ประวัติศาสตร์แห่งสีที่แสนอันตราย - เจ.วี. มารานโต (J. V. Maranto)
-
0:07 - 0:11ในปี ค.ศ. 1893 มารีและปิแยร์ กูรี
ค้นพบธาตุเรเดียม -
0:12 - 0:14เหตุที่เราเคยเชื่อว่า
มันมีคุณสมบัติในการซ่อมแซม -
0:14 - 0:16เรเดียมจึงถูกผสมใส่ยาสีฟัน
-
0:16 - 0:16เภสัชภัณฑ์
-
0:16 - 0:17น้ำ
-
0:17 - 0:18และอาหาร
-
0:18 - 0:20ด้วยสีเขียวเรืองแสงของมัน
-
0:20 - 0:23มันจึงยังถูกใช้ในเครื่องสำอาง
และเครื่องประดับ -
0:24 - 0:26จนกระทั่งช่วงกลางศตวรรษที่ 19
-
0:26 - 0:30เราถึงรู้ว่าผลที่เป็นอันตรายของเรเดียม
ในฐานะที่มันเป็นสารกัมมันตรังสีนั้น -
0:30 - 0:32มากเสียยิ่งกว่าความสวยงามของมันอีก
-
0:33 - 0:36โชคไม่ดีที่เรเดียมไม่ใช่เป็นสารมีสี
เพียงอย่างเดียวในประวัติศาสตร์ -
0:36 - 0:38ที่ดูไร้พิษภัยหรือดูเป็นประโยชน์
-
0:38 - 0:40แต่กลับอันตรายถึงตายได้
-
0:40 - 0:44สารที่มีคุณสมบัติต้องคำสาปนี้
รวมถึงสีและสารมีสีทั้งสาม -
0:44 - 0:47ที่เรานำมาใช้ตกแต่งร่างกายและ
สิ่งของทั้งหลายมาเป็นเวลานานแล้ว -
0:47 - 0:48สีขาว
-
0:48 - 0:49สีเขียว
-
0:49 - 0:50และสีส้ม
-
0:51 - 0:53เรื่องราวของเราเริ่มที่สีขาว
-
0:54 - 0:56ย้อนกลับราวศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตจักร
-
0:56 - 1:01ชาวกรีกโบราณแปรรูปตะกั่วเพื่อนำมาใช้
เป็นสีขาวที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ -
1:01 - 1:02ปัญหาน่ะหรือ
-
1:02 - 1:06ตะกั่วจะถูกดูดซึม
เข้าสู่ร่างกายมนุษย์โดยตรง -
1:06 - 1:07และกระจายลงสู่เลือด
-
1:07 - 1:08เนื้อเยื่ออ่อน
-
1:08 - 1:10และเนื้อเยื่อแข็ง
-
1:10 - 1:12เมื่อเข้าถึงระบบประสาท
-
1:12 - 1:15ตะกั่วจะเลียนแบบและขัดขวาง
การทำงานของแคลเซียม -
1:15 - 1:18ก่อให้เกิดความเสียหาย
ตั้งแต่ความบกพร่องในการเรียนรู้ -
1:18 - 1:19ไปจนถึงความดันเลือดสูง
-
1:21 - 1:23ถึงกระนั้น การใช้สารมีสีที่เป็นพิษนี้
-
1:23 - 1:26ก็ยังดำเนินมาเป็นเวลาอีกหลายยุคสมัย
และในหลายวัฒนธรรม -
1:26 - 1:31สีขาวตะกั่วเป็นเพียงทางเลือกเดียว
สำหรับสีน้ำมันหรือสีฝุ่นเทมเพอรา -
1:31 - 1:32จนกระทั่งศตวรรษที่ 19
-
1:33 - 1:37เพื่อเป็นการผลิตสี
ศิลปินจะต้องฝนก้อนตะกั่วให้เป็นผง -
1:37 - 1:39ซึ่งเป็นการสัมผัส
กับอนุภาคฝุ่นที่เป็นพิษมาก -
1:40 - 1:44การใช้สารมีสีนี้อย่างไม่มีการระวังควบคุม
ก่อให้เกิดโรคที่เรียกว่า "ลำไส้จิตรกร" -
1:44 - 1:47หรือที่ปัจจุบันเรียกกันว่า "โรคพิษตะกั่ว"
-
1:47 - 1:50ศิลปินที่ใช้ตะกั่วระบุว่า
พวกเขามีอาการอัมพาต -
1:50 - 1:51ซึมเศร้า
-
1:51 - 1:52ไอ
-
1:52 - 1:53รูม่านตาขยาย
-
1:53 - 1:54หรือถึงขั้นตาบอด
-
1:57 - 2:00แต่ความหนาแน่น ความทึบแสง
และโทนสีที่อุ่นของสีขาวตะกั่ว -
2:00 - 2:04ทำให้ศิลปินอิมเพรสชันนิสอย่างเฟอร์เมร์
ไม่อาจห้ามใจได้ -
2:05 - 2:06ความขาวสว่างของมันนั้น
ยากที่จะหาอย่างอื่นมาเปรียบได้ -
2:06 - 2:11และสารมีสีนี้ก็ถูกใช้กันอย่างกว้างขวาง
จนกระทั่งได้ถูกระงับใช้ในยุค 1970 -
2:11 - 2:13แม้ว่ามันจะฟังดูน่ากลัว
-
2:13 - 2:16อันตรายจากสีขาวนั้น
ถือว่าด้อยไปเลยเมื่อเทียบกับ -
2:16 - 2:19สารมีสีอีกอย่างหนึ่ง
ที่เป็นที่นิยมมากกว่า นั่นก็คือสีเขียว -
2:20 - 2:24สีเขียวสังเคราะห์สองอย่างที่มีชื่อว่า
เขียวเชอีล กับเขียวปารีส -
2:24 - 2:27ถูกใช้เป็นครั้งแรกในศตวรรษที่ 18
-
2:28 - 2:30สีของมันสดใสและโดดเด่น
-
2:30 - 2:33มากกว่าสีเขียวที่ได้จากสารมีสี
ตามธรรมชาติ ที่ดูหม่นกว่า -
2:33 - 2:36ฉะนั้น พวกมันจึงกลายเป็นที่นิยม
อย่างรวดเร็วสำหรับงานภาพวาด -
2:36 - 2:38ทั้งยังเป็นสีสำหรับย้อมผ้า
-
2:38 - 2:39วอลเปเปอร์
-
2:39 - 2:39สบู่
-
2:39 - 2:40สีแต่งเค้ก
-
2:40 - 2:41ของเล่น
-
2:41 - 2:42ขนม
-
2:42 - 2:43และเสื้อผ้า
-
2:43 - 2:46สารให้สีเขียวนี้ผลิตมาจาก
สารประกอบที่ชื่อว่า -
2:46 - 2:48คิวปริก ไฮโดรเจน อาร์เซนิก
-
2:49 - 2:50เมื่อมนุษย์สัมผัสสารอาร์เซนิก
-
2:50 - 2:54มันจะทำลายระบบสื่อสาร
และการทำงานของเซลล์ -
2:54 - 2:56และการสัมผัสอาร์เซนิกในปริมาณที่มาก
มีความเชื่อโยงกับ -
2:56 - 2:58มะเร็งและโรคหัวใจ
-
2:59 - 3:03ผลลัพธ์ทำให้พนักงานโรงงานผ้า
ในศตวรรษที่ 18 มักได้รับสารพิษ -
3:03 - 3:07และสตรีที่สวมชุดเขียว
มักจะเป็นลมล้มพับไป -
3:07 - 3:09เพราะสัมผัสอาร์เซนิกทางผิวหนัง
-
3:10 - 3:12เป็นที่ลือกันตัวเรือด
จะไม่ยอมอยู่ในห้องสีเขียว -
3:12 - 3:17และเป็นที่คาดเดากันว่า นโปเลียนเสียชีวิต
จากการได้รับพิษอาร์เซนิกทีละน้อย -
3:17 - 3:20เนื่องจากเขานอนหลับ
ในห้องนอนที่มีวอลเปเปอร์สีเขียว -
3:20 - 3:24ไม่มีใครล่วงรู้ถึงพิษอันร้ายแรงของสีเขียวนี้
-
3:24 - 3:28จนกระทั่งได้มีการตีพิมพ์
สูตรของอาร์เซนิกในปี ค.ศ. 1822 -
3:28 - 3:32และหนึ่งศตวรรษต่อมา
ก็ถูกนำมาใช้ใหม่เป็นยาฆ่าแมลง -
3:32 - 3:36สีเขียวสังเคราะห์น่าจะเป็นสี
ที่อันตรายที่สุดที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง -
3:36 - 3:40แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ได้มี
คุณสมบัติกัมมันตรังสีอย่างเรเดียม -
3:40 - 3:42แต่อีกสีหนึ่งมีคุณสมบัตินี้ นั่นก็คือ สีส้ม
-
3:43 - 3:47ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง
เป็นเรื่องปกติที่ผู้ผลิตเครื่องชามเซรามิก -
3:47 - 3:50จะใช้ยูเรเนียมออกไซด์ในสีเคลือบ
-
3:50 - 3:53สารประกอบนี้ทำให้ชามมีสีแดงและส้มสด
-
3:53 - 3:57ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่งดงาม ถ้าหากมัน
ไม่ได้ปล่อยกัมมันตภาพรังสีออกมาด้วย -
3:57 - 4:02แน่ล่ะว่า กัมมันตภาพรังสีเป็นสิ่งที่เราไม่รู้จัก
จนกระทั่งปลายศตวรรษที่ 1800 -
4:02 - 4:06เราจึงไม่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับความเสี่ยง
ในการก่อมะเร็งซึ่งถูกค้นพบหลังจากนั้นอีกนาน -
4:06 - 4:08ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
-
4:08 - 4:12รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดยูเรเนียมทั้งหมด
เพื่อนำใช้ในการพัฒนาระเบิด -
4:12 - 4:18อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณู
ผ่อนปรนข้อบังคับเหล่านี้ในปี ค.ศ. 1959 -
4:18 - 4:22และยูเรเนียมด้อยสมรรถนะก็กลับเข้าสู่
โรงงานผลิตเครื่องเซรามิกและแก้วอีกครั้ง -
4:22 - 4:24ชามสีส้มที่ผลิตในช่วงทศวรรษต่อมา
-
4:24 - 4:28อาจยังมีคุณสมบัติที่เป็นอันตรายอยู่บ้าง
ตามพื้นผิวจนถึงทุกวันนี้ -
4:28 - 4:32โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารกัมมันตภาพรังสียังถูกตรวจพบ
ได้ในชุดเครื่องชามเฟียสต้าแบบย้อนยุค -
4:33 - 4:37และในขณะที่ระดับของมันน้อยเกินกว่า
ที่จะมีผลร้ายต่อสุขภาพ -
4:37 - 4:38หากเก็บพวกมันไว้บนหิ้ง
-
4:39 - 4:42สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ
ก็เตือนไม่ให้นำไปใช้ใส่อาหารเพื่อรับประทาน -
4:44 - 4:48ถึงแม้ว่าเราจะยังคงพบกับปัญหา
ในสีผสมอาหารสังเคราะห์อยู่เป็นครั้งคราว -
4:48 - 4:53ความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ ได้ช่วยให้เรา
คัดกรองสีอันตรายออกไปจากชีวิตของเรา
- Title:
- ประวัติศาสตร์แห่งสีที่แสนอันตราย - เจ.วี. มารานโต (J. V. Maranto)
- Speaker:
- J. V. Maranto
- Description:
-
รับชมบทเรียนทั้งหมดได้ที่ http://ed.ted.com/lessons/history-s-deadliest-colors-j-v-maranto
เมื่อเรเดียมถูกค้นพบเป็นครั้งแรก สีเขียวเรืองแสงของมันบันดาลใจให้คนนำมันไปใช้ในเครื่องสำอางและเครื่องประดับ จนกระทั้งภายหลัง เราค่อยมาเข้าใจว่าเรเดียมมีคุณสมบัติที่อันตราย มากกว่าเสียกว่าความงดงามของมัน โชคไม่ดีที่เรเดียมไม่ใช่เป็นสารมีสีเพียงอย่างเดียวในประวัติศาสตร์ที่ดูไร้พิษภัยหรือดูเป็นประโยชน์ แต่กลับเป็นอันตรายถึงตายได้ เจ.วี. มารานโต อธิบายรายละเอียดถึงประวัติศาสตร์ของสีที่เป็นอันตรายที่สุด
บทเรียนโดย J. V. Maranto, แอนิเมชันโดย Juan M. Urbina
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TED-Ed
- Duration:
- 05:14
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for History's deadliest colors | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut accepted Thai subtitles for History's deadliest colors | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for History's deadliest colors | ||
View Riddell edited Thai subtitles for History's deadliest colors | ||
View Riddell edited Thai subtitles for History's deadliest colors | ||
View Riddell edited Thai subtitles for History's deadliest colors | ||
View Riddell edited Thai subtitles for History's deadliest colors |