Return to Video

สไปเดอร์แมน ไลออน คิง และชีวิตบนหน้าผาแห่งการสร้างสรรค์

  • 0:02 - 0:08
    (ดนตรี)
  • 0:08 - 0:12
    ["โอดิปัส เร็กซ์"]
  • 0:15 - 0:19
    ["ไลออน คิง"]
  • 0:22 - 0:27
    ["ติตัส"]
  • 0:38 - 0:44
    ["ฟรีด้า"]
  • 0:54 - 0:58
    ["ขลุ่ยวิเศษ"]
  • 1:00 - 1:06
    ["อะครอส เดอะ ยูนิเวอรส์"]
  • 1:16 - 1:20
    (เสียงปรบมือ)
  • 1:20 - 1:22
    ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
  • 1:22 - 1:25
    ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างของละคร อุปรากร
  • 1:25 - 1:29
    และหนังที่ฉันได้กำกับในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
  • 1:29 - 1:31
    แต่ก่อนที่จะเล่าอะไรฉันอยากจะเริ่มด้วย
  • 1:31 - 1:32
    การพาทุกคนกลับไป ณ วินาที
  • 1:32 - 1:35
    ที่เกิดขึ้นกับฉันในอินโดนีเซีย
  • 1:35 - 1:37
    ซึ่งเป็นเวลาที่ผลต่อชีวิตของฉัน
  • 1:37 - 1:39
    และเหมือนกับเรื่องเล่าทุกเรื่อง
  • 1:39 - 1:41
    เรื่องราวเหล่านี้ต้องถูกเล่าต่อไป
  • 1:41 - 1:44
    และต่อไป นอกเสียจากว่าเราจะลืมมัน
  • 1:44 - 1:47
    และในช่วงที่ฉันสับสน อย่างที่ทุกคนก็ทราบดีว่า
  • 1:47 - 1:49
    ฉันกำลังสับสนอยู่ช่วงนี้ ท่ามกลางความเจ็บปวด
  • 1:49 - 1:52
    และไฟแห่งการเปลี่ยนแปลง
  • 1:52 - 1:54
    ซึ่งจริงๆแล้วก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องผ่าน
  • 1:54 - 1:57
    ทุกคนที่ทำงานด้านการสร้างสรรค์ย่อมรู้ดีว่า
    มันจะมีช่วงที่
  • 1:57 - 2:02
    คุณยังไม่แน่ใจ ว่ามันจะเป็นนกฟีนิกส์ที่โผล่ออกมาจากกองไฟ
    หรือจะเป็นแค่กองเถ้าถ่าน
  • 2:02 - 2:04
    (หัวเราะ)
  • 2:04 - 2:07
    ตอนนี้ฉันก็กำลังอยู่ตรงจุดนั้น
  • 2:07 - 2:09
    ซึ่งก็เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันบอกว่าจะเล่า
  • 2:09 - 2:11
    ฉันอยากจะพาคุณกลับไปที่อินโดนีเซีย
  • 2:11 - 2:14
    ตอนนั้นฉันอายุ 21-22 ซึ่งก็นานมาแล้ว
  • 2:14 - 2:16
    ฉันไปแลกเปลี่ยน
  • 2:16 - 2:19
    แล้วก็พบว่าอีกสองปีต่อมา
  • 2:19 - 2:22
    ฉันก็ไปเรียนการแสดง และแสดงอยู่ที่เกาะบาหลี
  • 2:22 - 2:26
    แถบขอบปล่องภูเขาไฟ กูนังบาตูร์ (Gunung Batur)
  • 2:26 - 2:29
    ฉันอยู่ที่หมู่บ้าน ซึ่งมีการจัดงาน
  • 2:29 - 2:32
    เฉลิมฉลองให้กับเด็กหนุ่ม
  • 2:32 - 2:33
    ในการก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่
  • 2:33 - 2:36
    ฉันไม่รู้ตัวเลยว่ามันจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนของฉันด้วย
  • 2:36 - 2:38
    ในตอนที่ฉันนั่งอยู่ในจตุรัสของวัด
  • 2:38 - 2:41
    ใต้ต้นไทรใหญ่ยักษ์
  • 2:41 - 2:46
    ท่ามกลางความมืด ที่นั่นไม่มีไฟฟ้า มีแต่แสงจันทร์เต็มดวง
  • 2:46 - 2:48
    ในจตุรัสซึ่งปราศจากผู้คน
  • 2:48 - 2:50
    ฉันได้ยินเสียงดนตรีที่เพราะที่สุด
  • 2:50 - 2:52
    เหมือนกับคอนเสิร์ตของ ชารลส์ อิเวส
    (Charles Ives) [นักแต่งเพลงและนักดนตรีอเมริกัน]
  • 2:52 - 2:54
    ในขณะที่ฉันกำลังเงียหูฟังเสียงวงมโหรี
  • 2:54 - 2:56
    จากแต่ละหมู่บ้านที่ดังลอยมา
  • 2:56 - 3:00
    เพื่องานฉลองที่จัดขึ้นทุกๆห้าปีนี้
  • 3:00 - 3:03
    ฉันคิดว่าฉันนั่งอยู่คนเดียวใต้ร่มไม้มืดๆนั้น
  • 3:03 - 3:06
    แต่ทันใดนั้น ท่ามกลางความมืด
  • 3:06 - 3:08
    จากอีกด้านหนึ่งของจตุรัส
  • 3:08 - 3:12
    ฉันเห็นกระจกที่สว่างขึ้นได้ด้วยแสงจันทร์
  • 3:12 - 3:15
    แล้วก็เห็นชายแก่ประมาณ 20 คน ซึ่งฉันเคยเห็นพวกเขามาก่อน
  • 3:15 - 3:21
    พวกเขายืนขึ้นพร้อมกันทันที ในชุดนักรบเต็มยศ
  • 3:21 - 3:23
    สวมเครื่องประดับศีรษะ ถือหอก
  • 3:23 - 3:27
    ทั้งๆที่ไม่มีใครอยู่ที่จุตรัสนั้นเลย ฉันเองก็นั่งแอบอยู่ในมุมมืด
  • 3:27 - 3:30
    ไม่มีใครอยู่ที่นั่น แต่ชายเหล่านี้ออกมา
  • 3:30 - 3:33
    แล้วก็ร่ายรำอย่างสวยงาม น่าตื่นตะลึง
  • 3:33 - 3:37
    ฮูฮูฮูฮูฮูฮูฮูฮูฮูฮูฮูฮูฮู ฮาฮาฮาฮาฮาฮา
  • 3:37 - 3:40
    พวกเขาเคลื่อนตัวและก้าวไปข้างหน้า
  • 3:40 - 3:43
    และแสงจันทร์สะท้อนส่องเสื้อผ้าของพวกเขา
  • 3:43 - 3:47
    ฉันเคยดูละครเวทีมาตั้งแต่อายุ 11
  • 3:47 - 3:50
    ฉันแสดง ฉันสร้างงาน แล้วฉันก็สงสัยว่า
  • 3:50 - 3:52
    พวกเขาแสดงให้ใครดูกัน
  • 3:52 - 3:54
    ในเครื่องแต่งกายที่สวยงามปราณีต
  • 3:54 - 3:56
    เครื่องประดับศีรษะที่วิจิตพิศดาร
  • 3:56 - 4:01
    แล้วฉันก็เข้าใจได้ว่า พวกเขากำลังแสดงเพื่อเทพเจ้า
  • 4:01 - 4:04
    ไม่ว่านั่นจะหมายความว่าอะไร
  • 4:04 - 4:07
    แต่มันเห็นได้ชัดว่า มันไม่จำเป็นต้องได้รับการยอมรับจากฝูงชน
  • 4:07 - 4:10
    ไม่มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง
  • 4:10 - 4:13
    แล้วมันก็จะไม่ถูกบันทึกไว้ ไม่มีใครมาทำข่าว
  • 4:13 - 4:15
    แต่ว่าศิลปินที่น่าทึ่งเหล่านี้ก็ยังแสดง
  • 4:15 - 4:18
    ซึ่งฉันรู้สึกเหมือนกับอยู่ในห้วงอสงขัยเวลา
  • 4:18 - 4:21
    ชั่วขณะต่อมา
  • 4:21 - 4:25
    ทันทีที่พวกเขาร่ายรำเสร็จ พวกเขาก็หายไปในความมืด
  • 4:25 - 4:27
    จากนั้นชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินออกมาพร้อมกับโคมไฟน้ำมัน
  • 4:27 - 4:29
    เขาแขวนมันขึ้นบนต้นไม้ จัดผ้าม่าน
  • 4:29 - 4:33
    แล้วจตุรัสแห่งนั้นก็เต็มไปด้วยคนหลายร้อยคน
  • 4:33 - 4:35
    พวกเขาจัดแสดงละคร และอุปรากรตลอดคืน
  • 4:35 - 4:38
    มนุษย์ต้องการแสงสว่าง
  • 4:38 - 4:40
    ในการที่เราจะมองเห็น
  • 4:40 - 4:44
    สิ่งที่ฉันได้ทำความเข้าใจ
  • 4:44 - 4:47
    จากจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่นี้ ในฐานะศิลปินวัยรุ่น
  • 4:47 - 4:50
    ก็คือว่า ฉันรู้สึกว่าเราต้องซื่อตรง
  • 4:50 - 4:54
    ต่อสิ่งที่เราเชื่อมั่นในฐานะที่เป็นศิลปิน
  • 4:54 - 4:57
    และเรายังต้องรับรู้ด้วยว่า
  • 4:57 - 5:01
    ผู้ชมของเราอยู่ข้างนอกนั่น อยู่ในชีวิตประจำวันของเราในขณะนี้
  • 5:01 - 5:02
    และ พวกเขาต้องการแสงสว่างเช่นกัน
  • 5:02 - 5:05
    มันเป็นเรื่องของความสมดุลที่เหลือเชื่อ
  • 5:05 - 5:06
    ที่ฉันคิดว่าเราได้เดินทาง
  • 5:06 - 5:10
    เมื่อเราได้สร้างสรรค์บางสิ่งที่ต่างออกไปจากเดิม
  • 5:10 - 5:12
    และนั่นคือการพยายามทำสิ่งที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน
  • 5:12 - 5:14
    ในโลกแห่งจินตนาการ
  • 5:14 - 5:17
    ที่ซึ่งคุณเองก็ไม่รู้ว่ามันจะจบลง ณ จุดใด
  • 5:17 - 5:20
    นั่นคือเส้นบางๆ บนขอบของปล่องภูเขาไฟ
  • 5:20 - 5:23
    ที่ฉันได้เดินอยู่บนนั้นมาตลอดชีวิต
  • 5:23 - 5:25
    สิ่งที่ฉันอยากจะทำในตอนนี้คือเล่าให้คุณฟัง
  • 5:25 - 5:27
    ถึงส่วนหนึ่ง
  • 5:27 - 5:30
    ของการทำงานของฉัน จากเรื่อง เดอะไลออนคิง (The Lion King)
  • 5:30 - 5:32
    คุณได้เห็นตัวอย่างผลงานของฉันหลายชิ้น
  • 5:32 - 5:34
    แต่ชิ่นนี้น่าจะเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
  • 5:34 - 5:37
    ฉันเปิดงานด้วย ภาพสัญลักษณ์
  • 5:37 - 5:40
    ภาพสัญลักษณ์เป็นคล้ายๆกับงานวาดภาพด้วยพู่กันของญี่ปุ่น
  • 5:40 - 5:44
    ตวัดสามที คุณอาจจะมองเห็นป่าไผ่
  • 5:44 - 5:46
    ฉันเพ่งความคิดไปยังแนวคิดของเรื่อง เดอะไลออนคิง
  • 5:46 - 5:48
    แล้วก็คิดว่า "อะไรคือหัวใจสำคัญ"
  • 5:48 - 5:50
    อะไรคือมโนคติ
  • 5:50 - 5:53
    ถ้าฉันจะย่อเรื่องราวทั้งหมดนี้
  • 5:53 - 5:56
    ลงมาเป็นภาพๆเดียว มันควรจะเป็นภาพอะไร
  • 5:56 - 5:59
    วงกลม ภาพวงกลม มันชัดเจนมาก
  • 5:59 - 6:03
    วงจรแห่งชีวิต วงจรแห่งหน้ากากของมูฟาซา
  • 6:03 - 6:07
    วงจรที่แสดงให้เราเห็นว่า เมื่อเราเข้าสู่องค์ที่สอง
    เข้าสู่ช่วงที่อากาศแห้งแล้ง
  • 6:07 - 6:09
    คุณจะสื่อถึงภาพความแห้งแล้งได้อย่างไร
  • 6:09 - 6:12
    ผ้าไหมรูปวงกลมที่อยู่บนพื้น
  • 6:12 - 6:16
    ที่หายไปในช่องบนพื้นเวที
  • 6:16 - 6:19
    วงจรของธรรมชาติ แสดงออกมาในรูปของวงล้อ
  • 6:19 - 6:21
    ในรูปของเหล่าละมั่งที่กระโดด
  • 6:21 - 6:23
    แล้วคุณก็ได้เห็นกลไกต่างๆ
  • 6:23 - 6:26
    ในฐานะที่เป็นคนทำงานละคร
    สิ่งที่ฉันรักและรู้ดีเกี่ยวกับงานนี้
  • 6:26 - 6:28
    ก็คือเมื่อผู้ชมเดินเข้ามาในโรงละคร
  • 6:28 - 6:30
    พวกเขาได้ละความไม่เชื่อถือเอาไว้
  • 6:30 - 6:33
    แล้วพอพวกเขาได้เห็นนักแสดงชายหญิงที่เดินไปมา
  • 6:33 - 6:35
    โดยมีแผ่นหญ้าอยู่บนศรีษะ
  • 6:35 - 6:36
    พวกเขาเข้าใจได้ทันทีว่า มันคือทุ่งหญ้าสะวันนา
  • 6:36 - 6:38
    พวกเขาไม่สงสัย ไม่กังขา
  • 6:38 - 6:40
    ฉันชอบภาพปรากฎที่ตรงไปตรงมาของงานละคร
  • 6:40 - 6:44
    ฉันชอบที่ผู้ชมนั้นยินดีที่จะเติมช่องว่างเหล่านั้น
  • 6:44 - 6:46
    พวกเขายินดีที่จะพูดว่า
  • 6:46 - 6:49
    "ฉันรู้ ว่ามันไม่ใช่พระอาทิตย์จริงๆหรอก
  • 6:49 - 6:51
    คุณเอาท่อนไม้มา
  • 6:51 - 6:53
    แล้วก็แขวนผ้าไหมไว้ข้างล่างนั่น
  • 6:53 - 6:57
    ชักมันขึ้นไป ปล่อยให้มันทิ้งตัวลงมาถึงพื้น
  • 6:57 - 7:01
    พอมันถูกดึงขึ้นด้วยสลิงที่แขวนไม้ไว้
    เราก็เห็นว่า นั่นคือพระอาทิตย์
  • 7:01 - 7:06
    แต่สิ่งที่สวยงามก็คือ มันเป็นแค่ไม้กับผ้า
  • 7:06 - 7:10
    และด้วยเหตุนี้เอง ที่ทำให้ละครมีจิตวิญญาน
  • 7:10 - 7:12
    มันคือสิ่งที่ทำให้เรามีอารมณ์ร่วม
  • 7:12 - 7:16
    มันไม่ใช่เพราะว่ามีพระอาทิตย์ขึ้นตอนนั้นจริงๆ
  • 7:16 - 7:17
    แต่มันเป็นศิลปะของการทำให้มันเกิดขึ้น
  • 7:17 - 7:23
    ดังนั้นในการทำงานละคร ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่อง
  • 7:23 - 7:25
    รวมทั้งตัวบท และการใช้ภาษา จะสำคัญ
  • 7:25 - 7:29
    การเล่าเรื่อง และรูปแบบที่มันถูกเล่า
  • 7:29 - 7:33
    กลไก และวิธีการที่คุณใช้
  • 7:33 - 7:36
    ก็สำคัญเท่าๆกันกับตัวเนื้อเรื่องเอง
  • 7:36 - 7:39
    ส่วนตัวแล้วฉันเป็นคนที่ชอบทั้งเทคโนโลยีล้ำสมัย
    แล้วก็อะไรที่ล้าสมัย
  • 7:39 - 7:41
    ฉันใช้หมดไม่ว่าอะไร
  • 7:41 - 7:43
    ยกตัวอย่างเช่น สไปเดอร์แมน (Spider-Man)
    ที่เดี๋ยวฉันจะแสดงตัวอย่างให้ดู
  • 7:43 - 7:46
    เจ้าเครื่องแสนมหัศจรรย์เหล่านี้ที่ทำให้คนเคลื่อนที่ไปได้
  • 7:46 - 7:48
    ความจริงก็คือ หากไม่มีนักเต้น
  • 7:48 - 7:51
    ผู้ที่สามารถควบคุมร่างกาย และเหวี่ยงตัวไปมาบนสลิงเหล่านั้นได้
  • 7:51 - 7:53
    เจ้าเครื่องนี้ก็ไร้ประโยชน์
  • 7:53 - 7:56
    ดังนั้นตอนนี้ ฉันจะให้พวกคุณได้ชม
  • 7:56 - 8:00
    คลิปวิดีโออีกอันหนึ่ง จากอีกหนึ่งโครงงานใหญ่ในชีวิตของฉันในปีนี้
  • 8:00 - 8:01
    "เดอะ เทมเปสต์" [พายุพิโรธ] (The Tempest)
  • 8:01 - 8:05
    มันเป็นภาพยนตร์ ฉันเคยทำละครเวทีเรื่องนี้สามครั้ง
  • 8:05 - 8:08
    ตั้งแต่ปี 1984 แล้วก็ 1986
  • 8:08 - 8:11
    และฉันก็ชอบละครเรื่องนี้มาก
  • 8:11 - 8:13
    ปรกติแล้วฉันใช้บทพรอสเพอร์โร (Prospero) ที่เป็นผู้ชาย
  • 8:13 - 8:15
    แล้วฉันก็คิดขึ้นมาว่า
  • 8:15 - 8:17
    แล้วฉันจะให้ใครเล่นเป็นพรอสเพอร์โรดีล่ะ
  • 8:17 - 8:21
    เฮเลน มิเลน (Helen Mirren) น่าจะดีนะ
    เธอเป็นนักแสดงที่เก่งมาก น่าจะลองดู
  • 8:21 - 8:24
    แล้วบทนี้ก็เอื้อให้เป็นตัวละครผู้หญิงเหมือนกัน
  • 8:24 - 8:27
    เอาล่ะค่ะ มาลองดูภาพกันนะคะ
  • 8:27 - 8:29
    จาก เดอะ เทมเปสต์
  • 8:29 - 8:34
    (เสียงดนตรี)
  • 8:45 - 8:49
    (วิดีโอ) พรอสเพอร์รา- เจ้าภูติเอ๋ย เจ้าได้ก่อพายุดั่งที่ข้าสั่งหรือไม่
  • 8:49 - 8:54
    เอเรียล- ข้าขึ้นเรือของพระราชา ย่ำไปทุกห้องหับ
    เผาจิตทุกผู้ตนจนหวันไหว
  • 8:58 - 9:01
    พรอสเพอร์รา- ตั้งแต่ขณะแรก ที่พวกเขาได้สบสายตา
  • 9:01 - 9:02
    มิรันดา- ท่านรักข้าหรือไม่
  • 9:02 - 9:03
    เฟอร์ดินาน- เกินกว่าขอบเขตจำกัดใดๆ
  • 9:03 - 9:06
    เฮเลน มิเล่น: พวกเขาทั้งคู่อยู่ใต้อำนาจของกันและกัน
  • 9:06 - 9:11
    ตรินคูโล: ยามวิกฤตินำมนุษย์ไปพบพานสหายที่แสนประหลาด
  • 9:11 - 9:14
    (เสียงดนตรี)
  • 9:14 - 9:18
    มองหาอะไรหรือ ท่านผู้การ
  • 9:18 - 9:20
    คาลิบัน: ท่านตกลงมาจากสวรรค์หรือไร ?
  • 9:20 - 9:22
    สเตฟาโน่: มาจากพระจันทร์เลยล่ะ ข้าขอยืนยัน
  • 9:22 - 9:24
    พรอสเพอร์รา- คาลิบัน!
  • 9:24 - 9:26
    คาลิบัน- เกาะนี้เป็นของข้า
  • 9:26 - 9:30
    พรอสเพอร์รา- เพราะเจ้าทำแบบนี้ คืนนี้เจ้าตะคริวกินแน่
  • 9:30 - 9:34
    อันโตนิโอ- นั่น พี่ชายของเจ้าที่นอนล้มกาย
    ไร้ค่าประหนึ่งธุลีเบื้องล่าง
  • 9:34 - 9:35
    เซบาสเตียน-ชักดาบของเจ้า
  • 9:35 - 9:39
    แล้วข้า พระราชาองค์ใหม่ จะเมตตา
  • 9:39 - 9:44
    พรอสเพอร์รา: ข้าจักทรมานพวกมัน จนมันร้องกันสุดเสียงโอด
  • 9:46 - 9:51
    แอเรียล: ข้าทำให้ท่านเสียสติไปเสียแล้ว
  • 9:57 - 10:00
    พรอสเพอร์รา: อันตัวเรานั้น
    สร้างจากอากาศธาตุไม่ต่างจากความฝัน
  • 10:00 - 10:04
    และชีวิตของเราก็อยู่ในวงล้อมแห่งนิทรา
  • 10:04 - 10:09
    (เสียงดนตรี)
  • 10:09 - 10:12
    จูลี: โอเค
  • 10:12 - 10:16
    (เสียงปรบมือ)
  • 10:16 - 10:19
    ฉันเปลี่ยนจากการทำละครเรื่อง "เดอะ เทมเปสต์"
  • 10:19 - 10:21
    ในแบบละครเวทีงบน้อย
  • 10:21 - 10:23
    เมื่อหลายปีก่อน
  • 10:23 - 10:25
    ฉันชอบละครเรื่องนี้มาก แล้วฉันก็คิดว่า
  • 10:25 - 10:27
    มันเป็นบทละครเรื่องสุดท้ายของเชคสเปียร์
  • 10:27 - 10:31
    และมันก็ค่อนข้างเหมาะกับการทำเป็นภาพยนตร์
    อย่างที่คุณได้ชมแล้ว
  • 10:31 - 10:33
    แต่ฉันอยากจะให้ตัวอย่างกับคุณอีกนิดนึง เกี่ยวกับ
  • 10:33 - 10:35
    การสร้างสรรค์มันเป็นละครบนเวที
  • 10:35 - 10:39
    และจากนั้น การนำความคิดหรือเรื่องเดียวกันนี้
  • 10:39 - 10:42
    ไปสู่การนำเสนอในแบบภาพยนตร์
  • 10:42 - 10:45
    เรื่องภาพสัญลักษณ์ที่ฉันพูดถึงเมื่อสักครู่นี้
  • 10:45 - 10:48
    ภาพสัญลักษณ์ของ "เดอะ เทมเปสต์" คืออะไร
  • 10:48 - 10:50
    ถ้าฉันจะเคี่ยวเรื่องนี้จนได้บทสรุป
  • 10:50 - 10:53
    อะไรที่จะเป็นภาพเพียงหนึ่งเดียว ที่ฉัน
  • 10:53 - 10:55
    จะพอใจกับมัน
  • 10:55 - 10:57
    ฉันคิดว่ามันคือปราสาททราย
  • 10:57 - 11:00
    แนวคิดเรื่องธรรมชาติ ปะทะกับสิ่งที่มนุษย์สร้าง
  • 11:00 - 11:03
    ที่เราได้สร้างเป็นอารยธรรมเหล่านี้
  • 11:03 - 11:06
    เธอพูดถึงมันในตอนท้าย โดยพอรส์เพอร์รา
    ตัวละครที่แสดงโดย เฮเลน มิลเลน
  • 11:06 - 11:11
    เราสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา แต่ภายใต้อำนาจของธรรมชาติ
    ท่ามกลางพายุพิโรธ
  • 11:11 - 11:17
    ยอดหอคอยสูงเทียมเมฆ และพระราชวังสุดสง่าก็จะเลือนหายไป
  • 11:17 - 11:21
    และไม่เหลืออะไร ไม่แม้แต่ซากปรักหักพัง
  • 11:21 - 11:24
    ดังนั้นในการทำละครเวที ฉันเปิดฉากแรก
  • 11:24 - 11:27
    ด้วยทางคราดทรายสีดำ ใต้แสงสีขาว
  • 11:27 - 11:30
    มีเด็กผู้หญิง มิรันดา นั่งอยู่ที่เส้นขอบฟ้า
  • 11:30 - 11:32
    เธอกำลังสร้างปราสาททรายอยู่
  • 11:32 - 11:36
    เธอนั่งอยู่ตรงขอบเวทีนั้น
  • 11:36 - 11:39
    แล้วคนจัดฉากบนเวทีสองคน ซึ่งแต่งชุดดำทั้งชุด
  • 11:39 - 11:44
    พร้อมด้วยบัวรดน้ำ จะวิ่งมาด้านบน
  • 11:44 - 11:48
    และเริ่มเทน้ำลงมาเหนือปราสาททราย
  • 11:48 - 11:51
    แล้วปราสาททรายก็ค่อยๆทะลายลงและจมหายไป
  • 11:51 - 11:52
    แต่ก่อนที่มันจะหายไป
  • 11:52 - 11:57
    ผู้ชมจะได้เห็นคนจัดฉากชุดดำ
  • 11:57 - 12:01
    มันเป็นการสื่อแบบตรงๆ ทื่อๆ เรามองเห็นเลยว่า
  • 12:01 - 12:04
    ในขณะที่พวกเขาเริ่มเทน้ำ
  • 12:04 - 12:08
    แสงก็เปลี่ยนจากการเน้นไปที่คนชุดดำ
  • 12:08 - 12:11
    ไปเน้นที่อีกสิ่งหนึ่ง ซี่งนี่แหละคือเวทย์มนต์ของการทำละคร
  • 12:11 - 12:15
    แสงนั้นไปเน้นที่น้ำ
  • 12:15 - 12:19
    และในทันใด มุมมองการรับชมของผู้ชมก็เปลี่ยนไป
  • 12:19 - 12:22
    มันกลายเป็นสิ่งที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
  • 12:22 - 12:25
    มันกลายเป็นพายุฝนฟ้าคะนอง
  • 12:25 - 12:29
    นักแสดงชุดดำ นักเล่นหุ่นกระบอก พวกเขาหายไปจากความสนใจ
  • 12:29 - 12:32
    แล้วผู้ชมก็กระโจนเข้าสู่โลกอีกใบนี้
  • 12:32 - 12:36
    ในโลกแห่งจินตนาการของ ละครเรื่อง "เดอะ เทมเปสต์" นั้น
    กำลังเกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขา
  • 12:36 - 12:38
    ทีนี้มาว่ากันถึง ความแตกต่าง
  • 12:38 - 12:40
    เมื่อฉันมาทำเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์
  • 12:40 - 12:43
    ฉันเริ่มฉากแรกในหนัง
  • 12:43 - 12:48
    ด้วยภาพโคลสอัพปราสาททรายสีดำ
  • 12:48 - 12:50
    และสิ่งที่ภาพยนตร์ทำได้
  • 12:50 - 12:53
    คือ การใช้มุมกล้อง และมุมมอง
  • 12:53 - 12:56
    การใช้ภาพมุมไกล และภาพใกล้
  • 12:56 - 12:58
    เริ่มด้วยภาพมุมใกล้ของปราสาททรายสีดำ
  • 12:58 - 13:00
    แล้วค่อยๆดึงภาพออกมา
  • 13:00 - 13:03
    คุณมองเห็นมันเป็นปราสาทจิ๋วที่อยู่ในอุ้งมือ
  • 13:03 - 13:05
    ของเด็กผู้หญิง
  • 13:05 - 13:07
    นี่คือลักษณะที่ฉันสามารถเล่นกับสื่อที่เราใช้ได้
  • 13:07 - 13:10
    และก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันชอบเปลี่ยนสื่อที่ใช้ไปมา
  • 13:10 - 13:11
    เพื่อที่ว่าฉันจะสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้
  • 13:11 - 13:14
    ต่อไปฉันจะพาคุณไปดู "สไปเดอร์แมน"
  • 13:14 - 13:18
    (เสียงดนตรี)
  • 13:45 - 13:48
    (วีดีโอ) ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์: ♪ ยืนอยู่บนหน้าผา
  • 13:48 - 13:52
    ฉันจะหนีไปจากนี้ ♪
  • 13:52 - 13:54
    จูลี: เราพยามทำทุกอย่างในโรงละคร
  • 13:54 - 13:56
    ซึ่งมันคุณไม่น่าจะทำได้ในแบบสองมิติ
  • 13:56 - 13:59
    ในภาพยนตร์ และในโทรทัศน์
  • 13:59 - 14:03
    ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์: ♪ เป็นมากกว่าที่คุณเป็น
    แล้วควบคุมชีวิตตัวเอง ♪
  • 14:03 - 14:06
    จอร์จ ไซปิน: ♪ เรากำลังมองดูเมืองนิวยอร์ก
    จากมุมมองของสไปเดอร์แมน ♪
  • 14:06 - 14:08
    สไปเดอร์แมนไม่อยู่ใต้กฏของแรงโน้มถ่วง
  • 14:08 - 14:12
    แมนฮัตตันในละครของเรา
    ก็ไม่อยู่ภายใต้กฏของแรงโน้มถ่วงเช่นกัน
  • 14:12 - 14:16
    ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์: ♪ เป็นตัวเอง แล้วเป็นเหนือทุกสิ่ง ♪
  • 14:16 - 14:20
    เสียงประสาน: ♪ ผัวะ พลั่ก ♪
  • 14:20 - 14:23
    ♪ โครม เคล้ง ♪
  • 14:23 - 14:25
    แดนนี่ เอสราโลว์: ผมไม่อยากให้ผู้ชมคิดด้วยซ้ำว่า
    มันมีการออกแบบท่าเต้น
  • 14:25 - 14:26
    สิ่งที่เกิดขึ้นมันต้องดูสมจริง
  • 14:26 - 14:29
    ผมอยากให้ทุกคนดูคนเหล่านี้เคลื่อนไหว
  • 14:29 - 14:31
    แล้วก็ทำเสียงแบบ "โอ้ นั่นมันอะไรกัน"
  • 14:31 - 14:43
    (เสียงดนตรี)
  • 14:43 - 14:45
    จูลี่: ถ้าฉันใส่ความเคลื่อนไหวลงไปในใบหน้าของหุ่นเหล่านี้
    อย่างเพียงพอ
  • 14:45 - 14:48
    พอนักแสดงเคลื่อนไหวศีรษะ คุณก็จะรู้สึกว่าพวกมันมีชีวิต
  • 14:48 - 14:51
    มันคือหนังสือการ์ตูนแสดงสด เหมือนมันมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ
  • 14:51 - 14:59
    (เสียงดนตรี)
  • 14:59 - 15:00
    โบโน: มันเป็นเรื่องราวปรัมปรา
  • 15:00 - 15:03
    เหล่าฮีโร่ในหนังสือการ์ตูน เป็นพระเอกในเทพนิยายสมัยใหม่
  • 15:03 - 15:09
    ปีเตอร์: ♪ พวกเขาเชื่อ♪
  • 15:09 - 15:13
    (เสียงกรีดร้อง)
  • 15:13 - 15:19
    (เสียงดนตรี)
  • 15:31 - 15:33
    (เสียงปรบมือ)
  • 15:33 - 15:38
    จูลี: โอ้ นั่นมันอะไรกัน
  • 15:38 - 15:40
    ละครสัตว์ หรือละครร๊อค
  • 15:40 - 15:43
    เราขึ้นไปทำอะไรกันบนเวทีนั่นน่ะ
  • 15:43 - 15:45
    เอาล่ะค่ะ อีกเรื่องนึง เรื่องสุดท้ายแล้ว
  • 15:45 - 15:48
    หลังจากที่ฉันไปอยู่ที่หมู่บ้านนั้น ฉันก็เดินทางข้ามทะเลสาบ
  • 15:48 - 15:51
    แล้วก็เห็นว่าภูเขาไฟกำลังประทุ
  • 15:51 - 15:53
    อยู่ตรงอีกด้านของ กูนัง บาตู (Gunung Batur)
  • 15:53 - 15:56
    ข้างๆกันนั้นก็มีภูเขาไฟที่สงบแล้ว อยู่ติดกับภูเขาไฟที่ยังมีชีวิต
  • 15:56 - 15:58
    ตอนนั้นฉันคิดว่าฉันจะถูกกลืนไปในภูเขาไฟซะแล้ว
  • 15:58 - 16:00
    แต่ ฉันก็ยังมายืนอยู่ตรงนี้
  • 16:00 - 16:04
    มันเป็นเรื่องง่ายที่จะปีนขึ้นไป จริงไหมคะ?
  • 16:04 - 16:05
    คุณทรงตัวให้ดีๆ
  • 16:05 - 16:09
    วางเท้าลงบนหินก้อนเล็กๆ
  • 16:09 - 16:11
    แล้วก็ปีนขึ้นไป คุณก็จะสามารถขึ้นไปถึงยอดเขาได้
  • 16:11 - 16:13
    ตอนนั้นฉันปีนขึ้นไปกับเพื่อนคนหนึ่ง เขาเป็นนักแสดง
  • 16:13 - 16:15
    เราคุยกันว่า "ขึ้นไปบนนั้นกัน
  • 16:15 - 16:17
    ไปดูซิว่าเราจะเข้าใกล้ปล่องภูเขาไฟ
  • 16:17 - 16:20
    ที่กำลังปะทุอยู่ได้ไหม"
  • 16:20 - 16:22
    แล้วเราก็ปีนขึ้นไปจนถึงยอดเขา
  • 16:22 - 16:25
    เราไปยืนอยู่ตรงขอบ บนผาชัน
  • 16:25 - 16:27
    แล้วโรแลนก็หายตัวไปในควันก๊าซซัลเฟอร์
  • 16:27 - 16:29
    ที่ภูเขาไฟอีกด้าน
  • 16:29 - 16:31
    แล้วฉันก็อยู่ตรงนั้นคนเดียว
  • 16:31 - 16:34
    บนหน้าผาที่เหลือเชื่อนั้น
  • 16:34 - 16:36
    คุณได้ฟังเนื้อเพลงรึเปล่าคะ
  • 16:36 - 16:38
    ตอนนนั้นฉันเองก็อยู่บนหน้าผา มองลงมา
  • 16:38 - 16:40
    เห็นภูเขาไฟที่สงบแล้วทางซ้าย
  • 16:40 - 16:44
    และทางขวาเป็นชั้นหินบางๆ ที่กำลังปะทุ
  • 16:44 - 16:48
    ฉันสวมเพียงรองเท้าแตะและผ้าโสร่ง มันหลายปีมาแล้วน่ะค่ะ
  • 16:48 - 16:49
    ไม่ได้สวมรองเท้าปีนเขา
  • 16:49 - 16:53
    แล้วเพื่อนนักแสดงพเนจรจอมเพี้ยนชาวฝรั่งเศสของฉัน
    ก็หายไป
  • 16:53 - 16:57
    ในท่ามกลางม่านควัน ตอนนั้นฉันรู้ว่า
  • 16:57 - 17:01
    ฉันไม่กลับลงไปตามทางที่ฉันปีนขึ้นมาได้แล้ว
    ฉันทำไม่ได้แน่ๆ
  • 17:01 - 17:05
    ฉันทิ้งกล้องไป แล้วก็ถอดรองเท้าแตะด้วย
  • 17:05 - 17:08
    แล้วฉันก็มองตรงไปข้างหน้า
  • 17:08 - 17:12
    แล้วฉันก็ก้มลงคลานสี่ขาเหมือนแมว
  • 17:12 - 17:15
    พยายามเอาเข่าและขาสองข้าง
  • 17:15 - 17:18
    คร่อมอยู่บนเส้นทางตรงหน้า
  • 17:18 - 17:21
    มันเป็นระยะทางประมาณสามสิบหลา หรือ สามสิบฟุต
    ฉันก็ไม่รู้หรอก
  • 17:21 - 17:23
    ลมพัดแรงมาก
  • 17:23 - 17:27
    และวิธีเดียวที่ฉันจะสามารถข้ามไปอีกฝั่งได้
  • 17:27 - 17:29
    ก็คือการมองตรงไปข้างหน้าเท่านั้น
  • 17:29 - 17:31
    ฉันรู้ดีว่าพวกคุณทุกคนก็เคยเจอสถานการณ์แบบนั้น
  • 17:31 - 17:33
    ฉันกำลังถูกทดสอบแบบนั้นอยู่ในตอนนี้
  • 17:33 - 17:35
    กำลังถูกทดสอบด้วยไฟ
  • 17:35 - 17:37
    คณะทำงานทั้งคณะกำลังถูกทดสอบ
  • 17:37 - 17:42
    เรารอดมาได้เพราะเนื้อเพลงเอกของเราคือ
    "ลอยขึ้นเหนือมัน" (Rise Above)
  • 17:42 - 17:45
    เด็กผู้ชายคนหนึ่งตกลงมา แล้วลอยขึ้นไป
  • 17:45 - 17:47
    มันอยู่ตรงนี้ ในอุ้งมือสองทั้งสองของเรา
  • 17:47 - 17:49
    มันอยู่ในมือของทุกคนในคณะ
  • 17:49 - 17:52
    ฉันมีผู้ร่วมงานที่วิเศษมาก และเรา
    ในฐานะที่เป็นผู้สร้างสรรค์
  • 17:52 - 17:54
    จะเดินไปถึงตรงนั้นด้วยกัน
  • 17:54 - 17:57
    ฉันรู้ว่าพวกคุณเข้าใจดี
  • 17:57 - 17:59
    ว่าการพยายามก้าวไปข้างหน้า
  • 17:59 - 18:02
    แล้วก็ได้พบกับสิ่งที่แปลกประหลาด
  • 18:02 - 18:03
    อยู่ต่อหน้าคุณนั้นเป็นเช่นไร
  • 18:03 - 18:04
    ขอบคุณค่ะ
  • 18:04 - 18:10
    (เสียงปรบมือ)
Title:
สไปเดอร์แมน ไลออน คิง และชีวิตบนหน้าผาแห่งการสร้างสรรค์
Speaker:
จูลี เทร์มอร์ (Julie Taymor)
Description:

จากภาพผลงานภาพยนตร์อย่าง ฟรีด้า (Frida) หรือ เดอะ เทมเปสต์ (The Tempest) และผลงานละครเวทีอย่าง เดอะ ไลออน คิง (The Lion King) ผู้กำกับภาพยนตร์และละคร จูลี เทร์มอร์ เล่าเรื่องราวในชีวิตของเธอซึ่งอยู่กับโรงละครและกองถ่ายภาพยนตร์ ทอล์คนี้ถูกบันทึกในระหว่างที่ สไปเดอร์แมน ละครบรอด์เวย์เรื่องล่าสุดที่เธอกำกับ กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เธอเล่าถึงกระบวนการในการสร้างสรรค์ผลงาน และความพยายามที่จะดึงเอาประเด็นหลักของเรื่อง มาสื่อด้วยภาพ และสร้างประสบการณ์ในการรับชมที่ไม่เหมือนใคร

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
18:28
  • Dear Khun Yada, I've just finished reviewing your translation work! It's challenging indeed :)

    Please could you let me know if you want to make any further amendments? Pleasure working with you as always. :)

Thai subtitles

Revisions

  • Revision 18 Edited (legacy editor)
    Kelwalin Dhanasarnsombut