ฉลามเรืองแสงและสิ่งมีชีวิตทางทะเลอื่น ๆ ที่น่าทึ่ง
-
0:01 - 0:04ผมเป็นนักชีววิทยาทางทะเล
และนักถ่ายภาพนักสำรวจ -
0:04 - 0:06ของเนชัลแนล จีโอกราฟิก
-
0:06 - 0:07แต่ผมอยากจะบอกความลับ
-
0:08 - 0:11ภาพนี้มันไม่ถูกต้อง
-
0:11 - 0:13ไม่ถูกต้องเอามาก ๆ
-
0:13 - 0:15ผมเห็นบางคนส่งเสียงมาจากทางด้านหลัง
-
0:15 - 0:18ว่าผมทำลายแนวคิดของพวกเขา
เกี่ยวกับนางเงือกเสียแล้ว -
0:18 - 0:20ไม่เป็นไรครับ
นางเงือกมีอยู่จริง ๆ นะครับ -
0:21 - 0:23แต่ใครก็ตามที่ลงไปดำน้ำ
-
0:23 - 0:25จะรู้ว่ามหาสมุทรหน้าตาเป็นแบบนี้
-
0:26 - 0:29นั่นเป็นเพราะว่า
มหาสมุทรเป็นตัวกรองขนาดใหญ่ -
0:29 - 0:31และทันทีที่คุณเริ่มลงไปใต้น้ำ
-
0:31 - 0:33คุณกำลังที่จะสูญเสียสีของคุณไป
-
0:33 - 0:36และมันก็จะดำมึด
และเป็นสีน้ำเงินอย่างรวดเร็ว -
0:36 - 0:39แต่เราเป็นมนุษย์ พวกเราเป็น
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่บนบก -
0:39 - 0:41และพวกเรามีการมองเห็นแบบสามสี
-
0:41 - 0:44ฉะนั้น เราเห็นทุกอย่างเป็นสีแดง
เขียว และน้ำเงิน -
0:44 - 0:46และเราก็เป็นพวกเสพติดสีซะด้วย
-
0:46 - 0:49พวกเราชอบสีที่สะดุดตา
-
0:49 - 0:52และพวกเราพยายามที่จะนำสีสะดุดตานี้
-
0:52 - 0:53ลงไปใต้น้ำกับเรา
-
0:53 - 0:57ฉะนั้น มันมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและเลวร้าย
เกี่ยวกับการนำสีลงไปใต้น้ำ -
0:57 - 1:02และมันเริ่มขึ้นเมื่อ 88 ปีก่อน
เมื่อ บิล ลองลี และชาร์ล มาร์ติน -
1:02 - 1:05พยายามที่จะถ่ายภาพสีใต้น้ำเป็นครั้งแรก
-
1:05 - 1:08และพวกเขาก็อยู่ชุดดำน้ำเชย ๆ
-
1:08 - 1:10ที่คุณต้องปั๊มอากาศลงไปให้พวกเขา
-
1:10 - 1:15และพวกเขาก็มีแพที่มีผงแมกนีเซียม
ที่ระเบิดได้ง่าย -
1:16 - 1:18และคนที่น่าสงสารบนผิวน้ำก็ไม่แน่ใจว่า
-
1:18 - 1:21เมื่อพวกเขากำลังจะดึงเชือก
เมื่อพวกเขาได้กรอบที่จะโฟกัส -
1:21 - 1:24และ -- ตู้ม! --
สารไวไฟหนึ่งปอนด์จะระเบิด -
1:24 - 1:27เขาจะได้เอาแสงลงไปใต้น้ำด้วยสักหน่อย
-
1:27 - 1:30และถ่ายภาพอย่างปลาฮอกฟิช (hogfish) นี้
-
1:30 - 1:33ผมหมายถึง มันเป็นภาพที่งามมาก
แต่มันไม่จริง -
1:33 - 1:36พวกเราสร้างสิ่งแวดล้อมปรุงแต่ง
-
1:36 - 1:40เพื่อที่เราสามารถจะพึงพอใจ
กับการเสพติดสีของเรา -
1:40 - 1:44และเมื่อมองดูมันในอีกแง่มุมหนึ่ง
สิ่งที่เราได้ทำการค้นหา -
1:44 - 1:47แทนที่จะเป็นการนำสีไปใต้น้ำกับเรา
-
1:47 - 1:50คือการที่เรามองดูมหาสมุทรสีน้ำเงิน
-
1:50 - 1:52และสีน้ำเงินทั่วไปหมด
-
1:52 - 1:55และสัตว์เหล่านี้ที่อาศัยอยู่ที่นั่น
มาหลายล้านปี -
1:55 - 2:00มีวิวัฒนาการไปในทิศทางต่าง ๆ กัน
เพื่อที่จะดูดซับแสงสีน้ำเงินเข้าไป -
2:00 - 2:02และให้สีอื่น ๆ ออกมา
-
2:02 - 2:05และนี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อย
ว่าโลกลึกลับนั้นมีหน้าตาอย่างไร -
2:05 - 2:07มันเหมือนกับการแสดงแสงสีใต้น้ำ
-
2:07 - 2:11(เสียงดนตรี)
-
2:11 - 2:15ครับ ที่เรากำลังดูอยู่นี่
คือแสดงสีน้ำเงินที่ตกกระทบภาพ -
2:15 - 2:18สัตว์เหล่านี้ดูดกลืนแสงสีน้ำเงิน
-
2:18 - 2:20และแปลงแสงนี้ในทันที
-
2:23 - 2:28ฉะนั้น ถ้าคุณคิดดู
มหาสมุทรกินพื้นที่ 71 เปอร์เซ็นต์ของโลก -
2:28 - 2:32และแสงสีฟ้าสามารถลงลึกไปได้
ถึงเกือบ 1,000 เมตร -
2:32 - 2:34เมื่อเราดำลงไปใต้น้ำ
-
2:34 - 2:37หลังจากประมาณ 10 เมตรแล้ว
สีแดงก็หายไปหมด -
2:37 - 2:40ฉะนั้น ถ้าคุณเห็นอะไรก็ตามเป็นสีแดง
ที่ใต้ระดับ 10 เมตร -
2:40 - 2:43มันคือสัตว์ที่แปลงและสร้างสีแดงเอง
-
2:43 - 2:50นี่คือสิ่งแวดล้อมสีน้ำเงินเฉดสีเดียว
ที่ใหญ่ที่สุดบนโลกของเรา -
2:51 - 2:55และทางผ่านไปยังโลก
ที่เต็มไปด้วยสารเรืองแสงชีวภาพก็เริ่มต้นที่ปะการัง -
2:55 - 2:57และผมอยากที่จะบรรยาย TED talk
เต็ม ๆ เกี่ยวกับปะการัง -
2:57 - 2:59และบอกว่ามันเจ๋งอย่างไร
-
2:59 - 3:03สิ่งหนึ่งที่พวกมันทำ
ลักษณะอย่างหนึ่งที่น่าทึ่งของมัน -
3:03 - 3:05คือพวกมันผลิตโปรตีนเรืองแสง
มากมายเหล่านี้ -
3:05 - 3:07โมเลกุลเรืองแสง
-
3:07 - 3:12และมากถึง 14 เปอร์เซ็นต์
ของน้ำหนักตัวปะการัง -
3:12 - 3:14อาจเป็นโปรตีนเรืองแสงเหล่านี้ที่ถูกผลิต
-
3:14 - 3:18คุณคงจะไม่ผลิตกล้ามเนื้อ 14 เปอร์เซ็นต์มา
และไม่ได้เอาไปใช้ -
3:18 - 3:22ฉะนั้น มันน่าจะมีหน้าที่บทบาทอะไรบางอย่าง
-
3:22 - 3:26และตลอด 10, 15 ปีที่ผ่านมา
มันเป็นอะไรที่พิเศษมากสำหรับผม -
3:26 - 3:31เพราะว่าโมเลกุลนี้ ได้กลายเป็น
หนึ่งในเครื่องมือ -
3:31 - 3:33ที่ปฏิวัติวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์
มากที่สุด -
3:33 - 3:36และมันทำให้เรา
สามารถเห็นภายในร่างกายเราได้ดีขึ้น -
3:37 - 3:40แล้ว ผมทำการศึกษามันอย่างไรล่ะ
-
3:40 - 3:43เพื่อที่จะศึกษาสารเรืองแสงชีวภาพ
ผมว่ายน้ำตอนกลางคืน -
3:43 - 3:44และเมื่อผมเริ่มทำงาน
-
3:44 - 3:48ผมใช้แค่แผ่นกรองเทปสีน้ำเงิน
บนเครื่องมือของผม -
3:48 - 3:51เพื่อให้ผมมั่นใจว่าผมจะเห็นแสง
-
3:51 - 3:53ที่ถูกแปลงโดยสัตว์
-
3:53 - 3:56พวกเราจัดการแสดงสำหรับ
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ -
3:56 - 4:00และพวกเราพยายามที่จะแสดงว่า
ปะการังเรืองแสงเจ๋งแค่ไหนในแนวปะการัง -
4:00 - 4:03และบางอย่างก็เกิดขึ้น
ซึ่งมันทำเอาผมทึ่งไปเลย -
4:03 - 4:05นี่ครับ
-
4:05 - 4:06ตรงกลางปะการังของเรา
-
4:06 - 4:09คือปลาเรืองแสงสีเขียว
-
4:10 - 4:12มันเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นปลาเรืองแสงสีเขียว
-
4:12 - 4:14หรือสัตว์มีกระดูกสันหลังใด ๆ ที่เป็นแบบนั้น
-
4:14 - 4:17และเราก็ขยี้ตากัน ตรวจสอบแผ่นกรองของเรา
-
4:17 - 4:20คิดว่าบางคนอาจเล่นตลกกับกล้องของเรา
-
4:20 - 4:22แต่ปลาไหลนั่นของจริงครับ
-
4:22 - 4:25มันเป็นปลาไหลเรืองแสงสีเขียวตัวแรกที่เราพบ
-
4:25 - 4:28และมันก็เปลี่ยนแนวทางของผมไปโดยสิ้นเชิง
-
4:28 - 4:32ผมต้องวางเรื่องปะการังลง และร่วมมือ
-
4:32 - 4:34กับนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาปลา
ชื่อว่า จอห์น สปาร์คส์ -
4:34 - 4:36และเริ่มที่จะค้นหาไปทั่วโลก
-
4:36 - 4:40เพื่อดูว่าปรากฏการณ์นี้มีอยู่มากแค่ไหน
-
4:40 - 4:42และปลาก็น่าสนใจกว่าปะการัง
-
4:42 - 4:44เพราะว่าพวกมันมีการมองเห็นที่พัฒนาไปมาก
-
4:44 - 4:48และที่ผมถ่ายภาพมาได้
ปลาบางอย่างมีกระทั่ง -
4:48 - 4:52เลนส์ในตาของพวกมัน
ที่สามารถขยายสารเรืองแสงได้ -
4:52 - 4:54ฉะนั้น ผมต้องการที่จะหามันต่อไปอีก
-
4:54 - 4:56เราจึงออกแบบอุปกรณ์ชุดใหม่
-
4:56 - 4:58และเราก็เที่ยวค้นคว้า
ไปยังแนวปะการังทั่วโลก -
4:58 - 5:00เพื่อมองหาสิ่งมีชีวิตเรืองแสง
-
5:00 - 5:02และมันก็คล้าย ๆ กับ "อี. ที. โทรกลับบ้าน"
-
5:02 - 5:04พวกเราออกไปว่ายน้ำพร้อมกับแสงสีน้ำเงิน
-
5:04 - 5:07และเรามองหาการตอบสนอง
-
5:07 - 5:10จากสัตว์ที่จะดูดกลืนแสง
และแปลงมันกลับมาให้เรา -
5:10 - 5:15และในที่สุด เราก็พบกับปลาไหล คัวพิชไฟ
(Kaupichphys eel) ที่เข้ามาแย่งซีน -
5:15 - 5:19อันที่จริงมันเป็นปลาไหลขี้อาย สันโดษ
ที่เราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย -
5:19 - 5:21พวกมันมีขนาดประมาณนิ้วมือของผม
-
5:21 - 5:26และพวกมันใช้เวลาประมาณ 99.9 เปอร์เซ็นต์
หลบซ่อนอยู่ใต้หิน -
5:26 - 5:30แต่ปลาไหลเหล่านี้ ออกมาเพื่อหาคู่
ใต้คืนจันทร์เต็มดวง -
5:30 - 5:34และคืนจันทร์เต็มดวงก็เปลี่ยนใต้น้ำ
ให้กลายเป็นสีน้ำเงิน -
5:34 - 5:36บางที พวกมันใช้สิ่งนี้เพื่อมองหากันและกัน
-
5:36 - 5:38พบกันอย่างรวดเร็ว และจับคู่
-
5:38 - 5:41กลับไปยังหลุมของมัน
และอยู่ไปอีกเป็นเวลานาน -
5:41 - 5:44แต่เมื่อพวกเราเริ่มหาสิ่งมีชีวิตทางทะเลอื่น ๆ
ที่เรืองแสงได้ -
5:44 - 5:47เช่น ปลาตะเพียนทะเลเรืองแสง
-
5:47 - 5:51ที่มีแถบยาวไปตามหัวและหลังคอของมัน
-
5:51 - 5:55และมันเกือบที่จะพรางตัวและเรืองแสง
ในความเข้มเดียวกัน -
5:55 - 5:57กับปะการังเรืองแสงในบริเวณนั้น
-
5:58 - 6:00หลังจากปลานี้แล้ว
-
6:00 - 6:05เราได้พบเข้ากับปลาแมงป่องเรืองแสงสีแดง
-
6:05 - 6:07หลบตัวและซ่อนอยู่ในหิน
-
6:07 - 6:11ครั้งเดียวที่เราได้เห็นมัน
มันอยู่บนสาหร่ายเรืองแสงสีแดง -
6:11 - 6:12หรือไม่ก็อยู่บนปะการังเรืองแสงสีแดง
-
6:13 - 6:18ต่อมา เราพบกับปลากิ้งก่าเรืองแสงสีเขียว
ที่ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ -
6:18 - 6:20ปลากิ้งก่าเหล่านี้มีความหลากหลายมาก
-
6:20 - 6:23และพวกมันดูเหมือน ๆ กันหมด
ภายใต้แสงสีขาว -
6:23 - 6:26แต่ถ้าคุณดูพวกมันใต้แสงฟลูออเรสเซนท์
-
6:26 - 6:27คุณจะเห็นรูปแบบมากมาย
-
6:27 - 6:30คุณสามารถเห็นความแตกต่างของพวกมันได้
-
6:30 - 6:33และโดยรวม พวกเราเพิ่งจะรายงานไปปีที่แล้ว
-
6:33 - 6:37เราพบปลาเรืองแสงขีวภาพกว่า 200 สายพันธุ์
-
6:38 - 6:44หนึ่งในแรงบันดาลใจของผม คือศิลปินชาวฝรั่งเศส
และนักชีววิทยา ชอง เพนลิเวย์ -
6:44 - 6:48เขาจับภาพจิตวิญญาณความคิดสร้างสรรค์
ในการลงทุนนี้ทางชีววิทยาได้ดีจริง ๆ -
6:48 - 6:52เขาออกแบบชุดของเขาเอง
เขาทำกล้องของเขาเอง -
6:52 - 6:56และเขาก็ชื่นชอบม้าน้ำ
ฮิปโปแคมปัส อิเร็กตัส เป็นพิเศษ -
6:56 - 6:59เขาถ่ายภาพยนตร์ม้าน้ำออกลูกเป็นครั้งแรก
-
7:00 - 7:02นี่คือม้าน้ำตัวผู้
-
7:02 - 7:06พวกมันเป็นปลาชนิดแรก ๆ
ที่เริ่มว่ายน้ำแนวตั้ง -
7:06 - 7:08มีสมองอยู่ด้านบนของหัว
-
7:08 - 7:09ตัวผู้ออกลูก
-
7:09 - 7:11เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่ง
-
7:13 - 7:14เขาไม่หลับไม่นอนหลายวัน
-
7:14 - 7:17เขาใส่กะบังหน้าของหมวกไฟฟ้า
ไว้บนศีรษะเพื่อที่จะกระตุ้นเขา -
7:18 - 7:19เขาจึงได้ภาพวินาทีนี้
-
7:21 - 7:23ครับ ผมหวังว่าผมจะได้แสดงวินาทีที่เพนลิเวย์
-
7:23 - 7:26พบม้าน้ำเรืองแสงชีวภาพ
-
7:26 - 7:29นี่คิอสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์เดียวกัน
กับที่เขาทำการศึกษา -
7:29 - 7:30และนี่คือภาพที่เราถ่ายได้
-
7:30 - 7:33(เสียงดนตรี)
-
7:34 - 7:36มันเป็นปลาที่ลึกลับที่สุด
-
7:36 - 7:39คุณอาจว่ายน้ำอยู่เหนือพวกมัน
แต่ไม่เห็นม้าน้ำก็เป็นได้ -
7:40 - 7:45พวกมันพรางตัวได้เข้ากับสาหร่าย
ซึ่งเรืองแสงเป็นสีแดงเช่นกัน -
7:45 - 7:46แต่พวกมันมีสายตาที่ดี
-
7:46 - 7:48และพวกมัน
ก็ผ่านขั้นตอนการหาคู่ที่ยาวนาน -
7:48 - 7:51และบางทีอาจใช้มันเพื่อการนี้
-
7:52 - 7:55แต่สิ่งที่ค่อนข้างจะกวนใจ
-
7:55 - 8:00เมื่อเราพบสีเขียวเรืองแสงในปลากระเบน
-
8:00 - 8:03เพราะว่าปลากระเบน
อยู่ในอันดับ อีลาสโมบรานช์ -
8:03 - 8:05ซึ่งรวมถึง ...
-
8:05 - 8:07ฉลาม
-
8:07 - 8:10คือ ผมเป็นนักชีววิทยาปะการัง
-
8:10 - 8:14นี่ใครสักคนดำน้ำลงไป
และไปดูหน่อยว่าฉลามเรืองแสงหรือเปล่า -
8:14 - 8:15คนนั้นกลายเป็นผมซะนี่
-
8:15 - 8:16(เสียงหัวเราะ)
-
8:16 - 8:19และผมก็บอกว่า "บางที
ผมควรที่จะกลับไปศึกษาปะการังนะ" -
8:19 - 8:20(เสียงหัวเราะ)
-
8:20 - 8:22และกลายเป็นว่าฉลามเหล่านี้ไม่ได้เรืองแสง
-
8:23 - 8:25และพวกเราก็พบมัน
-
8:25 - 8:30ในหุบเขาลึกและมืด
นอกชายฝั่งแคลิฟอเนีย -
8:30 - 8:34พวกเราพบฉลามสเวล (swellshark)
ที่เรืองแสงได้ -
8:34 - 8:36อยู่ใต้นักโต้คลื่นทั้งหลาย
-
8:36 - 8:37นี่ครับ
-
8:37 - 8:40พวกมันยาวแค่ประมาณหนึ่งเมตร
เรียกว่า ฉลามสเวล -
8:40 - 8:43และเราเรียกมันอย่างนั้น
เพราะเมื่อพวกมันถูกรบกวน -
8:43 - 8:46พวกมันจะกลืนน้ำเข้าไป
และเป่าท่อที่อยู่ภายใน -
8:46 - 8:47ทำให้มันมีขนาดใหญ่เป็นสองเท่า
-
8:47 - 8:52และอัดตัวอยู่ใต้หิน
เพื่อที่มันจะไม่ถูกกินโดยผู้ล่า -
8:52 - 8:56และนี่คือภาพที่เราถ่ายเก็บมาได้
ของฉลามสเวลเรืองแสง -
8:57 - 9:02มันน่าทึ่ง -- ผมหมายความว่า
พวกมันแสดงรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ -
9:02 - 9:06และมีบริเวณที่เรืองแสงและไม่เรืองแสง
-
9:06 - 9:08แต่พวกมันยังมีจุดกระพริบบนตัวพวกมัน
-
9:08 - 9:11ที่สว่างกว่าส่วนอื่น ๆ ของฉลาม
-
9:11 - 9:13แต่นี่มันน่ามองมาก ๆ
-
9:13 - 9:15ผมนี่แบบว่า มันสวยมากเลย
-
9:15 - 9:18แต่มันมีความหมายอย่างไรต่อฉลามล่ะ
-
9:18 - 9:19พวกมันเห็นสิ่งนี้หรือเปล่า
-
9:19 - 9:21และเมื่อเราดูในเอกสารบันทึก
-
9:21 - 9:24ไม่มีอะไรที่เรารู้
เกี่ยวกับการมองเห็นของฉลามเลย -
9:24 - 9:28ผมจึงนำฉลามนี้ไปให้ อิลิส โลว์
ผู้เชี่ยวชาญเรื่องตา ที่มหาวิทยาลัยคอร์เนล -
9:28 - 9:32และพวกเราพบว่าฉลามชนิดนี้
เห็นภาพได้ชัดเจนและคมชัด -
9:32 - 9:34ในพื้นที่สีน้ำเงิน-เขียว
-
9:34 - 9:37บางทีอาจเห็นในที่มืดดีกว่าพวกเรา 100 เท่า
-
9:37 - 9:38แต่มันเห็นแต่สีน้ำเงิน-เขียวเท่านั้น
-
9:38 - 9:42ฉะนั้น นี่จึงเป็นการนำโลกสีน้ำเงินมา
-
9:42 - 9:44และมันดูดกลืนแสงสีน้ำเงิน
และสร้างสีเขียว -
9:44 - 9:47มันสร้างความแตกต่าง
ที่พวกมันสามารถเห็นได้ -
9:47 - 9:48ฉะนั้น เราจึงได้ตัวอย่าง
-
9:48 - 9:52ที่แสดงว่า มันให้ความสามารถกับพวกมัน
ในการเห็นรูปแบบต่าง ๆ เหล่านี้ -
9:52 - 9:55และเราพบว่าตัวผู้กับตัวเมีย
ก็ยังมี -
9:55 - 9:57ลวดลายที่โด่ดเด่นแตกต่างกัน
-
9:57 - 10:03การค้นพบอย่างสุดท้ายของเรา
อยู่ห่างจากเราไปไม่กี่ไมล์ -
10:03 - 10:04ที่หมู่เกาะโซโลมอน
-
10:04 - 10:09การว่ายน้ำตอนกลางคืน
ทำให้ผมได้พบกับเต่าทะเลเรืองแสงตัวแรก -
10:09 - 10:12ตอนนี้ มันเริ่มจากปลา ไปยังฉลาม
และมาที่สัตว์เลื้อยคลาน -
10:12 - 10:15ซึ่ง เช่นกัน
มันมีอายุแค่เดือนเดียวเอง -
10:15 - 10:18แต่มันแสดงให้เราเห็นว่า
เราแทบไม่รู้อะไรเลย -
10:18 - 10:20เกี่ยวกับการมองเห็น
ของเต่าปากเหยี่ยว (hawksbill turtle) -
10:20 - 10:23และมันทำให้ผมคิดว่า
จะมีอะไรอีกมากมายเท่าไรที่เราต้องเรียนรู้ -
10:23 - 10:25และนี่คือหมู่เกาะโซโลมอน
-
10:25 - 10:28มีตัวเมียที่อยู่ในระยะสืบพันธุ์
เหลืออยู่แค่เพียงไม่กี่พันตัว -
10:28 - 10:30และนี่คือหนึ่งในจุดที่พบพวกมันได้มากที่สุด
-
10:30 - 10:33มันแสดงให้เราเห็นว่า
เราต้องปกป้องพวกมันอย่างจริงจัง -
10:33 - 10:36ในขณะที่พวกมันยังมีอยู่
และทำความเข้าใจพวกมัน -
10:36 - 10:38เมื่อคิดถึงการเรืองแสงชีวภาพ
-
10:38 - 10:40ผมอยากที่จะรู้ว่า มันดำลงไปลึกได้แค่ไหน
-
10:40 - 10:42มันดำลงไปลึกจนถึงก้นมหาสมุทรเลยหรือเปล่า
-
10:42 - 10:46เราก็เลยเริ่มใช้เรือดำน้ำ
และติดตั้งมัน -
10:46 - 10:48ด้วยแสงสีน้ำเงินพิเศษที่ด้านหน้า
-
10:48 - 10:50และเราก็หย่อนมันลงไป
-
10:50 - 10:53และเราก็สังเกตเห็นสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่ง
-
10:53 - 10:56เมื่อเราลงไปลึกถึง 1,000 เมตร
-
10:56 - 10:57มันหายไป
-
10:57 - 11:01ไม่มีสิ่งมีชีวิตทางทะเลใดที่เรืองแสงได้
ที่ระดับต่ำกว่า 1,000 เมตร -
11:01 - 11:03มันแทบไม่มีอะไรเลย มันมืดสนิท
-
11:03 - 11:06มันเหมือนเป็นปรากฏการณ์การกลืนหาย
-
11:06 - 11:07และที่ระดับต่ำกว่า 1,000 เมตร
-
11:07 - 11:10เราได้พบกับเขตแสงทางชีวภาพ
-
11:10 - 11:13สถานที่ซึ่งสัตว์ 9 จาก 10 ตัว
จะสร้างแสงด้วยตัวของมันเอง -
11:13 - 11:15และส่องสว่าง ทำแสงกระพริบ
-
11:15 - 11:17เมื่อผมพยายามลงไปให้ลึกกว่านั้น
-
11:17 - 11:20นี่เป็นการตบให้กำลังใจบนชุดประดาน้ำ
-
11:20 - 11:23บางคนบอกว่า นี่คือวินาที
"แจ๊กกี้ เคาตูร พบกับ วู๊ดดี้ อัลเลน" -
11:23 - 11:25(เสียงหัวเราะ)
-
11:25 - 11:27แต่เมื่อเราสำรวจลึกลงไป
-
11:27 - 11:30ผมคิดถึงว่า เราจะมีปฎิสัมพันธ์
กับสิ่งมีชีวิตแสนบอบบางอย่างไร -
11:30 - 11:33เพราะว่าเรากำลัง
เข้าไปสู่ยุคใหม่แห่งการสำรวจ -
11:33 - 11:35ที่ซึ่งเราต้องให้การดูแล
-
11:35 - 11:38และเราต้องยกตัวอย่าง
ว่าเราทำการสำรวจอย่างไร -
11:38 - 11:41ผมได้เข้าร่วมกับ ร๊อบ วู๊ด นักทำหุ่นยนต์
จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาด -
11:41 - 11:45และเราได้ออกแบบนิ้วหุ่นยนต์ใต้น้ำ
ที่กดบีบได้ -
11:46 - 11:49เราจะได้มีปฏิสัมพันธ์สิ่งมีชีวิตทางน้ำ
อย่างนุ่มนวล -
11:49 - 11:54แนวคิดก็คือ เทคโนโลยีส่วนใหญ่ของเรา
ในการสำรวจมหาสมุทรลึก -
11:54 - 11:57มาจากน้ำมัน และก๊าซ และการทหาร
-
11:57 - 12:00ผู้ซึ่งไม่ค่อยสนใจกับการทะนุทะนอมหรอก
-
12:00 - 12:03ปะการังบางแห่งอาจมีอายุ 1,000 ปี
-
12:03 - 12:06คุณไม่อยากที่จะไป
แล้วบดมันด้วยอุ้งมือใหญ่ ๆ -
12:06 - 12:08ฉะนั้น ความฝันของผมคืออะไรบางอย่างแบบนี้
-
12:08 - 12:10ตอนกลางคืน ผมอยู่ในเรือดำน้ำ
-
12:10 - 12:12ผมมีถุงมือแรงสะท้อน
-
12:12 - 12:16และผมสามารถที่จะติดตั้งห้องทดลอง
ไว้ที่ด้านหน้าของเรือดำน้ำได้อย่างนุ่มนวล -
12:16 - 12:18ที่นิ้วหุ่นยนต์แบบบีบกดได้
-
12:18 - 12:21จะเก็บตัวอย่างอย่างนุ่มนวล
และนำพวกมันใส่ลงในขวด -
12:21 - 12:22และเราสามารถที่จะทำการวิจัยของเราได้
-
12:23 - 12:25ย้อนกลับไปยังการนำไปประยุกต์ใช้
ที่มีประสิทธิภาพ -
12:25 - 12:28คุณกำลังมองดูสมองที่มีชีวิต
-
12:28 - 12:32ที่กำลังใช้ดีเอ็นเอของสิ่งมีชีวิตทางทะเล
ที่เรืองแสงได้ -
12:32 - 12:34สิ่งนี้มาจากแมงกะพรุนและปะการัง
-
12:34 - 12:37เพื่อแสดงภาพสมองที่มีชีวิต
และเห็นการเชื่อมต่อของมัน -
12:37 - 12:39มันน่าตลกที่เราใช้ อาร์จีบี
-
12:39 - 12:41เพียงเพื่อที่จะตอบสนองความพอใจ
ทางความนึกคิดของเรา -
12:41 - 12:44เพื่อที่เราจะได้เห็นสมองเราได้ดีขึ้น
-
12:44 - 12:46และที่น่าทึ่งไปกว่านั้น
-
12:46 - 12:49คือผู้ร่วมงานคนสนิทของผม
วินเซนต์ เพียริโบน จากเยล -
12:49 - 12:52ผู้ออกแบบและวิศวกรรมโปรตีนเรืองแสง
-
12:52 - 12:54ที่ตอบสนองต่อแรงดันไฟฟ้า
-
12:54 - 12:58เพื่อที่เขาจะสามารถเห็น
เมื่อปมประสาทหนึ่งส่งสัญญาณ -
12:58 - 13:02คุณกำลังมองดูอยู่ที่ทางเข้า
สู่สติสัมปะชัญญะ -
13:02 - 13:05ที่ถูกออกแบบโดยสิ่งมีชีวิตทางทะเล
-
13:06 - 13:11ฉะนั้น สิ่งนี้นำผมกลับไปยังมุมมอง
และความสัมพันธ์ -
13:11 - 13:13จากอวกาศที่ห่างไกล
-
13:13 - 13:16จักรวาลของเรา
ดูเหมือนเซลล์ในสมองมนุษย์ -
13:16 - 13:19และตรงนี้ เราอยู่ในมหาสมุทรสุดลึก
-
13:19 - 13:22และเรากำลังพบกับสิ่งมีชีวิตทางทะเล
และเซลล์ -
13:22 - 13:24ที่สามารถให้แสดงภาพสมองของมนุษย์
-
13:24 - 13:27และมันคือความหวังของผม
ที่ว่าสมองที่ได้รับการให้แสงนี้ -
13:27 - 13:31จะสามารถพิจารณาครุ่นคิด
ความสัมพันธ์ระหว่างชีวิตทั้งมวลได้ -
13:31 - 13:33และหยั่งลึกลงไปว่ามันมีอะไรรอเราอยู่
-
13:33 - 13:35ถ้าเรายังรักษามหาสมุทรเราเอาไว้ได้
-
13:35 - 13:36ขอบคุณครับ
-
13:36 - 13:41(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ฉลามเรืองแสงและสิ่งมีชีวิตทางทะเลอื่น ๆ ที่น่าทึ่ง
- Speaker:
- เดวิด กรูเบอร์ (David Gruber)
- Description:
-
ใต้เกลียวคลื่นไม่กี่เมตร นักชีววิทยาทางทะเลและนักถ่ายภาพนักสำรวจ เดวิด กรูเบอร์ ค้นพบอะไรบางอย่างที่น่าอัศจรรย์ -- สิ่งมีชีวิตทางทะเลจำพวกใหม่ที่เรืองแสงในหลายสี ในมหาสมุทรสีน้ำเงินมืดสลัว ร่วมเดินทางไปกับเขาในการค้นหาฉลาม, ม้าน้ำ, เต่าทะเล และอื่น ๆ อีกมากมายที่เรืองแสงได้ และเรียนรู้ว่าสิ่งมีชีวิตส่องแสงเหล่านี้สามารถให้ความกระจ่างกับความรู้ใหม่เรื่องสมองของเราได้อย่างไร
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 13:54
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for Glow-in-the-dark sharks and other stunning sea creatures | ||
Rawee Ma accepted Thai subtitles for Glow-in-the-dark sharks and other stunning sea creatures | ||
Rawee Ma edited Thai subtitles for Glow-in-the-dark sharks and other stunning sea creatures | ||
Rawee Ma edited Thai subtitles for Glow-in-the-dark sharks and other stunning sea creatures | ||
Rawee Ma edited Thai subtitles for Glow-in-the-dark sharks and other stunning sea creatures | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Glow-in-the-dark sharks and other stunning sea creatures | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Glow-in-the-dark sharks and other stunning sea creatures | ||
Rawee Ma declined Thai subtitles for Glow-in-the-dark sharks and other stunning sea creatures |