แสงบอกอะไรเราได้บ้างเกี่ยวกับจักรวาล - พีท เอ็ดเวิดส์ (Pete Edwards)
-
0:07 - 0:09เอกภพของเราเริ่มต้นอย่างไรและเมื่อไหร่
-
0:09 - 0:11มันกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร
-
0:11 - 0:13มันจะจบลงอย่างไร
-
0:13 - 0:15มนุษย์ได้อภิปรายคำถามเหล่านี้มานาน
-
0:15 - 0:18นับตั้งแต่เริ่มมีมนุษย์
โดยไม่มีข้อสรุปที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน -
0:18 - 0:22วันนี้นักจักรวาลวิทยากำลังทำงานอย่างหนัก
เพื่อค้นหาคำตอบเหล่านั้น -
0:22 - 0:27แต่ใครสักคนจะหาคำตอบที่จับต้องได้
สำหรับคำถามที่ล้ำลึกเช่นนั้นได้อย่างไร -
0:27 - 0:32และมันเป็นไปได้อย่างไรที่จะ
สำรวจและศึกษาสิ่งที่มโหฬารเช่นเอกภพ -
0:32 - 0:34ซึ่งมีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ห่างไกล
จนเราไม่มีวันเอื้อมถึง -
0:34 - 0:36คำตอบคือ แสง
-
0:36 - 0:38และแม้ว่าแสงจาก
ส่วนของเอกภพที่อยู่ห่างไกล -
0:38 - 0:40ต้องใช้เวลานับล้านปีเพื่อเดินทางถึงเรา
-
0:40 - 0:44มันได้แนบข่าวสารต่างๆ หกประเด็น
ซึ่งเมื่อนำมาพิจารณาร่วมกัน -
0:44 - 0:47สามารถเปิดเผยความรู้มากมากจนน่าทึ่ง
-
0:47 - 0:49ให้แก่นักดาราศาสตร์
ซึ่งรู้จักวิธีการมองหามัน -
0:49 - 0:52เช่นเดียวกับที่แสงอาทิตย์
สามารถแบ่งแยกออกเป็นสายรุ้งที่คุ้นตา -
0:52 - 0:56การแบ่งแยกแสงที่เดินทางมาจากวัตถุห่างไกล
เปิดเผยรูปแบบที่แตกต่างกันของสีสัน -
0:56 - 0:58ขึ้นกับแหล่งกำเนิดแสงนั้น
-
0:58 - 1:02บาร์โค้ดประจำตัวของแสงที่แตกต่างกัน
สามารถเผยข้อมูลองค์ประกอบของวัตถุ -
1:02 - 1:06รวมไปถึงอุณหภูมิและความกดดัน
ของส่วนประกอบแต่ละส่วน -
1:06 - 1:09ยังมีข้อมูลมากยิ่งกว่านั้น
ที่เราสามารถค้นพบได้จากแสง -
1:09 - 1:12ถ้าเราเคยยืนอยู่ที่ชานชาลารถไฟ
คุณอาจจะสังเกตพบว่า -
1:12 - 1:15เสียงรถไฟแตกต่างกันขึ้นกับทิศทางของรถไฟ
-
1:15 - 1:17ระดับเสียงของมันสูงขึ้น
เมื่อมันวิ่งเข้าหาคุณ -
1:17 - 1:20และระดับเสียงที่ต่ำลง
เมื่อมันวิ่งออกห่างจากคุณ -
1:20 - 1:23นี่ไม่ได้เป็นเพราะผู้ควบคุมรถไฟ
กำลังฝึกอาชีพที่สองหรอกนะ -
1:23 - 1:26สิ่งนี้เรียกว่าปรากฏการณ์ดอปเพลอร์
(Doppler effect) -
1:26 - 1:30ที่ซึ่งคลื่นเสียงที่กำเนิดจากวัตถุ
ที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาจะถูกบีบอัด -
1:30 - 1:33ขณะที่คลื่นเสียงที่กำเนิดจากวัตถุ
ที่กำลังเคลื่อนที่ออกไปจะถูกเหยียดออก -
1:33 - 1:36แต่นี่เกี่ยวข้องอะไรกับดาราศาสตร์
-
1:36 - 1:41เสียงไม่สามารถเดินทางผ่านสูญญากาศได้
ในอวกาศ ไม่มีใครได้ยินคุณกรีดร้อง -
1:41 - 1:46แต่ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์สามารถประยุกต์กับแสง
จากแหล่งกำเนิดที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงได้ -
1:46 - 1:48ถ้ามันกำลังเคลื่อนที่เข้าหาเรา
ยิ่งความยาวคลื่นหดสั้นลง -
1:48 - 1:51จะยิ่งทำให้แสงปรากฏเป็นสีน้ำเงินมากขึ้น
-
1:51 - 1:53ขณะแสงจากแหล่งกำเนิดที่เคลื่อนที่ออกห่าง
-
1:53 - 1:56จะมีความยาวคลื่นมากขึ้น
และแถบแสงจะเลื่อนเข้าสู่สีแดงมากขึ้น -
1:56 - 1:59ดังนั้น ด้วยการวิเคราะห์รูปแบบสี
ในการเลื่อนแบบดอปเพลอร์ของแสง -
1:59 - 2:03จากวัตถุใดๆ ที่สังเกตได้จากกล้องส่องทางไกล
เราสามารถทราบได้ว่ามันทำจากอะไร -
2:03 - 2:06มันร้อนแค่ไหน
และมันอยู่ใต้ความกดดันเท่าไร -
2:06 - 2:10และมันกำลังเคลื่อนที่อยู่ไหม
ในทิศทางใด และเร็วแค่ไหน -
2:10 - 2:13และการวัดค่าทั้งหก
เหมือนหกจุดของแสง -
2:13 - 2:16เผยประวัติศาสตร์ของเอกภพ
-
2:16 - 2:21บุคคลแรกที่ศึกษาแสงจาก
กาแล็กซีห่างไกลคือ เอ็ดวิน ฮับเบิล -
2:21 - 2:24และแสงที่เขาสังเกตนั้นเลื่อนเข้าสู่สีแดง
-
2:24 - 2:26กาแล็กซีห่างไกลทั้งหลาย
กำลังเคลื่อนที่ออกห่างจากเรา -
2:26 - 2:30และยิ่งมันอยู่ห่างออกไปไกลเท่าไร
มันยิ่งเคลื่อนที่ออกห่างเร็วยิ่งขึ้น -
2:30 - 2:33ฮับเบิลได้ค้นพบว่าเอกภพของเรากำลังขยายตัว
-
2:33 - 2:36เป็นหลักฐานแรกของทฤษฎีการระเบิดครั้งใหญ่
-
2:36 - 2:40พร้อมกับแนวคิดที่ว่าเอกภพที่มองเห็นได้
กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง -
2:40 - 2:43จากจุดเดี่ยวที่อัดอย่างแน่นหนา
-
2:43 - 2:45หนึ่งในการทำนายผล
ที่สำคัญที่สุดของทฤษฎีนี้ -
2:45 - 2:50คือ เอกภพในระยะเริ่มต้นประกอบด้วยแก๊ส
เพียงสองชนิด ไฮโดรเจน และฮีเลียม -
2:50 - 2:53ในอัตราส่วนสามต่อหนึ่ง
-
2:53 - 2:55และการทำนายนี้สามารถทดสอบได้ด้วยแสง
-
2:55 - 3:00ถ้าเราสังเกตแสงจากจากเขตห่างไกล
ที่เงียบงันของเอกภพและแยกสีของมัน -
3:00 - 3:04เราจะค้นพบเอกลักษณ์ของแก๊สสองชนิดนั้น
ในอัตราส่วนนั้นพอดี -
3:04 - 3:07เป็นอีกชัยชนะ
ของทฤษฎีการระเบิดครั้งใหญ่ -
3:07 - 3:10อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปริศนาอีกหลายอย่าง
-
3:10 - 3:12ถึงแม้เรารู้ว่าเอกภพ
ส่วนที่มองเห็นได้กำลังขยายออก -
3:12 - 3:15แต่เราคาดว่าแรงโน้มถ่วง
น่าจะกำลังเหยียบเบรกอยู่ -
3:15 - 3:18แต่การวัดค่าแสงจากเหล่าดาวฤกษ์ห่างไกล
ที่กำลังตายครั้งล่าสุด -
3:18 - 3:21แสดงให้เห็นว่าพวกมัน
อยู่ไกลออกไปกว่าที่ทำนายไว้ -
3:21 - 3:24ดังนั้นการขยายตัวของเอกภพ
จริงๆ แล้ว กำลังเร่งความเร็วขึ้น -
3:24 - 3:27ดูเหมือนบางสิ่งกำลังผลักดันมัน
-
3:27 - 3:30และนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากเชื่อว่า
สิ่งนั้นคือพลังงานมืด -
3:30 - 3:34พลังงานมืด ซึ่งมีอยู่สองในสามส่วนของเอกภพ
และกำลังฉีกมันออกเป็นส่วนๆ อย่างช้าๆ -
3:34 - 3:39ความรู้ของเราเกี่ยวกับพฤติกรรมของสสาร
และความเที่ยงตรงของเครื่องมือวัดของเรา -
3:39 - 3:43หมายความว่า การสังเกตดาวฤกษ์ที่อยู่ห่างไกล
สามารถบอกเราเกี่ยวกับเอกภพ -
3:43 - 3:45ได้มากกว่าที่เราคิดว่าเป็นไปได้
-
3:45 - 3:48แต่ยังมีปริศนาอื่นๆ
เช่น ธรรมชาติของพลังงานมืด -
3:48 - 3:50ซึ่งเรายังคงต้องค้นหาคำตอบกันต่อไป
- Title:
- แสงบอกอะไรเราได้บ้างเกี่ยวกับจักรวาล - พีท เอ็ดเวิดส์ (Pete Edwards)
- Description:
-
ชมบทเรียนเต็ม: http://ed.ted.com/lessons/what-light-can-teach-us-about-the-universe-pete-edwards
มนุษยชาติได้จ้องมองเอกภพมาเป็นเวลานาน และถามคำถามสำคัญ: มันเริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร มันจะจบลงอย่างไร ? นักจักรวาลวิทยากำลังค้นหาคำตอบอย่างหนัก แต่พวกเขาจะเริ่มต้นจากที่ไหน ? คำตอบคือ แสง พีท เอ็ดเวิดส์ สรุปความเข้าใจเกี่ยวกับข่าวสารที่แตกต่างกัน 6 ประเด็น ที่บรรจุอยู่ในแสง ซึ่งเมื่อนำมาพิจารณาร่วมกัน จะเผยข้อมูลจำนวนมากจนน่าทึ่งแก่นักดาราศาสตร์
บทเรียนโดย พีท เอ็ดเวิดส์ อนิเมชันโดย บีวาน ลินช์
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TED-Ed
- Duration:
- 04:07
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for What light can teach us about the universe - Pete Edwards | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What light can teach us about the universe - Pete Edwards | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut accepted Thai subtitles for What light can teach us about the universe - Pete Edwards | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What light can teach us about the universe - Pete Edwards | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What light can teach us about the universe - Pete Edwards | ||
Trinsit Wasinudomrod edited Thai subtitles for What light can teach us about the universe - Pete Edwards | ||
Trinsit Wasinudomrod edited Thai subtitles for What light can teach us about the universe - Pete Edwards | ||
Trinsit Wasinudomrod edited Thai subtitles for What light can teach us about the universe - Pete Edwards |