ผีเสื้อรักษาตัวเองได้อย่างไร
-
0:00 - 0:02โรคติดต่อน่ะหรือครับ
-
0:02 - 0:04โรคติดต่อยังเป็นสาเหตุหลัก
-
0:04 - 0:06ของความเจ็บและความตายของคนทั่วโลก
-
0:06 - 0:11ทุก ๆ ปี คนนับล้านเสียชีวิตจากโรค
อย่างเช่น วัณโรค มาลาเรีย เอชไอวี -
0:11 - 0:14ทั่วโลก หรือแม้แต่ในสหรัฐเองก็ตาม
-
0:14 - 0:17คนอเมริกันหลายพันคนเสียชีวิต
ด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลทุกปี -
0:17 - 0:19แน่นอน มนุษย์นั้นมีความคิดสร้างสรรค์ใช่ไหมครับ
-
0:19 - 0:23เราคิดค้นหนทางป้องกันจากโรคเหล่านี้
-
0:23 - 0:24เรามียาและวัคซีน
-
0:24 - 0:27เราตื่นตัวเสมอ --
เราเรียนรู้จากประสบการณ์ -
0:27 - 0:29และคิดวิธีแก้ไขที่สร้างสรรค์
-
0:29 - 0:32เราเคยคิดว่ามีแต่เราที่ทำแบบนี้ได้
แต่ที่จริงแล้ว ไม่ใช่อย่างนั้น -
0:32 - 0:34ไม่ได้มีแค่เราที่มีหมอ
-
0:34 - 0:38ตอนนี้เรารู้แล้วว่า ยังมีสัตว์อีกมากมาย
ที่ทำได้อย่างเรา -
0:38 - 0:39ที่ขึ้นชื่อที่สุดคงจะเป็นชิมแปนซี
-
0:39 - 0:41ไม่ได้ต่างกับเราเท่าไหร่
-
0:41 - 0:44พวกมันรู้จักใช้พืชจัดการปรสิตในลำไส้
-
0:44 - 0:47แต่ในช่วงไม่กี่ศตวรรษมานี้
เราพบว่าสัตว์ชนิดอื่นก็ทำได้เช่นกัน -
0:47 - 0:51ช้าง เม่น แกะ แพะ ว่ามาเถอะครับ
-
0:51 - 0:54และที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ
การค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ ได้บอกเราว่า -
0:54 - 1:00แมลงและสัตว์เล็ก ๆ ชนิดอื่นที่มี
สมองขนาดเล็กก็รู้จักการรักษาเช่นเดียวกัน -
1:00 - 1:02อย่างที่ทราบกัน ปัญหาเกี่ยวกับโรคติดต่อ
-
1:02 - 1:04คือเชื้อโรคมีวิวัฒนาการไปเรื่อย ๆ
-
1:04 - 1:06และยาหลายตัวที่เราได้พัฒนาไว้
-
1:06 - 1:08ก็ด้อยประสิทธิภาพลงเรื่อย ๆ
-
1:08 - 1:12ดังนั้น เราจึงต้องการวิธีการใหม่ๆ เป็นอย่างมาก
ในการที่จะค้นพบยา -
1:12 - 1:14ที่สามารถใช้ต่อกรกับโรคต่างๆ
-
1:14 - 1:17ผมคิดว่า เราควรจะสังเกตสัตว์พวกนี้
-
1:17 - 1:20และเราสามารถเรียนรู้จากพวกมันได้
ว่าจะรักษาโรคของเราอย่างไร -
1:20 - 1:25ในฐานะนักชีววิทยา ผมได้ศึกษาผีเสื้อจักรพรรดิ
มาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา -
1:25 - 1:28พวกมันโด่งดังมาก
จากการอพยพย้ายถิ่นที่น่าตื่นตา -
1:28 - 1:31จากสหรัฐฯ และแคนาดา
ลงไปเม็กซิโกทุกปี -
1:31 - 1:33ที่ซึ่งพวกมันหลายล้านตัวมาอยู่รวมกัน
-
1:33 - 1:36แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ผมเริ่มศึกษาพวกมัน
-
1:36 - 1:38ผมศึกษาเพราะพวกมันป่วยได้
-
1:38 - 1:41ป่วยเหมือนคุณ เหมือนผม
-
1:41 - 1:43และผมคิดว่าสิ่งที่พวกมันทำ
บอกเราเกี่ยวกับยา -
1:43 - 1:45ที่เราสามารถพัฒนาเพื่อใช้กับคนได้
-
1:45 - 1:48ทีนี้ปรสิตของผีเสื้อจักรพรรดิ
-
1:48 - 1:52มีชื่อว่า ไฟริโอซิสทิส อีเลคโทรชิเรีย
(ophryocystis elektroscirrha) -
1:52 - 1:53ปรสิตพวกนี้สร้างสปอร์
-
1:53 - 1:56เป็นล้าน ๆ ด้านนอกตัวผีเสื้อ
-
1:56 - 1:59ซึ่งจะเห็นเป็นจุดเล็ก ๆ ระหว่างเกล็ดผีเสื้อ
-
1:59 - 2:02และมันก็ส่งผลร้ายแรงมากต่อผีเสื้อ
-
2:02 - 2:03มันทำให้อายุของผีเสื้อสั้นลง
-
2:03 - 2:05มันลดความสามารถในการบินของผีเสื้อ
-
2:05 - 2:08มันสามารถฆ่าผีเสื้อ
ก่อนที่พวกมันจะเป็นเต็มวัยเสียอีก -
2:08 - 2:10เป็นปรสิตที่ร้ายแรงมาก
-
2:10 - 2:14ในงานผมส่วนหนึ่งของผม ผมใช้เวลาส่วนใหญ่
ไปกับการปลูกพืชในเรือนกระจก -
2:14 - 2:17ด้วยเหตุผลที่ว่า
ผีเสื้อจักพรรดิเรื่องมากเรื่องการกิน -
2:17 - 2:19ตัวอ่อนจะกินแต่ต้นมิลก์วีด (milkweed)
-
2:19 - 2:23โชคดีที่มันกินมิลก์วีดได้หลายสปีชีส์
-
2:23 - 2:25มิลก์วีดเหล่านี้
มีสารคาร์เดโนไลต์ (cardenolides) อยู่ -
2:25 - 2:28สารเคมีกลุ่มนี้มีพิษ
-
2:28 - 2:29พวกมันเป็นพิษต่อสัตว์ส่วนมาก
แต่ไม่ใช่กับผีเสื้อจักรพรรดิ -
2:29 - 2:31จริง ๆ แล้ว พวกมันสามารถรับสารนี้
-
2:31 - 2:34นำเข้าไปในร่างกายได้ ทำให้ตัวเป็นพิษ
-
2:34 - 2:36ต่อสัตว์นักล่าของพวกมันอย่างพวกนก
-
2:36 - 2:38และจากนั้น
พวกมันก็ป่าวประกาศความเป็นพิษนี้ -
2:38 - 2:40ผ่านลวดลายสีสวย ๆ แทนคำเตือน
-
2:40 - 2:42ที่มีสีส้ม ดำ และขาว
-
2:42 - 2:47สิ่งที่ผมทำระหว่างงานคือการปลูกพืชในเรือนกระจก
-
2:47 - 2:48พืชหลายชนิด มิลก์วีดหลายชนิด
-
2:48 - 2:51บางชนิดมีพิษ เช่น มิลก์วีดเขตร้อน
-
2:51 - 2:54ที่มีความเข้มข้นของคาร์เดโนไลต์สูง
-
2:54 - 2:55และบางชนิดไม่มีพิษ
-
2:55 - 2:58จากนั้นผมใข้พืชพวกนี้เลี้ยงผีเสื้อ
-
2:58 - 3:00ผีเสื้อจักรพรรดิบางตัวสุขภาพดี
พวกมันไม่มีโรคเลย -
3:00 - 3:02แต่ผีเสื้อบางตัวก็ป่วย
-
3:02 - 3:05และผมก็พบว่า
มิลก์วีดบางชนิดมีฤทธิ์เป็นยาได้ -
3:05 - 3:08ซึ่งหมายความว่ามันลดอาการของโรค
ในผีเสื้อจักรพรรดิได้ -
3:08 - 3:11นั่นหมายถึง ผีเสื้อที่ติดเชื้อจะอายุยืนยาวขึ้น
-
3:11 - 3:13เมื่อมันได้กินพืชที่มีฤทธิ์ทางยา
-
3:13 - 3:16พอเจออย่างนี้เข้า ผมก็ได้ความคิดขึ้นมา
-
3:16 - 3:18เป็นความคิดที่หลายคนบอกว่าบ้า
-
3:18 - 3:21แต่ผมคิดว่า
ถ้าผีเสื้อพวกนี้ใช้นี่ได้ล่ะ -
3:21 - 3:24ถ้าหากพวกมันใช้พืชพวกนี้
เป็นยารักษาโรคในแบบของมันล่ะ -
3:24 - 3:26ถ้าพวกมันมีบทบาทเป็นหมอได้ล่ะ
-
3:27 - 3:29ดังนั้น ผมและคณะก็เริ่มทำการทดลอง
-
3:29 - 3:31ในการทดลองรูปแบบแรก ๆ
-
3:31 - 3:33เราให้หนอนผีเสื้อเลือกว่า
-
3:33 - 3:36จะกินมิลก์วีดที่เป็นยา
หรือมิลก์วีดที่ไม่ใช่ยา -
3:36 - 3:39ดูปริมาณมิลก์วีดแต่ละชนิด
ที่มันกินตลอดชีวิตของมัน -
3:39 - 3:42และผลที่ได้นั้นน่าเบื่อ
ตามแบบปกติในวิทยาศาสตร์ -
3:42 - 3:46ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของอาหารเป็นมิลก์วีดยา
ส่วนอีกห้าสิบเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่ -
3:46 - 3:50พวกหนอนไม่ได้ทำอะไร
เพื่อสวัสดิภาพของตัวเองเลย -
3:51 - 3:53เราก็เลยมาดูผีเสื้อตัวเต็มวัยแทน
-
3:53 - 3:55และเราก็เริ่มตั้งคำถาม
-
3:55 - 3:58ว่าเป็นตัวแม่รึเปล่า
ที่ใช้การรักษาลูกของพวกมัน -
3:58 - 4:01ตัวแม่สามารถวางไข่บนมิลก์วีดที่เป็นยา
-
4:01 - 4:04ทำให้ลูกในอนาคตป่วยน้อยลงได้หรือเปล่า
-
4:04 - 4:06เราทำการทดลองนี้มาหลายปี
-
4:06 - 4:08และได้ผลอย่างเดิมตลอด
-
4:08 - 4:10สิ่งที่เราทำก็คือ
เราเอาผีเสื้อจักรพรรดิ์ใส่ในกรงใหญ่ -
4:10 - 4:14วางมิลก์วีดที่เป็นยาไว้ฝั่งหนึ่ง
มิลก์วีดปกติไว้อีกฝั่ง -
4:14 - 4:18จากนั้นเรานับจำนวนไข่
ที่ผีเสื้อจักรพรรดิวางบนแต่ละต้น -
4:18 - 4:21และเมื่อเราทำอย่างนั้น
ผลก็ออกมาเหมือนกันทุกครั้ง -
4:21 - 4:25ผีเสื้อจักรพรรดิชอบวางไข่
บนต้นที่เป็นยามากกว่า -
4:25 - 4:27พูดให้ชัดเจนคือ
ตัวเมียพวกนี้ -
4:27 - 4:30วางไข่ 68 เปอร์เซ็นต์บนมิลก์วีดที่เป็นยา
-
4:30 - 4:35ที่น่าสนใจมาก ๆ คือ
พวกมันต้องแพร่ปรสิตไปยังลูก -
4:35 - 4:36เมื่อมันวางไข่
-
4:36 - 4:38พวกมันป้องกันไม่ได้
-
4:38 - 4:39แล้วพวกมันก็ยังรักษาตัวเองไม่ได้ด้วย
-
4:39 - 4:42แต่การทดลองพวกนี้บอกเราว่า
-
4:42 - 4:47ผีเสื้อจักรพรรดิตัวแม่พวกนี้
สามารถวางไข่บนมิลก์วีดที่เป็นยา -
4:47 - 4:49ที่จะทำให้ลูก ๆ มันป่วยน้อยลงได้
-
4:51 - 4:54ผมคิดว่า การค้นพบนี้สำคัญมาก
-
4:54 - 4:56ไม่ใช่แค่เพราะมันเป็น
ความเจ๋งของธรรมชาติ -
4:56 - 5:00แต่เพราะมันอาจช่วยบอกเราว่า
เราควรหายาอย่างไร -
5:00 - 5:02สัตว์พวกนี้ตัวเล็กมาก ๆ
-
5:02 - 5:04และเรามักคิดว่ามันไม่ซับซ้อน
-
5:04 - 5:06พวกมันมีสมองเล็กนิดเดียว
-
5:06 - 5:08แต่กลับมีวิธีการรักษาพยาบาลที่ซับซ้อนได้
-
5:09 - 5:11ทุกวันนี้ เรารู้ว่ายาส่วนใหญ่ของเรา
-
5:11 - 5:14ก็มาจากผลผลิตธรรมชาติ รวมถึงพวกพืชด้วย
-
5:14 - 5:16ในวัฒนธรรมชนเผ่าเอง
-
5:16 - 5:19หมอพื้นบ้านจะสังเกตสัตว์เพื่อหายาใหม่ ๆ
-
5:19 - 5:22ด้วยวิธีการนี้ ช้างได้บอกกับเรา
ถึงวิธีรักษาอาการท้องไส้ปั่นป่วน -
5:22 - 5:25และเม่นก็ได้บอกกับคน
ถึงวิธีรักษาอาการถ่ายเป็นเลือด -
5:25 - 5:28ผมคิดว่าที่สำคัญคือ การก้าวให้ไกล
-
5:28 - 5:33กว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสมองใหญ่
และเชื่อถือสัตว์เรียบง่ายพวกนี้ -
5:33 - 5:35แมลงพวกนี้ที่เรามักจะคิดว่า
-
5:35 - 5:38เป็นสัตว์ที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และมีสมองเล็ก
-
5:38 - 5:42การค้นพบว่าสัตว์เหล่านี้รู้วิธีการรักษา
-
5:42 - 5:44ได้เปิดพื้นที่ใหม่ ๆ ให้กับเรา
-
5:44 - 5:49และผมคิดว่า สักวันหนึ่ง
เราอาจรักษาโรคของมนุษย์ -
5:49 - 5:52ด้วยยาที่ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกโดยผีเสื้อ
-
5:52 - 5:56และผมเห็นว่า นี่เป็นโอกาสยอดเยี่ยม
ที่คุ้มค่าที่จะลอง -
5:56 - 5:57ขอบคุณครับ
-
5:57 - 6:03(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ผีเสื้อรักษาตัวเองได้อย่างไร
- Speaker:
- แจป เดอ รูด (Jaap de Roode)
- Description:
-
เหมือนกับพวกเรา ผีเสื้อจักรพรรดิ์ก็ป่วยบ้างเป็นบางเวลาเพราะปรสิตน่ารังเกียจ
แต่นักชีววิทยาอย่าง แจป เดอ รูด สังเกตเห็นบางอย่างที่น่าสนใจเกี่ยวกับผีเสื้อที่เขาทำการศึกษา -- ผีเสื้อตัวเมียที่ติดเชื้อจะสามารถเลือกที่จะบางไข่ของพวกมันบนต้นไม่เฉพาะบางชนิดที่ช่วยลูกๆ ของพวกมันหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วย พวกมันรู้ได้อย่างไรว่าต้องเลือกต้นไม้ต้นนั้น คิดซะว่ามันเป็นเหมือนกับ "ผลกระทบจากผีเสื้ออีกอย่าง" -- ซึ่งสามารถสอนให้เราพบกับยาใหม่สำหรับใช้รักษาโรคของมนุษย์ได้ - Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 06:15
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for How butterflies self-medicate | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut accepted Thai subtitles for How butterflies self-medicate | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How butterflies self-medicate | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How butterflies self-medicate | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How butterflies self-medicate | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How butterflies self-medicate | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How butterflies self-medicate | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How butterflies self-medicate |