1 00:00:01,136 --> 00:00:04,389 ในภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ยุคปี 1980 เรื่อง พี่น้องตระกูลบลูส์ 2 00:00:04,389 --> 00:00:09,183 มีฉากตอนหนึ่งที่ จอห์น เบลูชิ ไปหา แดน อายครอยด์ที่ห้องพัก 3 00:00:09,183 --> 00:00:11,506 ในเมืองชิคาโกเป็นครั้งแรก 4 00:00:12,106 --> 00:00:14,637 ห้องทั้งแคบทั้งเล็กมาก 5 00:00:14,637 --> 00:00:17,168 อยู่ห่างจากรางรถไฟเพียง 3 ฟุตเท่านั้น 6 00:00:18,628 --> 00:00:20,466 ขณะที่จอห์นนั่งบนเตียงแดน 7 00:00:20,466 --> 00:00:22,929 รถไฟก็แล่นผ่านไป 8 00:00:22,929 --> 00:00:25,153 ส่งเสียงดังกึกก้องไปทั้งห้อง 9 00:00:25,153 --> 00:00:28,982 จอห์นถาม รถไฟวิ่งผ่านบ่อยไหม 10 00:00:28,982 --> 00:00:33,542 แดนตอบ บ่อยมากจนเราไม่ทันสังเกต 11 00:00:33,542 --> 00:00:36,448 และแล้ว มีบางอย่างหล่นจากฝาพนัง 12 00:00:37,248 --> 00:00:39,042 เราต่างรู้ดีว่าเขากำลังพูดเรื่องอะไร 13 00:00:39,042 --> 00:00:41,883 ด้วยความเป็นมนุษย์ เราจะเคยชินกับเรื่องที่เจอทุกวัน 14 00:00:41,883 --> 00:00:43,080 เคยชินอย่างรวดเร็วด้วย 15 00:00:43,600 --> 00:00:46,984 ผม ในฐานะผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ ต้องสำรวจสิ่งของที่มักจะพบเจอทุกวันพวกนั้น 16 00:00:46,984 --> 00:00:50,521 รู้สึกถึงมันและพยายามทำให้มันดีขึ้น 17 00:00:51,365 --> 00:00:54,861 เช่น ผลไม้ลูกนี้ 18 00:00:56,211 --> 00:00:57,811 เห็นสติกเกอร์อันเล็กนี้หรือไม่ 19 00:00:59,211 --> 00:01:01,666 ตอนผมยังเด็ก ยังไม่มีการติดสติกเกอร์ 20 00:01:02,776 --> 00:01:04,694 หลายปีผ่านมา ณ ที่ใดที่หนึ่ง 21 00:01:04,694 --> 00:01:07,575 ใครบางคนก็มีแนวคิดเยี่ยมมาก โดยการเริ่มติดสติกเกอร์ลงบนผลไม้ 22 00:01:07,575 --> 00:01:08,292 ทำไมละ 23 00:01:08,292 --> 00:01:09,821 มันง่ายมากสำหรับพวกเรา 24 00:01:09,821 --> 00:01:11,558 ตอนเดินไปจ่ายเงินในร้านของชำ 25 00:01:11,558 --> 00:01:12,651 ใช่เลยมันเยี่ยมยอดมาก 26 00:01:12,651 --> 00:01:14,706 เราเดินเข้าออกจากร้านได้อย่างรวดเร็ว 27 00:01:14,706 --> 00:01:16,784 แต่ตอนนี้ มีปัญหาใหม่ 28 00:01:17,414 --> 00:01:19,443 ตอนเรากลับบ้านและกำลังหิว 29 00:01:19,443 --> 00:01:22,874 เราเห็นผลไม้สุกงอมหวานฉ่ำบนเคาน์เตอร์ 30 00:01:22,874 --> 00:01:25,719 หยิบขึ้นมาและจะกัดกิน 31 00:01:25,719 --> 00:01:29,455 แต่ช้าก่อน เราต้องมองหา สติกเกอร์ชิ้นเล็ก ๆ นี้ก่อน 32 00:01:30,587 --> 00:01:34,961 แล้วใช้เล็บแกะมันแต่ทำให้มีรอยที่เปลือก 33 00:01:34,962 --> 00:01:36,601 ต้องค่อย ๆ แซะสติกเกอร์ -- 34 00:01:36,601 --> 00:01:37,636 เข้าใจตรงกันนะ 35 00:01:37,636 --> 00:01:39,775 แล้วสะบัดมันออกจากนิ้ว 36 00:01:39,775 --> 00:01:43,136 (เสียงตบมือ) 37 00:01:44,276 --> 00:01:45,776 ไม่สนุกเลย 38 00:01:45,776 --> 00:01:46,797 อย่างมากด้วย 39 00:01:47,777 --> 00:01:49,682 แต่เรื่องที่น่าสนใจได้เกิดขึ้นแล้ว 40 00:01:49,992 --> 00:01:53,073 ครั้งแรกที่แกะมัน จะรู้สึกว่ามีปัญหากับมัน 41 00:01:53,075 --> 00:01:55,280 คุณต้องการกัดกินผลไม้ 42 00:01:55,280 --> 00:01:56,287 แต่รู้สึกไม่พอใจ 43 00:01:56,287 --> 00:01:58,021 ต้องแกะมันออกมา 44 00:01:58,541 --> 00:02:00,165 แต่พอทำได้สิบครั้ง 45 00:02:00,165 --> 00:02:02,641 ความไม่พอใจก็เริ่มลดลง 46 00:02:02,641 --> 00:02:06,071 เพราะเริ่มดึงสลากออกได้คล่องแล้ว 47 00:02:06,071 --> 00:02:08,480 แต่กับผม ต้องถึงหนึ่งร้อยครั้ง 48 00:02:08,480 --> 00:02:09,612 ผมเริ่มชินชา 49 00:02:10,212 --> 00:02:13,103 ผมหยิบผลไม้ขึ้นมา 50 00:02:13,103 --> 00:02:17,215 ใช้เล็บจิกแล้วดึงสติกเกอร์ขึ้นมา 51 00:02:17,215 --> 00:02:18,771 แล้วอะไรอีกละ 52 00:02:18,771 --> 00:02:22,270 มีสติกเกอร์อีกอันหรือเปล่า 53 00:02:23,680 --> 00:02:24,974 ทำไมเป็นเช่นนี้ 54 00:02:24,974 --> 00:02:27,126 ทำไมเราเคยชินกับเรื่องประจำวัน 55 00:02:27,126 --> 00:02:30,274 สมองคนเราทุกคนมีข้อจำกัด 56 00:02:30,274 --> 00:02:35,043 สมองคนเราจะจำเรื่องที่ทำเป็นประจำ ให้กลายเป็นนิสัย 57 00:02:35,043 --> 00:02:38,620 ทำให้สมองว่างเพื่อเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ 58 00:02:38,620 --> 00:02:40,662 มันคือกระบวนการที่เรียกว่า ความคุ้นเคย 59 00:02:40,662 --> 00:02:44,266 ซึ่งเป็นสิ่งธรรมดาที่สุดอย่างหนึ่งของคนเรา นั่นคือการเรียนรู้ 60 00:02:45,596 --> 00:02:47,765 จริงแล้ว ความคุ้นเคยไม่ใช่เรื่องไม่ดี 61 00:02:48,975 --> 00:02:50,611 จำตอนหัดขับรถได้ไหม 62 00:02:51,101 --> 00:02:52,279 ผมจำได้แน่นอน 63 00:02:52,939 --> 00:02:56,227 มือจับพวงมาลัยสองมือตรง ๆ 64 00:02:56,227 --> 00:02:58,445 ตามองตรงไปข้างหน้า 65 00:02:58,445 --> 00:03:01,695 รถยนต์ ไฟจราจร คนเดินบนถนน 66 00:03:01,695 --> 00:03:04,006 ประสาทเสียมากในตอนนั้น 67 00:03:04,936 --> 00:03:08,520 ผมเป็นเอามาก ไม่ยอมพูดกับใครในรถ 68 00:03:08,520 --> 00:03:10,450 และไม่ยอมฟังดนตรีในรถด้วย 69 00:03:10,840 --> 00:03:12,949 แล้วเรื่องมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น 70 00:03:12,949 --> 00:03:17,119 หลายสัปดาห์ผ่านไป เรื่องขับรถกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น 71 00:03:18,339 --> 00:03:19,647 เพราะคุ้นเคยกับมัน 72 00:03:20,647 --> 00:03:22,914 กลายเป็นเรื่องสนุกและธรรมดา 73 00:03:23,324 --> 00:03:25,531 สุดท้ายเราจะพูดคุยกับเพื่อนในรถได้ 74 00:03:25,531 --> 00:03:26,490 ฟังเพลงไปด้วยได้ 75 00:03:26,490 --> 00:03:29,189 เพราะเรื่องที่ดีคือสมองคุ้นเคยเรื่องต่าง ๆ 76 00:03:29,189 --> 00:03:32,552 แต่ถ้าเราไม่คุ้นเคย คือเราต้องสังเกตรายละเอียดทุกอย่าง 77 00:03:32,552 --> 00:03:34,167 ในทุกครั้ง 78 00:03:34,717 --> 00:03:36,295 ก็จะเป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก 79 00:03:36,295 --> 00:03:38,687 และจะไม่มีเวลาเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ 80 00:03:40,317 --> 00:03:43,457 แต่บางครั้งความคุ้นเคยก็ไม่ดี 81 00:03:44,477 --> 00:03:47,812 ถ้ามันทำให้เราให้เลิกสังเกต เรื่องปัญหารอบตัวเรา 82 00:03:47,812 --> 00:03:48,843 ไม่ดีเลย 83 00:03:49,413 --> 00:03:52,816 ถ้ามันทำให้เราเลิกสังเกต เราจะหยุดรับรู้ปัญหาต่าง ๆ 84 00:03:52,816 --> 00:03:54,933 ไม่ดีอย่างยิ่ง 85 00:03:55,923 --> 00:03:57,906 นักแสดงตลกรู้ดีในเรื่องแบบนี้ 86 00:03:57,906 --> 00:04:02,791 อาชีพทั้งหมดของเจอรี่ เซนเฟลด์ มีอยู่ได้ เพราะการสังเกตเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ 87 00:04:02,791 --> 00:04:06,769 เรื่องงี่เง่าที่เราทำทุกวัน แต่เรามักจำไม่ได้ 88 00:04:08,238 --> 00:04:10,615 เขาเล่าว่าทุกครั้งก่อนที่จะออกไปหาเพื่อน 89 00:04:10,615 --> 00:04:13,001 ถ้าต้องการจะอาบน้ำอุ่น 90 00:04:13,001 --> 00:04:16,898 เขาจะเอื้อมมือออกไปจับที่เปิด แล้วผลักออกไปจนสุดอีกข้างหนึ่ง 91 00:04:16,900 --> 00:04:19,483 มันจะร้อนมากที่ 100 องศา 92 00:04:19,483 --> 00:04:23,415 แล้วถ้าผลักไปอีกทางหนึ่ง มันจะเย็นมากที่ 100 องศาเช่นกัน 93 00:04:23,415 --> 00:04:25,778 เขาเพียงต้องการอาบน้ำที่อุณหภูมิกำลังดี 94 00:04:25,778 --> 00:04:27,941 เราทุกคนเคยทำมามาหมด 95 00:04:27,941 --> 00:04:29,726 แต่เราจำเรื่องนี้ไม่ได้ 96 00:04:29,726 --> 00:04:31,048 แต่ขณะที่เจอรี่จำได้ 97 00:04:31,048 --> 00:04:33,062 นั้นคืออาชีพของนักแสดงตลก 98 00:04:33,062 --> 00:04:36,182 แต่นักออกแบบ นักประดิษฐ์ และผู้ประกอบการ 99 00:04:36,182 --> 00:04:38,589 งานของเราไม่ใช่แค่การสังเกตสิ่งต่าง ๆ 100 00:04:38,589 --> 00:04:41,525 แต่คือการก้าวไปอีกขั้นและพยายามแก้ปัญหา 101 00:04:43,276 --> 00:04:44,842 ดูนี่ คนนี้ 102 00:04:44,842 --> 00:04:46,311 เธอคือ แมรี่ แอนเดอร์สัน 103 00:04:46,581 --> 00:04:48,778 ในปี 1902 ที่นิวยอร์ค 104 00:04:48,778 --> 00:04:50,606 เธอกำลังนั่งรอในรถยนต์ 105 00:04:51,016 --> 00:04:55,834 เป็นวันที่ทั้งหนาว เฉอะแฉะ และหิมะตก แต่เธอกลับอบอุ่นอยู่ในรถยนต์ 106 00:04:57,226 --> 00:05:02,323 ขณะที่เธอกำลังเดินทาง เธอสังเกตว่า คนขับรถมักจะเปิดหน้าต่างรถ 107 00:05:02,323 --> 00:05:07,128 เพื่อปัดหิมะบนกระจกออกไป จะได้ขับต่อไปอย่างปลอดภัย 108 00:05:08,258 --> 00:05:11,834 เมื่อเปิดหน้าต่าง อากาศที่ทั้งเย็นและชื้นก็พัดเข้ามา 109 00:05:11,834 --> 00:05:13,779 ทำให้คนโดยสารนั่งไม่ติด 110 00:05:15,189 --> 00:05:18,122 แน่นอนว่าคนโดยสารส่วนใหญ่ จะคิดเหมือนกันว่า 111 00:05:18,122 --> 00:05:21,373 ช่วยไม่ได้ ที่คนขับจะต้องเปิดหน้าต่างเพื่อเช็ด 112 00:05:21,373 --> 00:05:22,766 เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องทำ 113 00:05:23,176 --> 00:05:24,711 แต่ไม่ใช่กับแมรี่ 114 00:05:24,711 --> 00:05:26,010 แม่รีกลับคิดว่า 115 00:05:26,010 --> 00:05:29,844 ทำไมคนขับรถไม่ทำความสะอาด กระจกหน้ารถจากข้างในล่ะ 116 00:05:29,844 --> 00:05:33,122 มันจะปลอดภัยในตอนขับด้วย 117 00:05:33,122 --> 00:05:36,063 คนนั่งในรถก็ไม่หนาวด้วย 118 00:05:36,603 --> 00:05:39,355 แล้วเธอก็หยิบสมุดวาดเขียนขึ้นมา 119 00:05:39,355 --> 00:05:43,716 เริ่มขีดเขียน จนเกิดเป็น ใบปัดน้ำฝนชิ้นแรกของโลก 120 00:05:44,924 --> 00:05:49,194 ผม นักออกแบบสินค้าก็พยายาม ทำตัวแบบแมรี่ ที่เรียนรู้จากผู้คน 121 00:05:49,198 --> 00:05:51,963 พยายามมองโลกอย่างที่เป็น 122 00:05:51,973 --> 00:05:54,047 ไม่ใช่อย่างที่พวกเราคิด 123 00:05:54,587 --> 00:05:55,534 ทำไม 124 00:05:55,534 --> 00:05:58,881 เพราะมันง่ายมากที่จะแก้ไขปัญหา ที่แทบจะทุกคนเห็นกันอยู่แล้ว 125 00:05:59,894 --> 00:06:03,674 แต่มันยากที่จะแก้ไขปัญหา ที่เกือบทุกคนมองไม่เห็น 126 00:06:04,441 --> 00:06:07,169 บางคนอาจจะคิดว่าเขาเกิดมา พร้อมกับความสามารถนี้ 127 00:06:07,169 --> 00:06:08,750 หรืออาจจะไม่ใช่ 128 00:06:08,750 --> 00:06:13,693 ดังเช่นที่แมรี่ แอนเดอร์สัน มีอยู่ในสมอง ตั้งแต่เกิด ในการมองโลกให้ชัดเจนขึ้น 129 00:06:14,883 --> 00:06:16,813 แต่นั่นไม่ได้หมายรวมถึงผม 130 00:06:16,813 --> 00:06:18,456 ผมได้พยายามทำสิ่งเหล่านี้ 131 00:06:19,766 --> 00:06:22,395 หลายปีที่ผมทำงานที่แอปเปิ้ล 132 00:06:22,395 --> 00:06:27,142 สตีฟ จ๊อปศ์ ท้าทายพวกเรา ในเรื่องการทำงานทุก ๆ วัน 133 00:06:27,142 --> 00:06:31,056 ให้มองผลิตภัณฑ์ด้วยสายตาลูกค้า 134 00:06:31,056 --> 00:06:32,503 ลูกค้ารายใหม่ 135 00:06:32,503 --> 00:06:35,689 คนที่ขี้กลัวและว้าวุ่นใจ 136 00:06:35,689 --> 00:06:38,830 แต่จะดีใจมากเมื่อพบว่า สินค้าเทคโนโลยีสมัยใหม่ 137 00:06:38,830 --> 00:06:40,851 สามารถใช้งานได้ในทันใด 138 00:06:41,471 --> 00:06:43,705 สตีฟเรียกว่าพวกมือใหม่ถาวร 139 00:06:43,705 --> 00:06:47,687 และต้องการให้พวกเราสนใจมุ่งเน้น ไปที่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ 140 00:06:47,687 --> 00:06:51,845 ทำให้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น ไม่สะดุด สำหรับพวกมือใหม่ 141 00:06:52,558 --> 00:06:56,805 เรื่องนี้ทำให้ผมจำได้แม่นเลย ตอนที่ไอพอดออกขายเป็นครั้งแรก 142 00:06:57,028 --> 00:06:58,698 ลองคิดย้อนกลับไปตอนปี 90 143 00:06:58,698 --> 00:07:01,127 คนบ้าอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เหมือนผม 144 00:07:03,107 --> 00:07:08,002 ผมรีบเข้าไปในร้านเพื่อหาอุปกรณ์เสริม ชิ้นที่ใหม่ที่สุด 145 00:07:09,291 --> 00:07:11,353 ผมใช้เวลาได้ทั้งวันในร้าน 146 00:07:11,353 --> 00:07:14,964 หลังจ่ายเงินแล้วกลับบ้าน เริ่มแกะกล่องออกมา 147 00:07:14,964 --> 00:07:18,890 ก็จะเจอสติกเกอร์อันเล็ก ๆ 148 00:07:18,890 --> 00:07:22,005 ปิดไว้ว่า ชาร์จไฟก่อนใช้ 149 00:07:22,005 --> 00:07:23,553 อะไรกัน ! 150 00:07:23,553 --> 00:07:24,558 ผมไม่อยากจะเชื่อ ! 151 00:07:24,558 --> 00:07:26,734 ผมใช้เวลาทั้งวันในการเลือกซื้อสินค้า 152 00:07:26,734 --> 00:07:28,768 แต่ตอนนี้กลับต้องชาร์จไฟก่อนใช้ 153 00:07:28,768 --> 00:07:33,158 ผมต้องรอและรู้สึกต้องรอชั่วชีวิต เหมือนเด็กอยากได้ของเล่นชิ้นใหม่ 154 00:07:33,158 --> 00:07:34,850 มันบ้ามาก 155 00:07:34,850 --> 00:07:35,755 แต่คุณรู้อะไรไหม 156 00:07:35,755 --> 00:07:37,838 สินค้าทุกอย่างในตอนนั้นต่างเป็นแบบนี้ 157 00:07:37,838 --> 00:07:39,613 ถ้ามีแบตเตอรี่อยู่ข้างใน 158 00:07:39,613 --> 00:07:41,890 คุณต้องชาร์จไฟก่อน 159 00:07:42,690 --> 00:07:45,136 แน่นอน สตีฟสังเกตเห็นเรื่องนี้ 160 00:07:45,136 --> 00:07:45,967 และเขาพูดว่า 161 00:07:45,967 --> 00:07:48,565 สินค้าเราจะไมเป็นแบบนั้นอย่างเด็ดขาด 162 00:07:48,565 --> 00:07:50,413 แล้วพวกเราจะทำอย่างไร 163 00:07:50,413 --> 00:07:53,499 โดยทั่วไปสินค้าที่มีฮาร์ดดิสอยู่ข้างใน 164 00:07:53,499 --> 00:07:56,162 โรงงานแค่ทดสอบเครื่องเพียง 30 นาที 165 00:07:56,162 --> 00:07:59,311 เพื่อให้แน่ใจว่าฮาร์ดดิสทำงานได้อีกหลายปี 166 00:07:59,311 --> 00:08:02,385 หลังจากลูกค้าหยิบมัน ออกมาจากกล่อง 167 00:08:02,385 --> 00:08:05,451 แล้วพวกเราทำอะไรบ้าง 168 00:08:05,451 --> 00:08:07,541 เราทดสอบสินค้านานกว่า 2 ชั่วโมง 169 00:08:07,541 --> 00:08:09,129 ทำไม 170 00:08:09,129 --> 00:08:12,254 อย่างแรกสุด เราทำให้สินค้ามีคุณภาพสูงกว่า 171 00:08:12,254 --> 00:08:14,404 ทดสอบได้ง่าย 172 00:08:14,404 --> 00:08:17,346 และสร้างความมั่นใจว่าสินค้านี้ จะยอดเยี่ยมสำหรับลูกค้า 173 00:08:17,906 --> 00:08:19,159 แต่เรื่องที่สำคัญที่สุด 174 00:08:19,159 --> 00:08:22,178 แบตเตอรี่ถูกชาร์จไฟเต็มแล้วก่อนแกะกล่อง 175 00:08:22,178 --> 00:08:23,124 พร้อมใช้เลย 176 00:08:23,124 --> 00:08:26,956 ซึ่งลูกค้าจะพอใจมาก 177 00:08:26,956 --> 00:08:28,684 ที่ใช้สินค้าได้เลย 178 00:08:28,684 --> 00:08:31,074 แนวทางนี้ยอดเยี่ยมมาก มันได้ผล 179 00:08:31,074 --> 00:08:32,338 ลูกค้าชอบแบบนี้ 180 00:08:32,338 --> 00:08:35,445 ทุกวันนี้ สินค้าเกือบทุกอย่าง ที่ต้องใช้แบตเตอรี่ 181 00:08:35,445 --> 00:08:37,508 จะถูกชาร์จเต็มมาแล้ว 182 00:08:37,508 --> 00:08:39,561 แม้แต่สินค้าที่ไม่มีฮาร์ดไดรว์ 183 00:08:40,131 --> 00:08:44,905 มองย้อนกลับไป เราสังเกต เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วเราแก้ปัญหาได้ 184 00:08:44,905 --> 00:08:47,253 แล้วทุกวันนี้ทุกคนก็ทำแบบเดียวกัน 185 00:08:47,253 --> 00:08:49,894 ไม่มีอีกแล้วที่จะต้องชาร์จไฟก่อนใช้ 186 00:08:50,644 --> 00:08:52,701 ทำไมผมถึงเล่าเรื่องนี้ให้พวกคุณฟัง 187 00:08:52,701 --> 00:08:54,809 เพราะมันคือปัญหาที่ผู้คนมองไม่เห็น 188 00:08:54,809 --> 00:08:59,320 ไมใช่ปัญหาที่เห็นชัดเจนแล้ว และนี่คือจุดสำคัญ 189 00:08:59,320 --> 00:09:02,160 ไม่ใช่แค่การออกแบบสินค้า แต่เป็นทุกอย่างที่เราทำ 190 00:09:02,682 --> 00:09:06,206 คุณรู้ มีปัญหาที่มองไม่เห็นอยู่รอบตัวเรา 191 00:09:06,206 --> 00:09:08,462 เรื่องที่เราแก้ปัญหาได้ 192 00:09:08,462 --> 00:09:12,286 อันดับแรกเราต้องเห็น และรับรู้ถึงพวกมัน 193 00:09:12,996 --> 00:09:14,964 ผมลังเลใจที่จะบอกเคล็ดลับเล็กน้อย 194 00:09:14,964 --> 00:09:17,695 เกี่ยวกับความคุ้นเคยหรือจิตวิทยา 195 00:09:17,695 --> 00:09:20,689 ในชุมชน TED มีคนมีประสบการณ์มากมาย 196 00:09:20,689 --> 00:09:24,083 ที่รู้อะไรมากกว่าผมเสียอีก 197 00:09:24,083 --> 00:09:26,710 แต่ผมจะบอกเคล็ดลับเล็กน้อยที่ผมใช้อยู่ 198 00:09:26,710 --> 00:09:30,383 เรื่องที่เราสามารถทำได้ ในการต่อสู้กับความคุ้นเคย 199 00:09:30,383 --> 00:09:33,777 เคล็ดลับอย่างแรกคือ จงมองภาพรวม 200 00:09:33,777 --> 00:09:35,889 คุณรู้ดี เมื่อคุณเจอปัญหา 201 00:09:35,889 --> 00:09:39,281 บางครั้งมีหลายอย่างมากที่นำไปสู่ปัญหา 202 00:09:39,281 --> 00:09:42,351 และบางครั้งมีหลายอย่างตามมาสร้างปัญหาอีก 203 00:09:42,351 --> 00:09:45,700 ถ้าคุณมองย้อนกลับไปแล้วมองอย่างกว้าง ๆ 204 00:09:45,700 --> 00:09:47,971 บางทีคุณอาจเปลี่ยนปัญหาในกล่องนั้นได้ 205 00:09:47,971 --> 00:09:48,977 ก่อนจะเกิดปัญหา 206 00:09:48,977 --> 00:09:50,337 บางทีควรรวบเข้าด้วยกัน 207 00:09:50,337 --> 00:09:53,672 บางทีแยกออกจากกันแล้วทำให้มันดีขึ้น 208 00:09:54,258 --> 00:09:56,249 ตัวอย่างเช่น ตัวควบคุมอุณหภูมิ 209 00:09:56,249 --> 00:09:59,627 ซึ่งออกขายครั้งแรกในยุคปี 1900 มันใช้งานได้ง่ายมาก 210 00:09:59,627 --> 00:10:01,579 ปรับเพียงแค่ให้ร้อนขึ้นหรือเย็นลง 211 00:10:01,579 --> 00:10:03,279 ทุกคนใช้งานได้ 212 00:10:04,019 --> 00:10:05,772 แต่ในยุค 1970 213 00:10:05,772 --> 00:10:07,846 วิกฤตพลังงานส่งผลกระทบอย่างรุนแรง 214 00:10:07,846 --> 00:10:11,416 ลูกค้าพากันให้ความสนใจการประหยัดพลังงาน 215 00:10:11,416 --> 00:10:12,703 แล้วอะไรเกิดขึ้น 216 00:10:12,703 --> 00:10:15,731 นักออกแบบควบคุมอุณหภูมิ เพิ่มคุณสมบัติใหม่เข้าไป 217 00:10:15,731 --> 00:10:17,581 แทนที่จะปรับแค่อุณหภูมืขึ้นลง 218 00:10:17,581 --> 00:10:19,572 แต่คุณต้องตั้งค่าต่าง ๆ ให้กับเครื่อง 219 00:10:19,572 --> 00:10:22,790 เพื่อให้กำหนดอุณหภูมิได้ในเวลาที่ต้องการ 220 00:10:22,790 --> 00:10:24,586 ดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่เยี่ยมมาก 221 00:10:24,586 --> 00:10:28,064 ตัวควบคุมอุณภูมิทุกตัว พากันเพิ่มคุณสมบัตินี้เข้าไปด้วย 222 00:10:28,064 --> 00:10:32,340 ผลลัพท์กลับกลายเป็นว่าทุกคน ไม่ช่วยประหยัดพลังงานเลย 223 00:10:32,340 --> 00:10:33,853 ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ 224 00:10:33,853 --> 00:10:36,588 แน่นอน คนเราไม่สามารถทำนายอนาคตได้ 225 00:10:36,588 --> 00:10:40,136 ไม่มีใครรู้ว่าแต่ละสัปดาห์ ฤดูกาลเปลี่ยนฤดูกาลแล้วฤดูกาลเล่า 226 00:10:40,136 --> 00:10:41,634 ปีแล้วปีเล่า 227 00:10:42,414 --> 00:10:44,745 จึงไม่มีใครที่ช่วยประหยัดพลังงานเลย 228 00:10:44,745 --> 00:10:45,727 แล้วอะไรเกิดขึ้น 229 00:10:45,727 --> 00:10:48,350 นักออกแบบตัวควบคุมอุณหภูมิ หันกลับไปมองการออกแบบสินค้า 230 00:10:48,350 --> 00:10:50,392 แล้วเน้นไปที่เรื่องการตั้งค่าโปรแกรม 231 00:10:50,942 --> 00:10:53,409 พัฒนาส่วนสื่อสารกับผู้ใช้งานให้ดีขึ้น 232 00:10:53,409 --> 00:10:55,575 พัฒนาเอกสารข้อมูลให้ดีขึ้น 233 00:10:55,575 --> 00:11:00,305 แต่กระนั้น หลายปีต่อมา ผู้คนก็ยังไม่ช่วยกันประหยัดพลังงาน 234 00:11:00,305 --> 00:11:02,901 เพราะไม่มีใครทำนายอนาคตได้ 235 00:11:03,431 --> 00:11:04,909 แล้วเราได้ทำอะไรไปบ้าง 236 00:11:04,909 --> 00:11:08,978 เราทำให้เครื่องจักรเรียนรู้ได้เอง แทนที่กำหนดโปรแกรมให้ทั้งดุ้น 237 00:11:08,978 --> 00:11:11,676 ซึ่งสามารถติดตามดูเรา เมื่อเราปรับอุณหภูมิขึ้นลง 238 00:11:11,676 --> 00:11:14,270 เมื่อคุณชอบให้มีอุณหภูมิพอดีเป๊ะ ยามตื่นนอน 239 00:11:14,270 --> 00:11:15,977 หรือยามไม่อยู่บ้าน 240 00:11:15,977 --> 00:11:17,245 แล้วคุณรู้อะไรอีกบ้าง 241 00:11:17,245 --> 00:11:18,172 มันได้ผล 242 00:11:18,422 --> 00:11:21,639 ทุกคนช่วยประหยัดพลังงานได้ โดยไม่ต้องกำหนดโปรแกรม 243 00:11:23,239 --> 00:11:25,246 ดังนั้น ไม่สำคัญว่ากำลังทำอะไร 244 00:11:25,246 --> 00:11:28,512 ถ้าย้อนกลับไปมองประเด็น ปัญหาทั้งหมดในกล่อง 245 00:11:28,512 --> 00:11:31,533 อาจมีทางที่ดึงออกมาเรื่องหนึ่ง หรือรวมเรื่องเข้าด้วยกัน 246 00:11:31,533 --> 00:11:34,047 ด้วยวิธีการนี้ ทำให้กระบวนการง่ายขึ้นมาก 247 00:11:35,007 --> 00:11:38,084 นี่คือเคล็ดลับแรกสุดของผม มองอย่างกว้าง ๆ 248 00:11:38,084 --> 00:11:42,065 เคล็ดลับที่สอง มองให้ใกล้ ๆ 249 00:11:42,065 --> 00:11:45,096 ปู่ผมคือหนึ่งในครูที่ยิ่งใหญ่ 250 00:11:47,006 --> 00:11:48,907 ท่านสอนผมเรื่องต่าง ๆ ในโลก 251 00:11:49,557 --> 00:11:53,049 สอนผมว่าสร้างอย่างไรและซ่อมอย่างไร 252 00:11:53,049 --> 00:11:56,771 เครื่องมือและเทคนิคที่จำเป็น เพื่อทำงานให้สำเร็จ 253 00:11:57,671 --> 00:12:02,008 ผมจำเรื่องหนึ่งได้ ท่านบอกผม เกี่ยวกับสกรูประเภทต่าง ๆ 254 00:12:02,048 --> 00:12:05,678 ต้องใช้สกรูแบบไหนให้ถูกกับงาน 255 00:12:05,678 --> 00:12:07,617 เพราะมีสกรูหลายแบบมาก 256 00:12:07,617 --> 00:12:12,487 สกรูงานไม้ งานเหล็ก งานแขวน งานคอนกรีต 257 00:12:12,487 --> 00:12:14,232 แบบแล้วแบบเล่า 258 00:12:15,212 --> 00:12:18,485 งานของพวกเราคือสร้างสินค้าที่ใช้งานง่าย 259 00:12:18,485 --> 00:12:22,219 แบบที่ลูกค้าจะทำได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งมืออาชีพ 260 00:12:22,789 --> 00:12:24,210 แล้วพวกเราจะทำอย่างไร 261 00:12:24,720 --> 00:12:27,655 ผมยังจำเรื่องที่ปู่ผมเล่าได้ 262 00:12:27,655 --> 00:12:28,928 เราคิดกันว่า 263 00:12:28,928 --> 00:12:31,428 ะต้องใช้สกรูกี่ตัวกับไอพอดตัวนี้ 264 00:12:31,428 --> 00:12:34,278 2, 3, 4, 5 ตัวหรือไม่ 265 00:12:34,278 --> 00:12:36,574 เพราะมีรูปทรงกับด้านที่แตกต่างกัน 266 00:12:36,574 --> 00:12:39,304 เราคิด และเราทำให้มันได้ผลดีที่สุด 267 00:12:39,304 --> 00:12:43,395 เราไปจบที่การใช้สกรูสามแบบ 268 00:12:43,845 --> 00:12:46,122 เราคิดว่าแก้ปัญหานี้ได้แล้ว 269 00:12:46,122 --> 00:12:48,817 แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น 270 00:12:49,527 --> 00:12:51,158 และถ้าเราส่งมอบสินค้า 271 00:12:51,158 --> 00:12:53,548 ผู้คนจะไม่รู้สึกว่า ได้รับประสบการณ์ที่ดี 272 00:12:54,128 --> 00:12:55,336 แล้วเราทำอย่างไรอีก 273 00:12:55,336 --> 00:12:57,081 เรากลับไปทบทวนบนกระดานร่างแบบ 274 00:12:57,081 --> 00:13:00,545 และเราก็แก้ปัญหาได้ทันที เมื่อค้นพบว่าเราแก้ปัญหาผิดจุด 275 00:13:00,545 --> 00:13:04,269 เราจึงออกแบบสกรูพิเศษ สกรูของลูกค้า 276 00:13:04,269 --> 00:13:06,440 ทำให้นักลงทุนผิดหวังมากเรื่องนี้ 277 00:13:06,440 --> 00:13:09,862 พวกเขาคิดว่า ทำใมเสียเวลาไปมากมาย กับสกรูตัวเล็ก ๆ เพียงตัวเดียว 278 00:13:09,862 --> 00:13:11,861 อย่าไปทำมัน ไปขายให้มากขึ้น 279 00:13:11,861 --> 00:13:15,184 เราตอบกลับไปว่าเราจะขายได้มาก ถ้าเราทำเรื่องนี้ได้ถูกต้อง 280 00:13:15,904 --> 00:13:17,594 แล้วก็สำเร็จ เราทำได้ 281 00:13:17,594 --> 00:13:20,888 สกรูตัวเล็กของลูกค้า ซึ่งใช้เพียงตัวเดียวในเครื่อง 282 00:13:20,888 --> 00:13:23,995 ง่ายต่อการเชื่อมต่อและการแขวนบนกำแพง 283 00:13:25,525 --> 00:13:31,625 ถ้าเราใส่ใจกับรายละเอียด เล็กน้อยที่เรามักมองไม่เห็น 284 00:13:32,404 --> 00:13:34,228 เราเห็นมันแล้วพูดว่า 285 00:13:34,228 --> 00:13:35,636 มันสำคัญ 286 00:13:35,636 --> 00:13:38,436 หรือเรามักจะสร้างมันแบบนั้น 287 00:13:38,436 --> 00:13:41,320 มีวิธีใดบ้างที่จะลดทอนชิ้นส่วนลง 288 00:13:42,220 --> 00:13:46,839 เคล็ดลับสุดท้ายของผม ให้คิดแบบคนหนุ่มสาว 289 00:13:48,389 --> 00:13:52,545 ทุกวันผมมักพบกับปัญหา ที่น่าสนใจจากลูกสามคนที่บ้าน 290 00:13:52,545 --> 00:13:54,316 ลูก ๆ มักมาพร้อมกับคำถาม เช่น 291 00:13:54,316 --> 00:13:57,224 ทำไมรถยนต์จึงบินวนไปมาไม่ได้ 292 00:13:57,644 --> 00:14:01,420 หรือ ทำไมไม่ใช้แผ่นหนามเตยแทนเชือกผูกรองเท้า 293 00:14:02,490 --> 00:14:04,389 คำถามบางครั้งก็หลักแหลมมาก 294 00:14:05,409 --> 00:14:07,947 ลูกมาหาผมในวันหนึ่ง แล้วผมขอให้เขา 295 00:14:07,947 --> 00:14:11,123 ไปเปิดดูอีเมล์ 296 00:14:11,123 --> 00:14:14,891 ลูกมองมาที่ผมอย่างงง ๆ แล้วพูดว่า 297 00:14:15,311 --> 00:14:20,225 ทำไมกล่องอีเมล์ไม่เช็คตัวมันเอง แล้วบอกเราว่ามีอีเมล์ (เสียงหัวเราะ) 298 00:14:20,225 --> 00:14:23,878 ผมชอบ เป็นคำถามที่ดีและฉลาดมาก 299 00:14:24,878 --> 00:14:27,492 ลูก ๆ มีคำถามอื่นอีกมากมาย 300 00:14:27,492 --> 00:14:32,210 บางครั้งเราตอบได้ แต่บางครั้งเราก็ไม่มีคำตอบ 301 00:14:32,210 --> 00:14:38,017 เรามักพูดว่า ลูกเอ๋ย ธรรมดาของโลกก็เป็นอย่างนี้แหละ 302 00:14:38,017 --> 00:14:40,567 แน่ละ ยิ่งเรามองเห็นของบางอย่างเป็นประจำ 303 00:14:40,567 --> 00:14:42,764 เรายิ่งเคยชินกับมัน 304 00:14:42,764 --> 00:14:44,894 แต่เด็กยังไม่เคยเห็นมากพอ 305 00:14:44,894 --> 00:14:46,794 หรือเคยชินกับของเหล่านี้ 306 00:14:46,794 --> 00:14:48,611 และเมื่อเด็กพบเจอกับปัญหา 307 00:14:48,611 --> 00:14:50,834 เด็กจะรีบเร่งแก้ไขปัญหาทันที 308 00:14:50,834 --> 00:14:53,576 บางครั้งก็พบหนทางที่ดีกว่า 309 00:14:53,576 --> 00:14:56,280 หนทางที่ดีกว่ามาก 310 00:14:56,280 --> 00:15:02,119 ดังนั้น คำแนะนำที่ผมถือว่าสำคัญมาก คือการมีคนหนุ่มสาวร่วมทีม 311 00:15:02,119 --> 00:15:04,225 หรืออย่างน้อยก็มีคนที่มีจิตใจหนุ่มสาว 312 00:15:04,225 --> 00:15:06,576 เพราะถ้าคุณมีคนจิตใจหนุ่มสาว 313 00:15:06,576 --> 00:15:09,736 จะทำให้ทุกคนในห้องคิดแบบคนหนุ่มสาว 314 00:15:09,736 --> 00:15:14,100 ปิกัสโซ่เคยพูดว่า เด็กทุกคนเป็นศิลปิน 315 00:15:15,090 --> 00:15:20,406 แต่ปัญหาคือเมื่อพวกเขาโตขึ้น ทำอย่างไรจึงรักษาความเป็นศิลปินนี้ไว้ได้ 316 00:15:21,785 --> 00:15:25,734 เราทุกคนมองโลกอย่างละเอียดละออ เมื่อเราพบเห็นมันครั้งแรก 317 00:15:25,734 --> 00:15:28,308 ก่อนที่ช่วงเวลาแห่งนิสัยจะเข้ามาแทนที่ 318 00:15:28,998 --> 00:15:31,341 เรื่องท้าทายของเราคือ การกลับไปจุดเดิม 319 00:15:31,341 --> 00:15:33,586 ให้รู้สึกหงุดหงิดใจ 320 00:15:33,586 --> 00:15:35,926 ให้เห็นรายละเอียดปลีกย่อย 321 00:15:35,926 --> 00:15:37,666 ให้มองอย่างกว้าง ๆ 322 00:15:37,666 --> 00:15:39,422 ให้มองอย่างใกล้ชิด 323 00:15:39,422 --> 00:15:41,092 แล้วคิดแบบคนหนุ่มสาว 324 00:15:41,792 --> 00:15:43,710 จะทำให้เราเป็นพวกมือใหม่หัดขับ 325 00:15:44,150 --> 00:15:45,373 ไม่ใช่ง่าย 326 00:15:45,373 --> 00:15:46,908 เพราะเราต้องย้อนกลับไป 327 00:15:46,908 --> 00:15:50,109 สงสัยกับเรื่องธรรมดาสามัญที่สุด เรื่องที่เราเคยชินกับมันมาก่อน 328 00:15:51,689 --> 00:15:52,732 แต่ถ้าเราทำได้ 329 00:15:52,732 --> 00:15:55,243 เราจะสร้างสิ่งที่สวยงามมหัศจรรย์ได้ 330 00:15:55,243 --> 00:15:57,890 สำหรับผม ผมหวังว่านั่นจะเป็น การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งขึ้น 331 00:15:58,940 --> 00:16:03,517 สำหรับพวกคุณ อาจจะเป็นสิ่งอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลกับคุณ 332 00:16:06,105 --> 00:16:09,169 เรื่องท้าทายของเราคือ การตื่นขึ้นมาแล้วพูดว่า 333 00:16:09,169 --> 00:16:12,344 ฉันจะเรียนรู้โลกให้ดีขึ้นได้อย่างไร 334 00:16:12,344 --> 00:16:17,193 และถ้าเราทำได้ บางที แค่บางที 335 00:16:17,193 --> 00:16:21,388 เราอาจขจัดสติกเกอร์งี่เง่าแผ่นเล็กนี้ได้ 336 00:16:22,248 --> 00:16:23,797 ขอบคุณมากครับ 337 00:16:23,797 --> 00:16:26,274 (เสียงปรบมือ)