Return to Video

ผมถูกจับเป็นตัวประกันกว่า 317 วัน และนี่คือสิ่งที่ผมนึกถึง...

  • 0:01 - 0:04
    ผมไม่สามารถที่จะลืมพวกเขาได้
  • 0:04 - 0:08
    พวกเขาชื่อ อาสลาน อาลีค อังเดรย์
  • 0:08 - 0:13
    เฟอร์นันดา เฟร็ด เยลีน่า กูนีลด์
  • 0:13 - 0:18
    ฮานส์ อิงเกบอร์ก แมททิ นาทาเลีย
  • 0:18 - 0:23
    แนนซี่ เชอร์ริล อุสแมน ซารีม่า
  • 0:23 - 0:25
    และยังมีอีกมาก
  • 0:26 - 0:30
    สำหรับหลายคน การมีตัวตน
    และความเป็นมนุษย์ของพวกเขา
  • 0:30 - 0:33
    กลับกลายเป็นแค่ข้อมูล
  • 0:33 - 0:38
    ที่ถูกบันทึกอย่างเลือดเย็นว่า
    อุบัติเหตุด้านความปลอดภัย
  • 0:38 - 0:39
    สำหรับผม พวกเขาคือเพื่อนร่วมงาน
  • 0:39 - 0:43
    ในสังกัดของกลุ่ม
    ผู้ให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม
  • 0:43 - 0:45
    ที่ได้พยายามนำความสุขแม้เพียงเล็กน้อย
  • 0:45 - 0:50
    ไปมอบให้เหยื่อของสงคราม
    ที่เชชเนีย ในช่วงปี 90
  • 0:50 - 0:54
    พวกเขาคือ พยาบาล นักตรรกวิทยา
    ผู้เชี่ยวชาญด้านการลี้ภัย
  • 0:54 - 0:57
    นักกฏหมาย และล่าม
  • 0:57 - 1:01
    และในการไปให้การช่วยเหลือครั้งนี้
    พวกเขาก็ถูกสังหาร
  • 1:01 - 1:04
    ครอบครัวพวกเขาต้องแตกสลาย
  • 1:04 - 1:06
    และเรื่องราวของพวกเขาก็ถูกลืม
  • 1:07 - 1:10
    ไม่เคยมีอาชญากรแม้แต่คนเดียว
    ที่ถูกพิพากษาในอาชญากรรมครั้งนี้
  • 1:11 - 1:13
    ผมไม่สามารถที่จะลืมพวกเขาได้
  • 1:13 - 1:15
    พวกเขายังมีชีวิตอยู่ในตัวผม
  • 1:15 - 1:18
    ความทรงจำพวกเขา
    มอบความหมายให้กับผมทุกวัน
  • 1:18 - 1:23
    แต่พวกเขาก็หลอกหลอนผม
    อยู่ในส่วนที่มืดมนของจิตใจผม
  • 1:23 - 1:25
    ในฐานะผู้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
  • 1:25 - 1:28
    พวกเขาได้เลือกที่จะอยู่
    เคียงข้างผู้ประสบภัย
  • 1:28 - 1:33
    เพื่อให้ความช่วยเหลือ ปลอบใจ
    และให้การคุ้มครอง
  • 1:33 - 1:36
    แต่เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาต้องการการคุ้มครอง
  • 1:36 - 1:37
    พวกเขากับไม่ได้รับอะไรเลย
  • 1:38 - 1:41
    เมื่อคุณเห็นพาดหัวข่าว
    ในหน้าหนังสือพิมพ์ทุกวันนี้
  • 1:41 - 1:44
    เกี่ยวกับสงครามใน อิรัก หรือใน ซีเรีย
  • 1:44 - 1:48
    อาสาสมัครถูกลักพาตัว
    หรือตัวประกันถูกประหาร
  • 1:48 - 1:50
    พวกเขาคือใคร?
  • 1:50 - 1:52
    ทำไมพวกเขาถึงอยู่ที่นั่น?
  • 1:52 - 1:54
    อะไรคือสาเหตุ?
  • 1:54 - 1:58
    ทำไมเราถึงไม่รู้สึกอะไรเลบ
    กับอาชญากรรมเหล่านี้
  • 1:58 - 2:01
    นี่คือสาเหตุที่ทำให้ผมมาหาพวกคุณที่นี่
  • 2:01 - 2:03
    เราต้องหาวิธีที่ดีกว่านี้ ที่จะจดจำพวกเขา
  • 2:05 - 2:11
    เราต้องอธิบายถึงเรื่องสำคัญ
    ที่ทำให้พวกเขายอมเสี่ยงชีวิต
  • 2:11 - 2:15
    และเราต้องเรียกร้องความยุติธรรม
  • 2:16 - 2:18
    ในปี 96 ผมถูกส่งไป
  • 2:18 - 2:22
    โดยกรรมาธิการใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ
    เพื่อผู้ลี้ภัยทางเหนือของเทือกเขาคอเคซัส
  • 2:22 - 2:24
    ผมรู้ดีถึงความเสี่ยง
  • 2:24 - 2:26
    เพื่อนร่วมงานถูกฆ่าตายไป 5 คนแล้ว
  • 2:26 - 2:28
    3 คนบาดเจ็บสาหัส
  • 2:28 - 2:30
    7 คนถูกจับเป็นตัวประกัน
  • 2:30 - 2:32
    เราจึงต้องระมัดระวัง
  • 2:32 - 2:36
    เราใช้รถหุ้มเกราะ รถนำขบวน
  • 2:36 - 2:39
    เปลี่ยนแผนการเดินทาง เปลี่ยนบ้านพัก
  • 2:39 - 2:42
    ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยทุกอย่าง
  • 2:43 - 2:49
    แต่แล้วในคืนหนาวของเดือนมกราคม
    ปี 98 มันก็ถึงเวลาของผม
  • 2:49 - 2:53
    เมื่อผมเข้าไปที่แฟลตผมในเมืองวาดิคาฟคัส
    พร้อมกับผู้คุ้มกันของผม
  • 2:53 - 2:55
    เราก็ถูกล้อมด้วยกองกำลังติดอาวุธ
  • 2:57 - 2:59
    พวกเขาจับผู้คุ้มกันผมกดเขาลงกับพื้น
  • 2:59 - 3:02
    กระทืบเขาต่อหน้าต่อตาผม
  • 3:02 - 3:04
    มัดเขา และลากตัวเขาออกไป
  • 3:06 - 3:10
    ผมถูกมัดข้อมือ ผูกผ้าปิดตา
    และถูกบังคับให้คุกเข่าลง
  • 3:10 - 3:14
    ในขณะที่ปากกระบอกปืนเก็บเสียง
    จ่ออยู่ที่คอของผม
  • 3:14 - 3:16
    ถ้าเมื่อมันเกิดขึ้นกับคุณ
  • 3:16 - 3:19
    มันไม่มีเวลาให้คิด ไม่มีเวลาให้ภาวนา
  • 3:20 - 3:23
    สมองของผมทำงานโดยอัตโนมัติ
  • 3:23 - 3:27
    กรอกลับเรื่องราวชีวิตของผม
    ที่ผ่านมาอย่างรวดเร็ว
  • 3:27 - 3:30
    ผมใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะเข้าใจ
  • 3:30 - 3:33
    ว่าผู้ชายพวกนั้นไม่ได้มาเพื่อฆ่าผม
  • 3:33 - 3:37
    แต่ใครสักคน ที่ไหนสักแห่ง
    ได้ออกคำสั่งให้มาลักพาตัวผม
  • 3:39 - 3:43
    กระบวนการลดทอนความเป็นมนุษย์
    ได้เริ่มต้นขึ้นในวันนั้น
  • 3:43 - 3:47
    ผมเป็นอะไรไม่มากไปกว่าตัวสินค้า
  • 3:49 - 3:51
    โดยปกติแล้วผมมักจะไม่พูดถึงเรื่องนี้
  • 3:51 - 3:56
    แต่ผมอยากให้พวกคุณได้รู้บ้างสักเล็กน้อย
    ถึงเรื่อง 317 วัน ที่ผมถูกคุมขัง
  • 3:57 - 4:00
    ผมถูกขังอยู่ในห้องใต้ดิน
  • 4:00 - 4:02
    ห้องที่มืดสนิท
  • 4:02 - 4:05
    เป็นเวลา 23 ชั่วโมง 45 นาที ทุกวัน
  • 4:05 - 4:09
    แล้วยามจะเข้ามา โดยปกติมากันสองคน
  • 4:09 - 4:11
    พวกเขาเอาขนมปังมาให้ 1 ชิ้น
  • 4:11 - 4:14
    ซุป 1 ชาม และเทียน 1 เล่ม
  • 4:15 - 4:19
    เทียนเล่มนั้นจุดได้ประมาน 15 นาที
  • 4:19 - 4:23
    15 นาทีของแสงสว่างอันล้ำค่า
  • 4:23 - 4:27
    จากนั้นพวกเขาก็เอาเทียนออกไป
    แล้วปล่อยให้ผมกลับสู่ความมืดมิด
  • 4:29 - 4:33
    ผมถูกล่ามด้วยโซ่ติดกับเตียงนอน
  • 4:33 - 4:36
    ผมเดินได้แค่ 4 ก้าวเล็กๆ
  • 4:37 - 4:41
    ฝันถึงก้าวที่ 5 ตลอดเวลา
  • 4:41 - 4:45
    ไม่มีทีวี ไม่มีวิทยุ ไม่มีหนังสือพิมพ์
    ไม่มีใครให้คุยด้วย
  • 4:45 - 4:49
    ไม่มีผ้าเช็ดตัว ไม่มีสบู่ ไม่มีกระดาษชำระ
  • 4:49 - 4:55
    มีแค่ถังโลหะ 2 ถัง ถังหนึ่งสำหรับใส่น้ำ
    ถังหนึ่งสำหรับใส่ของเสีย
  • 4:58 - 5:03
    คุณลองจินตนาการดูได้ไหม การจำลองการฆ่าคน
    คือเรื่องที่ยามชอบทำเพื่อฆ่าเวลา
  • 5:03 - 5:08
    ในเวลาที่พวกเขามีอารมณ์ซาดิสต์
    หรือเวลาที่พวกเขารู้สึกเบื่อ หรือ เมา
  • 5:10 - 5:13
    มันทำให้ผมประสาทเสียอย่างช้าๆ
  • 5:13 - 5:18
    ความเหงา และความมืด มันช่างยากที่จะอธิบาย
  • 5:18 - 5:20
    คุณจะอธิบายความว่างเปล่าได้อย่างไร
  • 5:20 - 5:23
    ไม่มีคำที่จะมาแทนความเหงาที่ผมรู้สึกได้
  • 5:23 - 5:28
    มีเส้นขั้นบางๆกั้นระหว่าง
    ความปกติกับความบ้าคลั่ง
  • 5:30 - 5:35
    ในความมืดมิด บางครั้ง
    ผมก็เล่นหมากฮอสในสมอง(จินตนาการ)
  • 5:35 - 5:38
    เริ่มจากตัวสีดำ
  • 5:38 - 5:39
    เล่นกับตัวสีขาว
  • 5:39 - 5:42
    กลับมาที่ตัวสีดำ พยายามหลอกล่อฝ่ายตรงข้าม
  • 5:43 - 5:47
    ผมไม่เล่นหมากฮอสอีกแล้ว
  • 5:47 - 5:53
    ผมถูกทรมานทางใจเกี่ยวกับครอบครัว
    เพื่อนร่วมงาน และผู้คุ้มกันของผมที่ชื่อ อีดิก
  • 5:53 - 5:56
    ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา
  • 5:56 - 5:58
    ผมพยายามที่จะไม่คิด
  • 5:58 - 6:00
    ผมพยายามทำตัวให้ไม่ว่าง
  • 6:00 - 6:04
    ด้วยการออกกำลังกายแบบต่างๆ
  • 6:04 - 6:08
    ผมพยายามที่จะสวดมนต์
    พยามยามเล่นเกมท่องจำต่างๆ
  • 6:09 - 6:13
    แต่ความมืดก็ได้สร้างภาพ
    และความคิดที่ไม่ปกติ
  • 6:13 - 6:20
    ส่วนหนึ่งของสมองต้องการให้คุณ
    ต่อต้าน ตะโกน ร้องไห้
  • 6:20 - 6:23
    อีกส่วนต้องการให้คุณหุบปาก
  • 6:23 - 6:26
    และก้าวผ่านมันไป
  • 6:26 - 6:30
    มันคือการอภิปรายถกเถียงกันภายในใจ
    ตลอดเวลาและไม่มีใครจะมาตัดสิน
  • 6:31 - 6:36
    ครั้งหนึ่ง ยามเข้ามาหาผมอย่างไม่เป็นมิตรมากๆ
    และบอกผมว่า
  • 6:36 - 6:40
    วันนี้แกต้องคุกเข่าและร้องขออาหารของแก
  • 6:40 - 6:44
    วันนั้นผมอารมณ์ไม่ดี ผมก็เลยด่าเขาไป
  • 6:44 - 6:47
    ผมด่าแม่มัน ผมด่าบรรพบุรุษมัน
  • 6:47 - 6:51
    ผลลัพธ์ออกมาอย่างพอประมาณ
    เขาโยนอาหารผมลงในถังใส่ของเสีย
  • 6:51 - 6:55
    วันถัดมาเขากลับมาอีก
    พร้อมกับความต้องการแบบเดิม
  • 6:55 - 6:57
    เขาได้รับคำตอบ
  • 6:57 - 7:02
    ที่มีผลลัพธ์เหมือนเดิม
  • 7:02 - 7:05
    4 วันหลังจากนั้น ร่างกายของผมเจ็บปวดมาก
  • 7:05 - 7:10
    ผมไม่เคยรู้เลยว่าความหิวมันช่างเจ็บปวด
    เวลาที่คุณแทบไม่มีอะไรเลย
  • 7:10 - 7:13
    ดังนั้น เมื่อยามกลับลงมา
  • 7:16 - 7:19
    ผมคุกเข่า
  • 7:19 - 7:22
    ผมร้องขออาหารของผม
  • 7:22 - 7:28
    การยอมแพ้คือหนทางเดียวที่ทำให้ผม
    ได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง
  • 7:29 - 7:31
    หลังจากผมถูกลักพาตัวไป
  • 7:31 - 7:34
    ผมถูกย้ายจากทางเหนือของโอสเซเทีย
    ไปยังเชชเนีย
  • 7:34 - 7:39
    3 วันของการเดินอย่างเชื่องช้า
    ผ่านการขึ้นลงนั่งในรถหลายคัน
  • 7:39 - 7:41
    เมื่อผมมาถึง ผมถูกสอบปากคำ
  • 7:41 - 7:45
    เป็นเวลา 11 วัน โดยชายที่ชื่อ รัสลัน
  • 7:45 - 7:46
    กิจวัตรประจำวันก็เหมือนเดิม
  • 7:46 - 7:49
    แสงสว่างมากกว่าเดิมหน่อย คราวนี้ 45 นาที
  • 7:49 - 7:51
    เขาจะลงมาที่ห้องใต้ดิน
  • 7:51 - 7:53
    เขาจะบอกให้ยามมัดผมกับเก้าอี้
  • 7:53 - 7:56
    แล้วเขาก็จะเปิดเพลงเสียงดัง
  • 7:56 - 8:00
    จากนั้นก็ตะโกนถามเรื่องต่างๆ
  • 8:00 - 8:02
    เขาจะกรีดร้อง เขาจะกระทืบผม
  • 8:02 - 8:04
    ผมจะไม่เล่าถึงรายละเอียดเรื่องนี้
  • 8:04 - 8:07
    มีหลายคำถามที่ผมไม่เข้าใจ
  • 8:07 - 8:11
    และมีอีกหลายคำถามที่ผมไม่อยากเข้าใจ
  • 8:12 - 8:16
    ความยาวของการสอบสวนเท่ากับความยาวของเทป
  • 8:16 - 8:20
    15 เพลง ก็ 45 นาที
  • 8:20 - 8:22
    ผมอยากให้ถึงเพลงสุดท้ายเร็วๆ เสมอ
  • 8:23 - 8:26
    วันหนึ่ง หรือคืนหนึ่งในห้องใต้ดิน
    ผมไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
  • 8:26 - 8:29
    ผมได้ยินเสียงเด็กร้องไห้
    ด้านบนเหนือหัวของผม
  • 8:29 - 8:32
    เด็กผู้ชาย อาจจะ 2 หรือ 3 ขวบ
  • 8:32 - 8:36
    เสียงฝีเท้า เสียงสับสน ผู้คนวิ่งไปมา
  • 8:37 - 8:40
    เมื่อ รัสลัน มาหาผมในวันถัดมา
  • 8:40 - 8:42
    ก่อนที่เขาจะได้ถามอะไรผม
  • 8:42 - 8:46
    ผมถามว่า วันนี้ลูกของคุณเป็นอย่างไรบ้าง
    เขาดีขึ้นไหม
  • 8:46 - 8:49
    รัสลัน ตกใจ
  • 8:49 - 8:52
    เขากราดเกรี้ยวที่ยามอาจทำให้ข้อมูลรั่วไหล
  • 8:52 - 8:54
    ข้อมูลชีวิตส่วนตัวของเขา
  • 8:54 - 8:59
    ผมคุยกับเขาเกี่ยวกับ องค์กรพัฒนาเอกชน
    ที่จัดส่งยารักษาโรคให้กับคลินิกท้องถิ่น
  • 8:59 - 9:02
    ยาที่อาจทำให้ลูกของเขาดีขึ้น
  • 9:02 - 9:06
    จากนั้นเราคุยเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา
    เราคุยเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว
  • 9:06 - 9:08
    เขาพูดถึงลูกๆของเขา
  • 9:08 - 9:10
    ผมคุยเรื่องลูกสาวผมกับเขา
  • 9:10 - 9:13
    จากนั้นเขาคุยเรื่องปืน เรื่องรถ และผู้หญิง
  • 9:13 - 9:18
    และผมก็ต้องคุยกับเขา
    เรื่องปืน เรื่องรถ และผู้หญิง
  • 9:18 - 9:21
    เราคุยกันจนเทปจบ
  • 9:21 - 9:27
    รัสลัน เป็นผู้ชายที่เหี้ยมโหดมากที่สุด
    ที่ผมเคยพบเจอ
  • 9:27 - 9:30
    แล้วเขาก็ไม่มายุ่งกับผมอีก
  • 9:30 - 9:33
    เขาไม่ถามอะไรผมอีก
  • 9:33 - 9:37
    ผมไม่ได้เป็นแค่ตัวสินค้าอีกต่อไป
  • 9:37 - 9:42
    2 วันหลังจากนั้น ผมถูกย้ายไปอีกที่หนึ่ง
  • 9:42 - 9:47
    ที่นั่น ยามคนหนึ่งเข้ามาหาผม
    ใกล้มากจนค่อนข้างผิดปกติ
  • 9:47 - 9:50
    และเขาพูดด้วยเสียงเบาๆ ว่า
  • 9:50 - 9:53
    ผมอยากจะขอบคุณ
  • 9:53 - 9:57
    สำหรับความเชื่อเหลือที่องค์กรของคุณ
    ได้มอบให้กับครอบครัวผม
  • 9:57 - 10:01
    ในตอนที่เราพลัดถิ่นใกล้กับดาเกสตาน
  • 10:02 - 10:06
    มีอะไรที่ผมจะตอบเขาได้
  • 10:06 - 10:11
    มันช่างเจ็บปวด
    มันเหมือนมีมีดอยู่ในท้องผม
  • 10:11 - 10:14
    ผมใช้เวลาหลายอาทิตย์คิดในใจ
    พยายามที่จะทำความเข้าใจ
  • 10:14 - 10:17
    เหตผลดีๆที่ทำให้เราช่วยเหลือครอบครัวนั้น
  • 10:17 - 10:20
    และการที่เขาเป็นทหารรับจ้าง
  • 10:20 - 10:22
    เขายังเยาว์วัย และเขาก็เขินอาย
  • 10:22 - 10:25
    ผมไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน
  • 10:25 - 10:27
    เขาอาจจะมีเจตนาที่ดี
  • 10:27 - 10:30
    แต่ในช่วง 15 วินาทีนั้น
  • 10:30 - 10:33
    เขาทำให้ผมต้องตั้งคำถาม
    เกี่ยวกับเรื่องทุกอย่างที่เราทำ
  • 10:33 - 10:36
    การเสียสละทั้งปวง
  • 10:36 - 10:39
    เขาทำให้ผมคิดว่าพวกเขามองเราอย่างไร
  • 10:39 - 10:42
    ถึงตอนนั้น ผมเข้าใจเลยว่า
    พวกเขารู้ว่าเราไปที่นั่นทำไม
  • 10:42 - 10:45
    และพวกเรากำลังทำอะไร
  • 10:45 - 10:48
    ไม่มีใครสามารถสมมติเรื่องเหล่านี้ได้
  • 10:48 - 10:52
    จะให้อธิบายว่าเราทำเรื่องหล่านี้ไปทำไม
    ไม่ใช่ง่าย ๆ
  • 10:52 - 10:54
    แม้แต่กับญาติที่สนิทที่สุด
  • 10:55 - 10:58
    เราอาจไม่สมบูรณ์แบบ เราอาจไม่ได้เหนือกว่า
  • 10:58 - 11:01
    เราไม่ใช่หน่วยดับเพลิงโลก
  • 11:01 - 11:03
    เราไม่ใช่ยอดมนุษย์
  • 11:03 - 11:05
    เราหยุดสงครามไม่ได้
  • 11:05 - 11:10
    เรารู้ว่าการตอบสนองด้านมนุษยธรรม
    ไม่อาจแทนที่ของทางออกทางการเมืองได้
  • 11:10 - 11:15
    เราทำสิ่งนี้เพราะ 1 ชีวิตก็มีความสำคัญ
  • 11:15 - 11:17
    บางทีมันคือความแตกต่าง
    อย่างเดียวที่คุณทำได้
  • 11:17 - 11:20
    คน 1 คน ครอบครัว 1 ครอบครัว
    หรือ กลุ่มปัจเจกชนเล็ก 1 กลุ่ม
  • 11:20 - 11:22
    และมันมีความสำคัญ
  • 11:22 - 11:25
    เมื่อเกิดเหตุซึนามิ แผ่นดินไหว หรือ พายุไต้ฝุ่น
  • 11:25 - 11:29
    คุณจะเห็นทีมนักกู้ภัยมาจากทั่วโลก
  • 11:29 - 11:32
    มองหาผู้รอดชีวิตเป็นอาทิตย์ๆ
  • 11:32 - 11:35
    ทำไม ไม่มีใครตั้งคำถาม
  • 11:35 - 11:37
    ทุกชีวิตมีความสำคัญ
  • 11:37 - 11:41
    หรือทุกชีวิตควรมีความสำคัญ
  • 11:41 - 11:44
    เช่นเดียวกับพวกเรา เมื่อเราช่วยผู้ลี้ภัย
  • 11:44 - 11:49
    ผู้คนที่ผลัดถิ่นภายในประเทศตนเอง
    จากความขัดแย้ง หรือคนไร้สัญชาติ
  • 11:50 - 11:51
    ผมรู้จักคนมากมาย
  • 11:51 - 11:54
    เมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับ
    ความทุกข์ทรมานอันเหลือล้น
  • 11:54 - 11:58
    พวกเขาจะรู้สึกอ่อนแอ และหยุดอยู่แค่นั้น
  • 11:58 - 12:02
    เรื่องมันน่าสงสาร เพราะมีหนทางอีกมากมาย
    ที่หลายคนสามารถช่วยเหลือได้
  • 12:02 - 12:04
    เราไม่หยุดกับความรู้สึกแบบนั้น
  • 12:04 - 12:07
    เราพยายามทุกวิถีทางที่จะให้ความช่วยเหลือ
  • 12:07 - 12:09
    ความคุ้มครอง ความสบายใจ
  • 12:09 - 12:11
    เราจำเป็นต้องทำ
  • 12:11 - 12:13
    เราไม่สามารถทำอย่างอื่นได้
  • 12:13 - 12:18
    มันทำให้เรารู้สึก ผมไม่รู้
    เป็นมนุษย์ธรรมดา
  • 12:18 - 12:22
    นั่นคือภาพผมวันที่ถูกปล่อยตัว
  • 12:22 - 12:27
    หลายเดือนหลังจากที่ผมถูกปล่อยตัว
    ผมได้พบกับนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสในตอนนั้น
  • 12:27 - 12:29
    มีสองเรื่องที่เขาได้บอกผมคือ
  • 12:29 - 12:32
    คุณไร้ความรับผิดชอบมาก
    ที่ไปตอนเหนือของคอเคซัส
  • 12:32 - 12:36
    คุณไม่รู้เลยหรือว่า
    คุณได้สร้างปัญหามากมายให้กับพวกเรา
  • 12:38 - 12:40
    มันเป็นการพบปะช่วงสั้น ๆ
  • 12:40 - 12:42
    (เสียงหัวเราะ)
  • 12:43 - 12:47
    ผมคิดว่าการช่วยเหลือผู้คน
    ที่ตกอยู่ในอันตราย คือหน้าที่
  • 12:47 - 12:52
    ในสงครามที่ไม่มีใครจริงใจที่จะทำให้มันจบลง
  • 12:52 - 12:54
    และในวันนี้เราก็มีสงครามแบบนั้นมากมาย
  • 12:54 - 12:59
    การให้ความช่วยเหลือและความปลอดภัย
    ให้กับคนที่ต้องการ
  • 12:59 - 13:01
    ไม่ใช่แค่การแสดงออกของความเป็นมนุษย์
  • 13:01 - 13:03
    มันคือการสร้างความแตกต่างสำหรับผู้คน
  • 13:03 - 13:07
    ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้เลย
  • 13:07 - 13:09
    เรามีความรับผิดชอบที่จะพยายาม
  • 13:09 - 13:12
    คุณก็เคยได้ยินเกี่ยวกับแนวคิดนั้น
    ความรับผิดชอบที่จะปกป้อง
  • 13:12 - 13:17
    ผลลัพท์อาจขึ้นอยู่กับตัวแปรต่างๆ
  • 13:17 - 13:20
    ไม่แน่เราอาจล้มเหลว
    แต่มันมีสิ่งที่แย่กว่าความล้มเหลว
  • 13:20 - 13:23
    มันคือ การไม่พยายามทำ ในขณะที่เราทำได้
  • 13:24 - 13:28
    อา ถ้าคุณพบหนทางนี้
    ถ้าคุณสมัครจะทำงานแบบนี้
  • 13:28 - 13:33
    ชีวิตของคุณจะเต็มไปด้วย
    ความสุข และความเศร้า
  • 13:33 - 13:36
    เพราะมีผู้คนอีกมากมาย
    ที่เราไม่สามารถช่วยได้
  • 13:36 - 13:40
    ผู้คนอีกมากมายที่เราปกป้องไม่ได้
    ผู้คนอีกมากมายที่เราช่วยชีวิตไม่ได้
  • 13:40 - 13:42
    ผมเรียกพวกเขาว่า ปีศาจของผม
  • 13:42 - 13:45
    และการได้พบเห็นความทุกข์
    ของผู้คนอย่างใกล้ชิด
  • 13:45 - 13:49
    เท่ากับคุณเอาความทุกข์
    เล็กน้อยเหล่านั้นมาใส่ตัวเอง
  • 13:49 - 13:52
    นักมนุษยธรรมรุ่นเยาว์หลายคน
  • 13:52 - 13:55
    ผ่านประสบการณ์ครั้งแรกของพวกเขา
    ด้วยความขมชื่น/ตรอมตรม
  • 13:55 - 13:58
    พวกเขาถูกจับโยนเข้าไปยัง
    สถานการณ์ที่พวกเขาเป็นประจักษ์พยาน
  • 13:58 - 14:01
    แต่ก็อ่อนแอเกินไปที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง
  • 14:01 - 14:04
    พวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับมัน
  • 14:04 - 14:07
    และค่อยๆเปลี่ยนให้มันเป็นพลังงานเชิงบวก
  • 14:07 - 14:08
    มันเป็นเรื่องยาก
  • 14:08 - 14:11
    หลายคนไม่ประสบความสำเร็จ
  • 14:11 - 14:15
    แต่สำหรับคนที่ทำงานนี้
    ไม่มีงานไหนเหมือนงานนี้
  • 14:15 - 14:19
    คุณเห็นความแตกต่างงานที่คุณทำทุกวัน
  • 14:20 - 14:23
    นักมนุษยธรรมรู้ดีถึงอันตรายที่จะต้องเจอ
  • 14:23 - 14:28
    ในสถานที่ที่มีความขัดแย้ง
    ในสภาพแวดล้อมหลังความขัดแย้ง
  • 14:28 - 14:34
    แน่นอนชีวิตพวกเรา งานพวกเรา
    ก็อันตรายขึ้นเรื่อยๆ
  • 14:34 - 14:38
    และศีลธรรมชีวิตคนเราก็จางหายไปเรื่อยๆ
  • 14:39 - 14:42
    คุณรู้รึปล่าวว่า ตั้งแต่สหัสวรรษเป็นต้นมา
  • 14:42 - 14:46
    จำนวนครั้งที่นักมนุษยธรรมถูกโจมตี
    เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า
  • 14:47 - 14:50
    มีสถิติใหม่ในปี 2013
  • 14:51 - 14:54
    เพื่อนร่วมงานถูกฆ่า 115 คน
  • 14:54 - 14:58
    171 คน บาดเจ็บสาหัส
  • 14:58 - 15:01
    134 คน ถูกลักพาตัว
  • 15:01 - 15:05
    ชีวิตหลายชีวิตต้องแหลกสลาย
  • 15:05 - 15:10
    แม้กระทั่งตอนเริ่มต้นสงครามกลางเมือง
    ในโซมาเลีย ในช่วงปี 80
  • 15:10 - 15:14
    นักมนุษยธรรม บางครั้งถูกนับว่าเป็นเหยื่อ
  • 15:14 - 15:16
    กับเรื่องอะไรที่เราเรียกว่า ความเสียหายคู่กัน
  • 15:16 - 15:20
    หากแต่ว่าส่วนใหญ่แล้ว
    พวกเราไม่ใช่เป้าหมายการโจมตี
  • 15:20 - 15:22
    แต่มันเปลี่ยนไปแล้ว
  • 15:22 - 15:23
    ดูภาพนี้
  • 15:23 - 15:26
    แบกแดด เดือนสิงหาคม ปี 2003
  • 15:26 - 15:29
    เพื่อนร่วมงานถูกฆ่า 24 คน
  • 15:29 - 15:32
    มันผ่านไปแล้ว เรื่องของธงน้ำเงินของ
    องค์กรสหประชาชาติ หรือ ของกาชาด
  • 15:32 - 15:36
    ที่เคยปกป้องเราอย่างอัตโนมัติ
  • 15:36 - 15:39
    อาชญากร และนักการเมืองบางกลุ่ม
  • 15:39 - 15:42
    ได้เพาะพันธ์ุข้ามสายพันธ์มายาวนานกว่า 20 ปี
  • 15:42 - 15:45
    และพวกเขาได้สร้างพันธ์ุผสมพวกนี้
  • 15:45 - 15:48
    ที่เราไม่มีทางที่จะสื่อสารด้วยได้
  • 15:48 - 15:53
    หลักการทางมนุษยธรรมถูกทดสอบ
    ถูกตั้งคำถาม และหลายครั้งถูกละเลย
  • 15:53 - 15:58
    แต่บางที สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ
    เราละเลยที่จะค้นหาความยุติธรรม
  • 15:58 - 16:02
    ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีผลกระทบอะไรเลย
  • 16:02 - 16:05
    กับการโจมตีนักมนุษยธรรม
  • 16:05 - 16:09
    หลังจากการผมถูกปล่อยตัว
    มีคนบอกกับผมว่าไม่ต้องมองหาความยุติธรรมใดๆ
  • 16:09 - 16:13
    มันจะไม่เกิดประโยชน์อะไรกับผม
  • 16:13 - 16:17
    อีกอย่าง มันจะทำให้ผมเอาชีวิต
    เพื่อนร่วมงานคนอื่นไปเสี่ยงด้วย
  • 16:18 - 16:21
    หลายปีกว่าที่ผมจะได้เห็นการตัดสินคดี
  • 16:21 - 16:25
    คนที่เกี่ยวข้องกับการลักพาตัวผม
  • 16:25 - 16:28
    แต่นี่คือข้อยกเว้น
  • 16:28 - 16:32
    ยังมีความอยุติธรรมกับนักมนุษยธรรมรายอื่น
  • 16:32 - 16:37
    ถูกฆ่าหรือถูกลักพาตัว
    ในเชชเนียระหว่างปี 95 และ 99
  • 16:37 - 16:39
    และมันเป็นแบบนี้ทั่วโลก
  • 16:40 - 16:43
    นี่มันไม่ดีพอ
  • 16:43 - 16:44
    ให้อภัยไม่ได้
  • 16:44 - 16:49
    การโจมตีนักมนุษยธรรมคืออาชญากรรมสงคราม
    ตามกฏหมายระหว่างประเทศ
  • 16:49 - 16:52
    อาชญากรรมเหล่านี้ไม่ควรถูกมองข้าม
  • 16:52 - 16:55
    เราต้องหยุดวงจรอุบาทก์
    เรื่องการยกเว้นโทษประเภทนี้
  • 16:55 - 16:59
    เราต้องคำนึงว่าการโจมตีนักมนุษยธรรม
  • 16:59 - 17:02
    ก็คือการโจมตีมนุษยชาติ
  • 17:02 - 17:06
    มันทำให้ผมโกรธ
  • 17:06 - 17:11
    ผมรู้ดีว่าผมโชคดีมาก
    เมื่อเทียบกับผู้ลี้ภัยที่ผมให้การช่วยเหลือ
  • 17:12 - 17:16
    ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง
    เวลาที่เห็นเมืองทั้งเมืองของผมถูกทำลายลง
  • 17:16 - 17:20
    ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง
    เวลาที่ญาติผมถูกยิงต่อหน้าต่อตาผม
  • 17:20 - 17:24
    ผมไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง
    ตอนที่ประเทศคุ้มครองผมไม่ได้
  • 17:24 - 17:29
    และผมยังรู้ว่าผมโชคดีมาก
    เมื่อเทียบกับตัวประกันคนอื่นๆ
  • 17:29 - 17:34
    4 วันก่อนที่ผมจะถูกปล่อยตัว
    ตัวประกัน 4 คน ถูกตัดหัว
  • 17:34 - 17:39
    ห่างไปจากที่ผมถูกคุมขังไปไม่กี่ไมล์
  • 17:39 - 17:41
    ทำไมถึงต้องเป็นพวกเขา
  • 17:41 - 17:44
    ทำไมผมถึงอยู่ที่นี่ในวันนี้
  • 17:45 - 17:48
    ไม่มีคำตอบที่ง่ายเลย
  • 17:48 - 17:52
    ผมได้รับการช่วยเหลือมากมาย จากญาติๆผม
  • 17:52 - 17:56
    จากเพื่อนร่วมงาน จากเพื่อน
    จากคนที่ผมไม่รู้จัก
  • 17:56 - 17:59
    พวกเขาช่วยเหลือผมตลอดหลายปีที่ผ่านมา
    ให้ผมออกมาจากคุกที่มืดมิด
  • 18:00 - 18:04
    ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับความสนใจแบบนี้
  • 18:04 - 18:08
    เพื่อนร่วมงานของผมกี่คนแล้ว
    หลังเหตุการณ์ที่ทำร้าย/ทำลายจิตใจ
  • 18:08 - 18:11
    ที่ฆ่าตัวตาย
  • 18:11 - 18:15
    ผมนับได้ 9 คนคนที่ผมรู้จักเป็นการส่วนตัว
  • 18:15 - 18:19
    เพื่อนร่วมงานของผมกี่คน
    ที่ต้องหย่าร้างอย่างยากลำบากใจ
  • 18:19 - 18:21
    หลังจากผ่านประสบการณ์
    ที่ทำร้ายทำลายจิตใจ
  • 18:21 - 18:26
    เพราะพวกเขาไม่สามารถอธิบาย
    เรื่องราวอะไรที่เกิดขึ้นกับคู่สมรสได้อีกเลย
  • 18:26 - 18:29
    ผมนับไม่ไหวแล้ว
  • 18:29 - 18:32
    มีรางวัลสำหรับการใช้ชีวิตแบบนี้
  • 18:32 - 18:37
    ในรัสเซีย อนุเสาวรีย์สงครามทุกอนุเสาวรีย์
    จะมีข้อความที่งดงามนี้อยู่ด้านบน
  • 18:37 - 18:41
    มันเขียนว่า (ในภาษารัสเซีย)
  • 18:41 - 18:44
    "ไม่มีใครถูกลืม ไม่มีอะไรถูกลืม"
  • 18:45 - 18:49
    ผมไม่ลืมเพื่อนร่วมงานที่ผมสูญเสียไป
  • 18:49 - 18:51
    ผมไม่สามารถลืมอะไรได้
  • 18:51 - 18:54
    ผมเรียกร้องให้พวกคุณจดจำ
    การเสียสละของพวกเขา
  • 18:54 - 18:58
    และเรียกร้องให้นักมนุษยธรรมทั่วโลก
  • 18:58 - 19:00
    ได้รับการคุ้มครองที่ดีขึ้น
  • 19:00 - 19:06
    เราไม่ควรปล่อยให้แสงสว่างของความหวัง
    ที่พวกเขาได้มอบความช่วยเหลือให้ต้องดับลง
  • 19:06 - 19:10
    หลังจากผมผ่านพ้นเรื่องทารุณโหดร้าย
    เพื่อนร่วมงานหลายคนถามว่า ทำไมยังทำงานต่อ
  • 19:10 - 19:13
    ทำไมถึงทำงานแบบนี้อีก
  • 19:13 - 19:15
    ทำไมถึงกลับไปทำงานนี้อีก
  • 19:15 - 19:18
    คำตอบของผมนั้นง่ายมาก
  • 19:18 - 19:21
    ถ้าผมเลิกทำ
  • 19:21 - 19:25
    นั่นหมายความว่าคนที่ลักพาตัวผมชนะ
  • 19:25 - 19:27
    พวกเขาได้ดูดจิตวิญญาณผมไป
  • 19:27 - 19:29
    และความเป็นมนุษย์ผมไปด้วย
  • 19:29 - 19:32
    ขอบคุณครับ
  • 19:32 - 19:34
    (เสียงปรบมือ)
Title:
ผมถูกจับเป็นตัวประกันกว่า 317 วัน และนี่คือสิ่งที่ผมนึกถึง...
Speaker:
วินเซ็นต์ โคเช็ชเทล
Description:

วินเซ็นต์ โคเช็ชเทล ถูกจับเป็นตัวประกันเป็นเวลา 317 วัน ในปี 1998 ในขณะที่ทำงานให้กรรมาธิการสูงขององค์กรสหประชาชาติเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยในเช็ชเนีย เป็นครั้งแรกที่เขาย้อนถึงประสบการณ์ — ตั้งแต่ การอยู่ในความมืดมันเป็นอย่างไร การต้องอยู๋ในห้องใต้ดินและถูกล่ามกับเตียงของเขา รวมถึงบทสนทนาที่คาดไม่ถึงของเขากับผู้จับกุมของเขา ด้วยความเป็นกวีและมีพลัง เขาอธิบายว่าทำไมเขาถึงยังคงทำงานของเขาต่อ ในเมื่อตั้งแต่ปี 2000 การโจมตีกลุ่มนักมนุษยธรรมได้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า — และเขาแปลกใจว่าการเพิ่มขึ้นนั้นคือสัญญาณอะไรกับโลกของเรา

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
19:47

Thai subtitles

Revisions