ความลึกลับแห่งภาษาพื้นบ้าน : "Lady" - เจสสิกา โอเร็ค และเรเชล ทีล (Jessica Oreck and Rachel Teel)
-
0:07 - 0:09ความลึกลับแห่งภาษาพื้นบ้าน
ขอเสนอคำว่า -
0:09 - 0:10"Lady"
-
0:10 - 0:12ซึ่งก็คือ ผู้หญิง
-
0:12 - 0:14คำว่า Lady นั้นเกี่ยวพันถึง
คำศัพท์หลายคำ -
0:14 - 0:16ที่ดูเหมือนในแวบแรกเห็น
-
0:16 - 0:18จะไม่เกี่ยวอะไรกับศัพทมูลวิทยา
-
0:18 - 0:20แต่เมื่อเราได้ย้อนรอยรากศัพท์ดู
-
0:20 - 0:23ไปถึงคำภาษาอังกฤษยุคเก่า
คำว่า "hlaf (ลาฟ)" -
0:23 - 0:25ซึ่งหมายถึง ขนมปังแถวหนึ่ง
(a loaf of bread) -
0:25 - 0:29และเป็นบรรพบุรุษโดยตรงกับคำศัพท์
ที่เราใช้กันในปัจจุบัน loaf แถว (ขนมปัง) -
0:29 - 0:31และ "daege (แดจ)"
-
0:31 - 0:32ซึ่งหมายถึงสาวใช้ (maid)
-
0:32 - 0:35และเป็นรากศัพท์ของคำว่า
dairy (โรงรีดนม) -
0:35 - 0:39สถานที่ทำงานของสาวรีดนมนั่นเอง
-
0:39 - 0:44เมื่อรวมทั้ง hlaf และ daege ก็จะได้
"hlafdige (ลาฟดิจ)" -
0:44 - 0:47มีความหมายตรงตัวว่า สาวทำขนมปัง
-
0:47 - 0:51หรือ เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น
ก็คือคนนวดขนมปัง -
0:51 - 0:53เมื่อต้นศตวรรษที่เก้า
-
0:53 - 0:57hlafdige ก็คือ ชื่อเรียกนายหญิง
ของบรรดาเหล่าข้ารับใช้ -
0:57 - 1:00หรือหัวหน้าครัวเรือนฝ่ายหญิง
-
1:00 - 1:03ส่วนคำภาษาอังกฤษยุคเก่า
ของหัวหน้าครัวเรือนฝ่ายชาย -
1:03 - 1:05ก็คือ "hlafweard (ลาฟเวียร์ด)"
-
1:05 - 1:08เป็นการผสมคำระหว่าง hlaf
(loaf) -
1:08 - 1:10และคำว่า "weard"
-
1:10 - 1:11ซึ่งหมายถึงผู้ดูแล (keeper)
-
1:11 - 1:13และกลายเป็นศัพท์ที่ใช้กันในปัจจุบัน
-
1:13 - 1:16อย่าง ward และ warden
-
1:18 - 1:20ทั้ง hlafweard คนดูแลขนมปัง
-
1:20 - 1:23และ hlafdige คนนวดขนมปัง
-
1:23 - 1:26ได้กลายมาเป็นคำเรียกขาน
ที่แสดงถึงความเคารพ -
1:26 - 1:30หมายถึงพลเมืองผู้สูงศักดิ์
-
1:30 - 1:32ผ่านขั้นตอนที่มีชื่อว่า
"การตัดอักษรหรือเสียงตรงกลาง" -
1:32 - 1:35เมื่อเสียงภายในทั้งสองคำได้ถูกตัดออกไป
-
1:35 - 1:40จึงกลายเป็น Lord และ Lady ตามลำดับ
-
1:40 - 1:42แม้ว่าจะยังคงเป็นการแสดงออกถึง
จรรยาอันงดงาม -
1:42 - 1:44แต่คำว่า Lady ในปัจจุบัน
-
1:44 - 1:47ได้ถูกลดบทบาทสถานะทางสังคมลง
-
1:47 - 1:48และมักจะใช้เพียงเพื่อสื่อถึง
-
1:48 - 1:51ผู้หญิงคนหนึ่ง เท่านั้นเอง
- Title:
- ความลึกลับแห่งภาษาพื้นบ้าน : "Lady" - เจสสิกา โอเร็ค และเรเชล ทีล (Jessica Oreck and Rachel Teel)
- Description:
-
ชมบทเรียนเต็มได้ที่ : http://ed.ted.com/lessons/mysteries-of-vernacular-lady-jessica-oreck-and-rachael-teel
เหตุใดเราจึงเรียกผู้หญิงว่า "Lady (เลดี้)" ด้วยนะ เอาล่ะ หากจะว่ากันตามศัพทมูลวิทยาแล้ว คำ ๆ นี้ มาจากภาษาอังกฤษยุคเก่า คำว่า "hlaf (ลาฟ)" หรือที่แปลว่าขนมปัง และ "daege (แดจ)" ที่แปลว่าสาวใช้ ซึ่งเมื่อนำมาประกอบกันแล้ว จะมีความหมายว่า หัวหน้าครัวเรือนฝ่ายหญิง และมันได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความสูงศักดิ์ในเวลาต่อมา เจสสิกา โอเร็ค และเรเชล ทีล จะมาย้อนรอยคำศัพท์ ตลอดจนถึงสถานะร่วมสมัยของมันที่ใช้บรรยายถึงสตรีคนหนึ่ง
บทเรียนโดย Jessica Oreck and Rachael Teel แอนิเมชันโดย Jessica Oreck - Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TED-Ed
- Duration:
- 02:08
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for Mysteries of vernacular: Lady - Jessica Oreck and Rachael Teel | ||
Rawee Ma accepted Thai subtitles for Mysteries of vernacular: Lady - Jessica Oreck and Rachael Teel | ||
Retired user edited Thai subtitles for Mysteries of vernacular: Lady - Jessica Oreck and Rachael Teel | ||
Rawee Ma declined Thai subtitles for Mysteries of vernacular: Lady - Jessica Oreck and Rachael Teel | ||
Rawee Ma edited Thai subtitles for Mysteries of vernacular: Lady - Jessica Oreck and Rachael Teel | ||
Retired user edited Thai subtitles for Mysteries of vernacular: Lady - Jessica Oreck and Rachael Teel | ||
Retired user edited Thai subtitles for Mysteries of vernacular: Lady - Jessica Oreck and Rachael Teel |