โบว์ ล๊อตโต้ (Beau Lotto) + เอมี่ โอทูล (Amy O’Toole): วิทยาศาสตร์สำหรับทุกคน รวมเด็กๆด้วยนะ
-
0:01 - 0:04โบว์ ล๊อตโต้ : เอาละครับ เกมส์นี้ง่ายมากๆ
-
0:04 - 0:08คุณแค่อ่านสิ่งที่คุณเห็น ตกลงไหมครับ
-
0:08 - 0:11เอาละครับ ผมจะนับนะ เราจะได้ทำไปพร้อมๆกัน
-
0:11 - 0:13โอเค หนึ่ง สอง สาม
ผู้ชม : Can you read this? -
0:13 - 0:18โบว์: น่าทึ่งมาก แล้วนี่ละครับ หนึ่ง สอง สาม
ผู้ชม : You are not reading this. -
0:18 - 0:23โบว์: เอาละครับ หนึ่ง สอง สาม (เสียงหัวเราะ)
-
0:23 - 0:28ถ้าคุณเป็นคนโปรตุเกส นะครับ แล้วนี่ละครับ
หนึ่ง สอง สาม -
0:28 - 0:30ผู้ชม: What are you reading?
-
0:30 - 0:33โบว์: What are you reading? นั่นมันไม่มีคำเลยนะ
-
0:33 - 0:36ผมบอกว่า อ่านสิ่งที่คุณเห็น ใช่ไหมครับ
-
0:36 - 0:40ตามตัวอักษรต้องอ่านว่า "อ่น ไร ยู่" (เสียงหัวเราะ)
ใช่ไหมครับ -
0:40 - 0:44นั่นเป็นสิ่งที่คุณควรจะพูด ใช่ไหมครับ
แล้วทำไมเป็นอย่างนี้เล่า -
0:44 - 0:47ก็เพราะว่า การรับรู้
ถูกฝังอยู่ในประสบการณ์ของเรา -
0:47 - 0:50ใช่ไหมครับ สมองรับเอาข้อมูลที่ไม่มีความหมาย
-
0:50 - 0:53และสร้างความหมายจากมัน
ซึ่งหมายความว่า เราไม่ได้เห็นเลย -
0:53 - 0:55ว่ามีอะไรอยู่ตรงนั้น
เราไม่ได้เห็นข้อมูลเลย -
0:55 - 0:58เราแค่เห็น สิ่งที่เป็นประโยชน์ ในอดีต
-
0:58 - 1:01ใช่ไหมครับ ซึ่งหมายความว่า
เมื่อมาพูดถึงเรื่อง การรับรู้ -
1:01 - 1:08เราทุกคนก็เหมือน กบตัวนี้
-
1:08 - 1:09(เสียงหัวเราะ)
-
1:09 - 1:12ใช่ไหมครับ มันได้รับข้อมูล
มันสร้างพฤติกรรม -
1:12 - 1:17ที่เป็นประโยชน์ (เสียงหัวเราะ)
-
1:17 - 1:24(เสียงหัวเราะ)
-
1:24 - 1:30(วีดีโอ) ผู้ชาย: โอ้ย โอ้ย
(เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ) -
1:30 - 1:33โบว์: และบางที เมื่อไม่ได้ดั่งใจ
-
1:33 - 1:35เราก็รู้สึกรำคาญนิดหน่อย ใช่ไหมครับ
-
1:35 - 1:37แต่ว่า เรากำลังพูดเรื่อง การรับรู้ ใช่ไหมครับ
-
1:37 - 1:42และการรับรู้ เป็นรากฐานของทุกอย่าง
ที่เราคิด เรารู้ -
1:42 - 1:45เราเชื่อ ความหวังของเรา ความฝัน
เสื้อผ้าที่เราใส่ -
1:45 - 1:48การตกหลุมรัก ทุกอย่างเริ่มต้นที่ การรับรู้
-
1:48 - 1:51ทีนี้ ถ้าการรับรู้ ถูกฝังอยู่ในอดีตของเรา
หมายถึงว่า -
1:51 - 1:55เราเพียงแค่ตอบสนอง
ตามสิ่งที่เราเคยทำมาก่อน -
1:55 - 1:58แต่จริงๆแล้ว มันเป็นปัญหาที่ใหญ่โตมาก
-
1:58 - 2:02เพราะว่า เราจะเห็นต่างกันได้อย่างไร
-
2:02 - 2:06ทีนี้ ผมต้องการที่จะบอกคุณ
เรื่องของการเห็นต่างกัน -
2:06 - 2:10การรับรู้แบบใหม่ๆทั้งหมด
เริ่มต้นด้วยวิธีเดียวกัน -
2:10 - 2:12มันเริ่มจากคำถาม
-
2:12 - 2:15ปัญหาเกี่ยวคำถามก็คือ
มันสร้างความไม่มั่นใจ -
2:15 - 2:18ทีนี้ ความไม่มั่นใจ
เป็นสิ่งที่แย่มากๆ ทางวิวัฒนาการ -
2:18 - 2:22แย่มากๆ ถ้าคุณไม่แน่ใจว่า นั่นใช่ผู้ล่าหรือไม่
มันก็สายไปเสียแล้ว -
2:22 - 2:23ใช่ไหมครับ (เสียงหัวเราะ)
-
2:23 - 2:26แม้แต่การเมาเรือ ก็เป็นผลลัพท์มาจาก
ความไม่แน่ใจ -
2:26 - 2:29ใช่ไหมครับ ถ้าคุณลงไปในเรือ หูชั้นในของคุณ
-
2:29 - 2:31กำลังบอกคุณว่า คุณกำลังเคลื่อนที่
แต่ตาคุณ เพราะว่า -
2:31 - 2:33มันกำลังเคลื่อนคล้องจองไปกับเรือ
บอกว่าคุณยืนอยู่กับที่ -
2:33 - 2:38สมองของคุณ ไม่สามารถจัดการกับความไม่แน่นอน
ของข้อมูลนั้นได้ มันจึงรู้สึกป่วย -
2:38 - 2:42คำถามว่า "ทำไม" เป็นสิ่งที่อันตรายที่สุดสิ่งหนึ่ง
ที่คุณทำได้ -
2:42 - 2:45เพราะว่า ทำให้คุณเข้าไปสู่ความไม่แน่นอน
-
2:45 - 2:47แต่ ราวกับประชด
หนทางเดียวที่เราจะสามารถ -
2:47 - 2:51ทำอะไรใหม่ๆได้ก็คือ การก้าวเข้าไปในที่ว่างตรงนั้น
-
2:51 - 2:54ดังนั้น เราจะทำสิ่งใหม่ๆได้อย่างไร โชคยังดี
-
2:54 - 2:58ที่วิวัฒนาการ ได้ให้คำตอบกับเราแล้ว ใช่ไหมครับ
-
2:58 - 3:01และมันสามารถทำให้เรา
จัดการกับปัญหาที่ยากที่สุด -
3:01 - 3:06ปัญหาที่ดีที่สุดก็คือ ปัญหาที่สร้างความไม่แน่นอน
ได้มากที่สุด -
3:06 - 3:10ปัญหาที่ถามถึง สิ่งที่เราคิดว่าจริงอยู่แล้ว ใช่ไหมครับ
-
3:10 - 3:12มันง่ายที่จะถามว่า ชีวิตเริ่มต้นอย่างไร
-
3:12 - 3:15หรือเกินออกไปจากจักรวาลแล้วมีอะไร
แต่การถามถึง สิ่งที่คุณคิดว่าถูกอยู่แล้ว -
3:15 - 3:18จริงๆเป็นการก้าวเข้าไปในที่ว่างตรงนั้น
-
3:18 - 3:23ดังนั้นอะไรเป็นคำตอบของวิวัฒนาการ
ต่อปัญหาความไม่แน่นอนเล่า -
3:23 - 3:25มันคือการเล่น
-
3:25 - 3:29การเล่นไม่ใช่เป็นเพียงกระบวนการพื้นๆ
ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเล่นจะบอกคุณ -
3:29 - 3:32ว่าจริงๆแล้ว มันเป็นวิถีของการเป็นอยู่
-
3:32 - 3:35การเล่น เป็นหนึ่งเดียวของความพยายามของคน
ที่ความไม่แน่นอน -
3:35 - 3:39ตามจริงแล้ว ได้รับการสรรเสริญ
ความไม่แน่นอนทำให้การเล่นสนุก -
3:39 - 3:43จริงไหมครับ มันปรับไปได้ตามการเปลี่ยนแปลง
มันเปิดให้มีความเป็นไปได้ -
3:43 - 3:47และมันก็เป็นการทำงานร่วมกัน
จริงๆแล้วมันคือวิธีที่เราสัมพันธ์กันทางสังคม -
3:47 - 3:49และมันถูกปลุกเร้าขึ้นตามพื้นฐานธรรมชาติ
หมายความว่า -
3:49 - 3:54เราเล่นกัน
การเล่นเป็นรางวัลในตัวของมันเอง -
3:54 - 3:58ทีนี้ ถ้าลองดูวิถีของการเป็นอยู่ ห้าข้อ
-
3:58 - 4:00มันเป็นวิถีของการเป็นอยู่
ที่คุณจำเป็นต้องมี -
4:00 - 4:02เมื่ออยากจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดี
-
4:02 - 4:05วิทยาศาสตร์ ไม่ได้ถูกนิยาย
ในรายงานตอนที่เกี่ยวกับวิธีการ -
4:05 - 4:08แท้จริงแล้ว มันเป็นวิถีการเป็นอยู่ ที่อยู่ตรงนี้
และเป็นจริง -
4:08 - 4:11กับทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างสรรค์
-
4:11 - 4:15ถ้าหากคุณเพิ่มกติกา ในการเล่นเกมส์
-
4:15 - 4:18จริงๆแล้ว นั่นก็คือการทดลอง
-
4:18 - 4:20ดังนั้น ติดอาวุธด้วยความคิดสองข้อนี้
-
4:20 - 4:24ว่า วิทยาศาสตร์คือวิถีการเป็นอยู่
และการทดลองคือการเล่น -
4:24 - 4:28พวกถามว่า ทุกคนสามารถเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ไหม
-
4:28 - 4:31และใครเล่า จะมาตอบปัญหานี้ได้ดีไปกว่า
เด็กวัย 25 ถึง 10 ขวบ -
4:31 - 4:35เพราะพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเล่น
ผมจึงเอาสนามผึ้งน้อยของผม -
4:35 - 4:38ไปที่โรงเรียนเล็กๆแห่งหนึ่งใน เดวอน
และจุดประสงค์ในครั้งนี้ -
4:38 - 4:43ไม่ใช่เพียงแค่ให้เด็กๆมองวิทยาศาสตร์
แบบที่ต่างออกไป -
4:43 - 4:47แต่ โดยผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ให้เห็นตัวเองในแบบที่ต่างออกไป -
4:47 - 4:51ขั้นแรกเลยคือการถามคำถาม
-
4:51 - 4:54ทีนี้ ผมควรบอกดีไม๊ว่า
เราไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนการทดลองนี้เลย -
4:54 - 4:57เพราะนักวิทยาศาสตร์บอกว่า
เด็กๆตัวเล็กๆไม่สามารถ -
4:57 - 5:01ทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับวงการวิทยาศาสตรได้
และครูก็บอกว่า เด็กๆทำไม่ได้หรอก -
5:01 - 5:05ฉะนั้น เราก็ทำมันอยู่ดีนั่นแแหละ แน่นอน
-
5:05 - 5:08นี่คือคำถามบางส่วน ผมพิมพ์ด้วยอักษรตัวเล็ก
-
5:08 - 5:12คุณจะได้ไม่ต้องไปสนใจอ่าน
จุดประสังค์คือ คำถามห้าข้อที่เด็กๆคิดขึ้นนั้น -
5:12 - 5:17จริงๆแล้ว เป็นแก่นของการพิมพ์เผยแพร่ทางวิทยาศาสตร์
ในช่วงห้าถึง 15 ปีที่ผ่านมา -
5:17 - 5:19พวกเขาถามคำถามที่สำคัญ
-
5:19 - 5:22ต่อนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ
-
5:22 - 5:26ทีนี้ ผมอยากที่จะแบ่งปันเวทีนี้
กับคนที่ค่อนข้างพิเศษคนหนึ่งครับ -
5:26 - 5:28เธอเป็นเยาวชนคนหนึ่ง ที่เข้าร่วมในการศึกษานี้
-
5:28 - 5:31และขณะนี้เธอเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์
ที่มีผลงานตีพิมพ์ ที่อายุน้อยที่สุดในโลก -
5:31 - 5:35เมื่อเธอก้าวขึ้นมาบนเวทีนี้นะครับ
-
5:35 - 5:38เธอจะเป็นบุคคลที่อายุน้อยที่สุด
ที่เคยมาพูดที่ TED -
5:38 - 5:41ทีนี้ วิทยาศาสตร์และการถามคำถาม
มันเกี่ยวกับความกล้า -
5:41 - 5:44ตอนนี้เธอเป็นตัวอย่างของความกล้า เพราะว่า
-
5:44 - 5:46เธอกำลังจะมายืนตรงนี้ และพูดกับคุณทุกคน
-
5:46 - 5:51เอาละ เอมี่ กรุณาขึ้นมาเลยครับ (เสียงปรบมือ)
-
5:51 - 5:58(เสียงปรบมือ)
-
5:58 - 6:01เอาละ เอมี่กำลังจะช่วยผม
เล่าเรื่องที่เราเรียกว่า -
6:01 - 6:03โครงงานผึ้งแบลคออตัน
อย่างแรกเลย เธอจะบอกคุณ -
6:03 - 6:06ถึงคำถามที่พวกเขาคิดขึ้น
เชิญเลยครับเอมี่ -
6:06 - 6:08เอมี่ โอทูล : ขอบคุณค่ะ โบว์ เราคิดว่า
-
6:08 - 6:11มันง่ายที่เราจะเห็นการเชื่อมต่อ
ระหว่างคนและลิง -
6:11 - 6:14ในแนวทางที่เราคิด เพราะว่าเราดูคล้ายกัน
-
6:14 - 6:17แต่เราสงสัยว่า ถ้ามันจะมีการเชื่อมต่อ
-
6:17 - 6:21กับสัตว์ชนิดอื่น มันคงน่าตื่นเต้น ถ้าคนและผึ้ง
-
6:21 - 6:25คิดอะไรคล้ายๆกัน เพราะพวกมันดูต่างจากเรามาก
-
6:25 - 6:29เราเลยสงสัยว่า คนและผึ้งอาจแก้ปัญหา
-
6:29 - 6:31ที่ซับซ้อนด้วยวิธีการเดียวกันหรือไม่
-
6:31 - 6:34จริงๆแล้ว เราต้องการจะรู้ว่าผึ้งสามารถปรับตัว
-
6:34 - 6:38ต่อสถานการณ์ใหม่ๆ โดยอาศัยกฎเกณฑ์
-
6:38 - 6:42และเงื่อนไขที่เรียนรู้มาก่อนหน้านั้น ได้หรือไม่
แล้วจะอย่างไร ถ้าผึ้งคิดเหมือนเรา -
6:42 - 6:45มันคงจะน่าตื่นเต้น เพราะว่าเรากำลังพูดถึงแมลง
-
6:45 - 6:47ที่มีเซลล์สมองแค่หนึ่งล้านเซลล์
-
6:47 - 6:49แต่ จริงๆ มันสมเหตุผลอย่างมาก
ว่ามันควรเป็นเช่นนั้น -
6:49 - 6:53เพราะว่า ผึ้งก็เหมือนกับเรา
สามารถจดจำดอกไม้ดีๆ -
6:53 - 6:56โดยไม่ต้องคำนึงถึงเวลา แสง ภูมิอากาศ
-
6:56 - 7:02หรือ จากมุมที่พวกมันเข้าหาดอกไม้
(เสียงปรบมือ) -
7:02 - 7:06โบว์ : ฉะนั้น ขั้นตอนถัดไปคือ ออกแบบการทดลอง
-
7:06 - 7:09ซึ่งมันเป็นเกมส์
ฉะนั้น พวกเด็กๆก็ไปออกแบบ -
7:09 - 7:12การทดลองนี้ หรือจะว่าไป
ก็เล่นเกมส์นั่นแหละ -
7:12 - 7:14เอมี่ เล่าให้พวกเราฟังได้ไหมครับว่าเกมส์อะไร
-
7:14 - 7:16และปริศนาที่จัดให้พวกผึ้งแก้ คืออะไร
-
7:16 - 7:19เอมี่: ปริศนาที่เราคิดไว้ คือ กฎคณิตศาสตร์ ถ้า-แล้ว
-
7:19 - 7:23เราให้พวกผึ้งเรียนรู้ ไม่ใช่แค่ไปยังสีใดสีหนึ่ง
-
7:23 - 7:25แต่บินไปยังดอกไม้เพียงสีเดียวเท่านั้น
-
7:25 - 7:27เมื่อดอกไม้นั้น อยู่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
-
7:27 - 7:30พวกมันจะได้รับรางวัล
ถ้ามันไปยังดอกไม้สีเหลืองเท่านั้น -
7:30 - 7:33ถ้าดอกไม้สีเหลืองนั้น ถูกล้อมรอบด้วยดอกไม้สีฟ้า
-
7:33 - 7:37หรือเมื่อดอกไม้สีฟ้า ถูกล้อมรอบด้วยดอกไม้สีเหลือง
-
7:37 - 7:39ทีนี้ มันมีกฎมากมายหลายข้อ ที่ผึ้งสามารถเรียนรู้
-
7:39 - 7:43เพื่อที่จะแก้ปริศนาได้
คำถามที่น่าสนใจก็คือ กฎข้อไหนล่ะ -
7:43 - 7:45สิ่งที่น่าตื่นเต้นจริงๆสำหรับโครงการนี้ก็คือ
-
7:45 - 7:48พวกเราและโบว์ ไม่ทราบเลยว่ามันจะได้ผลหรือไม่
-
7:48 - 7:50มันใหม่ทั้งดุ้น
และไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลย -
7:50 - 7:54รวมถึงพวกผู้ใหญ่ด้วย (เสียงหัวเราะ)
-
7:54 - 7:57โบว์: รวมถึงพวกคุณครู และนั่นมันก็ลำบากจริงๆนะ
สำหรับครู -
7:57 - 8:00มันง่ายสำหรับนักวิทยาศาสตร์ที่จะเข้าไป
แม้ไม่มีเงื่อนงำบอกให้รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ -
8:00 - 8:03เพราะว่า นั่นเป็นสิ่งที่เราทำกันในห้องทดลอง
แต่สำหรับคุณครูแล้ว -
8:03 - 8:04การที่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตอนเลิกเรียนเป็น--
-
8:04 - 8:07ต้องยกความดีความชอบนี้ให้กับ เดฟ สตรัดวิค
-
8:07 - 8:09ผู้ซึ่งเป็นผู้ร่วมโครงการ จริงไม๊
-
8:09 - 8:12ผมจะไม่ลงไปในรายละเอียดทั้งหมดของการศึกษานี้
-
8:12 - 8:15เพราะว่า ที่จริงแล้วคุณสามารถอ่านเอาได้
แต่ขั้นตอนถัดไป -
8:15 - 8:18คือการสังเกต
นี่คือเด็กๆบางส่วน -
8:18 - 8:21กำลังทำการสังเกต พวกเขากำลังบันทึกข้อมูล
-
8:21 - 8:26ว่าผึ้งบินไปที่ไหน
-
8:26 - 8:28(วีดีโอ) เดฟ สตรัดวิค: เอาละ ทีนี้เรากำลังจะ-
นักเรียน: 5ซี -
8:28 - 8:32เดฟ สตรัดวิค: มันยังบินขึ้นไปตรงนั้นอยู่อีกหรือเปล่า
นักเรียน: ใช่ -
8:32 - 8:36เดฟ สตรัดวิค: เธอลองตามมันไปทีละตัวนะ
นักเรียน: เฮนรี่ มาช่วยฉันตรงนี้หน่อย -
8:36 - 8:39โบว์: "มาช่วยฉันหน่อยได้ไหม เฮนรี่"
เป็นคำพูดของนักวิทยาศาสตร์ที่ดี จริงไหมครับ -
8:39 - 8:43นักเรียน: มีสองตัวบนนั้น
-
8:43 - 8:46และสามตัวตรงนี้
-
8:46 - 8:48โบว์: เอาละ ฉะนั้น เราได้ทำการสังเกตแล้ว เราได้ข้อมูล
-
8:48 - 8:52พวกเขาทำการคำนวณง่ายๆ หาค่าเฉลี่ย และอื่นๆ
-
8:52 - 8:54และตอนนี้เราต้องการแบ่งปัน
นั่นคือขั้นตอนต่อไป -
8:54 - 8:56เราจะเขียนเรื่องนี้ และจะพยายามส่งไป
-
8:56 - 8:59เพื่อพิมพ์เผยแพร่ ครับ ฉะนั้นเราต้องเขียนเรื่องนี้
-
8:59 - 9:03และแน่นอน เราก็ไปที่ร้านอาหารเล็กๆ ใช่ครับ
(เสียงหัวเราะ) -
9:03 - 9:05อันซ้ายเป็นของผมนะครับ ตกลงนะ
(เสียงหัวเราะ) -
9:05 - 9:07ทีนี้ ผมบอกพวกเขา เอกสารรายงานมีสี่ตอน
-
9:07 - 9:10บทนำ วิธีการทดลอง ผลการทดลอง
และอภิปรายผลการทดลอง -
9:10 - 9:13บทนำบอกว่า คำถามคืออะไรและทำไม
-
9:13 - 9:16วิธีทำ บอกว่าเธอทำอะไรไปแล้ว
ผลการทดลอง บอกว่าสังเกตอะไร -
9:16 - 9:18และอภิปรายผลการทดลองบอกว่า แล้วไง ใช่ไหมครับ
-
9:18 - 9:21นั่นเป็นรายงานทางวิทยาศาสตร์ โดยหลักๆ
(เสียงหัวเราะ) -
9:21 - 9:25ฉะนั้น เด็กๆก็บอกผมมา ใช่ไม๊
แล้วผมก็เอามาเขียนเล่า -
9:25 - 9:28ซึ่งหมายความว่า
เอกสารฉบับนี้เขียนในแบบที่เด็กพูด -
9:28 - 9:31มันไม่ได้ถูกเขียนโดยผม มันถูกเขียนโดยเอมี่
-
9:31 - 9:34และนักเรียนคนอื่นๆในชั้น
และผลที่ออกมาก็คือ -
9:34 - 9:40รายงานวิทยาศาสตร์ฉบับนี้เริ่มด้วย "กาลครั้งหนึ่ง..."
(เสียงหัวเราะ) -
9:40 - 9:46ตอนที่บอกผลการทดลอง บอกว่า
"ช่วงการฝึก ปริศนา แต่น แตน แต้น" (เสียงหัวเราะ)
(เสียงหัวเราะ) -
9:46 - 9:48และวิธีการทดลองบอกว่า "แล้วเราก็เอาผึ้ง
-
9:48 - 9:51ไปใส่ตู้เย็น (และทำพายผึ้ง)" ภาพหน้ายิ้ม
(เสียงหัวเราะ) -
9:51 - 9:55นี่เป็นรายงานทางวิทยาศาสตร์
เราจะพยายามให้มันได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ -
9:55 - 9:58นี่คือ หน้าชื่อเรื่องของรายงาน
เรามีผู้เขียนหลายคนมากเลย -
9:58 - 10:01ชื่อทุกชื่อที่พิมพ์ตัวหนาอายุ 8 ถึง 10 ขวบ
-
10:01 - 10:03ผู้เขียนชื่อแรกคือ โรงเรียนประถมแบลคอัลตัน เพราะว่า
-
10:03 - 10:06ถ้ามีการอ้างอิงถึง มันก็จะเป็น "Blackawton et al"
-
10:06 - 10:09ไม่ใช่แค่ชื่อคนๆเดียว
ฉะนั้นเราส่งรายงานไปที่ นิตยสารที่เปิดต่อสาธารณะ -
10:09 - 10:12และเขาบอกมาอย่างนี้
เขาบอกมาหลายอย่าง แต่เขาบอกสิ่งนี้ -
10:12 - 10:16"ทางเราเกรงว่าเอกสารนี้ไม่ผ่านการตรวจคุณภาพขั้นต้น
ในหลายๆด้าน" (เสียงหัวเราะ) -
10:16 - 10:19หรือพูดอีกอย่างคือ มันขึ้นต้นว่า "กาลครั้งหนึ่ง"
-
10:19 - 10:21ตัวเลขก็เขียนด้วยสีเทียน และอื่นๆ (เสียงหัวเราะ)
-
10:21 - 10:26ฉะนั้น เราบอกว่า เราจะให้มันได้รับการตรวจ
ผมก็เลยส่งมันไปที่ เดล เพอร์เวส -
10:26 - 10:29ซึ่งอยู่ที่สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
เป็นหนึ่งในนักประสาทวิทยาชั้นแนวหน้าของโลก -
10:29 - 10:33เขาบอกว่า "นี่เป็นรายงานวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิมที่สุด
เท่าที่ผมเคยอ่าน" (เสียงหัวเราะ) -
10:33 - 10:35"แน่นอน ที่มันสมควรได้รับการเผยแพร่ออกไป
อย่างกว้างขวาง" -
10:35 - 10:39ลารี่ มาโลนี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา
บอกว่า "รายงานนี้ยอดเยี่ยม" -
10:39 - 10:42งานนี้น่าจะถูกพิมพ์เผยแพร่ ถ้าถูกเขียนโดยผู้ใหญ่"
-
10:42 - 10:44แล้วเราทำอะไรหรือ
เราส่งมันกลับไปยังบรรณาธิการ -
10:44 - 10:46พวกเขาปฎิเสธ
-
10:46 - 10:48เราจึงขอให้ ลารี่และนาตาลี เฮมเพล เขียน
-
10:48 - 10:52บทวิจารณ์ กำหนดขอบเขตของผลการทดลอง
ที่มีต่อนักวิทยาศาสตร์ -
10:52 - 10:57ใส่บทอ้างอิง และเราก็ส่งไปยัง Biology Letters
-
10:57 - 11:00และที่นั่น มันได้รับการตรวจโดยกรรมการอิสระห้าคน
-
11:00 - 11:04และก็ได้รับการตีพิมพ์ครับ (เสียงปรบมือ)
-
11:04 - 11:10(เสียงปรบมือ)
-
11:10 - 11:13ใช้เวลาสี่เดือน ทำงานวิทยาศาสตร์
-
11:13 - 11:16ใช้สองปี ทำการตีพิมพ์ (เสียงหัวเราะ)
-
11:16 - 11:21ตามแบบฉบับของวิทยาศาสตร์ จริงๆ ใช่ไม๊
จึงทำให้ เอมี่ และ เพื่อนของเธอ -
11:21 - 11:24เป็นนักวิทยาศาสตร์อายุน้อยที่สุดในโลก
ที่มีผลงานตีพิมพ์ -
11:24 - 11:26แล้วผลการตอบรับเป็นอย่างไรล่ะ
-
11:26 - 11:29มันถูกพิมพ์เผยแพร่ สองวันก่อนวันคริสต์มาส
-
11:29 - 11:33ได้รับการดาวโหลด 30,000 ครั้ง ในวันแรก
-
11:33 - 11:37ในนิตยสาร Editors' Choice in Science
ซึ่งเป็นนิตยสารวิทยาศาสตร์ชั้นนำ -
11:37 - 11:39เข้าไปอ่านได้ฟรีตลอดไป จาก Biology Letters
-
11:39 - 11:43เท่าที่เคยเป็นมา เป็นรายงานเดียว
ของนิตยสารนี้ ที่สามารถเข้าไปอ่านได้ฟรี -
11:43 - 11:46ปีที่แล้ว เป็นรายงานที่ได้รับการดาวโหลด
มากเป็นที่สอง -
11:46 - 11:50โดย Biology Letters และการตอบรับนั้น
ไม่ได้มาจากแค่นักวิทยาศาสตร์ -
11:50 - 11:52และครู แต่จากสาธารณชนด้วยเช่นกัน
-
11:52 - 11:54และผมจะอ่านให้ฟังสักอันครับ
-
11:54 - 11:57"ผมได้อ่าน 'เรื่องผึ้ง แบลคอัลตัน' เมื่อเร็วๆนี้
-
11:57 - 11:59ไม่มีคำใดที่จะอธิบายได้ตรงกับใจ
ว่าผมรู้สึกอย่างไรขณะนี้ -
11:59 - 12:01สิ่งที่พวกเธอทำนั้น มันช่างจริงแท้ และน่าทึ่ง
-
12:01 - 12:04ความอยากรู้อยากเห็น ความสนใจ ไร้เดียงสา
และความปรารถนาอย่างแรงกล้า -
12:04 - 12:06เป็นเรื่องพื้นฐานที่สุดและสำคัญที่สุด
ในการทำวิทยาศาสตร์ -
12:06 - 12:09จะมีใครอื่น ที่มีคุณสมบัติเหล่านี้
มากไปกว่าเด็กๆ -
12:09 - 12:12โปรดส่งความยินดีนี้จากผม
ไปยังเด็กๆในทีมของคุณด้วย" -
12:12 - 12:16ผมอยากจะสรุป ด้วยการอุปมาเชิงกายภาพ
-
12:16 - 12:19ขอได้ไหมครับ (เสียงหัวเราะ)
-
12:19 - 12:22โอ้ เอาล่ะๆ มาเลยครับ ใช่แล้ว โอเค
-
12:22 - 12:27ทีนี้ วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการเสี่ยง
ฉะนั้น นี่เสี่ยงมากๆเลยนะครับ (เสียงหัวเราะ) -
12:27 - 12:33สำหรับผมนะ ไม่ใช่เขา ใช่ไหมครับ
เพราะว่าเราเคยทำแบบนี้มาก่อน แค่ครั้งเดียว
(เสียงหัวเราะ) -
12:33 - 12:34และคุณชอบเทคโนโลยี ใช่ไหมครับ
-
12:34 - 12:37ซิมอน ช็อกคึน: ใช่ครับ แต่ผมก็ชอบตัวเองนะ
-
12:37 - 12:40โบว์: นี่เป็นบุคคลตัวอย่างของเทคโนโลยีเลยครับ โอเค
-
12:40 - 12:43ทีนี้ ... (เสียงหัวเราะ)
-
12:43 - 12:46โอเค (เสียงหัวเราะ)
-
12:46 - 12:50ทีนี้ เรากำลังจะทำการสาธิตเล็กน้อย นะครับ
-
12:50 - 12:54คุณต้องหลับตา และคุณต้องชี้
-
12:54 - 12:57ไปยังที่ที่คุณได้ยินผมปรบมือ ตกลงนะครับ
-
12:57 - 13:02(เสียงปรบมือ)
-
13:02 - 13:05(เสียงปรบมือ)
-
13:05 - 13:08โอเค ทุกคนตรงนั้น ลองตะโกนพร้อมกันครับ
หนึ่ง สอง สาม -
13:08 - 13:11ผู้ชม: (เสียงตะโกน)
-
13:11 - 13:15(เสียงหัวเราะ)
-
13:15 - 13:18(เสียงตะโกน) (เสียงหัวเราะ)
-
13:18 - 13:22เยี่ยมไปเลยครับ ทีนี้ เปิดตาครับ
เราจะลองทำอีกครั้ง นะครับ -
13:22 - 13:25ทุกคนตรงนั้นตะโกนครับ (ตะโกน)
-
13:25 - 13:31เสียงมาจากทางไหนครับ (เสียงหัวเราะ)
(เสียงปรบมือ) -
13:31 - 13:35ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ)
-
13:35 - 13:39อะไรคือประเด็น ครับ
ประเด็นเรื่องนี้ก็คือ สิ่งที่วิทยาศาสตร์ทำให้เรา -
13:39 - 13:41ใช่ไหมครับ
ปกติเราใช้ชีวิตตอบสนองไปตามปกติ -
13:41 - 13:43แต่ว่าถ้าเราต้องการจะทำอะไรที่ต่างออกไป
-
13:43 - 13:46เราจะต้องก้าวเข้าไปในความไม่แน่นอน
เมื่อเขาลืมตาขึ้น -
13:46 - 13:48เขาได้มองเห็นโลกในมุมมองใหม่
-
13:48 - 13:51นั่นคือ สิ่งที่วิทยาศาสตร์ให้กับเรา
มันให้ความเป็นไปได้ -
13:51 - 13:56ที่จะก้าวไปบนความไม่แน่นอน
ผ่านกระบวนการของการเล่น -
13:56 - 13:59ทีนี้ การศึกษาวิทยาศาสตร์ที่แท้จริงนั้น
ผมคิดว่ามันควรที่จะ -
13:59 - 14:02เกี่ยวกับการให้สิทธิให้เสียง
และให้โอกาสแสดงความคิดเห็น -
14:02 - 14:06ฉะนั้นผมได้ขอให้เอมี่
เป็นเสียงสุดท้ายในเล่าเรื่องสั้นๆนี้ -
14:06 - 14:09ว่าไงครับเอมี่
-
14:09 - 14:12เอมี่: โครงการนี้เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากๆสำหรับหนู
-
14:12 - 14:15เพราะว่า มันได้นำกระบวนการของการค้นพบ
มาสู่ชีวิต -
14:15 - 14:18และมันทำให้หนูเห็นว่าใครๆ
และหนูหมายถึงใครก็ได้ -
14:18 - 14:20มีศักยภาพที่จะค้นพบอะไรใหม่ๆ
-
14:20 - 14:24และคำถามสั้นๆข้อหนึ่ง
สามารถนำไปสู่การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ได้ -
14:24 - 14:27การเปลี่ยนแนวความคิดของคน
เกี่ยวกับอะไรสักอย่าง -
14:27 - 14:31อาจจะง่ายหรือยาก
ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับ วิธีที่คนๆนั้น -
14:31 - 14:32รู้สึกเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลง
-
14:32 - 14:35แต่การเปลี่ยนวิธีที่ฉันคิด
เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์นั้น -
14:35 - 14:37มันช่างง่ายอย่างน่าอัศจรรย์
พอเราได้เล่นเกมส์ -
14:37 - 14:39และต่อมา เริ่มที่จะคิดเกี่ยวกับปริศนา
-
14:39 - 14:43หนูก็ได้รู้ว่าวิทยาศาสตร์
ไม่ใช่แค่วิชาที่น่าเบื่อ -
14:43 - 14:46และได้รู้ว่า ใครๆก็สามารถค้นพบอะไรใหม่ๆได้
-
14:46 - 14:50คุณแค่เพียงต้องการโอกาส
โอกาสของหนูนั้นมา -
14:50 - 14:52ในรูปแบบของโบว์ และโครงการผึ้งแบลคอัลตัน
-
14:52 - 14:57ของคุณค่ะ
โบว์: ขอบคุณมากครับ (เสียงปรบมือ) -
14:57 - 15:04(เสียงปรบมือ)
- Title:
- โบว์ ล๊อตโต้ (Beau Lotto) + เอมี่ โอทูล (Amy O’Toole): วิทยาศาสตร์สำหรับทุกคน รวมเด็กๆด้วยนะ
- Speaker:
- Beau Lotto + Amy O'Toole
- Description:
-
วิทยาศาสตร์และการเล่นมีอะไรเหมือนกันหรือ นักประสาทวิทยา โบว์ ล๊อตโต้ คิดว่าคนทุกคน (รวมเด็กๆด้วย) ควรมีส่วนร่วมในวิทยาศาสตร์ และ เปลี่ยนการรับรู้เสียใหม่ โดยผ่านกระบวนการของการค้นพบ เขาและผู้สนับสนุน เอมี่ โอทูล วัยสิบสองปี ซึ่งเธอและเพื่อนๆร่วมชั้นอีก 25 คน ได้พิมพ์เผยแพร่บทความทางวิทยาศาสตร์เรื่องแรก ที่ได้รับการตรวจสอบโดยเด็กนักเรียน เกี่ยวกับ โครงการ ผึ้งแบลคอัลตัน บทความขึ้นต้นด้วยข้อความว่า "กาลครั้งหนึ่ง...."
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 15:25
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Science is for everyone, kids included | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Science is for everyone, kids included | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Science is for everyone, kids included | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Science is for everyone, kids included | ||
Dimitra Papageorgiou approved Thai subtitles for Science is for everyone, kids included | ||
yamela areesamarn accepted Thai subtitles for Science is for everyone, kids included | ||
yamela areesamarn edited Thai subtitles for Science is for everyone, kids included | ||
yamela areesamarn edited Thai subtitles for Science is for everyone, kids included |