Return to Video

ใช่ค่ะ ดิฉันรอดชีวิตจากโรคมะเร็ง แต่นั่นก็ไม่ได้นิยามตัวตนของดิฉัน

  • 0:01 - 0:05
    ดิฉันเพิ่งจะได้พบคุณบนรถบัส
  • 0:05 - 0:07
    และเราก็อยากรู้จักกันมากๆนะคะ
  • 0:07 - 0:10
    แต่ดิฉันต้องลงป้ายหน้าแล้วล่ะค่ะ
  • 0:10 - 0:11
    เช่นนั้นแล้ว
  • 0:11 - 0:12
    คุณช่วยเล่าเรื่องของคุณ
  • 0:12 - 0:13
    ให้ดิฉันฟัง
  • 0:13 - 0:14
    สักสามเรื่องนะคะ
  • 0:14 - 0:18
    เรื่องที่บอก
    ถึงตัวตนของคุณ
  • 0:18 - 0:20
    สามอย่าง
    ที่เกี่ยวกับคุณ
  • 0:20 - 0:23
    ที่จะช่วยให้ดิฉันเข้าใจ
    ว่าคุณเป็นใครอย่างไร
  • 0:23 - 0:27
    สามเรื่องที่เป็นตัวตนของคุณจริงๆ
  • 0:27 - 0:30
    แล้ว ดิฉันก็นึกสงสัยว่า
  • 0:30 - 0:34
    ในสามเรื่องนั้น
  • 0:34 - 0:36
    จะมีสักเรื่องหรือเปล่า
  • 0:36 - 0:41
    ที่เป็นเรื่องที่คุณรอดชีวิต
    จากอุบัติเหตุ
  • 0:41 - 0:46
    รอดชีวิตจากโรคมะเร็ง
    รอดจากการโดนข่มขื่น
  • 0:46 - 0:48
    รอดชีวิตจากค่ายกักกันฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
  • 0:48 - 0:51
    รอดจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
    จากคนในครอบครัว
  • 0:51 - 0:55
    เคยสังเกตุกันมั้ยคะว่า
    เรามักจะอธิบายตัวตนของเรา
  • 0:55 - 0:57
    จากบาดแผลที่เรามี
  • 0:57 - 1:02
    และที่ที่ ดิฉันได้เห็น
    ความเป็นผู้รอดชีวิตเหล่านี้
  • 1:02 - 1:04
    แสดงออกมามากที่สุด
  • 1:04 - 1:07
    ก็คือสังคมของผู้ป่วยมะเร็ง
  • 1:07 - 1:08
    ตัวดิฉันเอง
    ก็อยู่ในสังคมนี้
  • 1:08 - 1:10
    มานานนะคะ
  • 1:10 - 1:11
    เพราะดิฉันเป็น
    อนุศาสนาจารย์
  • 1:11 - 1:12
    ในศูนย์ดูแลผู้ป่วย
    ระยะสุดท้าย
  • 1:12 - 1:13
    และโรงพยาบาล
  • 1:13 - 1:16
    มาเกือบ 30 ปี
  • 1:16 - 1:22
    ในปี 2005
    ดิฉันทำงานอยู่ในศูนย์มะเร็งขนาดใหญ่
  • 1:22 - 1:24
    ซึ่งนั่น
    เป็นตอนที่ดิฉันได้ทราบข่าว
  • 1:24 - 1:28
    ว่าแม่ของดิฉันเป็นมะเร็งเต้านม
  • 1:28 - 1:30
    และ 5 วันต่อมา
  • 1:30 - 1:35
    ดิฉันก็ได้ทราบว่า
    ดิฉันก็เป็นมะเร็งเต้านม
  • 1:35 - 1:38
    ดิฉันกับแม่
    เป็นพวกชอบแข่งขันน่ะค่ะ
  • 1:38 - 1:40
    (หัวเราะ)
  • 1:40 - 1:41
    แต่ดิฉันไม่ได้อยากจะแข่งกับแม่
  • 1:41 - 1:44
    ในเรื่องนี้เลยจริงๆนะคะ
  • 1:44 - 1:46
    อันที่จริงแล้ว คือ
    ดิฉันคิดว่า
  • 1:46 - 1:48
    ถ้าเกิดจะเป็นมะเร็งขึ้นมา
  • 1:48 - 1:50
    ก็สะดวกมากเลย
    ที่ได้ทำงาน
  • 1:50 - 1:51
    ในที่ที่ใช้รักษามะเร็ง
  • 1:51 - 1:52
    แต่ที่ดิฉันได้ยินบ่อยๆ
  • 1:52 - 1:55
    จากคนที่ไม่ค่อยเข้าใจ คือ
  • 1:55 - 1:55
    อะไรนะคะ?
  • 1:55 - 1:57
    คุณเป็นอนุศาสนาจารย์นะคะ
  • 1:57 - 2:00
    คุณน่าจะมีภูมิคุ้มกันสิคะ
  • 2:00 - 2:01
    ถ้าเปรียบกับการขับรถ
  • 2:02 - 2:03
    เหมือนว่า ดิฉันควรจะโดนเรียกตักเตือน
  • 2:03 - 2:04
    มากกว่าโดนใบสั่ง
  • 2:04 - 2:08
    เพราะว่าดิฉันเป็นคนในน่ะค่ะ
  • 2:08 - 2:11
    แล้วดิฉันก็รักษามะเร็ง
    ที่ศูนย์ที่ดิฉันทำงานนั่นล่ะค่ะ
  • 2:11 - 2:13
    ซี่งสะดวกสบายมากนะคะ
  • 2:13 - 2:16
    ดิฉันรับยาเคมีบำบัด
  • 2:16 - 2:18
    ตัดเต้านม และเสริมเต้านมโดยถุงน้ำเกลือ
  • 2:18 - 2:20
    และก่อนที่ดิฉัน
    จะพูดอะไรต่อไป
  • 2:20 - 2:21
    ดิฉันขอบอกก่อนเลยนะคะ
  • 2:21 - 2:25
    ข้างนี้ของปลอมค่ะ (หัวเราะ)
  • 2:25 - 2:28
    ดิฉันรู้ว่าดิฉันต้องรีบบอกค่ะ
  • 2:28 - 2:30
    เพราะดิฉันมักจะได้ยินคนพูดว่า
  • 2:30 - 2:32
    โอ้ ฉันรู้ว่าข้างนั้นล่ะ
  • 2:32 - 2:34
    แล้วดิฉันก็จะขยับ
    หรือไม่ก็ทำท่าสักอย่าง
  • 2:34 - 2:35
    แล้วพวกเขาก็จะ
  • 2:35 - 2:37
    ไม่ๆ อีกข้างนึงต่างหาก
  • 2:37 - 2:40
    งั้นตอนนี้คุณรู้แล้วนะคะ
  • 2:40 - 2:42
    ดิฉันเรียนรู้เยอะเลยค่ะ
    จากตอนที่เป็นคนไข้
  • 2:42 - 2:43
    และสิ่งที่ทำให้ดิฉันแปลกใจก็คือ
  • 2:43 - 2:47
    มีประสบการณ์แค่ส่วนน้อยเท่านั้น
    ของการเป็นมะเร็ง
  • 2:47 - 2:49
    ที่เกี่ยวกับการแพทย์
  • 2:49 - 2:54
    ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความรู้สึก
    และความศรัทธา
  • 2:54 - 2:56
    การสูญเสียและการค้นพบ
    ตัวตนของคุณ
  • 2:56 - 2:58
    การค้นพบ ความเข้มแข็ง
  • 2:58 - 3:02
    และความสามารถในการปรับตัว
    ที่คุณไม่เคยรู้ว่ามี
  • 3:02 - 3:04
    ที่ได้ประจักษ์ว่า
  • 3:04 - 3:07
    สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต
  • 3:07 - 3:10
    ไม่ใช่สิ่งของเลยค่ะ
    แต่เป็นความสัมพันธ์ต่างหาก
  • 3:10 - 3:15
    มันเกี่ยวกับการ
    หัวเราะใส่หน้าความไม่แน่นอน
  • 3:15 - 3:16
    และเรียนรู้ว่า
  • 3:16 - 3:18
    วิธีที่ดิฉันจะปลอดโปร่งโล่งใจเกือบที่สุด
  • 3:18 - 3:22
    คือการพูดว่า
    "ฉันเป็นมะเร็ง"
  • 3:22 - 3:25
    และสิ่งที่ดิฉัน
    ได้เรียนรู้คือ
  • 3:25 - 3:28
    ดิฉันไม่จำเป็นต้องรับเอา
    ความเป็น "ผู้รอดชีวิตจากมะเร็ง"
  • 3:28 - 3:30
    มาเป็นตัวตนของดิฉัน
  • 3:30 - 3:34
    แต่ว่า คุณคะ
    มันมีแรงผลักดันมากมาย
  • 3:34 - 3:37
    ที่จะให้ดิฉันรับมา
  • 3:37 - 3:42
    พวกคุณอย่าเพิ่งเข้าใจดิฉันผิดนะคะ
  • 3:42 - 3:44
    องกรณ์มะเร็งทั้งหลาย
  • 3:44 - 3:45
    และแรงผลักดันสำหรับ
  • 3:45 - 3:46
    การคัดกรองโรคมะเร็งในระยะแรกเริ่ม
  • 3:46 - 3:48
    การรณรงค์เรื่องโรคมะเร็ง
    และการวิจัยเรื่องโรคมะเร็ง
  • 3:48 - 3:50
    ได้ทำให้โรคมะเร็ง
    กลายเป็นเรื่องธรรมดา
  • 3:50 - 3:52
    และนี่เป็นสิ่งที่
    วิเศษมากนะคะ
  • 3:52 - 3:54
    ปัจจุบันเราสามารถ
    พูดถึงโรคมะเร็งได้
  • 3:54 - 3:56
    โดยที่ไม่ต้องกระซิบกระซาบ
  • 3:56 - 4:00
    เราสามารถคุยเรื่องโรคมะเร็งได้
    และเราสามารถช่วยเหลือกันได้
  • 4:00 - 4:03
    แต่ในบางที ก็รู้สึกว่า
  • 4:03 - 4:05
    บางคนก็ เยอะ เกินไปนะคะ
  • 4:05 - 4:10
    และพวกเขาเริ่มบอกว่า
    เราควรจะต้องรู้สึกยังไง
  • 4:10 - 4:13
    ประมาณหนึ่งสัปดาห์
    หลังจากการผ่าตัดของดิฉัน
  • 4:13 - 4:16
    เรามีแขกมาพักที่บ้าน
  • 4:16 - 4:19
    ซึ่งนั่นน่าจะเป็นความผิดพลาด
    ครั้งแรกของเรา
  • 4:19 - 4:20
    อย่าลืมนะคะว่า
  • 4:20 - 4:22
    ณ จุดนี้ของชีิวิตดิฉัน
  • 4:22 - 4:26
    ดิฉันเป็นอนุศาสนาจารย์ในโรงพยาบาล
    มานานกว่า 20 ปี
  • 4:26 - 4:28
    และเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นความตาย
  • 4:28 - 4:30
    ความหมายของชีวิต
  • 4:30 - 4:33
    เป็นเรื่องที่ดิฉันวุ่นวายด้วย
    มาตลอดชีวิตเลยนะคะ
  • 4:33 - 4:35
    และตอนอาหารค่ำคืนนั้น
  • 4:35 - 4:38
    แขกของเราก็ยืดแขนของเขา
    ขึ้นเหนือศีรษะ
  • 4:38 - 4:41
    แล้วพูดว่า
    "คุณรู้มั้ย, เด๊บ,
  • 4:41 - 4:45
    ตอนนี้น่ะ คุณกำลังเรียนรู้จริงๆว่า
    อะไรสำคัญ
  • 4:45 - 4:48
    อื้มม, คุณกำลังจะมี
    การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
  • 4:48 - 4:49
    ในชีวิตของคุณ,
  • 4:49 - 4:53
    แล้ว คุณก็จะเริ่มคิดถึง
    ความตายของคุณเอง
  • 4:53 - 4:57
    ช่าย, ที่คุณเป็นมะเร็งเนี่ย
    คือสัญญาณเตือนชั้นเลิศเลยนะ"
  • 4:59 - 5:01
    ใช่ค่ะ นี่คือเรื่องเดี่ยวไมโครโฟน
    ชิ้นโบว์แดง
  • 5:01 - 5:03
    จากคนที่กำลังพูดถึง
  • 5:03 - 5:06
    ประสบการณ์ของตัวเอง
  • 5:06 - 5:07
    แต่ว่า ถ้ามีใครบอกมาคุณ
  • 5:07 - 5:10
    ว่าคุณควรจะรู้สึกว่ายังไงละคะ
  • 5:10 - 5:12
    มันกลายเป็นความบ้าบอ
    ในทันทีทันใดเลยค่ะ
  • 5:12 - 5:15
    เหตุผลเดียวที่ดิฉัน
    ไม่ได้ฆ่าเขา
  • 5:15 - 5:17
    ด้วยมือเปล่า
  • 5:17 - 5:21
    เป็นเพราะว่า
    ดิฉันยังยกแขนขวาไม่ได้น่ะค่ะ
  • 5:21 - 5:26
    แต่ดิฉันก็พูดอะไรไม่น่ารักกับเขาไปนะคะ
  • 5:26 - 5:28
    และตามด้วยคำพูดแบบธรรมดาๆ
    ที่ทำให้
  • 5:28 - 5:30
    (หัวเราะ)
  • 5:30 - 5:33
    สามีดิฉันบอกเขาว่า
    "ภรรยาผมเมายาแก้ปวดครับ"
  • 5:33 - 5:35
    (หัวเราะ)
  • 5:35 - 5:37
    ซึ่งหลังจากที่ดิฉัน
    รับการรักษาเรียบร้อยนะคะ
  • 5:37 - 5:38
    ดูเหมือน
  • 5:38 - 5:41
    ทุกคนจะคอยบอกดิฉันว่าประสบการณ์
    ที่ดิฉันได้เจอมาเป็นยังไง
  • 5:41 - 5:44
    "โอ้, งั้นแปลว่าคุณจะไปเดินรณรงค์
    ด้วยใช่มั้ยครับ"
  • 5:44 - 5:45
    "โอ้, งั้นแปลว่าคุณจะมาร่วม
  • 5:45 - 5:46
    งานเลี้ยงอาหารกลางวันใช่มั้ยคะ"
  • 5:46 - 5:47
    "ถ้าอย่างนั้นคุณจะต้องติด
  • 5:47 - 5:49
    ริบบิ้นสีชมพู ใส่เสื้อสีชมพู
  • 5:49 - 5:51
    มีผ้าคาดหัวชมพู มีต่างหูชมพู
  • 5:51 - 5:55
    สร้อยคอสีชมพู แล้วก็กางเกงในสีชมพูด้วยสิ"
  • 5:55 - 5:58
    กางเกงใน พูดจริงรึเปล่าคะเนี่ย
    หาดูในกูเกิ้ลแล้วยังคะ
  • 5:58 - 6:00
    (หัวเราะ)
  • 6:00 - 6:02
    อันนั้นจะช่วยณรงค์เรื่องมะเร็งยังไงคะเนี่ย
  • 6:02 - 6:04
    สามีเป็นคนเดียวที่น่าจะได้เห็น
    กางเกงในของดิฉันนะคะ
  • 6:04 - 6:06
    (หัวเราะ)
  • 6:06 - 6:10
    และเขาก็รู้เรื่องโรคมะเร็งพอสมควรแล้วค่ะ
  • 6:10 - 6:13
    มันเป็นช่วงที่ดิฉันคิดว่า "พระเจ้าเจ้าคะ
  • 6:13 - 6:16
    เรื่องนี้มันขโมยชีวิตลูกไปเลยนะเจ้าคะ"
  • 6:16 - 6:18
    และนั่นเป็นตอนที่ดิฉันบอกตัวเองว่า
  • 6:18 - 6:21
    เธอต้องครอบครองประสบการณ์ของเธอสิ
  • 6:21 - 6:25
    อย่าให้มันครอบงำเธอ
  • 6:25 - 6:27
    เราทุกคนต่างรู้ดีว่า
  • 6:27 - 6:31
    วิธีที่จะรับมือกับความบาดเจ็บ สูญเสีย
  • 6:31 - 6:34
    กับประสบการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนชีวิตเรา
  • 6:34 - 6:36
    คือการค้นหาความหมาย
  • 6:36 - 6:38
    แต่ปัญหาก็คือว่า
  • 6:38 - 6:40
    ใครก็บอกเราไม่ได้นะคะ
  • 6:40 - 6:43
    ว่าประสบการณ์ของเรา
    ตีความว่าอย่างไร
  • 6:43 - 6:46
    เราต้องตีความมันเอง
  • 6:46 - 6:48
    และมันก็ไม่จำเป็นต้อง
    เป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่
  • 6:48 - 6:50
    หรือต้องประกาศให้โลกรู้นะคะ
  • 6:50 - 6:52
    เราไม่จำเป็นต้องตั้งมูลนิธิ
  • 6:52 - 6:55
    หรือองกรณ์ หรือเขียนหนังสือ
  • 6:55 - 6:58
    หรือทำสารคดีก็ได้นะคะ
  • 6:58 - 7:00
    ความหมายจะเป็นอะไรเงียบๆก็ได้
  • 7:00 - 7:03
    หรือเป็นเรื่องของเราคนเดียว
  • 7:03 - 7:09
    บางที การตัดสินใจเล็กๆ
    เกี่ยวกับชีิวิตของเรา
  • 7:09 - 7:14
    ก็นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
  • 7:14 - 7:16
    หลายปีก่อน คนไข้ของดิฉัน
  • 7:16 - 7:18
    หนุ่มน้อยที่น่ารักมาก
  • 7:18 - 7:20
    เขาเป็นที่รักของทีมแพทย์
  • 7:20 - 7:21
    และเราก็ตกใจมาก
  • 7:21 - 7:23
    ที่ได้ทราบว่า
  • 7:23 - 7:27
    เขาไม่มีเพื่อนเลย
  • 7:27 - 7:29
    เขาอยู่คนเดียวนะคะ
  • 7:29 - 7:33
    มารับยาเคมีบำบัดคนเดียว
  • 7:33 - 7:35
    เขาจะมารับการรักษา
  • 7:35 - 7:39
    และเดินกลับบ้านคนเดียว
  • 7:39 - 7:41
    ดิฉันจึงพูดกับเขาว่า "ตัวเธอ
  • 7:41 - 7:43
    ทำไมถึงไม่เคยพาเพื่อนมาด้วยเลยละจ๊ะ"
  • 7:43 - 7:48
    เขาพูดว่า "ผมไม่ค่อยมีเพื่อนหรอกฮะ"
  • 7:48 - 7:50
    แต่เขามีเพื่อนเยอะนะคะ
    ที่ชั้นให้ยาทางเส้นเลือด
  • 7:50 - 7:55
    เรารักเขากันทุกคนค่ะ
    มีคนเดินเข้าออกห้องเขาตลอดเวลา
  • 7:55 - 7:58
    และ ตอนที่เขามารับ
    ยาเคมีบำบัดครั้งสุดท้าย
  • 7:58 - 7:59
    พวกเราร้องเพลงให้เขา
  • 7:59 - 8:02
    เราสวมมงกุฏให้เขา
    เป่าฟองลูกโป่ง
  • 8:02 - 8:04
    และดิฉันก็ถามเขาว่า
  • 8:04 - 8:09
    "หลังจากนี้ เธอจะทำอะไรต่อล่ะ"
  • 8:09 - 8:11
    และเขาก็ตอบว่า
  • 8:11 - 8:12
    "หาเพื่อนฮะ"
  • 8:12 - 8:14
    และเขาก็ทำได้ค่ะ
  • 8:14 - 8:18
    เขาเริ่มทำงานอาสาสมัคร
    และรู้จักเพื่อนใหม่ที่นั่น
  • 8:18 - 8:21
    เขาเริ่มไปโบสถ์
    และมีเพื่อนใหม่ที่โบสถ์
  • 8:21 - 8:24
    เขาเชิญดิฉันกับสามีไปงานเลี้ยง
    คริสมาสต์ที่อพาร์ตเมนต์
  • 8:24 - 8:29
    ที่นั่นมีเพื่อนของเขา
    อยู่เต็มเลยค่ะ
  • 8:29 - 8:31
    จงครอบครองประสบการณ์
  • 8:31 - 8:33
    อย่าให้มันครอบงำคุณ
  • 8:33 - 8:37
    เขาตัดสินใจว่า
    ประสบการณ์นี้ของเขา
  • 8:37 - 8:41
    คือการได้เรียนรู้
    ความสุขของมิตรไมตรี
  • 8:41 - 8:46
    และเรียนรู้จะมีเพื่อนใหม่ๆ
  • 8:46 - 8:50
    แล้วคุณละคะ
  • 8:50 - 8:52
    คุณจะหาความหมาย
  • 8:52 - 8:55
    จากประสบการณ์ห่วยแตกของคุณอย่างไร
  • 8:55 - 8:56
    อาจจะเป็นเรื่องล่าสุดก็ได้
  • 8:56 - 8:58
    หรืออาจจะเป็นเรื่องที่คุณแบกไว้
  • 8:58 - 9:02
    มาแสนนาน
  • 9:02 - 9:07
    มันไม่สายเกินไปหรอกค่ะ
    ที่จะเปลี่ยนความหมาย
  • 9:07 - 9:09
    เพราะความหมาย
    เป็นสิ่งที่ลื่นไหล
  • 9:09 - 9:11
    ความหมายอย่างหนึ่งวันนี้
  • 9:11 - 9:13
    ใน 1 ปีให้หลัง อาจไม่เหมือนเดิม
  • 9:13 - 9:16
    หรืออีก 10 ปี จากนี้ไป
  • 9:16 - 9:18
    มันไม่สายเกินไปที่จะเป็นอะไรที่มากกว่า
  • 9:18 - 9:22
    แค่ ผู้รอดชีวิต
  • 9:22 - 9:25
    ฟังดูสิคะว่าคำนี้มันแน่นิ่งแค่ไหน
  • 9:25 - 9:27
    ผู้รอดชีวิต
  • 9:27 - 9:31
    ไม่มีการเคลื่อนไหว
    ไม่มีการเติบโต
  • 9:31 - 9:33
    จงครอบครองประสบการณ์
  • 9:33 - 9:36
    อย่าให้มันครอบงำคุณ
    เพราะถ้าคุณปล่อยให้เป็นเช่นนั้น
  • 9:36 - 9:39
    ดิฉันมั่นใจ ว่าคุณจะติดกับดัก
  • 9:39 - 9:45
    คุณจะไม่เติบโต
    ไม่พัฒนา
  • 9:45 - 9:48
    ใช่ค่ะ ในบางครั้ง
    มันก็ไม่ใช่แรงกดดันภายนอกหรอกค่ะ
  • 9:48 - 9:53
    ที่ทำให้เรายอมรับตัวตน
    ของการเป็นผู้รอดชีวิต
  • 9:53 - 9:57
    บางครั้ง เราก็ชอบที่จะเป็นจุดสนใจ
  • 9:57 - 10:00
    บางคราว มันก็เป็นรางวัล
  • 10:00 - 10:04
    แต่แล้ว เราก็จะติดอยู่ตรงนั้น
  • 10:04 - 10:06
    สิ่งแรกๆ ที่ดิฉันได้เรียนรู้
  • 10:06 - 10:10
    ตอนเป็นอนุศาสนาจารย์ฝึกหัด คือ
    3 อ.
  • 10:10 - 10:12
    ในอาชีพอนุศาสนาจารย์
  • 10:12 - 10:16
    (ความ)อบอุ่นใจ (การ)อธิบาย
    และถ้าหากจำเป็น
  • 10:16 - 10:19
    ก็ให้(พูด)อัดไปตรงๆ
  • 10:19 - 10:21
    หรือให้ท้าทายความคิด
  • 10:21 - 10:23
    เราทุกคนชอบความอุ่นใจ
  • 10:23 - 10:25
    และการอธิบายนะคะ
  • 10:25 - 10:30
    แต่ไม่ค่อยชอบ การที่ต้องอัดกันตรงๆ
    สักเท่าไหร่
  • 10:30 - 10:32
    อย่างหนึ่งที่ดิฉันชอบมาก
  • 10:32 - 10:35
    จากการทำงานเป็นอนุศาสนาจารย์
    ก็คือ
  • 10:35 - 10:39
    การได้เจอคนไข้
    สักปีหรือหลายๆปี
  • 10:39 - 10:41
    หลังจากที่จบการรักษา
  • 10:41 - 10:42
    นั่นเพราะว่า
  • 10:42 - 10:43
    มันยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ
  • 10:43 - 10:45
    ที่ได้เห็นพวกเขาเปลี่ยนแปลง
  • 10:45 - 10:46
    เห็นว่าชีวิตพวกเขา
    ดีขึ้นอย่างไร
  • 10:46 - 10:48
    และได้รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น
    กับพวกเขาบ้าง
  • 10:48 - 10:50
    มีวันหนึ่งค่ะ
    ที่ดิฉันปลื้มใจมาก
  • 10:50 - 10:53
    มีข้อความแจ้งให้ดิฉันลงไป
    ที่ชั้นล็อบบี้ของคลินิก
  • 10:53 - 10:56
    ซึ่งข้อความนี้มาจากคนไข้
    ที่ดิฉันเคยพบเมื่อหลายปีก่อน
  • 10:56 - 10:59
    เธอมากับลูกสาวสองคน
    ที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
  • 10:59 - 11:03
    ซึ่งดิฉันก็รู้จักจากช่วงหนึ่งปีนี้
    ที่มาตรวจติดตามการรักษา
  • 11:03 - 11:06
    ดิฉันก็ลงไปที่ล็อบบี้ค่ะ
    ตอนนั้นพวกเขากำลังแฮปปี้มากๆ
  • 11:06 - 11:09
    เพราะคนไข้เพิ่งได้ทราบ
    ผลการตรวจทั้งหมด
  • 11:09 - 11:15
    และเธอ ม.พ.ห.ร.
    ไม่พบหลักฐานของโรค
  • 11:15 - 11:20
    ซึ่งดิฉันเคยคิดว่าแปลว่า
    ไม่ตายพรุ่งนี้หรือมะรืน
  • 11:20 - 11:25
    คือพวกเขาก็แฮปปี้มากค่ะ
    เราเลยนั่งคุยกัน
  • 11:25 - 11:28
    และมันก็แปลกมากนะคะ
    เพราะว่า
  • 11:28 - 11:29
    ใน 2 นาทีที่เราเริ่มคุยกัน
  • 11:29 - 11:32
    คนไข้ก็เริ่มเล่าเรื่องเก่าๆให้ดิฉันฟัง
  • 11:32 - 11:33
    ว่าเธอรู้ว่าเธอเป็นมะเร็งได้อย่างไร
  • 11:33 - 11:36
    การผ่าตัดและยาเคมีบำบัดเป็นอย่างไร
  • 11:36 - 11:40
    ทั้งๆที่ดิฉันเป็นอนุศาสนาจารย์
    ที่เจอเธอทุกสัปดาห์
  • 11:40 - 11:43
    ทั้งๆที่ดิฉันก็รู้เรื่องนี้นะคะ
  • 11:43 - 11:46
    และเธอเลือกใช้คำเช่นว่า
    ทนทุกข์ทรมาน
  • 11:46 - 11:50
    สุดแสนเศร้าหมอง
    ต้องตรากตรำ
  • 11:50 - 11:52
    และเธอก็ลงท้าย
    เรื่องของเธอด้วย
  • 11:52 - 11:57
    "ฉันรู้สึกเหมือนโดนตรึงกางเขน"
  • 11:57 - 12:00
    และตอนนั้นเองค่ะ ที่ลูกสาวของเธอ
    ลุกขึ้นและบอกว่า
  • 12:00 - 12:04
    "ไปซื้อกาแฟก่อนนะคะ"
  • 12:04 - 12:07
    แล้วก็ไปค่ะ
  • 12:07 - 12:10
    เล่าให้ดิฉันฟังสักสามเรื่อง
    ก่อนจะถึงป้ายหน้าสิคะ
  • 12:10 - 12:12
    หลายๆคนลุกออกไปก่อน
    ที่เธอจะเล่าถึง
  • 12:12 - 12:18
    เรื่องที่สอง ที่สาม
  • 12:18 - 12:21
    ดิฉันก็เลยยื่นทิชชู่ให้
  • 12:21 - 12:25
    และกอดเธอ
  • 12:25 - 12:28
    เพราะดิฉันรู้สึกเป็นห่วงเธอมาก
  • 12:28 - 12:30
    ดิฉันเลยบอกเธอว่า
  • 12:30 - 12:33
    "ลงมาจากไม้กางเขนสิคะ"
  • 12:33 - 12:37
    และเธอพูดว่า "ว่าอะไรนะคะ"
  • 12:37 - 12:42
    ดิฉันก็เลยพูดซ้ำ
    "ลงมาจากไม้กางเขนเถอะค่ะ"
  • 12:42 - 12:47
    มันเป็นเครดิตของเธอนะคะ
    เธอสามารถอ้างเหตุผล
  • 12:47 - 12:52
    ที่จะรับเอาตัวตนนี้และยึดมันไว้
  • 12:52 - 12:54
    เพราะมันทำให้เธอเป็นจุดสนใจ
  • 12:54 - 12:57
    หลายๆคนดูแลเธอเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
  • 12:57 - 13:01
    แต่ตอนนี้ ผลลัพท์มันตรงกันข้ามค่ะ
  • 13:01 - 13:03
    มันเป็นการผลักไสคนอื่นๆออกไป
  • 13:03 - 13:07
    หลายๆคนจึงเลือกเดินออกไปซื้อกาแฟ
  • 13:07 - 13:11
    เธอรู้สึกว่าเธอโดนตรึงกางเขน
    จากประสบการณ์ของเธอ
  • 13:11 - 13:17
    แต่เธอไม่ยอมปล่อยให้ตัวเธอ
    ที่โดนตรึงกางเขนนั้นตาย
  • 13:17 - 13:20
    ตอนนี้ คุณอาจจะรู้สึกว่า
  • 13:20 - 13:23
    ดิฉันอาจจะโหดกับเธอไปสักหน่อย
  • 13:23 - 13:25
    ดิฉันขอบอกกับพวกคุณว่า
  • 13:25 - 13:29
    ดิฉันพูดจากประสบการณ์ตรงค่ะ
  • 13:29 - 13:32
    หลายปีก่อน
  • 13:32 - 13:35
    ดิฉันโดนไล่ออก
    จากงานที่ดิฉันรัก
  • 13:35 - 13:39
    และดิฉันไม่เคยหยุดเล่าถึง
    ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
  • 13:39 - 13:42
    และความอยุติธรรม การหักหลัง
    และความหลอกลวง
  • 13:42 - 13:44
    จนในที่สุด
    เหมือนเธอคนนี้เลยค่ะ
  • 13:44 - 13:45
    หลายๆคนเลือกจะเดินหนีดิฉัน
  • 13:45 - 13:49
    จนเมื่อดิฉันคิดได้ว่า
  • 13:49 - 13:52
    ดิฉันไม่ได้แค่กำลัง
    ประมวลความรู้สึกของตัวเอง
  • 13:52 - 13:55
    แต่ดิฉันกำลังให้อาหารพวกมัน
  • 13:55 - 13:59
    ดิฉันไม่ต้องการให้ตัวดิฉัน
    ที่โดนตรึงกางเขนตาย
  • 13:59 - 14:05
    เราทุกคนก็คงรู้ว่า
    การจะฟื้นคืนชีพได้นั้น
  • 14:05 - 14:07
    เราจำเป็นต้องตายก่อนนะคะ
  • 14:07 - 14:09
    เรื่องเล่าของคริสต์ชน
    กล่าวว่า
  • 14:09 - 14:12
    พระเยซูสิ้นพระชนม์ในสุสาน
    อยู่หนึ่งวันเต็มๆ
  • 14:12 - 14:15
    ก่อนที่จะฟื้นคืนพระชนม์
  • 14:15 - 14:17
    และดิฉันเชื่อว่า
    สำหรับเรา
  • 14:17 - 14:19
    การอยู่ในสุสาน
  • 14:19 - 14:23
    อาจหมายถึงการพิจารณาจิตใจอย่างหนัก
  • 14:23 - 14:25
    ในเรื่องแผลของเรา
  • 14:25 - 14:30
    และยอมให้ตัวเรา
    ได้รับการเยียวยา
  • 14:30 - 14:33
    เราต้องยอมให้ ตัวเรา
    ที่โดนตรึงกางเขนนั้น ตายไป
  • 14:33 - 14:36
    เพื่อที่ตัวตนใหม่
    ตัวตนจริงแท้ของเรา
  • 14:36 - 14:39
    จะได้ถือกำเนิด
  • 14:39 - 14:42
    เราต้องยอมปล่อย
    เรื่องเก่าๆทิ้งไป
  • 14:42 - 14:46
    เพื่อให้เรื่องใหม่
    เรื่องที่แท้จริงยิ่งกว่า
  • 14:46 - 14:49
    ได้ถูกกล่าวถึง
  • 14:49 - 14:55
    จงครอบครองประสบการณ์
    อย่าให้มันครอบงำคุณ
  • 14:55 - 14:57
    ถ้าหาก ไม่มี ผู้รอดชีวิตละคะ
  • 14:57 - 15:00
    หมายถึง ถ้าหากหลายๆคน
    ตัดสินใจ
  • 15:00 - 15:03
    ตีความการบาดเจ็บ
    เป็นเพียง ประสบการณ์
  • 15:03 - 15:07
    แทนที่จะให้มันกลายเป็น ตัวตน
  • 15:07 - 15:09
    นั่นอาจจะเป็น จุดสิ้นสุด
  • 15:09 - 15:11
    ของการติดอยู่ในบาดแผลของเรา
  • 15:11 - 15:15
    และเป็นการเริ่มต้นที่เยี่ยมยอด
  • 15:15 - 15:19
    ของการสำรวจตัวเอง การค้นพบ
    และการเติบโต
  • 15:19 - 15:24
    มันอาจจะเป็นการเริ่มต้น
    การนิยามตัวเรา
  • 15:24 - 15:26
    ด้วยตัวตนเราได้เป็น
  • 15:26 - 15:30
    และตัวตนที่เราจะเป็นได้ในกาลถัดไป
  • 15:30 - 15:36
    บางที การเป็นผู้รอดชีวิต
    อาจจะไม่ใช่
  • 15:36 - 15:41
    หนึ่งในสามเรื่อง
    ที่คุณอยากเล่าให้ดิฉันฟัง
  • 15:41 - 15:43
    ไม่เป็นไรค่ะ
  • 15:43 - 15:45
    ดิฉันขอบอกกับพวกคุณทุกคนว่า
  • 15:45 - 15:49
    ดิฉันรู้สึกยินดีมาก
    ที่เราได้ขึ้นรถบัสคันเดียวกัน
  • 15:49 - 15:53
    และดิฉันต้องลงป้ายนี้แล้วล่ะค่ะ
  • 15:53 - 15:58
    (ปรบมือ)
Title:
ใช่ค่ะ ดิฉันรอดชีวิตจากโรคมะเร็ง แต่นั่นก็ไม่ได้นิยามตัวตนของดิฉัน
Speaker:
เดบร้า จารวิส
Description:

เดบร้า จารวิส เป็นอนุศาสนาจารย์ในโรงพยาบาล นานเกือบ 30 ปี เมื่อตอนที่เธอได้รู้ว่าเธอเป็นมะเร็ง และเธอก็ได้เรียนรู้หลายๆอย่างจากการเป็นผู้ป่วย
ในทอล์คที่หลักแหลมและท้าทายนี้ เธอพูดถึงเรื่อง ตัวตนของ "การเป็นผู้รอดชีวิต" ว่าให้ความรู้สึกที่ นิ่งเรียบ เธอชวนให้เรานึกถึงประสบการณ์ที่ยากลำบาก ขณะเดียวกัน ก็ให้ช่องว่างให้ตัวเองได้เติบโตและพัฒนา

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
16:09

Thai subtitles

Revisions