การมองความรุนแรงทางเชื้อชาติอย่างไม่หวั่นเกรงของศิลปินคนหนึ่ง
-
0:01 - 0:02ในฐานะศิลปินเชิงมโนทัศน์
-
0:02 - 0:07ผมค้นหาหนทางสร้างสรรค์ที่จะ
จุดประกายการพูดคุยที่ท้าทายอยู่เสมอ -
0:07 - 0:10ผมทำมันผ่านจิตรกรรม ประติมากรรม
วีดีทัศน์ และการแสดง -
0:10 - 0:12แต่ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
-
0:12 - 0:15วัตถุดิบสองอย่างที่ผมโปรดปราน
ก็คือ ประวัติศาสตร์และการสนทนา -
0:16 - 0:18ในปี ค.ศ. 2007 ผมได้สร้าง "โลตัส"
-
0:18 - 0:20ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเจ็ดฟุตครึ่ง
-
0:20 - 0:24ทำจากกระจกหนัก 600 ปอนด์ เป็นรูปดอกบัวบาน
-
0:24 - 0:27ในพุทธศาสนา ดอกบัวคือสัญลักษณ์อุตรภาพ
-
0:27 - 0:30และความบริสุทธิ์ของดวงจิตและวิญญาณ
-
0:30 - 0:32แต่เมื่อมองบัวดอกนี้อย่างใกล้ชิด
-
0:32 - 0:36ก็เผยให้เห็นกลีบแต่ละกลีบ
ที่เป็นภาพตัดขวางของเรือค้าทาส -
0:36 - 0:40ภาพที่เลื่องชื่อนี้คัดลอกมาจาก
คู่มือว่าด้วยทาสของอังกฤษ -
0:40 - 0:44และภายหลังถูกผู้รณรงค์การเลิกทาสนำไปใช้
เพื่อแสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของระบบทาส -
0:44 - 0:47ในอเมริกา เราไม่ชอบพูดถึงระบบทาส
-
0:47 - 0:49และไม่ได้มองมันในฐานะธุรกิจระดับโลก
-
0:49 - 0:51แต่ด้วยการใช้สัญลักษณ์ทางพุทธศาสนานี้
-
0:51 - 0:54ผมหวังว่าจะเป็นเรื่องสากลและก้าวพ้น
-
0:54 - 0:56ประวัติศาสตร์และความชอกช้ำของอเมริกันผิวดำ
-
0:56 - 0:59และเพื่อกระตุ้นการถกเถียง
เกี่ยวกับอดีตกาลที่เรามีร่วมกัน -
1:00 - 1:04ในการสร้าง "โลตัส"
พวกเราสลักรูปกว่า 6,000 รูป -
1:04 - 1:07และในเวลาต่อมานครนิวยอร์กก็สั่ง
-
1:07 - 1:09ให้สร้างมันขึ้นมาอีกชิ้นด้วยเหล็กขนาด 28 ฟุต
-
1:09 - 1:13เพื่อติดตั้งแสดงอย่างถาวรที่
Eagle Academy for Young Men -
1:13 - 1:15โรงเรียนสำหรับนักเรียนผิวดำและละติโน
-
1:15 - 1:18คนสองกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
ตามประวัติศาสตร์ -
1:18 - 1:22คนสองกลุ่มเดียวกันที่ได้รับผลกระทบ
อย่างมากจากปรากฎการณ์เมื่อไม่นานมานี้ -
1:22 - 1:23แต่ขอผมนอกเรื่องก่อน
-
1:24 - 1:26ผมได้เก็บสะสมรูปสลักไม้ของแอฟริกา
-
1:26 - 1:29จากร้านค้านักท่องเที่ยวและ
ตลาดนัดของมือสองทั่วโลก -
1:29 - 1:32เป็นของแท้หรือไม่และมีที่มาจากไหน
สามารถถกเถียงกันได้อย่างเต็มที่ -
1:32 - 1:34แต่ผู้คนเชื่อว่าพวกมันถูกซึมซับด้วยพลัง
-
1:34 - 1:36หรือแม้แต่เวทมนต์
-
1:36 - 1:39เมื่อไม่นานมานี้เองที่ผมได้พบว่า
จะใช้สิ่งนี้กับงานของผมอย่างไร -
1:39 - 1:46(เสียงยิงปืน)
-
1:53 - 1:57ตั้งแต่ปีค.ศ. 2012 โลกได้เห็นการสังหาร
เทรวอน มาร์ติน -
1:57 - 2:01ไมเคิล บราวน์ เอริก การ์เนอร์
ซานดรา แบลนด์ ทามีร์ ไรว์ -
2:01 - 2:04และพลเมืองผิวดำที่ไร้อาวุธแทบนับไม่ถ้วน
-
2:04 - 2:06ด้วยน้ำมือของตำรวจ
-
2:06 - 2:08ผู้ซึ่งบ่อยครั้งเดินออกมา
โดยปราศจากโทษอย่างสิ้นเชิง -
2:09 - 2:11ด้วยการรำลึกถึงเหยื่อเหล่านี้
-
2:11 - 2:13และหลาย ๆ ครั้งที่แม้แต่ผม
-
2:13 - 2:15อาจารย์ระดับไอวีลีกส์ผู้ปฎิบัติตามกฎหมาย
-
2:15 - 2:19ยังเคยตกเป็นเป้าและถูกคุกคามจาก
ปากกระบอกปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ -
2:19 - 2:22ผมได้สร้างผลงานนี้ตั้งชื่อง่าย ๆ ว่า "แบม"
-
2:24 - 2:28เรื่องสำคัญคือต้องลบล้างอัตลักษณ์
ของรูปสลักแต่ละอันเหล่านั้น -
2:28 - 2:32เพื่อทำให้พวกมันดูเหมือน ๆ กันหมด
และง่ายต่อการมองข้าม -
2:32 - 2:34เพื่อจะทำแบบนี้ ผมได้จุ่มพวกมัน
ลงในขี้ผึ้งเหลว -
2:34 - 2:36ก่อนที่จะพาไปยังสนามยิงปืน
-
2:36 - 2:39ที่ซึ่งผมได้ปั้นพวกมันใหม่ด้วยกระสุนปืน
-
2:39 - 2:40และมันก็สนุกดี
-
2:40 - 2:43ที่จะเล่นกับปืนกระบอกโตและ
กล้องถ่ายวีดีทัศน์ความเร็วสูง -
2:43 - 2:47แต่ความเคารพที่ผมมีต่อรูปสลักเหล่านี้
ผมจึงไม่ให้ลั่นไก่ด้วยตนเอง -
2:47 - 2:50บางทีผมก็รู้สึกราวกับผมกำลังจะยิงตัวเอง
-
2:50 - 2:53ท้ายที่สุดแล้ว พอล ช่างกล้องของผม
เป็นผู้ลั่นไก -
2:55 - 2:56แล้วผมก็เก็บชิ้นส่วนแตกหักเหล่านั้น
-
2:56 - 3:00ทำเบ้าแล้วหล่อพวกมันด้วยขี้ผึ้งก่อน
-
3:01 - 3:04แล้วจากนั้นก็หล่อด้วยสำริด
อย่างภาพที่คุณเห็นอยู่นี่ -
3:04 - 3:06ที่เต็มไปด้วยร่องรอยการสรรค์สร้างที่รุนแรง
-
3:06 - 3:08เสมือนบาดแผลหรือแผลเป็นจากการต่อสู้
-
3:09 - 3:11เมื่อผมนำเสนอผลงานนี้ล่าสุดที่ไมอามี
-
3:11 - 3:13สตรีผู้หนึ่งบอกผมว่ารู้สึกราวกับว่า
กระสุนทุกนัดยิงไปที่วิญญาณของเธอ -
3:13 - 3:16แต่เธอก็ยังรู้สึกได้ว่างานศิลป์พวกนี้
-
3:16 - 3:18ทำให้ระลึกถึงเหยื่อผู้ถูกสังหารเหล่านั้น
-
3:18 - 3:21เช่นเดียวกับเหยื่อของความรุนแรงทางเชื้อชาติ
รายอื่นตลอดช่วงประวัติศาสตร์สหรัฐฯ -
3:22 - 3:25แต่ "โลตัส" และ "แบม" นั้น
ยิ่งใหญ่กว่าแค่ประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ -
3:25 - 3:27ระหว่างงานแสดงในเบอร์ลินเมื่อปีที่แล้ว
-
3:27 - 3:30นักศึกษาปรัชญาคนหนึ่งถามผมว่า
อะไรที่กระตุ้นให้เกิดการฆ่าเมื่อไม่นานมานี้ -
3:30 - 3:33ผมแสดงภาพถ่ายใบบนไปรษณียบัตร
ภาพการลงประชาทัณฑ์แก่เขา -
3:33 - 3:34ภาพช่วงต้นปีคริสตวรรษ 1900
-
3:34 - 3:39และเตือนความจำเขาว่า การฆ่าเหล่านี้
เคยเกิดขึ้นมาเป็นนานกว่า 500 ปีแล้ว -
3:40 - 3:42แต่จากคำถามแบบเดียวกันของเขา
-
3:42 - 3:45และการสนทนาที่ครุ่นคิดมากกว่านี้
เรื่องประวัติศาสตร์และเชื้อชาติ -
3:45 - 3:47เราสามารถวิวัฒน์ในฐานะปัจเจกชนและสังคมได้
-
3:48 - 3:51ผมหวังว่างานศิลป์ของผมจะมีพื้นที่ที่ปลอดภัย
-
3:51 - 3:53เพื่อการแลกเปลี่ยนทัศนะที่ตรงไปตรงมาแบบนี้
-
3:53 - 3:56และเพื่อเปิดโอกาสให้คนมีส่วนร่วมกัน
-
3:56 - 3:59ในการสนทนาเรื่องที่จริงจังและจำเป็น
-
3:59 - 4:00ขอบคุณครับ
-
4:00 - 4:06(เสียงปรบมือ)
- Title:
- การมองความรุนแรงทางเชื้อชาติอย่างไม่หวั่นเกรงของศิลปินคนหนึ่ง
- Speaker:
- แซนปอร์ด บิกเกอร์ (Sanford Biggers)
- Description:
-
ศิลปินเชิงมโนทัศนะและ TED Fellow แซนฟอร์ด บิกเกอร์ ใช้จิตรกรรม ประติมากรรม วีดีทัศน์และการแสดงเพื่อจุดประการการสนทนาอันท้าทายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และบาดแผลของชาวผิวดำอเมริกัน ร่วมไปกับเขาขณะที่เขาแจกแจงรายละเอียดผลงานที่กระตุ้นความสนใจสองชิ้นและแบงปันแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังศิลปะของเขา "ผ่านทางการสนทนาที่ครุ่นคิดมากกว่านี้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และเชื้อชาติเท่านั้น ที่เราจะสามารถวิวัฒน์ในฐานะปัจเจกชนและสังคมได้" บิกเกอร์กล่าวไว้
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 04:19
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for An artist's unflinching look at racial violence | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for An artist's unflinching look at racial violence | ||
Rawee Ma accepted Thai subtitles for An artist's unflinching look at racial violence | ||
Rawee Ma edited Thai subtitles for An artist's unflinching look at racial violence | ||
Paded Chotikunchon edited Thai subtitles for An artist's unflinching look at racial violence | ||
Rawee Ma declined Thai subtitles for An artist's unflinching look at racial violence | ||
Rawee Ma edited Thai subtitles for An artist's unflinching look at racial violence | ||
Paded Chotikunchon edited Thai subtitles for An artist's unflinching look at racial violence |