Return to Video

โบโน่ (Bono): ข่าวดีเกี่ยวกับความยากจน (ใช่แล้ว ข่าวดีจริงๆ)

  • 0:01 - 0:05
    คริส แอนเดอร์สัน (Chris Anderson)
    ขอให้ผมจะสรุปเรื่องราวใน 25 ปีที่ผ่านมา
  • 0:05 - 0:09
    ที่เกี่ยวกับการรณรงค์ต่อต้านความยากจน
    ภายใน 10 นาที ในการบรรยายที่ TED
  • 0:09 - 0:13
    นั่นมันคนอังกฤษขอให้คนไอริชอย่าเยิ่นเย้อชัดๆเลย
  • 0:13 - 0:15
    (เสียงหัวเราะ)
  • 0:15 - 0:20
    ผมบอกว่า "คริส สงสัยจะต้องพึ่งปาฎิหาริย์แล้วล่ะ"
  • 0:20 - 0:25
    เขาบอกผมว่า "โบโน่ มันจะไม่ดีหรอ
    ที่คุณจะได้ใช้ความสามารถที่พระเจ้าประทานเทพๆของคุณ"
  • 0:25 - 0:27
    อ่าฮะ
  • 0:27 - 0:31
    จากนั้นผมก็คิด เอาให้มันยิ่งกว่า 25 ปีไปเลย
  • 0:31 - 0:35
    ย้อนกลับไปยุคก่อนพระเยซู สามพันปีมาแล้ว
  • 0:35 - 0:39
    ตอนที่ จากที่ผมจำได้
    การเดินทางเพื่อความยุติธรรม
  • 0:39 - 0:43
    การเดินขบวนต่อต้านความความไม่เสมอภาค
    และความยากจน ได้กำเนิดขึ้นจริงๆ
  • 0:43 - 0:45
    สามพันปีก่อน
  • 0:45 - 0:48
    อารยธรรมเพิ่งจะก่อตัวขึ้นบนฝั่งแม่น้ำไนล์
  • 0:48 - 0:52
    ทาสบางคน ในกรณีนี้ คนเลี้ยงแกะขาวยิว
  • 0:52 - 0:55
    ตัวเหม็นสาบแกะ ผมเดานะครับ
  • 0:55 - 0:59
    พูดกับฟาโรห์ผู้เสวยราชย์ ทรงบันลังก์สูงศักดิ์
  • 0:59 - 1:05
    "พระองค์ผู้ทรงอาชญา เรากับท่านนั้นเสมอภาคกัน"
  • 1:05 - 1:08
    และฟาโรห์ก็ได้เอ่ยกลับไป "โอ้ ไม่ๆ
  • 1:08 - 1:11
    แก เจ้าตัวน่าสังเวช นี่มาล้อเล่นอะไรกับข้า"
  • 1:11 - 1:15
    และพวกเขาก็บอกว่า "ไม่ ไม่ มันบอกอยู่ตรงนี้ไงท่าน
  • 1:15 - 1:17
    ในพระคัมภีร์(หนังสือ)ศักสิทธิ์ของเรา"
  • 1:17 - 1:20
    ตัดมายังศตรรวษของเรา ประเทศเดิม ปิรมิดอันเดิม
  • 1:20 - 1:22
    คนอีกกลุ่มกำลังเผยแพร่ความคิดเดียวกัน
  • 1:22 - 1:24
    ที่เกี่ยวกับความเท่าเทียม ด้วยหนังสืออีกเล่ม
  • 1:24 - 1:28
    คราวนี้ หนังสือเล่มที่ว่าคือ "เฟสบุ๊ค"
  • 1:28 - 1:30
    ฝูงชนเข้ามารวมตัวกันที่ จัตุรัส ทาเรียร์ (Tahrir Square)
  • 1:30 - 1:32
    พวกเขาเปลี่ยนสังคมออนไลน์จากภาพเป็นการกระทำ
  • 1:32 - 1:36
    และเป็นเหมือนกับการปลุกศตวรรษที่ 21 ขึ้นมาอีกครั้ง
  • 1:36 - 1:38
    ไม่ใช่เพื่อกดความสำคัญ
    ของความโกลาหลและอัปลักษณ์
  • 1:38 - 1:41
    หลังเหตุการณ์ อาหรับสปริง (Arab Spring)
  • 1:41 - 1:44
    ไม่ใช่เพื่อยกยอ บทบาทของเทคโนโลยี
  • 1:44 - 1:47
    แต่สิ่งเหล่านี้ได้ให้เราได้ตระหนักถึงสิ่งที่เป็นไปได้
  • 1:47 - 1:51
    เมื่อสัญลักษณ์แห่งอำนาจยุคเก่า ดังเช่นปิรมิด
  • 1:51 - 1:54
    ถูกคว่ำตีลังกา นำผู้คนขึ้นสู่ยอด
  • 1:54 - 1:58
    และฟาโรห์แห่งยุคสู่เบื้องล่าง ดังที่มันเป็น
  • 1:58 - 2:01
    มันได้แสดงให้เราเห็นว่า สิ่งหนึ่ง ที่มีอำนาจมากพอๆกับ
  • 2:01 - 2:05
    ข้อมูลและการบอกต่อแบ่งปัน
    สามารถต่อกรกับความไม่เสมอภาค
  • 2:05 - 2:08
    เพราะว่าความจริง เหมือนกับผู้คน
  • 2:08 - 2:10
    มันต้องการเป็นอิสระ และเมื่อพวกเขาเป็นไท
  • 2:10 - 2:12
    เสรีภาพก็อยู่ไม่ไกลเกินคว้า
  • 2:12 - 2:15
    แม้ว่าเขาจะจนแสนจนเพียงใด
  • 2:15 - 2:17
    ความจริงที่จะสามารถต่อกรกับคติหยามโลก
  • 2:17 - 2:20
    และความเฉยเมยที่นำไปสู่ความเฉื่อยชา
  • 2:20 - 2:22
    ความจริงที่บอกพวกเราว่าสิ่งใดที่ได้ผล
  • 2:22 - 2:25
    และที่สำคัญไปกว่านั้น สิ่งใดที่ไม่ได้ผล เราจึงจะได้ซ่อมมัน
  • 2:25 - 2:27
    ความจริงที่ถ้าเราได้รับฟังและเอาใจใส่ จะสามารถช่วยเรา
  • 2:27 - 2:31
    ได้พบกับสิ่งที่ เนลสัน แมนเดลา ได้ลุกขึ้นท้าทาย
  • 2:31 - 2:33
    เมื่อปี 2005
  • 2:33 - 2:36
    เมื่อเขาได้ร้องขอให้เราเป็นคนในยุคแห่งความเป็นเลิศ
  • 2:36 - 2:39
    ที่จะเอาชนะ การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่น่าพรั่นพรึงที่สุด
  • 2:39 - 2:41
    ความยากจนแร้นแค้น
  • 2:41 - 2:45
    ความจริงที่สร้างแรงผลักดันต่อเนื่องอันทรงพลัง
  • 2:45 - 2:48
    ดังนั้น ผมคิด เลิกสนใจร๊อคโอเปร่า
  • 2:48 - 2:53
    เลิกสนใจสำนวนฟุ้งเฟื่องที่เป็นกลวิธีปกติของผม
  • 2:53 - 2:57
    สิ่งเดียวที่ผมจะขับร้องในวันนี้คือ ข้อเท็จจริง
  • 2:57 - 3:02
    เพราะว่า ผมได้สวมกอดความเป็นเนิร์ดในตัวผม
  • 3:02 - 3:09
    ดังนั้น ออกจากการเป็นดาราเพลงร๊อค
  • 3:09 - 3:18
    เข้าสู่การเป็น นักปฏิบัติการที่อิงหลักฐาน หรือในนาม
    นักปฎิบัติการข้อเท็จจริง
  • 3:18 - 3:22
    เพราะว่า สิ่งที่ข้อเท็จจริงกำลังบอกเราอยู่ก็คือ
  • 3:22 - 3:26
    การเดินทางที่เนิ่นนานนั้น
  • 3:26 - 3:28
    การเดินทางเพื่อความเท่าเทียมกันของมนุษย์ชาติ
  • 3:28 - 3:30
    กำลังเร่งความเร็วขึ้น
  • 3:30 - 3:32
    ดูสิ่งที่เราทำสำเร็จกันแล้วสิครับ
  • 3:32 - 3:35
    ดูภาพของข้อมูลเหล่านี้สิครับ
  • 3:35 - 3:38
    ตั้งแต่ปี 2000 ต้งแต่ช่วงเปลี่ยนสหัสวรรษ
  • 3:38 - 3:40
    มีผู้ป่วยโรคเอดส์มากกว่าเดิม 8 ล้านคน
  • 3:40 - 3:43
    ที่ได้รับการช่วยชีวิตด้วยยาต้านไวรัส
  • 3:43 - 3:46
    มาลาเรีย มี 8 ประเทศในซับซาฮาร่าแอฟริกา
  • 3:46 - 3:50
    ที่มีอัตราการตายของพวกเขาลดลง 75 เปอร์เซนต์
  • 3:50 - 3:53
    สำหรับเด็กๆอายุต่ำกว่า 5 ปี อัตราการเสียชีวิต
  • 3:53 - 3:57
    ลดลงไปที่ 2.65 ล้านต่อปี
  • 3:57 - 4:03
    นั่นหมายถึง เด็ก 7,256 ชีวิตได้รับการช่วยเหลือต่อวัน
  • 4:03 - 4:09
    ว้าว ว้าว (เสียงปรบมือ)
  • 4:09 - 4:11
    เราลองหยุดสักวินาที ลองมาคิดถึงกันดู
  • 4:11 - 4:15
    คุณได้อ่านอะไรสักอย่างสักแห่งเมื่อสัปดาห์ก่อนหรือเปล่า
  • 4:15 - 4:19
    ที่มันมีความสำคัญใกล้เคียงกับตัวเลขนี้ ว้าว!
  • 4:19 - 4:23
    ข่าวใหญ่ มันทำผมคลั่งเลยครับ
  • 4:23 - 4:26
    คนส่วนใหญ่เหมือนจะไม่ทราบข่าวดีนี้
  • 4:26 - 4:29
    เด็กเจ็ดพันคนต่อวัน นี่เป็นสองคนในนั้น
  • 4:29 - 4:31
    นี่คือ ไมเคิล และ เบเนดิคตา
  • 4:31 - 4:34
    และพวกเขามีชีวิตอยู่ ต้องส่งคำขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
  • 4:34 - 4:38
    ไปยัง ดร. แพทริเซีย แอซาโมห์ เธอช่างน่าทึ่ง
  • 4:38 - 4:41
    และโครงการ Global Fund
    ซึ่งคุณทุกคนได้ให้การสนับสนุนด้านการเงิน
  • 4:41 - 4:42
    ไม่ว่าคุณจะทราบหรือไม่ก็ตาม
  • 4:42 - 4:45
    และ โครงการ Global Fund นี้ ได้ให้ยาต้านไวรัส
  • 4:45 - 4:49
    ที่ยับยั้งการติดต่อของเชื้อ เอชไววี จากแม่สู่ลูก
  • 4:49 - 4:52
    ข่าวดีเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยตัวของมันเอง
  • 4:52 - 4:54
    มันได้มาจากการต่อสู้ มันได้มาจากการรณรงค์
  • 4:54 - 4:56
    มันได้มาจากการสรรค์สร้าง
  • 4:56 - 5:01
    และข่าวดีนี้ ได้ให้กำเนิดข่าวที่ดียิ่งกว่านั้น
  • 5:01 - 5:04
    เพราะว่า ตามแนวโน้มทางประวัติศาสตร์มันเป็นอย่างนี้ครับ
  • 5:04 - 5:06
    จำนวนของผู้คนที่อาศัยอยู่ในภาวะอดอยากปากแห้ง
  • 5:06 - 5:09
    ภาวะสุดยากไร้ กำลังลดลง
  • 5:09 - 5:14
    จาก 43 เปอร์เซนของประชากรโลกในปี 1990
  • 5:14 - 5:17
    เหลือที่ 33 เปอร์เซนต์เมื่อปี 2000
  • 5:17 - 5:22
    และจากนั้น 21 เปอร์เซนต์เมื่อปี 2010
  • 5:22 - 5:26
    ปรบมือหน่อยครับ (เสียงปรบมือ)
  • 5:26 - 5:29
    ไชโย ไชโย
  • 5:29 - 5:33
    ทีนี้ อัตราการเสียงชีวิตมันยังสูงเกินไป
    ยังมีคนมากเกินไป
  • 5:33 - 5:35
    ที่ต้องเสียชีวิตอย่างไม่มีเหตุอันควร
  • 5:35 - 5:37
    ยังมีงานที่เราต้องทำ
  • 5:37 - 5:42
    แต่นี่มันให้หัวใจเกือบหยุดเต้น ทำเอาจิตแทบกระเจิง
  • 5:42 - 5:47
    และถ้าคุณมีชีวิตอยู่ด้วยเงินน้อยกว่า 1.25 ดอลล่าห์ต่อวัน
  • 5:47 - 5:49
    ถ้าคุณใช้ชีวิตอย่างยากจนเช่นนั้น
  • 5:49 - 5:51
    นี่มันไม่ใช่แค่ข้อมูล
  • 5:51 - 5:53
    มันคือทุกสิ่งทุกอย่าง
  • 5:53 - 5:58
    ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ ผู้ที่อยากให้ลูกๆได้สิ่งที่ดีที่สุด
    ซึ่งผมก็เช่นกัน
  • 5:58 - 6:04
    การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้
    เป็นหนทางที่นำพวกเขาออกจากความทุกข์ไปสู่ความหวัง
  • 6:04 - 6:07
    และทราบอะไรไหมครับ ถ้าแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป
  • 6:07 - 6:11
    คิดดูสิว่า จำนวนคนที่มีชีวิตอยู่ได้
    ด้วยเงิน 1.25 ดอลลาห์ต่อวัน
  • 6:11 - 6:15
    จะเหลืออยู่เท่าไร เมื่อถึงปี 2030
  • 6:15 - 6:18
    ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย ใช่ไหมครับ
  • 6:18 - 6:23
    นั่นคือสิ่งที่ข้อมูลบอกเรา ถ้าแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป
  • 6:23 - 6:28
    เราจะไปยังจุดที่จำนวนของคนจนเป็นศูนย์ ว้าว
  • 6:28 - 6:29
    สำหรับนักสถิติอย่างพวกเรา
  • 6:29 - 6:33
    นั่นมันเป็นโซนไวสัมผัส
  • 6:33 - 6:36
    และมันคงไม่ผิดที่จะบอกว่า ตอนนี้
  • 6:36 - 6:41
    ผมรู้สึกซู่ซ่ามากจากข้อมูลโดยรวมนี้
  • 6:41 - 6:46
    การกำจัดความยากจนแร้งแค้นที่ได้แสดงให้เห็น
  • 6:46 - 6:50
    โดยการตีความจากคนที่ใช้ชีวิตอยู่
    ด้วยเงินต่ำกว่า 1.25 ดอลลาห์ต่อวัน
  • 6:50 - 6:54
    แน่นอน มันได้มีการปรับให้เข้ากับภาวะเงินเฟ้อ
    จากค่าพื้นฐานในปี 1990
  • 6:54 - 6:57
    เราชอบ ค่าพื้นฐานดีๆครับ
  • 6:57 - 6:59
    มันน่าที่งครับ
  • 6:59 - 7:03
    ทีนี้ ผมทราบว่า
    คุณบางคนคงคิดว่าความก้าวหน้านี้
  • 7:03 - 7:05
    มันอยู่แค่ในเอเชีย หรือ ลาตินอเมริกา หรือ
  • 7:05 - 7:07
    ประเทศแบบอย่าง เช่น บราซิล
  • 7:07 - 7:10
    และใครจะไม่ชอบ (นาย/นาง)แบบ บราซิล จริงไหมครับ
  • 7:10 - 7:14
    แต่ลองดูที่ซับซาอาราแอฟริกา
  • 7:14 - 7:17
    มีกลุ่มประเทศ 10 ประเทศ
    บ้างก็เรียกพวกเขารวมๆว่า "สิงห์" (lions)
  • 7:17 - 7:20
    ที่ในสิบปีที่ผ่านมามีทั้ง
  • 7:20 - 7:22
    การหมดหนี้คิดเป็น 100%
  • 7:22 - 7:24
    ความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นสามเท่า
    การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เพิ่มขึ้นสิบเท่า
  • 7:24 - 7:26
    FDI ย่อมาจาก Foreign Direct Investment นะครับ
  • 7:26 - 7:30
    ซึ่งได้ปลดปล่อยกำลังเงินในประเทศมากถึงสี่เท่า
    --เงินท้องถิ่นนะครับ--
  • 7:30 - 7:33
    ซึ่งเมื่อใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดแล้ว
    --โดยรัฐบาลดีๆ--
  • 7:33 - 7:35
    จะลดการเสียชีวิตของเด็กๆลงได้หนึ่งในสาม
  • 7:35 - 7:36
    เพิ่มอัตราการจบการศึกษาได้สองเท่า
  • 7:36 - 7:40
    และพวกเขาก็เช่นกัน
    ที่จะได้หั่นความยากจนออกไปครี่งหนึ่ง
  • 7:40 - 7:44
    และด้วยอัตรานี้ 10 ประเทศนี้ก็จะมีคนยากจนเป็น 0 เช่นกัน
  • 7:44 - 7:46
    ดังนั้น ความทระนงของฝูงสิงห์
  • 7:46 - 7:49
    คือบทพิสูจน์ของแนวคิดนี้
  • 7:49 - 7:52
    สิ่งนี้นำมาซึ่งประโยชน์หลายด้านครับ
  • 7:52 - 7:56
    เป็นต้นว่า คุณจะได้ไม่ต้องฟัง
  • 7:56 - 8:00
    คนที่รับไม่ได้จนต้องออกมาตั้งตัวเป็นพระเยซูองค์น้อยอย่างผม
  • 8:00 - 8:05
    ว่าไงครับ
    (เสียงปรบมือ)
  • 8:05 - 8:09
    และปี 2028 หรือ 2030 มันก็อีกไม่นานแล้ว
  • 8:09 - 8:13
    ผมหมายถึง มันก็ประมาณว่า
    จัดคอนเสริตอำลาของวงโรลริ่ง สโตน อีกสามครั้งเอง
  • 8:13 - 8:19
    (เสียงหัวเราะ)
    ผมหวังว่านะครับ หวังว่า
  • 8:19 - 8:23
    ทำให้เรารู้สึกเด็กไปเลย
  • 8:23 - 8:26
    ดังนั้น สำหรับเรื่องนี้
    ทำไมเราจะไม่ร้องแรกแหกกระเชอกันล่ะครับ
  • 8:26 - 8:29
    ความเป็นไปได้มันมีอยู่จริง แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน
  • 8:29 - 8:33
    เราจะไม่มีวันทำให้งานนี้เสร็จลุล่วงได้
    จนกว่าเราจะยอมรับจริงๆ
  • 8:33 - 8:36
    ว่าพวกเราสามารถทำได้
  • 8:36 - 8:38
    ดูกราฟนี่สิครับ
  • 8:38 - 8:43
    มันเรียกว่า ความเฉื่อย ครับ
    นี่แหละที่จะทำเราย่อยยับ
  • 8:43 - 8:44
    และสิ่งถัดไปเป็นสิ่งที่สวยงามจริงๆครับ
  • 8:44 - 8:48
    มันเรียกว่า แรงกระตุ้นสมดุล
  • 8:48 - 8:53
    และนี่แหละที่เราจะสามารถดัดเส้นโค้งประวัติศาสตร์
  • 8:53 - 8:54
    ให้ไปจรดอยู่ที่เลขศูนย์
  • 8:54 - 8:57
    แค่ทำในสิ่งที่เรารู้ว่ามันได้ผล
  • 8:57 - 8:59
    ฉะนั้น มันเป็นเรื่องของ ความเฉื่อย สู้กับ แรงกระตุ้น
  • 8:59 - 9:01
    มันมีความเสี่ยงครับ และแน่นอน
  • 9:01 - 9:04
    ยิ่งใกล้จุดหมายเข้าเท่าไร มันยิ่งยากขึ้นเท่านั้น
  • 9:04 - 9:05
    เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งกีดขวาง
  • 9:05 - 9:08
    ในขณะนี้ ในยามยาก
  • 9:08 - 9:13
    ที่จริงแล้ว วันนี้ ในเมืองหลวงของคุณ ในยามยากนี้
  • 9:13 - 9:15
    คนบางคนที่ดูแลกระเป๋าเงินของชาติ
  • 9:15 - 9:18
    อยากที่จะตัดงบโครงการดั่งเช่น the Global Fund
  • 9:18 - 9:19
    แต่คุณสามารถแสดงพลังได้
  • 9:19 - 9:21
    คุณสามารถบอกนักการเมือง
  • 9:21 - 9:24
    ว่าการตัดงบในครั้งนี้ เป็นเหมือนการตัดชีวิต
  • 9:24 - 9:28
    วันนี้ ณ ขณะนี้ใน กรุงออสโลว์
  • 9:28 - 9:30
    บริษัทน้ำมันทั้งหลาย
    กำลังต่อสู้เพื่อที่จะป้องกันความลับจากรัฐบาล
  • 9:30 - 9:32
    เรื่องรายจ่ายของพวกเขา
  • 9:32 - 9:35
    จากการสกัดน้ำมันในประเทศที่กำลังพัฒนา
  • 9:35 - 9:37
    คุณสามารถแสดงพลังได้
  • 9:37 - 9:39
    คุณสามารถร่วมกับโครงการ One Campaign
  • 9:39 - 9:43
    และผู้นำเช่น โม อิบราอิม
    นักลงทุนด้านการสื่อสาร
  • 9:43 - 9:47
    พวกเราพยายามผลักดันกฎหมาย
    ที่จะทำให้แน่ใจได้ว่า อย่างน้อยๆ
  • 9:47 - 9:50
    ขุมทรัพย์ใต้ดินบางส่วน
  • 9:50 - 9:53
    จะไปถึงมือของคนที่อาศัยอยู่บนพื้นที่นั่น
  • 9:53 - 9:57
    และขณะนี้ เรารู้ว่า
  • 9:57 - 10:01
    โรคที่ร้ายแรงมากที่สุด
  • 10:01 - 10:04
    ไม่ใช่เชื้อโรค
    มันคือการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง
  • 10:04 - 10:06
    แต่มันก็มีวัคซีนสำหรับสิ่งนี้เช่นกัน
  • 10:06 - 10:09
    มันเรียกว่า ความโปร่งใส
    การเปิดเผยข้อมูล
  • 10:09 - 10:14
    สิ่งหนี่งที่สังคม TED มีบทบาทอย่างมาก
  • 10:14 - 10:18
    ความโปร่งใส่ คุณจะเรียกก็ได้ว่ามันเป็น แสงตะวัน
  • 10:18 - 10:20
    และเทคโนโลยีก็จะส่งแรงขับเคลื่อนแบบเทอร์โบให้มัน
  • 10:20 - 10:25
    มันยากขึ้นเรื่อยๆที่จะปิดบัง
    ถ้าคุณกำลังทำอะไรแย่ๆ
  • 10:25 - 10:28
    ดังนั้น ให้ผมเล่าให้คุณฟังเกี่ยวกับ ยูรีพอร์ต (U-report)
  • 10:28 - 10:32
    ซึ่งผมตื่นเต้นกับมันจริงๆ
    คนยุคสหัสวรรษ 150,000 คน
  • 10:32 - 10:34
    คนหนุ่มสาว ทั่วทั้ง อูกันดา
  • 10:34 - 10:38
    ติดอาวุธ โทรศัพท์ 2G และ เครือข่าย SMS
  • 10:38 - 10:41
    เผชิญหน้ากับการฉ้อฉลโกงกินของรัฐบาล
  • 10:41 - 10:44
    และเรียกร้องต้องการทราบว่า
    มีโครงการอะไรอยู่ในงบประมาณ
  • 10:44 - 10:47
    และเงินได้ถูกจัดสันไปใช้อย่างไร
  • 10:47 - 10:49
    นี่เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น
  • 10:49 - 10:53
    ดูสิครับ เมื่อคุณมีเครื่องมือเหล่านี้
  • 10:53 - 10:55
    คุณไม่สามารถที่จะไม่ใช้มันได้
  • 10:55 - 10:57
    เมื่อคุณมีความรู้นี้แล้ว คุณไม่สามารถจะทำเป็นไม่รู้มันได้
  • 10:57 - 11:00
    คุณไม่สามารถลบข้อมูลนี้ออกจากสมองคุณได้
  • 11:00 - 11:03
    แต่คุณสามารถลบภาพที่ชินตา
  • 11:03 - 11:05
    ของผู้ที่วิงวอน ผู้ยากไร้อนาถา
  • 11:05 - 11:07
    ที่ไม่สามารถพี่งพายังชีพตัวเองได้
  • 11:07 - 11:10
    คุณสามารถลบล้างสิ่งนั้นได้
    คุณทำได้จริงๆครับ
  • 11:10 - 11:15
    เพราะว่า มันไม่ใช่ความจริงอีกต่อไปแล้ว
    (เสียงปรบมือ)
  • 11:15 - 11:18
    มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้
  • 11:18 - 11:22
    ปี 2030 หรือ
    ภายในปี 2030
  • 11:22 - 11:25
    หุ่นยนต์ จะไม่ได้มาเทเบียร์ให้เรา แต่จะดื่มด้วย
  • 11:25 - 11:27
    เมื่อเราไปถึงจุดนั้น
  • 11:27 - 11:30
    การปกครองที่โดยคร่าวๆแล้วมีลักษณะคล้ายกัน
  • 11:30 - 11:34
    อาจจะกำลังเกิดขึ้นจริงๆในทุกหนทุกแห่ง
  • 11:34 - 11:38
    ดังนั้น ผม และผมก็คาดว่าพวกเรา มาที่นี่
  • 11:38 - 11:43
    เพื่อที่จะพยายามและทำให้คุณติดไวรัสฐานข้อมูลแห่งกุศล
  • 11:43 - 11:46
    ซึ่งมันเป็นตัวที่เราเรียกว่า
    การเคลื่อนไหวด้วยความจริง (factivism)
  • 11:46 - 11:47
    มันไม่ฆ่าคุณหรอกครับ
  • 11:47 - 11:51
    ที่จริงแล้ว มันอาจช่วยชีวิตได้อีกมากมาย
  • 11:51 - 11:54
    ผมว่า พวกเราในโครงการ One Campaign อยากจะให้คุณ
  • 11:54 - 11:59
    แพร่กระจาย ขยายวงกว้าง แบ่งปัน ส่งมันต่อกันไป
  • 11:59 - 12:04
    จากการที่ทำเช่นนี้
    คุณจะได้ร่วมมือกับเราแล้วคนอื่นอีกนับไม่ถ้วน
  • 12:04 - 12:09
    ในสิ่งที่ผมเชื่ออย่างสุดหัวใจว่า
    มันเป็นการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
  • 12:09 - 12:13
    การเดินทางของความต้องการที่ไม่เคยหมด
    เพื่อความเท่าเทียม
  • 12:13 - 12:17
    เราจะเป็นคนในยุคแห่งความเป็นเลิศ
    ที่เมนเดลาขอร้องให้เราเป็นได้จริงหรือ
  • 12:17 - 12:19
    จะเป็นไปได้ไหม ด้วยวิทยาศาสตร์
  • 12:19 - 12:23
    ที่เราจะขานตอบเสียงเรียกร้อง
  • 12:23 - 12:25
    ด้วยเหตุผล ด้วยความจริง
  • 12:25 - 12:29
    และ ผมกล้าที่จะพูดอีกสิ่งหนึ่งก็คือ อารมณ์ความรู้สึก
  • 12:29 - 12:35
    เพราะมันเห็นได้ชัดเจน ว่านักเคลื่อนไหวด้วยความจริง นั้น
    ก็มีความรู้สึกเช่นกัน
  • 12:35 - 12:38
    ผมนึกถึง เวล โกห์นิม (Wael Ghonim) ขึ้นมา
  • 12:38 - 12:40
    คุณบางคนอาจรู้จักเขา
    เขาสร้างกลุ่มในเฟสบุ๊คขึ้นมา
  • 12:40 - 12:44
    หลังจากเหตุการณ์ที่ จัตุรัส ทาเรียร์
    ในไคโรห์
  • 12:44 - 12:46
    เขาโดนจับโยนเข้าคุกเพราะเรื่องนี้
  • 12:46 - 12:51
    แต่คำพูดของเขาสักติดอยู่ในสมองผม
  • 12:51 - 12:55
    "เรากำลังจะชนะ เพราะว่าเราไม่เข้าใจการเมือง
  • 12:55 - 12:58
    เรากำลังจะชนะ เพราะว่าเราไม่ได้เล่นสาดโคลน
  • 12:58 - 13:01
    เรากำลังจะชนะ เพราะว่าเราไม่มีนัยทางการเมือง
  • 13:01 - 13:03
    เรากำลังจะชนะ เพราะว่าน้ำตา
  • 13:03 - 13:07
    ที่เอ่อล้นออกมาจากตาของพวกเรานั้น ที่จริงแล้ว
    มาจากหัวใจของเราเอง
  • 13:07 - 13:09
    พวกเรากำลังที่จะชนะ เพราะว่าพวกเรามีความฝัน
  • 13:09 - 13:13
    และพวกเราเต็มใจที่จะยืนหยัดขึ้นเพื่อฝันเหล่านั้น
  • 13:13 - 13:15
    เวล พูดถูก
  • 13:15 - 13:17
    เรากำลังจะชนะ
  • 13:17 - 13:19
    ถ้าเราร่วมมือกันเป็นหนึ่ง
  • 13:19 - 13:22
    เพราะว่าพลังจากมวลชนที่รวมพลังกันนั้น
  • 13:22 - 13:26
    ทรงอนุภาพมากกว่าบุคคลที่ถูกครอบงำภายใต้พลังอำนาจ
  • 13:26 - 13:29
    ขอบคุณครับ
  • 13:29 - 13:32
    (เสียงปรบมือ)
  • 13:32 - 13:36
    ขอบคุณมากๆครับ
Title:
โบโน่ (Bono): ข่าวดีเกี่ยวกับความยากจน (ใช่แล้ว ข่าวดีจริงๆ)
Speaker:
Bono
Description:

มนุษยชาติได้รณรงค์ต่อต้านความไม่เสมอภาคและความยากจนมากว่า 3,000 ปี แต่ว่าการเดินทางนี้ได้เร่งความเร็วขึ้นไปสู้เส้นชัย โบโน่ (นักร้องวง U2) ได้ "โอบกอดความเป็นเนิร์ดจากภายใน" และแบ่งปันข้อมูลที่เป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจุดจบของความแร้นแค้นนั้นอยู่ห่างไปอีกไม่ไกล ถ้าเราสามารถควบคุมแรงอัตราสมดุลแบบนี้ต่อไปได้

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
13:57

Thai subtitles

Revisions Compare revisions