อี โอ วิลสัน (E.O. Wilson): คำแนะนำสำหรับนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์
-
0:02 - 0:04สิ่งที่ผมจะทำก็คือให้ข้อสังเกตสองสามข้อ
-
0:04 - 0:08จากหนังสือเล่มที่ผมกำลังเขียน ชื่อว่า
-
0:08 - 0:11"จดหมายถึงนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์"
-
0:11 - 0:13ผมได้คิดแล้วว่าน่าจะเหมาะสม
-
0:13 - 0:18ที่จะนำเสนอเรื่องนี้ บนพื้นฐานที่ว่าผมมีประสบการณ์ที่กว้างขวาง
-
0:18 - 0:21ในการสอน การให้คำปรึกษา
แก่นักวิทยาศาสตร์โดยตลอดในสาขาต่างๆ -
0:21 - 0:27และคุณคงอยากจะฟังหลักเกณฑ์บางอย่าง
ที่ผมได้พัฒนาขึ้น -
0:27 - 0:29จากการสอนและการให้คำปรึกษานั้น
-
0:29 - 0:31ผมจึงขอเริ่มต้นด้วยการกระตุ้นคุณ
-
0:31 - 0:34โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านที่ยังเยาว์วัยอยู่
-
0:34 - 0:36บนวิถีทางที่คุณได้เลือกแล้วนี้
-
0:36 - 0:38จงไปให้ก้าวไกลที่สุดเท่าที่คุณสามารถทำได้
-
0:38 - 0:41โลกต้องการคุณ อย่างมากมายเหลือเกิน
-
0:41 - 0:46ปัจจุบันมนุษยชาติอยู่ในยุคของ
วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีอย่างเต็มที่ -
0:46 - 0:48จะไม่มีการกลับไปเหมือนอย่างเก่าอีกแล้ว
-
0:48 - 0:53แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันระหว่างสาขาวิชาต่างๆ
เช่นสาขาวิชาดาราศาสตร์ -
0:53 - 0:57พันธุศาสตร์ระดับโมเลกุล ภูมิคุ้มกันวิทยา จุลชีววิทยา
-
0:57 - 1:03การสาธารณสุข จนถึงสาขาใหม่ของร่างกายคนคือ
การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิต (symbiont) -
1:03 - 1:06จนถึงการสาธารณสุข วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
-
1:06 - 1:09ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ และวิทยาศาสตร์โดยรวม
-
1:09 - 1:12เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุกๆ 15 ถึง 20 ปี
-
1:12 - 1:15เทคโนโลยีก็กำลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่ทัดเทียมกัน
-
1:15 - 1:18ศาสตร์ทั้งสองนั้น
-
1:18 - 1:21อย่างที่ท่านในที่นี้ส่วนมากก็ตระหนักดี
-
1:21 - 1:23ได้เข้ามามีบทบาทในทุกๆมิติของชีวิตมนุษย์
-
1:23 - 1:29การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เป็นไปอย่างฉับไวมาก -
1:29 - 1:33การเปลี่ยนในทิศทางของมันน่าตกใจมาก
จนไม่มีผู้ใดสามารถคาดเดาได้ -
1:33 - 1:38ถึงผลของมันแม้แค่หนึ่งทศวรรษจากนี้ไป
-
1:38 - 1:39แน่นอนมันจะถึงเวลา
-
1:39 - 1:43ที่การค้นพบและความรู้ที่เพิ่มขึ้นๆอย่างรวดเร็วนี้
-
1:43 - 1:45ซึ่งจริงๆได้เริ่มเกิดขึ้นแล้วในศตวรรษที่ 17
-
1:45 - 1:48ต้องถึงจุดสูงสุดและหยุดอยู่ในระดับคงที่
-
1:48 - 1:49แต่นั่นไม่ได้มีความสำคัญต่อคุณ
-
1:49 - 1:51การเปลี่ยนแปลงนี้จะยังคงต่อเนื่องไป
-
1:51 - 1:54อย่างน้อยที่สุดเป็นเวลาอีกหลายทศวรรต
-
1:54 - 1:55มันจะช่วยให้สภาวะของมนุษยชาติ
-
1:55 - 1:58แตกต่างไปอย่างมากทีเดียว จากที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
-
1:58 - 2:04สาขาวิชาต่างๆที่มีอยู่เดิมจะยังคงเติบโตต่อไป
-
2:04 - 2:09และเมื่อเป็นเช่นนั้น นักวิทยาศาสตร์ก็จะพบ
และสร้างวิชาความรู้ใหม่ๆขึ้นมาอีกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ -
2:09 - 2:13เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง วิทยาศาสตร์ทั้งหมดก็จะกลายเป็น
-
2:13 - 2:18ลำดับที่ต่อเนื่องของคำบรรยาย คำอธิบายของเครือข่าย
และของกฎระเบียบและกฎหมาย -
2:18 - 2:21และนั่นคือ ทำไมคุณจึงจำต้องไม่เพียงแค่ฝึกฝน
-
2:21 - 2:26ให้มีความชำนาญพิเศษในเรื่องหนึ่ง
แต่ยังต้องเรียนรู้อย่างกว้างขวางในสาขาอื่นๆด้วย -
2:26 - 2:29ทั้งที่สัมพันธ์กัน และแม้จะห่างจากความชำนาญพิเศษ
อย่างแรกของคุณก็ตาม -
2:29 - 2:33เปิดตาของคุณไว้และเหลียวมองไปรอบๆตัวคุณไว้
-
2:33 - 2:37การค้นหาความรู้อยู่ในยีนของพวกเรา
-
2:37 - 2:40มันถูกใส่ไว้ในนั้นโดยบรรพบุรุษของเราเนิ่นนานมาแล้ว
-
2:40 - 2:42บรรพบุรุษของเราซึ่งกระจายอยู่ทั่วโลก
-
2:42 - 2:43และยีนก็จะไม่ถูกทำให้หมดไป
-
2:43 - 2:47ดังนั้นเพื่อที่จะเข้าใจและใช้มันอย่างมีสติ
-
2:47 - 2:50ให้เป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรมที่ยังคงวิวัฒนาการอยู่
-
2:50 - 2:56เราจำต้องมีประชากรที่ได้รับการฝึกฝนทางวิทยาศาสตร์
เหมือนอย่างท่านเพิ่มขึ้นมากๆ -
2:56 - 3:00ในทางการศึกษา การแพทย์ กฎหมาย และการทูต
-
3:00 - 3:05รัฐบาล ธุรกิจและสื่อสารมวลชนที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้
-
3:05 - 3:10ผู้นำทางการเมืองของเรา อย่างน้อยที่สุดจำต้องมีระดับความรู้
ทางวิทยาศาสตร์อย่างพอเพียง -
3:10 - 3:13ซึ่งปัจจุบันยังขาดอยู่อย่างมากที่สุด
-
3:13 - 3:14กรุณาอย่าเพิ่งปรบมือครับ
-
3:14 - 3:17มันจะดียิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
-
3:17 - 3:21ถ้าพวกเขาเตรียมตัวไว้ให้พร้อมก่อนเข้ารับหน้าที่
แทนที่จะมาเรียนรู้เอาในช่วงที่เข้าไปทำงานแล้ว -
3:21 - 3:25ดังนั้นจะดีสำหรับคุณ ที่จะปฏิบัติงานรองควบคู่ไปกับงานหลัก
-
3:25 - 3:27ไม่ว่าคุณจะปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ
มานานแค่ไหน -
3:27 - 3:31คุณอาจออกไปทำงานในฐานะเป็นครู
-
3:31 - 3:33ในระหว่างการประกอบอาชีพของคุณ
-
3:33 - 3:35ตอนนี้ผมจะไปอย่างเร็วนะครับ
-
3:35 - 3:38และก่อนที่จะพูดถึงสิ่งอื่น
ก็จะพูดถึงเรื่องที่เป็นทั้งสิ่งมีค่าที่ขาดเสียไม่ได้ -
3:38 - 3:41และน่าจะเป็นอุปสรรคต่องานอาชีพด้านวิทยาศาสตร์
-
3:41 - 3:45ถ้าคุณไม่ค่อยมีทักษะด้านคณิตศาสตร์
-
3:45 - 3:46ก็ไม่ต้องกังวลหรอกครับ
-
3:46 - 3:49นักวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากหลายคน
-
3:49 - 3:53ที่ทำงานอยู่ในปัจจุบันนี้
เป็นคนที่มีความรู้คณิตศาสตร์ครึ่งๆกลางๆ -
3:53 - 3:55ตรงนี้อาจจะอุปมาได้ว่า
-
3:55 - 4:01ขณะที่นักคณิตศาสตร์ นักสถิติและนักทฤษฎีชั้นยอด
-
4:01 - 4:06ทำหน้าที่เป็นสถาปนิกในขอบเขตวิทยาศาสตร์
ที่กำลังขยายออกไป -
4:06 - 4:10นักวิทยาศาสตร์ประยุกต์ทั่วๆไปจำนวนมากที่เหลือ
-
4:10 - 4:15ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่คนจำนวนมาก
-
4:15 - 4:20ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นคนระดับเลิศ
เป็นผู้ซึ่งเขียนแผนที่ในสายงานของเขา เป็นผู้ออกสำรวจ -
4:20 - 4:23เป็นแนวหน้า ผู้ตัดเส้นทาง
-
4:23 - 4:26พวกเขาจัดสร้างอาคารตามเส้นทางนั้น
-
4:26 - 4:29บางท่านอาจเห็นว่าผมเป็นคนชอบเสี่ยง
-
4:29 - 4:33แต่มันได้เป็นอุปนิสัยของผมไปแล้ว
ที่จะปัดความกลัวคณิตศาสตร์ทิ้งไป -
4:33 - 4:35เมื่อได้คุยกับคนที่สมัครเข้ามาเป็นนักวิทยาศาสตร์
-
4:35 - 4:38ตลอดเวลา 41 ปีของการสอนชีววิทยาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
-
4:38 - 4:43ผมเฝ้าดูอย่างเศร้าๆเมื่อนักศึกษาที่ฉลาดหันหลัง
-
4:43 - 4:45ให้กับโอกาสที่เป็นไปได้ของงานอาชีพด้านวิทยาศาสตร์
-
4:45 - 4:49หรือไม่เลือกที่จะเรียนวิชาเลือกที่เป็นวิทยาศาสตร์
-
4:49 - 4:51เพราะว่าพวกเขากลัวที่จะล้มเหลว
-
4:51 - 4:54โรคกลัวคณิตศาสตร์กีดกั้นวิทยาศาสตร์และการแพทย์
-
4:54 - 4:58จากคนที่มีพรสวรรค์จำนวนนับไม่ถ้วน
ที่เราต้องการอย่างเหลือเกิน -
4:58 - 5:02นี่เป็นวิธีผ่อนคลายความเครียดต่างๆของคุณ
ถ้าคุณเครียด -
5:02 - 5:04โปรดเข้าใจว่า คณิตศาสตร์เป็นภาษาอย่างหนึ่ง
-
5:04 - 5:08ซึ่งมีกฎเกณฑ์เหมือนกับภาษาต่างๆที่ใช้พูดกัน
-
5:08 - 5:11หรือโดยทั่วไปก็เหมือนกับภาษาพูด โดยหลักไวยากรณ์
-
5:11 - 5:13และโดยระบบที่มีตรรกะ
-
5:13 - 5:16ผู้ใดก็ตามที่มีความฉลาดในระดับปกติ
-
5:16 - 5:19ผู้ที่เรียนอ่านและเขียนคณิตศาสตร์ได้
-
5:19 - 5:26ในระดับประถมศึกษา ก็จะรู้สึกยากอยู่บ้างเล็กน้อย
เหมือนกับการเรียนภาษาพูด -
5:26 - 5:28ที่เราจะค่อยๆจดจำกฎเกณฑ์พื้นฐานส่วนมาก
-
5:28 - 5:33ถ้าพวกเขาเลือกที่จะเรียนรู้วิธีการพูดคณิตศาสตร์ที่ชัดเจน
ในวิชาวิทยาศาสตร์ส่วนมาก -
5:33 - 5:37ยิ่งถ้ารอจนกลายเป็นคนรู้แค่ครึ่งๆกลางๆนานมากขึ้นเท่าใด
-
5:37 - 5:43ก็จะยิ่งยากที่จะเรียนภาษาคณิตศาสตร์จนสามารถใช้การได้
เฉกเช่นนั้น ก็เหมือนกับภาษาพูด -
5:43 - 5:46แต่สามารถเรียนได้ไม่ว่าอายุจะเท่าใดก็ตาม
-
5:46 - 5:48ผมพูดในฐานะเป็นผู้ชำนาญการในกรณีนั้น
-
5:48 - 5:51เพราะว่าผมนี่อาการหนักสุด
-
5:51 - 5:55ผมไม่ได้เรียนวิชาพีชคณิต จนกระทั่งมาอยู่ปีหนึ่ง
-
5:55 - 5:57ที่มหาวิทยาลัยอลาบามา
-
5:57 - 5:59ก่อนหน้านั้นเขาไม่ได้สอนวิชานี้กัน
-
5:59 - 6:04ในที่สุดผมก็มาเรียนวิชาแคลคูลัส เมื่ออายุ 32 ปี
เป็นศาสตราจารย์ประจำฮาร์วาร์ด -
6:04 - 6:09ซึ่งผมนั่งเรียนอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก
ในชั้นเรียนกับนักศึกษาปริญญาตรี -
6:09 - 6:11อายุมากกว่าครึ่งชีวิตผมหน่อยเดียว
-
6:11 - 6:13สองคนในนั้นเป็นนักศึกษา
-
6:13 - 6:16ในวิชาวิวัฒนาการที่ผมกำลังสอนเขาอยู่
-
6:16 - 6:21ผมต้องกลํ้ากลืนความทนงของผมไว้
และเรียนวิชาแคลคูลัส -
6:21 - 6:24ผมพบว่าวิทยาศาสตร์และการนำไปใช้ทั้งหมดนั้น
-
6:24 - 6:28สิ่งที่สำคัญมาก ไม่ใช่ความสามารถทางเทคนิค
-
6:28 - 6:32แต่มันเป็นจินตนาการของการนำไปใช้
-
6:32 - 6:36ความสามารถในการสร้างความคิดรวบยอด
ด้วยรูปลักษณ์และกระบวนการ -
6:36 - 6:39ถูกจินตนาการขึ้นด้วยสัญชาติญาณ
-
6:39 - 6:43ผมพบว่าความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์นั้น
ยากที่จะมาจากผู้จัดสอนหรือบอกต่อ -
6:43 - 6:46หรือจากคนที่ความสามารถยืนสอนที่กระดานดำ
-
6:46 - 6:49และเล่นกลวาดรูป พิสูจน์และคลี่คลายปัญหาคณิตศาสตร์
-
6:49 - 6:51และสมการต่างๆ
-
6:51 - 6:57แต่มันเป็นผลมาจากจินตนาการของผู้ที่เข้ามาหาศึกษาหาความรู้
ซึ่งจะนำไปสู่การทำงานอย่างแข็งขัน -
6:57 - 7:01ซึ่งในช่วงนั้น อาจจำเป็นต้องนำการใช้เหตุผลทางคณิตศาสตร์
มาใช้หรือไม่ก็ได้ -
7:01 - 7:06ความคิดผุดออกมาเมื่อส่วนของโลกที่เป็นจริง
หรือที่จินตนาการไว้ถูกนำมาศึกษา -
7:06 - 7:08เพื่อคุณค่าของตัวมันเอง
-
7:08 - 7:13ความสำคัญอย่างที่สุดก็คือ
ความรู้ที่ได้ถูกประมวลไว้แล้วอย่างดีและถี่ถ้วน -
7:13 - 7:20ในเรื่องทั้งหมดซึ่งรู้กันแล้วเกี่ยวกับกระบวนการและสิ่งต่างๆ
-
7:20 - 7:22ที่อาจนำเข้ามาเกี่ยวข้องในสิ่งที่คุณตั้งใจจะเข้าไปศึกษา
-
7:22 - 7:24เมื่อเรื่องใหม่ถูกค้นพบขึ้น
-
7:24 - 7:29มันก็เป็นไปตามตรรกะที่ ขั้นตอนต่อไปก็คือ
-
7:29 - 7:33หาวิธีการทางคณิตศาสตร์และสถิติ
เพื่อที่จะทำการวิเคราะห์ต่อไป -
7:33 - 7:35ถ้าปรากฎว่าขั้นตอนดังกล่าวนั้นยากเกินไป
-
7:35 - 7:39สำหรับคนหรือทีมงานที่ค้นพบเรื่องนั้น
-
7:39 - 7:45พวกเขาก็สามารถที่จะเอานักคณิตศาสตร์
-
7:45 - 7:47เข้าไปเป็นผู้ร่วมงานเพิ่มได้
-
7:47 - 7:49ลองมาพิจารณาหลักการต่อไปนี้
-
7:49 - 7:54ที่ผมจะเรียกอย่างถ่อมตนว่า หลักการข้อที่หนึ่งของวิลสัน
-
7:54 - 7:59เป็นเรื่องง่ายกว่าอย่างมากสำหรับนักวิทยาศาสตร์
-
7:59 - 8:03รวมทั้งนักวิจัยทางการแพทย์ ที่จะได้ผู้ร่วมงาน
-
8:03 - 8:06ด้านคณิตศาสตร์และสถิติที่เขาต้องการ
-
8:06 - 8:09ง่ายกว่าการที่นักคณิตศาสตร์และนักสถิติ
-
8:09 - 8:13จะพบนักวิทยาศาสตร์
ที่จะสามารถใช้สูตรสมการต่างๆของพวกเขาได้ -
8:13 - 8:17ในเรื่องวิทยาศาสตร์นั่นการเลือกทิศทางที่จะไปเป็นสิ่งสำคัญใน
-
8:17 - 8:23เพื่อให้พบหัวเรื่องที่คุณสนใจอย่างลํ้าลึก ในระดับความสามารถของคุณ
-
8:23 - 8:25และมุ่งความสำคัญไปที่สิ่งนั้น
-
8:25 - 8:29แล้วต้องคำนึงถึง หลักการข้อที่สองของวิลสัน
-
8:29 - 8:34คือ นักวิทยาศาสตร์แต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นนักวิจัย หรือช่างเทคนิค
-
8:34 - 8:37ครู ผู้จัดการ หรือนักธุรกิจ
-
8:37 - 8:41ทำงานในระดับความสามารถทางคณิตศาสตร์ใดๆก็ตาม
-
8:41 - 8:45มันมีระเบียบทางวิทยาศาสตร์หรือทางการแพทย์อยู่ข้อหนึ่ง
-
8:45 - 8:48ซึ่งบอกไว้ว่าที่ระดับนั้นแหละ
ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้บรรลุผลได้อย่างยอดเยี่ยม -
8:48 - 8:51เอาละ ตอนนี้ผมจะนำเสนอไปอย่างเร็ว
-
8:51 - 8:53อีกหลายๆหลักการที่จะมีประโยชน์
-
8:53 - 8:56ที่จะจัดระเบียบการศึกษาและงานอาชีพของคุณ
-
8:56 - 9:01หรือ ถ้าคุณสอนหนังสือ คุณก็อาจจะ
-
9:01 - 9:05พัฒนาการสอนของคุณและให้คำปรึกษา
แก่นักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ได้อย่างไร -
9:05 - 9:09ในการเลือกเรื่องที่จะทำการวิจัยเรื่องใหม่
-
9:09 - 9:12หรือในการพัฒนาความเชี่ยวชาญระดับโลกนั้น
-
9:12 - 9:18ให้เลือกทำในส่วนของเนื้อหาวิชาที่มีคนทำไม่มาก
-
9:18 - 9:22พิจารณาโอกาสได้จาก
จำนวนนักศึกษาและนักวิจัยคนอื่นๆว่ามีน้อยแค่ไหน -
9:22 - 9:24ที่จะเข้ามาช่วยเราได้
-
9:24 - 9:28ที่กล่าวมานี้ ไม่ได้ลดความสำคัญที่ขาดไม่ได้
-
9:28 - 9:31ในเรื่องของการฝึกฝนอย่างกว้างขวาง
หรือคุณค่าของการฝึกฝนตนเอง -
9:31 - 9:36ในงานวิจัยที่กำลังดำเนินอยู่ในโครงการวิจัยที่มีคุณภาพสูง
-
9:36 - 9:40สำคัญด้วยว่าต้องได้ที่ปรึกษาที่อาวุโสกว่าคุณ
จากโครงการที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ -
9:40 - 9:44และสร้างมิตรภาพกับเพื่อนและผู้ร่วมงานในวัยเดียวกับคุณ
-
9:44 - 9:46เพื่อให้เกิดการสนับสนุนช่วยหลือกัน
-
9:46 - 9:49แต่ระหว่างนั้น ให้มองหาวิธีที่จะแตกต่างออกไป
-
9:49 - 9:53เพื่อให้พบสาขาและเนื้อหาที่ยังไม่มีคนรู้จักกันมากนัก
-
9:53 - 9:56เราได้เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นเป็นตัวอย่างแล้ว
ในการบรรยายก่อนหน้าการบรรยายของผมนี้ -
9:56 - 10:02มีวิธีที่รวดเร็วที่สุด ซึ่งความก้าวหน้าในการงานน่าจะเกิดขึ้น
-
10:02 - 10:05ซึ่งวัดได้จาก การค้นพบที่เกิดขึ้นต่อผู้วิจัยต่อปี
-
10:05 - 10:07คุณคงเคยได้ยิน
-
10:07 - 10:11สุภาษิตทางการทหารในการรวบรวมกำลังพลกล่าวว่า
-
10:11 - 10:13ให้รีบเดินไปสู่เสียงปืน
-
10:13 - 10:20แต่ในทางวิทยาศาสตร์กลับทำตรงกันข้ามกับเรื่องนี้
นั่นคือ ให้เดินออกไปเสียจากเสียงปืน -
10:20 - 10:22ดังนั้นหลักการข้อที่สามของวิลสันคือ
-
10:22 - 10:26ให้เดินออกไปจากเสียงปืน
-
10:26 - 10:28ให้เฝ้าสังเกตดูจากที่ไกลๆ
-
10:28 - 10:30แต่ไม่เข้าไปร่วมในการสู้รบ
-
10:30 - 10:32ให้ทำการต่อสู้ของตนเอง
-
10:32 - 10:36เมื่อใดก็ตามที่คุณเลือกความชำนาญพิเศษได้แล้ว
-
10:36 - 10:42และวิชาชีพที่คุณรัก และเมื่อคุณได้ทำให้มันมั่นคงแล้ว
-
10:42 - 10:47ศักยภาพในความสำเร็จของคุณก็จะเพิ่มพูนขึ้นได้อย่างมาก
เมื่อคุณศึกษามัน -
10:47 - 10:50อย่างเพียงพอที่จะทำให้คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญได้
-
10:50 - 10:53มีวิชาการต่างๆมากมายหลายพันที่ไม่มีขีดจำกัดเชิงวิชาชีพ
-
10:53 - 10:55ที่ประโปรยอยู่ทั่วไปในสาขาวิชาฟิสิกส์ วิชาเคมี
-
10:55 - 10:57จนถึง สาขาชีววิทยาและแพทย์ศาสตร์
-
10:57 - 11:00และแล้วก็เข้าไปถึงสังคมศาสตร์
-
11:00 - 11:03ซึ่งมันเป็นไปได้ในช่วงเวลาสั้นๆที่จะไปให้ได้ถึง
-
11:03 - 11:06สถานะของผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ
-
11:06 - 11:10เมื่อเรื่องนั้นยังคงมีคนทำอยู่น้อยมาก
-
11:10 - 11:12ตัวคุณที่มาพร้อมกับความขยันหมั่นเพียร
และทำงานอย่างขันแข็งก็จะสามารถ -
11:12 - 11:14เป็นผู้ที่รอบรู้ระดับโลกได้
-
11:14 - 11:18โลกต้องการผู้เชี่ยวชาญอย่างนี้มาก
-
11:18 - 11:20และโลกก็ให้รางวัลคน
-
11:20 - 11:23ประเภทที่เต็มใจที่จะเรียนรู้จนได้ความสามารถนี้ไว้
-
11:23 - 11:27ข้อมูลที่มีอยู่และสิ่งที่คุณค้นพบเอง
-
11:27 - 11:31ตอนแรกอาจจะดูเหมือนมีไม่มากพอ
และดูเหมือนยากที่จะเชื่อมต่อ -
11:31 - 11:33กับความรู้อื่นๆที่มีอยู่
-
11:33 - 11:35เอาละ ถ้ามันเป็นกรณีนี้
-
11:35 - 11:39ก็ดีแล้ว ทำไมจึงทำให้ยาก แทนที่จะทำให้ง่ายเล่า
-
11:39 - 11:44คำตอบนี้เหมาะสมที่เอามาเป็น หลักการหมายเลขสี่
-
11:44 - 11:48ในความพยายามที่จะค้นพบเรื่องใหม่ๆทางวิทยาศาสตร์
-
11:48 - 11:50ทุกๆปัญหาเป็นโอกาส
-
11:50 - 11:51และถ้าปัญหายิ่งยากเท่าใด
-
11:51 - 11:54ความสำคัญของการแก้ปัญหาก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
-
11:54 - 11:58เรื่องนี้นำเราเข้าไปถึงหมวดพื้นฐาน
-
11:58 - 12:01ของวิธีค้นพบทางวิทยาศาสตรที่ทำกันมา
-
12:01 - 12:04นักวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็มีนักคณิตศาสตร์บริสุทธ์ิรวมอยู่ด้วย
-
12:04 - 12:07ให้ปฏิบัติตามแนวทางใดทางหนึ่งในสองทางนี้
-
12:07 - 12:09แนวทางแรก จากสิ่งที่ได้ค้นพบมาก่อน
-
12:09 - 12:11ด้วยการระบุปัญหา
-
12:11 - 12:13แล้วก็หาวิธีการแก้ปัญหา
-
12:13 - 12:16ปัญหานั้นอาจจะค่อนข้างเล็ก
-
12:16 - 12:21ตัวอย่างเช่น เมื่อใดแน่ที่เชื้อโนโรไวรัส
เริ่มแพร่กระจายในเรือสำราญ -
12:21 - 12:27หรือปัญหาที่ใหญ่ เช่น บทบาทของสสารมืด
ในการขยายตัวของจักรวาลคืออะไร -
12:27 - 12:32ขณะที่หาคำตอบนั้นอยู่
ปรากฏการณ์อื่นๆก็จะถูกค้นพบขึ้นได้ตามปกติ -
12:32 - 12:33และคำถามอื่นๆก็จะเกิดขึ้น
-
12:33 - 12:36กลยุุทธ์อย่างแรกในสองกลยุธ์นี้ ก็เหมือนกับนายพราน
-
12:36 - 12:40ที่ออกป่าเพื่อตามหาสัตว์ที่กำลังล่าตัวหนึ่ง
-
12:40 - 12:43แล้วนายพรานก็พบสัตว์ตัวอื่นๆในระหว่างทาง
-
12:43 - 12:46กลยุทธ์ที่สองของการวิจัย
-
12:46 - 12:48คือศึกษาเรื่องหนึ่งอย่างกว้างๆ
-
12:48 - 12:53เพื่อหาปรากฏการณ์ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก
หรือหารูปแบบของปรากฏการณ์ที่รู้กันอยู่แล้ว -
12:53 - 12:57เช่นเรื่องของนายพรานที่อยู่ในสภาวะที่เรียกว่า
"สภาวะงงงันของนักธรรมชาตินิยม (the naturalist's trance)" -
12:57 - 13:00ในสภาวะนั้นจิตใจของนักวิจัย
จะเปิดอยู่ตลอดเวลาสำหรับทุกอย่างที่น่าสนใจ -
13:00 - 13:02สัตว์ตัวไหนก็ได้ที่สมควรจะล่า
-
13:02 - 13:04การค้นหาไม่ใช่เพื่อหาวิธีแก้ปัญหานั้น
-
13:04 - 13:07แต่เพื่อตัวปัญหาที่เกิดขึ้นเอง ที่ควรค่าแก่การได้รับคำตอบ
-
13:07 - 13:09กลยุทธ์ทั้งสองของการวิจัยนี้
-
13:09 - 13:12สำหรับการวิจัยใหม่ สามารถกล่าวได้ดังนี้
-
13:12 - 13:17หลักการข้อสุดท้าย ผมจะเสนอคุณว่า
-
13:17 - 13:21ทุกๆปัญหาในสาขาวิทยาศาสตร์ที่เราทำงานอยู่
-
13:21 - 13:24มีสปีซีส์ต่างๆ หรือไม่ก็สรรพสิ่ง หรือปรากฏการณ์
-
13:24 - 13:26ที่เหมาะอย่างยิ่งที่จะแสวงหาคำตอบ
-
13:26 - 13:32และในทางกลับกัน ทุกๆสปีซีส์ หรือสรรพสิ่งอื่น
-
13:32 - 13:35หรือปรากฏการณ์ ก็จะมีปัญหาที่สำคัญอยู่
-
13:35 - 13:42เพื่อรอการให้คำตอบ
ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำสิ่งเหล่านั้นมาวิจัย -
13:42 - 13:44จงหาให้พบว่า เรื่องเหล่านั้นคืออะไร
-
13:44 - 13:47แล้วคุณจะพบวิธีการของตนเองเพื่อที่จะค้นพบ
-
13:47 - 13:50เพื่อเรียนรู้ เพื่อสอน
-
13:50 - 13:53อีกหลายๆทศวรรษข้างหน้า
เราจะเห็นความก้าวหน้าอย่างมากมาย -
13:53 - 13:58ในการป้องกันเชื้อโรค สุขภาพโดยทั่วไป คุณภาพชีวิต
-
13:58 - 14:04มนุษยชาติทั้งมวลต้องพึ่งพาความรู้
และวิธีปฏิบัติทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ -
14:04 - 14:05ที่อยู่เบื้องหลังความรู้ซึ่งคุณจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ
-
14:05 - 14:09คุณได้ตามเสียงเรียกของใจ ซึ่งมันจะนำ
-
14:09 - 14:14ความพึงพอใจเข้ามาให้คุณอย่างเป็นขั้นตอน
เพื่อเป็นบทสรุปของชีวิตที่ดี -
14:14 - 14:17และขอขอบคุณท่านทั้งหลายที่ให้ผมมาที่นี่ในคืนนี้
-
14:17 - 14:22(เสียงปรบมือ)
-
14:22 - 14:23ขอบคุณครับ
-
14:23 - 14:30ขอบคุณมากครับ
-
14:30 - 14:35ด้วยความเคารพครับ
- Title:
- อี โอ วิลสัน (E.O. Wilson): คำแนะนำสำหรับนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์
- Speaker:
- E.O. Wilson
- Description:
-
“โลกต้องการพวกคุณ เหลือเกิน,” เป็นประโยคที่ อี โอ วิลสัน นักชีววิทยาที่มีชื่อเสียง ใช้เริ่มต้นนำเสนอจดหมายถึงนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ซึ่งเป็นหนังสือของเขาที่กำลังจะพิมพ์เผยแพร่ออกมา เขาให้คำแนะนำที่เกิดจากประสบการณ์ที่ได้รวบรวมไว้ทั้งชีวิต -- ซึ่งเตือนให้เรานึกถึงความมหัศจรรย์และความคิดสร้างสรรค์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของชีวิตวิทยาศาสตร์ (ถ่ายทำที่ TEDMED)
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 14:56
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Advice to a young scientist | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Advice to a young scientist | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Advice to a young scientist | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Advice to a young scientist | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Advice to a young scientist | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Advice to a young scientist | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for Advice to a young scientist | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut accepted Thai subtitles for Advice to a young scientist |