Return to Video

อุปกรณ์ตรวจครรภ์ทำงานอย่างไร - เทียน นกูเยน (Tien Nguyen)

  • 0:07 - 0:13
    อุปกรณ์ตรวจครรภ์แรกที่ปรากฏย้อนกลับไปได้
    ถึงยุค 1350 ก่อนประวัติศาสตร์ในอียิปต์โบราณ
  • 0:13 - 0:15
    ตามคำบอกเล่าของชาวอียิปต์
  • 0:15 - 0:20
    คุณก็แค่ปัสสาวะลงบนเมล็ดข้าวสาลีและบาร์เลย์
    และรอ
  • 0:20 - 0:24
    ถ้ามีต้นอ่อนทั้งสองชนิดงอกออกมา
    ยินดีด้วย คุณท้อง
  • 0:24 - 0:29
    และถ้าต้นข้าวสาลีงอกเร็วกว่า นั่นหมายถึงผู้หญิง
    แต่ถ้าเป็นบาร์เลย์ นั่นหมายถึงผู้ชาย
  • 0:29 - 0:32
    ในปี ค.ศ.1963 การศึกษาหนึ่ง
    ยืนยันผลการทดสอบนี้
  • 0:32 - 0:37
    และพบว่า มันทำนายการตั้งครรภ์
    ได้แม่นยำถึง 70%
  • 0:37 - 0:41
    แม้ว่ามันจะเชื่อใจไม่ได้
    ในเรื่องการบอกเพศของเด็ก
  • 0:41 - 0:43
    นักวิทยาศาสตร์ตั้งสมมติฐานไว้ว่า
    การทดสอบนั้นได้ผล
  • 0:43 - 0:47
    เพราะว่าปัสสาวะของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์
    มีปริมาณเอสโตรเจน
  • 0:47 - 0:49
    ซึ่งสามารถเร่งการเติบโตของเมล็ดได้
  • 0:49 - 0:52
    เอาล่ะ คุณคงจะคิดว่า
    วิธีการโบราณนี้มันเป็นเรื่องธรรมดา
  • 0:52 - 0:57
    เพราะว่าการตรวจครรภ์ในปัจจุบัน
    ให้ผลที่แม่นยำได้ภายในไม่กี่นาที
  • 0:57 - 0:59
    แล้วมันทำงานอย่างไรล่ะ
  • 0:59 - 1:03
    เครื่องตรวจครรภ์ตามร้านขายยา
    ถูกออกแบบมาให้เพื่อตรวจจับสิ่งหนึ่ง
  • 1:03 - 1:06
    ฮอร์โมนที่เรียกว่า HCG
  • 1:06 - 1:09
    HCG ถูกสร้างขึ้น
    ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์
  • 1:09 - 1:11
    และเริ่มเกมส์การโทรศัพท์
  • 1:11 - 1:15
    ที่บอกร่างกาย ไม่ให้สละเยื่อชั้นใน
    ของมดลูกในเดือนนั้น
  • 1:15 - 1:17
    เมื่อการตั้งครรภ์ดำเนินไป
  • 1:17 - 1:20
    HCG ให้การสนับสนุนการก่อตัว
    ของรก
  • 1:20 - 1:24
    ซึ่งทำหน้าที่ส่งต่อสารอาหาร
    จากแม่ไปสู่ลูก
  • 1:24 - 1:28
    การทดสอบเริ่มขึ้น
    เมื่อหยดปัสสาวะลงไปที่ปลายเปิดของอุปกรณ์
  • 1:28 - 1:31
    เมื่อของเหลวเดินทางขึ้นไป
    ตามเยื่อดูดซับ
  • 1:31 - 1:35
    มันจะผ่านสามส่วนที่แยกกัน
    แต่ละส่วนทำหน้าที่สำคัญของมัน
  • 1:35 - 1:39
    เมื่อคลื่นเข้ากระทบส่วนแรก
    ส่วนปฏิกิริยา
  • 1:39 - 1:45
    โปรตีนรูปตัว Y ที่เรียกว่าแอนติบอดี
    จะจับกับ HCG ใดๆ ก็ตาม
  • 1:45 - 1:48
    ที่ติดอยู่กับแอนติบอดีเหล่านั้น
    คือเอนไซม์ที่มีประโยชน์มาก
  • 1:48 - 1:54
    ที่สามารถเปลี่ยนโมเลกุลสี
    ซึ่งจะมีความสำคัญในขั้นตอนต่อไป
  • 1:54 - 1:57
    จากนั้น ปัสสาวะจะรับเอา AB1 เอนไซม์
  • 1:57 - 2:01
    และนำมันไปยังส่วนทดสอบ
    ซึ่งเป็นส่วนที่แสดงผล
  • 2:01 - 2:04
    ที่ถูกให้ไว้ในส่วนนี้ก็คือแอนติบอดีรูปตัว Y อีก
  • 2:04 - 2:09
    ที่จะยังจับกับ HCG
    บนหนึ่งในห้าส่วนที่เข้าจับ
  • 2:09 - 2:12
    นักวิทยาศาสตร์เรียกการทดสอบแบบนี้ว่า
    การทดสอบแซนด์วิช (sandwich assay)
  • 2:12 - 2:19
    ถ้า HCG ปรากฏอยู่ มันถูกหนีบเป็นแซนวิช
    ระหว่างเอนไซม์ AB1 และเอนไซม์ AB2
  • 2:19 - 2:21
    และติดเข้ากับส่วนทดสอบ
  • 2:21 - 2:24
    ทำให้เอนไซม์ที่กระตุ้นสีที่ติดอยู่ทำงาน
  • 2:24 - 2:27
    และสร้างลายให้ปรากฏขึ้น
  • 2:27 - 2:32
    ถ้าหากไม่มี HCG คลื่นของน้ำปัสสาวะ
    และเอนไซม์ก็จะผ่านไป
  • 2:32 - 2:36
    ท้ายที่สุด ยังมีจุดสุดท้ายที่ต้องพูดถึง
    ก็คือส่วนควบคุม
  • 2:36 - 2:38
    เช่นเดียวกับการทดลองที่ดีอื่นๆ
  • 2:38 - 2:42
    ขั้นตอนนี้มีไว้เพื่อยืนยันว่า
    การทดสอบเป็นไปอย่างเหมาะสม
  • 2:42 - 2:45
    ว่าเอนไซม์ AB1 ไม่พบ HCG
  • 2:45 - 2:49
    หรือพวกมันเกิดขึ้นมาเพราะว่าส่วนแรก
    ถูกท่วมไปด้วยพวกมัน
  • 2:49 - 2:54
    เอนไซม์ AB1 ที่ไม่ถูกจับทั้งหมดในส่วนแรก
    ควรจะมาอยู่ตรงนี้
  • 2:54 - 2:56
    และกระตุ้นสีย้อมอีก
  • 2:56 - 3:00
    ดังนั้น ถ้าไม่มีแถบใดๆ เกิดขึ้น
    มันบ่งบอกว่า การทดสอบนี้ผิดพลาด
  • 3:00 - 3:03
    การทดสอบเหล่านี้ ค่อนข้างน่าเชื่อถือ
    แต่มันก็ไม่ใช่จะผิดพลาดไม่ไ้ด้
  • 3:03 - 3:05
    ยกตัวอย่างเช่น ผลบวกที่ผิดอาจเกิดขึ้น
  • 3:05 - 3:10
    ถ้าความเข้มข้นของ HCG ไม่สูงพอที่จะตรวจพบ
  • 3:10 - 3:14
    หลังจากการฝังตัวอ่อน ระดับ HCG
    เพิ่มเป็นสองเท่า ทุกๆ สองสามวัน
  • 3:14 - 3:16
    ฉะนั้น มันอาจจะเร็วไปที่จะบอกได้
  • 3:16 - 3:19
    และเครื่องดื่มก็สามารถเจือจางตัวอย่างปัสสาวะ
  • 3:19 - 3:23
    ซึ่งเป็นเหตุว่าทำไมหมอจึงแนะนำ
    ให้ทำการทดสอบเป็นสิ่งแรกในตอนเช้า
  • 3:23 - 3:27
    อีกอย่าง ผลบวกที่ผิด (false positive)
    สามารถเกิดขึ้นได้จาก HCG แหล่งอื่นๆ
  • 3:27 - 3:30
    เช่นการฉีด IVF, การท้องนอกมดลูก
  • 3:30 - 3:34
    หรือมะเร็งบางอย่าง เช่นมะเร็งมดลูก
    หรือมะเร็งลูกอัณฑะ
  • 3:34 - 3:39
    จึงเป็นไปได้ที่หนึ่งในการทดสอบเหล่านี้
    จะบอกว่า ผู้ชายตั้งครรภ์
  • 3:39 - 3:44
    วิธีที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิงที่จะให้คำตอบอย่างชัดเจน
    คือการไปหาหมอ
  • 3:44 - 3:46
    หมอก็ดูที่ HCG เช่นกัน
  • 3:46 - 3:50
    แต่ใช้การทดสอบที่ไวกว่า
    และเป็นในเชิงปริมาณมากกว่า
  • 3:50 - 3:55
    ซึ่งหมายความว่า จะสามารถวัดระดับ
    ของ HCG ในเลือดได้อย่างแน่นอน
  • 3:55 - 3:57
    ไม่กี่นาทีอาจทำให้รู้สึกเหมือนนิรันดร์
  • 3:57 - 4:00
    เมื่อคุณรอผลการตรวจครรภ์
  • 4:00 - 4:05
    แต่ในเวลาอันสั้น คุณได้เป็นพยาน
    ของความสามารถของวิธีการทางวิทยาศาสตร์
  • 4:05 - 4:07
    แท่งเล็กๆ แท่งหนึ่ง
    สามารถตอบให้คุณถาม
  • 4:07 - 4:09
    ทำการทดลองควบคุม
  • 4:09 - 4:13
    และวิเคราะห์ผลเพื่อตรวจสมมติฐานแรก
  • 4:13 - 4:17
    และส่วนที่ดีที่สุดคือ
    คุณไม่ต้องรอจนถึงหน้าการเก็บเกี่ยวใหม่
Title:
อุปกรณ์ตรวจครรภ์ทำงานอย่างไร - เทียน นกูเยน (Tien Nguyen)
Description:

ชมบทเรียนแบบเต็มได้ที่: http://ed.ted.com/lessons/how-do-pregnancy-tests-work-tien-nguyen

อุปกรณ์ตรวจครรภ์ที่ตามร้านขายยาให้ผลที่มีความสำคัญยิ่ง ด้วยอัตราความถูกต้องแม่นยำที่ค่อนข้างสูง แต่มันทำงานได้อย่างไรกัน เทียน นกูเยน อธิยายว่าแต่ละการทดสอบดำเนินการตามแนววิทยาศาสตร์อย่างเคร่งครัดได้อย่างไร การทดสอบหลายขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบภายในเวลาที่คุณดูวีดีโอนี้

บทเรียนโดย Tien Nguyen แอนิเมชันโดย Andrew Foerster

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TED-Ed
Duration:
04:34

Thai subtitles

Revisions