สหรัฐต้องมีวันลาคลอดแบบจ่ายค่าจ้าง เพื่อประโยชน์แก่อนาคต
-
0:00 - 0:03คุณแม่ที่ทำงานเป็นอย่างไรกันนะ
-
0:03 - 0:06ถ้าคุณถามในอินเตอร์เน็ต คุณก็จะเจอแบบนี้
-
0:07 - 0:11อันที่จริง นี่คือผลงานของคุณจริง ๆ
-
0:11 - 0:14ถ้าคุณพยายามทำงานบนคอมพิวเตอร์
โดยมีทารกอยู่บนตัก -
0:14 - 0:15(เสียงหัวเราะ)
-
0:15 - 0:18แต่ไม่ค่ะ นี่ไม่ใช่ภาพของคุณแม่ที่ทำงาน
-
0:18 - 0:22คุณคงดูแนวทางของรูปพวกนี้ออก
ซึ่งเราจะได้ดูกันอีกหลายรูปเลยค่ะ -
0:22 - 0:24แนวทางของรูปก็คือ แสงธรรมชาติแสนสวย
-
0:24 - 0:27ซึ่งอย่างที่เรารู้กันดี
-
0:27 - 0:31ว่าเป็นลักษณะเด่น
ของสถานที่ทำงานทุกแห่งในสหรัฐฯ -
0:31 - 0:35มีรูปแนวนี้เป็นพัน ๆ รูป
-
0:35 - 0:38แค่ลองใส่คำว่า "คุณแม่ที่ทำงานนอกบ้าน"
ในการค้นหารูปภาพของกูเกิ้ล -
0:38 - 0:40หรือเว็บไซต์เก็บรูปภาพ
-
0:40 - 0:41พวกมันมีอยู่ทุกที่ในอินเตอร์เน็ต
-
0:41 - 0:43เป็นทั้งภาพพาดหัวบล็อกและบทความข่าว
-
0:43 - 0:48ฉันเริ่มหมกหมุ่นกับรูปพวกนี้
และคำโกหกที่พวกมันหลอกเรา -
0:48 - 0:50และการที่มันทำให้เราสบายใจ
-
0:50 - 0:53ว่าการเป็นคุณแม่มือใหม่
ที่ต้องทำงานในสหรัฐฯ นั้น -
0:53 - 0:55ทุกอย่างช่างสดใสราบรื่นไปหมด
-
0:55 - 0:57ซี่งไม่ใช่เลย
-
0:57 - 1:00ในระดับประเทศ
เราส่งผู้หญิงเป็นล้าน ๆ คนกลับสู่การทำงาน -
1:00 - 1:04ทุก ๆ ปี หลังจากที่เพิ่งคลอดลูกได้ไม่นาน
-
1:04 - 1:06อย่างไม่น่าเชื่อและค่อนข้างน่ากลัว
-
1:06 - 1:07นั่นเป็นปัญหาทางศีลธรรม
-
1:07 - 1:11ฉันจะขอเล่าต่อว่า
ทำไมนี่ถึงเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจด้วย -
1:11 - 1:15ฉันรำคาญและหมกมุ่นมาก ๆ
กับความจอมปลอมของรูปพวกนี้ -
1:15 - 1:17ซึ่งไม่มีอะไรดูเหมือนชีวิตของฉันเลย
-
1:17 - 1:22จนฉันตัดสินใจถ่ายภาพตัวเอง
ออกมาเป็นรูปล้อเลียนชุดหนึ่ง -
1:22 - 1:24โดยหวังว่าคนอื่นจะหันมาใช้รูปชุดนี้
-
1:24 - 1:29เพื่อถ่ายทอดความเป็นจริง
อันแสนอึดอัดที่ต้องกลับไปทำงาน -
1:29 - 1:32เมื่อแหล่งอาหารของลูกคุณติดอยู่กับตัวคุณ
-
1:33 - 1:36ขอโชว์ให้ดูสัก 2 รูปนะคะ
-
1:36 - 1:38(เสียงหัวเราะ)
-
1:38 - 1:41ไม่มีอะไรที่ "เลื่อนตำแหน่งให้ผู้หญิงคนนั้นสิ"
มากไปกว่าน้ำนมที่รั่ว -
1:41 - 1:43ทะลุชุดของคุณระหว่างการนำเสนองานไปด้วยหรอก
-
1:43 - 1:45คุณจะสังเกตได้ว่าในรูปนี้ไม่มีเด็กทารก
-
1:46 - 1:48เพราะความเป็นจริงไม่ใช่เช่นนั้น
-
1:48 - 1:50ไม่ใช่สำหรับคุณแม่
ที่ต้องทำงานนอกบ้านส่วนมาก -
1:51 - 1:53สิ่งนี้คงทำคุณหมดอารมณ์ไปทั้งวัน
คุณทราบไหมคะ -
1:53 - 1:56ว่าทุก ๆ ครั้งที่กดชักโครก
สิ่งนั้นจะกลายเป็นละอองของเหลว -
1:56 - 1:58และลอยอยู่ในอากาศหลายชั่วโมง
-
1:58 - 2:01แต่สำหรับคุณแม่มือใหม่หลายคน
ที่ออกไปทำงาน -
2:01 - 2:04นี่คือสถานที่เดียวที่หาได้
สำหรับใช้ผลิตอาหารในระหว่างวัน -
2:04 - 2:06ให้ลูกน้อยที่เพิ่งเกิด
-
2:07 - 2:10ฉันเผยแพร่ภาพพวกนี้หลายสิบภาพ
-
2:10 - 2:12ฉันต้องการจะชี้ประเด็น
-
2:12 - 2:15โดยไม่รู้ตัวเลยว่า
กำลังเปิดประตูให้ตนเองไปด้วย -
2:15 - 2:19เพราะตอนนี้คนแปลกหน้าจากทุกสาขาอาชีพ
-
2:19 - 2:21เขียนถึงฉันตลอดเวลา
-
2:21 - 2:25เพื่อเล่าให้ฟังว่าการกลับไปทำงาน
หลังจากเพิ่งคลอดลูก -
2:25 - 2:28ภายในไม่กี่วันหรือสัปดาห์นั้นเป็นอย่างไร
-
2:28 - 2:30วันนี้ ฉันจะเล่าเรื่องราวของพวกเขาให้ฟัง
10 เรื่องค่ะ -
2:30 - 2:34เรื่องเหล่านี้เป็นจริงทั้งหมด
บางเรื่องก็ถึงลูกถึงคนมาก -
2:34 - 2:37และไม่มีเรื่องไหนเลยที่สดใสราบรื่น
-
2:38 - 2:40นี่คือเรื่องแรก
-
2:40 - 2:44"ฉันเป็นเจ้าหน้าที่เต็มเวลา
สายบริการในเรือนจำรัฐบาลกลาง" -
2:44 - 2:48ฉันกลับไปทำงานหลังผ่าท้องทำคลอด
ซึ่งอนุญาตให้หยุดสูงสุด 8 อาทิตย์ -
2:48 - 2:52เพื่อนร่วมงานชายคนหนึ่ง
หงุดหงิดกับการที่ฉันได้ 'วันหยุดยาว' -
2:52 - 2:56เขาเลยจงใจเปิดประตูใส่ฉัน
ในขณะที่ฉันกำลังปั๊มนมอยู่ -
2:56 - 3:00และยืนขวางประตู
ขณะที่นักโทษอยู่ในโถงทางเดิน" -
3:00 - 3:03เรื่องส่วนมาก
ที่ผู้หญิงแปลกหน้าเหล่านี้ส่งมาให้ฉัน -
3:03 - 3:05ไม่ได้เกี่ยวกับการให้นมลูกเสียด้วยซ้ำ
-
3:05 - 3:07ผู้หญิงคนหนึ่งเขียนมาหาฉันแล้วบอกว่า
-
3:07 - 3:12"ฉันได้คลอดลูกแฝดและกลับไปทำงาน
หลังหยุดไป 7 อาทิตย์โดยไม่ได้เงินค่าจ้าง -
3:12 - 3:14จิตใจฉันไร้สิ้นเรี่ยวแรง
-
3:14 - 3:18ร่างกายฉันตกเลือดอย่างรุนแรงระหว่างคลอด
อวัยวะฉีกขาดเป็นรอยใหญ่ -
3:18 - 3:21ฉันแทบจะลุก นั่ง หรือเดินไม่ได้เลย
-
3:21 - 3:25เจ้านายของฉันบอกว่าฉันไม่ได้รับอนุญาต
ให้ใช้เวลาวันหยุดที่เหลือของฉัน -
3:25 - 3:27เพราะเป็นช่วงปิดงบประมาณ"
-
3:28 - 3:32ฉันมาถึงจุดที่เชื่อว่าพวกเราไม่สามารถ
ทนมองสถานการณ์แบบนี้ด้วยสายตาได้ -
3:32 - 3:34เพราะเมื่อนั้นพวกเราจะหวาดกลัว
-
3:34 - 3:37และถ้าพวกเราหวาดกลัว
เมื่อนั้นเราก็ต้องทำอะไรสักอย่าง -
3:37 - 3:41พวกเราจึงเลือกที่จะมองและเชื่อในรูปนี้
-
3:41 - 3:44ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในรูปนี้
-
3:44 - 3:46เพราะฉันรู้สึกว่ามันทั้งประหลาด
และค่อนข้างน่าขนลุก -
3:46 - 3:48(เสียงหัวเราะ)
-
3:48 - 3:49คือแบบ เธอกำลังทำอะไรอยู่
-
3:49 - 3:53แต่ฉันรู้ว่าสิ่งที่รูปนี้บอกเราคืออะไร
-
3:53 - 3:56มันบอกเราว่าทุก ๆ อย่างเป็นไปด้วยดี
-
3:56 - 3:59คุณแม่ที่ต้องออกไปทำงานคนนี้ คุณแม่ที่ออก
ไปทำงานทุกคน และเด็กทารกทั้งหมดก็สบายดี -
3:59 - 4:01ที่ตรงนี้ ไม่มีอะไรผิดแปลกให้มอง
-
4:01 - 4:05แล้วตัวผู้หญิงก็เลือกชีวิตแบบนี้เอง
-
4:05 - 4:07จึงไม่ใช่เรื่องที่เราต้องไปเดือดร้อนด้วย
-
4:07 - 4:10ฉันขอแบ่งเรื่องทางเลือกนี้ออกเป็น 2 ส่วน
-
4:10 - 4:14แบบแรกคือผู้หญิงเลือกมาทำงานเอง
-
4:14 - 4:16ซึ่งนั่นไม่จริงเลย
-
4:16 - 4:21ในสหรัฐฯ ทุกวันนี้
มีแรงงานเป็นผู้หญิงอยู่ 47% -
4:21 - 4:23และ 40% ของครอบครัวอเมริกัน
-
4:23 - 4:27มีผู้หญิงเป็นผู้หารายได้เข้าบ้าน
เพียงคนเดียวหรือเป็นเสาหลัก -
4:27 - 4:31งานที่ได้ค่าจ้างของพวกเราเป็นส่วนหนึ่ง
ส่วนที่ใหญ่ของการขับเคลื่อนประเทศนี้ -
4:31 - 4:34และยังสำคัญในการขับเคลื่อน
ครอบครัวพวกเราด้วย -
4:34 - 4:38ในระดับประเทศ งานที่ได้ค่าจ้าง
จึงไม่ใช่สิ่งที่เลือกได้ -
4:38 - 4:41ทางเลือกที่สอง
คือผู้หญิงเป็นคนเลือกจะมีลูกเอง -
4:41 - 4:44เพราะฉะนั้นพวกผู้หญิงควรจะอดทน
ไปคนเดียวกับผลที่ตามมาของตัวเลือกนั้น -
4:46 - 4:48เรื่องแบบนี้ ก็เหมือนอีกหลายเรื่อง
-
4:48 - 4:50ที่พอคุณฟังเผิน ๆ แล้วรู้สึกว่าถูกต้อง
-
4:50 - 4:52ฉันไม่ได้บังคับให้เธอมีลูกนี่
-
4:52 - 4:54เธอก็มีของเธอเองนี่ ฉันไม่ได้รู้เห็นด้วย
-
4:54 - 5:00แต่ทัศนคตินั้นละเลยความจริงพื้นฐาน
-
5:00 - 5:05ที่ว่าในระดับชาติ
การมีลูกนั้นไม่ใช่สิ่งที่เลือกได้ -
5:05 - 5:09ลูกของผู้หญิงที่ทำงานเหล่านั้นในวันนี้
-
5:10 - 5:13ในอนาคต ก็จะเติมเต็มแรงงาน
ป้องกันประเทศ -
5:13 - 5:15เป็นฐานภาษีของเรา
-
5:15 - 5:19การมีลูกจึงไม่ใช่สิ่งที่เลือกได้
ในระดับประเทศ -
5:19 - 5:20เรื่องพวกนี้ ไม่มีทางเลือก
-
5:20 - 5:24พวกเราต้องการผู้หญิงมาทำงาน
เราต้องการให้ผู้หญิงที่ทำงานมีลูก -
5:24 - 5:27เราจึงควรหาทางให้การทำทั้งสองอย่าง
ในเวลาเดียวกัน -
5:27 - 5:28เป็นเรื่องที่ทำใจรับได้ ใช่ไหมคะ
-
5:29 - 5:32คราวนี้ ถึงเวลาของคำถาม
-
5:32 - 5:35คุณคิดว่าในสหรัฐฯ มีผู้หญิงที่ทำงานกี่ %
-
5:35 - 5:38ที่ไม่มีสิทธิลาคลอดแบบจ่ายค่าจ้างคะ
-
5:39 - 5:4188%
-
5:42 - 5:4588% ของคุณแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
จะไม่ได้รับเงินช่วงลาหยุดใด ๆ เลย -
5:45 - 5:47หลังจากพวกเขามีลูก
-
5:47 - 5:50ตอนนี้ คุณก็จะนึกถึงการลาหยุดแบบไม่ได้เงิน
-
5:50 - 5:54มีอยู่ในสหรัฐ เรียกว่า FMLA
แต่มันใช้ไม่ได้ผล -
5:54 - 5:57เพราะโครงสร้างของมัน
มีสารพัดข้อยกเว้นทั้งปวงนั้น -
5:57 - 6:01คุณแม่มือใหม่กว่าครึ่ง
คุณสมบัติไม่เพียงพอที่จะใช้สิทธิ -
6:01 - 6:02นี่คือหนึ่งในเรื่องที่ว่า
-
6:04 - 6:06"พวกเราได้รับลูกชายมาเป็นบุตรบุญธรรม
-
6:06 - 6:10เมื่อฉันได้รับโทรศัพท์
ในวันที่เขาเกิด ฉันต้องลางาน -
6:10 - 6:14แต่ฉันยังทำงานที่นั่นไม่นานพอ
ที่จะใช้สิทธิตาม FMLA -
6:14 - 6:16ฉันจึงไม่ได้ลาแบบไม่ได้รับค่าจ้าง
-
6:16 - 6:19เมื่อฉันลาหยุด เพื่อไปเจอลูก
ที่เพิ่งคลอดของฉัน -
6:19 - 6:20ฉันก็ต้องตกงาน"
-
6:22 - 6:27ภาพสต็อกออฟฟิศพวกนี้
ยังซ่อนความเป็นจริงอีกชั้นหนึ่ง -
6:27 - 6:30นั่นคือ ต่อให้มีสิทธิ์ลาแบบไม่ได้เงินแล้ว
-
6:30 - 6:34ผู้หญิงส่วนมาก
ก็ไม่มีเงินมากพอให้ลาได้อยู่ดี -
6:34 - 6:37พยาบาลคนหนึ่งบอกฉันว่า
"ฉันไม่ถูกจัดเป็นผู้ทุพพลภาพระยะสั้น -
6:37 - 6:41เพราะว่าการตั้งครรภ์ของฉัน
ถูกจัดเป็นสภาพอาการที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว -
6:41 - 6:44เราใช้เงินภาษีรับคืนจนหมด
เงินเก็บก็หมดไปอีกครึ่ง -
6:44 - 6:46ตลอด 6 สัปดาห์ที่ลาแบบไม่ได้ค่าจ้าง
-
6:46 - 6:47จนเราจัดการต่อไปอีกไม่ไหว
-
6:48 - 6:50ร่างกายก็เหนื่อย แต่จิตใจยิ่งแย่กว่า
-
6:50 - 6:53ฉันต้องทำใจอยู่เป็นเดือน ๆ
ในการที่ต้องอยู่ห่างจากลูกของฉัน" -
6:53 - 6:56ฉะนั้น การตัดสินใจกลับไปทำงานเร็ว
-
6:56 - 7:00จึงเป็นการตัดสินใจจากเหตุจำเป็นทางเศรษฐกิจ
เนื่องจากฐานะการเงินของครอบครัว -
7:00 - 7:02แต่ก็บ่อยครั้ง ที่มันจะน่ากลัวในทางกายภาพ
-
7:02 - 7:06เพราะการให้กำเนิดมนุษย์คนหนึ่ง
เป็นเรื่องวุ่นวาย -
7:06 - 7:07บริกรหญิงคนหนึ่งเคยบอกฉัน
-
7:07 - 7:11"กับลูกคนแรก ฉันกลับไปทำงาน
ในห้าอาทิตย์หลังคลอด -
7:11 - 7:14กับลูกคนที่สอง หลังคลอดแล้ว
ฉันต้องได้รับการผ่าตัดใหญ่ -
7:14 - 7:17ดังนั้นฉันเลยรอจนกระทั่ง
หกอาทิตย์จึงกลับไปทำงาน -
7:17 - 7:19ตอนนั้นฉันมีแผลฉีกขาดระดับสาม"
-
7:21 - 7:2423% ของคุณแม่มือใหม่
ที่ต้องทำงานในสหรัฐฯ -
7:24 - 7:29จะกลับมาทำงาน ภายในสองอาทิตย์หลังคลอด
-
7:30 - 7:35"ฉันเป็นบาร์เทนเนอร์และคนครัว
ทำงานเฉลี่ย 75 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ขณะตั้งครรภ์ -
7:35 - 7:38ฉันต้องกลับไปทำงาน
ขณะที่ลูกยังอายุไม่ครบเดือน -
7:38 - 7:40ทำงาน 60 ชั่วโมงต่ออาทิตย์
-
7:40 - 7:45เพื่อนร่วมงานของฉันคนหนึ่ง
สามารถลาได้แค่สิบวันกับลูกน้อยของเธอ" -
7:45 - 7:49แน่นอน นี่ไม่ใช่แค่สถานการณ์ที่มี
ผลกระทบทางเศรษฐกิจและทางกายภาพ -
7:49 - 7:54การคลอดบุตรนั้นมีผลต่อจิตใจอย่างมหาศาล
เสมอมา -
7:54 - 7:56คุณครูคนหนึ่งเคยบอกฉัน
-
7:56 - 7:59"ฉันกลับไปทำงานหลังจาก
ลูกชายของฉันคลอดได้แปดอาทิตย์ -
7:59 - 8:01ฉันมีภาวะวิตกกังวลอยู่แล้ว
-
8:01 - 8:06แต่ภาวะตื่นตระหนกที่ฉันประสบ
ก่อนที่จะกลับไปทำงานนั้นสุดจะทน" -
8:06 - 8:08ในทางสถิตินั้น
-
8:08 - 8:11วันลาหยุดของผู้หญิง
หลังจากคลอดลูกยิ่งสั้นเท่าไหร่ -
8:11 - 8:14ก็ยิ่งมีโอกาสที่เธอจะมีภาวะความผิดปกติ
ทางอารมณ์หลังคลอดมากขึ้นเท่านั้น -
8:14 - 8:16อย่างเช่นภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
-
8:17 - 8:21และในบรรดาผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น
จากความผิดปกติพวกนั้น -
8:21 - 8:24การฆ่าตัวตาย เป็นสาเหตุ
ของการตายอันดับสองที่พบมากที่สุด -
8:24 - 8:26ในปีแรกของผู้หญิงที่คลอดลูก
-
8:27 - 8:29มากันที่เรื่องต่อไป
-
8:29 - 8:33ฉันไม่เคยเจอผู้หญิงคนนี้
แต่ฉันพบว่ามันยากที่จะผ่านเรื่องนี้ไปได้ -
8:33 - 8:38"ฉันรู้สึกเศร้าเสียใจมาก
และโกรธที่ฉันสูญเสียช่วงเวลาสำคัญ -
8:38 - 8:41ของพัฒนาการและทดแทนไม่ได้
ของลูกชายของฉัน -
8:42 - 8:45การคลอดทำให้ฉันรู้สึกพังทลายจริง ๆ
-
8:45 - 8:50สิ่งเดียวที่ฉันจำได้ในช่วงหลายเดือน
คือเสียงกรีดร้อง พวกเขาเรียกว่าโคลิค -
8:50 - 8:52ภายในตัวฉัน ฉันกำลังจมน้ำอยู่
-
8:52 - 8:55ฉันถามตัวเองทุกเช้าว่า
ฉันจะทนทำแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน -
8:56 - 8:59ฉันได้รับอนุญาตให้พาลูกน้อยไปทำงานได้
-
8:59 - 9:02ฉันปิดประดูห้องทำงานในขณะที่โยกและกล่อมลูก
-
9:02 - 9:05ฉันขอให้เขาหยุดร้อง
เพื่อฉันจะได้ไม่ต้องมีปัญหา -
9:05 - 9:07ฉันซ่อนอยู่หลังประตูในที่ทำงานแทบทุกวัน
-
9:07 - 9:09และร้องไห้ในขณะที่เขาร้อง
-
9:09 - 9:13ฉันร้องไห้ในห้องน้ำ
ขณะที่ฉันล้างอุปกรณ์ปั๊มนม -
9:13 - 9:16ฉันร้องตลอดทางที่ไปทำงาน
และตลอดทางกลับบ้านทุกวัน -
9:16 - 9:19ฉันสัญญากับเจ้านายว่า
งานที่ยังทำไม่เสร็จตอนกลางวัน -
9:19 - 9:21ฉันจะกลับไปทำที่บ้านในตอนกลางคืน
-
9:21 - 9:25ฉันคิดว่า ต้องมีอะไรผิดปกติกับฉันแน่
ถึงทำให้ฉันควมคุมมันไม่ได้" -
9:27 - 9:29นั่นคือเรื่องของคุณแม่
-
9:29 - 9:31แล้วเรื่องเด็กทารกล่ะ
-
9:31 - 9:33ในระดับประเทศ
เราให้ความสำคัญกับเด็กทารกนับล้านคน -
9:33 - 9:35ที่เกิดมาทุกปี กับคุณแม่
ที่ต้องออกไปทำงานไหม -
9:35 - 9:37ฉันขอบอกว่าไม่
-
9:37 - 9:40ไม่จนกว่าพวกเขาจะทำงาน
จ่ายภาษี และถึงวัยเกณฑ์ทหาร -
9:40 - 9:42เราบอกพวกเขาว่า เราจะเจอกันในอีก 18 ปี
-
9:42 - 9:44และในระหว่างทางนั้นเป็นเรื่องของพวกเขา
-
9:46 - 9:49หนึ่งในเหตุผลที่ฉันรู้เรื่องนี้
ก็เพราะเด็กทารกที่มีแม่ -
9:49 - 9:51อยู่บ้านกับเขา 12 อาทิตย์ หรือมากกว่านั้น
-
9:51 - 9:55จะมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้รับวัคซีน
และได้รับการตรวจร่างกายที่ดีในปีแรก -
9:55 - 10:00เด็กพวกนั้นจึงจะได้รับการปกป้อง
มากกว่าจากโรคที่ถึงตายและทำให้พิการ -
10:00 - 10:03แต่เรื่องพวกนั้นถูกซ่อนอยู๋
ข้างหลังรูปแบบนี้ -
10:06 - 10:12สหรัฐฯ มีสาส์นให้คุณแม่มือใหม่
ที่ต้องทำงานและสำหรับลูกพวกเขา -
10:12 - 10:16เวลาไหนก็ตามที่ได้อยู่ด้วยกัน
พวกคุณควรจะรู้สึกขอบคุณ -
10:16 - 10:18และพวกคุณคือความไม่สะดวก
-
10:18 - 10:21สำหรับเศรษฐกิจและนายจ้าง
-
10:21 - 10:26วาทกรรมหนี้บุญคุณนั้น
แทรกซึมอยู่ในหลายเรื่องที่ฉันได้ยิน -
10:26 - 10:28ผู้หญิงคนหนึ่งเคยบอกฉัน
-
10:28 - 10:30"ฉันกลับไปทำงานในแปดสัปดาห์
หลังจากผ่าท้องทำคลอด -
10:30 - 10:32เพราะสามีของฉันต้องออกไปทำงาน
-
10:32 - 10:34เพราะไม่มีฉันอยู่ ลูกสาวจึง
มีพัฒนาการที่แย่ -
10:34 - 10:36เธอจะไม่กินนมเลยสักขวด
-
10:36 - 10:37น้ำหนักเธอเริ่มลด
-
10:37 - 10:40ต้องขอบคุณที่ผู้จัดการของฉัน
ที่เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก -
10:40 - 10:42เขาให้แม่ของฉันพาลูกมา
-
10:42 - 10:44ลูกที่มีเครื่องช่วยหายใจและเครื่องติดตาม
-
10:44 - 10:46สี่ครั้งต่อกะ เพื่อให้ฉันดูแลเธอได้"
-
10:48 - 10:51มีชมรมเล็ก ๆ อยู่ชมรมหนึ่ง
ของประเทศต่าง ๆ ในโลก -
10:51 - 10:55ที่ไม่จ่ายค่าแรงในช่วงลาคลอด
-
10:55 - 10:58คุณสนใจจะทายว่ามีประเทศอะไรบ้างไหมคะ
-
10:58 - 11:02แปดประเทศแรก มีจำนวนแปดล้านคน
ของประชากรทั้งหมด -
11:02 - 11:05ก็คือปาปัวนิวกินี
ซูรินาเม และประเทศที่เป็นเกาะเล็ก -
11:05 - 11:11อย่างไมโครนีเซีย มาร์แชลล์
นาอูรู นีอูเอ ปาเลา และตองกา -
11:11 - 11:14ประเทศที่เก้าคือสหรัฐฯ
-
11:14 - 11:16และประชากร 320 ล้านคน
-
11:17 - 11:20หมดแล้วค่ะ
-
11:20 - 11:22นั่นคือประเทศสุดท้ายในรายชื่อ
-
11:22 - 11:24เขตเศรษฐกิจส่วนที่เหลือในโลกใบนี้
-
11:24 - 11:28ล่วนแล้วแต่มีหลักประกันวันลาแบบจ่ายค่าจ้าง
ในระดับหนึ่ง -
11:28 - 11:31สำหรับผู้ที่ทำงานเพื่ออนาคต
ของประเทศพวกเขา -
11:31 - 11:35แต่เราบอกว่า
"เราทำแบบนั้นจริง ๆ ไม่ได้หรอก" -
11:35 - 11:37เราบอกว่า ตลาดจะแก้ไขปัญหานี้ไปเอง
-
11:37 - 11:42แล้วเราก็ชื่นชมยินดี เมื่อบริษัท
เสนอวันลาแบบจ่ายค่าจ้างให้ผู้หญิงมากขึ้น -
11:42 - 11:45กลุ่มคนที่มีการศึกษา
และได้รับเงินเดือนสูงสุดอยู่แล้วในหมู่พวกเรา -
11:45 - 11:47จำ 88% นั้นได้ไหมคะ
-
11:47 - 11:51ผู้หญิงที่มีรายได้ขั้นกลางและต่ำ
จะไม่มีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้น -
11:52 - 11:57เรารู้ว่า มันจะมีราคาความไม่มั่นคง
ทางเศรษฐกิจ การเงิน ทางกายภาพ -
11:57 - 12:00และทางอารมณ์ของวิธีการนี้
-
12:00 - 12:04เราได้ตัดสินใจ ไม่ใช่ด้วยความพลั้งเผลอ
-
12:04 - 12:08ที่จะผลักราคาเหล่านี้โดยตรง
ไปยังคุณแม่ที่ต้องทำงานและลูก ๆ -
12:08 - 12:11เรารู้ว่าป้ายราคาจะสูงกว่า
สำหรับผู้หญิงที่มีรายได้น้อย -
12:11 - 12:13หรือก็คือ ไม่เป็นไปตามสัดส่วน
สำหรับผู้หญิงที่ไม่ใช่คนขาว -
12:13 - 12:16เราก็ผลักมันไปอยู่ดี
-
12:16 - 12:18ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องน่าขายหน้าของสหรัฐฯ
-
12:19 - 12:22แต่ก็เป็นความเสี่ยงของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
-
12:22 - 12:24เพราะสิ่งที่อาจเกิดขึ้น
-
12:24 - 12:28ถ้าสิ่งที่เรียกว่าทางเลือกส่วนบุคคล
ที่จะมีลูกทั้งหมดนี้ -
12:28 - 12:32เริ่มเปลี่ยนไปเป็นทางเลือกส่วนบุคคล
ที่จะไม่มีลูก -
12:33 - 12:35ผู้หญิงคนหนึ่งเคยบอกฉัน
-
12:35 - 12:38"การเป็นคุณแม่มือใหม่มันยาก
มันไม่ควรที่จะทำให้เป็นเรื่องสะเทือนใจ -
12:38 - 12:41เมื่อเราพูดถึงการขยายครอบครัว
ในตอนนี้ -
12:41 - 12:45เราสนใจว่าฉันจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่
กับการดูแลตัวเองและลูกที่เพิ่งเกิด -
12:45 - 12:48ถ้าเราจะต้องทำซ้ำอีกครัง
ในแบบเดียวกันกับตอนมีลูกคนแรก -
12:48 - 12:50เราขอมีลูกแค่ลูกคนเดียวดีกว่า"
-
12:52 - 12:55อัตราการเกิดที่จำเป็นสำหรับสหรัฐฯ
เพื่อที่จะทำให้ประชากรมีเสถียรภาพ -
12:55 - 12:57คือ 2.1 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคน
-
12:57 - 13:01ในสหรัฐฯ วันนี้ เราอยู่ที่ 1.86
-
13:01 - 13:03เราต้องการผู้หญิงเพื่อที่จะมีลูก
-
13:03 - 13:08และเราก็ทำให้หญิงที่ต้องออกไปทำงาน
หมดแรงจูงใจที่จะมีลูก -
13:08 - 13:11อะไรจะเกิดขึ้นกับแรงงาน นวัตกรรม GDP
-
13:11 - 13:15คุณแม่ที่ต้องออกไปทำงาน
ในประเทศนี้แต่ละคนตัดสินใจ -
13:15 - 13:19ว่าพวกเขาไม่สามารถทนกับการทำสิ่งนี้
ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง -
13:20 - 13:23วันนี้ฉันมาอยู่ตรงนี้กับความคิดเดียว
ที่คิดว่าควรที่จะเผยแพร่ต่อไป -
13:23 - 13:25และคุณลองเดาดูซิว่ามันคืออะไร
-
13:25 - 13:29เป็นเวลาที่นาวนานนัก
สำหรับประเทศที่ทรงอำนาจที่สุดในโลก -
13:29 - 13:31ที่จะรับประกันการหยุดงานแบบจ่ายค่าจ้าง
-
13:31 - 13:34สำหรับกลุ่มคนที่ทำงาน
เพื่ออนาคตของประเทศนี้ -
13:34 - 13:37และเพื่อเด็กทารกของพวกเขาเอง
ซึ่งเป็นต้วแทนของอนาคตนั้น -
13:37 - 13:39การมีลูกเป็นสินค้าสาธารณะ
-
13:39 - 13:41การหยุดลานี้ควรจะได้รับการอุดหนุนจากรัฐ
-
13:42 - 13:44มันไม่ควรจะมีการละเว้น
ไม่ว่าจะธุรกิจขนาดเล็ก -
13:44 - 13:46ระยะเวลาการจ้างงาน หรือผู้ประกอบการ
-
13:47 - 13:49มันควรจะสามารถแบ่งได้ระหว่างคู่สามีภรรยา
-
13:49 - 13:51วันนี้ฉันได้พูดถึงคุณแม่หลายคน
-
13:51 - 13:54แต่การเลี้ยงลูกร่วมกัน
ก็มีความสำคัญในหลายระดับ -
13:56 - 13:59ไม่ควรมีผู้หญิงคนไหนอีก
ที่ต้องกลับไปทำงาน -
13:59 - 14:02ในขณะที่ทรงตัวไม่อยู่และเลือกออก
-
14:02 - 14:05ไม่ควรมีครอบครัวไหนอีก
ที่ต้องจะต้องใช้เงินเก็บในบัญชีจนเกลี้ยง -
14:06 - 14:09เพื่อที่จะซื้อเวลาสองสามวัน
ในการพักฟื้นและสร้างสายสัมพันธ์ -
14:09 - 14:11ไม่ควรมีทารกที่เปราะบางคนไหน
-
14:12 - 14:14ที่ต้องตรงจากตู้อบไปยังสถานเลี้ยงเด็ก
-
14:14 - 14:17เพราะพ่อแม่ของเขาใช้เวลาที่มีอยู่น้อยนิด
ไปหมดแล้ว -
14:17 - 14:19กับการนั่งอยู่ในหอผู้ป่วยทารกแรกเกิด
ในระยะวิกฤติ -
14:19 - 14:22ไม่ควรมีครอบครัวไหนที่ต้องไปทำงาน
แล้วถูกบอกว่าความไม่ลงรอยระหว่างงาน -
14:22 - 14:26ความจำเป็นในการทำงาน
และความจำเป็นในการเลี้ยงลูก -
14:26 - 14:28คือปัญหาส่วนตัวของพวกเขาเอง
-
14:29 - 14:33มันสะดุดที่ว่าเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นกับ
ครอบครัวใหม่ มันเป็นสิ่งที่กัดกิน -
14:33 - 14:36และครอบครัวที่มีทารกเพิ่งเกิด
จะมีความเสี่ยงทางการเงิน -
14:36 - 14:38มากกว่าที่พวกเขาเคยจากเมื่อก่อน
-
14:38 - 14:42ดังนั้นแม่มือใหม่ไม่สามารถ
ที่จะพูดแทนตัวเองได้ -
14:42 - 14:44แต่พวกเราทุกคนต่างมีเสียง
-
14:44 - 14:47ฉันพอแล้ว พอแล้วกับการมีลูก
-
14:48 - 14:49และคุณอาจจะกำลังมีลูก
-
14:49 - 14:51คุณอาจจะมีลูกไปแล้ว
-
14:51 - 14:52คุณอาจจะไม่มีลูก
-
14:52 - 14:54แต่นั่นไม่ควรเป็นประเด็น
-
14:54 - 14:57เราจะต้องหยุดตั้งกรอบว่า
เรื่องนี้คือเรื่องของคุณแม่ -
14:57 - 14:58หรือแม้แต่เป็นเรื่องของผู้หญิง
-
14:58 - 15:00เรื่องนี้เป็นเรื่องของสหรัฐฯ
-
15:02 - 15:06เราต้องหยุดเชื่อเรื่องโกหก
ที่รูปพวกนี้บอกเรา -
15:06 - 15:08เราต้องหยุดที่จะรู้สึกสบายโดยพวกมัน
-
15:08 - 15:11เราต้องถามว่า ทำไมเราถึงถูกบอกว่า
เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ -
15:11 - 15:14ในเมื่อเราเห็นว่ามันเป็นไปได้
ทุกที่ในโลกใบนี้ -
15:14 - 15:18เราต้องรับรู้ว่า
ความเป็นจริงของสหรัฐฯ นี้ -
15:18 - 15:21เป็นความอัปยศอดสูของเรา
และเป็นพิษภัยของเราเอง -
15:21 - 15:24เพราะนี่ไม่ใช่
-
15:24 - 15:25นี่ก็ไม่ใช่
-
15:25 - 15:29และนี่ก็ไม่ใช่
คุณแม่ที่ต้องไปทำงานนอกบ้านอย่างที่เป็นเลย -
15:30 - 15:32(เสียงปรบมือ)
- Title:
- สหรัฐต้องมีวันลาคลอดแบบจ่ายค่าจ้าง เพื่อประโยชน์แก่อนาคต
- Speaker:
- เจสสิก้า ช้อร์ทอลล์ (Jessica Shortall)
- Description:
-
เราจำเป็นต้องมีผู้หญิงที่ทำงาน และเราจำเป็นต้องมีผู้หญิงคนทำงานที่มีลูก แล้วทำไมประเทศสหรัฐฯ จึงเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่ไม่มีวันลาคลอดโดยจ่ายค่าจ้างสำหรับคุณแม่ล่ะ ในการพูดอันเฉียบคมครั้งนี้ เจสสิก้า ชอร์ทอลล์ ทำให้ตัวอย่างที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของความจริงที่ว่า การเป็นคุณแม่มือใหม่ที่ต้องทำงานไปด้วยในสหรัฐฯ ทั้งลึกลับซับซ้อนและน่ากลัว ในทุกๆ ปี ผู้หญิงนับล้านต้องถูกบังคับให้กลับไปทำงานภายในไม่กี่สัปดาห์ภายหลังการตลอด ความคิดของเธอควรค่าแก่การเผยแพร่ มันถึงเวลาแล้วที่เราจะมองเห็นถึงราคาของเศรษฐกิจ กายภาพ ทางด้านจิตใจในการจัดการคุณแม่เพิ่งคลอดที่ต้องไปทำงานและลูกของพวกเขา และเพื่อปกป้องเศรษฐกิจในอนาคตของพวกเรา โดยการจัดสรรวันลาแบบจ่ายค่าจ้างแก่พ่อแม่ที่ทำงานทุกคน
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 15:45
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for How America fails new parents -- and their babies | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How America fails new parents -- and their babies | ||
Rawee Ma accepted Thai subtitles for How America fails new parents -- and their babies | ||
Rawee Ma edited Thai subtitles for How America fails new parents -- and their babies | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut rejected Thai subtitles for How America fails new parents -- and their babies | ||
Rawee Ma accepted Thai subtitles for How America fails new parents -- and their babies | ||
Paded Chotikunchon edited Thai subtitles for How America fails new parents -- and their babies | ||
Paded Chotikunchon edited Thai subtitles for How America fails new parents -- and their babies |