Return to Video

สัตว์กำลังคิดและรู้สึกอะไรอยู่

  • 0:01 - 0:05
    คุณเคยสงสัยไหมว่า
    สัตว์ต่าง ๆ คิดและรู้สึกอะไรบ้าง
  • 0:05 - 0:07
    เราจะมาเริ่มต้นกันด้วยคำถามที่ว่า
  • 0:08 - 0:12
    สุนัขของฉันรักฉันจริง ๆ หรือแค่อยากได้ขนม
  • 0:13 - 0:18
    มันเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนว่าสุนัขรักเราจริง ๆ
  • 0:18 - 0:20
    ง่ายใช่ไหมล่ะครับ
  • 0:20 - 0:24
    มันเกิดอะไรขึ้นในสมองน้อย ๆ ที่ยุ่งเหยิง
  • 0:25 - 0:26
    มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
  • 0:27 - 0:29
    มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น
  • 0:30 - 0:34
    แต่ทำไมมันมักจะเป็นคำถามเดิม ๆ
    ซึ่งก็คือพวกมันรักเรารึเปล่า
  • 0:34 - 0:36
    ทำไมมันต้องเกี่ยวกับตัวเราตลอดด้วย
  • 0:36 - 0:39
    ทำไมเราถึงหลงตัวเองแบบนี้นะ
  • 0:41 - 0:44
    ผมมีอีกคำถามหนึ่งที่ผมอยากถามสัตว์ต่าง ๆ
  • 0:46 - 0:47
    คุณเป็นใคร
  • 0:50 - 0:53
    สมองของมนุษย์มีความสามารถ
  • 0:53 - 0:58
    ที่เรามักจะคิดว่ามันเป็นความสามารถ
    ที่มีเพียงแต่ในสมองของมนุษย์เท่านั้น
  • 0:58 - 1:00
    แต่ว่ามันจริงหรือเปล่า
  • 1:00 - 1:04
    แล้วสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ใช้สมองทำอะไรบ้างล่ะ
  • 1:05 - 1:07
    พวกมันคิดอะไรและรู้สึกอะไรอยู่
  • 1:08 - 1:09
    มีวิธีที่เราจะล่วงรู้ได้หรือเปล่า
  • 1:09 - 1:11
    ผมคิดว่ามันมีทางครับ
  • 1:11 - 1:13
    ผมคิดว่ามันมีหลายวิธีทีเดียว
  • 1:13 - 1:17
    เราสามารถดูที่วิวัฒนาการ
    เราสามารถดูที่สมองของพวกมัน
  • 1:17 - 1:20
    และเราสามารถดูว่าพวกมันทำอะไร
  • 1:21 - 1:25
    อย่างแรกเลยที่ต้องจำไว้ก็คือ
    สมองของเรานั้นได้รับการตกทอดมา
  • 1:26 - 1:30
    ปมประสาทแรกมาจากแมงกะพรุน
  • 1:30 - 1:33
    แมงกะพรุนเป็นต้นกำเนิด
    ของสัตว์ที่มีแกนกลางแข็งพวกแรก
  • 1:33 - 1:37
    สัตว์ที่มีแกนกลางแข็งพวกแรก
    เป็นต้นกำเนิดของสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังพวกแรก
  • 1:37 - 1:40
    สัตว์ที่มีกระดูกสันหลังขึ้นมาจากทะเล
  • 1:40 - 1:41
    และพวกเราก็มายืนอยู่ตรงนี้
  • 1:43 - 1:48
    แต่มันก็จริงที่ปมประสาท
    เซลล์ประสาท มีหน้าตาเหมือน ๆ กัน
  • 1:48 - 1:52
    ในเครย์ฟิช นก หรือในตัวคุณ
  • 1:52 - 1:56
    มันบอกอะไรเกี่ยวกับความคิด
    ของเครย์ฟิชบ้าง
  • 1:57 - 1:58
    มันบอกอะไรเราได้บ้างเกี่ยวกับสิ่งนั้น
  • 1:58 - 2:02
    ครับ มันกลายเป็นว่า
    ถ้าหากคุณให้กระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ
  • 2:03 - 2:05
    กับเคลย์ฟิชเป็นจำนวนมาก
  • 2:05 - 2:07
    ทุก ๆ ครั้งที่มันพยายามออกมาจากถัง
  • 2:08 - 2:10
    มันจะพัฒนาความปริวิตก
  • 2:11 - 2:15
    ถ้าหากคุณให้ยากับเครย์ฟิช
  • 2:15 - 2:17
    ซึ่งเป็นยาที่ใช้กับมนุษย์
    ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับภาวะปริวิตก
  • 2:18 - 2:21
    มันจะผ่อนคลาย และออกมา
    และทำการสำรวจไปรอบ ๆ
  • 2:22 - 2:25
    เราใส่ใจเกี่ยวกับความปริวิตก
    ของเครย์ฟิชมากแค่ไหน
  • 2:26 - 2:27
    ส่วนใหญ่แล้ว เราต้มมันครับ
  • 2:27 - 2:29
    (เสียงหัวเราะ)
  • 2:30 - 2:36
    หมึกทะเลใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ
    เช่นเดียวกับลิงไม่มีหางส่วนใหญ่
  • 2:36 - 2:38
    และพวกมันจดจำหน้าตาของมนุษย์ได้
  • 2:39 - 2:44
    เราฉลองความฉลาดแบบลิงนี้
    ในสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังชนิดนี้อย่างไรครับ
  • 2:44 - 2:45
    ส่วนใหญ่ก็ต้มมันครับ
  • 2:47 - 2:51
    ถ้าปลาทะเลตัวใหญ่ไล่ปลาเล็ก ๆ
    เข้าในรอยแยกแคบ ๆ ในปะการัง
  • 2:51 - 2:56
    ซึ่งบางครั้ง มันจะไปยังที่ที่มันรู้ว่า
    มีปลาไหลมอเรย์นอนอยู่
  • 2:56 - 3:00
    และมันจะส่งสัญญาณให้กับปลาไหลว่า
    "ตามฉันมา"
  • 3:00 - 3:02
    และปลาไหลก็จะเข้าใจสัญญาณนั้น
  • 3:03 - 3:06
    ปลาไหลอาจจะไปยังรอยแยกแคบ ๆ นั่น
    และจับปลา
  • 3:06 - 3:08
    แต่ปลานั้นอาจเผ่น
    และปลาใหญ่ก็จะสามารถจับปลาเล็กได้
  • 3:09 - 3:15
    นี่เป็นความสัมพันธ์โบราณ
    ที่เราเพิ่งจะค้นพบ
  • 3:15 - 3:18
    เราฉลองความสัมพันธ์โบราณนี้อย่างไรครับ
  • 3:18 - 3:20
    ส่วนใหญ่ก็ทอดมันครับ
  • 3:21 - 3:25
    รูปแบบนี้เกิดขึ้น
    และมันบอกอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับเรา
  • 3:25 - 3:27
    มากกว่าที่จะเกี่ยวกับพวกมัน
  • 3:28 - 3:30
    นากทะเลใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ
  • 3:30 - 3:33
    และพวกมันแบ่งเวลา
    จากสิ่งที่พวกมันกำลังทำ
  • 3:33 - 3:37
    เพื่อแสดงให้ลูก ๆ ของมันดูว่าควรทำอย่างไร
    ซึ่งเรียกว่า การสอน
  • 3:37 - 3:40
    ชิมแพนซี ไม่มีการสอน
  • 3:41 - 3:45
    วาฬเพชรฆาตสอน
    และวาฬเพชรฆาตแบ่งอาหารกัน
  • 3:47 - 3:49
    เมื่อวิวัฒนาการสร้างบางสิ่งขึ้นมาใหม่
  • 3:49 - 3:53
    มันใช้ส่วนที่มีอยู่แล้วในคลัง
    ดึงมันออกมาจากหิ้ง
  • 3:53 - 3:56
    ก่อนที่มันจะถักทออกมาเป็นสิ่งใหม่
  • 3:56 - 3:58
    และสมองของเราก็ตกทอดมาถึงเรา
  • 3:58 - 4:02
    ผ่านความซับซ้อนแห่งห้วงเวลา
  • 4:02 - 4:06
    ถ้าหากคุณพิจารณาสมองของมนุษย์
    เปรียบเทียบกับสมองของชิมแพนซี
  • 4:06 - 4:10
    สิ่งที่คุณเห็นได้ก็คือ
    เรามีสมองของชิมแพนซีที่มีขนาดใหญ่
  • 4:10 - 4:14
    มันเป็นเรื่องดีที่เรามีสมองที่ใหญ่กว่า
    เพราะว่าพวกเราไม่ค่อยจะมีความมั่นใจเท่าไร
  • 4:14 - 4:16
    (เสียงหัวเราะ)
  • 4:16 - 4:19
    แต่ อืม โอ้ นั่นโลมา
  • 4:19 - 4:22
    สมองใหญ่กว่าและมีรอยหยักมากกว่า
  • 4:23 - 4:25
    เอาล่ะ บางที คุณอาจบอกว่า
    ก็ได้ ๆ เราเห็นสมองแล้ว
  • 4:26 - 4:28
    แต่ว่านั่นมันเกี่ยวอะไรกับความคิดด้วยล่ะ
  • 4:28 - 4:32
    ครับ เราดูได้ว่าความคิดทำงานอย่างไร
  • 4:32 - 4:34
    ในตรรกะของพฤติกรรม
  • 4:35 - 4:38
    ฉะนั้น คุณจะเห็นว่าช้างเหล่านี้
  • 4:38 - 4:41
    กำลังพักผ่อนอยู่อย่างเห็นได้ชัด
  • 4:41 - 4:45
    พวกมันเจอร่มเงาใต้ต้นปาล์ม
  • 4:46 - 4:48
    ซึ่งพวกมันให้ลูก ๆ ของพวกมันได้นอนหลับ
  • 4:48 - 4:51
    ในขณะที่พวกมันงีบหลับ
    แต่ยังคงอยู่ในภาวะระแวดระวัง
  • 4:51 - 4:54
    เราเข้าใจภาพนั้นได้เป็นอย่างดี
  • 4:54 - 4:58
    เช่นเดียวกับที่เราเข้าใจ
    ว่าทำไมมันถึงทำแบบนั้น
  • 4:58 - 5:02
    เพราะว่าใต้แสงอาทิตย์บนพื้นที่เดียวกัน
  • 5:02 - 5:05
    การฟังเสียงเห่าหอนของอันตรายเดียวกัน
  • 5:05 - 5:10
    พวกมันกลายเป็นสิ่งที่พวกมันเป็น
    และเราก็กลายเป็นสิ่งที่พวกเราเป็น
  • 5:11 - 5:13
    เราเป็นเพื่อนบ้านกันและกัน
    มาเป็นเวลานานแสนนาน
  • 5:13 - 5:16
    ไม่มีใครจะหลงผิดคิดไปว่า
    ช้างเหล่านี้กำลังผ่อนคลายอยู่
  • 5:16 - 5:19
    พวกมันกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
    อยู่อย่างชัดเจน
  • 5:19 - 5:21
    แล้วพวกมันกำลังคิดอะไรอยู่
  • 5:22 - 5:25
    มันกลายเป็นว่า ถ้าคุณอัดเสียงนักท่องเทียว
  • 5:25 - 5:30
    และเล่นเปิดเสียงนั้นออกลำโพง
    ที่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้
  • 5:30 - 5:34
    ช้างจะไม่สนใจ
    เพราะว่านักท่องเที่ยวไม่เคยกวนใจมัน
  • 5:34 - 5:39
    แต่ถ้าคุณอัดเสียงของคนเลี้ยงสัตว์
  • 5:39 - 5:44
    ที่ถือปืนผาหน้าไม้ และมักออกล่าช้าง
    เมื่อปะทะกันที่แหล่งน้ำ
  • 5:44 - 5:49
    ช้างจะแยกตัวออกจากกัน
    และวิ่งหนีไปจากลำโพงที่ซ่อนอยู่
  • 5:49 - 5:52
    ไม่เพียงแต่ช้างจะรู้ว่ามีมนุษย์อยู่ตรงนั้น
  • 5:52 - 5:55
    พวกมันยังรู้อีกว่า
    นั่นเป็นมนุษย์คนละพวกกัน
  • 5:55 - 5:58
    และมนุษย์บางพวกก็ไม่ทำไม
    แต่บางพวกนั้นเป็นอันตราย
  • 5:58 - 6:03
    พวกมันได้เฝ้าดูพวกเรามานานกว่า
    ที่พวกเราเฝ้ามองพวกมันเสียอีก
  • 6:03 - 6:06
    พวกมันรู้จักพวกเรา
    ดีกว่าที่พวกเรารู้จักพวกมัน
  • 6:06 - 6:09
    เรามีกฎเกณฑ์แบบเดียวกัน
  • 6:09 - 6:14
    ดูแลลูก ๆ ของพวกเรา
    หาอาหาร และเอาชีวิตรอด
  • 6:14 - 6:18
    ไม่ว่าเราจะถูกมอบหมาย
    ให้ไปปีนนเขาในแอฟริกา
  • 6:18 - 6:23
    หรือถูกมอบหมายให้ดำน้ำลงไปใต้ทะเล
    โดยพื้นฐานแล้ว เราก็เหมือน ๆ กัน
  • 6:23 - 6:25
    ลึกลงไปแล้วเราเป็นญาติกัน
  • 6:25 - 6:27
    ช้างมีโครงกระดูกเหมือนกัน
  • 6:27 - 6:30
    วาฬเพชรฆาตมีโครงกระดูกเหมือนกัน
  • 6:30 - 6:31
    กับที่เรามี
  • 6:34 - 6:36
    เราเห็นการช่วยเหลือ
    เมื่อความช่วยเหลือเป็นที่ต้องการ
  • 6:37 - 6:39
    เราเห็นความอยากรู้อยากเห็นในเด็ก ๆ
  • 6:40 - 6:44
    เราเห็นสายสัมพันธ์ของครอบครัว
  • 6:46 - 6:48
    เราสัมผัสได้ถึงความรัก
  • 6:49 - 6:51
    การเกี้ยวพานก็คือการเกี้ยวพาน
  • 6:52 - 6:55
    และเมื่อเราถามว่า
    "พวกมันมีสติสัมปชัญญะหรือเปล่า"
  • 6:55 - 6:58
    เมื่อคุณอยู่ในภาวะไร้ความรู้สึก
    มันทำให้คุณไม่มีสติสัมปชัญญะ
  • 6:58 - 7:01
    ซึ่งหมายความว่า
    คุณไม่มีความรู้สึกต่ออะไรทั้งสิ้น
  • 7:01 - 7:05
    สติสัมปชัญญะนั้น
    เป็นภาวะที่รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
  • 7:05 - 7:09
    ถ้าคุณเห็น ถ้าคุณได้ยิน ถ้าคุณรู้สึก
    ถ้าคุณตระหนักรู้ถึงอะไรสักอย่าง
  • 7:09 - 7:13
    คุณมีสติสัมปชัญญะ
    และพวกมันมีสติสัมปชัญญะ
  • 7:15 - 7:16
    บางคนบอกว่า
  • 7:16 - 7:19
    เออ มันมีบางอย่างที่ทำให้คนเป็นคน
  • 7:19 - 7:21
    และสิ่งหนึ่งก็คือความเข้าอกเข้าใจคนอื่น
  • 7:21 - 7:27
    ความเข้าอกเข้าใจ คือความสามารถทางความคิด
    ในการจับคู่ความรู้สึกกับเพื่อนของคุณ
  • 7:27 - 7:29
    มันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์
  • 7:29 - 7:31
    ถ้าหากเพื่อนของคุณ
    เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
  • 7:31 - 7:33
    คุณจะต้องรู้สึกว่า คุณต้องตามให้ทัน
  • 7:33 - 7:35
    เราทุกคนอยู่ในภาวะเร่งรีบกันในตอนนี้
  • 7:35 - 7:39
    รูปแบบที่เก่าแก่ที่สุดของความเข้าอกเข้าใจ
    คือความกลัวที่ติดต่อได้
  • 7:39 - 7:42
    ถ้าหากเพื่อนของคุณสะดุ้ง
    และเผ่นไปในทันทีทันใด
  • 7:42 - 7:44
    มันคงจะไม่สวยสักเท่าไรถ้าคุณพูดว่า
  • 7:44 - 7:47
    "อ้าว ไปไหนกันหมดแล้วล่ะเนี่ย"
  • 7:47 - 7:48
    (เสียงหัวเราะ)
  • 7:51 - 7:55
    ความเข้าอกเข้าใจมีมาเนิ่นนานแล้ว
    แต่ความเข้าอกเข้าใจก็เหมือนสิ่งอื่น ๆ
  • 7:55 - 7:59
    คือมีอยู่หลายระดับ
    และมีความละเอียดปราณีต
  • 7:59 - 8:03
    ฉะนั้นมันมีความเข้าอกเข้าใจพื้นฐาน
    เช่นคุณรู้สึกเศร้า ทำให้ผมเศร้าไปด้วย
  • 8:03 - 8:05
    ผมเห็นว่าคุณสุขใจ ผมก็สุขใจไปด้วย
  • 8:05 - 8:08
    จากนั้น มันก็มีบางอย่างที่ผมเรียกว่า
    ความรู้สึกเห็นใจ
  • 8:08 - 8:10
    มันแตกต่างออกไปนิดหน่อย
  • 8:10 - 8:14
    "ผมรู้สึกเสียใจที่ได้ยินว่า
    ย่าของคุณเพิ่งเสีย
  • 8:14 - 8:17
    ผมไม่ได้รู้สึกถึงความโศกเศร้า
    แต่ผมเข้าใจ ผมรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร
  • 8:18 - 8:19
    และผมก็ตระหนักถึงสิ่งนั้นดี"
  • 8:19 - 8:22
    และจากนั้น ถ้าคุณได้รับการกระตุ้น
    ให้ตอบสนองต่อความเห็นใจ
  • 8:22 - 8:23
    ผมเรียกมันว่า ความเมตตากรุณา
  • 8:24 - 8:28
    ต่างออกไปจากสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์
  • 8:28 - 8:31
    ความเห็นอกเห็นใจของมนุษย์
    ไม่ได้เพรียบร้อมความสมบูรณ์แบบ
  • 8:31 - 8:36
    เราไล่ต้อนสิ่งมีชีวิตที่มีความเห็นอกเห็นใจ
    เราฆ่าพวกมันและกินพวกมัน
  • 8:36 - 8:39
    ทีนี้ บางทีคุณอาจบอกว่า เอาล่ะ
    ก็มันเป็นสายพันธ์ุอื่นนี่นา
  • 8:39 - 8:43
    นั่นเป็นแค่การล่า
    และมนุษย์ก็เป็นนักล่า
  • 8:43 - 8:48
    แต่เราไม่ได้ปฏิบัติกับพวกเดียวกัน
    เป็นอย่างดีเช่นกัน
  • 8:49 - 8:52
    สิ่งหนึ่งที่คนที่เหมือนจะรู้
    เกี่ยวกับพฤติกรรมของสัตว์รู้
  • 8:52 - 8:56
    ก็คือคุณจะต้องไม่ถือเอาว่า
    ความคิดและอารมณ์ของมนุษย์
  • 8:56 - 8:58
    เหมือนกับของสายพันธุ์อื่น
  • 8:59 - 9:01
    ครับ ผมคิดว่ามันตลกสิ้นดี
  • 9:01 - 9:05
    เพราะว่าการถือเอาว่าความคิดและ
    อารมณ์ของมนุษย์เหมือนกับสายพันธุ์อื่น
  • 9:05 - 9:09
    เป็นการเดาเบื้องต้นที่ดีที่สุด
    ว่าพวกมันกำลังทำอะไรและรู้สึกอย่างไร
  • 9:09 - 9:12
    เพราะว่าสมองของพวกมัน
    โดยหลักแล้วก็เหมือนกับของเรา
  • 9:12 - 9:14
    พวกมันมีโครงสร้างเดียวกัน
  • 9:14 - 9:19
    ฮอร์โมนเดียวกันที่ทำให้เกิดอารมณ์
    และแรงผลักดันในตัวเรา
  • 9:19 - 9:21
    ก็อยู่ในสมองเหล่านั้นเช่นกัน
  • 9:23 - 9:28
    มันไม่เป็นวิทยาศาสตร์ถ้าเราจะบอกว่า
    พวกมันหิวเมื่อพวกมันออกล่า
  • 9:28 - 9:31
    และพวกมันเหนื่อย
    เมื่อพวกมันลิ้นห้อย
  • 9:31 - 9:34
    และจากนั้นก็บอกว่า
    พวกมันเล่นกับลูก ๆ
  • 9:34 - 9:36
    และทำท่าทางมีความสุข
  • 9:36 - 9:41
    เราไม่รู้ว่า พวกมันจะรู้สึกอะไรอยู่หรือไม่
  • 9:41 - 9:43
    นี่มันไม่เป็นวิทยาศาสตร์
  • 9:44 - 9:46
    ฉะนั้น เอาล่ะ นักข่าวก็เลยพูดกับผมว่า
  • 9:46 - 9:51
    "ก็อาจจะใช่นะ แต่คุณจะรู้จริง ๆ ได้อย่างไร
    ว่าสัตว์อื่น ๆ สามารถคิดและรู้สึกได้"
  • 9:51 - 9:54
    และผมเริ่มที่จะพ่นความคิด
    จากเอกสารอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์
  • 9:54 - 9:56
    ที่ผมให้ไว้ในหนังสือของผม
    เป็นจำนวนนับร้อย
  • 9:56 - 10:00
    และผมก็ตระหนักว่า
    คำตอบนั้นอยู่กับผมมาตลอด
  • 10:00 - 10:03
    เมื่อสุนัขของผมลุกออกจากพรม
    และเดินตรงเข้ามาหาผม --
  • 10:03 - 10:05
    ไม่ได้ไปหาเก้าอี้ แต่มาหาผม --
  • 10:05 - 10:09
    และมันก็กลิ้งตัวหงายท้องขึ้น
  • 10:09 - 10:12
    เธอคงคิดว่า
    "อยากให้เกาท้องให้จัง
  • 10:15 - 10:17
    ฉันรู้ว่าถ้าฉันไปหาคาร์ล
  • 10:17 - 10:19
    เข้าต้องเข้าใจแน่ว่าฉันต้องการอะไร
  • 10:20 - 10:23
    ฉันรู้ว่าไว้ใจเขาได้
    เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกัน
  • 10:23 - 10:26
    เขาจะทำแน่ และมันจะรู้สึกดีด้วย"
  • 10:26 - 10:28
    (เสียงหัวเราะ)
  • 10:28 - 10:31
    มันคิดและมันรู้สึก
  • 10:31 - 10:34
    และมันก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน
    ไปมากกว่านั้น
  • 10:34 - 10:39
    แต่เรามองสัตว์อื่น และเราบอกว่า
    "โอ้ ดูวาฬเพชรฆาตสิ
  • 10:39 - 10:41
    สุนัขป่า ช้าง
  • 10:41 - 10:43
    นั่นไม่ใช่แบบที่พวกมันเห็น"
  • 10:44 - 10:48
    เจ้าตัวผู้มีครีบมีหางนี้คือ L41
  • 10:48 - 10:50
    มันอายุ 38 ปี
  • 10:50 - 10:54
    ตัวเมียที่อยู่ทางด้านซ้ายของมัน
    คือ L22
  • 10:54 - 10:55
    มันมีอายุ 44 ปี
  • 10:55 - 10:58
    พวกมันรู้จักกันมาหลายทศวรรษแล้ว
  • 10:59 - 11:01
    พวกมันรู้ว่าพวกมันเป็นใคร
  • 11:01 - 11:02
    พวกมันรู้ว่าใครเป็นเพื่อนมัน
  • 11:02 - 11:04
    พวกมันรู้ว่าใครคือศัตรูของพวกมัน
  • 11:04 - 11:06
    ชีวิตของพวกมัน
    เป็นไปตามกรอบกำหนด
  • 11:07 - 11:09
    พวกมันรู้ว่าพวกมันอยู่ที่ไหนตลอดเวลา
  • 11:11 - 11:13
    นี่คือช้างที่ชื่อว่า ฟิโล
  • 11:14 - 11:15
    มันเป็นตัวผู้ที่อายุไม่มาก
  • 11:16 - 11:17
    นี่คือมันเมื่อสี่วันต่อมา
  • 11:19 - 11:24
    มนุษย์ไม่ได้เพียงแค่สามารถรู้สึกเศร้าโศกได้
    แต่เรายังทำเรื่องแย่ ๆ อีกมากมาย
  • 11:27 - 11:29
    เราต้องการแกะสลักฟันของพวกมัน
  • 11:30 - 11:33
    ทำไมเราไม่รอให้พวกมันตายเสียก่อนล่ะ
  • 11:36 - 11:39
    ช้างเคยอาศัยอยู่ตั้งแต่บริเวณชายหาด
    ของทะเลเมนิเตอเรเนียน
  • 11:39 - 11:42
    เรื่อยไปจนถึงแหลมกู๊ดโฮป
  • 11:42 - 11:45
    ในปี ค.ศ. 1980 มีช้างกลุ่มใหญ่
  • 11:45 - 11:47
    ในบริเวณตอนกลาง
    และตะวันออกของแอฟริกา
  • 11:47 - 11:52
    และตอนนี้กลุ่มของพวกมัน
    ก็แตกแยกออกเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย
  • 11:52 - 11:56
    นี่คือภูมิศาสตร์ของสัตว์
    ที่เรากำลังจะทำให้มันสูญพันธุ์
  • 11:56 - 12:00
    เพื่อนร่วมโลกของเรา
    สิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนผืนโลก
  • 12:01 - 12:05
    แน่ล่ะ เราดูแลสัตว์ป่าของเราดีกว่านั้น
    ในสหรัฐอเมริกา
  • 12:06 - 12:10
    ในอุทยานแห่งชาติเยลโลสโตน
    เราฆ่าสุนัขป่าทุกตัว
  • 12:10 - 12:13
    อันที่จริง เราฆ่าพวกมันทุกตัว
    ที่อยู่ทางตอนใต้ของชายแดนแคนาดา
  • 12:13 - 12:18
    แต่ในอุทยาน เจ้าหน้าที่อุทยานได้ทำอย่างนั้น
    ในยุค 1920
  • 12:18 - 12:20
    และอีก 60 ปีต่อมา
    พวกเขาต้องนำพวกมันกลับมา
  • 12:20 - 12:23
    เพราะว่าจำนวนกวางมากเกินกว่าจะควบคุมได้
  • 12:25 - 12:26
    และจากนั้นคนก็เข้ามา
  • 12:26 - 12:30
    คนเข้ามาเป็นพัน ๆ เพื่อมาดูสุนัขป่า
  • 12:30 - 12:33
    ซึ่งเป็นกลุ่มสุนัขป่าที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดในโลก
  • 12:34 - 12:37
    และผมก็ไปที่นั่น และผมก็ได้เห็น
    ครอบครัวสุนัขป่าที่น่าทึ่ง
  • 12:37 - 12:38
    ฝูงสุนัขป่าเป็นครอบครัว
  • 12:38 - 12:42
    มันมีตัวเต็มวัยในช่วงอายุผสมพันธุ์
    และเด็ก ๆ อีกหลายรุ่น
  • 12:43 - 12:48
    และผมเห็นฝูงที่เป็นที่โด่งดังและเสถียรที่สุด
    ในอุทยานแห่งชาติเยลโลสโตน
  • 12:48 - 12:52
    และจากนั้น เมื่อพวกมัน
    อาศัยอยู่แต่ในเพียงขอบเขต
  • 12:52 - 12:54
    ตัวเต็มวัยสองตัวถูกฆ่า
  • 12:54 - 12:56
    รวมถึงตัวที่เป็นแม่
  • 12:57 - 12:59
    ซึ่งบางครั้งเราเรียกมันว่า ตัวเมีย อัลฟา
  • 13:00 - 13:04
    สมาชิกที่เหลือของครอบครัว
    ก็เริ่มจู่โจมญาติพี่น้องทันที
  • 13:05 - 13:07
    พี่น้องตัวเมียไล่พี่น้องอีกตัวออกไป
  • 13:08 - 13:11
    เจ้าตัวทางซ้ายพยายามอยู่หลายวัน
    เพื่อที่จะเข้าร่วมฝูงกับครอบครัวอีกครั้ง
  • 13:11 - 13:14
    พวกมันไม่ยอมให้มันเข้ามา
    เพราะว่าพวกมันอิจฉา
  • 13:14 - 13:17
    มันได้รับความสนใจมากเกินไป
    จากตัวผู้ใหม่สองตัว
  • 13:17 - 13:19
    และมันก็แก่ก่อนวัยซะด้วย
  • 13:19 - 13:20
    เรื่องนี้มันเกิดจะรับได้สำหรับฝูง
  • 13:20 - 13:23
    มันจำใจต้องออกไปนอกอุทยาน
    และถูกยิง
  • 13:24 - 13:28
    ตัวผู้ อัลฟา
    จำใจต้องออกจากครอบครัวของมัน
  • 13:28 - 13:30
    ในขณะที่ฤดูหนาวกำลังจะมา
  • 13:30 - 13:34
    มันเสียเขตแดนของมัน
    แหล่งในการล่าของมัน
  • 13:34 - 13:37
    สมาชิกในครอบครัวและคู่ของมัน
  • 13:39 - 13:43
    เราสร้างความเจ็บปวดมากมายให้กับพวกมัน
  • 13:44 - 13:49
    เรื่องที่เป็นปริศนาก็คือ
    ทำไมพวกมันไม่ทำร้ายเรามากมายแบบนั้น
  • 13:50 - 13:53
    วาฬเพิ่งจะกินวาฬสีเทาไปบางส่วน
  • 13:53 - 13:56
    กับเพื่อน ๆ ของมัน
    ที่ฆ่าวาฬตัวนั้น
  • 13:56 - 13:59
    คนบนเรือเหล่านี้ไม่ต้องกลัวอะไร
  • 14:00 - 14:02
    วาฬตัวนี้คือ T20
  • 14:02 - 14:07
    มันเพิ่งจะฉีกแมวน้ำออกเป็นสามชิ้น
    กับเพื่อน ๆ ของมันอีกสองตัว
  • 14:07 - 14:10
    แมวน้ำมีน้ำหนักมากพอ ๆ กับคนบนเรือ
  • 14:10 - 14:11
    แต่พวกเขาก็ไม่ต้องกลัวอะไร
  • 14:12 - 14:14
    พวกมันกินแมวน้ำ
  • 14:15 - 14:16
    ทำไมพวกมันไม่กินเราล่ะ
  • 14:19 - 14:23
    ทำไมพวกเราถึงเชื่อใจพวกมัน
    ในขณะที่เรามีเด็กเล็ก ๆ อยู่ด้วย
  • 14:24 - 14:30
    ทำไมวาฬเพชรฆาตถึงกลับมา
    หานักวิจัยที่หลงอยู่ในหมอกหนา
  • 14:30 - 14:34
    และนำพวกเขาไปหลายไมล์
    จนกระทั่งหมอกจางไป
  • 14:34 - 14:37
    และบ้านของนักวิจัย
    ก็อยู่ตรงแนวชายฝั่งนี่เอง
  • 14:37 - 14:39
    และเหตุการณ์นั้นก็เกิดมากกว่าหนึ่งครั้ง
  • 14:41 - 14:44
    ในบาฮามัส มีผู้หญิงชื่อ
    เดนิส เฮอร์ซิง
  • 14:44 - 14:47
    และเธอศึกษาโลมาลายจุด
    และพวกมันก็รู้จักเธอ
  • 14:47 - 14:50
    เธอรู้จักพวกมันเป็นอย่างดี
    เธอรู้ว่าพวกมันทุกตัวเป็นใคร
  • 14:50 - 14:52
    พวกมันรู้จักเธอ
    พวกมันจดจำเรือวิจัยของเธอได้
  • 14:52 - 14:54
    เมื่อเธอปรากฏตัว
    มันเป็นเป็นการรวมญาติครั้งใหญ่อันแสนสุข
  • 14:54 - 14:58
    ยกเว้นครั้งหนึ่ง ที่พวกมันไม่ยอมเข้าใกล้เรือ
  • 14:58 - 15:00
    และนั่นมันก็ประหลาดมาก
  • 15:00 - 15:02
    และพวกเขาก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
  • 15:02 - 15:03
    จนกระทั่งมีคนออกมาจากดาดฟ้าเรือ
  • 15:03 - 15:06
    และประกาศว่ามีคนบนเรือเสียชีวิต
  • 15:06 - 15:08
    ระหว่างที่เขางีบหลับอยู่บนเตียง
  • 15:09 - 15:13
    โลมารู้ได้อย่างไรว่าหัวใจดวงหนึ่งของมนุษย์
  • 15:13 - 15:14
    เพิ่งจะหยุดเต้นไป
  • 15:15 - 15:17
    ทำไมพวกมันจะต้องใส่ใจ
  • 15:17 - 15:19
    และทำไมสิ่งนั้นจึงทำให้พวกมันขนลุก
  • 15:21 - 15:26
    ปริศนาเหล่านี้บอกใบ้กับเรา
    ถึงสิ่งต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น
  • 15:26 - 15:29
    ในความคิดของสรรพสิ่งที่อยู่กับเราบนโลก
  • 15:29 - 15:33
    ที่เราแทบจะไม่เคยคิดถึงมาก่อน
  • 15:34 - 15:36
    ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในแอฟริกาใต้
  • 15:36 - 15:40
    มีทารกโลมาปากขวดชื่อว่า ดอลลี
  • 15:40 - 15:46
    มันยังดูดนมอยู่ และวันหนึ่ง
    คนเฝ้าพิพิธภัณฑ์ก็กำลังพักสูบบุหรี่
  • 15:46 - 15:50
    และเขาก็มองผ่านหน้าต่างเข้าไปยังสระ
    ขณะที่กำลังสูบบุหรี่
  • 15:50 - 15:53
    ดอลลีเข้ามาและมองเขา
  • 15:53 - 15:57
    กลับไปหาแม่
    ดูดนมสักนาทีสองนาที
  • 15:57 - 15:59
    และกับมายังหน้าต่าง
  • 15:59 - 16:04
    และพ่นนมออกมา
    เป็นหมอกที่ลอยขึ้นไปบนหัวของมัน
  • 16:04 - 16:07
    บางที เจ้าทารกโลมาปากขวดนี้
  • 16:07 - 16:12
    ได้ความคิดในการใช้นมแทนควันบุหรี่
  • 16:12 - 16:16
    เมื่อมนุษย์ใช้สิ่งหนึ่งเพื่อแทนที่อีกสิ่งหนึ่ง
  • 16:16 - 16:18
    เราเรียกมันว่าศิลปะ
  • 16:18 - 16:20
    (เสียงหัวเราะ)
  • 16:20 - 16:21
    สิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์
  • 16:21 - 16:24
    ไม่ใช่สิ่งที่เราคิดว่าทำให้เราเป็นมนุษย์
  • 16:25 - 16:27
    สิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ก็คือ
  • 16:27 - 16:30
    สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในความคิดของเรา
    และความคิดของพวกมัน
  • 16:30 - 16:33
    เราเป็นสัตว์ที่สุดโต่ง
  • 16:34 - 16:37
    เรามีความเห็นอกเห็นใจมากที่สุด
  • 16:37 - 16:40
    ก้าวร้าวที่สุด สร้างสรรค์ที่สุด
  • 16:40 - 16:44
    และทำลายล้างเก่งที่สุด
    ที่เคยอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้
  • 16:44 - 16:48
    และเราคือผลรวมของสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด
  • 16:49 - 16:54
    แต่รักไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์
  • 16:54 - 16:57
    มันไม่ได้พิเศษแต่กับเรา
  • 16:58 - 17:02
    เราไม่ได้เป็นเพียงสายพันธุ์เดียว
    ที่ใส่ใจคู่ของเรา
  • 17:02 - 17:05
    เราไม่ได้เป็นเพียงสายพันธุ์เดียว
    ที่ใส่ใจลูกหลานของเรา
  • 17:07 - 17:12
    นกอัลบาทรอสนักจะบินเป็นระยะทาง
    หกพันไมล์ หรือบางครั้ง หนึ่งหมื่นไมล์
  • 17:12 - 17:16
    ตลอดเวลาสองสามสัปดาห์
    เพื่อส่งอาหารมื้อใหญ่
  • 17:16 - 17:18
    ให้กับลูกนกที่รอพวกมันอยู่
  • 17:19 - 17:23
    พวกมันทำรังไว้บนเกาะกลางมหาสมุทร
    ที่ห่างไกลมากที่สุดในโลก
  • 17:23 - 17:26
    และมันมีหน้าตาแบบนี้
  • 17:27 - 17:32
    การส่งต่อชีวิตจากรุ่นสู่รุ่น
    เป็นสายโซ่ของชีวิต
  • 17:32 - 17:35
    ถ้าหากมันหยุดลง มันส่งผลต่อทุกอย่าง
  • 17:35 - 17:40
    ถ้าจะมีอะไรที่น่ากลัว
    และมันน่ากลัวต่อความสัมพันธ์
  • 17:40 - 17:42
    คงจะเป็นสิ่งที่มา
    จากขยะพลาสติกของเรา
  • 17:43 - 17:45
    นกเหล่านี้มีพลาสติกอยู่ในตัว
  • 17:46 - 17:51
    นี่คือนกอัลบาทรอสอายุหกเดือน
    ที่พร้อมจะบิน --
  • 17:51 - 17:55
    มันตาย ข้างในตัว
    เต็มไปด้วยที่จุดบุหรี่สีแดง
  • 17:55 - 17:58
    นี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่เราสมควรจะมี
  • 17:58 - 18:00
    ร่วมกับโลกใบนี้
  • 18:00 - 18:03
    แต่เรา ผู้ซึ่งได้ตั้งชื่อตัวเอง
    ตามสมองของเรา
  • 18:04 - 18:08
    ไม่เคยคิดเกี่ยวกับผลกระทบที่ตามมาเลย
  • 18:09 - 18:12
    เมื่อเราต้อนรับชีวิตมนุษย์คนใหม่
    เข้ามาในโลก
  • 18:12 - 18:17
    เราต้อนรับทารกของเรา
    เข้ามาในสังคมของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ด้วย
  • 18:17 - 18:19
    เราวาดภาพสัตว์ต่าง ๆ ไว้บนกำแพง
  • 18:19 - 18:21
    เราไม่ได้วาดภาพโทรศัพท์มือถือ
  • 18:21 - 18:23
    เราไม่ได้วาดภาพคอกหรือคูหา
  • 18:23 - 18:27
    เราวาดภาพสัตว์เพื่อแสดงว่า
    พวกเราไม่ได้โดดเดี่ยว
  • 18:27 - 18:29
    เรามีเพื่อน
  • 18:31 - 18:35
    และสัตว์ทุก ๆ ตัวเหล่านั้น
    ในทุก ๆ ภาพวาดของเรือโนอาห์
  • 18:35 - 18:40
    ที่ถูกตัดสินว่ามีสิทธิสมควรต่อการไถ่บาป
    กำลังตกอยู่ในอันตราย
  • 18:40 - 18:42
    และภัยของพวกมันก็คือเรา
  • 18:44 - 18:46
    เราเริ่มที่จะถามคำถามว่า
  • 18:46 - 18:48
    พวกมันรักเราหรือเปล่า
  • 18:50 - 18:52
    เรากำลังถามอีกคำถามหนึ่งด้วย
  • 18:53 - 18:57
    เรามีความสามารถที่จะใช้สิ่งที่เรามี
  • 18:58 - 19:02
    เพื่อให้ความใส่ใจมากพอ
    ที่จะให้มันคงอยู่ต่อไปหรือเปล่า
  • 19:05 - 19:06
    ขอบคุณมากครับ
  • 19:06 - 19:12
    (เสียงปรบมือ)
Title:
สัตว์กำลังคิดและรู้สึกอะไรอยู่
Speaker:
คาร์ล ซาฟินา (Carl Safina)
Description:

กำลังเกิดอะไรขึ้นภายในสมองของสัตว์ต่าง ๆ เราจะสามารถล่วงรู้ได้หรือไม่ว่าพวกมันกำลังคิดและรู้สึกอะไรอยู่หรือไม่ คาร์ล ซาฟินา คิดว่าเราสามารถรู้ได้ โดยใช้การค้นพบและเกร็ดประวัติที่เกี่ยวข้องกับนิเวศวิทยา ชีววิทยา และพฤติกรรมศาสตร์ เขาถักทอเรื่องราวของวาฬ สุนัขป่า ช้าง และนกอัลบาทรอสเข้าด้วยกัน เพื่อแย้งว่า สิ่งมีชีวิตอื่นก็คิด รู้สึก ใช้อุปกรณ์ และแสดงอารมณ์ เช่นเดียวกันกับเรา -- และมีความคิด -- ที่แบ่งปันโลกใบนี้กับเรา

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
19:26
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for What are animals thinking and feeling?
Kelwalin Dhanasarnsombut accepted Thai subtitles for What are animals thinking and feeling?
Kelwalin Dhanasarnsombut declined Thai subtitles for What are animals thinking and feeling?
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What are animals thinking and feeling?
Pitipa Chongwatpol declined Thai subtitles for What are animals thinking and feeling?
Pitipa Chongwatpol edited Thai subtitles for What are animals thinking and feeling?
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What are animals thinking and feeling?
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What are animals thinking and feeling?
Show all

Thai subtitles

Revisions