1 00:00:06,574 --> 00:00:12,738 อุปกรณ์ตรวจครรภ์แรกที่ปรากฏย้อนกลับไปได้ ถึงยุค 1350 ก่อนประวัติศาสตร์ในอียิปต์โบราณ 2 00:00:12,738 --> 00:00:14,829 ตามคำบอกเล่าของชาวอียิปต์ 3 00:00:14,829 --> 00:00:20,066 คุณก็แค่ปัสสาวะลงบนเมล็ดข้าวสาลีและบาร์เลย์ และรอ 4 00:00:20,066 --> 00:00:23,668 ถ้ามีต้นอ่อนทั้งสองชนิดงอกออกมา ยินดีด้วย คุณท้อง 5 00:00:23,668 --> 00:00:28,962 และถ้าต้นข้าวสาลีงอกเร็วกว่า นั่นหมายถึงผู้หญิง แต่ถ้าเป็นบาร์เลย์ นั่นหมายถึงผู้ชาย 6 00:00:28,962 --> 00:00:32,404 ในปี ค.ศ.1963 การศึกษาหนึ่ง ยืนยันผลการทดสอบนี้ 7 00:00:32,404 --> 00:00:37,097 และพบว่า มันทำนายการตั้งครรภ์ ได้แม่นยำถึง 70% 8 00:00:37,097 --> 00:00:40,752 แม้ว่ามันจะเชื่อใจไม่ได้ ในเรื่องการบอกเพศของเด็ก 9 00:00:40,752 --> 00:00:43,396 นักวิทยาศาสตร์ตั้งสมมติฐานไว้ว่า การทดสอบนั้นได้ผล 10 00:00:43,396 --> 00:00:46,561 เพราะว่าปัสสาวะของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ มีปริมาณเอสโตรเจน 11 00:00:46,561 --> 00:00:48,750 ซึ่งสามารถเร่งการเติบโตของเมล็ดได้ 12 00:00:48,750 --> 00:00:52,091 เอาล่ะ คุณคงจะคิดว่า วิธีการโบราณนี้มันเป็นเรื่องธรรมดา 13 00:00:52,091 --> 00:00:57,138 เพราะว่าการตรวจครรภ์ในปัจจุบัน ให้ผลที่แม่นยำได้ภายในไม่กี่นาที 14 00:00:57,138 --> 00:00:59,050 แล้วมันทำงานอย่างไรล่ะ 15 00:00:59,050 --> 00:01:03,228 เครื่องตรวจครรภ์ตามร้านขายยา ถูกออกแบบมาให้เพื่อตรวจจับสิ่งหนึ่ง 16 00:01:03,228 --> 00:01:05,888 ฮอร์โมนที่เรียกว่า HCG 17 00:01:05,888 --> 00:01:09,300 HCG ถูกสร้างขึ้น ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ 18 00:01:09,300 --> 00:01:10,870 และเริ่มเกมส์การโทรศัพท์ 19 00:01:10,870 --> 00:01:15,015 ที่บอกร่างกาย ไม่ให้สละเยื่อชั้นใน ของมดลูกในเดือนนั้น 20 00:01:15,015 --> 00:01:16,649 เมื่อการตั้งครรภ์ดำเนินไป 21 00:01:16,649 --> 00:01:19,799 HCG ให้การสนับสนุนการก่อตัว ของรก 22 00:01:19,799 --> 00:01:23,653 ซึ่งทำหน้าที่ส่งต่อสารอาหาร จากแม่ไปสู่ลูก 23 00:01:23,653 --> 00:01:28,090 การทดสอบเริ่มขึ้น เมื่อหยดปัสสาวะลงไปที่ปลายเปิดของอุปกรณ์ 24 00:01:28,090 --> 00:01:30,850 เมื่อของเหลวเดินทางขึ้นไป ตามเยื่อดูดซับ 25 00:01:30,850 --> 00:01:35,366 มันจะผ่านสามส่วนที่แยกกัน แต่ละส่วนทำหน้าที่สำคัญของมัน 26 00:01:35,366 --> 00:01:38,995 เมื่อคลื่นเข้ากระทบส่วนแรก ส่วนปฏิกิริยา 27 00:01:38,995 --> 00:01:44,993 โปรตีนรูปตัว Y ที่เรียกว่าแอนติบอดี จะจับกับ HCG ใดๆ ก็ตาม 28 00:01:44,993 --> 00:01:47,810 ที่ติดอยู่กับแอนติบอดีเหล่านั้น คือเอนไซม์ที่มีประโยชน์มาก 29 00:01:47,810 --> 00:01:53,623 ที่สามารถเปลี่ยนโมเลกุลสี ซึ่งจะมีความสำคัญในขั้นตอนต่อไป 30 00:01:53,623 --> 00:01:56,586 จากนั้น ปัสสาวะจะรับเอา AB1 เอนไซม์ 31 00:01:56,586 --> 00:02:00,849 และนำมันไปยังส่วนทดสอบ ซึ่งเป็นส่วนที่แสดงผล 32 00:02:00,849 --> 00:02:03,879 ที่ถูกให้ไว้ในส่วนนี้ก็คือแอนติบอดีรูปตัว Y อีก 33 00:02:03,879 --> 00:02:08,883 ที่จะยังจับกับ HCG บนหนึ่งในห้าส่วนที่เข้าจับ 34 00:02:08,883 --> 00:02:12,223 นักวิทยาศาสตร์เรียกการทดสอบแบบนี้ว่า การทดสอบแซนด์วิช (sandwich assay) 35 00:02:12,223 --> 00:02:19,068 ถ้า HCG ปรากฏอยู่ มันถูกหนีบเป็นแซนวิช ระหว่างเอนไซม์ AB1 และเอนไซม์ AB2 36 00:02:19,068 --> 00:02:20,930 และติดเข้ากับส่วนทดสอบ 37 00:02:20,930 --> 00:02:24,240 ทำให้เอนไซม์ที่กระตุ้นสีที่ติดอยู่ทำงาน 38 00:02:24,240 --> 00:02:26,615 และสร้างลายให้ปรากฏขึ้น 39 00:02:26,615 --> 00:02:31,621 ถ้าหากไม่มี HCG คลื่นของน้ำปัสสาวะ และเอนไซม์ก็จะผ่านไป 40 00:02:31,621 --> 00:02:36,446 ท้ายที่สุด ยังมีจุดสุดท้ายที่ต้องพูดถึง ก็คือส่วนควบคุม 41 00:02:36,446 --> 00:02:38,398 เช่นเดียวกับการทดลองที่ดีอื่นๆ 42 00:02:38,398 --> 00:02:41,621 ขั้นตอนนี้มีไว้เพื่อยืนยันว่า การทดสอบเป็นไปอย่างเหมาะสม 43 00:02:41,621 --> 00:02:44,926 ว่าเอนไซม์ AB1 ไม่พบ HCG 44 00:02:44,926 --> 00:02:48,744 หรือพวกมันเกิดขึ้นมาเพราะว่าส่วนแรก ถูกท่วมไปด้วยพวกมัน 45 00:02:48,744 --> 00:02:53,626 เอนไซม์ AB1 ที่ไม่ถูกจับทั้งหมดในส่วนแรก ควรจะมาอยู่ตรงนี้ 46 00:02:53,626 --> 00:02:55,743 และกระตุ้นสีย้อมอีก 47 00:02:55,743 --> 00:03:00,082 ดังนั้น ถ้าไม่มีแถบใดๆ เกิดขึ้น มันบ่งบอกว่า การทดสอบนี้ผิดพลาด 48 00:03:00,082 --> 00:03:03,453 การทดสอบเหล่านี้ ค่อนข้างน่าเชื่อถือ แต่มันก็ไม่ใช่จะผิดพลาดไม่ไ้ด้ 49 00:03:03,453 --> 00:03:05,336 ยกตัวอย่างเช่น ผลบวกที่ผิดอาจเกิดขึ้น 50 00:03:05,336 --> 00:03:09,639 ถ้าความเข้มข้นของ HCG ไม่สูงพอที่จะตรวจพบ 51 00:03:09,639 --> 00:03:13,501 หลังจากการฝังตัวอ่อน ระดับ HCG เพิ่มเป็นสองเท่า ทุกๆ สองสามวัน 52 00:03:13,501 --> 00:03:16,453 ฉะนั้น มันอาจจะเร็วไปที่จะบอกได้ 53 00:03:16,453 --> 00:03:18,519 และเครื่องดื่มก็สามารถเจือจางตัวอย่างปัสสาวะ 54 00:03:18,519 --> 00:03:22,878 ซึ่งเป็นเหตุว่าทำไมหมอจึงแนะนำ ให้ทำการทดสอบเป็นสิ่งแรกในตอนเช้า 55 00:03:22,878 --> 00:03:27,374 อีกอย่าง ผลบวกที่ผิด (false positive) สามารถเกิดขึ้นได้จาก HCG แหล่งอื่นๆ 56 00:03:27,374 --> 00:03:30,456 เช่นการฉีด IVF, การท้องนอกมดลูก 57 00:03:30,456 --> 00:03:34,440 หรือมะเร็งบางอย่าง เช่นมะเร็งมดลูก หรือมะเร็งลูกอัณฑะ 58 00:03:34,440 --> 00:03:39,482 จึงเป็นไปได้ที่หนึ่งในการทดสอบเหล่านี้ จะบอกว่า ผู้ชายตั้งครรภ์ 59 00:03:39,482 --> 00:03:43,848 วิธีที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิงที่จะให้คำตอบอย่างชัดเจน คือการไปหาหมอ 60 00:03:43,848 --> 00:03:46,373 หมอก็ดูที่ HCG เช่นกัน 61 00:03:46,373 --> 00:03:49,802 แต่ใช้การทดสอบที่ไวกว่า และเป็นในเชิงปริมาณมากกว่า 62 00:03:49,802 --> 00:03:54,530 ซึ่งหมายความว่า จะสามารถวัดระดับ ของ HCG ในเลือดได้อย่างแน่นอน 63 00:03:54,530 --> 00:03:56,936 ไม่กี่นาทีอาจทำให้รู้สึกเหมือนนิรันดร์ 64 00:03:56,936 --> 00:04:00,209 เมื่อคุณรอผลการตรวจครรภ์ 65 00:04:00,209 --> 00:04:04,548 แต่ในเวลาอันสั้น คุณได้เป็นพยาน ของความสามารถของวิธีการทางวิทยาศาสตร์ 66 00:04:04,548 --> 00:04:07,211 แท่งเล็กๆ แท่งหนึ่ง สามารถตอบให้คุณถาม 67 00:04:07,211 --> 00:04:09,277 ทำการทดลองควบคุม 68 00:04:09,277 --> 00:04:13,058 และวิเคราะห์ผลเพื่อตรวจสมมติฐานแรก 69 00:04:13,058 --> 00:04:17,455 และส่วนที่ดีที่สุดคือ คุณไม่ต้องรอจนถึงหน้าการเก็บเกี่ยวใหม่