วิธีการที่เราจะทวงคืนอินเทอร์เน็ต
-
0:01 - 0:03คริส แอนเดอร์สัน: สิทธิของพลเมือง
-
0:03 - 0:05อนาคตของอินเทอร์เน็ต
-
0:05 - 0:09ผมขอต้อนรับสู่เวที TED
-
0:09 - 0:11ชายผู้อยู่เบื้องหลังการเปิดโปงข้อมูลทั้งหลาย
-
0:11 - 0:14เอ็ด สโนว์เดน
-
0:14 - 0:17(เสียงปรบมือ)
-
0:17 - 0:22เอ็ดอยู่ในที่ไกลปืนเที่ยงสักแห่งในรัสเซีย
-
0:22 - 0:24กำลังควบคุมหุ่นตัวนี้จากแล็ปท็อปของเขา
-
0:24 - 0:28ฉะนั้นเขาเห็นสิ่งที่หุ่นตัวนี้เห็น
-
0:28 - 0:30เอ็ด ยินดีต้อนรับสู่เวที TED ครับ
-
0:30 - 0:34คุณเห็นอะไรบ้างครับ บอกเราหน่อย
-
0:34 - 0:36เอ็ดเวอร์ด สโนว์เดน: ฮ่า ผมเห็นทุกคนเลย
-
0:36 - 0:38ยอดเลยครับ
-
0:38 - 0:41(เสียงหัวเราะ)
-
0:41 - 0:44คริส: เอ็ด มีคำถามสำหรับคุณครับ
-
0:44 - 0:46คุณถูกเรียกไปต่างๆ นานา
-
0:46 - 0:47ในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
-
0:47 - 0:52คุณถูกเรียกว่า ผู้เปิดเผยข้อมูล กบฏ
-
0:52 - 0:54วีรชน
-
0:54 - 0:58คำไหนที่คุณใช้นิยามตัวคุณเองครับ
-
0:58 - 1:00เอ็ด: คือแบบว่า ใครก็ตาม
-
1:00 - 1:02ที่เข้ามามีส่วนกับการอภิปรายนี้
-
1:02 - 1:05ก็ต่างครุ่นคิด
เรื่องตัวตนของผม บุคลิกภาพของผม -
1:05 - 1:08และการที่จะอธิบายตัวตนของผม
-
1:08 - 1:09แต่เมื่อผมคิดถึงมันแล้ว
-
1:09 - 1:13มันไม่ใช่ปัญหาที่เราจะต้องมากลัดกลุ้มอะไร
-
1:13 - 1:16การที่ผมเป็นใครนั้นมันไม่สำคัญเลยครับ
-
1:16 - 1:19ถ้าผมเป็นคนที่แย่ที่สุดในโลก
-
1:19 - 1:21คุณก็เกลียดผมซะแล้วก็จบกันไป
-
1:21 - 1:23ที่มันสำคัญจริงๆ ก็คือประเด็นปัญหา
-
1:23 - 1:26ที่สำคัญจริงๆ คือว่ารัฐบาลแบบไหนที่เราต้องการ
-
1:26 - 1:28อินเทอร์เน็ตแบบไหนที่เราต้องการ
-
1:28 - 1:30ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและสังคม
-
1:30 - 1:31แบบไหน
-
1:31 - 1:35และผมก็หวังว่าการอภิปรายจะพาไปสู่สิ่งเหล่านั้น
-
1:35 - 1:37และเราก็ได้เห็นมันเพิ่มมากขึ้นตามเวลาที่ดำเนินไป
-
1:37 - 1:39ถ้าผมจะต้องให้นิยามตัวเอง
-
1:39 - 1:40ผมคงจะไม่ใช้คำ อย่างคำว่า " วีรชน"
-
1:40 - 1:43ผมคงจะไม่ใช้ "ผู้รักชาติ" และคงจะไม่ใช้ "กบฎ"
-
1:43 - 1:45ผมคงจะบอกว่า ผมเป็นคนอเมริกัน
และผมก็เป็นพลเมือง -
1:45 - 1:48เหมือนกับที่ทุกๆ คนเป็น
-
1:48 - 1:50คริส: เพื่อที่จะให้ข้อมูลสักนิด
-
1:50 - 1:52สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด --
-
1:52 - 1:55(เสียงปรบมือ) ---
-
1:55 - 2:00ณ เวลานี้เมื่อปีก่อน คุณประจำการอยู่ที่ฮาวาย
-
2:00 - 2:02ทำงานในฐานะเป็นที่ปรึกษาของ
สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) -
2:02 - 2:04ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลระบบ คุณสามารถ
-
2:04 - 2:07ที่จะเข้าถึงระบบของพวกเขาได้
-
2:07 - 2:11และคุณเริ่มที่จะเปิดเผยเอกสารลับบางชิ้น
-
2:11 - 2:14ให้กับนักข่าวที่คัดสรรค์มาแล้วเป็นอย่างดี
-
2:14 - 2:16ซึ่งมันก็นำไปสู่การเปิดโปงในเดือนมิถุนายน
-
2:16 - 2:21ทีนี้ อะไรกันครับที่ชักนำให้คุณทำอย่างนี้
-
2:21 - 2:24เอ็ด: คือว่า
-
2:24 - 2:26เมื่อผมนั่งอยู่ในฮาวาย
-
2:26 - 2:29และปีนึงก่อนหน้านั้น
เมื่อผมกำลังทำงานในสำนักข่าวกรอง -
2:29 - 2:33ผมได้เห็นอะไรหลายอย่างที่กวนใจผม
-
2:33 - 2:36เราทำเรื่องดีๆ เยอะครับ ในหน่วยข่าวกรอง
-
2:36 - 2:37สิ่งที่จำเป็นจะต้องทำ
-
2:37 - 2:40และสิ่งที่ให้ความช่วยเหลือกับทุกคน
-
2:40 - 2:42แต่มันก็มีหลายอย่างที่ล้ำเส้น
-
2:42 - 2:43มีหลายอย่างที่ไม่ควรจะทำ
-
2:43 - 2:46และการตัดสินใจที่ทำกันเป็นความลับ
-
2:46 - 2:47โดยปราศจากการรับรู้ของประชาชน
-
2:47 - 2:50โดยปราศจากความยินยอมจากมหาชน
-
2:50 - 2:53และไม่มีแม้กระทั่งตัวแทนของเราจากรัฐบาล
-
2:53 - 2:56ที่ล่วงรู้ถึงโครงการเหล่านี้
-
2:56 - 3:01เมื่อผมได้มาเข้ามาพัวพันเข้ากับประเด็นเหล่านี้จริงๆ
-
3:01 - 3:02ผมคิดกับตัวเองว่า
-
3:02 - 3:06ผมจะทำอย่างไรในแบบที่รับผิดชอบที่สุด
-
3:06 - 3:09ที่จะทำให้เกิดประโยชน์ให้กับส่วนรวมมากที่สุด
-
3:09 - 3:11ในขณะที่เกิดความเสี่ยงน้อยที่สุด
-
3:11 - 3:14และจากผลลัพธ์ทั้งหมดที่ผมสามารถจะคิดออก
-
3:14 - 3:17โดยไม่ไปรัฐสภา
-
3:17 - 3:18เมื่อมันไม่มีกฎหมาย
-
3:18 - 3:20มันก็ไม่มีการคุ้มครองทางกฎหมาย
-
3:20 - 3:21สำหรับผู้ถูกว่าจ้างในภาคเอกชน
-
3:21 - 3:25ดั่งเช่น ผู้รับจ้างในหน่วยข่าวกรองอย่างผม
-
3:25 - 3:28มันมีความเสี่ยงที่ผมจะถูกฝังไปพร้อมกับข้อมูล
-
3:28 - 3:30และประชาชนโดยทั่วไปอาจไม่ได้ล่วงรู้เลย
-
3:30 - 3:33แต่การแก้ไขรัฐธรรมนุญเพิ่มเติมครั้งที่หนึ่ง
แห่งสหรัฐอเมริกา -
3:33 - 3:37ได้ให้คำมั่นกับเราในเรื่องอิสรภาพของสื่อ
อย่างมีเหตุผล -
3:37 - 3:40และนั่นก็เพื่อทำให้มีสื่อที่อยู่ตรงข้ามฝ่ายรัฐบาล
-
3:40 - 3:42เพื่อที่จะเรียกร้องคัดค้านรัฐบาล
-
3:42 - 3:45และก็เพื่อทำงานร่วมกันกับรัฐบาลเข่นกัน
-
3:45 - 3:47เพื่อที่จะมีการสนทนาและอภิปรายเกี่ยวกับว่า
-
3:47 - 3:52เราจะรายงานประชาชนเกี่ยวกับสิ่งที่สำคัญยิ่งอย่างไร
-
3:52 - 3:55โดยไม่ทำให้ความมั่นคงของชาติ
ตกอยู่ในความเสี่ยง -
3:55 - 3:57และด้วยการทำงานกับนักข่าว
-
3:57 - 3:59โดยการให้ข้อมูลทั้งหมดที่ผมมี
-
3:59 - 4:02กลับไปยังชาวอเมริกัน
-
4:02 - 4:03แทนที่จะเชื่อใจตัวผมเอง
-
4:03 - 4:06ให้ตัดสินใจเกี่ยวกับสิ่งที่จะตีพิมพ์
-
4:06 - 4:08เราได้อภิปรายถกเถียงอย่างเข้มข้น
-
4:08 - 4:12โดยตระหนักถึงการลงทุนอย่างยั่งยืนของรัฐบาล
-
4:12 - 4:17ที่ผมคิดว่าจะให้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์กับทุกคน
-
4:17 - 4:20และความเสี่ยงต่างๆ ที่เป็นที่ขู่ขวัญ
-
4:20 - 4:23ความเสี่ยงต่างๆ ที่ถูกนำขึ้นมาเชิด
-
4:23 - 4:24โดยรัฐบาล
-
4:24 - 4:26ไม่ได้เคยเกินขึ้นจริงตามที่มีการคาดไว้เลย
-
4:26 - 4:28เราไม่เคยเห็นแม้แต่หลักฐานใด
-
4:28 - 4:31จากกรณีตัวอย่างที่ก่อผลร้าย
-
4:31 - 4:33และเพราะเช่นนั้น
-
4:33 - 4:35ผมรู้สึกสบายใจกับการตัดสินใจที่ผมได้ทำลงไป
-
4:35 - 4:37คริส: ผมขออนุญาตแสดงให้ผู้ชม
-
4:37 - 4:39ได้เห็นถึงตัวอย่างสองสามชิ้น
ที่คุณได้ทำการเปิดเผยนะครับ -
4:39 - 4:41ถ้าเราจะเอาสไลด์ขึ้น และเอ็ด
-
4:41 - 4:43ผมไม่รู้ว่าคุณเห็นหรือเปล่า
-
4:43 - 4:44แต่สไลด์อยู่ตรงนี้
-
4:44 - 4:47มันเป็นสไลด์เกี่ยวกับโครงการ PRISM
-
4:47 - 4:49และบางทีคุณอาจบอกกับผู้ชมได้
-
4:49 - 4:52ว่ามันเปิดเผยเกี่ยวกับอะไรครับ
-
4:52 - 4:54เอ็ด: วิธีที่ดีที่สุดในการเข้าใจ PRISM
-
4:54 - 4:56เพราะว่ามันเป็นที่โต้แย้งกันนิดหน่อย
-
4:56 - 4:59ก็คือการพูดว่าในสิ่งที่ไม่ใช่ PRISM
-
4:59 - 5:02การถกเถียงส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ เป็นเรื่องนิยามข้อมูล
-
5:02 - 5:05พวกเขาบอกว่ามันเป็นแค่นิยามข้อมูล
เป็นแค่นั้น -
5:05 - 5:08และพวกเขาก็พูดเกี่ยวกับอำนาจพิเศษทางกฎหมาย
-
5:08 - 5:10ที่เรียกว่า มาตรา 215 แห่งรัฐบัญญัติความรักปิตุภูมิ
(Section 215 of the Patriot Act) -
5:10 - 5:13ที่อนุญาตกลายๆ ให้กับการดักฟังแบบไร้การรับรอง
-
5:13 - 5:16การสอดส่องหมู่ผ่านการบันทึกทางโทรศัพท์
-
5:16 - 5:18ทั่วทั้งประเทศ อะไรแบบนั้น
-
5:18 - 5:19ใครที่คุณกำลังคุยด้วย
-
5:19 - 5:21เมื่อไหน่คุณกำลังพูดกับพวกเขา
-
5:21 - 5:23ที่ไหนที่คุณเดินทางไป
-
5:23 - 5:25เหล่านี้คือเหตุการณ์ที่เป็นนิยามข้อมูล
-
5:25 - 5:29PRISM นั่นเกี่ยวกับเนื้อหา
-
5:29 - 5:31มันเป็นโครงการที่ผ่านออกซึ่งรัฐบาลสามารถ
-
5:31 - 5:33กำกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกา
-
5:33 - 5:36มันสามารถทำให้บริษัทของอเมริกาเป็นตัวแทน
-
5:36 - 5:40ในการทำงานสกปรกให้กับ NSA
-
5:40 - 5:43และถึงแม้ว่าบางบริษัทจะต่อต้าน
-
5:43 - 5:44แม้ว่าบางบริษัท --
-
5:44 - 5:46ผมเชื่อว่ายาฮู (Yahoo) เป็นหนึ่งในนั้น --
-
5:46 - 5:48ทำการฟ้องร้องในชั้นศาล พวกเขาแพ้หมด
-
5:48 - 5:51เพราะมันไม่ได้มีขึ้นในศาลปกติ
-
5:51 - 5:54แต่มีขึ้นแต่ในศาลลับ
-
5:54 - 5:56และบางอย่างที่เราได้เห็น
-
5:56 - 5:58บางอย่างเกี่ยวกับโครงการ PRISM ที่ผมตระหนักมาก
-
5:58 - 6:00ก็คือ มันมีการพูดถึงจุดที่รัฐบาลสหรัฐฯ
-
6:00 - 6:04บอกว่าพวกเขาให้ผู้พิพากษา
-
6:04 - 6:07ตรวจโครงการเหล่านี้ และพบว่าพวกมันถูกกฎหมาย
-
6:07 - 6:10แต่ที่เขาไม่ได้บอกคุณ
-
6:10 - 6:12คือผู้พิพาษาเหล่านี้
-
6:12 - 6:14เป็นผู้พิพากษาในศาลลับ
-
6:14 - 6:17ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานการตีความกฎหมายแบบลับ
-
6:17 - 6:22ที่ได้พิจารณาคำขอการรับรอง 34,000 คำร้อง
-
6:22 - 6:24ตลอด 33 ปี
-
6:24 - 6:26และใน 33 ปีนี้ ได้ทำการปฏิเสธ
-
6:26 - 6:29คำร้องของรัฐบาลเพียง 11 คำร้อง
-
6:29 - 6:32นี่ไม่ใช่คนที่เราต้องการให้ตัดสินใจ
-
6:32 - 6:34ว่าบทบาทของบริษัทใหญ่ๆ ในอเมริกา
-
6:34 - 6:36ต่ออินเทอร์เน็ตที่ฟรีและเปิดกว้างควรเป็นอย่างไร
-
6:36 - 6:39คริส: ทีนี้ สไลด์ที่เราแสดงอยู่ในตอนนี้
-
6:39 - 6:41เป็นวันที่ซึ่ง
-
6:41 - 6:43บริษัทเทคโนโลยี บริษัทอินเทอร์เน็ตต่างๆ
-
6:43 - 6:45ต่างเรียงกันเข้ามาร่วมโครงการ
-
6:45 - 6:48และจุดที่เริ่มมีการเก็บข้อมูลจากพวกเขา
-
6:48 - 6:53เอาละ พวกเขาได้ปฏิเสธ
ในเรื่องการให้ความร่วมมือกับ NSA -
6:53 - 6:58แล้ว NSA เก็บข้อมูลไปได้อย่างไรครับ
-
6:58 - 7:01เอ็ด: ครับ สไลด์ของ NSA
-
7:01 - 7:04อ้างอิงว่ามันเป็นการเข้าถึงโดยตรง
-
7:04 - 7:07ความหมายของมันต่อนักวิเคราะห์ของ NSA ก็คือ
-
7:07 - 7:10ใครบางคนอย่างผมที่ทำงาน
ในฐานะนักวิเคราะห์ข่าวกรอง -
7:10 - 7:13คนหาเป้า
นักฉกข้อมูลไซเบอร์ชาวจีน -
7:13 - 7:15อะไรแบบนั้น ในฮาวาย
-
7:15 - 7:17คือต้นตอของข้อมูล
-
7:17 - 7:19คือมันเข้ามาโดยตรงจากเซิฟเวอร์ของพวกเขา
-
7:19 - 7:21มันไม่ได้หมายความว่า
-
7:21 - 7:24มีกลุ่มตัวแทนบริษัท
-
7:24 - 7:26นั่นอยู่กับ NSA ในห้องควันโขมง
-
7:26 - 7:28ทำความรู้จักกันแล้วก็ไปตกลงอะไรกันหลังห้อง
-
7:28 - 7:31เกี่ยวกับเรื่องที่ว่า
พวกเขากำลังจะให้ข้อมูลเหล่านี้อย่างไร -
7:31 - 7:33ทีนี้ แต่ละบริษัทก็จัดการเรื่องนี้ต่างกันไป
-
7:33 - 7:34บ้างก็มีความรับผิดชอบ
-
7:34 - 7:36บ้างก็แบบว่ามีความรับผิดชอบน้อยกว่า
-
7:36 - 7:38แต่ที่สำคัญก็คือ เมื่อเราพูดถึงว่า
-
7:38 - 7:41ข้อมูลถูกแจกจ่ายออกไปได้อย่างไร
-
7:41 - 7:44มันมาจากตัวบริษัทเอง
-
7:44 - 7:46มันไม่ได้ถูกขโมยมาจากทางสาย
-
7:46 - 7:48แต่มีสิ่งสำคัญหนึ่งที่ควรจดจำไว้ :
-
7:48 - 7:50ถึงแม้ว่าบริษัทจะปฏิเสธ
-
7:50 - 7:52ถึงแม้ว่าบริษัทจะต้องการ
-
7:52 - 7:55เฮ้ย มาทำสิ่งนี้ผ่านกระบวนการรับรองดีกว่า
-
7:55 - 7:56ลงมือเลย
-
7:56 - 8:00ในตอนที่เรามีการตรวจทางกฎหมายอะไรแบบนั้น
-
8:00 - 8:01อะไรที่เป็นพื้นฐานในการส่งผ่าน
-
8:01 - 8:03ข้อมูลของผู้ใช้เหล่านี้
-
8:03 - 8:06เราเห็นเรื่องราวในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสปีที่แล้ว
-
8:06 - 8:09ที่รายงานไม่ได้ดีไปกว่าเรื่องราวของ PRISM
-
8:09 - 8:11ที่บอกว่า NSA เจาะเข้าไป
-
8:11 - 8:13ถึงศูนย์ข้อมูลการสื่อสาร
-
8:13 - 8:15ระหว่างกูเกิลกับเขา
-
8:15 - 8:17และยาฮูกับเขา
-
8:17 - 8:20ดังนั้น ถึงแม้ว่าบริษัทเหล่านี้ให้ความร่วมมือ
-
8:20 - 8:23อย่างน้อยก็เพราะความจำใจ
แต่หวังว่าจะถูกต้องตามกฎหมาย -
8:23 - 8:25กับทาง NSA
-
8:25 - 8:28NSA ไม่ได้พอใจกับสิ่งนั้น
-
8:28 - 8:30และด้วยเหตุนี้ เราต้องการให้บริษัทเหล่านี้ของเรา
-
8:30 - 8:33ทำงานให้หนัก
-
8:33 - 8:35เพื่อที่จะให้คำมั่นว่า พวกเขาจะแสดง
-
8:35 - 8:38ความต้องการของผู้ใช้ และจะสนับสนุน
-
8:38 - 8:40สิทธิของผู้ใช้ด้วย
-
8:40 - 8:41ผมคิดมาตลอดปีที่ผ่านมา
-
8:41 - 8:43คุณได้เห็นบริษัทต่างๆ ที่ถูกเอ่ยนามขึ้น
-
8:43 - 8:44ในสไลด์ของ PRISM
-
8:44 - 8:46ได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการทำสิ่งนั้น
-
8:46 - 8:48และผมก็สนับสนุนให้พวกเขาทำต่อไป
-
8:48 - 8:51คริส: พวกเขาควรทำอะไรอีกครับ
-
8:51 - 8:54เอ็ด: สิ่งที่ใหญ่ที่สุดที่บริษัทอินเทอร์เน็ต
-
8:54 - 8:57ในอเมริกาสามารถทำได้ในปัจจุบันนี้ และตอนนี้
-
8:57 - 8:59โดยไม่ต้องไปปรึกษานักกฎหมาย
-
8:59 - 9:02เพื่อที่จะปกป้องสิทธิของผู้ใช้ทั่วโลก
-
9:02 - 9:08ก็คือการอนุญาตให้มีการเข้ารหัสลับสำหรับเว็บ SSL
(SSL web encryption) -
9:08 - 9:10บนทุกเพจที่คุณเยี่ยมชม
-
9:10 - 9:13เหตุผลที่มันสำคัญก็เพราะวันนี้
-
9:13 - 9:18ถ้าคุณไปลองดูที่ [หนังสือ] "1984" บน
แอมะซอน ดอทคอม (Amazon.com) -
9:18 - 9:20NSA สามารถเห็นบันทึกนั้นได้
-
9:20 - 9:23หน่วยข่าวกรองรัสเซียสามารถเห็นบันทึกนั้นได้
-
9:23 - 9:25หน่วยของประเทศจีนก็สามารถดูบันทึกนั้นได้
-
9:25 - 9:27หน่วยของฝรั่งเศส หน่วยของเยอรมัน
-
9:27 - 9:28หน่วยของอันดอร์ร่า
-
9:28 - 9:32พวกเขาสามารถเห็นมันได้เพราะมันไม่ได้ถูกเข้ารหัสลับ
-
9:32 - 9:35ห้องสมุดโลกคือ แอมะซอน ดอทคอม
-
9:35 - 9:38แต่ไม่ใช่ว่ามันแค่ไม่สนับสนุนการเข้ารหัสลับโดยอัตโนมัติ
-
9:38 - 9:40คุณไม่สามาระเลือกใช้การเข้ารหัสลับ
-
9:40 - 9:42เมื่อทำการเลือกดูหนังสือได้
-
9:42 - 9:43นี่เป็นอะไรบางอย่างที่เราต้องการเปลี่ยนแปลง
-
9:43 - 9:45ไม่ใช่แค่ แอมาซอน ผมไม่ได้อยากจะจับผิดเขาเจ้าเดียว
-
9:45 - 9:47แต่นั่นเป็นตัวอย่างที่ดี
-
9:47 - 9:48บริษัทต่างๆ ต้องเปลี่ยนไปสู่
-
9:48 - 9:52การเข้ารหัสลับสำหรับการเลือกชมโดยอัตโนมัติ
-
9:52 - 9:54สำหรับผู้ใช้ทุกคนผู้ซึ่งไม่ได้ทำอะไร
-
9:54 - 9:57หรือไม่ได้เลือกวิธีการพิเศษอะไรสำหรับพวกเขาเอง
-
9:57 - 9:59นั่นจะเพิ่มความเป็นส่วนตัวและสิทธิ
-
9:59 - 10:02ที่ผู้คนจะได้ประโยชน์กันทั่วโลก
-
10:02 - 10:04คริส: เอ็ด มาทางนี้กับผมหน่อยครับ
-
10:04 - 10:07ผมอยากจะให้คุณดูสไลด์ถัดไปครับ (เสียงปรบมือ)
-
10:07 - 10:10นี่คือโครงการที่มีชื่อว่า
บาวเลส อินฟอร์แมนท์ (Boundless Informant) -
10:10 - 10:12มันคืออะไรครับ
-
10:12 - 10:14เอ็ด: ครับ ผมต้องยกความดีความชอบให้กับทาง NSA
-
10:14 - 10:16ที่ใช้ชื่อที่เหมาะสมเช่นนี้
-
10:16 - 10:20นี่เป็นหนึ่งในนามแฝงของ NSA ที่ผมชื่นชอบ
-
10:20 - 10:21บาวเลส อินฟอร์แมนท์
-
10:21 - 10:24คือโครงการที่ NSA ซ่อนจากรัฐสภา
-
10:24 - 10:27NSA ได้ถามไปยังรัฐสภาก่อนหน้านี้
-
10:27 - 10:29ว่าพวกเขามีความสามารถอันใด
-
10:29 - 10:33ที่จะไปให้ข้อมูลหยาบๆ คร่าวๆ
-
10:33 - 10:35เกี่ยวกับการสื่อสารของชาวอเมริกัน
-
10:35 - 10:37ที่ถูกแอบดักฟังได้
-
10:37 - 10:40พวกเขาตอบปฏิเสธ พวกเขาบอกว่า
เราไม่ได้ติดตามสถิติเหล่านั้น -
10:40 - 10:42และเราก็ติดตามสถิติเหล่านั้นไม่ได้
-
10:42 - 10:45พวกเราบอกคุณไม่ได้ว่ามีการสื่อสารเท่าใด
-
10:45 - 10:46ที่พวกเราทำการดักฟังไปทั่วโลก
-
10:46 - 10:48เพราะการที่เราบอกคุณเช่นนั้น
-
10:48 - 10:51จะเป็นการลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของคุณ
-
10:51 - 10:53ทีนี้ ผมรู้สึกชื่นชมทัศนคตินั้นจากพวกเขาจริงๆ ครับ
-
10:53 - 10:55แต่ในความเป็นจริง เมื่อคุณดูสไลด์นี้
-
10:55 - 10:57พวกเขาไม่ได้แค่มีศักยภาพ
-
10:57 - 11:00ศักยภาพนั้นมันมีอยู่แล้ว
-
11:00 - 11:01มันเหมาะเจาะลงตัวแล้ว
-
11:01 - 11:03NSA มีรูปแบบข้อมูลภายในของเขาเอง
-
11:03 - 11:09ที่ติดตามทั้งสองปลายทางของการสื่อสาร
-
11:09 - 11:10และถ้ามันบอกว่า
-
11:10 - 11:12การสื่อสารนี้มาจากอเมริกา
-
11:12 - 11:14พวกเขาจะบอกรัฐสภาว่ามีการสื่อสารเท่าไร
-
11:14 - 11:17ที่พวกเขามีในวันนี้ ตอนนี้
-
11:17 - 11:20แต่ที่บอนเลส อินฟอร์เมนท์บอกเรา
-
11:20 - 11:22คือมีการสื่อสารมากกว่านั้นที่ถูกดักฟัง
-
11:22 - 11:25ในอเมริกา เกี่ยวกับชาวอเมริกัน
-
11:25 - 11:29ซึ่งมากกว่าในรัสเซีย ที่เกี่ยวกับคนรัสเซีย
-
11:29 - 11:31ผมไม่แน่ใจว่าหน่วยข่าวกรอง
-
11:31 - 11:33ควรที่จะพุ่งเป้าไปที่อะไร
-
11:33 - 11:35คริส: มีข่าวออกมาจากหนังสือพิมพ์วอร์ชิงตันโพส
-
11:35 - 11:37และมันก็มาจากข้อมูลของคุณอีกแล้ว
-
11:37 - 11:39พาดหัวบอกว่า
-
11:39 - 11:40"NSA ทำผิดกฎหมายความเป็นส่วนตัว
-
11:40 - 11:42เป็นพันๆ ครั้งต่อปี"
-
11:42 - 11:44เล่าให้เราฟังหน่อยครับ
-
11:44 - 11:46เอ็ด: เรายังได้ยินอีกจากการเปิดเผยของสภานิติบัญญัติ
เมื่อปีก่อน -
11:46 - 11:48มันน่าทึ่งครับสำหรับผม
-
11:48 - 11:50ผู้ซึ่งมาจาก NSA
-
11:50 - 11:53และเป็นผู้ที่ได้เห็นเอกสารภายในแบบจริงๆ
-
11:53 - 11:55รู้ว่าในนั้นมีอะไร
-
11:55 - 11:58การที่ได้เห็นการให้การอย่างเป็นทางการ
โดยมีคำสาบานกำกั -
11:58 - 12:00ว่ามันไม่เคยมีการข่มขู่
-
12:00 - 12:03ว่ามันไม่เคยมีการกระทำการฝ่าฝืนใดในกฎของ NSA
-
12:03 - 12:06เมื่อเรารู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้น
-
12:06 - 12:08แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ สำหรับเรื่องนี้
-
12:08 - 12:10เกี่ยวกับความจริงที่ NSA ทำการฝ่าฝืน
-
12:10 - 12:13กฎของตัวเอง กติกาของตัวเอง
-
12:13 - 12:15เป็นพันๆ ครั้งในปีเดียว
-
12:15 - 12:18รวมทั้งในกรณีหนึ่งที่ทำโดยตัวองค์กรเอง
-
12:18 - 12:23หนึ่งใน 2,776 กรณี
-
12:23 - 12:25ที่ส่งผลกระทบต่อคนกว่า 3,000 คน
-
12:25 - 12:27ในอีกกรณีหนึ่ง พวกเขาดักฟัง
-
12:27 - 12:32การสนทนาทางโทรศัพท์ทั้งหมดในวอชิงตัน ดี ซี
โดยไม่ได้ตั้งใจ -
12:32 - 12:34ที่น่าทึ่งสำหรับกรณีนี้
-
12:34 - 12:36คือการรายงานที่ไม่ได้รับความสนใจมากมาย
-
12:36 - 12:41ซึ่งความจริงก็มีอยู่ว่า ไม่ใช่แค่มีผู้เสียหาย 2,776 ราย
-
12:41 - 12:43ประธานแห่งคณะกรรมการสภาหน่วยข่าวกรอง
(Senate Intelligence Committee) -
12:43 - 12:47ไดแอน ไฟน์สไตน์ ไม่ได้เห็นรายงานนี้
-
12:47 - 12:50จนกระทั่งหนังสือพิมพ์วอชิงตันติดต่อเธอ
-
12:50 - 12:53แล้วขอความเห็นที่มีต่อรายงานนั้น
-
12:53 - 12:54จากนั้นเธอจึงขอสำเนาจากทาง NSA
-
12:54 - 12:56และได้รับมัน
-
12:56 - 12:58แต่ไม่เคยเห็นมันเลยก่อนหน้านี้
-
12:58 - 13:01นั่นมันบ่งบอกอะไรบ้างถึงความผิดพลาดเพราะละเลย
-
13:01 - 13:03ในหน่วยข่าวกรองของสหรัฐ
-
13:03 - 13:04เมื่อประธานของคณะกรรมการสภาหน่วยข่าวกรอง
-
13:04 - 13:07ไม่รู้เรื่องว่ากฎกำลังถูกทำลาย
-
13:07 - 13:09เป็นพันๆ ครั้งต่อปี
-
13:09 - 13:13คริส: เอ็ด คำถามหนึ่งต่อการโต้แย้งถกเถียงทั้งหมดนี้
ซึ่งมันก็คือ -
13:13 - 13:16ทำไมเราต้องสนใจ
-
13:16 - 13:17เกี่ยวกับการควบคุมรักษาความปลอดภัยทั้งหมดนี้ด้วย
ถามจริงๆ -
13:17 - 13:19ผมหมายความว่า ถ้าคุณไม่ได้ทำอะไรผิด
-
13:19 - 13:22คุณก็ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล
-
13:22 - 13:24ความเห็นนั้นมันมีอะไรที่ผิดหรือครับ
-
13:24 - 13:26เอ็ด: ครับ อย่างแรกเลยก็คือ
-
13:26 - 13:28คุณยอมสละสิทธิของคุณ
-
13:28 - 13:29คุณบอกว่า เฮ้ย
-
13:29 - 13:31ฉันไม่คิดว่าต้องการมัน
-
13:31 - 13:33ฉะนั้น ฉันก็จะเชื่อใจเขา แบบนั้น
-
13:33 - 13:36เอามันออกไป มันก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร
-
13:36 - 13:38คนพวกนี้ทำอะไรถูกต้องเหมาะสมอยู่แล้ว
-
13:38 - 13:40สิทธิของคุณนั้นมีค่า
-
13:40 - 13:43เพราะคุณมิอาจรู้ได้เลยว่าเมื่อใดที่คุณจะต้องการมัน
-
13:43 - 13:45ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นส่วนหนึ่ง
ของเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเรา -
13:45 - 13:47ไม่ใช่แค่ในอเมริกา
-
13:47 - 13:49แต่ในสังคมตะวันตก
-
13:49 - 13:52และในสังคมประชาธิปไตยทั่วโลก
-
13:52 - 13:54ผู้คนควรที่จะสามารถยกโทรศัพท์
-
13:54 - 13:56และโทรหาครอบครัวของพวกเขา
-
13:56 - 13:58ผู้คนควรที่จะสามารถส่งข้อความ
-
13:58 - 13:59ไปยังคนที่พวกเขารัก
-
13:59 - 14:01ผู้คนควรที่จะสามารถซื้อหนังสือออนไลน์
-
14:01 - 14:03พวกเขาควรที่จะสามารถเดินทางโดยรถไฟ
-
14:03 - 14:05พวกเขาควรที่จะสามารถซื้อตั๋วเครื่องบิน
-
14:05 - 14:07โดยไม่ต้องมาฉงนสงสัยว่าเหตุการณ์เหล่านี้
-
14:07 - 14:11กำลังถูกจับตาอย่างไรโดยหน่วยงานจากรัฐบาล
-
14:11 - 14:13บางทีอาจไม่ใช่รัฐบาลในอนาคต
-
14:13 - 14:15ของคุณด้วยซ้ำ
-
14:15 - 14:17พวกมันจะถูกตีความผิดๆ อย่างไรบ้าง
-
14:17 - 14:19และพวกเขาจะคิดว่าเจตนาของคุณคืออะไร
-
14:19 - 14:22เรามีสิทธิในความเป็นส่วนตัว
-
14:22 - 14:25เราต้องการสิ่งที่รับรอง
เพื่อเป็นการยืนยันเหตุผลอันสมควร -
14:25 - 14:28หรืออะไรบางอย่างที่เป็นความคลางแคลงใจส่วนบุคคล
-
14:28 - 14:32เพราะว่าเรารู้แล้วว่าการเชื่อใจใครสักคน
-
14:32 - 14:34องค์กรในกำกับของรัฐบาลสักหน่วย
-
14:34 - 14:37ที่มีข้อมูลการสื่อสารของมนุษย์ครบถ้วน
-
14:37 - 14:39ในแบบที่เป็นความลับและไร้ซึ่งการดูแลใดๆ
-
14:39 - 14:44เป็นจูงใจมากเหลือเกินที่จะทำให้เราไม่สนใจได้
-
14:44 - 14:47คริส: บางคนโกรธเกรี้ยวในสิ่งที่คุณทำลงไป
-
14:47 - 14:50ผมได้ยินคำพูดเมื่อไม่นานมานี้
จาก ดิค เชนี (Dick Cheney) -
14:50 - 14:55ผู้ซึ่งบอกว่า จูเลียน อัสซาน (Julian Assange)
เหมือนหมัดกัด -
14:55 - 14:59เอ็ดเวอร์ด สโนว์เดน เป็นสิงโต
ที่งับหัวสุนัขหลุด -
14:59 - 15:00เขาคิดว่าคุณได้กระทำ
-
15:00 - 15:03การทรยศที่จัดว่าแย่ที่สุด
-
15:03 - 15:05ในประวัติศาสตร์อเมริกัน
-
15:05 - 15:09คุณจะพูดอย่างไรต่อคนที่คิดเช่นนั้นครับ
-
15:11 - 15:13เอ็ด: ดิค เชนี เป็นอะไรอย่างอื่นครับ
-
15:13 - 15:20(เสียงหัวเราะ) (เสียบปรบมือ)
-
15:20 - 15:25ขอบคุณครับ (เสียงหัวเราะ)
-
15:25 - 15:28ผมคิดว่ามันน่าทึ่ง เพราะว่าในเวลาเดียวกัน
-
15:28 - 15:32จูเลียน อัสซาน กำลังกระทำการสำคัญ
-
15:32 - 15:33ดิค เชนี บอกว่า
-
15:33 - 15:35เขากำลังจะทำให้รัฐบาลทั่วโลกพบกับจุดจบ
-
15:35 - 15:38ผืนฟ้าจะลุกเป็นไฟ
-
15:38 - 15:41และท้องทะเลกำลังจะเดือดดาล
-
15:41 - 15:43และตอนนี้เขามาบอกว่ามันเป็นหมัดกัด
-
15:43 - 15:45ฉะนั้น เราควรจะคลางแคลงสงสัย
เกี่ยวกับแหล่งเดียวกันนี้ -
15:45 - 15:49ของการกล่าวอ้างเกินจริง
เกี่ยวกับความเสียหายทางความมั่นคงของชาติ -
15:49 - 15:51จากข่าวที่เป็นทางการในลักษณะนี้
-
15:51 - 15:58แต่ลองสรุปดูสมมติว่าคนเหล่านี้เชื่อในสิ่งเหล่านี้จริงๆ
-
15:58 - 16:00ผมจะแย้งว่าพวกเขามี
-
16:00 - 16:05กรอบความคิดที่แคบในเรื่องความมั่นคงของชาติ
-
16:05 - 16:08อำนาจพิเศษจากบุคคลอย่าง ดิค เชนี
-
16:08 - 16:11ไม่ได้ทำให้ชาติปลอดภัย
-
16:11 - 16:15ความสนใจของประชาชนไม่ได้เหมือนเดิมตลอด
-
16:15 - 16:17เหมือนกับความสนใจของชาติ
-
16:17 - 16:21การไปทำสงครามกับคนผู้ซึ่งไม่ใช่ศัตรูของเรา
-
16:21 - 16:23ในที่ซึ่งไม่ได้คุกคามเรา
-
16:23 - 16:25ไม่ได้ทำให้เราปลอดภัย
-
16:25 - 16:28และนั่นใช้ได้ทั้งในกรณี อิรัก
-
16:28 - 16:29หรือ บนอินเทอร์เน็ต
-
16:29 - 16:31อินเทอร์เน็ตไม่ใช่ศัตรู
-
16:31 - 16:33เศรษฐกิจของเราไม่ใช่ศัตรู
-
16:33 - 16:35เศรษฐกิจของอเมริกา เศรษฐกิจของจีน
-
16:35 - 16:40และไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนๆ
-
16:40 - 16:42ก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมของเรา
-
16:42 - 16:44มันเป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมต่อของเรากับโลก
-
16:44 - 16:49มันมีเงื่อนแห่งภราดรภาพ
ที่เกี่ยวคล้องเราไว้ด้วยกัน -
16:49 - 16:52และถ้าเราทำลายความสัมพันธ์นั้นเสีย
-
16:52 - 16:55โดยทำลายมาตราฐาน ความปลอดภัย
-
16:55 - 16:58วิถีแห่งพฤติกรรม
-
16:58 - 17:01ที่ชาติและพลเมืองทั่วโลก
-
17:01 - 17:03คาดหวังให้เราเป็นที่พึ่งพิง
-
17:03 - 17:07คริส: แต่มันมีการกล่าวหาว่า คุณได้ขโมย
-
17:07 - 17:09เอกสาร 1.7 ล้านฉบับ
-
17:09 - 17:10ที่ผ่านมานี้ มันเหมือนว่าแค่ไม่กี่ร้อย
-
17:10 - 17:13ที่ได้ถูกนำมาให้นักข่าว
-
17:13 - 17:16มันยังมีการเปิดโปงอะไรอีกหรือเปล่าครับ
-
17:16 - 17:19เอ็ด: มีการเปิดโปงอีกแน่นอนครับ
-
17:19 - 17:21ผมไม่คิดว่าคงไม่มีข้อกังขา
-
17:21 - 17:26ว่ารายงานที่สำคัญบางส่วน
-
17:26 - 17:30ที่จะถูกจัดทำกำลังจะตามมา
-
17:30 - 17:33คริส: มานี่หน่อยครับ เพราะผมอยากที่จะถามคุณ
-
17:33 - 17:34เกี่ยวกับการเปิดโปงนี้
-
17:34 - 17:37มาดูนี่หน่อยครับ
-
17:37 - 17:40ผมหมายถึงว่า นี่เป็นเรื่องราวซึ่งผมคิดว่า
คงจะเป็นเรื่องน่าตกใจที่สุด -
17:40 - 17:42สำหรับผู้เชี่ยวชาญหลายท่านในห้องนี้
-
17:42 - 17:44ได้ยินในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
-
17:44 - 17:47มันเกี่ยวกับโครงการที่เรียกว่า "บูรัน" (Bullrun)
-
17:47 - 17:51คุณอธิบายให้เราฟังได้ไหมครับว่ามันคืออะไร
-
17:51 - 17:53เอ็ด: ครับนี่ก็อีก บูรัน
-
17:53 - 18:00เราต้องขอขอบคุณ NSA
ในความตรงไปตรงมาของพวกเขา -
18:00 - 18:04มันคือโครงการที่ตั้งชื่อตามการสู้รบในสงครามกลางเมือง
-
18:04 - 18:06กรณีแบบนี้ในอังกฤษถูกเรียกว่า เอ็ดจ์ฮิล (Edgehill)
-
18:06 - 18:07ซึ่งก็คือการสู้รบในสงครามกลางเมือง
ในสหราชอาณาจักร -
18:07 - 18:10และเหตุผลที่ผมเชื่อว่าพวกเขาตั้งชื่อแบบนี้
-
18:10 - 18:13ก็เพราะว่าพวกเขาตั้งเป้าไว้ที่โครงสร้างพื้นฐานของเรา
-
18:13 - 18:16พวกเขาจัดการผ่านสิ่งซึ่ง NSA
-
18:16 - 18:20ตั้งใจทำให้ผู้ที่ให้ความร่วมมือไขว้เขว
-
18:20 - 18:22พวกเขาบอกกับผู้ที่ให้ความร่วมมือว่า
-
18:22 - 18:23นี่คือมาตราฐานความปลอดภัย
-
18:23 - 18:25พวกเขาบอกว่า นี่ เราต้องทำงานกับคุณนะ
-
18:25 - 18:29เพื่อที่จะปกป้องระบบของคุณ
-
18:29 - 18:32แต่ในความเป็นจริง พวกเขากำลังให้คำแนะนำแย่ๆ
-
18:32 - 18:34กับบริษัทต่างๆ ที่ทำให้พวกเขา
-
18:34 - 18:36ลดระดับความปลอดภัยของบริการของพวกเขา
-
18:36 - 18:38พวกเขาสร้างมันขึ้นแบบแอบๆ ซ่อนๆ
-
18:38 - 18:41นั่นไม่ใช่แค่ทำให้ NSA หาประโยชน์ได้เท่านั้น
-
18:41 - 18:43แต่ใครก็ตามผู้ซึ่งมีเวลาและเงิน
-
18:43 - 18:45ในการสืบค้นและหามัน
-
18:45 - 18:47สามารถที่จะใช้มันเพื่อให้ตัวเอง
-
18:47 - 18:49เข้าไปในโลกของการสื่อสารได้
-
18:49 - 18:51และนี่มันก็อันตรายมากๆ
-
18:51 - 18:55เพราะถ้าหากคุณเสียมาตราฐานใดไป
-
18:55 - 18:58ถ้าคุณเสียความเชื่อถือต่อสิ่งใด เช่น SSL
-
18:58 - 19:00ซึ่งถูกตั้งเป็นเป้าอย่างจงใจ
-
19:00 - 19:02โดยโครงการบูรัน
-
19:02 - 19:05เราจะอยู่ในโลกโดยรวมแล้วปลอดภัยน้อยลง
-
19:05 - 19:07เราจะไม่สามารถเข้าถึงธนาคารของเรา
-
19:07 - 19:12และเราจะไม่สามารถที่จะเข้าถึงการค้าขาย
-
19:12 - 19:15ได้โดยปราศจากความกังวล
ว่าจะมีคนมาเฝ้ามองการสื่อสารเหล่านั้น -
19:15 - 19:17หรือทำลายมันจากปลายทางของพวกเขา
-
19:17 - 19:21คริส: แล้วการตัดสินใจเดียวกันนี้เป็นไปได้หรือไม่ว่า
-
19:21 - 19:24จะเปิดอเมริกาให้เผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์
-
19:24 - 19:28จากแหล่งอื่น
-
19:28 - 19:29เอ็ด: แน่นอนครับ
-
19:29 - 19:31หนึ่งในปัญหา
-
19:31 - 19:35หนึ่งในมรดกสุดอันตราย
-
19:35 - 19:38ที่เราได้เห็นในยุคหลังเหตุการณ์ 9/11
-
19:38 - 19:42ก็คือ NSA อยู่ในฐานะทีสวมหมวกสองใบ
-
19:42 - 19:44พวกเขารับผิดชอบเรื่องจัดการการโจมตี
-
19:44 - 19:45ซึ่งก็คือการขโมยข้อมูล
-
19:45 - 19:48แต่พวกเขายังมีความรับผิดขอบในเรื่อง
จัดการการป้องกัน -
19:48 - 19:50และตามปกติแล้ว พวกเขาลำดับความสำคัญ
-
19:50 - 19:52ให้กับการป้องกันก่อนเสมอ
-
19:52 - 19:53โดยยึดหลักการที่ว่า
-
19:53 - 19:56ความลับของอเมริกามีค่ามากกว่า
-
19:56 - 19:58ถ้าเราขโมยข้อมูลทางเศรษฐกิจของจีน
-
19:58 - 20:00และขโมยความลับของพวกเขา
-
20:00 - 20:02ถ้าเราขโมยข้อมูลรัฐบาลในเบอร์ลิน
-
20:02 - 20:04และขโมยความลัยของพวกเขา
-
20:04 - 20:08นั่นมีค่าน้อยกว่าคนอเมริกัน
-
20:08 - 20:10เมื่อเทียบกับการทำให้มั่นใจว่า
-
20:10 - 20:12จีนไม่สามารถที่จะเข้าถึงความลับของเราได้
-
20:12 - 20:16ดังนั้น ด้วยการลดความปลอดภัย
ของการสื่อสารของเรา -
20:16 - 20:18พวกเขาไม่ใช่แค่ทำให้โลกเราตกอยู่ในอันตราย
-
20:18 - 20:21พวกเรากำลังทำให้อเมริกาตกอยู่ในอันตรายด้วย
ตามหลักแล้ว -
20:21 - 20:23เพราะว่าทรัพย์สินทางปัญญาเป็นพื้นฐาน
-
20:23 - 20:25เป็นรากฐานของเศรษฐกิจเรา
-
20:25 - 20:27และถ้าเราทำให้มันตกอยู่ในอันตราย
ด้วยระบบความปลอดภัยที่อ่อนแอแล้ว -
20:27 - 20:29เราก็จะต้องชดใช้ความเสียหายกันไปอีกนาน
-
20:29 - 20:31คริส: แต่พวกเขาได้ทำการคำนวณแล้ว
-
20:31 - 20:33ว่ามันคุ้มที่จะทำแบบนี้
-
20:33 - 20:36ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันอเมริกา
จากการก่อการร้าย -
20:36 - 20:40แน่ล่ะว่านั่นมันคุ้มแล้วที่จะลงทุน
-
20:40 - 20:44เอ็ด: อืม เมื่อคุณมองไปยังผลลัพธ์
-
20:44 - 20:46ของโครงการเหล่านี้ในการหยุดยั้งการก่อการร้าย
-
20:46 - 20:50คุณจะเห็นว่านั่นมันยังไม่ถูกพบ
-
20:50 - 20:52และคุณไม่ต้องเชื่อผมก็ได้นะครับ
-
20:52 - 20:56เพราะว่าเรามีศาลชั้นต้น
-
20:56 - 20:58ศาลชั้นต้นของสหรัฐฯ ที่ตรวจตราสิ่งนี้
-
20:58 - 21:01ภายนอกการจัดการที่เป็นความลับ
-
21:01 - 21:03เรียกโครงการเหล่านี้ว่า ออร์เวลเลี่ยน (Orwellian)
-
21:03 - 21:05และเป็นไปได้ว่ามันไม่เป็นไปตามกฎหมาย
-
21:05 - 21:08รัฐสภาผู้มีสิทธิในการเข้าถึง
-
21:08 - 21:09เพื่อทำการสรุปเรื่องเหล่านี้
-
21:09 - 21:12และตอนนี้มีความคิดที่จะเป็น
-
21:12 - 21:14ได้ผลิตใบรับรองในการปฏิรูปมัน
-
21:14 - 21:17และผู้อภิปรายสองฝ่ายที่แยกกันเป็นเอกเทศของ
ไวท์เฮาส์ -
21:17 - 21:19ผู้ซึ่งตรวจดูหลักฐานที่เป็นความลับทางราชการทั้งหมด
-
21:19 - 21:22บอกว่าโครงการเหล่านี้ไม่เคยถูกหยุด
-
21:22 - 21:24การโจมตีของผู้ก่อการร้ายได้สักครั้ง
-
21:24 - 21:27ซึ่งมันเป็นภยันตรายที่ใกล้เกิดในสหรัฐฯ
-
21:27 - 21:30ดังนั้นนี่หรือคือการก่อการร้ายที่เรากำลังจะหยุดยั้ง
-
21:30 - 21:33โครงการเหล่านี้มีค่าด้วยหรือ
-
21:33 - 21:35ผมบอกว่าไม่ และทั้งสามสาขา
-
21:35 - 21:37ของรัฐบาลอเมริกันบอกว่าไม่เช่นกัน
-
21:37 - 21:39คริส: ผมหมายความว่า คุณคิดว่ามันมีแรงผลักดัน
ที่ลึกซึ้งกว่านั้น -
21:39 - 21:43สำหรับพวกเขา
มากกว่าที่แค่สงครามต้านการก่อการ้ายหรือเปล่า -
21:43 - 21:44เอ็ด: ขอโทษครับ ผมไม่ได้ยินครับ พูดอีกทีได้ไหมครับ
-
21:44 - 21:47คริส: ขอโทษด้วยครับ คุณคิดว่ามันมีแรงผลักดัน
ที่ลึกซึ้งกว่านั้น -
21:47 - 21:51สำหรับพวกเขา
มากกว่าที่แค่สงครามต้านการก่อการ้ายหรือเปล่า -
21:51 - 21:54เอ็ด: ครับ ที่สำคัญก็คือว่าการก่อการร้าย
-
21:54 - 21:56เป็นสิ่งที่พวกเราใจโลกของหน่วยข่าวกรอง
-
21:56 - 21:59เรียกกันว่า การปิดบังการกระทำ
-
21:59 - 22:01การก่อการร้ายเป็นอะไรบางอย่างที่ยุยั่ว
-
22:01 - 22:03การโต้ตอบโดยใช้อารมณ์ซึ่งจะทำให้ผู้คน
-
22:03 - 22:08ตัดสินใจให้อำนาจกับหน่วยงานรัฐและโครงการ
-
22:08 - 22:10ซึ่งถ้าไม่เป็นเช่นนี้พวกเขาคงไม่ทำ
-
22:10 - 22:13โครงการแบบ เดอะ บูรัน และ เอดจ์ฮิล
-
22:13 - 22:14NSA ขอหน่วยงานรัฐเหล่านี้
-
22:14 - 22:16ย้อนกลับไปในยุค 1990
-
22:16 - 22:19พวกเขาขอ เอฟบีไอ ให้ไปยังรัฐสภาและยื่นเรื่อง
-
22:19 - 22:21เอฟบีไอ ไปที่รัฐสภาและได้ยื่นเรื่องจริงๆ
-
22:21 - 22:24แต่รัฐสภาและคนอเมริกันบอกว่าไม่
-
22:24 - 22:26พวกเขาบอกว่า มันไม่คุ้มนะที่จะเอาเศรษฐกิจเราไปเสี่ยง
-
22:26 - 22:28พวกเขาบอกว่า เกิดความเสียหายมามากเกินไปแล้ว
-
22:28 - 22:31ในสังคมของเรา เกินกว่าจะพิสูจน์ให้เห็นถึงสิ่งที่ได้เปรียบ
-
22:31 - 22:35แต่ที่พวกเราเห็นคือ เหตุการณ์หลังยุค 9/11
-
22:35 - 22:39พวกเขาใช้ความลับและพวกเขาก็ใช้
การพิสูจน์เกี่ยวกับการก่อการร้าย -
22:39 - 22:40เพื่อที่จะตั้งโครงการเหล่านี้เป็นความลับ
-
22:40 - 22:42โดยไม่ได้บอกรัฐสภา
-
22:42 - 22:44โดยไม่บอกกับคนอเมริกา
-
22:44 - 22:47และมันก็เหมือนกับรัฐบาลอยู่หลังประตูที่ปิด
-
22:47 - 22:50ซึ่งเราต้องการที่จะป้องกันตัวเราเองจากมัน
-
22:50 - 22:51เพราะมันทำให้เราปลอดภัยน้อยลง
-
22:51 - 22:53และมันก็ไม่ได้ให้คุณค่าอะไรด้วย
-
22:53 - 22:55คริส: เอาล่ะ มานี่กับผมสักเดี๋ยวนะครับ
-
22:55 - 22:57เราพว่าผมมีคำถามส่วนตัวอีกสำหรับคุณ
-
22:57 - 23:00พูดถึงก่อการร้าย
-
23:00 - 23:04คนส่วนใหญ่จะพบสถาณะการณ์ที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้
-
23:04 - 23:07ในรัสเซีย น่ากลัวทีเดียว
-
23:07 - 23:11คุณได้ยินมาแน่ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
-
23:11 - 23:13ว่า แบรดลี แมนนิง (Bradley Manning)
ได้รับการปฎิบัติอย่างไร -
23:13 - 23:15เชลซี แมนนิง (Chelsea Manning) ในตอนนี้
-
23:15 - 23:18และมีเรื่องใน บัซฟีด (Buzzfeed) ที่บอกว่า
-
23:18 - 23:19มีคนในวงการหน่วยข่าวกรอง
-
23:19 - 23:22ผู้ซึ่งอยากให้คุณตาย
-
23:22 - 23:24คุณจะทำใจกับสิ่งนี้ได้อย่างไร
-
23:24 - 23:25คุณจะจัดการกับความกลัวนี้ได้อย่างไร
-
23:25 - 23:28เอ็ด: มันไม่ใช่เรื่องลึกลับ
-
23:28 - 23:34ที่มีรัฐบาลข้างนอกนั่นที่ต้องการจะเห็นผมตาย
-
23:34 - 23:38ผมได้พูดไว้อย่างชัดเจนครั้งแล้วครั้งเล่า
-
23:38 - 23:41ว่าทุกๆ เช้าผมจะนอน
-
23:41 - 23:45คิดว่าผมจะทำอะไรได้บ้างเพื่อคนอเมริกัน
-
23:45 - 23:49ผมไม่ต้องการที่จะทำร้ายรัฐบาลของผม
-
23:49 - 23:52ผมอยากที่จะช่วยรัฐบาลของผม
-
23:52 - 23:56แต่เหตุที่พวกเขาประสงค์ที่จะ
-
23:56 - 23:58เพิกเฉยกระบวนการที่เกี่ยวข้องอย่างสมบูรณ์
-
23:58 - 24:01พวกเขาประสงค์ที่จะเปิดเผยความผิด
-
24:01 - 24:04โดยไม่แม้จะให้มันเกิดการพิจารณาคดี
-
24:04 - 24:06มันมีสิ่งที่พวกเราต้องร่วมมีอกัน
-
24:06 - 24:10ในฐานะคนในสังคม และบอกว่า เฮ้ย นี่มันไม่เหมาะสมนะ
-
24:10 - 24:12เราไม่ควรจะเป็นผู้เห็นต่างที่ถูกข่มขู่
-
24:12 - 24:15พวกเราไม่ควรที่จะเป็นนักหนังสือพิมพ์โจร
-
24:15 - 24:18และไม่ว่าด้วยฐานะใดที่ผมจะทำได้ เพื่อให้สิ่งนั้นสิ้นสุด
-
24:18 - 24:21ผมยินดีที่จะทำแม้ว่ามันจะเสี่ยงก็ตาม
-
24:21 - 24:23คริส: ผมอยากจะได้เสียงตอบรับ
-
24:23 - 24:24จากผู้ชมทางนี้
-
24:24 - 24:26เพราะผมรู้ว่ามันมีกระแสตอบโต้ที่แตกต่างกันในวงกว้าง
-
24:26 - 24:28ต่อ เอ็ดเวอร์ด สโนว์เดน
-
24:28 - 24:30คาดว่าคุณมีสองตัวเลือกดังต่อไปนี้ใช่ไหมครับ
-
24:30 - 24:33คุณสามารถมองสิ่งที่เขาทำลงไป
-
24:33 - 24:35เป็นการกระทำที่แสนจะบ้าบิ่น
-
24:35 - 24:38ซึ่งทำให้อเมริการตกอยู่ในอันตราย
-
24:38 - 24:42หรือคุณอาจมองว่ามันเป็นการกระทำเยี่ยงวีรบุรุษ
-
24:42 - 24:45ที่จะนำสิ่งดีๆ ที่ยั่งยืน
-
24:45 - 24:47มาสู่อเมริกาและโลก
-
24:47 - 24:50นั่นเป็นสองตัวเลือกที่ผมจะมอบให้กับคุณ
-
24:50 - 24:52ผมอยากจะรู้ว่าใครอยากจะลงคะแนน
-
24:52 - 24:54ให้กับตัวเลือกแรก
-
24:54 - 24:57ที่ว่ามันเป็นการกระทำที่บ้าบิ่นครับ
-
24:57 - 24:59มีคนยกมืออยู่บ้าง
-
24:59 - 25:00มีคนยกมือบ้าง
-
25:00 - 25:01มันค่อนข้างจะยกมือยากนะครับ
-
25:01 - 25:03เมื่อเจ้าตัวมายืนอยู่ตรงนี้
-
25:03 - 25:05แต่ผมก็เห็นนะครับ
-
25:05 - 25:07เอ็ด: ผมก็เห็นคุณครับ (เสียงหัวเราะ)
-
25:07 - 25:10คริส: แล้วใครเลือกตัวเลือกที่สองครับ
-
25:10 - 25:12การกระทำที่เป็นดั่งวีรบุรุษ
-
25:12 - 25:14(เสียงปรบมือ) (เสียงเชียร์)
-
25:14 - 25:17และผมคิดว่ามันจริงที่จะบอกว่า
มีคนมากมาย -
25:17 - 25:19ที่ไม่ได้ยกมือและผมคิดว่า
-
25:19 - 25:21พวกเขายังคงคิดอยู่
-
25:21 - 25:24เพราะว่าสำหรับผมแล้ว การโต้เถึยงรอบๆ ตัวคุณ
-
25:24 - 25:27ไม่ได้ถูกแบ่งตามเส้นแบ่งทางการเมืองที่อยู่ในแบบแผน
-
25:27 - 25:30มันไม่ใช่ซ้ายหรือขวา มันไม่ได้เกี่ยวกับว่า
-
25:30 - 25:34สนับสนุนรัฐบาล เป็นแนวคิดอิสรนิยม
หรือไม่ใช่อะไรอย่างนั้น -
25:34 - 25:36ส่วนหนึ่งของมันเกือบจะเป็นเรื่องอุบัติใหม่
-
25:36 - 25:38คุณเป็นส่วนหนึ่งของยุคที่กำลังเติบโตขึ้น
-
25:38 - 25:41ท่ามกลางอินเทอร์เน็ต และมันราวกับว่า
-
25:41 - 25:44ถ้าคุณรู้สึกต่อต้านต่อสิ่งที่เกือบจะเป็นแก่นสำคัญ
-
25:44 - 25:46เมื่อคุณเห็นอะไรบางอย่างดำเนินการเสร็จสิ้น
-
25:46 - 25:48ที่คุณคิดว่าจะเป็นอันตรายต่ออินเทอร์เน็ต
-
25:48 - 25:51มีอะไรจริงเกี่ยวกับมันบ้างครับ
-
25:51 - 25:56เอ็ด: ครับ ผมคิดว่ามันจริงมากๆ
-
25:56 - 25:59นี่มันไม่ใช่การเลือกข้างซ้ายหรือขวา
-
25:59 - 26:02อิสรภาพพื้นฐานของเรา และเมื่อผมบอกว่าเรา
-
26:02 - 26:04ผมไม่ได้หมายถึงแค่อเมริกา
-
26:04 - 26:06ผมหมายถึงคนทั่วโลก
-
26:06 - 26:08มันไม่ใช่ปัญหาของพวกใดพวกหนึ่ง
-
26:08 - 26:10มันเป็นสิ่งที่ทุกๆ คนเชื่อ
-
26:10 - 26:12และมันขึ้นอยู่กับเราทุกคนที่จะปกป้องพวกมัน
-
26:12 - 26:15และสำหรับผู้คนที่ได้เห็นและได้ผลประโยชน์
-
26:15 - 26:17จากอินเทอร์เน็ตที่เปิดกว้างเสรี
-
26:17 - 26:20มันขึ้นอยู่กับเราที่จะรักษาเสรีภาพนั้น
-
26:20 - 26:22สำหรับคนรุ่นต่อๆ ไปให้ได้รับประโยชน์จากมัน
-
26:22 - 26:24และถ้าเราไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
-
26:24 - 26:27ถ้าเราไม่ลุกขึ้นเพื่อความเปลี่ยนแปลง
-
26:27 - 26:30เราจะต้องทำเพื่อยังคงทำให้อินเทอร์เน็ตปลอดภัย
-
26:30 - 26:33ไม่ใช่แค่สำหรับเรา แต่สำหรับทุกคน
-
26:33 - 26:35เรากำลังจะสูญเสียมัน
-
26:35 - 26:36และนั่นก็อาจเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่
-
26:36 - 26:38ไม่ใช่แค่สำหรับเรา แต่สำหรับโลกของเรา
-
26:38 - 26:40คริส: ครับ ผมได้ยินอะไรคล้ายๆ กันเมื่อไม่นานมานี้
-
26:40 - 26:42จากผู้ก่อตั้ง เวอร์ ไวด์ เว็บ (world wide web; www)
-
26:42 - 26:47ผู้ซึ่งผมคิดว่าอยู่กับเราด้วย เซอร์ ทิม เบอร์เนอร์-ลี
(Sir Tim Berners-Lee) -
26:47 - 26:49ทิม ครับ เชิญคุณขึ้นมาและพูดได้ไหมครับ
-
26:49 - 26:51มีไมโครโฟนให้ ทิม ไหมครับ
-
26:51 - 26:54(เสียงปรบมือ)
-
26:54 - 27:01ทิม ดีใจที่ได้พบคุณครับ เชิญทางนี้ครับ
-
27:01 - 27:03จะว่าไป คุณอยู่ค่ายไหนครับ
-
27:03 - 27:07กบฎ หรือวีรบุรุษ
ผมมีทฤษฎีอยู่แต่ว่า -- -
27:07 - 27:09ทิม เบอร์เนอร์-ลี: ผมได้ให้คำตอบแบบยาวๆ
-
27:09 - 27:12ต่อคำถามนั้นมาแล้ว ซึ่งก็คือ วีรบุรุษครับ
-
27:12 - 27:16ถ้าผมจะต้องทำการเลือกระหว่างสองตัวเลือกนั้น
-
27:16 - 27:19คริส: และเอ็ด ผมคิดว่าคุณได้อ่าน
-
27:19 - 27:21ข้อเสนอที่เซอร์ ทิม ได้พูดถึงไปแล้ว
-
27:21 - 27:24เกี่ยวกับ แมคนา คาตา ฉบับใหม่
ที่ขอคืนอำนาจทางอินเทอร์เน็ต -
27:24 - 27:26มันเป็นอะไรที่เป็นเหตุเป็นผมหรือเปล่าครับ
-
27:26 - 27:30เอ็ด: แน่นอนครับ ผมหมายถึง ยุคของผม
ผมได้เติบโตขึ้น -
27:30 - 27:32ไม่ใช่เพียงคิดถึงอินเทอร์เน็ต
-
27:32 - 27:34แต่เติบโตขึ้นในโลกอินเทอร์เน็ต
-
27:34 - 27:39และแม้ว่าผมจะไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาส
-
27:39 - 27:44ได้ป้องกันมันในรูปแบบที่ตรงไปตรงมาแบบนี้
-
27:44 - 27:48และทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างในแบบที่ไม่ปกติ
-
27:48 - 27:50แทบจะเป็นไปในแบบตัวแทนเสมือนจริง
-
27:50 - 27:53ผมคิดว่ามันเป็นความงามอย่างกวีแบบหนึ่ง
-
27:53 - 27:55ที่ลูกหม้ออินเทอร์เน็ตคนหนึ่ง
-
27:55 - 27:58ใกล้ชิดกับอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
-
27:58 - 28:01ด้วยผลแห่งการแสดงออกทางการเมืองของพวกเขา
-
28:01 - 28:04และผมเชื่อว่า แมคนา คาตา สำหรับอินเทอร์เน็ต
-
28:04 - 28:06เป็นสิ่งที่เราต้องการจริงๆ
-
28:06 - 28:10เราต้องการที่จะถอดรหัสคุณค่าของเรา
-
28:10 - 28:13ไม่ใช่เพียงแค่เป็นลายลักษณ์อักษร
แต่ในโครงสร้างของอินเทอร์เน็ตด้วย -
28:13 - 28:15และมันเป็นอะไรที่ผมหวัง
-
28:15 - 28:18ผมขอเชิญผู้ชมทุกคน
-
28:18 - 28:21ไม่ใช่แค่ในแวนคูเวอร์นี้ แต่ทุกแห่งทั่วโลก
-
28:21 - 28:23เพื่อเข้าร่วมและมามีส่วนร่วมครับ
-
28:23 - 28:26คริส: มีคำถามสำหรับเอ็ดไหมครับ
-
28:26 - 28:28ทิม: ครับ สองคำถามครับ
-
28:28 - 28:29คำถามทั่วๆ ไป --
-
28:29 - 28:31คริส: คริส ยังได้ยินพวกเราอยู่ไหมครับ
-
28:31 - 28:34เอ็ด: ครับ ได้ยินครับ
คริส: โอ้ กลับมาแล้วครับ -
28:34 - 28:36ทิม: สายดักฟังทางคุณ
-
28:36 - 28:38ถูกรบกวนกระมังครับ
-
28:38 - 28:39(เสียงหัวเราะ)
-
28:39 - 28:42เอ็ด: เป็นปัญหานิดหน่อยสำหรับ NSA
-
28:42 - 28:45ทิม: ครับ เป็นเวลา 25 ปี
-
28:45 - 28:48ลองย้อนกลับไปคิดแล้ว
-
28:48 - 28:50อะไรที่คุณคิดว่า
-
28:50 - 28:53อะไรที่อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราได้
-
28:53 - 28:55จากการอภิปรายทั้งหมดนี้
-
28:55 - 28:57เกี่ยวกับเว็บที่เราต้องการ
-
28:57 - 29:01เอ็ด: เมื่อผมคิดถึงว่า
-
29:01 - 29:04เราจะไปได้ไกลแค่ไหน
-
29:04 - 29:06ผมคิดว่านั่นเป็นคำถามที่จะถูกจำกัด
-
29:06 - 29:09แค่ด้วยสิ่งที่เราต้องการจะใส่ลงไป
-
29:09 - 29:12ผมคิดว่าอินเทอร์เน็ตที่เราได้รับประโยชน์ในอดีต
-
29:12 - 29:17เป็นในแบบที่เรา ซึ่งไม่ใช่แค่ชาติของเรา
-
29:17 - 29:20แต่ทุกคนทั่วโลกต้องการจริงๆ
-
29:20 - 29:25และด้วยความร่วมมือ ด้วยการเข้ามามีส่วนร่วม
-
29:25 - 29:26ไม่ใช่แค่ในส่วนทางเทคนิค
-
29:26 - 29:29แต่อย่างที่คุณบอกคือ ผู้ใช้
-
29:29 - 29:31คนทั่วโลกที่ได้เข้ามามีส่วน
-
29:31 - 29:33ผ่านอินเทอร์เน็ต ผ่านทางโซเชียลมีเดีย
-
29:33 - 29:35ผู้ซึ่งแค่ตรวจดูพยากรณ์อากาศ
-
29:35 - 29:38ผู้ซึ่งพึ่งพามันทุกวัน เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
-
29:38 - 29:41เพื่อที่จะปกป้องมัน
-
29:41 - 29:43เราจะไม่ได้แค่อินเทอร์เน็ตที่เราต้องการ
-
29:43 - 29:46แต่เป็นอินเทอร์เน็ตที่ดีกว่าเดิม
-
29:46 - 29:50อะไรบางอย่างที่เราสามารถใช่สร้างอนาคตของเรา
-
29:50 - 29:53ที่จะเป็นอะไรที่ดีขึ้น ไม่ใช่แค่ในสิ่งที่เราหวัง
-
29:53 - 29:56แต่ในสิ่งอื่นๆ ที่เราได้วาดฝันเอาไว้ด้วย
-
29:56 - 30:01คริส: 30 ปีมาแล้วที่ TED ได้ถูกก่อตั้งขึ้น ในปี 1984
-
30:01 - 30:03การสนทนามากมายจากตอนนั้น
-
30:03 - 30:05เป็นไปในทำนองว่า
-
30:05 - 30:07ที่จริง จอร์ช ออร์เวล (George Orwell) นั่นคิดผิด
-
30:07 - 30:09มันไม่ใช่ พี่เบิ้ม (Big Brother) นั้นเฝ้าดูเราอยู่
-
30:09 - 30:10เรา ด้วยอำนาจของเว็บ
-
30:10 - 30:13และความโปร่งใส กำลังเฝ้ามองพี่เบิ้มอยู่ในตอนนี้
-
30:13 - 30:15การเปิดโปงของคุณเป็นการยกระดับเดิมพัน
-
30:15 - 30:19ผ่านใจของผู้ที่ค่อนข้างจะมองโลกในแง่ดี
-
30:19 - 30:22แต่คุณยังเชื่อว่า มันยังมีหนทางที่จะทำอะไรบางอย่าง
-
30:22 - 30:24เกี่ยวกับมัน
-
30:24 - 30:26และคุณก็ทำซะด้วย
-
30:26 - 30:32เอ็ด: ครับ จะต้องมีการถกเถียงกัน
-
30:32 - 30:35ว่าอำนาจของพี่เบิ้มได้เพิ่มขึ้นอยากมหาศาล
-
30:35 - 30:40เมื่อไม่นานมานี้มีบทความทางกฎหมายที่เยล (Yale)
-
30:40 - 30:44ที่ก่อตั้งสิ่งหนึ่งซึ่งเรียกว่า "หลักการแบงค์สตัน-โซลทานิ"
(the Bankston-Soltani Principle) -
30:44 - 30:49ซึ่งก็คือสิ่งที่เราคาดไว้เรื่องล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัว
-
30:49 - 30:51เมื่อความสามารถในการตรวจตราของรัฐบาล
-
30:51 - 30:54แย่ลงเมื่อดูตามลำดับความสำคัญ
-
30:54 - 30:57และทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น เราต้องการการกลับเข้าไปใหม่
-
30:57 - 31:00และปรับสมดุลสิทธิในความเป็นส่วนตัวของเรา
-
31:00 - 31:02ทีนี้ นั่นมันไม่ได้เกิดขึ้น
-
31:02 - 31:04ตั้งแต่อำนาจการตรวจตราของรัฐบาล
-
31:04 - 31:06ถูกปรับเพิ่มลำดับความสำคัญขึ้น
-
31:06 - 31:09และนั่นเป็นเหตุว่าทำไม
เราเผชิญอยู่กับปัญหาดั่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ -
31:09 - 31:13แต่มันยังคงมีหวังครับ
-
31:13 - 31:15เพราะอำนาจของปัจเจกชน
-
31:15 - 31:18ได้เพิ่มมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี
-
31:18 - 31:20ผมคือหลักฐานที่มีลมหายใจ
-
31:20 - 31:22ซึ่งบอกว่าคนๆ หนึ่งสามารถประมือ
-
31:22 - 31:24กับคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังมากที่สุด
-
31:24 - 31:27และหน่วยข่าวกรองที่มีอำนาจมากที่สุด
-
31:27 - 31:31ทั่วโละ และเป็นผู้ชนะ
-
31:31 - 31:32และผมคิดว่านั่นเป็นอะไรบางอย่าง
-
31:32 - 31:35ที่เราต้องยึดเอาเป็นขวัญกำลังใจ
-
31:35 - 31:36และเราต้องยึดเป็นหลักมั่น
-
31:36 - 31:38เพื่อจะทำให้มันเข้าถึงได้
ไม่ใช่แค่สำหรับผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิค -
31:38 - 31:41แต่สำหรับพลเมืองทั่วโลก
-
31:41 - 31:42การสื่อสารมวลชนไม่ใช่การก่ออาชญากรรม
-
31:42 - 31:44การสื่อสารไม่ใช่การก่ออาชญากรรม
-
31:44 - 31:47และกิจกรรมประจำวันของพวกเราไม่ควรที่จะถูกติดตาม
-
31:47 - 31:50คริส: ผมไม่ค่อยแน่ใจว่า
คุณจะจับมือกับหุ่นยนต์ได้อย่างไร -
31:50 - 31:56แต่ผมคิดว่านี่แหละครับ ตรงนี้คือมือครับ
ทิม: นั่นคงจะมาในเร็วๆ นี้แหละ -
31:56 - 31:57เอ็ด: ยินดีที่ได้พบคุณครับ
-
31:57 - 31:59และผมหวังว่าภาพของผมที่ถ่ายทอดไปจะดูดี
-
31:59 - 32:01พอๆ กับที่ผมเห็นภาพพวกคุณนะครับ
-
32:01 - 32:04คริส: ขอบคุณ ทิม
-
32:04 - 32:10(เสียงปรบมือ)
-
32:10 - 32:14ผมหมายถึงว่า เดอะ นิวยอร์ค ไทม์
(The New York Times) ยื่นขอนิรโทษกรรมให้กับคุณ -
32:14 - 32:18คุณจะเปิดรับโอกาสในการกลับมายังอเมริกาไหมครับ
-
32:18 - 32:22เอ็ด: แน่นอนครับ นั่นไม่ต้องถามเลย
-
32:22 - 32:25หลักการที่เป็นพื้นฐาน
-
32:25 - 32:27ของโครงการนี้
-
32:27 - 32:31คือความสนใจของสังคม
-
32:31 - 32:34และหลักการที่สำคัญ
-
32:34 - 32:37ต่อการก่อตั้งสื่อสารมวลชนในสหรัฐอเมริกา
-
32:37 - 32:40และที่อื่นๆ ทั่วโลก
-
32:40 - 32:45และผมคิดว่าถ้าสื่อพูดกันตอนนี้ว่า
-
32:45 - 32:47เราสนับสนุนสิ่งนี้
-
32:47 - 32:49นี่มันเป็นอะไรบางอย่างที่จำเป็นต้องเกิดขึ้น
-
32:49 - 32:51มันเป็นการโต้แย้งที่ทรงพลัง
แต่มันไม่ใช่การโต้เถียงครั้งสุดท้าย -
32:51 - 32:54และผมคิดว่านั่นเป็นอะไรบางอย่างที่สังคมควรจะตัดสิน
-
32:54 - 32:56แต่ในเวลาเดียวกัน
-
32:56 - 32:57รัฐบาลได้บอกใบ้ว่าพวกเขาต้องการ
-
32:57 - 32:59การต่อรองอะไรบางอย่าง
-
32:59 - 33:01ที่วพกเขาต้องการให้ผมประนีประนอม
-
33:01 - 33:04กับนักข่าว ซึ่งผมก็ได้ทำอยู่
-
33:04 - 33:05เพื่อที่จะได้กลับไป
-
33:05 - 33:08และผมต้องการที่จะทำให้มันชัดเจน
-
33:08 - 33:10ว่าผมไมไ่ด้ทำไปเพื่อหวังจะปลอดภัย
-
33:10 - 33:13ผมทำสิ่งนี้เพื่อจะทำสิ่งที่ถูกต้อง
-
33:13 - 33:15และผมจะไม่หยุดทำงานชิ้นนี้
-
33:15 - 33:16ในความสนใจของสังคม
-
33:16 - 33:19แค่จะเป็นประโยชน์ต่อตัวผมเอง
-
33:19 - 33:25(เสียงปรบมือ)
-
33:25 - 33:27คริส: ในตอนนี้
-
33:27 - 33:30ด้วยความเอื้ออาทรจากอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี
-
33:30 - 33:32คุณอยู่ตรงนี้ กลับมายังอเมริกาเหนือ
-
33:32 - 33:36ไม่ค่อยจะใช่ อเมริกา แต่เป็นแคนาดา ในรูปแบบนี้
-
33:36 - 33:41ผมสงสัยจังครับ ว่ารู้สึกอย่างไร
-
33:41 - 33:43เอ็ด: แคนาดาต่างไปจากที่ผมคิดครับ
-
33:43 - 33:45มันอุ่นกว่ามากเลย
-
33:45 - 33:51(เสียงหัวเราะ)
-
33:51 - 33:54คริส: ที่ TED ปณิธานของเราคือ
"ความคิดที่ควรค่าต่อการเผยแพร่" -
33:54 - 33:56ถ้าคุณจะสามารถสรุปมันออกมาเป็นแนวคิดหนึ่ง
-
33:56 - 33:59อะไรคือความคิดที่คุณว่าน่าเผยแพร่
-
33:59 - 34:03ตอนนี้เลย
-
34:03 - 34:06เอ็ด: ผมจะบอกว่า ปีที่แล้วเป็นบันทึก
-
34:06 - 34:10ที่ว่าประชาธิปไตยอาจสิ้นอยู่ในห้องปิดตาย
-
34:10 - 34:12แต่เราผู้ซึ่งเป็นปัจเจกชนได้ถือกำเนิด
-
34:12 - 34:14ภายหลังประตูของห้องปิดตายนั้น
-
34:14 - 34:17และเราไม่จำเป็นต้องยอมเสีย
-
34:17 - 34:20ความเป็นส่วนตัวของเราให้กับรัฐบาลที่ดี
-
34:20 - 34:22เราไม่จำเป็นที่จะต้องสละสิทธิขั้นพื้นฐานของเรา
-
34:22 - 34:24เพื่อที่จะได้มาซึ่งสวัสดิภาพ
-
34:24 - 34:27และผมคิดว่า ด้วยการร่วมมือกัน
-
34:27 - 34:29เราสามารถที่จะมีได้ทั้งรัฐบาลเปิดเผย
-
34:29 - 34:31และชีวิตที่เป็นส่วนตัว
-
34:31 - 34:33และผมก็ตั้งตารอที่จะได้ร่วมมือกับทุกๆ คน
-
34:33 - 34:35ทั่วโลก เพื่อที่จะได้เห็นมันเกิดขึ้นครับ
-
34:35 - 34:37ขอบคุณมากครับ
-
34:37 - 34:39คริส: เอ็ด ขอบคุณครับ
-
34:39 - 34:48(เสียงปรบมือ)
- Title:
- วิธีการที่เราจะทวงคืนอินเทอร์เน็ต
- Speaker:
- เอ็ดเวอร์ด สโนว์เดน (Edward Snowden)
- Description:
-
เอ็ดเวอร์ด สโนว์เดน ปรากฏตัวผ่านทางหุ่นยนต์ด้วยระบบถ่ายทอดทางไกล พูดที่เวที TED2014 ถึงเรื่องการตรวจตราและอิสระภาพในอินเทอร์เน็ต เขาแนะว่า สิทธิในความเป็นส่วนตัวทางข้อมูลไม่ใช่แค่ปัญหาของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่มันต้องการการปฏิรูปความคิดในขั้นพื้นฐานถึงบทบาทของอินเทอร์เน็ตในชีวิตของเรา --และกฎหมายทีใช้ปกป้องมัน "สิทธิของคุณนั้นสำคัญ" เขากล่าว "เพราะว่าคุณไม่อาจรู้เลยว่า เมื่อใดที่คุณต้องการมัน" คริส แอนเดอร์สัน สัมภาษณ์ พร้อมกับแขกรับเชิญพิเศษ ทิม เบอร์เนอร์-ลี
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 35:17
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Here's how we take back the Internet | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for Here's how we take back the Internet | ||
Penchan Kongpet accepted Thai subtitles for Here's how we take back the Internet | ||
Penchan Kongpet edited Thai subtitles for Here's how we take back the Internet | ||
Penchan Kongpet edited Thai subtitles for Here's how we take back the Internet | ||
Penchan Kongpet edited Thai subtitles for Here's how we take back the Internet | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Here's how we take back the Internet | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Here's how we take back the Internet |