ทำไมเราถึงยึดติดกับสิ่งของของเรานัก คริสเตียน จาเร็ต (Christian Jarrett )
-
0:08 - 0:11หลังจากได้เห็นเด็กทารกแสดงความโมโหรุนแรง
-
0:11 - 0:15เมื่อถูกพรากจากสิ่งของ
ที่เขาคิดว่าเป็นของของตน -
0:15 - 0:19"ฌอง เพียเจต์" บิดาแห่งจิตวิทยาเด็ก
-
0:19 - 0:22สังเกตเห็นบางอย่างที่ลึกซึ้ง
เกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ -
0:22 - 0:27ความรู้สึกของการเป็นเจ้าของ
เกิดขึ้นตั้งแต่ยังเล็กอย่างไม่น่าเชื่อ -
0:27 - 0:29ทำไมเราถึงได้ยึดติดนักนะ
-
0:29 - 0:31มีปรากฏการณ์หนึ่ง
ที่รู้จักกันดีในแวดวงจิตวิทยา -
0:31 - 0:34เรียกว่า การยึดติดกับสิ่งที่ตนเป็นเจ้าของ
-
0:34 - 0:39คือเราจะให้ค่าสิ่งของสูงขึ้นทันทีที่ได้มา
-
0:39 - 0:41การทดลองที่มีชื่อเสียงชิ้นหนึ่งก็คือ
-
0:41 - 0:43ให้นักเรียนเลือกระหว่างแก้วกาแฟ
-
0:43 - 0:46กับแท่งช็อกโกเแลตสวิส
-
0:46 - 0:49เป็นรางวัลสำหรับการช่วยทำวิจัย
-
0:49 - 0:52ครึ่งหนึ่งเลือกแก้ว
อีกครึ่งหนึ่งเลือกช็อกโกแลต -
0:52 - 0:56นั่นแสดงให้เห็นว่า พวกเขาให้ค่า
รางวัลทั้งสองอย่างเท่า ๆ กัน -
0:56 - 0:58โดยที่นักเรียนอีกกลุ่มจะได้รับแก้วก่อน
-
0:58 - 1:02และมีโอกาสเปลี่ยนเป็นช็อกโกแลตได้
อย่างไม่คาดฝัน -
1:02 - 1:05แต่มีแค่ 11% เท่านั้นที่ต้องการเปลี่ยน
-
1:05 - 1:08ยังมีอีกกลุ่มที่ได้รับช็อกโกแลตก่อน
-
1:08 - 1:11และส่วนใหญ่ก็เลือกจะเก็บช็อกโกแลตไว้
มากกว่าจะเปลี่ยน -
1:11 - 1:15อีกนัยหนึ่งคือ นักเรียนมักจะให้ค่ามากกว่า
-
1:15 - 1:18กับรางวัลอะไรก็ตามที่เขาได้รับแต่แรก
-
1:18 - 1:21ส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับว่า
เราสร้างความผูกพันได้รวดเร็วแค่ไหน -
1:21 - 1:26ระหว่างความรู้สึกเป็นตัวตนของเรา
กับสิ่งที่เราเห็นว่าเป็นของเรา -
1:26 - 1:29นั่นสามารถเห็นได้แม้ในระดับประสาท
-
1:29 - 1:33ในการทดลองชิ้นหนึ่ง
นักประสาทวิทยาได้สแกนสมองของผู้เข้าร่วม -
1:33 - 1:37ในขณะที่พวกเขาหยิบสิ่งต่าง ๆ
ลงในตะกร้าที่มีป้ายคำว่า "ของฉัน" -
1:37 - 1:40และตะกร้าอีกใบที่มีป้าย "ของอเล็กซ์"
-
1:40 - 1:43เมื่อผู้เข้าร่วมดูของชิ้นใหม่ของตัวเอง
-
1:43 - 1:46สมองของพวกเขามีปฏิกริยามากกว่า
-
1:46 - 1:48ในตำแหน่งที่มักจะทำงานอยู่เสมอ
-
1:48 - 1:51เมื่อใดก็ตาม ที่เราคิดถึงตัวเอง
-
1:51 - 1:53อีกสาเหตุหนึ่ง
ที่เราหวงแหนของของเรามากเหลือเกิน -
1:53 - 1:57ก็คือ ตั้งแต่จำความได้
เราเชื่อว่ามันมีความพิเศษไม่เหมือนใคร -
1:57 - 2:01นักจิตวิทยาแสดงให้เราเห็น
โดยการใช้ภาพลวงตา -
2:01 - 2:05ให้เด็กอายุ 3 - 6 ขวบเชื่อว่า
พวกเขาสามารถสร้างเครื่องเลียนแบบ -
2:05 - 2:09เป็นอุปกรณ์ที่ทำให้พวกเขาจะสร้าง
สิ่งของที่เหมือนอย่างไร้ที่ติชิ้นใดก็ได้ -
2:09 - 2:12เมื่อให้เลือกระหว่างของเล่นชิ้นโปรด
-
2:12 - 2:14กับของเลียนแบบที่ดูเหมือนกันเป๊ะ ๆ
-
2:14 - 2:17เด็กส่วนใหญ่จะเลือกของชิ้นเดิม
-
2:17 - 2:23อันที่จริง พวกเขามักจะหวาดกลัว
กับความเป็นไปได้ที่จะนำของเลียนแบบกลับบ้าน -
2:23 - 2:27ความคิดมห้ศจรรย์เกี่ยวกับสิ่งของนี้
ไม่ใช่สิ่งที่โตขึ้นแล้วจะหายไป -
2:27 - 2:32มันกลับคงอยู่จนถึงวัยผู้ใหญ่
และเป็นหนักยิ่งกว่าเดิมด้วย -
2:32 - 2:35ตัวอย่างเช่น ลองนึกถึงคุณค่ามหาศาล
ที่ตั้งให้กับสิ่งของ -
2:35 - 2:37ที่ผู้มีชื่อเสียงเคยครอบครองดูสิ
-
2:37 - 2:40ราวกับว่า คนซื้อเชื่อว่าสิ่งที่เขาแลกมา
-
2:40 - 2:45เต็มไปด้วยความพิเศษ
ของเจ้าของผู้มีชื่อเสียงคนก่อน -
2:45 - 2:49ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ พวกเราถึงไม่เต็มใจ
ที่จะปล่อยมือจากมรดกตกทอดของตระกูล -
2:49 - 2:53ที่ช่วยให้เรารู้สึกแนบแน่น
กับคนที่เรารักซึ่งจากไปแล้ว -
2:53 - 2:57ความเชื่อนี้ถึงกับสามารถ
ปรับเปลี่ยนการรับรู้ในโลกทางกายภาพ -
2:57 - 2:59หรือเปลี่ยนความสามารถทางกีฬาของเราได้เลย
-
2:59 - 3:03ในงานวิจัยชิ้นหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้
ผู้เข้าร่วมได้รับทราบว่า พวกเขาใช้ไม้กอล์ฟ -
3:03 - 3:06ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของมือวางอันดับ 1
"เบน เคอร์ติส" -
3:06 - 3:07ระหว่างการทดลอง
-
3:07 - 3:11พวกเขารู้สึกว่า
หลุมกอล์ฟใหญ่ขึ้นประมาณ 1 ซม. -
3:11 - 3:14มากกว่าผู้เข้าร่วมจากกลุ่มอื่น
ที่ใช้ไม้กอล์ฟธรรมดา -
3:14 - 3:17และพวกเขาก็ตีลงหลุมมากกว่านิดหน่อยด้วย
-
3:17 - 3:22แม้ความรู้สึกเป็นเจ้าของจะเกิดขึ้นตั้งแต่เด็ก
แต่วัฒนธรรมก็มีส่วนเช่นกัน -
3:22 - 3:27ตัวอย่างเช่น มีการค้นพบเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า
ชนเผ่าฮาดซาทางตอนเหนือของแทนซาเนีย -
3:27 - 3:29ที่แยกตัวเป็นสันโดษจากวัฒนธรรมสมัยใหม่
-
3:29 - 3:32กลับไม่แสดงออกถึง
พฤติกรรมยึดติดความเป็นเจ้าของ -
3:32 - 3:35อาจเป็นเพราะพวกเขาอยู่ในสังคม
ที่เชื่อว่าทุกคนเท่าเทียมกัน -
3:35 - 3:37ซึ่งมีการใช้ของเกือบทุกชิ้นร่วมกัน
-
3:37 - 3:42ความสุดโต่งอีกอย่างก็คือ บางครั้ง
การยึดติดของของเราก็อาจเกินขอบเขตได้ -
3:42 - 3:47สาเหตุส่วนหนึ่งของโรคชอบสะสมสิ่งของ
คือการมีความรู้สึกรับผิดชอบ -
3:47 - 3:50และความรู้สึกปกป้องสิ่งของ
ของเรามากเกินเหตุ -
3:50 - 3:55นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคนที่มีภาวะเช่นนี้
ถึงตัดใจทิ้งของอะไรได้ยากเย็นนัก -
3:55 - 3:57สิ่งที่ยังหลงเหลือให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน
-
3:57 - 4:00คือการที่ธรรมชาติของความสัมพันธ์
ระหว่างตัวเรากับของของเรา -
4:00 - 4:03จะเปลี่ยนแปลงไปตามความรุดหน้า
ของเทคโนโลยีดิจิทัล -
4:03 - 4:07หลายคนทำนายถึงการตาย
ของหนังสือรูปเล่มและดนตรี -
4:07 - 4:09แต่สำหรับตอนนี้ อย่างน้อย
มันก็ดูจะเร็วเกินไป -
4:09 - 4:13บางทีมันอาจมีอะไรสักอย่าง
ที่ทำให้เราพอใจอย่างหาสิ่งใดเปรียบมิได้ -
4:13 - 4:17ที่ได้ถือครองสิ่งของไว้ในกำมือ
และเรียกมันได้อย่างเต็มปากว่าเป็นของเรา
- Title:
- ทำไมเราถึงยึดติดกับสิ่งของของเรานัก คริสเตียน จาเร็ต (Christian Jarrett )
- Speaker:
- Christian Jarrett
- Description:
-
ชมบทเรียนฉบับเต็มที่ http://ed.ted.com/lessons/why-are-we-so-attached-to-our-things-christian-jarrett
หลังจากได้เห็นความโมโหรุนแรงของเด็กทารกเมื่อถูกพรากจากสิ่งของที่เขาคิดว่าเป็นของของตน "ฌอง เพียเจต์" บิดาแห่งจิตวิทยาเด็ก สังเกตถึงบางอย่างที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ คือความรู้สึกเป็นเจ้าของเกิดขึ้นตั้งแต่ยังเด็กอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ทำไมเราถึงได้ยึดติดกับสิ่งของนักนะ คริสเตียน จาเร็ต จะมาตีแผ่รายละเอียดเรื่องจิตวิทยาของความเป็นเจ้าของ
บทเรียนโดย Christian Jarrett แอนิเมชั่นโดย Avi Ofer
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TED-Ed
- Duration:
- 04:35
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for Why are we so attached to our things? | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for Why are we so attached to our things? | ||
Retired user accepted Thai subtitles for Why are we so attached to our things? | ||
Retired user edited Thai subtitles for Why are we so attached to our things? | ||
Thitiporn Ratanapojnard edited Thai subtitles for Why are we so attached to our things? | ||
Retired user declined Thai subtitles for Why are we so attached to our things? | ||
Retired user edited Thai subtitles for Why are we so attached to our things? | ||
Retired user edited Thai subtitles for Why are we so attached to our things? |