Return to Video

ถ้าฉันจะมีลูกสาว ...

  • 0:00 - 0:03
    ถ้าฉันมีลูกสาว
  • 0:03 - 0:05
    แทนที่จะให้เรียก "แม่"
  • 0:05 - 0:08
    ลูกจะเรียกฉันว่า "จุด B"
  • 0:08 - 0:11
    เธอจะได้รู้ว่า
    ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
  • 0:11 - 0:14
    เธอจะหาทาง
    กลับมาหาฉันได้เสมอ
  • 0:14 - 0:17
    ฉันจะวาดภาพระบบสุริยะ
    บนหลังมือลูก
  • 0:17 - 0:20
    เธอจะได้เรียนรู้จักรวาล
  • 0:20 - 0:23
    ก่อนที่จะพูดได้ว่า "ฉันคุ้นเคยมันดี
    เสมือนเป็นหลังมือตัวเอง"
  • 0:23 - 0:25
    เธอจะเรียนรู้
  • 0:25 - 0:28
    ว่าการใช้ชีวิตจะเจ็บเหมือน
    ถูกตบแรงๆ ที่หน้า
  • 0:28 - 0:31
    รอให้เธอลุกขึ้นยืนใหม่
    เพื่อที่มันจะได้ต่อยท้องเธอซ้ำ
  • 0:31 - 0:33
    แต่ว่าการโดนต่อยท้องหนักๆ
  • 0:33 - 0:35
    เป็นทางเดียวที่จะ
    เตือนปอดของเธอ
  • 0:35 - 0:37
    ว่ามันรักสัมผัส
    ของอากาศมากแค่ไหน
  • 0:37 - 0:39
    มันมีความเจ็บปวด ตรงนี้
  • 0:39 - 0:41
    ที่ไม่อาจรักษาได้ด้วย
    พลาสเตอร์ยาหรือบทกลอน
  • 0:41 - 0:43
    เพราะฉะนั้นครั้งแรก
    ที่เธอตระหนัก
  • 0:43 - 0:45
    ว่าวันเดอร์ วูแมน จะไม่มาช่วย
  • 0:45 - 0:47
    ฉันจะเช็คให้มั่นใจ
  • 0:47 - 0:49
    ว่าเธอไม่ต้องสวมผ้าคลุม
    ด้วยตัวคนเดียว
  • 0:49 - 0:51
    เพราะไม่ว่าเธอจะยืด
    ฝ่ามือออกไปขนาดไหน
  • 0:51 - 0:53
    มือของเธอจะยังคงเล็กเกินไป
  • 0:53 - 0:55
    ที่จะกุมความเจ็บ
    ที่เธออยากรักษา
  • 0:55 - 0:57
    เชื่อสิ
    แม่ลองมาแล้ว
  • 0:57 - 0:59
    ฉันจะบอกเธอว่า "ลูกแม่"
  • 0:59 - 1:01
    "อย่าทำจมูกเชิดแบบนั้น"
  • 1:01 - 1:03
    แม่รู้จักมุกนี้
    แม่ทำมาเป็นล้านครั้งแล้ว
  • 1:03 - 1:05
    ลูกแค่พยายาม
    จะตามกลิ่นควัน
  • 1:05 - 1:08
    หาทางไปยังบ้านที่มีเพลิงไหม้
  • 1:08 - 1:10
    ลูกจะได้เจอผู้ชาย
    ที่เสียทุกอย่างไปกับไฟ
  • 1:10 - 1:12
    เพื่อจะได้หาทางช่วยเขา
  • 1:12 - 1:16
    หรือไม่ ลูกจะพบผู้ชาย
    ที่เป็นคนก่อเพลิงเอง
  • 1:16 - 1:18
    เพื่อหาทางเปลี่ยนเขา
  • 1:18 - 1:20
    แต่ฉันรู้ว่า
    ยังไงเธอก็จะพยายาม
  • 1:20 - 1:22
    ฉันเลยจะเตรียม
  • 1:22 - 1:24
    ช็อคโกแลตกับบู๊ตกันฝนไว้ใกล้ๆ
  • 1:24 - 1:27
    เพราะว่าไม่มีอกหักครั้งไหน
    ที่ช็อคโกแลตทำให้รู้สึกดีขึ้นไม่ได้
  • 1:28 - 1:30
    โอเค อาจมีบางครั้ง
    ที่ช็อคโกแลตไม่ช่วย
  • 1:30 - 1:33
    แต่ว่านั่นคือเหตุผล
    ที่ฉันเตรียมบู๊ตกันฝน
  • 1:33 - 1:36
    เพราะว่าฝนจะชำระล้างทุกอย่าง
    ถ้าเธอยอมให้มันทำ
  • 1:36 - 1:38
    ฉันอยากให้เธอมองโลก
  • 1:38 - 1:41
    ผ่านพื้นกระจกเรือ
  • 1:41 - 1:43
    อยากให้เธอใช้กล้องจุลทรรศน์
  • 1:43 - 1:45
    มองไปยังกาแล็กซีที่อยู่บน
  • 1:45 - 1:46
    จุดเล็กๆ ใน
    ความคิดของเรา
  • 1:46 - 1:48
    แม่สอนฉันมาแบบนี้
  • 1:48 - 1:50
    ว่ามันจะมีวันที่เป็นแบบนี้
  • 1:50 - 1:53
    ♫ มันจะมีวันที่เป็นแบบนี้ แม่บอกไว้♫
  • 1:53 - 1:55
    วันที่เธอยื่นมือออกไปคว้า
  • 1:55 - 1:58
    แต่กลับได้บาดแผล
    และรอยฟกช้ำ
  • 1:58 - 2:00
    วันที่เธอก้าวออกจากตู้โทรศัพท์
    และพยายามจะบิน
  • 2:00 - 2:02
    แต่ผู้คนที่เธออยากช่วย
  • 2:02 - 2:04
    คือคนที่ยืนเหยียบผ้าคลุมของเธออยู่
  • 2:04 - 2:06
    วันที่ฝนนองเต็มในบู๊ตกันฝน
  • 2:06 - 2:08
    และเธอทรุดลงเพราะความผิดหวัง
  • 2:08 - 2:11
    และอีกหลายๆ วันที่เธอ
    จะมีเหตุผลให้พูด "ขอบคุณ"
  • 2:11 - 2:13
    เพราะว่าไม่มีอะไรสวยงามไปกว่า
  • 2:13 - 2:16
    การที่ทะเลปฏิเสธที่จะ
    หยุดโอบกอดชายฝั่ง
  • 2:16 - 2:19
    ไม่ว่ามันจะถูกผลักไส
    ออกไปกี่ครั้งก็ตาม
  • 2:19 - 2:22
    เธอจะเรียนรู้ทั้งชัยชนะ
    และความพ่ายแพ้
  • 2:22 - 2:24
    เธอจะเรียนรู้และพยายาม
  • 2:24 - 2:26
    ที่จะเริ่มใหม่อีกครั้ง
    และอีกครั้ง
  • 2:26 - 2:29
    ไม่ว่าในหนึ่งนาทีจะมีคนเหยียบ
    กับระเบิดมากแค่ไหน
  • 2:29 - 2:31
    จงมั่นใจว่าความคิดของเธอ
  • 2:31 - 2:33
    จะเหยียบย่างสู่ความสวยงาม
    ของสิ่งประหลาดที่เรียกว่าชีวิต
  • 2:33 - 2:36
    จริงอยู่ ว่าถ้าจะวัดระดับความเชื่อคนง่าย
  • 2:36 - 2:38
    ฉันค่อนข้างจะไร้เดียงสา
  • 2:38 - 2:41
    แต่ฉันอยากให้เธอรู้ว่า
    โลกนี้สร้างมาจากน้ำตาล
  • 2:41 - 2:43
    มันสามารถละลายได้ง่ายๆ
  • 2:43 - 2:46
    แต่อย่ากลัวที่จะยื่นลิ้น
    ออกมาแตะเพื่อชิมรสของมัน
  • 2:46 - 2:49
    "ลูกแม่" ฉันจะบอกเธอ
    "จำไว้ว่าแม่ของลูกขี้กังวล
  • 2:49 - 2:51
    และพ่อของลูก คือนักสู้
  • 2:51 - 2:53
    และลูกคือเด็กน้อย
    กับมือเล็กๆ และตาโตๆ
  • 2:53 - 2:55
    ที่ไม่เคยหยุดถามคำถาม"
  • 2:55 - 2:57
    จำไว้ว่าสิ่งดีๆ จะเข้ามาทีละสาม
  • 2:57 - 2:59
    และสิ่งแย่ๆ ก็เหมือนกัน
  • 2:59 - 3:02
    อย่าลืมขอโทษเสมอ
    เมื่อลูกทำอะไรผิด
  • 3:02 - 3:04
    แต่อย่าขอโทษ
  • 3:04 - 3:06
    ที่ดวงตาของลูกไม่เคย
    หยุดส่องประกาย
  • 3:06 - 3:09
    เสียงของลูกอาจจะเล็ก
    แต่อย่าหยุดร้องเพลง
  • 3:09 - 3:12
    และเมื่อพวกเขาทำให้
    หัวใจลูกเจ็บปวด
  • 3:12 - 3:14
    เมื่อพวกเขาสอดความเกลียดชัง
    ผ่านมาทางช่องประตู
  • 3:14 - 3:16
    หรือยื่นกระดาษที่เต็มไปด้วย
  • 3:16 - 3:18
    คำถากถางและความพ่ายแพ้
  • 3:18 - 3:23
    ลูกบอกเขาไป ว่าเขาควรจะ
    พบกับแม่ของลูก
  • 3:24 - 3:28
    ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ
  • 3:28 - 3:30
    (เสียงปรบมือ)
  • 3:30 - 3:32
    ขอบคุณค่ะ
  • 3:32 - 3:35
    (เสียงปรบมือ)
  • 3:35 - 3:37
    ขอบคุณ
  • 3:37 - 3:39
    (เสียงปรบมือ)
  • 3:39 - 3:41
    ขอบคุณ
  • 3:41 - 3:45
    (เสียงปรบมือ)
  • 3:45 - 3:48
    เอาละ ฉันอยากให้คุณ
    หยุดคิดสักนิดนึง
  • 3:48 - 3:50
    ฉันอยากให้คุณนึกถึงสามสิ่ง
  • 3:50 - 3:52
    ที่คุณรู้ว่าเป็นความจริง
  • 3:52 - 3:54
    เกี่ยวกับอะไรก็ได้
  • 3:54 - 3:56
    เทคโนโลยี การบันเทิง ดีไซน์
  • 3:56 - 3:58
    ครอบครัว สิ่งที่คุณทานเมื่อเช้านี้
  • 3:58 - 4:01
    กฎข้อเดียวคือ
    อย่าคิดหนักเกินไป
  • 4:01 - 4:03
    โอเค พร้อมไหมคะ
  • 4:09 - 4:11
    โอเค
  • 4:11 - 4:13
    นี่คือสามสิ่งที่ฉันรู้ว่าเป็นจริง
  • 4:13 - 4:15
    ฉันรู้ว่าจอห์น-ลุค โกดาร์ดพูดถูก
  • 4:15 - 4:17
    ตอนที่เขาพูดว่า "เรื่องเล่าที่ดี
  • 4:17 - 4:19
    จะมีตอนเริ่ม ตอนกลาง และตอนจบ
  • 4:19 - 4:22
    แต่ไม่จำเป็นต้องตามลำดับนั้น"
  • 4:22 - 4:25
    ฉันรู้ว่าฉันตื่นเต้นมากๆ
    ที่จะขึ้นมาพูดบนนี้
  • 4:25 - 4:27
    ซึ่งมีผลต่อความสามารถของฉัน
    ที่จะทำให้ทอล์คนี้เจ๋ง
  • 4:27 - 4:29
    (เสียงหัวเราะ)
  • 4:29 - 4:31
    และฉันรู้
  • 4:31 - 4:33
    ว่าฉันรอมาตลอดอาทิตย์
    เพื่อที่จะเล่นมุกนี้
  • 4:33 - 4:35
    (เสียงหัวเราะ)
  • 4:35 - 4:38
    ทำไมหุ่นไล่กาถึงถูก TED เชิญมาพูด
  • 4:38 - 4:41
    เพราะมันยืนโดดเด่นอยู่คนเดียว
  • 4:41 - 4:44
    (เสียงหัวเราะ)
  • 4:44 - 4:47
    ขอโทษค่ะ
  • 4:47 - 4:50
    โอเค นั่นคือสามสิ่งที่ฉันรู้ว่าเป็นจริง
  • 4:50 - 4:53
    แต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจ
  • 4:53 - 4:57
    ฉันเลยเขียนกลอนเพื่อหาทางออก
  • 4:57 - 5:00
    บางครั้ง ทางเดียวที่ฉัน
    จะเข้าใจบางสิ่ง
  • 5:00 - 5:02
    คือการเขียนกลอน
  • 5:02 - 5:03
    และบางครั้ง ฉันเขียนมาถึงตอนจบ
  • 5:03 - 5:05
    และมองกลับไปแล้วพบว่า
    "อย่างนี้นี่เอง"
  • 5:05 - 5:07
    และบางครั้ง ฉันเขียนมาถึงตอนจบ
  • 5:07 - 5:09
    และไม่สามารถเข้าใจอะไรได้เลย
  • 5:09 - 5:11
    แต่อย่างน้อยฉันก็ได้กลอนบทใหม่
  • 5:11 - 5:14
    การขับกลอน
    คือศิลปะการแสดงของกลอน
  • 5:14 - 5:16
    ฉันบอกคนอื่นว่ามันคือบทกลอน
  • 5:16 - 5:18
    ที่ไม่ใช่แค่เพื่อเขียนไว้บนกระดาษ
  • 5:18 - 5:21
    แต่คือบางสิ่งที่ต้องการ
    จะถูกขับกล่าวออกมา
  • 5:21 - 5:23
    ให้ผู้อื่นได้ยิน
  • 5:23 - 5:25
    ปีแรกในไฮสคูลของฉัน
  • 5:25 - 5:29
    ฉันคือมนุษย์
    ที่เต็มไปด้วยฮอร์โมน
  • 5:29 - 5:31
    ฉันยังไม่โตเต็มที่
  • 5:31 - 5:33
    และถูกกระตุ้นได้ง่ายเกินไป
  • 5:33 - 5:35
    ถึงแม้ว่าฉันจะกลัว
  • 5:35 - 5:37
    ที่จะถูกผู้คนจ้องมองเป็นเวลานานๆ
  • 5:37 - 5:40
    เสน่ห์ของการขับกลอน
    กลับทำให้ฉันหลงใหล
  • 5:40 - 5:44
    ฉันรู้สึกว่าคนรักลับๆ ของฉัน
    อย่างบทกลอนและการแสดง
  • 5:44 - 5:46
    ได้มาอยู่ร่วมกัน
    และมีลูกออกมา
  • 5:46 - 5:49
    ลูกที่ฉันจำเป็นต้องทำความรู้จัก
  • 5:49 - 5:51
    ฉันเลยตัดสินใจที่จะลอง
  • 5:51 - 5:52
    กลอนบทแรกของฉัน
  • 5:52 - 5:56
    เต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาด
    ของเด็กอายุ 14
  • 5:56 - 5:58
    เกี่ยวกับความไม่เป็นธรรม
  • 5:58 - 6:00
    ของการถูกมองว่า
    ไม่เหมือนผู้หญิง
  • 6:00 - 6:02
    กลอนบทนั้นเต็มไปด้วยความเดือดดาล
  • 6:02 - 6:04
    และโอ้อวดจนเกินจริง
  • 6:04 - 6:07
    แต่กลอนแบบเดียว
    ที่ฉันเคยเห็นมาถึงตอนนั้น
  • 6:07 - 6:09
    ค่อนข้างที่จะดุเดือด
  • 6:09 - 6:11
    ฉันเลยนึกว่านั่นคือ
    สิ่งที่ฉันควรจะเขียน
  • 6:11 - 6:13
    ครั้งแรกที่ฉันแสดง
  • 6:13 - 6:17
    วัยรุ่นที่ฟังส่งเสียง
    แสดงความเห็นใจ
  • 6:17 - 6:19
    ขาของฉันยังสั่น
    ตอนที่ฉันลงจากเวที
  • 6:19 - 6:21
    ฉันรู้สึกได้ถึงสัมผัสบนไหล่ของฉัน
  • 6:21 - 6:23
    ฉันหันกลับไปมอง
    และพบกับ
  • 6:23 - 6:25
    เด็กผู้หญิงตัวใหญ่ในเสื้อฮู้ด
    ก้าวออกมาจากฝูงชน
  • 6:25 - 6:27
    มันดูเหมือนว่าเธอสูงแปดฟุต
  • 6:27 - 6:29
    และดูเหมือนว่าเธอสามารถ
    รังแกฉันได้ด้วยมือข้างเดียว
  • 6:29 - 6:31
    แต่เธอกลับแค่พยักหน้าให้ฉัน
  • 6:31 - 6:34
    และพูดว่า "เฮ้ ฉันรู้สึกได้จริงๆ ขอบคุณนะ"
  • 6:34 - 6:37
    ฉันรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า
  • 6:37 - 6:39
    ฉันถูกผูกติดกับบทกลอน
  • 6:39 - 6:41
    ฉันพบบาร์แห่งหนึ่งในแมนฮัตตัน
  • 6:41 - 6:44
    ที่จัดการแสดง
    ขับกลอนทุกสัปดาห์
  • 6:44 - 6:47
    พ่อแม่ที่สับสน
    แต่สนับสนุนของฉันพาฉันไป
  • 6:47 - 6:50
    เพื่อจมอยู่กับทุกถ้อยคำของบทกลอน
  • 6:50 - 6:53
    ฉันเด็กกว่าคนอื่นๆ
    อย่างน้อยก็สิบปี
  • 6:53 - 6:56
    แต่ยังไงก็ตาม นักกวีที่คลับนั้น
  • 6:56 - 6:59
    ดูจะไม่เดือดร้อนกับบทกลอน
    ของเด็กอายุ 14
  • 6:59 - 7:01
    ที่จริงแล้ว พวกเขาต้อนรับฉัน
  • 7:01 - 7:03
    ฉันได้ฟังบทกลอน
    ที่เล่าเรื่องราวของพวกเขา
  • 7:03 - 7:06
    และฉันเรียนรู้ว่า บทกลอนนั้น
    ไม่จำเป็นต้องดุเดือด
  • 7:06 - 7:09
    มันสามารถสนุก หรือเจ็บปวด
  • 7:09 - 7:11
    หรือจริงจัง หรือโง่เขลา
  • 7:11 - 7:15
    สถานที่นั้น กลายมาเป็น
    ห้องเรียนและบ้านของฉัน
  • 7:15 - 7:16
    และนักกวีที่แสดง
  • 7:16 - 7:18
    สนับสนุนให้ฉันแชร์
    เรื่องราวของฉัน
  • 7:18 - 7:21
    โดยที่ไม่สนใจว่าฉันอายุแค่ 14
  • 7:21 - 7:23
    พวกเขาบอกฉันให้เขียน
    เกี่ยวกับการเป็นเด็กอายุ 14
  • 7:23 - 7:25
    ฉันเลยเขียน
    และแปลกใจทุกครั้ง
  • 7:25 - 7:28
    ที่นักกวีที่ยอดเยี่ยม
    และเป็นผู้ใหญ่
  • 7:28 - 7:30
    หัวเราะกับฉัน และส่งเสียง
    พึมพัมด้วยความเข้าใจ
  • 7:30 - 7:33
    ปรบมือให้ และบอกฉันว่า
    "เราเคยรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน"
  • 7:34 - 7:38
    ตอนนี้ฉันสามารถแบ่ง
    การเดินทางของบทกลอนของฉัน
  • 7:38 - 7:39
    ได้เป็นสามขั้นตอน
  • 7:39 - 7:41
    หนึ่ง คือตอนที่ฉันคิดว่า
  • 7:41 - 7:43
    "ฉันทำได้
    ฉันทำสิ่งนี้ได้"
  • 7:43 - 7:45
    และนั่นก็ต้องขอบคุณ
    เด็กผู้หญิงในเสื้อฮู้ดคนนั้น
  • 7:45 - 7:47
    สอง คือตอนที่ฉันคิดว่า
  • 7:47 - 7:50
    "ฉันจะทำ
    จะทำต่อไป
  • 7:50 - 7:53
    ฉันรักการขับกลอน และฉัน
    จะกลับมาที่นี่ทุกสัปดาห์"
  • 7:53 - 7:55
    ขั้นที่สามเริ่มต้นขึ้น
  • 7:55 - 7:57
    ตอนที่ฉันตระหนักว่า
    ฉันไม่ต้องเขียนกลอนที่ดุเดือด
  • 7:57 - 7:58
    ถ้ามันไม่ใช่ตัวฉัน
  • 7:58 - 8:01
    มีหลายๆ สิ่งที่
    พิเศษสำหรับฉัน
  • 8:01 - 8:03
    และยิ่งฉันโฟกัสกับสิ่งเหล่านั้น
  • 8:03 - 8:05
    บทกลอนของฉันก็ยิ่ง
    ประหลาดขึ้นเรื่อยๆ
  • 8:05 - 8:07
    แต่มันกลับรู้สึก
    เป็นตัวฉันมากขึ้น
  • 8:07 - 8:11
    ที่ว่า"เขียนสิ่งที่คุณรู้"
    ไม่ใช่แค่คำกล่าว
  • 8:11 - 8:14
    แต่มันคือการรวบรวม
    ความรู้และประสบการณ์
  • 8:14 - 8:15
    ที่คุณได้สะสมมาตลอดชีวิต
  • 8:15 - 8:18
    เพื่อช่วยคุณเข้าใจสิ่งที่คุณไม่รู้
  • 8:18 - 8:21
    ฉันใช้บทกลอนช่วย
    อธิบายสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจ
  • 8:21 - 8:23
    แต่ฉันพบปะกับ
    กลอนบทใหม่
  • 8:23 - 8:25
    ด้วยกระเป๋าที่เต็มไปด้วย
  • 8:25 - 8:26
    ทุกสิ่งที่ได้เรียนรู้มา
  • 8:26 - 8:30
    ตอนที่ฉันเข้ามหาลัย
    ฉันได้พบเพื่อนนักกวีคนหนึ่ง
  • 8:30 - 8:33
    ซึ่งแชร์ความเชื่อของฉัน
    เกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของบทกลอน
  • 8:33 - 8:35
    ที่จริงแล้ว ฟิล เคย์ กับฉัน
  • 8:35 - 8:37
    บังเอิญแชร์นามสกุลเดียวกันด้วย
  • 8:37 - 8:41
    ตอนที่ฉันอยู่ไฮสคูล
    ฉันก่อตั้งโปรเจ็ค V.O.I.C.E.
  • 8:41 - 8:43
    เพื่อสนับสนุนเพื่อนๆ
    ให้เขียนและขับกลอนเหมือนฉัน
  • 8:43 - 8:46
    แต่ฟิลกับฉัน ตัดสินใจที่จะพัฒนา
    โปรเจ็ค V.O.I.C.E.
  • 8:46 - 8:48
    ครั้งนี้ เราเปลี่ยนจุดมุ่งหมาย
  • 8:48 - 8:51
    เป็นการใช้บทกลอนเพื่อสร้างความบันเทิง
  • 8:51 - 8:53
    ความรู้ และแรงบันดาลใจ
  • 8:53 - 8:56
    เรายังคงเป็นนักศึกษา
    ในระหว่างนั้น เราเดินทาง
  • 8:56 - 8:57
    แสดง และสอน
  • 8:57 - 9:00
    จากเด็ก 9 ขวบ ถึงนักศึกษาปริญญาโท
  • 9:00 - 9:04
    จากแคลิฟอร์เนีย
    ถึงอินเดียน่า ถึงอินเดีย
  • 9:04 - 9:06
    ถึงโรงเรียนรัฐบาล
    ถัดจากมหาวิทยาลัย
  • 9:06 - 9:08
    และเราได้พบกับ
  • 9:08 - 9:10
    วิธีที่บทกลอน
  • 9:10 - 9:12
    ปลดล็อกความคิดของผู้คน
  • 9:12 - 9:15
    แต่กลับกลายเป็นว่า
    บางครั้ง
  • 9:15 - 9:17
    บทกลอนกลาย
    เป็นสิ่งที่น่ากลัว
  • 9:17 - 9:19
    กลับกลายเป็นว่าบางครั้ง
  • 9:19 - 9:22
    คุณต้องหาทางหลอกให้
    เด็กวัยรุ่นเขียนบทกลอนขึ้นมาได้
  • 9:22 - 9:25
    ฉันเลยสร้างลิสต์ขึ้นมา
    ใครๆ ก็สามารถเขียนลิสต์ได้
  • 9:25 - 9:27
    ลิสต์แรกที่ฉันสั่งคือ
  • 9:27 - 9:30
    "10 อย่างที่ฉันรู้ว่าเป็นจริง"
  • 9:30 - 9:33
    และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
    สิ่งที่คุณจะค้นพบเหมือนกัน
  • 9:33 - 9:35
    เมื่อเราเริ่มแชร์ลิสต์ของพวกเรา
  • 9:35 - 9:36
    ณ จุดนึง คุณจะพบว่า
  • 9:36 - 9:40
    บางคน มีสิ่งเดียวกันเป๊ะ
  • 9:40 - 9:43
    หรือสิ่งที่คล้ายกันมากๆ
  • 9:43 - 9:44
    กับลิสต์คุณ
  • 9:44 - 9:46
    และใครอีกคน
  • 9:46 - 9:48
    จะมีสิ่งที่ตรงข้ามโดยสิ้นเชิง
  • 9:48 - 9:51
    สาม บางคนจะมีสิ่งที่คุณ
    ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
  • 9:51 - 9:54
    และสี่ บางคนจะมีสิ่งที่คุณ
    นึกว่าคุณรู้จักเป็นอย่างดี
  • 9:54 - 9:57
    แต่เขานำเสนอ
    มุมมองใหม่ของสิ่งเดียวกัน
  • 9:57 - 10:01
    ฉันบอกคนอื่นว่า
    นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวดีๆ
  • 10:01 - 10:02
    จุดตัดสี่จุดนี้
  • 10:02 - 10:04
    ของสิ่งที่คุณสนใจ
  • 10:04 - 10:06
    และคนอื่นอาจ
    สนใจเหมือนกัน
  • 10:06 - 10:09
    ผู้คนส่วนใหญ่ตอบสนอง
    กับกิจกรรมนี้ได้ดีมาก
  • 10:09 - 10:13
    แต่ชาร์ล็อตต์
    นักเรียนคนหนึ่งของฉัน
  • 10:13 - 10:14
    ไม่รู้สึกแบบเดียวกัน
  • 10:14 - 10:17
    ชาร์ล็อตต์เขียนลิสต์ได้เก่งมากๆ
    แต่เธอปฏิเสธที่จะเขียนกลอน
  • 10:17 - 10:21
    "ครูคะ" เธอพูด
    "หนูว่าหนูไม่น่าสนใจ
  • 10:21 - 10:23
    หนูไม่มีอะไรเจ๋งๆ จะพูด"
  • 10:23 - 10:25
    ฉันเลยสั่งให้เธอเขียนลิสต์
    แล้วก็ลิสต์
  • 10:25 - 10:27
    จนวันนึง
    ฉันให้เธอเขียนลิสต์เกี่ยวกับ
  • 10:27 - 10:29
    "10 อย่างที่ฉันควรจะรู้ได้แล้ว"
  • 10:29 - 10:31
    ข้อสามบนลิสต์ของชาร์ล็อตต์เขียนว่า
  • 10:31 - 10:33
    "ฉันควรรู้ได้แล้วว่า
    ฉันไม่ควรหลงชอบ
  • 10:33 - 10:35
    ผู้ชายที่แก่กว่าฉันสามเท่า"
  • 10:35 - 10:37
    ฉันถามเธอว่า
    หมายถึงอะไร
  • 10:37 - 10:40
    เธอบอก
    "ครูคะ เรื่องมันยาว"
  • 10:40 - 10:42
    ฉันเลยบอกว่า "ชาร์ล็อตต์
    มันฟังดูน่าสนใจ"
  • 10:42 - 10:45
    เธอเลยเริ่มเขียน
    กลอนบทแรกของเธอ
  • 10:45 - 10:48
    กลอนรัก แบบที่ฉันไม่เคยได้ยินที่ไหน
  • 10:48 - 10:50
    มันเริ่มต้นด้วย
  • 10:50 - 10:53
    "แอนเดอร์สัน คูเปอร์
    เป็นผู้ชายที่หล่อมาก"
  • 10:53 - 10:54
    (เสียงหัวเราะ)
  • 10:54 - 10:57
    "คุณเห็นเขาในรายการ 60 Minutes
  • 10:57 - 10:59
    แข่งกับไมเคิล เฟลป์ส
    ในสระว่ายน้ำไหม
  • 10:59 - 11:01
    ใส่แค่กางเกงว่ายน้ำตัวเดียว
  • 11:01 - 11:03
    แหวกว่าย ตั้งใจจะ
    เอาชนะแชมป์นักว่ายน้ำ
  • 11:03 - 11:05
    หลังขึ้นจากน้ำ
    เขาสะบัดผมสีขาว
  • 11:05 - 11:07
    พูดว่า "คุณคือพระเจ้า"
  • 11:07 - 11:09
    ไม่ แอนเดอร์สัน
    คุณสิพระเจ้า"
  • 11:09 - 11:11
    (เสียงหัวเราะ)
  • 11:11 - 11:15
    (เสียงปรบมือ)
  • 11:15 - 11:19
    ฉันรู้ว่ากฎข้อหนึ่ง
    ของการที่จะเป็นคนเจ๋ง
  • 11:19 - 11:21
    คือการทำเป็นไม่สะทกสะท้าน
  • 11:21 - 11:24
    การไม่ยอมรับว่ามีความกลัว
  • 11:24 - 11:26
    หรือความประทับใจ หรือตื่นเต้น
  • 11:26 - 11:27
    ใครบางคนเคย
    บอกฉันว่า
  • 11:27 - 11:30
    มันเหมือนการใช้ชีวิต
    ด้วยการเดินแบบนี้
  • 11:30 - 11:32
    คุณป้องกันตัวคุณเอง
  • 11:32 - 11:34
    จากสิ่งลึกลับหรือ
    ความเจ็บปวดที่คาดไม่ถึง
  • 11:34 - 11:36
    แต่ฉันพยายามใช้ชีวิต
    ด้วยการเดินแบบนี้
  • 11:36 - 11:40
    ใช่ มันคือการรอรับ
    สิ่งลึกลับและความเจ็บปวด
  • 11:40 - 11:43
    ในขณะเดียวกัน
    เมื่อสิ่งสวยงามและมหัศจรรย์
  • 11:43 - 11:44
    ร่วงลงมาจากฟ้า
  • 11:44 - 11:46
    ฉันก็พร้อมที่จะรับมันด้วย
  • 11:46 - 11:49
    ฉันใช้บทกลอนเพื่อช่วยนักเรียน
  • 11:49 - 11:50
    ค้นพบความประหลาดใจ
  • 11:50 - 11:53
    เพื่อต่อสู้กับสัญชาตญาณ
    ที่จะทำเป็นไม่สะทกสะท้าน
  • 11:53 - 11:56
    เพื่อรับรู้และตอบสนอง
    กับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวพวกเขา
  • 11:56 - 11:59
    ให้พวกเขาได้ตีความ
    และสร้างบางสิ่งขึ้นมา
  • 11:59 - 12:02
    มันไม่ใช่ว่า
    ฉันคิดว่าบทกลอน
  • 12:02 - 12:04
    คือศิลปะในอุดมคติ
  • 12:04 - 12:07
    ฉันพยายามหาวิธีที่ดีที่สุด
    ที่จะเล่าเรื่อง
  • 12:07 - 12:10
    ฉันเขียนบทละครเพลง
    ฉันสร้างหนังสั้นคู่กับกลอน
  • 12:10 - 12:13
    แต่ฉันสอนการขับกลอน
  • 12:13 - 12:14
    เพราะมันเข้าถึงได้ง่าย
  • 12:14 - 12:16
    ไม่ใช่ทุกคนที่อ่าน
    โน้ตเพลงได้
  • 12:16 - 12:18
    หรือมีกล้องถ่ายรูป
  • 12:18 - 12:19
    แต่ทุกคนสามารถสื่อสารได้
  • 12:19 - 12:22
    และทุกคนมีเรื่องราวของตัวเอง
  • 12:22 - 12:24
    ที่คนอื่นสามารถเรียนรู้ได้จากมัน
  • 12:24 - 12:27
    และบทกลอนสามารถ
    เชื่อมโยงผู้คนอย่างรวดเร็ว
  • 12:27 - 12:29
    มันไม่ใช่เรื่องแปลก
    ที่คุณรู้สึกโดดเดี่ยว
  • 12:29 - 12:31
    หรือไม่มีใครเข้าใจคุณ
  • 12:31 - 12:33
    แต่บทกลอนสอนให้รู้ว่า
  • 12:33 - 12:35
    คุณสามารถที่จะแสดงออก
  • 12:35 - 12:37
    และคุณมีความกล้าที่จะเล่าเรื่อง
  • 12:37 - 12:39
    โดยที่สิ่งตอบแทน
  • 12:39 - 12:41
    คือห้องที่เต็มไปด้วย
    เพื่อนของคุณ
  • 12:41 - 12:43
    หรือชุมชนของคุณ
    ที่จะตั้งใจฟัง
  • 12:43 - 12:46
    หรือแม้แต่เด็กผู้หญิงตัวใหญ่
    ในเสื้อฮู้ด
  • 12:46 - 12:48
    จะเข้าถึงเรื่องที่คุณแชร์
  • 12:48 - 12:50
    และนั่นคือความรู้สึกที่มหัศจรรย์
  • 12:50 - 12:52
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณอายุ 14
  • 12:52 - 12:54
    แถมด้วยตอนนี้เรามี YouTube
  • 12:54 - 12:57
    ที่ทำให้การเชื่อมโยงไม่จำกัด
    อยู่ในห้องที่เรานั่งอยู่
  • 12:57 - 12:59
    ฉันโชคดีมากที่เรามีวิดีโอ
  • 12:59 - 13:02
    ที่ฉันสามารถแชร์มันกับนักเรียน
  • 13:02 - 13:04
    และเพิ่มโอกาสดีๆ มากมาย
  • 13:04 - 13:06
    ให้พวกเขาได้ค้นพบกวี
    หรือบทกลอน
  • 13:06 - 13:08
    และสร้างความเชื่อมโยง
  • 13:08 - 13:10
    คุณจะพบว่ามันน่าดึงดูด
  • 13:10 - 13:13
    มันน่าดึงดูดที่จะเขียนบทกลอนบทเดิม
  • 13:13 - 13:15
    หรือเล่าเรื่องเดิม
    ครั้งแล้วครั้งเล่า
  • 13:15 - 13:17
    เมื่อคุณพบว่ามันได้รับเสียงปรบมือ
  • 13:17 - 13:20
    แค่การเป็นตัวคุณเองมันยังไม่พอ
  • 13:20 - 13:22
    คุณต้องเติบโต
    ค้นหาสิ่งใหม่ๆ
  • 13:22 - 13:25
    ต้องลองเสี่ยง
    ท้าทายตัวเอง
  • 13:25 - 13:27
    และนั่นคือขั้นตอนที่สาม
  • 13:27 - 13:30
    ใส่ใจในงานที่คุณทำ
  • 13:30 - 13:32
    ด้วยการใส่รายละเอียดที่เป็นตัวคุณ
  • 13:32 - 13:34
    แม้ขณะที่สิ่งเหล่านั้น
    เปลี่ยนแปลง
  • 13:34 - 13:37
    เพราะว่าขั้นตอนที่สาม
    ไม่มีที่สิ้นสุด
  • 13:37 - 13:38
    แต่คุณข้าม
    ไปขั้นที่สามไม่ได้
  • 13:38 - 13:42
    จนกว่าคุณจะเริ่มขั้นที่หนึ่ง
    ขั้นที่ "คุณทำได้"
  • 13:42 - 13:44
    ฉันเดินทางเยอะมาก
    ตอนที่สอน
  • 13:44 - 13:47
    และฉันไม่ได้เห็น
    นักเรียนทุกคนก้าวถึงขั้นที่สาม
  • 13:47 - 13:49
    แต่ฉันโชคดีที่ได้เห็นชาร์ล็อตต์
  • 13:49 - 13:52
    ที่ฉันได้เห็นการเดินทางของเธอ
  • 13:52 - 13:53
    ฉันมองเธอเรียนรู้
  • 13:53 - 13:56
    ว่าการใส่สิ่งที่เธอรู้ว่าเป็นจริงเข้าไป
  • 13:56 - 13:59
    เธอสามารถเขียนกลอนที่
    มีแค่เธอที่เขียนได้
  • 13:59 - 14:02
    เกี่ยวกับลูกตา และลิฟต์
    และดอร่า สาวน้อยนักผจญภัย
  • 14:02 - 14:05
    และฉันพยายามจะเล่าเรื่อง
    ที่มีแต่ฉันที่เล่าได้
  • 14:05 - 14:06
    อย่างเช่นเรื่องนี้
  • 14:06 - 14:09
    ฉันใช้เวลาค่อนข้างนาน
    เพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะเล่าเรื่องนี้
  • 14:09 - 14:11
    และฉันไม่แน่ใจว่า
    วิธีที่ดีที่สุด
  • 14:11 - 14:13
    จะเป็นพาวเวอร์พอยท์
    หนังสั้น
  • 14:13 - 14:15
    หรือตรงไหนกันแน่คือตอนเริ่ม
    ตอนกลาง หรือตอนจบ
  • 14:15 - 14:18
    และฉันสงสัยว่า
    ตอนจบของทอล์คนี้
  • 14:18 - 14:21
    ฉันจะเข้าใจมันทั้งหมด
    หรือเปล่า
  • 14:21 - 14:24
    และฉันจะคิดเสมอว่าจุดเริ่มต้น
    คือที่คลับที่ฉันเคยไป
  • 14:24 - 14:26
    แต่มันเป็นไปได้ว่า
    จุดเริ่มอาจจะเกิดก่อนหน้านั้น
  • 14:26 - 14:28
    ตอนที่ฉันเตรียมมาพูด TED
  • 14:28 - 14:31
    ฉันพบกับหน้านึงในไดอารี่เล่มเก่าของฉัน
  • 14:31 - 14:34
    ฉันคิดว่าวันที่ 54 ธันวาคม
    ควรจะเป็นวันที่ 24
  • 14:34 - 14:36
    มันชัดเจนว่า เมื่อตอนที่ฉันเป็นเด็ก
  • 14:36 - 14:38
    ฉันเดินผ่านชีวิตของฉันแบบนี้
  • 14:38 - 14:40
    ฉันคิดว่า
    พวกเราทุกคนก็เหมือนกัน
  • 14:40 - 14:43
    ฉันอยากจะช่วยให้คนอื่น
    ค้นพบความรู้สึกนั้น
  • 14:43 - 14:45
    ความอยากที่จะเป็นส่วนร่วม
    ที่จะเรียนรู้
  • 14:45 - 14:47
    ที่จะแชร์เรื่องราว
    ที่ได้เรียนรู้มา
  • 14:47 - 14:49
    เรื่องที่เขาพบว่าเป็นความจริง
  • 14:49 - 14:51
    และเรื่องที่เขายังคง
    พยายามหาคำตอบ
  • 14:51 - 14:54
    ฉันเลยขอปิดด้วยกลอนบทนี้
  • 14:54 - 14:57
    ตอนที่ระเบิดลงฮิโรชิม่า
  • 14:57 - 15:01
    การปะทุก่อให้เกิดซูเปอร์โนวา
  • 15:01 - 15:04
    ทำให้ทุกสิ่งมีชีวิต
    สัตว์ มนุษย์ หรือพืช
  • 15:04 - 15:06
    ที่ได้รับการสัมผัสโดยตรง
  • 15:06 - 15:08
    จากรังสีแผดร้อนนั้น
  • 15:08 - 15:09
    แหลกสลายเป็นผุยผง
  • 15:09 - 15:11
    และสิ่งที่ถูกทิ้งไว้กับเมืองนั้น
  • 15:11 - 15:13
    การทำลายล้างของรังสีนิวเคลียร์
  • 15:13 - 15:16
    ทำให้เมืองทั้งเมือง และผู้คน
  • 15:16 - 15:19
    กลายเป็นฝุ่นละออง
  • 15:19 - 15:22
    ตอนที่ฉันเกิด แม่บอกว่า
    ฉันมองไปรอบๆ ห้อง
  • 15:22 - 15:26
    กับสายตาที่พูดว่า
    "ฉันเคยทำสิ่งนี้มาก่อน"
  • 15:26 - 15:28
    เธอบอกว่าฉันมี
    นัยน์ตาของผู้ผ่านโลก
  • 15:28 - 15:31
    ตอนที่คุณตาเกนจิตาย
    ฉันอายุแค่ห้าขวบ
  • 15:31 - 15:33
    แต่ฉันกุมมือของแม่ไว้ และบอกว่า
  • 15:33 - 15:36
    "อย่ากังวลเลย
    คุณตาจะกลับมาเกิดใหม่"
  • 15:36 - 15:40
    ถึงอย่างนั้น แม้ว่าฉันจะเคย
    ทำสิ่งนี้มาก่อน
  • 15:40 - 15:42
    ฉันยังคงไม่เข้าใจมัน
  • 15:42 - 15:45
    ขาของฉันยังคงสั่น
    ทุกครั้งที่ก้าวขึ้นเวที
  • 15:45 - 15:47
    ความมั่นใจของฉันถูกตวงได้
  • 15:47 - 15:49
    ด้วยช้อนชา
    ผสมลงไปในบทกลอน
  • 15:49 - 15:52
    และมันยังคงให้รสประหลาด
    ทุกครั้งที่ชิม
  • 15:52 - 15:56
    แต่ที่ฮิโรชิม่า
    คนถูกลบออกไป
  • 15:56 - 15:59
    เหลือไว้แค่นาฬิกาข้อมือ
    หรือหน้าไดอารี่
  • 15:59 - 16:02
    ดังนั้น ถึงแม้จะถูกขวาง
    ไม่ให้เติมเต็มกระเป๋าของฉัน
  • 16:02 - 16:04
    ฉันยังคงพยายาม
  • 16:04 - 16:06
    หวังว่าวันนึง
    ฉันจะเขียนบทกลอน
  • 16:06 - 16:08
    ให้มันได้เป็นสิ่งหนึ่งในพิพิธภัณฑ์
  • 16:08 - 16:10
    เพื่อเป็นหลักฐานเดียว
    ว่าฉันเคยมีชีวิตอยู่
  • 16:10 - 16:12
    พ่อแม่ตั้งชื่อฉันว่า ซาร่า
  • 16:12 - 16:14
    ซึ่งเป็นชื่อจากคัมภีร์ไบเบิล
  • 16:14 - 16:17
    ในต้นเรื่อง พระเจ้าบอกซาร่าว่า
    เธอสามารถทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
  • 16:17 - 16:19
    เธอหัวเราะ
  • 16:19 - 16:21
    เพราะว่าซาร่าคนนั้น
  • 16:21 - 16:23
    เธอไม่รู้ว่าจะทำอะไรที่เป็นไปไม่ได้
  • 16:23 - 16:26
    ฉันหรือ เอ่อ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
  • 16:26 - 16:28
    แต่ฉันเห็นความเป็นไปไม่ได้ทุกวัน
  • 16:28 - 16:31
    ความเป็นไปไม่ได้กำลังพยายาม
    จะเชื่อมต่อโลกใบนี้
  • 16:31 - 16:34
    ยึดเหนี่ยวผู้อื่น
    ตอนที่สิ่งรอบตัวคุณแหลกสลาย
  • 16:34 - 16:36
    รู้ไว้ว่าตอนที่คุณกำลังพูดอยู่นี้
  • 16:36 - 16:39
    มันไม่ได้แค่รอเวลาที่มันจะพูด
    มันได้ยินคุณ
  • 16:39 - 16:41
    มันรู้สึกแบบเดียวกับที่คุณรู้สึก
  • 16:41 - 16:42
    เวลาเดียวกับที่คุณรู้สึก
  • 16:42 - 16:45
    มันคือเป้าหมายของฉัน
    ทุกครั้งที่ฉันเปิดปากพูด
  • 16:45 - 16:47
    นั่นคือการเชื่อมต่อที่เป็นไปไม่ได้
  • 16:47 - 16:50
    มีผนังส่วนหนึ่งที่ฮิโรชิม่า
  • 16:50 - 16:52
    ที่ถูกเผาจนมอดไหม้ด้วยรังสี
  • 16:52 - 16:55
    แต่ที่บันไดขั้นแรก
    คนที่นั่งอยู่ตรงนั้น
  • 16:55 - 16:57
    ป้องกันรังสีไม่ให้สัมผัสแผ่นหิน
  • 16:57 - 16:59
    สิ่งเดียวที่เหลือตอนนี้
  • 16:59 - 17:01
    คือรอยเงาของแสงสว่าง
  • 17:01 - 17:03
    หลังจากระเบิดครั้งนั้น
  • 17:03 - 17:05
    ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า มันจะใช้เวลา 75 ปี
  • 17:05 - 17:07
    กว่าที่พื้นดินในฮิโรชิม่า
  • 17:07 - 17:09
    จะสามารถใช้เพาะปลูกได้อีกครั้ง
  • 17:09 - 17:12
    แต่ในฤดูใบไม้ผลินั้น
    ต้นกล้ากลับงอกออกมาจากพื้นโลก
  • 17:12 - 17:15
    ตอนที่ฉันพบคุณ ณ ขณะนั้น
  • 17:15 - 17:17
    ฉันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ
    อนาคตของคุณอีกต่อไป
  • 17:17 - 17:19
    ฉันกลายมาเป็นส่วนหนึ่ง
    ของอดีตของคุณ
  • 17:19 - 17:21
    แต่ ณ เวลานั้น
    ฉันได้แชร์ปัจจุบันของคุณ
  • 17:21 - 17:23
    และคุณได้แชร์
    ปัจจุบันของฉัน
  • 17:23 - 17:25
    และนั่นคือของขวัญที่ดีที่สุด
  • 17:25 - 17:27
    เพราะฉะนั้น ถ้าคุณบอกว่าฉัน
    สามารถทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
  • 17:27 - 17:29
    ฉันคงจะหัวเราะใส่คุณ
  • 17:29 - 17:32
    เพราะฉันไม่รู้ว่า
    จะสามารถเปลี่ยนโลกใบนี้ได้รึยัง
  • 17:32 - 17:34
    เพราะฉันไม่รู้จักมันมากนัก
  • 17:34 - 17:36
    และฉันไม่รู้เกี่ยวกับ
    การกลับชาติมาเกิด
  • 17:36 - 17:38
    แต่ถ้าคุณทำให้ฉันหัวเราะมากพอ
  • 17:38 - 17:41
    บางครั้งฉันจะลืมว่า
    อยู่ในยุคไหน
  • 17:41 - 17:44
    นี่ไม่ใช่ชีวิตแรกของฉัน
    และนี่ไม่ใช่ชีวิตสุดท้าย
  • 17:44 - 17:46
    นี่จะไม่ใช่คำพูดสุดท้ายที่ฉันจะแชร์
  • 17:46 - 17:49
    แต่อย่างไรก็ตาม
    ฉันพยายามอย่างดีที่สุด
  • 17:49 - 17:51
    ที่จะทำให้มันใช่ในครั้งนี้
  • 17:51 - 17:53
    ขอบคุณค่ะ
  • 17:53 - 17:57
    (เสียงปรบมือ)
  • 17:57 - 17:59
    ขอบคุณ
  • 17:59 - 18:01
    (เสียงปรบมือ)
  • 18:01 - 18:03
    ขอบคุณค่ะ
  • 18:03 - 18:07
    (เสียงปรบมือ)
Title:
ถ้าฉันจะมีลูกสาว ...
Speaker:
ซาร่า เคย์ (Sarah Kay)
Description:

"ถ้าฉันจะมีลูกสาว แทนที่จะเรียกแม่ ลูกจะเรียกฉันว่า จุด B... " ซาร่า เคย์ กวีกลอนปาก กล่าวเปิดทอล์คที่ได้รับเสียงปรบมืออย่างล้นหลามที่ TED2011 ซาร่าเล่าเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเธอ จากวัยรุ่นที่จมอยู่กับบทกลอนที่ Bowery Poetry Club ในนิวยอร์ค จนกลายมาเป็นคุณครูผู้เชื่อมต่อเด็กๆด้วยพลังของการเป็นตัวของตัวเองผ่านโปรเจ็ค V.O.I.C.E เธอแสดงสองบทกลอนที่น่าประทับใจชื่อ "B" และ "ฮิโรชิม่า"

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
18:08
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for If I should have a daughter ...
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for If I should have a daughter ...
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for If I should have a daughter ...
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for If I should have a daughter ...
Pathumjit Atikomkamalasai accepted Thai subtitles for If I should have a daughter ...
Pathumjit Atikomkamalasai edited Thai subtitles for If I should have a daughter ...
Pathumjit Atikomkamalasai edited Thai subtitles for If I should have a daughter ...
Sutthada Kulavitaya edited Thai subtitles for If I should have a daughter ...
Show all

Thai subtitles

Revisions