Return to Video

อีวาน โอแรนสกี้: เราเข้ารับการรักษามากเกินไปหรือไม่

  • 0:00 - 0:04
    ท่านทั้งหลายที่ได้ชมภาพยนต์เรื่องมันนี่บอลล์ (Moneyball)
  • 0:04 - 0:06
    หรือได้อ่านหนังสือของ ไมเคิล หลุยส์ (Michael Lewis)
  • 0:06 - 0:09
    จะคุ้นเคยกับเรื่องราวของบิลลี่ บีน (Billy Beane)
  • 0:09 - 0:14
    บิลลี่ถูกทึกทักว่าเป็นนักเบสบอลที่ยิ่งใหญ่
    พวกแมวมองบอกเขาอย่างนั้น
  • 0:14 - 0:15
    พวกแมวมองบอกพ่อแม่เขาว่า
  • 0:15 - 0:17
    แมวมองทำนายว่า เขาจะได้เป็นดาวเบสบอล
  • 0:17 - 0:22
    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงเมื่อเขาเซ็นสัญญา อ้อ อีกเรื่องหนึ่ง
  • 0:22 - 0:25
    เขาไม่ต้องการจะเซ็นสัญญา
    แต่ต้องการไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย
  • 0:25 - 0:27
    ซึ่งเรื่องนี้แม่ของผม ซึ่งรักผมจริงๆ
  • 0:27 - 0:30
    บอกว่าผมควรจะทำแบบนั้นเหมือนกัน และผมก็ทำตาม
  • 0:30 - 0:33
    เอาละ ทีนี้เขาก็เรียนไม่ดี พยายามดิ้นรนอย่างมาก
  • 0:33 - 0:38
    เขาถูกแลกเปลี่ยนทีมสองสามครั้ง
    แต่ลงท้ายเขาก็ได้แค่เป็นผู้เล่นทีมระดับสอง
    ในอาชีพเบสบอลของเขา
  • 0:38 - 0:42
    และจริงๆแล้วเขาจบลงในตำแหน่งผู้บริหาร
    ลงท้ายเขาได้เป็นผู้จัดการทั่วไป
  • 0:42 - 0:42
    ทีมเบสบอล โอคแลนด์ (Oakland Athletics)
  • 0:42 - 0:47
    ทีนี้ พวกคุณหลายคนในห้องนี้ ลงท้ายก็ได้ตำแหน่งผู้บริหาร
    ซึ่งก็เป็นสิ่งเดียวกับที่ผมได้
  • 0:47 - 0:49
    ซึ่งถูกมองว่าเป็นความสำเร็จ
  • 0:49 - 0:52
    ผมสามารถให้คุณแน่ใจได้ว่า
    สำหรับเด็กที่ต้องการสร้างตัวเองให้ยิ่งใหญ่แล้ว
  • 0:52 - 0:56
    การเป็นผู้จัดการไม่ได้เป็นเรื่องของความสำเร็จ
    มันเป็นความล้มเหลว
  • 0:56 - 1:01
    และสิ่งที่ผมต้องการจะพูดกับคุณในวันนี้
    และบอกกล่าวกับคุณ ก็คือจะบอกว่า
  • 1:01 - 1:05
    ระบบการสาธารณสุข หรือระบบการรักษาพยาบาลของเรานั้น
    ก็แย่ในเรื่องการทำนายว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต
    เช่นเดียวกัน
  • 1:05 - 1:10
    จะเกิดอะไรขึ้นกับคนในระบบนั้น ซึ่งได้แก่ คนไข้ และอื่นๆ
  • 1:10 - 1:14
    ก็เหมือนๆกับที่พวกแมวมองทำนายว่า
    จะเกิดอะไรขึ้นกับ บิลลี่ บีน
  • 1:14 - 1:17
    แต่ ในทุกๆวัน
  • 1:17 - 1:19
    ผู้คนหลายๆพันคนในประเทศนี้
  • 1:19 - 1:23
    ถูกวินิจฉัยว่ามีสภาวะก่อนเป็นโรค (precondition)
  • 1:23 - 1:27
    เราได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับสภาวะ
    ก่อนเป็นความดัน (pre-hypertension)
    ก่อนเป็นโรคสมองเสื่อม (pre-dementia)
  • 1:27 - 1:32
    เราได้ยินได้ฟังเรื่องสภาวะก่อนเป็น
    โรควิตกกังวล (pre-anxiety)และผมก็แน่ใจมากๆว่า
    ผมวินิจฉัยตัวเองได้ว่าเป็น
  • 1:32 - 1:34
    สภาวะเหมือนอยู่ในห้องพักก่อนการแสดง (the green room)
  • 1:34 - 1:38
    เรายังโยงไปถึง สภาวะที่ยัง
    ไม่แสดงอาการ (subclinical condition)
  • 1:38 - 1:43
    มีสภาวะที่ยังไม่แสดงอาการ ของโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว
  • 1:43 - 1:46
    อย่างชัดเจนเชื่อมโยงกับโรคหัวใจวาย
    มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น
  • 1:46 - 1:50
    เรื่องที่ผมชอบเรื่องหนึ่งคือ
    สภาวะที่ยังไม่แสดงอาการของสิว (subclinical acne)
  • 1:50 - 1:54
    ถ้าคุณค้นหา สภาวะที่ยังไม่แสดงอาการของสิว
    คุณจะพบเว็บไซต์หนึ่ง
  • 1:54 - 1:58
    ที่บอกว่า เป็นสิวชนิดหนึ่งที่รักษาได้ง่ายที่สุด
  • 1:58 - 2:04
    คุณยังไม่มีตุ่มหนอง หรือสีแดงและอักเสบ
  • 2:04 - 2:08
    อาจจะเป็นเพราะว่า จริงๆแล้วคุณไม่ได้มีสิว
  • 2:08 - 2:14
    ผมมีชื่อหนึ่งสำหรับทุกๆสภาวะเหล่านี้
    มันเป็นสภาวะก่อนเป็นโรคอีกอย่างหนึ่ง
  • 2:14 - 2:16
    ผมเรียกมันว่า ความไร้สาระที่สุด (preposterous)
  • 2:16 - 2:22
    ในเรื่องของเบสบอล เกมที่เล่นหลังจากเกมแข่งจริง
  • 2:22 - 2:25
    ฤดูกาลแข่งขันก็เล่นก่อนฤดูกาลแข่งจริง
  • 2:25 - 2:29
    แต่พร้อมกับสภาวะมากมายเหล่านี้
    ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร
    หรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่ได้เป็น
  • 2:29 - 2:34
    ประเด็นสำคัญตลอดเวลา
    มันเหมือนกับว่ามีความล่าช้าที่เกิดจากฝนในทุกๆครั้ง
    ในหลายๆสถานการณ์
  • 2:34 - 2:36
    เรามีแผลที่มีสภาวะก่อนเป็นมะเร็ง
  • 2:36 - 2:39
    ซึ่งบ่อยครั้งไม่ได้กลายมาเป็นมะเร็ง
  • 2:39 - 2:41
    แต่
  • 2:41 - 2:45
    ตัวอย่างเช่นถ้าคุณพิจารณาเรื่องสภาวะที่ไม่ได้แสดงอาการของโรคกระดูกพรุน(subclinical osteoporosis)
    คือโรคที่กระดูกบางลงเรื่อยๆ
  • 2:45 - 2:47
    ซึ่งเป็นสภาวะก่อนเป็นโรค
  • 2:47 - 2:49
    ที่รู้จักกันว่า โรคกระดูกพรุน
  • 2:49 - 2:53
    คุณคงจะต้องให้การรักษากับผู้หญิง 270 คน
    ในเวลานานสามปี
  • 2:53 - 2:55
    เพื่อป้องกันกระดูกหักหนึ่งท่อน
  • 2:55 - 2:56
    ซึ่งนั่นเป็นผู้หญิงจำนวนมากเหลือเกิน
  • 2:56 - 2:59
    เมื่อคุณเอาไปคูณกับจำนวนผู้หญิงที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็น
  • 2:59 - 3:01
    โรคกระดูกพรุน
  • 3:01 - 3:03
    ดังนั้น จะประหลาดใจหรือไม่
  • 3:03 - 3:06
    เมื่อต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายและผลข้างเคียง
  • 3:06 - 3:10
    จากยาที่เรากำลังใช้กันอยู่เพื่อรักษา
    สภาวะก่อนเป็นโรคนี้ ว่าทุกๆปี
  • 3:10 - 3:14
    เราจะใช้เงินมากกว่าสองพัน พันล้านดอลลาร์
    ทางด้านสาธารณสุข แต่ยังอีก
  • 3:14 - 3:17
    คน 100,000 คนต่อปี
    การกะประมาณที่ใกล้ความเป็นจริงกำลังจะตาย
  • 3:17 - 3:19
    ไม่ใช่เพราะว่าสภาวะของโรคที่เขาเป็น
  • 3:19 - 3:23
    แต่เป็นเพราะการรักษาที่เรากำลังให้กับเขา
    และอาการแทรกซ้อนจากการรักษา
  • 3:23 - 3:26
    เราได้ให้การรักษากับทุกสิ่งทุกอย่าง
  • 3:26 - 3:27
    ในประเทศนี้
  • 3:27 - 3:30
    ผู้ชมที่เป็นคุณผู้หญิง ผมมี
  • 3:30 - 3:32
    ข่าวร้ายมากที่คุณก็รู้กันดีอยู่แล้ว
  • 3:32 - 3:35
    และข่าวนั้นก็คือ ลักษณะของชีวิตคุณ
  • 3:35 - 3:36
    ได้ถูกทำให้ต้องได้รับการรักษทางอายุรศาสตร์
  • 3:36 - 3:39
    การจู่โจมที่หนึ่ง เมื่อคุณเริ่มวัยสาว
  • 3:39 - 3:43
    ตอนนี้คุณมีบางอย่างที่เกิดขึ้นกับคุณเดือนละครั้ง
    ซึ่งต้องเข้ารับการรักษา
  • 3:43 - 3:44
    เป็นสภาวะ
  • 3:44 - 3:46
    ที่ต้องได้รับการรักษา การจู่โจมครั้งที่สอง
  • 3:46 - 3:47
    คือ เมื่อคุณตั้งครรภ์
  • 3:47 - 3:50
    เรื่องนั้นก็ต้องได้รับการรักษาเช่นกัน
  • 3:50 - 3:52
    คุณต้องผ่านวิธีการทางเทคโนโลยี่ชั้นสูง
  • 3:52 - 3:55
    ด้านการตั้งครรภ์ ไม่เช่นนั้นบางอย่างอาจผิดปกติขึ้นได้
  • 3:55 - 3:59
    การจู่โจมที่สาม คือตอนคุณหมดประจำเดือน
  • 3:59 - 4:03
    เราทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้หญิงเป็นล้านๆคน
    ที่ได้รับการรักษาด้วยการให้ฮอร์โมนทดแทน
  • 4:03 - 4:06
    สำหรับอาการหมดประจำเดือน
  • 4:06 - 4:10
    เป็นเวลานานหลายทศวรรษ จนกระทั่งเราได้เรียนรู้
    จากการศึกษาวิจัยที่ออกมา เป็นงานวิจัยใหญ่
  • 4:10 - 4:11
    ที่ได้เงินอุดหนุนจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH)
  • 4:11 - 4:12
    งานวิจัยกล่าวว่า
  • 4:12 - 4:17
    จริงๆแล้ว การรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทนส่วนมาก
    อาจจะทำให้เกิดผลร้ายมากกว่าผลดี
  • 4:17 - 4:19
    ต่อผู้หญิงเหล่านั้นจำนวนมาก
  • 4:19 - 4:21
    เป็นไปได้ที่ว่า
  • 4:21 - 4:23
    ผมไม่ต้องการยกเว้นไม่พูดถึงผู้ชาย
  • 4:23 - 4:24
    เพราะอย่างไรเสียผมก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง
  • 4:24 - 4:27
    ผมมีข่าวร้ายจริงๆสำหรับพวกคุณผู้ชายในห้องนี้
  • 4:27 - 4:28
    และสำหรับทุกๆคน
  • 4:28 - 4:30
    ที่กำลังฟังและชมอยู่ที่ไหนก็ตาม
  • 4:30 - 4:31
    พวกคุณทั้งหมดมี
  • 4:31 - 4:34
    สภาวะที่เป็นอันตรายถึงชีวิตในทุกๆขณะ
  • 4:34 - 4:37
    สักครู่นะครับ
  • 4:37 - 4:38
    เรียกว่าสภาวะก่อนตาย (pre-death)
  • 4:38 - 4:43
    แต่ละคนในพวกคุณมีอาการนี้
    เพราะคุณมีปัจจัยเสี่ยงกับสภาวะนี้
  • 4:43 - 4:45
    ซึ่งก็คือ การยังมีชีวิตอยู่
  • 4:45 - 4:48
    แต่ผมมีข่าวดีสำหรับคุณ เพราะว่า
  • 4:48 - 4:52
    ผมเป็นนักหนังสือพิมพ์ ผมจึงชอบที่จะจบเรื่องแบบมีความสุข
    หรือไม่ก็ในแบบที่ต้องให้คิดต่อ
  • 4:52 - 4:56
    และข่าวดีนั้นก็คือว่า
    คุณจะสามารถมีชีวิตอยู่จนถึงเมื่อผมพูดจบไหม
  • 4:56 - 4:59
    ซึ่งเราจะมาดูกันว่า จะเกิดขึ้นได้หรือไม่กับทุกคน
  • 4:59 - 5:02
    ว่าคุณยังไม่มีผลต่อการเป็นมะเร็ง (pre-vivor)
  • 5:02 - 5:07
    ผมได้สร้างคำว่าสภาวะก่อนตาย ขึ้นมา
  • 5:07 - 5:11
    ต้องขอโทษด้วย ถ้าผมใช้สภาวะก่อนตาย ซึ่งเป็นคำของคนอื่น
  • 5:11 - 5:13
    ผมคิดว่าผมเป็นคนคิดคำนี้ขึ้นมา
  • 5:13 - 5:14
    แต่ผมไม่ได้สร้างคำว่ายังไม่มีผลต่อการเป็นมะเร็ง ขึ้นมา
  • 5:14 - 5:20
    ยังไม่มีผลต่อการเป็นมะเร็งเป็นคำที่กลุ่มผู้สนับสนุนมะเร็ง
    อย่างหนึ่ง อยากให้ทุกคนซึ่ง
  • 5:20 - 5:21
    เพียงแค่มีปัจจัยเสี่ยง
  • 5:21 - 5:23
    แต่ไม่ได้เป็นมะเร็งนั้นจริงๆ
  • 5:23 - 5:25
    ให้เรียกตัวเองว่าอย่างนั้น
  • 5:25 - 5:26
    คุณจึงยังไม่มีผลต่อการเป็นมะเร็ง คนหนึ่ง
  • 5:26 - 5:31
    ที่นี่เมื่อเช้า เราได้ฟังเรื่อง HBO และผมสงสัยว่า
    ถ้ามาร์ค เบอร์เน็ตต์อยู่ที่ใดที่หนึ่งใน
  • 5:31 - 5:32
    กลุ่มผู้ชมนี้ ผมก็อยากจะเสนอแนะ
  • 5:32 - 5:37
    รายการทีวีที่เป็นความจริง(reality tvshoow)
    ชื่อว่า "พีไวเวอร์"
  • 5:37 - 5:40
    ถ้าคุณกำลังเป็นโรค คุณยังไม่มีผลต่อการเป็นมะเร็ง
    ออกจากเกาะนี้ไป
  • 5:40 - 5:45
    แต่ปัญหาก็คือ เรามีระบบหนึ่ง
  • 5:45 - 5:47
    ที่ อย่างสมบูรณ์เต็มที่
  • 5:47 - 5:49
    อย่างเป็นหลักการ ได้ส่งเสริมปัญหานี้
  • 5:49 - 5:52
    เราได้เลือกแล้ว ในทุกๆจุดในระบบนี้
  • 5:52 - 5:56
    ที่จะทำในสิ่งที่เราทำ และที่จะให้ทุกคนมีสภาวะก่อนเป็นโรค
    และแล้วในที่สุด
  • 5:56 - 5:58
    ก็อยู่ในสภาพที่เป็นโรคนั้นจริง ในบางราย
  • 5:58 - 6:02
    เริ่มด้วยความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับคนป่วย แพทย์ส่วนมาก
  • 6:02 - 6:07
    อยู่ในระบบการบริการที่ได้รับค่าตอบแทน
    แต่โดยหลักการแล้วพวกแพทย์ได้รับการส่งเสริม
    ให้ทำมากกว่านั้น
  • 6:07 - 6:09
    ในเรื่อง กระบวนการ เรื่องการสั่งตรวจ
  • 6:09 - 6:11
    การสั่งยา
  • 6:11 - 6:12
    คนป่วยไปหาแพทย์
  • 6:12 - 6:16
    แพทย์ก็ต้องการทำบางอย่าง เราเป็นคนอเมริกัน
    เราอยู่เฉยๆไม่ค่อยได้
  • 6:16 - 6:19
    เราต้องทำอะไรบางอย่าง แล้วพวกคนป่วยก็ต้องการยา
  • 6:19 - 6:23
    พวกเขาต้องการรับการรักษา ต้องการให้แพทย์บอกว่า
    เขาเป็นโรคอะไร และนี่คือวิธี
  • 6:23 - 6:25
    คุณจะรักษาเขาอย่างไร ถ้าแพทย์คนนั้นไม่ได้ให้สิ่งนั้นกับคุณ
  • 6:25 - 6:27
    คุณก็ไปที่อื่น
  • 6:27 - 6:29
    ซึ่งนั่นไม่ดีเลยสำหรับธุรกิจของแพทย์
  • 6:29 - 6:30
    หรือไม่ก็ยิ่งแย่ไปกว่านั้น
  • 6:30 - 6:34
    ถ้าในที่สุดแพทย์วินิจฉัยว่าคุณเป็นโรคอย่างหนึ่ง
    และไม่ได้สั่งตรวจ
  • 6:34 - 6:37
    คุณก็จะถูกฟ้อง
  • 6:37 - 6:40
    เรามีบริษัทยาที่พยายามอยู่ตลอดเวลาที่จะขยาย
  • 6:40 - 6:45
    อาการของโรค
    เพิ่มขยายจำนวนคนที่สมควรจะให้เข้ารับการรักษา
  • 6:45 - 6:48
    เพราะนั่นเห็นได้ชัดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ที่จะเข้ามา
    เรามีกลุ่มสนับสนุน
  • 6:48 - 6:50
    เหมือนกับที่ทำให้โรคไม่มีผลต่อการเป็นมะเร็ง เกิดขึ้น
  • 6:50 - 6:54
    ซึ่งต้องการทำให้คนจำนวนมากๆ รู้สึกว่า เขาอยู่ในความเสี่ยง
    หรือไม่ก็อาจจะมีสภาวะของโรคอยู่
  • 6:54 - 6:56
    เพื่อที่ว่าเขาเหล่านี้สามารถเพิ่มเงินรายใด้
  • 6:56 - 6:59
    และยกระดับการรับรู้ และอื่นๆ
  • 6:59 - 7:01
    แต่เรื่องนี้จริงๆแล้วไม่
  • 7:01 - 7:04
    แม้ว่าเป็นไปในแบบที่พวกนักหนังสือพิมพ์ชอบทำ
    เรื่องนี้จริงๆแล้วไม่ได้เกี่ยวกับการกล่าวโทษ
  • 7:04 - 7:05
    ผู้เล่นหรือผู้เกี่ยวข้องคนใดโดยเฉพาะ
  • 7:05 - 7:07
    เราทุกคนมีส่วนรับผิดชอบ
  • 7:07 - 7:08
    ผมก็รับผิดชอบ
  • 7:08 - 7:12
    จริงๆแล้วผมหนุนทีมแยงกี้ (yankee)ผมหมายถึง พูดถึง
  • 7:12 - 7:15
    การหนุนคนที่เป็นคนที่เลวร้ายที่สุดที่เป็นไปได้
  • 7:15 - 7:17
    เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำทุกอย่างเท่าที่คุณสามารถทำได้
  • 7:17 - 7:19
    ขอบคุณครับ
  • 7:19 - 7:23
    แต่ทุกคนรับผิดชอบ
  • 7:23 - 7:26
    ผมเข้าโรงเรียนแพทย์
  • 7:26 - 7:30
    และไม่ได้เรียนวิชาหนึ่งชื่อว่า
    คิดอย่างสงสัย (Think Skeptically)
  • 7:30 - 7:32
    หรือทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสั่งตรวจ
  • 7:32 - 7:35
    เรามีระบบนี้
  • 7:35 - 7:37
    ที่สิ่งนั้นแหละคือสิ่งที่คุณทำ
  • 7:37 - 7:40
    และจริงๆแล้วมันต้องเป็นนักหนังสือพิมพ์
  • 7:40 - 7:44
    จึงจะเข้าใจสิ่งกระตุ้นพวกนี้ทั้งหมด
    นักเศรษฐศาสตร์ชอบพูดว่า
  • 7:44 - 7:45
    ไม่มีใครเลว
  • 7:45 - 7:47
    มีแต่เพียงการกระตุ้นที่เลว
  • 7:47 - 7:49
    และจริงๆแล้วมันถูก
  • 7:49 - 7:52
    เพราะว่าสิ่งที่เราได้คิดสร้างขึ้นมา
    เป็นคล้ายๆสนามเบสบอลในฝัน
    เมื่อพูดถึงเรื่องเทคโนโลยี่ทางการแพทย์
  • 7:52 - 7:57
    ดังนั้นเมื่อคุณนำเครื่องตรวจเอ็กซ์เรย์ด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
    มาวางไว้ในทุกมุมห้อง คุณได้วางหุ่นยนต์ไว้
  • 7:57 - 8:01
    ในทุกโรงพยาบาล
    บอกให้ทุกคนรู้ว่าต้องผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์
  • 8:01 - 8:05
    เอาละ เราได้สร้างระบบที่ ถ้าคุณสร้างมัน
    พวกเขาก็จะมา
  • 8:05 - 8:08
    แต่คุณก็สามารถพลิกแพลงคำพูด
  • 8:08 - 8:11
    บอกคนให้มาได้ ทำให้พวกเขาเชื่อ
  • 8:11 - 8:13
    ว่าพวกเขาต้องมา
  • 8:13 - 8:17
    เมื่อผมมาเป็นนักหนังสือพิมพ์ ผมจึงได้ผมตระหนักว่า
    ผมเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา
  • 8:17 - 8:19
    และเราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของปัญหานี้ได้อย่างไร
  • 8:19 - 8:23
    ผมได้ให้การรักษาปัจจัยเสี่ยงทุกอย่าง
    ผมเขียนเรื่อง รับค่าจ้างเรื่องที่เขียน
  • 8:23 - 8:27
    ทุกวัน เพยายามขียนเรื่องที่
  • 8:27 - 8:30
    ไม่จำเป็นต้องทำให้คนกังวลถึง
    แม้ว่ามันจะสิ่งที่มักจะเกิดขึ้น
  • 8:30 - 8:33
    แต่ เอาละ มีทางแก้ไข
  • 8:33 - 8:34
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมไปพบอายุรแพทย์ (internist)
    ของผม
  • 8:34 - 8:37
    และเขาบอกผมว่า
  • 8:37 - 8:39
    "คุณทราบไหม" และเขาบอกผมบางอย่างที่
  • 8:39 - 8:42
    ทุกคนในที่ประชุมนี้ก็อาจบอกผมได้ โดยผมไม่ต้องเสียเงิน
  • 8:42 - 8:44
    แต่ผมก็จ่ายค่าบริการไป เรื่องที่เขาบอกผมก็คือ
  • 8:44 - 8:46
    ผมจำเป็นต้องลดนํ้าหนัก
  • 8:46 - 8:51
    แพทย์พูดถูก ผมเป็นความดันโลหิตสูงแบบที่เห็นได้ง่าย
    และชัดเจน
  • 8:51 - 8:52
    เป็นเวลาสิบสองปีแล้ว
  • 8:52 - 8:54
    เป็นเมื่ออายุเท่ากับที่คุณพ่อของผมเป็น
  • 8:54 - 8:58
    มันเป็นโรคจริงๆ มันไม่ใช่อาการก่อนการเป็นโรค
  • 8:58 - 9:00
    มันเป็นโรคความดันจริงๆ ความดันของโลหิตสูง
  • 9:00 - 9:01
    แพทย์เขาพูดถูก
  • 9:01 - 9:04
    แต่เขาไม่ได้บอกผม
  • 9:04 - 9:06
    ว่าผมมีอาการก่อนเป็นโรคอ้วน(pre-obesity)
  • 9:06 - 9:09
    หรือผมมีอาการก่อนเป็นโรคเบาหวาน(pre-diabetes)
    หรือเป็นโรคทำนองนั้น เขาไม่ได้พูดถึง
  • 9:09 - 9:12
    คุณควรเริ่มทานยาสแตติน(Statin)ตัวนี้
    คุณจำเป็นต้องลดคลอเลสเตอรอลของคุณลง
  • 9:12 - 9:15
    แต่ เปล่า เขาพูดว่า "กลับไปลดนํ้าหนัก
    แล้วกลับมาพบผมอีกเร็วๆนี้นะ
  • 9:15 - 9:17
    หรือไม่ก็แค่โทรมาหาผม ให้ผมรู้ว่าคุณเป็นอย่างไรบ้าง"
  • 9:17 - 9:19
    เท่านั้น สำหรับผมแล้ว
  • 9:19 - 9:21
    นำไปสู่ผลที่ดี
  • 9:21 - 9:23
    อ้อ อีกเรื่องหนึ่ง บิลลี่ บีน ก็ได้เรียนรู้สิ่งเดียวกัน
  • 9:23 - 9:25
    เราได้เรียนรู้
  • 9:25 - 9:29
    จากการได้เฝ้าดูเด็กหนุ่มคนนี้ ซึ่งในที่สุดเขาก็ใด้งานทำ
    ซึ่งป็นที่นำความสำเร็จจริงๆมาให้เขา
  • 9:29 - 9:33
    ได้เรียนรู้ว่ามันไม่ใช่การตีลูกให้ไปถึงกำแพง
    มันไม่ใช่การตีลูกทุกๆครั้งที่ลูกบอลล์ถูกโยนมา
  • 9:33 - 9:38
    อย่างเช่นที่พวกนักเบสบอลล์ที่ตีลูกได้แรงๆตี
    แบบที่ทีมแพงๆอย่างทีมแยงกี้ชอบ
  • 9:38 - 9:40
    ชอบไปเลือกหนุ่มๆพวกนั้น
  • 9:40 - 9:44
    เด็กหนุ่มคนนี้บอกเขาว่า คุณต้องเฝ้าดูหนุ่มๆพวกนั้นไว้
    และคุณต้องออกไปหา
  • 9:44 - 9:45
    หนุ่มๆที่ชอบเดิน
  • 9:45 - 9:47
    เพราะว่าการเดินไปที่ฐานตีลูก(base)
  • 9:47 - 9:50
    ก็ดีเท่าๆกัน และในระบบการสาธารณสุข
  • 9:50 - 9:51
    เราจำเป็นต้องคิดให้ออก
  • 9:51 - 9:53
    ว่า นั่นเป็นการโยนลูกเบสบอลที่ดีจริงหรือไม่
  • 9:53 - 9:56
    หรือว่าเราควรจะปล่อยมันไป
    และไม่เหวี่ยงไม้ไปตีทุกครั้งหรือไม่?
  • 9:56 - 9:58
    ขอบคุณครับ
Title:
อีวาน โอแรนสกี้: เราเข้ารับการรักษามากเกินไปหรือไม่
Speaker:
Ivan Oransky
Description:

บรรณาธิการข่าวสุขภาพของสำนักข่าวรอยเตอร์ อีแวน
โอแรนสกี้ เตือนว่า เรากำลังทนทุกข์กับการระบาดของสภาวะก่อนเป็นโรคที่ไร้สาระที่สุด -- สภาวะก่อนเป็นโรคเบาหวาน ก่อนเป็นโรคมะเร็ง และอื่นๆอีกมาก ในการพูดที่ทำให้ผู้ฟังสนใจอย่างมากที่ TEDMED เขาแสดงให้เห็นว่า การสาธารณสุขจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร ... โดยการยกบทเรียนสำคัญที่ได้จากกีฬาเบสบอล

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
10:04
Dimitra Papageorgiou approved Thai subtitles for Are we over-medicalized?
Dimitra Papageorgiou edited Thai subtitles for Are we over-medicalized?
Dimitra Papageorgiou edited Thai subtitles for Are we over-medicalized?
Chana Chananukul accepted Thai subtitles for Are we over-medicalized?
Chana Chananukul edited Thai subtitles for Are we over-medicalized?
Chana Chananukul edited Thai subtitles for Are we over-medicalized?
Chana Chananukul edited Thai subtitles for Are we over-medicalized?
Chana Chananukul edited Thai subtitles for Are we over-medicalized?
Show all

Thai subtitles

Revisions