05 - 1:08ใครบางคนก็มีแนวคิดเยี่ยมมาก
โดยการเริ่มติดสติกเกอร์ลงบนผลไม้ -
1:08 - 1:08ทำไมละ
-
1:08 - 1:10มันง่ายมากสำหรับพวกเรา
-
1:10 - 1:12ตอนเดินไปจ่ายเงินในร้านของชำ
-
1:12 - 1:13ใช่เลยมันเยี่ยมยอดมาก
-
1:13 - 1:15เราเดินเข้าออกจากร้านได้อย่างรวดเร็ว
-
1:15 - 1:17แต่ตอนนี้ มีปัญหาใหม่
-
1:17 - 1:19ตอนเรากลับบ้านและกำลังหิว
-
1:19 - 1:23เราเห็นผลไม้สุกงอมหวานฉ่ำบนเคาน์เตอร์
-
1:23 - 1:26หยิบขึ้นมาและจะกัดกิน
-
1:26 - 1:29แต่ช้าก่อน เราต้องมองหา
สติกเกอร์ชิ้นเล็ก ๆ นี้ก่อน -
1:31 - 1:35แล้วใช้เล็บแกะมันแต่ทำให้มีรอยที่เปลือก
-
1:35 - 1:37ต้องค่อย ๆ แซะสติกเกอร์ --
-
1:37 - 1:38เข้าใจตรงกันนะ
-
1:38 - 1:40แล้วสะบัดมันออกจากนิ้ว
-
1:40 - 1:43(เสียงตบมือ)
-
1:44 - 1:46ไม่สนุกเลย
-
1:46 - 1:47อย่างมากด้วย
-
1:48 - 1:50แต่เรื่องที่น่าสนใจได้เกิดขึ้นแล้ว
-
1:50 - 1:53ครั้งแรกที่แกะมัน จะรู้สึกว่ามีปัญหากับมัน
-
1:53 - 1:55คุณต้องการกัดกินผลไม้
-
1:55 - 1:56แต่รู้สึกไม่พอใจ
-
1:56 - 1:58ต้องแกะมันออกมา
-
1:59 - 2:00แต่พอทำได้สิบครั้ง
-
2:00 - 2:03ความไม่พอใจก็เริ่มลดลง
-
2:03 - 2:06เพราะเริ่มดึงสลากออกได้คล่องแล้ว
-
2:06 - 2:08แต่กับผม ต้องถึงหนึ่งร้อยครั้ง
-
2:08 - 2:10ผมเริ่มชินชา
-
2:10 - 2:13ผมหยิบผลไม้ขึ้นมา
-
2:13 - 2:17ใช้เล็บจิกแล้วดึงสติกเกอร์ขึ้นมา
-
2:17 - 2:19แล้วอะไรอีกละ
-
2:19 - 2:22มีสติกเกอร์อีกอันหรือเปล่า
-
2:24 - 2:25ทำไมเป็นเช่นนี้
-
2:25 - 2:27ทำไมเราเคยชินกับเรื่องประจำวัน
-
2:27 - 2:30สมองคนเราทุกคนมีข้อจำกัด
-
2:30 - 2:35สมองคนเราจะจำเรื่องที่ทำเป็นประจำ
ให้กลายเป็นนิสัย -
2:35 - 2:39ทำให้สมองว่างเพื่อเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ
-
2:39 - 2:41มันคือกระบวนการที่เรียกว่า
ความคุ้นเคย -
2:41 - 2:44ซึ่งเป็นสิ่งธรรมดาที่สุดอย่างหนึ่งของคนเรา
นั่นคือการเรียนรู้ -
2:46 - 2:48จริงแล้ว ความคุ้นเคยไม่ใช่เรื่องไม่ดี
-
2:49 - 2:51จำตอนหัดขับรถได้ไหม
-
2:51 - 2:52ผมจำได้แน่นอน
-
2:53 - 2:56มือจับพวงมาลัยสองมือตรง ๆ
-
2:56 - 2:58ตามองตรงไปข้างหน้า
-
2:58 - 3:02รถยนต์ ไฟจราจร คนเดินบนถนน
-
3:02 - 3:04ประสาทเสียมากในตอนนั้น
-
3:05 - 3:09ผมเป็นเอามาก ไม่ยอมพูดกับใครในรถ
-
3:09 - 3:10และไม่ยอมฟังดนตรีในรถด้วย
-
3:11 - 3:13แล้วเรื่องมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น
-
3:13 - 3:17หลายสัปดาห์ผ่านไป
เรื่องขับรถกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น -
3:18 - 3:20เพราะคุ้นเคยกับมัน
-
3:21 - 3:23กลายเป็นเรื่องสนุกและธรรมดา
-
3:23 - 3:26สุดท้ายเราจะพูดคุยกับเพื่อนในรถได้
-
3:26 - 3:26ฟังเพลงไปด้วยได้
-
3:26 - 3:29เพราะเรื่องที่ดีคือสมองคุ้นเคยเรื่องต่าง ๆ
-
3:29 - 3:33แต่ถ้าเราไม่คุ้นเคย
คือเราต้องสังเกตรายละเอียดทุกอย่าง -
3:33 - 3:34ในทุกครั้ง
-
3:35 - 3:36ก็จะเป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก
-
3:36 - 3:39และจะไม่มีเวลาเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ
-
3:40 - 3:43แต่บางครั้งความคุ้นเคยก็ไม่ดี
-
3:44 - 3:48ถ้ามันทำให้เราให้เลิกสังเกต
เรื่องปัญหารอบตัวเรา -
3:48 - 3:49ไม่ดีเลย
-
3:49 - 3:53ถ้ามันทำให้เราเลิกสังเกต
เราจะหยุดรับรู้ปัญหาต่าง ๆ -
3:53 - 3:55ไม่ดีอย่างยิ่ง
-
3:56 - 3:58นักแสดงตลกรู้ดีในเรื่องแบบนี้
-
3:58 - 4:03อาชีพทั้งหมดของเจอรี่ เซนเฟลด์ มีอยู่ได้
เพราะการสังเกตเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ -
4:03 - 4:07เรื่องงี่เง่าที่เราทำทุกวัน
แต่เรามักจำไม่ได้ -
4:08 - 4:11เขาเล่าว่าทุกครั้งก่อนที่จะออกไปหาเพื่อน
-
4:11 - 4:13ถ้าต้องการจะอาบน้ำอุ่น
-
4:13 - 4:17เขาจะเอื้อมมือออกไปจับที่เปิด
แล้วผลักออกไปจนสุดอีกข้างหนึ่ง -
4:17 - 4:19มันจะร้อนมากที่ 100 องศา
-
4:19 - 4:23แล้วถ้าผลักไปอีกทางหนึ่ง
มันจะเย็นมากที่ 100 องศาเช่นกัน -
4:23 - 4:26เขาเพียงต้องการอาบน้ำที่อุณหภูมิกำลังดี
-
4:26 - 4:28เราทุกคนเคยทำมามาหมด
-
4:28 - 4:30แต่เราจำเรื่องนี้ไม่ได้
-
4:30 - 4:31แต่ขณะที่เจอรี่จำได้
-
4:31 - 4:33นั้นคืออาชีพของนักแสดงตลก
-
4:33 - 4:36แต่นักออกแบบ นักประดิษฐ์ และผู้ประกอบการ
-
4:36 - 4:39งานของเราไม่ใช่แค่การสังเกตสิ่งต่าง ๆ
-
4:39 - 4:42แต่คือการก้าวไปอีกขั้นและพยายามแก้ปัญหา
-
4:43 - 4:45ดูนี่ คนนี้
-
4:45 - 4:46เธอคือ แมรี่ แอนเดอร์สัน
-
4:47 - 4:49ในปี 1902 ที่นิวยอร์ค
-
4:49 - 4:51เธอกำลังนั่งรอในรถยนต์
-
4:51 - 4:56เป็นวันที่ทั้งหนาว เฉอะแฉะ และหิมะตก
แต่เธอกลับอบอุ่นอยู่ในรถยนต์ -
4:57 - 5:02ขณะที่เธอกำลังเดินทาง เธอสังเกตว่า
คนขับรถมักจะเปิดหน้าต่างรถ -
5:02 - 5:07เพื่อปัดหิมะบนกระจกออกไป
จะได้ขับต่อไปอย่างปลอดภัย -
5:08 - 5:12เมื่อเปิดหน้าต่าง
อากาศที่ทั้งเย็นและชื้นก็พัดเข้ามา -
5:12 - 5:14ทำให้คนโดยสารนั่งไม่ติด
-
5:15 - 5:18แน่นอนว่าคนโดยสารส่วนใหญ่
จะคิดเหมือนกันว่า -
5:18 - 5:21ช่วยไม่ได้ ที่คนขับจะต้องเปิดหน้าต่างเพื่อเช็ด
-
5:21 - 5:23เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องทำ
-
5:23 - 5:25แต่ไม่ใช่กับแมรี่
-
5:25 - 5:26แม่รีกลับคิดว่า
-
5:26 - 5:30ทำไมคนขับรถไม่ทำความสะอาด
กระจกหน้ารถจากข้างในล่ะ -
5:30 - 5:33มันจะปลอดภัยในตอนขับด้วย
-
5:33 - 5:36คนนั่งในรถก็ไม่หนาวด้วย
-
5:37 - 5:39แล้วเธอก็หยิบสมุดวาดเขียนขึ้นมา
-
5:39 - 5:44เริ่มขีดเขียน จนเกิดเป็น
ใบปัดน้ำฝนชิ้นแรกของโลก -
5:45 - 5:49ผม นักออกแบบสินค้าก็พยายาม
ทำตัวแบบแมรี่ ที่เรียนรู้จากผู้คน -
5:49 - 5:52พยายามมองโลกอย่างที่เป็น
-
5:52 - 5:54ไม่ใช่อย่างที่พวกเราคิด
-
5:55 - 5:56ทำไม
-
5:56 - 5:59เพราะมันง่ายมากที่จะแก้ไขปัญหา
ที่แทบจะทุกคนเห็นกันอยู่แล้ว -
6:00 - 6:04แต่มันยากที่จะแก้ไขปัญหา
ที่เกือบทุกคนมองไม่เห็น -
6:04 - 6:07บางคนอาจจะคิดว่าเขาเกิดมา
พร้อมกับความสามารถนี้ -
6:07 - 6:09หรืออาจจะไม่ใช่
-
6:09 - 6:14ดังเช่นที่แมรี่ แอนเดอร์สัน มีอยู่ในสมอง
ตั้งแต่เกิด ในการมองโลกให้ชัดเจนขึ้น -
6:15 - 6:17แต่นั่นไม่ได้หมายรวมถึงผม
-
6:17 - 6:18ผมได้พยายามทำสิ่งเหล่านี้
-
6:20 - 6:22หลายปีที่ผมทำงานที่แอปเปิ้ล
-
6:22 - 6:27สตีฟ จ๊อปศ์ ท้าทายพวกเรา
ในเรื่องการทำงานทุก ๆ วัน -
6:27 - 6:31ให้มองผลิตภัณฑ์ด้วยสายตาลูกค้า
-
6:31 - 6:33ลูกค้ารายใหม่
-
6:33 - 6:36คนที่ขี้กลัวและว้าวุ่นใจ
-
6:36 - 6:39แต่จะดีใจมากเมื่อพบว่า
สินค้าเทคโนโลยีสมัยใหม่ -
6:39 - 6:41สามารถใช้งานได้ในทันใด
-
6:41 - 6:44สตีฟเรียกว่าพวกมือใหม่ถาวร
-
6:44 - 6:48และต้องการให้พวกเราสนใจมุ่งเน้น
ไปที่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ -
6:48 - 6:52ทำให้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น ไม่สะดุด
สำหรับพวกมือใหม่ -
6:53 - 6:57เรื่องนี้ทำให้ผมจำได้แม่นเลย
ตอนที่ไอพอดออกขายเป็นครั้งแรก -
6:57 - 6:59ลองคิดย้อนกลับไปตอนปี 90
-
6:59 - 7:01คนบ้าอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เหมือนผม
-
7:03 - 7:08ผมรีบเข้าไปในร้านเพื่อหาอุปกรณ์เสริม
ชิ้นที่ใหม่ที่สุด -
7:09 - 7:11ผมใช้เวลาได้ทั้งวันในร้าน
-
7:11 - 7:15หลังจ่ายเงินแล้วกลับบ้าน
เริ่มแกะกล่องออกมา -
7:15 - 7:19ก็จะเจอสติกเกอร์อันเล็ก ๆ
-
7:19 - 7:22ปิดไว้ว่า ชาร์จไฟก่อนใช้
-
7:22 - 7:24อะไรกัน !
-
7:24 - 7:25ผมไม่อยากจะเชื่อ !
-
7:25 - 7:27ผมใช้เวลาทั้งวันในการเลือกซื้อสินค้า
-
7:27 - 7:29แต่ตอนนี้กลับต้องชาร์จไฟก่อนใช้
-
7:29 - 7:33ผมต้องรอและรู้สึกต้องรอชั่วชีวิต
เหมือนเด็กอยากได้ของเล่นชิ้นใหม่ -
7:33 - 7:35มันบ้ามาก
-
7:35 - 7:36แต่คุณรู้อะไรไหม
-
7:36 - 7:38สินค้าทุกอย่างในตอนนั้นต่างเป็นแบบนี้
-
7:38 - 7:40ถ้ามีแบตเตอรี่อยู่ข้างใน
-
7:40 - 7:42คุณต้องชาร์จไฟก่อน
-
7:43 - 7:45แน่นอน สตีฟสังเกตเห็นเรื่องนี้
-
7:45 - 7:46และเขาพูดว่า
-
7:46 - 7:49สินค้าเราจะไมเป็นแบบนั้นอย่างเด็ดขาด
-
7:49 - 7:50แล้วพวกเราจะทำอย่างไร
-
7:50 - 7:53โดยทั่วไปสินค้าที่มีฮาร์ดดิสอยู่ข้างใน
-
7:53 - 7:56โรงงานแค่ทดสอบเครื่องเพียง 30 นาที
-
7:56 - 7:59เพื่อให้แน่ใจว่าฮาร์ดดิสทำงานได้อีกหลายปี
-
7:59 - 8:02หลังจากลูกค้าหยิบมัน
ออกมาจากกล่อง -
8:02 - 8:05แล้วพวกเราทำอะไรบ้าง
-
8:05 - 8:08เราทดสอบสินค้านานกว่า 2 ชั่วโมง
-
8:08 - 8:09ทำไม
-
8:09 - 8:12อย่างแรกสุด
เราทำให้สินค้ามีคุณภาพสูงกว่า -
8:12 - 8:14ทดสอบได้ง่าย
-
8:14 - 8:17และสร้างความมั่นใจว่าสินค้านี้
จะยอดเยี่ยมสำหรับลูกค้า -
8:18 - 8:19แต่เรื่องที่สำคัญที่สุด
-
8:19 - 8:22แบตเตอรี่ถูกชาร์จไฟเต็มแล้วก่อนแกะกล่อง
-
8:22 - 8:23พร้อมใช้เลย
-
8:23 - 8:27ซึ่งลูกค้าจะพอใจมาก
-
8:27 - 8:29ที่ใช้สินค้าได้เลย
-
8:29 - 8:31แนวทางนี้ยอดเยี่ยมมาก มันได้ผล
-
8:31 - 8:32ลูกค้าชอบแบบนี้
-
8:32 - 8:35ทุกวันนี้ สินค้าเกือบทุกอย่าง
ที่ต้องใช้แบตเตอรี่ -
8:35 - 8:38จะถูกชาร์จเต็มมาแล้ว
-
8:38 - 8:40แม้แต่สินค้าที่ไม่มีฮาร์ดไดรว์
-
8:40 - 8:45มองย้อนกลับไป เราสังเกต
เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วเราแก้ปัญหาได้ -
8:45 - 8:47แล้วทุกวันนี้ทุกคนก็ทำแบบเดียวกัน
-
8:47 - 8:50ไม่มีอีกแล้วที่จะต้องชาร์จไฟก่อนใช้
-
8:51 - 8:53ทำไมผมถึงเล่าเรื่องนี้ให้พวกคุณฟัง
-
8:53 - 8:55เพราะมันคือปัญหาที่ผู้คนมองไม่เห็น
-
8:55 - 8:59ไมใช่ปัญหาที่เห็นชัดเจนแล้ว
และนี่คือจุดสำคัญ -
8:59 - 9:02ไม่ใช่แค่การออกแบบสินค้า
แต่เป็นทุกอย่างที่เราทำ -
9:03 - 9:06คุณรู้ มีปัญหาที่มองไม่เห็นอยู่รอบตัวเรา
-
9:06 - 9:08เรื่องที่เราแก้ปัญหาได้
-
9:08 - 9:12อันดับแรกเราต้องเห็น และรับรู้ถึงพวกมัน
-
9:13 - 9:15ผมลังเลใจที่จะบอกเคล็ดลับเล็กน้อย
-
9:15 - 9:18เกี่ยวกับความคุ้นเคยหรือจิตวิทยา
-
9:18 - 9:21ในชุมชน TED มีคนมีประสบการณ์มากมาย
-
9:21 - 9:24ที่รู้อะไรมากกว่าผมเสียอีก
-
9:24 - 9:27แต่ผมจะบอกเคล็ดลับเล็กน้อยที่ผมใช้อยู่
-
9:27 - 9:30เรื่องที่เราสามารถทำได้
ในการต่อสู้กับความคุ้นเคย -
9:30 - 9:34เคล็ดลับอย่างแรกคือ จงมองภาพรวม
-
9:34 - 9:36คุณรู้ดี เมื่อคุณเจอปัญหา
-
9:36 - 9:39บางครั้งมีหลายอย่างมากที่นำไปสู่ปัญหา
-
9:39 - 9:42และบางครั้งมีหลายอย่างตามมาสร้างปัญหาอีก
-
9:42 - 9:46ถ้าคุณมองย้อนกลับไปแล้วมองอย่างกว้าง ๆ
-
9:46 - 9:48บางทีคุณอาจเปลี่ยนปัญหาในกล่องนั้นได้
-
9:48 - 9:49ก่อนจะเกิดปัญหา
-
9:49 - 9:50บางทีควรรวบเข้าด้วยกัน
-
9:50 - 9:54บางทีแยกออกจากกันแล้วทำให้มันดีขึ้น
-
9:54 - 9:56ตัวอย่างเช่น ตัวควบคุมอุณหภูมิ
-
9:56 - 10:00ซึ่งออกขายครั้งแรกในยุคปี 1900
มันใช้งานได้ง่ายมาก -
10:00 - 10:02ปรับเพียงแค่ให้ร้อนขึ้นหรือเย็นลง
-
10:02 - 10:03ทุกคนใช้งานได้
-
10:04 - 10:06แต่ในยุค 1970
-
10:06 - 10:08วิกฤตพลังงานส่งผลกระทบอย่างรุนแรง
-
10:08 - 10:11ลูกค้าพากันให้ความสนใจการประหยัดพลังงาน
-
10:11 - 10:13แล้วอะไรเกิดขึ้น
-
10:13 - 10:16นักออกแบบควบคุมอุณหภูมิ
เพิ่มคุณสมบัติใหม่เข้าไป -
10:16 - 10:18แทนที่จะปรับแค่อุณหภูมืขึ้นลง
-
10:18 - 10:20แต่คุณต้องตั้งค่าต่าง ๆ ให้กับเครื่อง
-
10:20 - 10:23เพื่อให้กำหนดอุณหภูมิได้ในเวลาที่ต้องการ
-
10:23 - 10:25ดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่เยี่ยมมาก
-
10:25 - 10:28ตัวควบคุมอุณภูมิทุกตัว
พากันเพิ่มคุณสมบัตินี้เข้าไปด้วย -
10:28 - 10:32ผลลัพท์กลับกลายเป็นว่าทุกคน
ไม่ช่วยประหยัดพลังงานเลย -
10:32 - 10:34ทำไมถึงเป็นเช่นนี้
-
10:34 - 10:37แน่นอน คนเราไม่สามารถทำนายอนาคตได้
-
10:37 - 10:40ไม่มีใครรู้ว่าแต่ละสัปดาห์
ฤดูกาลเปลี่ยนฤดูกาลแล้วฤดูกาลเล่า -
10:40 - 10:42ปีแล้วปีเล่า
-
10:42 - 10:45จึงไม่มีใครที่ช่วยประหยัดพลังงานเลย
-
10:45 - 10:46แล้วอะไรเกิดขึ้น
-
10:46 - 10:48นักออกแบบตัวควบคุมอุณหภูมิ
หันกลับไปมองการออกแบบสินค้า -
10:48 - 10:50แล้วเน้นไปที่เรื่องการตั้งค่าโปรแกรม
-
10:51 - 10:53พัฒนาส่วนสื่อสารกับผู้ใช้งานให้ดีขึ้น
-
10:53 - 10:56พัฒนาเอกสารข้อมูลให้ดีขึ้น
-
10:56 - 11:00แต่กระนั้น หลายปีต่อมา
ผู้คนก็ยังไม่ช่วยกันประหยัดพลังงาน -
11:00 - 11:03เพราะไม่มีใครทำนายอนาคตได้
-
11:03 - 11:05แล้วเราได้ทำอะไรไปบ้าง
-
11:05 - 11:09เราทำให้เครื่องจักรเรียนรู้ได้เอง
แทนที่กำหนดโปรแกรมให้ทั้งดุ้น -
11:09 - 11:12ซึ่งสามารถติดตามดูเรา
เมื่อเราปรับอุณหภูมิขึ้นลง -
11:12 - 11:14เมื่อคุณชอบให้มีอุณหภูมิพอดีเป๊ะ
ยามตื่นนอน -
11:14 - 11:16หรือยามไม่อยู่บ้าน
-
11:16 - 11:17แล้วคุณรู้อะไรอีกบ้าง
-
11:17 - 11:18มันได้ผล
-
11:18 - 11:22ทุกคนช่วยประหยัดพลังงานได้
โดยไม่ต้องกำหนดโปรแกรม -
11:23 - 11:25ดังนั้น ไม่สำคัญว่ากำลังทำอะไร
-
11:25 - 11:29ถ้าย้อนกลับไปมองประเด็น
ปัญหาทั้งหมดในกล่อง -
11:29 - 11:32อาจมีทางที่ดึงออกมาเรื่องหนึ่ง
หรือรวมเรื่องเข้าด้วยกัน -
11:32 - 11:34ด้วยวิธีการนี้
ทำให้กระบวนการง่ายขึ้นมาก -
11:35 - 11:38นี่คือเคล็ดลับแรกสุดของผม มองอย่างกว้าง ๆ
-
11:38 - 11:42เคล็ดลับที่สอง มองให้ใกล้ ๆ
-
11:42 - 11:45ปู่ผมคือหนึ่งในครูที่ยิ่งใหญ่
-
11:47 - 11:49ท่านสอนผมเรื่องต่าง ๆ ในโลก
-
11:50 - 11:53สอนผมว่าสร้างอย่างไรและซ่อมอย่างไร
-
11:53 - 11:57เครื่องมือและเทคนิคที่จำเป็น
เพื่อทำงานให้สำเร็จ -
11:58 - 12:02ผมจำเรื่องหนึ่งได้ ท่านบอกผม
เกี่ยวกับสกรูประเภทต่าง ๆ -
12:02 - 12:06ต้องใช้สกรูแบบไหนให้ถูกกับงาน
-
12:06 - 12:08เพราะมีสกรูหลายแบบมาก
-
12:08 - 12:12สกรูงานไม้ งานเหล็ก งานแขวน งานคอนกรีต
-
12:12 - 12:14แบบแล้วแบบเล่า
-
12:15 - 12:18งานของพวกเราคือสร้างสินค้าที่ใช้งานง่าย
-
12:18 - 12:22แบบที่ลูกค้าจะทำได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งมืออาชีพ
-
12:23 - 12:24แล้วพวกเราจะทำอย่างไร
-
12:25 - 12:28ผมยังจำเรื่องที่ปู่ผมเล่าได้
-
12:28 - 12:29เราคิดกันว่า
-
12:29 - 12:31ะต้องใช้สกรูกี่ตัวกับไอพอดตัวนี้
-
12:31 - 12:342, 3, 4, 5 ตัวหรือไม่
-
12:34 - 12:37เพราะมีรูปทรงกับด้านที่แตกต่างกัน
-
12:37 - 12:39เราคิด และเราทำให้มันได้ผลดีที่สุด
-
12:39 - 12:43เราไปจบที่การใช้สกรูสามแบบ
-
12:44 - 12:46เราคิดว่าแก้ปัญหานี้ได้แล้ว
-
12:46 - 12:49แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น
-
12:50 - 12:51และถ้าเราส่งมอบสินค้า
-
12:51 - 12:54ผู้คนจะไม่รู้สึกว่า
ได้รับประสบการณ์ที่ดี -
12:54 - 12:55แล้วเราทำอย่างไรอีก
-
12:55 - 12:57เรากลับไปทบทวนบนกระดานร่างแบบ
-
12:57 - 13:01และเราก็แก้ปัญหาได้ทันที
เมื่อค้นพบว่าเราแก้ปัญหาผิดจุด -
13:01 - 13:04เราจึงออกแบบสกรูพิเศษ สกรูของลูกค้า
-
13:04 - 13:06ทำให้นักลงทุนผิดหวังมากเรื่องนี้
-
13:06 - 13:10พวกเขาคิดว่า ทำใมเสียเวลาไปมากมาย
กับสกรูตัวเล็ก ๆ เพียงตัวเดียว -
13:10 - 13:12อย่าไปทำมัน ไปขายให้มากขึ้น
-
13:12 - 13:15เราตอบกลับไปว่าเราจะขายได้มาก
ถ้าเราทำเรื่องนี้ได้ถูกต้อง -
13:16 - 13:18แล้วก็สำเร็จ เราทำได้
-
13:18 - 13:21สกรูตัวเล็กของลูกค้า
ซึ่งใช้เพียงตัวเดียวในเครื่อง -
13:21 - 13:24ง่ายต่อการเชื่อมต่อและการแขวนบนกำแพง
-
13:26 - 13:32ถ้าเราใส่ใจกับรายละเอียด
เล็กน้อยที่เรามักมองไม่เห็น -
13:32 - 13:34เราเห็นมันแล้วพูดว่า
-
13:34 - 13:36มันสำคัญ
-
13:36 - 13:38หรือเรามักจะสร้างมันแบบนั้น
-
13:38 - 13:41มีวิธีใดบ้างที่จะลดทอนชิ้นส่วนลง
-
13:42 - 13:47เคล็ดลับสุดท้ายของผม
ให้คิดแบบคนหนุ่มสาว -
13:48 - 13:53ทุกวันผมมักพบกับปัญหา
ที่น่าสนใจจากลูกสามคนที่บ้าน -
13:53 - 13:54ลูก ๆ มักมาพร้อมกับคำถาม เช่น
-
13:54 - 13:57ทำไมรถยนต์จึงบินวนไปมาไม่ได้
-
13:58 - 14:01หรือ ทำไมไม่ใช้แผ่นหนามเตยแทนเชือกผูกรองเท้า
-
14:02 - 14:04คำถามบางครั้งก็หลักแหลมมาก
-
14:05 - 14:08ลูกมาหาผมในวันหนึ่ง แล้วผมขอให้เขา
-
14:08 - 14:11ไปเปิดดูอีเมล์
-
14:11 - 14:15ลูกมองมาที่ผมอย่างงง ๆ แล้วพูดว่า
-
14:15 - 14:20ทำไมกล่องอีเมล์ไม่เช็คตัวมันเอง
แล้วบอกเราว่ามีอีเมล์ (เสียงหัวเราะ) -
14:20 - 14:24ผมชอบ เป็นคำถามที่ดีและฉลาดมาก
-
14:25 - 14:27ลูก ๆ มีคำถามอื่นอีกมากมาย
-
14:27 - 14:32บางครั้งเราตอบได้
แต่บางครั้งเราก็ไม่มีคำตอบ -
14:32 - 14:38เรามักพูดว่า ลูกเอ๋ย
ธรรมดาของโลกก็เป็นอย่างนี้แหละ -
14:38 - 14:41แน่ละ ยิ่งเรามองเห็นของบางอย่างเป็นประจำ
-
14:41 - 14:43เรายิ่งเคยชินกับมัน
-
14:43 - 14:45แต่เด็กยังไม่เคยเห็นมากพอ
-
14:45 - 14:47หรือเคยชินกับของเหล่านี้
-
14:47 - 14:49และเมื่อเด็กพบเจอกับปัญหา
-
14:49 - 14:51เด็กจะรีบเร่งแก้ไขปัญหาทันที
-
14:51 - 14:54บางครั้งก็พบหนทางที่ดีกว่า
-
14:54 - 14:56หนทางที่ดีกว่ามาก
-
14:56 - 15:02ดังนั้น คำแนะนำที่ผมถือว่าสำคัญมาก
คือการมีคนหนุ่มสาวร่วมทีม -
15:02 - 15:04หรืออย่างน้อยก็มีคนที่มีจิตใจหนุ่มสาว
-
15:04 - 15:07เพราะถ้าคุณมีคนจิตใจหนุ่มสาว
-
15:07 - 15:10จะทำให้ทุกคนในห้องคิดแบบคนหนุ่มสาว
-
15:10 - 15:14ปิกัสโซ่เคยพูดว่า เด็กทุกคนเป็นศิลปิน
-
15:15 - 15:20แต่ปัญหาคือเมื่อพวกเขาโตขึ้น
ทำอย่างไรจึงรักษาความเป็นศิลปินนี้ไว้ได้ -
15:22 - 15:26เราทุกคนมองโลกอย่างละเอียดละออ
เมื่อเราพบเห็นมันครั้งแรก -
15:26 - 15:28ก่อนที่ช่วงเวลาแห่งนิสัยจะเข้ามาแทนที่
-
15:29 - 15:31เรื่องท้าทายของเราคือ การกลับไปจุดเดิม
-
15:31 - 15:34ให้รู้สึกหงุดหงิดใจ
-
15:34 - 15:36ให้เห็นรายละเอียดปลีกย่อย
-
15:36 - 15:38ให้มองอย่างกว้าง ๆ
-
15:38 - 15:39ให้มองอย่างใกล้ชิด
-
15:39 - 15:41แล้วคิดแบบคนหนุ่มสาว
-
15:42 - 15:44จะทำให้เราเป็นพวกมือใหม่หัดขับ
-
15:44 - 15:45ไม่ใช่ง่าย
-
15:45 - 15:47เพราะเราต้องย้อนกลับไป
-
15:47 - 15:50สงสัยกับเรื่องธรรมดาสามัญที่สุด
เรื่องที่เราเคยชินกับมันมาก่อน -
15:52 - 15:53แต่ถ้าเราทำได้
-
15:53 - 15:55เราจะสร้างสิ่งที่สวยงามมหัศจรรย์ได้
-
15:55 - 15:58สำหรับผม ผมหวังว่านั่นจะเป็น
การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งขึ้น -
15:59 - 16:04สำหรับพวกคุณ อาจจะเป็นสิ่งอื่น ๆ
ที่มีอิทธิพลกับคุณ -
16:06 - 16:09เรื่องท้าทายของเราคือ
การตื่นขึ้นมาแล้วพูดว่า -
16:09 - 16:12ฉันจะเรียนรู้โลกให้ดีขึ้นได้อย่างไร
-
16:12 - 16:17และถ้าเราทำได้ บางที แค่บางที
-
16:17 - 16:21เราอาจขจัดสติกเกอร์งี่เง่าแผ่นเล็กนี้ได้
-
16:22 - 16:24ขอบคุณมากครับ
-
16:24 - 16:26(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ความลับข้อแรกของการออกแบบคือ ... การสังเกต
- Speaker:
- โทนี่ ฟาเดลล์ (Tony Fadell)
- Description:
-
คนเราคุ้นเคยกับเรื่องที่ธรรมดามากได้อย่างรวดเร็ว แต่สำหรับนักออกแบบ เรื่องที่ธรรมดามากกลับสร้างโอกาสในการคิด ว่าจะทำให้สิ่งนี้ให้ดีขึ้นได้หรือไม่ และจะทำอย่างไรในปาฐกถาที่สนุกสนานฟังง่ายนี้ ผู้ที่ทำงานเบื้องหลัง iPod และเครื่องวัดอุณหภูมิ Nest ได้แบ่งปันเคล็ดลับส่วนตัวในการสังเกตและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 16:41
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The first secret of design is ... noticing | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The first secret of design is ... noticing | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for The first secret of design is ... noticing | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The first secret of design is ... noticing | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The first secret of design is ... noticing | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The first secret of design is ... noticing | ||
Sakunphat Jirawuthitanant accepted Thai subtitles for The first secret of design is ... noticing | ||
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for The first secret of design is ... noticing |