Return to Video

เส้นทางสายไหม: ประวัติศาสตร์ ของเครือข่าย "world wide web" - แชนนอน แฮริส คาสเตลโล (Shannon Harris Castelo)

  • 0:07 - 0:09
    พนักงานธนาคารส่งข้อมูลหุ้นล่าสุด
    จากลอนดอน
  • 0:09 - 0:12
    ไปให้เพื่อนร่วมงานที่อยู่ฮ่องกง
    ได้ในชั่วพริบตา
  • 0:12 - 0:15
    ด้วยการกดเพียงคลิกเดียว ลูกค้าที่นิวยอร์ก
  • 0:15 - 0:17
    ก็สั่งซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
    ที่ทำในปักกิ่ง
  • 0:17 - 0:19
    ให้ส่งข้ามมหาสมุทรมาได้ภายในเวลาไม่กี่วัน
  • 0:19 - 0:22
    ทางเครื่องบินหรือเรือขนส่งสินค้า
  • 0:22 - 0:24
    ความเร็วและปริมาณของสิ่งของและข้อมูล
  • 0:24 - 0:27
    ที่เดินทางไปมารอบโลกในปัจจุบันนี้
    เป็นเรื่องใหม่ในประวัติศาสตร์
  • 0:27 - 0:31
    แต่การแลกเปลี่ยนสิ่งของรอบโลก
    อาจเก่าแก่กว่าที่เราคิด
  • 0:31 - 0:34
    ย้อนกลับไปเมื่อ 2,000 ปีก่อน
    บนระยะทางกว่า 5,000 ไมล๋
  • 0:34 - 0:37
    ที่เราเรียกกันว่า เส้นทางสายไหม
  • 0:37 - 0:39
    ที่จริง เส้นทางสายไหม
    ไม่ใช่ถนนเพียงเส้นเดียว
  • 0:39 - 0:41
    แต่เป็นเครือข่ายของเส้นทางหลายเส้น
  • 0:41 - 0:43
    ที่ค่อยๆ ถูกพัฒนาขึ้นผ่านเวลาหลายศตวรรษ
  • 0:43 - 0:46
    เพื่อเชื่อมต่อชุมชนต่างๆเข้าด้วยกัน
  • 0:46 - 0:47
    ทีละเส้น ที่ละกลุ่ม
  • 0:47 - 0:51
    การตั้งถิ่นฐานเชิงเกษตร
    อยู่โดดเดี่ยวห่างจากกัน
  • 0:51 - 0:53
    ตามลุ่มแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์
  • 0:53 - 0:55
    การเดินทางระหว่างชุมชนเหล่านี้
    ยากลำบากเพราะภูมิประเทศโดยรอบ
  • 0:55 - 0:57
    และความหวาดกลัวต่อเส้นทางไม่รู้จัก
  • 0:57 - 0:58
    แต่พอชุมชนเหล่านี้ขยายตัว
  • 0:58 - 1:01
    พวกเขาพบทะเลทรายเวิ้งว้าง นอกเขต
    ชุมชนของพวกเขา
  • 1:01 - 1:03
    ไม่ได้มีปีศาจอยู่
    อย่างที่ตำนานพื้นบ้านบอกไว้
  • 1:03 - 1:05
    แต่มีกลุ่มคนพเนจรที่ใช้ชีวิตบนหลังม้า
  • 1:05 - 1:08
    ชาวซิเทียน ซึ่งเดินทางร่อนเร่บริเวณ
    ฮังการีจนถึงมองโกเลีย
  • 1:08 - 1:10
    เคยเดินทางผ่านแหล่งอารยธรรมต่างๆ เช่น
  • 1:10 - 1:13
    กรีก อียิปต์ อินเดีย และจีน
  • 1:13 - 1:16
    การพบปะกันเหล่านี้ไม่ได้เป็นไปโดยสันติ
  • 1:16 - 1:18
    เพราะมักเป็นรูปแบบของการบุกรุก และสงคราม
  • 1:18 - 1:21
    หรืออาจเป็นการค้าขาย และการป้องกันให้
    พ่อค้าที่เดินทางมาค้าขาย
  • 1:21 - 1:22
    โดยจ่ายค่าคุ้มครอง
  • 1:22 - 1:26
    กลุ่มคนพเนจรนี้ เริ่มเผยแพร่สินค้า แนวคิด
    และเทคโนโลยีใหม่ๆ
  • 1:26 - 1:29
    ระหว่างวัฒนธรรมต่างๆ โดยทางอ้อม
  • 1:29 - 1:32
    ส่วนที่สำคัญที่สุดของเส้นทางนี้
  • 1:32 - 1:33
    คือถนนของชาวเปอร์เซีย
  • 1:33 - 1:37
    ซึ่งสร้างเสร็จในสมัยพระเจ้าดาริอุสที่ 1
    ในศตวรรษที่ 5 ก่อนสากลศักราช
  • 1:37 - 1:41
    ถนนเส้นนี้ยาว 2,000 ไมล์ จากลุ่มแม่น้ำ
    ไทกริส ถึงทะเลอีเจียน
  • 1:41 - 1:44
    ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่สินค้า
    และข่าวสารต่างๆ มาพักอยู่
  • 1:44 - 1:48
    ย่นเวลาจากการเดินทางโดยคนๆ เดียวลงไป
    ถึง 1/10
  • 1:48 - 1:51
    เมื่อพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช
    มีชัยเหนือเปอร์เซีย
  • 1:51 - 1:55
    และแผ่ขยายอำนาจเข้าไปในเอเชียกลาง
    ด้วยการยึดเมือง ซามัคคาน
  • 1:55 - 1:58
    และสร้างเมืองใหม่ อย่างเมืองอเล็กซานเดียร
    และเมือนเอสชาติ
  • 1:58 - 2:02
    ทำให้เครือข่ายวัฒนธรรมและการค้าระหว่าง
    กรีก อียิปต์ เปอร์เซีย และอินเดีย
  • 2:02 - 2:04
    แผ่ขยายออกไปทางทิศตะวันออก
    มากกว่าที่เคยเป็นมา
  • 2:04 - 2:08
    ซึ่งเป็นการวางรากฐานเพื่อเชื่อมต่อ
    อารยธรรมจีนกับฝั่งตะวันตก
  • 2:08 - 2:11
    ซึ่งเกิดขึ้น ในช่วงศตวรรษที่สอง
    ก่อนสากลศักราช
  • 2:11 - 2:13
    เมื่อทูตจีน จางเอี้ยวน
  • 2:13 - 2:16
    ถูกส่งไปเจรจา กับชนเรร่อนทางตะวันตก
  • 2:16 - 2:18
    และกลับมารายงานต่อจักรพรรดิฮั่น
  • 2:18 - 2:21
    ถึงดินแดนที่เจริญ มีการค้าที่มั่งคั่ง
  • 2:21 - 2:24
    และมีสินค้าที่แปลกน่าสนใจกว่าสินค้า
    ตามชายแดนฝั่งตะวันตก
  • 2:24 - 2:26
    ทูต และพ่อค้าอีกหลายคนจึงถูกส่ง
  • 2:26 - 2:30
    ไปยังเปอร์เซียและอินเดีย เพื่อนำผ้าไหม
    และหยก ไปแลกม้าและฝ้าย
  • 2:30 - 2:33
    โดยมีกองทัพคุ้มกันไปตลอดการเดินทาง
  • 2:33 - 2:35
    เส้นทางตะวันออกและตะวันตก
    จึงค่อยๆ เชื่อมเข้าหากัน
  • 2:35 - 2:38
    จนกลายเป็นเครือข่ายเส้นทาง
    ระหว่างยุโรปและเอเชีย
  • 2:38 - 2:40
    เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการค้าขาย
  • 2:40 - 2:43
    มากกว่าที่เคยมีมา
  • 2:43 - 2:45
    สิ่งของจากจีน เดินทางไปถึงกรุงโรม
  • 2:45 - 2:48
    ทำให้เกิดภาวะทองเฟ้อ
    และมีการห้ามการใช้ผ้าไหม
  • 2:48 - 2:51
    ในขณะที่แก้วจากโรมัน
    ก็มีมูลค่าสูงมากในเมืองจีน
  • 2:51 - 2:54
    การเดินทางของกองทหารในเอเชียกลาง
  • 2:54 - 2:57
    ทำให้เกิดการพบปะกันระหว่างทหารชาวจีน
    และทหารโรมัน
  • 2:57 - 3:00
    ซึ่งอาจเป็นต้นทางการถ่ายทอด
    การประดิษฐ์หน้าไม้
  • 3:00 - 3:02
    ให้กับชาวตะวันตก
  • 3:02 - 3:04
    ความต้องการสินค้าที่แปลกๆ จากต่างแดน
  • 3:04 - 3:05
    และกำไรที่พวกพ่อค้าได้ประโยชน์
  • 3:05 - 3:08
    ทำให้เส้นทางสายไหมคงอยู่
  • 3:08 - 3:10
    ถึงแม้ว่าอาณาจักรโรมันจะล่มสลาย
  • 3:10 - 3:13
    และราชวงศ์ต่างๆในจีนจะผลัดเปลี่ยนไป
  • 3:13 - 3:16
    แม้แต่ชาวมองโกล
    ที่เป็นที่รู้จักในเรื่องการปล้นสดมภ์
  • 3:16 - 3:20
    ก็ยังร่วมกันปกป้องเส้นทางการค้านี้
  • 3:20 - 3:23
    เพราะนอกจากทำให้เกิดการค้าขายแล้ว
    เส้นทางเหล่านี้
  • 3:23 - 3:27
    ยังทำให้มีการถ่ายทอด วัฒนธรรม
    ประดิษฐกรรม แนวคิด และ ภาษา
  • 3:27 - 3:31
    ศาสนาพุทธ ที่มีต้นกำเนิดในอินเดีย
    เดินทางมายังจีนและ ญี่ปุ่น
  • 3:31 - 3:33
    และกลายมาเป็นศาสนาหลักในดินแดนนั้น
  • 3:33 - 3:36
    ศาสนาอิสลาม มาจากคาบสมุทรอาราเบียน
    ถึงเอเชียใต้
  • 3:36 - 3:38
    ผสมผสานเข้ากับความเชื่อพื้นเมือง
  • 3:38 - 3:41
    ทำให้เกิดศาสนาใหม่ เช่น ศาสนาซิกข์
  • 3:41 - 3:43
    ดินปืน เดินทางไปถึง จีน และตะวันออกกลาง
  • 3:43 - 3:48
    กลายเป็นรากฐานของจักรวรรดิออตโตมัน
    อาซาฟาวิด และ โมกุล
  • 3:48 - 3:51
    แต่ในที่สุด ความรุ่งเรืองของเส้นทางสายไหม
    ก็มาถึงจุดจบ
  • 3:51 - 3:54
    เทคโนโลยีการเดินเรือสมัยใหม่
    และการใช้เข็มทิศแม่เหล็ก
  • 3:54 - 3:58
    ทำให้ผู้คนเจอทางไปยังยุโรปได้ทางเรือ
    และทำให้เส้นทางบกไม่จำเป็นอีกต่อไป
  • 3:58 - 4:01
    ในขณะเดียวกัน การล่มสลายของมองโกล
  • 4:01 - 4:04
    และการยกเลิกการค้ากับต่างชาติของจีน
    ทำให้เส้นทางนี้ซบเซาลง
  • 4:04 - 4:07
    แต่ถึงแม้ว่าเส้นทางเหล่านี้จะไม่คงอยู่แล้ว
  • 4:07 - 4:09
    แต่เส้นทางสายไหมก็เปลี่ยนโลก
  • 4:09 - 4:11
    ให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
  • 4:11 - 4:13
    ชาวยุโรปพบเส้นทางเดินเรือใหม่ๆ
  • 4:13 - 4:16
    เพื่อแสวงหาความร่ำรวยที่ทางเอเชียตะวันออก
  • 4:16 - 4:17
    การเดินเรือนำไปสู่ยุคแห่งการสำรวจ
  • 4:17 - 4:20
    และการขยายตัวไปแอฟริกา และอเมริกา
  • 4:20 - 4:24
    เชื่อมโยงที่ต่างๆ บนโลกทุกวันนี้
    แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก
  • 4:24 - 4:28
    คนแคนาดาอาจซื้อเสื้อยืดที่ทำในบังกลาเทศ
  • 4:28 - 4:30
    ผู้ชมชาวญี่ปุ่น อาจรับชมรายการ
    โทรทัศน์ของอังกฤษ
  • 4:30 - 4:34
    ชาวตูนีเซีย ใช้ซอฟท์แวร์ของอเมริกา
    ในการตั้งต้นการปฏิวัติ
  • 4:34 - 4:39
    ผลกระทบของสังคมโลกาภิวัฒน์ ต่อวัฒนธรรม
    และเศรษฐกิจ นั้นเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้
  • 4:39 - 4:41
    แต่ไม่ว่าผลดีหรือผลเสียจะเป็นอย่างไร
  • 4:41 - 4:43
    ปรากฏการณ์นี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่พึ่งจะเกิดขึ้น
  • 4:43 - 4:46
    แม้ว่าครั้งหนึ่งเทือกเขา ทะเลทราย
    หรือมหาสมุทร
  • 4:46 - 4:47
    ที่เคยขวางกั้น
  • 4:47 - 4:49
    จะถูกย่นย่อลง
    ด้วยยานพาหนะความเร็วเหนือเสียง
  • 4:49 - 4:52
    เคเบิ้ลใยแก้วสำหรับติดต่อข้ามทวีป
  • 4:52 - 4:54
    และการส่งสัญญานผ่านห้วงอากาศ
  • 4:54 - 4:56
    แทนที่การเดินทางในกองคาราวานแรมเดือน
  • 4:56 - 4:58
    แต่ทั้งหมดนี้คงจะเกิดขึ้นไม่ได้
  • 4:58 - 4:59
    ถ้าไม่มีวัฒนธรรมตั้งต้น
  • 4:59 - 5:02
    ที่ได้ใช้ความพยายาม
    ในการสร้างเส้นทางสายไหม
  • 5:02 - 5:04
    เครือข่ายเส้นทางแรกในประวัติศาสตร์
Title:
เส้นทางสายไหม: ประวัติศาสตร์ ของเครือข่าย "world wide web" - แชนนอน แฮริส คาสเตลโล (Shannon Harris Castelo)
Description:

ชมบทเรียนฉบับสมบูรณ์ได้ที่: http://ed.ted.com/lessons/the-silk-road-history-s-first-world-wide-web-shannon-harris-castelo

โลกของเราแคบลงเพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้เราแลกเปลี่ยนแนวคิด และสินค้าต่างๆได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส แต่เมื่อ 2,000 ปีก่อนล่ะ? แชนนอน แฮริส คาสเตลโล (Shannon Harris Castelo) บอกเล่าถึงประวัติของเส้นทางสายไหม ที่มีระยะทางกว่า 5,000 ไมล์ ประกอบด้วยเครือข่ายของเส้นทางมากมายที่ประกอบกันขึ้นจากการใช้ภาษาการค้าที่เชื่อมโยงแหล่งอารยธรรมใหญ่ๆ ของโลกเข้าด้วยกัน

บทเรียนโดย Shannon Harris Castelo, แอนิเมชันโดย Steff Lee.

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TED-Ed
Duration:
05:20

Thai subtitles

Revisions