แอนเดรียส์ ชไลเชอร์ (Andreas Schleicher): ใช้ข้อมูลสร้างโรงเรียนที่ดีกว่า
-
0:01 - 0:04การเปิดกว้างอย่างสุดโต่ง (Radical Openness)
ยังคงเป็นอนาคตอันไกลโพ้น -
0:04 - 0:06สำหรับด้านการศึกษาในโรงเรียน
-
0:06 - 0:08เราผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากในการค้นพบว่า
-
0:08 - 0:12การเรียนรู้ไม่ใช่เรื่องของสถานที่
แต่เป็นเรื่องของกิจกรรม -
0:12 - 0:16แต่ผมอยากจะเล่าให้คุณฟัง ถึงเรื่องราวของ PISA
(โครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ) -
0:16 - 0:18ซึ่งเป็นการทดสอบของ OECD
(องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ) -
0:18 - 0:20เพื่อวัดความรู้และทักษะของเด็กอายุ 15 ปีทั่วโลก
-
0:20 - 0:24และเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ
การเปรียบเทียบการศึกษาระหว่างประเทศต่างๆ -
0:24 - 0:27ว่าได้ทำให้การศึกษา ที่เรามักมองว่า
เป็นนโยบายภายในประเทศ -
0:27 - 0:30กลายเป็นเรื่องระดับโลกได้ยังไง
-
0:30 - 0:33นี่คือสภาพของโลกเมื่อทศวรรษ 1960
-
0:33 - 0:35ในแง่สัดส่วนของประชากร
-
0:35 - 0:37ที่เรียนจบชั้นมัธยมปลาย
-
0:37 - 0:41คุณจะเห็นว่าสหรัฐฯ นำหน้าทุกคนเลย
-
0:41 - 0:44และความสำเร็จทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ
-
0:44 - 0:47ก็เกิดขึ้นมาจากข้อได้เปรียบอันยาวนาน
-
0:47 - 0:49ในฐานะที่เป็นผู้เคลื่อนไหวทางการศึกษาเป็นลำดับแรก
-
0:49 - 0:53แต่ในทศวรรษ 1970 บางประเทศก็ไล่ตามมา
-
0:53 - 0:55ในทศวรรษ 1980 การขยายตัวระดับโลกของ
-
0:55 - 0:58กลุ่มผู้มีพรสวรรค์ได้ดำเนินต่อไป
-
0:58 - 1:02และโลกก็ไม่ได้หยุดลงที่ทศวรรษ 1990
-
1:02 - 1:04ดังนั้นในยุค 60 สหรัฐฯ เป็นที่หนึ่ง
-
1:04 - 1:07ในยุค 90 กลายเป็นที่ 13
-
1:07 - 1:09และไม่ใช่เพราะว่ามาตรฐานเขาตกลงไปนะ
-
1:09 - 1:13แต่เป็นเพราะที่อื่นๆ ได้ก้าวขึ้นมาเร็วมากต่างหาก
-
1:13 - 1:16เกาหลีแสดงให้คุณเห็นว่าอะไรที่เป็นไปได้ในการศึกษา
-
1:16 - 1:19สองรุ่นก่อน เกาหลีมีมาตรฐานการครองชีพ
-
1:19 - 1:22อยู่ในระดับเดียวกับอัฟกานิสถานทุกวันนี้
-
1:22 - 1:26และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผลทางการศึกษาต่ำที่สุด
-
1:26 - 1:31วันนี้ เด็กเกาหลีทุกคนเรียนจบมัธยมปลาย
-
1:31 - 1:34เพราะงั้น นี่มันบอกกับเราว่า ในเศรษฐกิจระดับโลก
-
1:34 - 1:39การพัฒนาระดับชาติ ไม่ใช่ตัววัดความสำเร็จอีกต่อไป
-
1:39 - 1:44แต่เป็นระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในระดับสากลต่างหาก
-
1:44 - 1:47ปัญหาก็คือว่า
-
1:47 - 1:48การวัดด้วยระยะเวลาที่ผู้คนเข้าโรงเรียน
-
1:48 - 1:50หรือวุฒิการศึกษาที่พวกเขามี
-
1:50 - 1:55ไม่ได้เป็นหนทางที่ดีสำหรับการดูว่า
จริงๆแล้วพวกเขาทำอะไรได้เสมอไป -
1:55 - 1:59ดูที่ส่วนผสมของผู้จบการศึกษาทั้งหลายบนท้องถนนของเราสิ
-
1:59 - 2:01ในขณะเดียวกัน นายจ้างกลับบอกว่าพวกเขาหาคนทำงาน
-
2:01 - 2:05ที่มีความสามารถตามที่พวกเขาต้องการไม่ได้
-
2:05 - 2:09และนั่นก็ทำให้คุณเห็นว่า วุฒิการศึกษาที่ดีกว่า
ไม่ได้หมายความว่า -
2:09 - 2:13จะมีทักษะที่ดีกว่า และงานที่ดีกว่า และชีวิตที่ดีกว่า เสมอไป
-
2:13 - 2:16ดังนั้น เราพยายามจะเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ ด้วย PISA
-
2:16 - 2:18โดยทำการวัดความรู้และทักษะ
-
2:18 - 2:21ของคนเราโดยตรง
-
2:21 - 2:23และเราก็ใช้มุมมองพิเศษในเรื่องนี้
-
2:23 - 2:25เราให้ความสนใจในความสามารถของนักเรียน
-
2:25 - 2:29ในการผลิตซ้ำสิ่งที่เรียนมาจากโรงเรียน น้อยลง
-
2:29 - 2:31แต่เราต้องการทดสอบว่า พวกเขาสามารถอ้างอิง
-
2:31 - 2:33สิ่งที่พวกเขารู้
-
2:33 - 2:37และประยุกต์ใช้ความรู้ของพวกเขา
ในสถานการณ์ใหม่ๆได้หรือไม่ -
2:37 - 2:40ตอนนี้ บางคนวิจารณ์เราเกี่ยวกับเรื่องนี้
-
2:40 - 2:42พวกเขาบอกว่า วิธีการวัดผลลัพธ์แบบนั้น
-
2:42 - 2:45แสนจะไม่ยุติธรรมกับผู้คน
เพราะเราทดสอบนักเรียน -
2:45 - 2:48ด้วยปัญหาที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน
-
2:48 - 2:50แต่ถ้าคุณใช้ตรรกะแบบนั้น
-
2:50 - 2:53คุณก็ต้องบอกว่าชีวิตมันไม่ยุติธรรมด้วย
-
2:53 - 2:56เพราะการทดสอบความจริงในชีวิต
ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเราสามารถจำ -
2:56 - 2:57อะไรจากที่เรียนมาในโรงเรียนได้บ้าง
-
2:57 - 3:00แต่เกี่ยวกับการที่เราพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
-
3:00 - 3:03การที่เราพร้อมต่องานที่ยังไม่เคยมีมาก่อนหรือไม่
-
3:03 - 3:05เพื่อจะใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่เคยได้รับการคิดค้น
-
3:05 - 3:10เพื่อจะแก้ปัญหาที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ทุกวันนี้
-
3:10 - 3:12และแล้วเมื่อได้รับการโต้แย้งอย่างเผ็ดร้อน
-
3:12 - 3:16วิธีการวัดของพวกเราก็ได้กลายมาเป็นมาตรฐาน
-
3:16 - 3:18ในการประเมินผลครั้งล่าสุดเมื่อปี 2009
-
3:18 - 3:21เราวัดระบบโรงเรียน 74 ระบบ
-
3:21 - 3:25ที่รวมแล้วครอบคลุม 87 เปอร์เซ็นต์ของระบบเศรษฐกิจ
-
3:25 - 3:28แผนภาพนี้แสดงให้คุณเห็นสมรรถภาพของประเทศต่างๆ
-
3:28 - 3:31สีแดง คือ ค่อนข้างต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD
-
3:31 - 3:35สีเหลืองคือไม่ดีไม่แย่
และสีเขียวคือประเทศที่กำลังทำได้ดีมาก -
3:35 - 3:39คุณจะเห็นเซี่ยงไฮ้ เกาหลี สิงคโปร์ในเอเชีย
-
3:39 - 3:41ฟินแลนด์ในยุโรป
-
3:41 - 3:45แคนาดาในอเมริกาเหนือ
กำลังทำได้ดีมาก -
3:45 - 3:48คุณยังจะเห็นว่า มีช่องว่างเกือบสามปีการศึกษาครึ่ง
-
3:48 - 3:50ระหว่างเด็กอายุ 15 ปีในเซี่ยงไฮ้
-
3:50 - 3:53กับเด็กอายุ 15 ปีในชิลี
-
3:53 - 3:56และช่องว่างนี้ขยายขึ้นเป็น 7 ปีการศึกษา
-
3:56 - 3:59เมื่อคุณรวมเอาประเทศต่างๆ
ที่มีสมรรถภาพแย่จริงๆเข้าไปด้วย -
3:59 - 4:02มันมีโลกของความแตกต่างที่
-
4:02 - 4:07เด็กๆได้รับการเตรียมพร้อมสำหรับ
ระบบเศรษฐกิจทุกวันนี้ -
4:07 - 4:11แต่ผมอยากจะแนะนำมิติสำคัญอันที่สอง
-
4:11 - 4:13เข้าไปในภาพนี้
-
4:13 - 4:17นักการศึกษาชอบพูดถึงความเสมอภาค
-
4:17 - 4:21ด้วย PISA เราอยากจะวัดดูว่า
พวกเขาสร้างความเสมอภาคได้จริงแท้แค่ไหน -
4:21 - 4:23ในแง่ของการทำให้ผู้คน
-
4:23 - 4:27จากปูมหลังทางสังคมที่แตกต่างกัน
มีโอกาสเท่าเทียมกัน -
4:27 - 4:28และเราก็ได้เห็นว่า ในบางประเทศ
-
4:28 - 4:30ผลกระทบของปูมหลังทางสังคมที่มีต่อ
ผลิตผลทางการเรียนนั้น -
4:30 - 4:31สูงมากๆ
-
4:31 - 4:34โอกาสได้รับการกระจายอย่างไม่เท่าเทียมกัน
-
4:34 - 4:38ศักยภาพของเด็กๆหลายคนกลายเป็นสูญเปล่า
-
4:38 - 4:41เราเห็นในประเทศอื่นๆว่า มันมีผลน้อยกว่ามาก
-
4:41 - 4:44เจ้าบริบททางสังคมที่คุณเกิดมาเนี่ย
-
4:44 - 4:47พวกเราล้วนอยากไปอยู่ที่นั่น ตรงส่วนขวาบนตรงนั้น
-
4:47 - 4:51ที่ๆสมรรถภาพทางการศึกษาดี
และโอกาสทางการเรียนรู้ได้รับการกระจายอย่างเท่าเทียม -
4:51 - 4:54ไม่มีใคร และไม่มีประเทศไหน จะรับได้หากต้องไปอยู่ตรงนั้น
-
4:54 - 4:55ตรงที่สมรรถภาพแย่
-
4:55 - 4:59และมีช่องว่างทางสังคมกว้างมาก
-
4:59 - 5:01และแล้วเราก็มาถกเถียงกันล่ะว่า
-
5:01 - 5:03มันดีกว่าหรือไม่ ถ้าจะต้องไปอยู่ตรงนั้น
ตรงที่สมรรถภาพทางการศึกษาดี -
5:03 - 5:06แต่แลกมาด้วยราคาของช่องว่างทางสังคมขนาดใหญ่?
-
5:06 - 5:11หรือเราต้องการเพ่งความสนใจไปที่ความเสมอภาค
แล้วยอมรับคุณภาพแบบกลางๆไปซะ? -
5:11 - 5:14แต่จริงๆแล้ว ถ้าคุณมองไปที่ประเทศต่างๆในภาพนี้
-
5:14 - 5:17คุณจะเห็นว่า มีหลายประเทศเลยทีเดียวที่
-
5:17 - 5:22ผสานความยอดเยี่ยมเข้ากับความเสมอภาคได้จริงๆ
-
5:22 - 5:24ที่จริง หนึ่งในบทเรียนที่สำคัญที่สุดจากการเปรียบเทียบนี้
-
5:24 - 5:27ก็คือว่า คุณไม่จำเป็นต้องประนีประนอมความเสมอภาค
-
5:27 - 5:30เพื่อให้ได้มาซึ่งความยอดเยี่ยม
-
5:30 - 5:33ประเทศเหล่าได้เคลื่อนมาจาก
-
5:33 - 5:36การจัดเตรียมความยอดเยี่ยมให้กับคนบางคน
มาเป็นการจัดเตรียมให้กับคนทุกคน -
5:36 - 5:38เป็นบทเรียนที่สำคัญมากเลยทีเดียว
-
5:38 - 5:43และนั่นก็ท้าทายกระบวนการคิด
ของระบบโรงเรียนหลายๆระบบ -
5:43 - 5:47ที่เชื่อว่า พวกเขาอยู่ตรงนั้นเพื่อแยกประเภทผู้คน
-
5:47 - 5:50และตั้งแต่ที่ผลเหล่านั้นได้ออกมา
-
5:50 - 5:52ผู้กำหนดนโยบาย นักการศึกษา นักวิจัย จากทั่วโลก
-
5:52 - 5:53ได้พยายามที่จะค้นหา
-
5:53 - 5:57ว่าอะไรที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของประเทศเหล่านั้น
-
5:57 - 5:58แต่เรามาย้อนกลับไปสักครู่
-
5:58 - 6:01และเพ่งความสนใจไปที่ประเทศต่างๆที่ริเริ่ม PISA
-
6:01 - 6:04และตอนนี้ผมให้มันอยู่รูปแบบของฟองสบู่สีๆ
-
6:04 - 6:07และผมให้ขนาดของฟอง
-
6:07 - 6:09แสดงสัดส่วน
-
6:09 - 6:13ของจำนวนเงินที่ประเทศต่างๆใช้จ่ายกับนักเรียน
-
6:13 - 6:14ถ้าเงินเป็นทุกอย่างเกี่ยวกับ
-
6:14 - 6:16คุณภาพของผลลัพธ์ทางการเรียนรู้
-
6:16 - 6:20คุณก็จะเจอฟองใหญ่อยู่ข้างบน ใช่มั้ย?
-
6:20 - 6:22แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณเห็น
-
6:22 - 6:25ค่าใช้จ่ายต่อหัวนักเรียน มีผลเพียง
-
6:25 - 6:27น้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของ
-
6:27 - 6:30ความแตกต่างของสมรรถภาพทางการศึกษา
ระหว่างประเทศต่างๆ -
6:30 - 6:33และยกตัวอย่างเช่น ลักเซมเบิร์ก ประเทศที่แพงที่สุด
-
6:33 - 6:35ไม่ได้ทำได้ดีเท่าไหร่
-
6:35 - 6:37สิ่งที่คุณเห็นคือ สองประเทศที่มีค่าใช้จ่ายพอๆกัน
-
6:37 - 6:39มีผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
-
6:39 - 6:44คุณยังจะเห็นว่า...
ซึ่งผมคิดว่านี่เป็นหนึ่งในข้อค้นพบที่น่าสนใจมากที่สุด -
6:44 - 6:47ก็คือว่า เราไม่ได้อยู่ในโลกใบที่ถูกแบ่งออกโดยง่าย
-
6:47 - 6:50ระหว่างประเทศที่รวยและมีการศึกษาดี
-
6:50 - 6:52กับประเทศที่จนและได้รับการศึกษาแย่
อีกต่อไปแล้ว -
6:52 - 6:56เป็นบทเรียนที่สำคัญมากๆจริงๆ
-
6:56 - 6:58เรามาดูกันในรายละเอียดมากขึ้นไปอีก
-
6:58 - 7:00จุดสีแดงแสดงให้เห็น
-
7:00 - 7:05ค่าใช้จ่ายต่อหัวนักเรียน
โดยสัมพันธ์กับความมั่งคั่งของประเทศ -
7:05 - 7:08หนทางหนึ่งในการใช้จ่ายเงิน
ก็คือการจ่ายค่าจ้างดีๆให้ครู -
7:08 - 7:10และคุณจะเห็นว่าเกาหลีลงทุนไปเยอะมาก
-
7:10 - 7:13ในการดึงคนที่ดีที่สุดเข้ามาในแวดวงอาชีพครู
-
7:13 - 7:15และเกาหลียังลงทุนในจำนวนวันในโรงเรียนที่ยาวนาน
-
7:15 - 7:18ซึ่งทำให้ต้นทุนสูงขึ้นไปอีก
-
7:18 - 7:20สุดท้ายแต่ไม่ท้ายที่สุด
เกาหลีต้องการให้ครูของพวกเขา -
7:20 - 7:22ไม่ใช่แค่สอนอย่างเดียวแต่ต้องพัฒนาด้วย
-
7:22 - 7:24พวกเขาลงทุนในการพัฒนาทักษะอาชีพและการร่วมมือ
-
7:24 - 7:27และอะไรต่างๆอีกมากมาย
-
7:27 - 7:28ทั้งหมดนี้ต้องใช้เงิน
-
7:28 - 7:31แล้วเกาหลีจ่ายไหวได้ยังไงล่ะ?
-
7:31 - 7:35คำตอบก็คือ นักเรียนในเกาหลีเรียนในห้องเรียนใหญ่
-
7:35 - 7:39นี่คือแท่งสีฟ้าที่ทำให้ต้นทุนลดต่ำลง
-
7:39 - 7:42คุณมองไปที่ประเทศถัดมา
ลักเซมเบิร์ก -
7:42 - 7:45และคุณจะเห็นจุดสีแดงอยู่ในบริเวณเดียวกันกับเกาหลี
-
7:45 - 7:49ดังนั้น ลักเซมเบิร์กใช้จ่ายต่อหัวเท่าๆกับที่เกาหลีทำ
-
7:49 - 7:51แต่ผู้ปกครอง ครู และผู้กำหนดนโยบาย
-
7:51 - 7:54ในลักเซมเบิร์ก ต่างก็ชอบห้องเรียนเล็กๆ
-
7:54 - 7:57คุณก็รู้ มันดูดีจะตายเวลาเดินเข้าไปในห้องเรียนเล็กๆน่ะ
-
7:57 - 7:59ดังนั้น พวกเขาเอาเงินทั้งหมดลงทุนไปที่นั่น
-
7:59 - 8:02และแท่งสีฟ้า คือขนาดห้องเรียน ได้ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น
-
8:02 - 8:06แต่แม้กระทั่งลักเซมเบิร์ก
ก็สามารถใข้จ่ายเงินได้เพียงครั้งเดียว -
8:06 - 8:08และราคาของเรื่องนี้ก็คือว่า
-
8:08 - 8:10ครูไม่ได้รับค่าจ้างที่ดีนัก
-
8:10 - 8:13นักเรียนไม่ได้มีจำนวนชั่วโมงในการเรียนรู้ที่ยาวนาน
-
8:13 - 8:16และโดยพื้นฐาน ครูมีเวลาเพียงนิดเดียวที่จะทำอย่างอื่น
นอกเหนือไปจากการสอน -
8:16 - 8:20เพราะงั้นคุณจะเห็นสองประเทศที่ใช้จ่ายเงินต่างกันอย่างมาก
-
8:20 - 8:22และที่จริงวิธีการจ่ายเงินของพวกเขามีผลอย่างมาก
-
8:22 - 8:28มากกว่าจำนวนเงินที่พวกเขาใช้จ่ายในการศึกษาเสียอีก
-
8:28 - 8:31เรากลับมาที่ปี 2000 กัน
-
8:31 - 8:35จำได้นะครับ นั่นคือปีก่อนที่ iPod จะได้รับการคิดค้น
-
8:35 - 8:37นี่คือภาพของโลก ณ ตอนนั้น
-
8:37 - 8:41ในแง่ของสมรรถภาพตามเกณฑ์ PISA
-
8:41 - 8:44สิ่งแรกที่คุณเห็นก็คือว่า ฟองต่างๆเล็กลงมาก
ใช่มั้ยครับ -
8:44 - 8:46เราใช้จ่ายน้อยกว่ามากในการศึกษา
-
8:46 - 8:48น้อยกว่าประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ได้
-
8:48 - 8:52แล้วคุณก็จะถามตัวเองว่า
ถ้าการศึกษามันแพงขึ้นมาก -
8:52 - 8:55แล้วมันดีขึ้นมากมั้ย?
-
8:55 - 8:58และความจริงอันขมขื่นก็คือว่า
-
8:58 - 9:00ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ในหลายประเทศ
-
9:00 - 9:02แต่มันก็มีบางประเทศที่
-
9:02 - 9:05มีการพัฒนาอย่างน่าประทับใจ
-
9:05 - 9:09เยอรมนี ประเทศของผม ในปี 2000
-
9:09 - 9:11อยู่ในซีกล่าง
-
9:11 - 9:14ต่ำกว่าสมรรถภาพโดยเฉลี่ย
มีช่องว่างทางสังคมกว้าง -
9:14 - 9:16และจำได้มั้ยครับว่า เยอรมนี
เราเคยเป็นหนึ่งในประเทศ -
9:16 - 9:20ที่ดูดีมากเมื่อคุณนับจำนวนคนที่มีวุฒิการศึกษา
-
9:20 - 9:22ช่างเป็นผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังจริงๆ
-
9:22 - 9:24ผู้คนต่างตกตะลึงกับผลลัพธ์นี้
-
9:24 - 9:28และเป็นครั้งแรกๆเลย
ที่การถกเถึยงในเวทีสาธารณะในเยอรมนี -
9:28 - 9:32เต็มไปด้วยเรื่องของการศึกษา
กินเวลาเป็นเดือนๆ -
9:32 - 9:35ไม่ใช่เรื่องภาษี ไม่ใช่เรื่องอื่นใด แต่เป็นเรื่องการศึกษา
-
9:35 - 9:37ที่เป็นศูนย์กลางของการถกเถียงสาธารณะ
-
9:37 - 9:40และแล้วผู้กำหนดนโยบายก็เริ่มตอบสนองต่อสิ่งนี้
-
9:40 - 9:45รัฐบาลระดับมลรัฐ
ยกระดับการลงทุนในการศึกษาอย่างมากมาย -
9:45 - 9:48หลายอย่างเป็นการทำเพื่อเพิ่มโอกาสให้กับ
-
9:48 - 9:51นักเรียนที่มีปูมหลังมาจากการอพยพย้ายถิ่น
หรือมีความเสียเปรียบทางสังคม -
9:51 - 9:56และสิ่งที่น่าสนใจจริงๆก็คือว่า
นี่ไม่ได้เป็นเพียงเกี่ยวกับ -
9:56 - 10:00การพัฒนานโยบายที่มีอยู่ให้เหมาะสมเท่านั้น
-
10:00 - 10:03แต่ข้อมูลได้เปลี่ยนแปลงความเชื่อและกรอบคิดบางอย่าง
-
10:03 - 10:05ที่เป็นหลักของการศึกษาในเยอรมนี
-
10:05 - 10:09ยกตัวอย่างเช่น ตามหลักแล้ว การศึกษาของเด็กเล็ก
-
10:09 - 10:11จะถูกมองว่าเป็นเรื่องของครอบครัว
และคุณก็จะเห็น -
10:11 - 10:14กรณีต่างๆที่ผู้หญืงถูกมองว่าละทิ้งหน้าที่ของครอบครัว
-
10:14 - 10:17ถ้าพวกเธอส่งลูกๆเข้าอนุบาล
-
10:17 - 10:20PISA ได้เปลี่ยนแปลงการถกเถียงนั้น
-
10:20 - 10:23และผลักดันให้การศึกษาของเด็กวัยแรกเริ่ม
มาอยู่ตรงศูนย์กลาง -
10:23 - 10:25ของนโยบายสาธารณะในเยอรมนี
-
10:25 - 10:29หรือตามหลักแล้ว การศึกษาของเยอรมนีแบ่งเด็กๆ
-
10:29 - 10:32ที่อายุ 10 ปี ซึ่งเด็กมากๆเลยทีเดียว
-
10:32 - 10:36แบ่งออกเป็นกลุ่มที่มุ่งสู่เส้นทางอาชีพ
ของคนทำงานแบบใช้ความรู้ -
10:36 - 10:39กับกลุ่มที่ลงเอยด้วยการทำงานให้กับ
คนทำงานแบบใช้ความรู้ -
10:39 - 10:42และนั่นก็ดำเนินไปตามเส้นแบ่งทางเศรษฐกิจและสังคม
-
10:42 - 10:46และกรอบคิดนั้นได้ถูกท้าทายแล้วในวันนี้
-
10:46 - 10:48เกิดการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก
-
10:48 - 10:51และข่าวดีก็คือ 9 ปีหลังจากนั้น
-
10:51 - 10:54คุณจะเห็นการปรับปรุงในด้านคุณภาพและความเสมอภาค
-
10:54 - 10:57ผู้คนได้รับรู้ข้อท้าทาย และลงมือทำบางอย่างเกี่ยวกับมัน
-
10:57 - 10:59ดูที่เกาหลี ซึ่งอยู่ที่อีกฝั่งของสเปกตรัม
-
10:59 - 11:01ในปี 2000 เกาหลีทำได้ดีมากอยู่แล้ว
-
11:01 - 11:05แต่คนเกาหลีก็ยังกังวลเกี่ยวกับสัดส่วนเล็กๆ
-
11:05 - 11:09ของนักเรียนที่ประสบความสำเร็จในระดับดีเยี่ยม
-
11:09 - 11:11พวกเขารับเอาข้อท้าทายนั้น
-
11:11 - 11:14และเกาหลีก็สามารถเพิ่ม
สัดส่วนของนักเรียนที่ทำได้ยอดเยี่ยมในด้านการอ่าน -
11:14 - 11:19เพิ่มมาเป็นสองเท่าภายในหนึ่งทศวรรษ
-
11:19 - 11:21เอาล่ะ ถ้าคุณเอาแต่สนใจนักเรียนที่ฉลาดที่สุดของคุณ
-
11:21 - 11:23คุณก็รู้ว่าช่องว่างมันจะขยายขึ้น
-
11:23 - 11:27และคุณจะเห็นฟองนี้ค่อยๆเคลื่อนไปยังอีกทิศทางหนึ่ง
-
11:27 - 11:30แต่ยังไงๆก็ยังเป็นการพัฒนาที่น่าประทับใจ
-
11:30 - 11:32การยกเครื่องครั้งใหญ่ของการศึกษาในโปแลนด์
-
11:32 - 11:36ช่วยลดความแตกต่างหลากหลายระหว่างโรงเรียนต่างๆ
-
11:36 - 11:39พลิกผันโรงเรียนที่มีสมรรถภาพต่ำหลายแห่ง
-
11:39 - 11:43แล้วเพิ่มสมรรถภาพขึ้นมามากกว่าครึ่งปีการศึกษา
-
11:43 - 11:45และคุณจะเห็นประเทศอื่นๆเช่นกัน
-
11:45 - 11:48โปรดุเกสสามารถหลอมรวมระบบโรงเรียนที่เคยไร้ทิศทางได้
-
11:48 - 11:51พวกเขาเพิ่มคุณภาพและปรับปรุงความเสมอภาค
-
11:51 - 11:53และฮังการีก็เช่นเดียวกัน
-
11:53 - 11:57ดังนั้น สิ่งที่คุณจะเห็นได้แน่ๆก็คือ มันมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย
-
11:57 - 11:59และแม้กระทั่งคนเหล่านั้นที่บ่นว่า
-
11:59 - 12:01จุดที่ประเทศต่างๆยืนอยู่
-
12:01 - 12:05ในการประเมินต่างๆอย่าง PISA ก็เป็นเพียงผลลัพธ์
-
12:05 - 12:08จากวัฒนธรรม ปัจจัยทางเศรษฐกิจ สภาพทางสังคม
-
12:08 - 12:11ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของสังคม และอื่นๆ
-
12:11 - 12:15ตอนนี้ คนเหล่านี้ต้องยอมรับแล้วว่า การศึกษาพัฒนาได้
-
12:15 - 12:19โปแลนด์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของพวกเขา
-
12:19 - 12:21พวกเขาไม่ได้เปลี่ยนระบบเศรษฐกิจ
-
12:21 - 12:23พวกเขาไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างประชากร
-
12:23 - 12:26พวกเขาไม่ได้ไล่ครูออก
พวกเขาเปลี่ยนนโยบายการศึกษาและรูปแบบการปฏิบัติ -
12:26 - 12:29น่าประทับใจมาก
-
12:29 - 12:32และทั้งหมดนั้นทำให้เกิดคำถามว่า
-
12:32 - 12:34แล้วเราจะเรียนรู้จากประเทศต่างๆ ที่อยู่ในบริเวณสีเขียว
-
12:34 - 12:36ที่มีระดับความเสมอภาคสูง
-
12:36 - 12:40มีระดับสมรรถภาพสูง และมีผลลัพธ์ดีขึ้น ได้ยังไงล่ะ?
-
12:40 - 12:44และแน่นอนว่า คำถามคือ แล้วสิ่งที่ได้ผลในที่หนึ่ง
-
12:44 - 12:46จะเป็นต้นแบบให้ที่อื่นได้รึเปล่า?
-
12:46 - 12:50แน่นอน คุณไม่สามารถลอก
แล้วเอาระบบการศึกษาไปใช้ได้ทันที -
12:50 - 12:54แต่การเปรียบเทียบเหล่านี้ได้ระบุปัจจัยต่างๆ
-
12:54 - 12:57ที่ประเทศสมรรถภาพสูงต่างๆมีร่วมกัน
-
12:57 - 12:59ทุกคนเห็นด้วยว่าการศึกษาสำคัญ
-
12:59 - 13:01ทุกคนพูดแบบนั้น
-
13:01 - 13:05แต่ความจริงที่ต้องทดสอบก็คือว่า
-
13:05 - 13:07คุณจะให้น้ำหนักความสำคัญของสิ่งหนึ่ง
เหนืออีกสิ่งหนึ่งได้ยังไง? -
13:07 - 13:09ประเทศต่างๆจ่ายค่าจ้างครู
-
13:09 - 13:12โดยเชิงเปรียบเทียบกับ
อาชีพที่ต้องใช้ทักษะสูงอื่นๆ ยังไง? -
13:12 - 13:15แล้วคุณอยากจะให้ลูกของคุณเป็นครู
-
13:15 - 13:17มากกว่าเป็นทนายรึเปล่า?
-
13:17 - 13:19แล้วสื่อมีการพูดถึงโรงเรียนและครูยังไง?
-
13:19 - 13:21นั่นเป็นคำถามสำคัญ
และสิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก PISA ก็คือว่า -
13:21 - 13:25ในประเทศต่างๆที่มีสมรรถภาพการศึกษาสูง
-
13:25 - 13:29ในทุกวันนี้ ผู้นำได้โน้มน้าวให้พลเมืองของตัวเองเลือก
-
13:29 - 13:31ให้ความสำคัญกับการศึกษา ซึ่งเป็นอนาคตของพวกเขา
-
13:31 - 13:34มากกว่าการบริโภค
-
13:34 - 13:36และคุณรู้มั้ยว่าอะไรที่น่าสนใจ?
คุณจะไม่เชื่อหรอก -
13:36 - 13:39แต่มีหลายประเทศเลย ที่ศูนย์การค้าไม่ใช่ที่ๆ
-
13:39 - 13:42ดึงดูดผู้คนมากที่สุด แต่โรงเรียนต่างหากที่เป็นแบบนั้น
-
13:42 - 13:44สิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงๆ
-
13:44 - 13:46แต่การให้คุณค่ากับการศึกษามากๆ
-
13:46 - 13:49เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพ
-
13:49 - 13:52ส่วนอื่นๆคือความเชื่อที่ว่า เด็กทั้งหมด
-
13:52 - 13:55มีความสามารถที่จะประสบความสำเร็จ
-
13:55 - 13:57คุณมีบางประเทศที่นักเรียน
-
13:57 - 13:59ถูกแยกเป็นกลุ่มๆตั้งแต่ยังเล็กๆ
-
13:59 - 14:01คุณก็รู้ นักเรียนถูกแบ่งเป็นหมวดหมู่
-
14:01 - 14:04สะท้อนความเชื่อที่ว่า มีเพียงนักเรียนบางคนเท่านั้น
-
14:04 - 14:07ที่สามารถไปถึงมาตรฐานระดับโลกได้
-
14:07 - 14:11แต่โดยปกติแล้ว นี่มันเชื่อมโยงไปยัง
ความแตกต่างทางสังคมที่รุนแรง -
14:11 - 14:15ถ้าคุณไปญี่ปุ่น ในเอเชีย หรือ ฟินแลนด์ในยุโรป
-
14:15 - 14:17ผู้ปกครองและครูในประเทศเหล่านั้น
-
14:17 - 14:21คาดหวังให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จ
-
14:21 - 14:24และคุณจะเห็นสิ่งเหล่านั้น
สะท้อนออกมาในอุปนิสัยของนักเรียน -
14:24 - 14:27เมื่อเราถามนักเรียนว่า อะไรสำคัญ
-
14:27 - 14:30สำหรับความสำเร็จในวิชาเลข
-
14:30 - 14:32นักเรียนในอเมริกาเหนือโดยรวมๆจะตอบว่า
-
14:32 - 14:34มันเป็นเรื่องของพรสวรรค์ล้วนๆ
-
14:34 - 14:38ถ้าฉันไม่ได้เกิดมาเป็นอัจฉริยะในวิชาเลข
ฉันไปเรียนวิชาอื่นดีกว่า -
14:38 - 14:419 ใน 10 ของนักเรียนญี่ปุ่นตอบว่า
-
14:41 - 14:45มันขึ้นอยู่กับการลงทุนของฉันเอง
ความพยายามของฉันเอง -
14:45 - 14:50และนั่นก็บอกคุณได้มากมายเลย
เกี่ยวกับระบบที่อยู่รอบตัวพวกเขา -
14:50 - 14:55ในอดีต นักเรียนที่หลากหลายถูกสอนด้วยวิธีการที่เหมือนกัน
-
14:55 - 14:58ประเทศที่ทำได้ดีใน PISA รับรู้ความหลากหลาย
-
14:58 - 15:02ด้วยรูปแบบการสอนที่ออกแบบมาแตกต่างกันไป
-
15:02 - 15:04พวกเขาตระหนักว่า
-
15:04 - 15:07นักเรียนธรรมดาๆมีพรสวรรค์ที่พิเศษ
-
15:07 - 15:10และพวกเขาจัดโอกาสการเรียนรู้ให้เหมาะกับแต่ละคน
-
15:10 - 15:12ประเทศที่ทำได้ดียังมี
-
15:12 - 15:16มาตรฐานที่ชัดเจนและทะเยอทะยานครอบคลุมไปทั่วด้วย
-
15:16 - 15:18นักเรียนทุกคนรู้ว่าอะไรสำคัญ
-
15:18 - 15:22นักเรียนทุกคนรู้ว่าอะไรจำเป็นสำหรับการประสบความสำเร็จ
-
15:22 - 15:25และไม่มีที่ไหนเลยที่คุณภาพของระบบการศึกษา
-
15:25 - 15:28เหนือไปกว่าคุณภาพของครูในระบบ
-
15:28 - 15:31ประเทศที่ทำได้ดีระมัดระวังมาก
-
15:31 - 15:33ในการคัดเลือกและว่าจ้างครู
-
15:33 - 15:35และการฝีกฝนครูเหล่านั้น
-
15:35 - 15:37พวกเขาเฝ้าระวังการพัฒนาสมรรถนะของครู
-
15:37 - 15:40ที่ตกที่นั่งลำบากและต้องต่อสู้ดิ้นรน
-
15:40 - 15:43และการจัดโครงสร้างการจ่ายเงินให้ครู
-
15:43 - 15:46พวกเขาเตรียมสภาพแวดล้อมที่ครูทำงานร่วมกัน
-
15:46 - 15:50เพื่อสร้างวิธีการสอนที่ดี
-
15:50 - 15:54และพวกเขาเตรียมเส้นทางอันชาญฉลาดสำหรับครู
-
15:54 - 15:56เพื่อที่จะเติบโตในสายงานของพวกเขา
-
15:56 - 15:58ในระบบโรงเรียนแบบราชการ
-
15:58 - 16:00ครูมักจะถูกทิ้งไว้ลำพังในห้องเรียน
-
16:00 - 16:03กับข้อกำหนดมากมายว่าพวกเขาควรจะต้องสอนอะไร
-
16:03 - 16:06ประเทศที่ทำได้ดีมีความชัดเจนในเรื่องว่า
อะไรคือสมรรถภาพที่ดี -
16:06 - 16:09พวกเขาตั้งมาตรฐานที่สูง
-
16:09 - 16:11แต่พวกเขาก็ปล่อยให้ครูคิดว่า
-
16:11 - 16:15ฉันจะสอนอะไรนักเรียนดีนะวันนี้?
-
16:15 - 16:19การศึกษาในอดีตเป็นเรื่องของการนำส่งความรู้
-
16:19 - 16:25ตอนนี้ความท้าทายก็คือ การสร้างปัญญาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นเอง
-
16:25 - 16:28ประเทศที่ทำได้ดี ได้เคลื่อนจากรูปแบบเชิงวิชาชีพ
-
16:28 - 16:32และเชิงบริหาร ที่เน้นการตรวจสอบได้และการควบคุม
-
16:32 - 16:35ประมาณว่า คุณจะตรวจสอบว่า
คนเราได้ทำสิ่งที่ควรทำในการศึกษาหรือไม่ อย่างไร -
16:35 - 16:39ไปสู่รูปแบบเชิงวิชาชีพขององค์กรการทำงาน
-
16:39 - 16:43พวกเขาปล่อยให้ครูสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆในการสอนได้
-
16:43 - 16:45พวกเขาเตรียมรูปแบบการพัฒนาที่ครูต้องการ
-
16:45 - 16:49เพื่อพัฒนาวิธีการสอนที่ดียิ่งขึ้น
-
16:49 - 16:55เป้าหมายในอดีตคือการสร้างมาตรฐานและการทำตามแบบแผน
-
16:55 - 16:58ประเทศที่ทำได้ดีสร้างครูและครูใหญ่
-
16:58 - 17:01ให้เป็นนักประดิษฐ์
-
17:01 - 17:04ในอดีต นโยบายเพ่งเล็งไปที่ผลลัพธ์
-
17:04 - 17:06และการทำตามข้อกำหนด
-
17:06 - 17:09ประเทศที่ทำได้ดีได้ช่วยครูและครูใหญ่
-
17:09 - 17:11มองออกไปยังครูคนถัดไป
-
17:11 - 17:14โรงเรียนถัดไป ในชีวิตของพวกเขา
-
17:14 - 17:16และผลลัพธ์ที่น่าประทับใจที่สุด
ของระบบที่ได้มาตรฐานระดับโลก -
17:16 - 17:19ก็คือว่า พวกเขามีสมรรถภาพสูงทั้งระบบ
-
17:19 - 17:21คุณเห็นว่าฟินแลนด์ทำได้ดีใน PISA
-
17:21 - 17:23แต่สิ่งที่ทำให้ฟินแลนด์ดูน่าประทับใจมาก
-
17:23 - 17:27ก็คือ การที่มีความแตกต่างของสมรรถนะเพียง 5 เปอร์เซ็นต์
-
17:27 - 17:29ระหว่างนักเรียนในโรงเรียนที่แตกต่างกัน
-
17:29 - 17:32ทุกโรงเรียนประสบความสำเร็จ
-
17:32 - 17:34นี่เป็นที่ๆความสำเร็จเป็นไปอย่างมีระบบ
-
17:34 - 17:36แล้วพวกเขาทำยังไงล่ะ?
-
17:36 - 17:39พวกเขาลงทุนทรัพยากรลงไปในที่ๆ
พวกเขาสามารถสร้างความแตกต่างได้สูงสุด -
17:39 - 17:44พวกเขาดึงครูใหญ่ที่เก่งที่สุดไปที่โรงเรียนที่ยากที่สุด
-
17:44 - 17:46และครูที่มีพรสวรรค์ที่สุด
-
17:46 - 17:48ไปยังห้องเรียนที่ท้าทายที่สุด
-
17:48 - 17:51สุดท้ายแต่ไม่ท้ายที่สุด
ประเทศเหล่านี้จัดวางนโยบาย -
17:51 - 17:53ให้สอดคล้องกับนโยบายสาธารณะทุกด้าน
-
17:53 - 17:57พวกเขาทำให้มันสอดคล้องกันได้เป็นเวลายาวนาน
-
17:57 - 18:01และพวกเขาทำให้แน่ใจว่า สิ่งที่พวกเขาทำ
ได้รับการนำไปปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ -
18:01 - 18:04เอาล่ะ การได้รู้ว่าระบบที่ประสบความสำเร็จกำลังทำอะไรอยู่
-
18:04 - 18:06ยังไม่ได้บอกเราเลยว่า เราจะปรับปรุงได้ยังไง
-
18:06 - 18:09นั่นเป็นความชัดเจน และเป็นข้อจำกัดบางอย่าง
-
18:09 - 18:12ของการเปรียบเทียบระหว่างประเทศของ PISA
-
18:12 - 18:15นั่นเป็นจุดที่งานวิจัยรูปแบบอื่นๆจะต้องเข้ามาตอบ
-
18:15 - 18:17และนั่นยังเป็นเหตุผลด้วยว่า ทำไม PISA ไม่ได้เข้าไป
-
18:17 - 18:19บอกประเทศต่างๆว่า พวกเขาควรจะทำอะไร
-
18:19 - 18:21แต่ข้อดีของมันก็คือ มันบอกประเทศต่างๆ
-
18:21 - 18:24ว่าคนอื่นๆกำลังทำอะไรอยู่
-
18:24 - 18:26และตัวอย่างของ PISA แสดงให้เห็นว่า
-
18:26 - 18:29ข้อมูลสามารถมีอำนาจเหนือ
การควบคุมการบริหารเงินอุดหนุน -
18:29 - 18:33ที่พวกเรากำลังทำอยู่ในระบบการศึกษา
-
18:33 - 18:36บางคนแย้งว่า
-
18:36 - 18:38การเปลี่ยนแปลงการบริหารการศึกษา
-
18:38 - 18:41ก็เหมือนการย้ายสุสาน
-
18:41 - 18:46คุณไม่สามารถอาศัยคนในนั้นให้ช่วยคุณได้
(เสียงหัวเราะ) -
18:46 - 18:51แต่ PISA ได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการศึกษา
-
18:51 - 18:54มันได้ช่วยให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า
การปรับปรุงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ -
18:54 - 18:59มันได้ลบล้างข้ออ้างจากพวกที่พอใจในสิ่งเดิมๆ
-
18:59 - 19:02และมันได้ช่วยประเทศต่างๆ ตั้งเป้าหมายอย่างมีนัยยะ
-
19:02 - 19:05ในเชิงเป้าหมายที่วัดได้ ที่ทำกันมาแล้วโดยผู้นำในโลก
-
19:05 - 19:10ถ้าเราช่วยเด็กทุกคน ครูทุกคน โรงเรียนทุกโรงเรียน
-
19:10 - 19:13ครูใหญ่ทุกคน ผู้ปกครองทุกคน ให้เห็นว่า
การปรับปรุงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ -
19:13 - 19:16และมีเพียงท้องฟ้าที่เป็นขีดจำกัดการพัฒนาการศึกษา
-
19:16 - 19:18เราก็ได้สร้างรากฐาน
-
19:18 - 19:20สำหรับนโยบายที่ดีกว่าและชีวิตที่ดีกว่าเอาไว้แล้ว
-
19:20 - 19:23ขอบคุณครับ
-
19:23 - 19:27(เสียงปรบมือ)
- Title:
- แอนเดรียส์ ชไลเชอร์ (Andreas Schleicher): ใช้ข้อมูลสร้างโรงเรียนที่ดีกว่า
- Speaker:
- Andreas Schleicher
- Description:
-
เราจะวัดว่าอะไรที่ทำให้ระบบโรงเรียนทำงานได้ผลได้อย่างไร? แอนเดรียส์ ชไลเชอร์ พาเราชมการวัดผลแบบ PISA (โครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ) ที่วัดผลโดยการนำเอาประเทศต่างๆมาจัดอันดับเปรียบเทียบกัน แล้วใช้ข้อมูลเดียวกันนั้นช่วยโรงเรียนต่างๆปรับปรุง มาดูกันว่าประเทศของคุณอยู่ในกลุ่มไหน และมาเรียนรู้ปัจจัยหนึ่งเดียวที่ทำให้บางประเทศมีสมรรถภาพเหนือกว่าประเทศอื่นๆ
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 19:47
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for Use data to build better schools | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for Use data to build better schools | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for Use data to build better schools | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna accepted Thai subtitles for Use data to build better schools | ||
Chatthip Chaichakan commented on Thai subtitles for Use data to build better schools | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna declined Thai subtitles for Use data to build better schools | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna commented on Thai subtitles for Use data to build better schools | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for Use data to build better schools |