เรเชล บอตส์แมน: เรื่องราวของการ "บริโภคที่อยู่บนพื้นฐานของการร่วมมือกัน"
-
0:00 - 0:02วันนี้ดิฉันจะพูดให้คุณฟัง
-
0:02 - 0:05เกี่ยวกับปรากฎการ "บริโภคอย่างร่วมมือกัน" ที่เพิ่มมากขึ้น
-
0:05 - 0:07ดิฉันจะอธิบายให้ฟังว่ามันคืออะไร
-
0:07 - 0:10และพยายามจะทำให้คุณเชื่อ -- ใน 15 นาทีนี้ --
-
0:10 - 0:12ว่านี่ไม่ใช่ความคิดที่เหลาะแหละ
-
0:12 - 0:14หรือความนิยมในช่วงสั้นๆ
-
0:14 - 0:17แต่เป็นแรงผลักดันทางวัฒนธรรมและเศรษฐศาสตร์ที่ทรงพลัง
-
0:17 - 0:19สรรค์สร้างไม่เพียงแต่สิ่งที่เราบริโภค
-
0:19 - 0:21แต่รวมถึงวิธีการบริโภคของเราด้วย
-
0:21 - 0:24ดิฉันจะเริ่มจากตัวอย่างง่ายๆ
-
0:24 - 0:27ยกมือขึ้นค่ะ -- ใครที่มี
-
0:27 - 0:30หนังสือ ซีดี ดีวีดี หรือวีดีโอ
-
0:30 - 0:32กระจัดกระจายอยู่เต็มบ้าน
-
0:32 - 0:34ที่คุณคงไม่ได้ใช้มันอีก
-
0:34 - 0:36แต่คุณก็ไม่อยากทิ้งมันไปซะทีเดียว
-
0:37 - 0:39ดิฉันมองไม่ค่อยชัดนะคะ
-
0:39 - 0:41แต่เหมือนจะยกมือกันทุกคนเลย
-
0:41 - 0:43บนชั้นวางที่บ้านของเรา
-
0:43 - 0:46เรามีเซ็ทดีวีดีละครเรื่อง "24" --
-
0:46 - 0:48season ที่สอง
-
0:48 - 0:51ถ้าฉันจำไม่ผิดเราได้มันมาเป็นของขวัญคริสมาสต์เมื่อ 3 ปีที่แล้ว
-
0:51 - 0:53สามี ลูกของฉัน และตัวดิฉันเอง
-
0:53 - 0:55รักละครชุดนี้มาก
-
0:55 - 0:58แต่พูดกันตามตรง พอเราดูจบสักรอบ หรือสองรอบ
-
0:58 - 1:00เราก็ไม่อยากดูมันอีกเลย
-
1:00 - 1:03เพราะคุณรู้แล้วว่า แจ๊ค บอเออร์จะจัดการกับพวกผู้ก่อการร้ายอย่างไร
-
1:03 - 1:05มันเลยถูกตั้งอยู่บนชั้นอย่างนั้น
-
1:05 - 1:07เป็นโบราณวัตถุไปแล้ว
-
1:07 - 1:10แต่สำหรับผู้อื่นแล้ว มันก็มีคุณค่าซ่อนเร้นขึ้นมาในทันที
-
1:10 - 1:13ก่อนที่ดิฉันจะพูดต่อ ดิฉันมีเรื่องจะสารภาพ
-
1:13 - 1:15ดิฉันอาศัยอยู่ในนิวยอร์คมา 10 ปีแล้ว
-
1:15 - 1:18และฉันก็เป็นแฟนตัวยงของ Sex and the City
-
1:18 - 1:20และตอนนี้ฉันก็อยากจะดูหนังภาคแรกอีกครั้ง
-
1:20 - 1:23เพื่ออุ่นเครื่องก่อนชมภาคสองที่กำลังจะเข้าฉายอาทิตย์หน้า
-
1:23 - 1:25แล้วมันยากง่ายแค่ไหนที่ฉันจะแลก
-
1:25 - 1:27ดีวีดีเรื่อง "24" ที่ดิฉันไม่ต้องการแล้ว
-
1:27 - 1:30เพื่อแลกกับ "Sex and the City"?
-
1:30 - 1:32ถึงตอนนี้คุณน่าจะสังเกตเห็นแล้ว
-
1:32 - 1:34มีภาคเศรษฐกิจใหม่เกิดขึ้น ชื่อว่า "การแลกเปลี่ยนแบบยื่นหมูยื่นแมว"
-
1:34 - 1:37ถ้าจะเปรียบเทียบกันตรงๆ
-
1:37 - 1:39มันก็เหมือนบริการจัดหาคู่ออนไลน์
-
1:39 - 1:41สำหรับสื่อทั้งปวงที่คุณไม่ต้องการแล้ว
-
1:41 - 1:43มันเกิดขึ้นได้จากการใช้อินเตอร์เน็ต
-
1:43 - 1:45เพื่อสร้างพื้นที่ตลาดที่ไม่มีขีดจำกัด
-
1:45 - 1:47เพื่อจับคู่สิ่งที่ คุณ ก. มี
-
1:47 - 1:49กับสิ่งที่ คุณ ค. ต้องการ
-
1:49 - 1:51ซึ่งจะเป็นอะไรก็ได้
-
1:51 - 1:54อาทิตย์ที่ก่อน ดิฉันเข้าไปในเว็บไซต์เหล่านี้
-
1:54 - 1:57ซึ่งมีชื่ออย่างเหมาะสมว่า Swaptree (ต้นไม้แห่งการแลกเปลี่ยน)
-
1:57 - 2:00ในนั้นมีสิ่งของมากกว่า 59,300 ชิ้น
-
2:00 - 2:02ที่ดิฉันสามารถขอแลกเปลี่ยนได้ทันที
-
2:02 - 2:05เพื่อแลกกับดีวีดี "24" ของดิฉัน
-
2:05 - 2:07ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
-
2:07 - 2:09ในเรเซดา, แคลิฟอร์เนีย
-
2:09 - 2:11มีคนที่ต้องการแลก
-
2:11 - 2:13หนังเรื่อง "Sex and the City" ใหม่เอี่ยมของเขา
-
2:13 - 2:16กับดีวีดีเรื่อง "24" ของดิฉัน
-
2:16 - 2:18ดิฉันจะบอกให้ว่าเกิดอะไรขึ้น
-
2:18 - 2:20Swaptree ได้สนองปัญหา
-
2:20 - 2:22ความอยากของดิฉัน
-
2:22 - 2:25ซึ่งเป็นปัญหาที่นักเศรษฐศาสตร์เรียกว่า "ความต้องการที่บังเอิญตรงกัน"
-
2:25 - 2:28ภายในเวลา 60 วินาที
-
2:28 - 2:31สิ่งที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าก็คือ มันจะพิมพ์ข้อมูลการแลกเปลี่ยนได้ทันที
-
2:31 - 2:33เพราะมันรู้น้ำหนักของสิ่งของชิ้นนั้น
-
2:33 - 2:35มันมีความมหัศจรรย์ทางเทคนิคหลายอย่าง
-
2:35 - 2:38ภายใต้เว็บไซต์อย่าง Swaptree
-
2:38 - 2:40แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดิฉันสนใจ
-
2:40 - 2:43และก็ไม่ใช่ในเนื้อในของการแลกเปลี่ยนด้วย
-
2:43 - 2:45ความหลงใหลของฉัน และสิ่งที่ฉันใช้เวลาหลายปีที่ผ่านมา
-
2:45 - 2:47เพื่อค้นคว้าวิจัย
-
2:47 - 2:50ก็คือพฤติกรรมการร่วมมือกัน และกลไกในการให้ความไว้วางใจ
-
2:50 - 2:53ที่มีอยู่ในระบบเหล่านี้
-
2:53 - 2:55เมื่อคุณลองมาคิดถึงมัน
-
2:55 - 2:58มันคงเป็นความคิดที่บ้ามาก
-
2:58 - 3:01ที่ฉันจะยอมแลกของของดิฉันกับคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย
-
3:01 - 3:03ผู้ซึ่งดิฉันไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อจริง
-
3:03 - 3:06และไม่มีการแลกเปลี่ยนเงินทอง
-
3:06 - 3:08แต่ 99 เปอร์เซ็นต์ของการแลกเปลี่ยนบน Swaptree
-
3:08 - 3:10ก็เกิดขึ้นอย่างไม่มีปัญหา
-
3:10 - 3:12และ 1 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือที่ได้เรตติ้งที่ไม่ดี
-
3:12 - 3:14ก็เกิดจากปัญหาเล็กน้อย
-
3:14 - 3:17เช่นความล่าช้าในการส่งสิ่งของ
-
3:17 - 3:20นี่มันกำลังเกิดอะไรขึ้น?
-
3:20 - 3:22พลวัตที่ทรงพลังมาก
-
3:22 - 3:25ซึ่งมีความนัยต่อการค้าและวัฒนธรรม
-
3:25 - 3:27กำลังเกิดขึ้น
-
3:27 - 3:29เทคโนโลยีนั้น
-
3:29 - 3:31กำลังเปิดช่องทาง
-
3:31 - 3:33ให้ความไว้วางใจระหว่างคนแปลกหน้าสองคนเกิดขึ้น
-
3:33 - 3:35เรากำลังอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ชื่อว่าโลก
-
3:35 - 3:37ซึ่งเราสามารถเลียนแบบความสัมพันธ์
-
3:37 - 3:40ที่เคยเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อเราเผชิญหน้ากัน
-
3:40 - 3:42ขยายเป็นขอบเขตที่ใหญ่ขึ้น
-
3:42 - 3:44ซึ่งแต่ก่อนคงเป็นไปไม่ได้
-
3:44 - 3:46เราจะเห็นว่า
-
3:46 - 3:48เครือข่ายสังคม (หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ค) และเทคโนโลยีแบบเรียลไทม์
-
3:48 - 3:50กำลังนำพาเรากลับไปในอดีต
-
3:50 - 3:52เรากำลังเจรจา, ค้าขาย,
-
3:52 - 3:54แลกเปลี่ยน, แบ่งปัน
-
3:54 - 3:56แต่สิ่งเหล่านี้กำลังถูกสร้างสรรค์ขึ้นใหม่
-
3:56 - 3:58ในรูปแบบที่คล่องตัวและน่าดึงดูดกว่า
-
3:58 - 4:00สิ่งที่ดิฉันคิดว่าน่าหลงใหล
-
4:00 - 4:03ก็คือการที่เรากำลังเชื่อมต่อโลกทั้งใบ เพื่อแบ่งปันกัน
-
4:03 - 4:05ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้านของเรา ในโรงเรียนของเรา
-
4:05 - 4:08ในที่ทำงานของเรา หรือเครือข่ายบน Facebook ที่เรามี
-
4:08 - 4:10และนั่นกำลังสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่
-
4:10 - 4:12ที่ว่าอะไรเป็นของฉันก็เป็นของเธอเหมือนกัน
-
4:12 - 4:14จาก eBay ที่โด่งดัง
-
4:14 - 4:16เป็นคุณปู่แห่งตลาดของการแลกเปลี่ยน
-
4:16 - 4:19ไปจนถึงบริษัทที่เสนอการใช้รถยนต์ร่วมกันอย่าง GoGet
-
4:19 - 4:22ที่คุณสามารถเป็นสมัครสมาชิก เพื่อเช่ารถเป็นรายชั่วโมงได้
-
4:22 - 4:25ไปจนถึงระบบการกู้ยืมอย่าง Zopa
-
4:25 - 4:27ที่ให้ใครก็ได้ในที่นี้
-
4:27 - 4:29ที่มี 100 ดอลลาร์สหรัฐให้ยืม
-
4:29 - 4:32เพื่อนำไปจับคู่กับผู้ที่ต้องการยืมเงิน ที่อยู่ที่ไหนก็ได้บนโลก
-
4:32 - 4:35เรากำลังแบ่งปันและร่วมมือกันอีกครั้ง
-
4:35 - 4:37ในทางที่ดิฉันเชื่อว่า
-
4:37 - 4:40แนวยิ่งกว่าเด็กแนวเสียอีก
-
4:40 - 4:43ฉันเรียกสิ่งนี้ว่าการ "บริโภคอย่างร่วมมือกันของคนส่วนใหญ่"
-
4:43 - 4:45ก่อนที่ฉันจะพูดไปถึงระบบอื่นๆ
-
4:45 - 4:47ของการ "บริโภคอย่างร่วมมือกัน" นี้
-
4:47 - 4:49ฉันอยากจะลองตอบคำถาม
-
4:49 - 4:52ที่เจ้าของความคิดมักถูกถาม
-
4:52 - 4:55ซึ่งก็คือ ความคิดนี้มาจากไหน
-
4:55 - 4:57ดิฉันจะบอกว่า ดิฉันตื่นขึ้นมาวันหนึ่ง
-
4:57 - 5:00และพูดว่า "ฉันจะเขียนเกี่ยวกับ การบริโภคอย่างร่วมมือกัน นี่ล่ะ"
-
5:00 - 5:02แต่จริงๆแล้วมันเป็นการเชื่อมโยงกัน
-
5:02 - 5:05ของความคิดที่ดูไม่น่าจะเชื่อมโยงกันได้หลายๆอย่าง
-
5:05 - 5:07ในนาทีต่อไปนี้
-
5:07 - 5:09คุณจะได้เห็นสิ่งที่เหมือนจะเป็นการแสดงดอกไม้ไฟ
-
5:09 - 5:12ของทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในหัวดิฉัน
-
5:13 - 5:15สิ่งแรกที่ฉันมองเห็นก็คือ
-
5:15 - 5:17ความคิดใหญ่ๆที่กำลังผุดขึ้น
-
5:17 - 5:20ตั้งแต่ "ปัญญาของฝูงชน" ไปจนถึง "กลุ่มคนทันสมัย"
-
5:20 - 5:22ว่ามันง่ายดายแค่ไหน
-
5:22 - 5:24ที่จะจัดตั้งกลุ่มก้อนขึ้น เพื่อจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง
-
5:24 - 5:26ซึ่งสิ่งที่เชื่อมโยงกับความคลั่งไคล้ต่อฝูงชนเหล่านี้
-
5:26 - 5:28ก็คือตัวอย่างที่เห็นได้ทั่วโลก
-
5:28 - 5:30จากการเลือกตั้งประธานาธิบดี
-
5:30 - 5:32ถึงวิกิพีเดียอันเลื่องชื่อ และทุกสิ่งที่อย่างที่อยู่ระหว่างสองสิ่งนั้น
-
5:32 - 5:35ที่ทำให้เห็นว่าพลังของฝูงชนสามารถทำอะไรได้บ้าง
-
5:35 - 5:38คุณจำตอนที่คุณรู้ศัพท์ใหม่ได้ไหม
-
5:38 - 5:41ตอนที่คุณเริ่มมองเห็นศัพท์เหล่านั้นไปทุกที่
-
5:41 - 5:43นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉัน
-
5:43 - 5:45เมื่อฉันรู้สึกได้ว่าเรากำลังก้าวเดิน
-
5:45 - 5:47จากการเป็นผู้บริโภคที่เฉื่อยชา
-
5:47 - 5:49ไปเป็นนักประดิษฐ์
-
5:49 - 5:52จนกลายเป็นผู้ให้ความร่วมมือที่ทรงพลัง
-
5:52 - 5:54สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นก็คือ
-
5:54 - 5:56การที่อินเตอร์เน็ตลบล้างพ่อค้าคนกลาง
-
5:56 - 5:58ทำให้ใครก็ได้ ตั้งแต่นักออกแบบเสื้อ
-
5:58 - 6:00ไปจนถึงนักถักไหมพรม
-
6:00 - 6:02สามารถหาเลี้ยงปากท้องได้โดยการขายสินค้าโดยตรงให้กับผู้ซื้อ
-
6:02 - 6:04และพลังที่แพร่หลาย
-
6:04 - 6:06ของการปฏิวัติของ peer-to-peer
-
6:06 - 6:09นั่นก็คือการแบ่งปันกำลังเกิดขึ้นในระดับที่น่าอัศจรรย์
-
6:09 - 6:11ดิฉันคิดว่ามันเจ๋งมากที่รู้ว่า
-
6:11 - 6:14ในทุกๆนาทีที่ฉันกำลังพูดอยู่นี้
-
6:14 - 6:16วีดีโอบน YouTube จำนวน 25 ชม.
-
6:16 - 6:19กำลังถูกชมอยู่
-
6:19 - 6:22สิ่งที่ฉันหลงใหลเกี่ยวกับตัวอย่างเหล่านี้
-
6:22 - 6:24ก็คือการที่มันกำลังถูกซึมซับ
-
6:24 - 6:26เข้าไปในสัญชาติญาณของเราได้อย่างไร
-
6:26 - 6:28จริงๆแล้วเราก็คือลิงดีๆนี่เอง
-
6:28 - 6:30เราเกิด และถูกเลี้ยงดูมาเพื่อแบ่งปันและร่วมมือ
-
6:30 - 6:33และเราก็ทำสิ่งนี้มาเป็นพันๆ ปี
-
6:33 - 6:35ตั้งแต่ที่เราออกล่าเป็นฝูง
-
6:35 - 6:38หรือร่วมมือกันทำไร่
-
6:38 - 6:41ก่อนที่ระบบใหญ่ๆอย่างบริโภคนิยมจะเกิดขึ้น
-
6:41 - 6:43แล้วเราก็สร้างรั้วขึ้นมากั้น
-
6:43 - 6:45และสร้างระบบศักดินาน้อยๆของเรา
-
6:45 - 6:47แต่ทุกสิ่งกำลังเปลี่ยนแปลงไป
-
6:47 - 6:49และหนึ่งในเหตุผลก็เกิดจาก
-
6:49 - 6:52ผู้ที่คุ้นเคยกับโลกดิจิตอลโดยกำเนิด หรือ เจน-วาย (gen-Y)
-
6:52 - 6:54เขากำลังถูกเลี้ยงดูให้เติบโตผ่านการแบ่งปัน
-
6:54 - 6:56ไฟล์ต่างๆนาๆ วีดีโอเกมส์ ความรู้
-
6:56 - 6:58มันเป็นธรรมชาติของเขา
-
6:58 - 7:01ดังนั้นเรา ในฐานะผู้กำลังก้าวข้ามช่วงเวลานี้
-
7:01 - 7:04เป็นดั่งทหารแนวหน้า ที่กำลังเคลื่อนย้ายพวกเรา
-
7:04 - 7:06จากวัฒนธรรม "ของฉัน" ไปสู่วัฒนธรรม "ของเรา"
-
7:06 - 7:08เหตุผลที่มันกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น
-
7:08 - 7:10ก็เนื่องมาจากการร่วมมือกันทางโทรศัพท์มือถือ
-
7:10 - 7:13เราอาศัยอยู่ในยุคของการเชื่อมต่อ
-
7:13 - 7:16ที่ที่เราสามารถรู้ได้ว่าใครอยู่ที่ไหน เวลาใด ได้ทุกเมื่อ
-
7:16 - 7:19โดยใช้อุปกรณ์เล็กๆในมือของเรา
-
7:19 - 7:21ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในหัวข้อฉัน
-
7:21 - 7:23ในช่วงปี 2008 นี้เอง
-
7:23 - 7:26ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำที่สุด
-
7:26 - 7:29โธมัส ไฟรด์แมน ผู้ซึ่งเป็นนักเขียนที่ฉันชื่นชอบในนิวยอร์คไทมส์
-
7:29 - 7:31เขากล่าวไว้อย่างเฉียบคมว่า
-
7:31 - 7:34ปี 2008 เป็นปีที่เราชนเข้ากับกำแพง
-
7:34 - 7:37เมื่อธรรมชาติและตลาดบอกกับเราว่า
-
7:37 - 7:39"ไม่เอาแล้ว"
-
7:39 - 7:41ตอนนี้เรารู้แล้วว่า
-
7:41 - 7:44เศรษฐกิจที่สร้างขึ้นภายในบริโภคนิยม
-
7:44 - 7:47เป็นปราสาทไพ่ รอวันที่จะล้ม
-
7:47 - 7:50แต่มันก็ยากที่เราจะรู้ว่าเราควรทำอะไร
-
7:50 - 7:53จะเห็นได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเหมือน ทวีตจำนวนเยอะๆ จริงไหม
-
7:53 - 7:55จริงว่ามีคลื่นรบกวนและความซับซ้อนมากมายในหัวของดิฉัน
-
7:55 - 7:57จนดิฉันเริ่มเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้น
-
7:57 - 7:59เกิดเพราะแรงผลักดันหลักๆ 4 ประการ
-
7:59 - 8:02หนึ่ง ความเชื่อในเรื่องความสำคัญของชุมชน
-
8:02 - 8:05และการเรียบเรียงความหมายใหม่ ว่าเพื่อนและเพื่อนบ้านแท้จริงแล้วคืออะไร
-
8:05 - 8:08สอง กระแสของโซเชียลเน็ตเวิร์ค
-
8:08 - 8:10และเทคโนโลยีแบบเรียลไทม์
-
8:10 - 8:13ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อรากฐานพฤติกรรมของเรา
-
8:13 - 8:16สาม ความกดดันจากปัญหาทางสภาพแวดล้อมที่ยังแก้ไขไม่ได้
-
8:16 - 8:18และสี่ การถดถอยทางเศรษฐกิจทั่วโลก
-
8:18 - 8:20ที่ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภค
-
8:20 - 8:22ถูกกระทบอย่างแรง
-
8:22 - 8:24แรงขับเคลื่อน 4 ประการนี้
-
8:24 - 8:26กำลังหล่อหลอมเข้าด้วยกัน
-
8:26 - 8:28และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง
-
8:28 - 8:30ออกจากศตวรรษที่ 20
-
8:30 - 8:32ที่ถูกกำหนดโดยบริโภคนิยม
-
8:32 - 8:34ไปสู่ศตวรรษที่ 21
-
8:34 - 8:37ที่ถูกกำหนดโดย การบริโภคอย่างร่วมมือกัน
-
8:37 - 8:40ดิฉันเชื่อว่าเราอยู่บนจุดแห่งการเปลี่ยนแปลง
-
8:40 - 8:42เมื่อพฤติกรรมการแบ่งปัน --
-
8:42 - 8:44ผ่านทางเว็บไซต์เช่น Flickr และ Twitter
-
8:44 - 8:46ซึ่งเป็นธรรมชาติของสิ่งที่อยู่ออนไลน์ --
-
8:46 - 8:49กำลังถูกใช้ในพื้นที่ออฟไลน์ ในชีวิตประจำวันของพวกเรา
-
8:49 - 8:52จากการเดินทางทุกเช้า ไปจนถึงวิธีที่แฟชั่นถูกออกแบบขึ้น
-
8:52 - 8:54ไปจนถึงวิธีการสร้างอาหารของเรา
-
8:54 - 8:57เรากำลังกลับสู้การบริโภค และร่วมมือกันอีกครั้ง
-
8:59 - 9:02เพื่อนนักเขียนของฉัน รู โรเจอร์ส และดิฉัน
-
9:02 - 9:04ได้รวบรวมตัวอย่างเป็นพันๆ ตัวอย่าง
-
9:04 - 9:06จากทั่วทุกมุมโลกของการบริโภคอย่างร่วมมือกัน
-
9:06 - 9:08และถึงแม้ว่ามันจะมีความแตกต่างกันอย่างมาก
-
9:08 - 9:10ทั้งในเรื่องความอิ่มตัวของขนาด และจุดประสงค์
-
9:10 - 9:12แต่เมื่อเรามองเข้าไป
-
9:12 - 9:15เราจะเห็นได้ว่ามันสามารถจัดออกเป็น 3 ระบบ
-
9:15 - 9:18หนึ่งคือตลาดสำหรับจัดสรรปันส่วนใหม่
-
9:18 - 9:21ตลาดสำหรับจัดสรรปันส่วนใหม่ -- เช่น Swaptree --
-
9:21 - 9:23ก็คือการที่คุณนำสิ่งของที่คุณใช้แล้ว หรือเป็นเจ้าของ
-
9:23 - 9:25แล้วนำมันจากที่ที่ไม่ต้องการมัน
-
9:25 - 9:28ไปสู่ที่ที่มันเป็นที่ต้องการ
-
9:28 - 9:30มันถูกเรียกอย่างกว้างขวางมากขึ้น ว่าเป็น R ที่ห้า --
-
9:30 - 9:32reduce, reuse, recycle, repair
-
9:32 - 9:34และ redistribute --
-
9:34 - 9:36เพราะมันยืดระยะเวลาการใช้งานของสินค้านั้น
-
9:36 - 9:38เพราะฉะนั้น ก็ช่วยลดปริมาณขยะด้วย
-
9:38 - 9:41ระบบที่สองก็คือ ไลฟ์สไตล์แห่งการร่วมมือ
-
9:41 - 9:43นี่คือการแบ่งปันของทรัพยากรต่างๆ
-
9:43 - 9:46เช่นเงิน ความสามารถ และเวลา
-
9:46 - 9:48ดิฉันพนันได้เลยว่า ในอีกไม่กี่ปี
-
9:48 - 9:50ศัพท์เช่น การร่วมงาน (coworking)
-
9:50 - 9:53การท่องเที่ยวไปตามโซฟา (couch surfing) และธนาคารเวลา (time banks)
-
9:53 - 9:56จะกลายเป็นศัพท์ในชีวิตประจำวัน
-
9:56 - 9:59ตัวอย่างที่ฉันชื่นชอบเกี่ยวกับ ไลฟสไตล์แห่งการร่วมมือ
-
9:59 - 10:01ก็คือการแบ่งปันที่ดิน (Landshare)
-
10:01 - 10:03มันเป็นโครงการในสหราชอาณาจักร
-
10:03 - 10:05ที่จับคู่คุณโจนส์
-
10:05 - 10:08ที่มีพื้นที่เหลือใช้ในสวนหลังบ้าน
-
10:08 - 10:11กับคุณสมิธ ที่ต้องการปลูกพืชผัก
-
10:11 - 10:13พวกเขาจึงได้ร่วมมือกันปลูกพืชผักเป็นอาหาร
-
10:13 - 10:16มันเป็นความคิดอย่างหนึ่งที่ง่ายดายมาก แต่ก็เจ๋งเลยทีเดียว
-
10:16 - 10:19จนคุณต้องสงสัยว่าทำไมมันไม่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
-
10:19 - 10:21ระบบที่สามก็คือ
-
10:21 - 10:23การซื้อบริการของสินค้า
-
10:23 - 10:25นั่นก็คือ การที่คุณจ่ายเพื่อประโยชน์ของสินค้า --
-
10:25 - 10:27สิ่งที่มันทำให้คุณ --
-
10:27 - 10:29โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินค้านั้นๆ
-
10:29 - 10:32ความคิดนี้จะทรงพลังมาก
-
10:32 - 10:34สำหรับสิ่งที่
-
10:34 - 10:36มีการใช้งานน้อย
-
10:36 - 10:38และสิ่งนั้นเป็นได้ตั้งแต่ของใช้สำหรับทารก
-
10:38 - 10:40จนถึงแฟชั่น จนกระทั่ง --
-
10:40 - 10:42มีใครในที่นี้มีสว่านไฟฟ้าบ้างคะ?
-
10:42 - 10:44เป็นเจ้าของสว่านไฟฟ้า?
-
10:44 - 10:47สว่านไฟฟ้านั้น ในหนึ่งชั่วชีวิตของมัน
-
10:47 - 10:49จะถูกใช้เพียง 12 ถึง 13 นาที
-
10:49 - 10:51(หัวเราะ)
-
10:51 - 10:53มันบ้ามาก จริงไหม?
-
10:53 - 10:55เพราะสิ่งที่คุณต้องการคือรู ไม่ใช่สว่าน
-
10:55 - 10:57(หัวเราะ)
-
10:57 - 10:59(ปรบมือ)
-
10:59 - 11:01แล้วทำไมคุณไม่เช่าสว่านล่ะ
-
11:01 - 11:03หรือจะดีไปกว่านั้น ปล่อยสว่านของคุณให้คนอื่นเช่า
-
11:03 - 11:05และทำเงินจากสว่านนั้น?
-
11:05 - 11:08ระบบทั้งสามนี้กำลังมาพบกัน
-
11:08 - 11:10ทำให้ผู้คนสามารถแบ่งปันทรัพยากร
-
11:10 - 11:12โดยที่ไม่ต้องเสียชีวิตความเป็นอยู่ของเขาไป
-
11:12 - 11:14หรือเสียความเป็นอิสระที่เขารักไป
-
11:14 - 11:16ไม่ใช่ว่าดิฉันบอกให้ผู้คน
-
11:16 - 11:18ต้องแบ่งปันกันในสิ่งที่ต่างจำเป็นต้องใช้ตลอดเวลา
-
11:20 - 11:22ดิฉันจะยกตัวอย่างให้ดู
-
11:22 - 11:24ว่าการบริโภคอย่างร่วมมือกัน
-
11:24 - 11:26สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้
-
11:26 - 11:28โดยเฉลี่ยแล้ว รถคันหนึ่ง
-
11:28 - 11:31มีค่าใช้จ่ายประมาณ 2 แสนบาทต่อปีในการดูแลรักษา
-
11:31 - 11:33แต่รถคันนั้นก็ถูกจอดอยู่เฉยๆ
-
11:33 - 11:35กว่า 23 ชม.ต่อวัน
-
11:35 - 11:37เมื่อคุณคำนึงถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้
-
11:37 - 11:39เราก็จะเริ่มเห็นว่ามันค่อนข้างแปลก
-
11:39 - 11:42ที่เราจะต้องเป็นเจ้าของรถคนหนึ่งแต่เพียงผู้เดียว
-
11:42 - 11:44ซึ่งนี่คือสิ่งที่บริษัทแบ่งปันการใช้รถ
-
11:44 - 11:46เช่น Zipcar และ GoGet เข้ามาช่วยเหลือ
-
11:46 - 11:48ในปี 2009
-
11:48 - 11:50Zipcar ได้นำผู้เข้าร่วมโครงการ 250 คน
-
11:50 - 11:53จาก 13 เมือง --
-
11:53 - 11:55และทุกคนในนั้นก็ยอมรับว่าเป็นผู้ที่เสพติดการใช้รถยนต์
-
11:55 - 11:57และเป็นมือใหม่ในวงการแบ่งปันรถกันใช้ --
-
11:57 - 12:00ทำให้ผู้คนเหล่านี้ ยอมสละกุญแจรถของเขาเป็นเวลาหนึ่งเดือน
-
12:00 - 12:02และยินยอมที่จะเดิน
-
12:02 - 12:04ขี่จักรยาน ขึ้นรถไฟ
-
12:04 - 12:06หรือบริการเดินทางสาธารณะอื่นๆ
-
12:06 - 12:08เขาสามารถใช้สิทธิของการเป็นสมาชิก Zipcar
-
12:08 - 12:10เมื่อจำเป็นเท่านั้น
-
12:10 - 12:13ผลที่ได้จากการทดลองครั้งนี้
-
12:13 - 12:15น่าประทับใจมาก
-
12:15 - 12:17น้ำหนักลดลงรวมกันกว่า 187 กิโลกรัม
-
12:17 - 12:20จากการออกกำลังเพิ่มเติมเท่านั้น
-
12:20 - 12:22แต่สถิติที่ดิฉันชอบที่สุด
-
12:22 - 12:24ก็คือผู้เข้าร่วมกิจกรรม 100 คน
-
12:24 - 12:27จากทั้งหมด 250 คน
-
12:27 - 12:30ไม่ต้องการกุญแจกลับคืน
-
12:30 - 12:32ในอีกแง่หนึ่ง เหล่าผู้เสพติดรถยนต์เหล่านั้น
-
12:32 - 12:34ได้สูญเสียแรงจูงใจที่จะเป็นเจ้าของรถยนต์แล้ว
-
12:34 - 12:37ระบบการซื้อบริการสินค้ามีมานานแล้ว
-
12:37 - 12:39ลองนึกถึงห้องสมุดและร้านซักรีดสิ
-
12:39 - 12:41แต่ดิฉันคิดว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคใหม่
-
12:41 - 12:43เพราะเทคโนโลยีกำลังทำให้การแบ่งปัน
-
12:43 - 12:45เป็นเรื่องที่สนุกและทำได้อย่างง่ายดาย
-
12:45 - 12:48นิวยอร์คไทม์สเคยเขียนไว้ว่า
-
12:48 - 12:50การแบ่งปันเป็นดั่งการครอบครอง
-
12:50 - 12:53เหมือนที่ ไอพอดเป็นดั่งแผ่นเสียง
-
12:53 - 12:56หรือ พลังงานแสงอาทิตย์เป็นดั่งเหมืองถ่านหิน
-
12:56 - 12:59ดิฉันเชื่อด้วยว่า ในคนรุ่นเรา
-
12:59 - 13:02การที่เราจะเติมเต็มสิ่งที่เราต้องการ
-
13:02 - 13:04ไม่ได้ยึดติดกับสิ่งที่จับต้องได้
-
13:04 - 13:06เหมือนดังคนรุ่นก่อนๆ
-
13:06 - 13:09ดิฉันไม่ต้องการแผ่นดีวีดี ดิฉันต้องการภาพยนตร์ที่อยู่ในนั้นต่างหาก
-
13:09 - 13:11ฉันไม่ต้องการเครื่องตอบรับโทรศัพท์อัตโนมัติที่เทอะทะ
-
13:11 - 13:13ฉันต้องการข้อความที่มันเก็บไว้ต่างหาก
-
13:13 - 13:16ฉันไม่ต้องการแผ่นซีดี ฉันต้องการเพลงที่อยู่ในนั้น
-
13:16 - 13:19ดิฉันพูดได้ว่า ฉันไม่ต้องการสิ่งของ
-
13:19 - 13:22ดิฉันต้องการประสบการณ์ที่สิ่งเหล่านั้นมอบให้กับดิฉันต่างหาก
-
13:22 - 13:25ซึ่งความคิดนี้กำลังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง
-
13:25 - 13:27เมื่อการใช้งานสำคัญกว่าการครอบครอง
-
13:27 - 13:30หรือดังที่ เควิน เคลลี่ บรรณาธิการของนิตยสาร Wired กล่าว
-
13:30 - 13:33"ที่ที่การเข้าถึง ดีกว่า การครอบครอง"
-
13:33 - 13:35ในขณะนี้ สิ่งของที่เราครอบครอง
-
13:35 - 13:37กำลังระเหิดหายไปในอากาศ
-
13:37 - 13:39เส้นจางๆก็เริ่มปรากฎ
-
13:39 - 13:41ระหว่างสิ่งที่เป็นของดิฉัน กับสิ่งที่เป็นของคุณ
-
13:41 - 13:43และสิ่งที่เป็นของพวกเรา
-
13:43 - 13:45ดิฉันต้องการยกตัวอย่างให้คุณเห็น
-
13:45 - 13:48ถึงความไวที่วิวัฒนาการนี้กำลังเกิดขึ้น
-
13:48 - 13:51ตัวอย่างนี้ครอบคลุมระยะเวลา 8 ปี
-
13:51 - 13:54เราได้เริ่มจากการครอบครองรถยนต์แบบดั้งเดิม
-
13:54 - 13:57ไปเป็นการใช้รถยนต์ร่วมกัน -- เช่น Zipcar และ GoGet --
-
13:57 - 14:00ไปยังการการจับคู่หาเพื่อนร่วมเดินทาง
-
14:00 - 14:03ไปจนถึงล่าสุด การเช่ารถยนต์ระหว่างผู้ใช้
-
14:03 - 14:06ที่คุณสามารถทำเงิน
-
14:06 - 14:09ได้จากการให้เช่ารถยนต์ของคุณที่จอดแช่อยู่ 23 ชม.ต่อวัน
-
14:09 - 14:11ให้กับเพื่อนบ้านของคุณ
-
14:11 - 14:13ซึ่งระบบทั้งหมดนี้
-
14:13 - 14:15ต้องใช้ความไว้วางใจในระดับหนึ่ง
-
14:15 - 14:17และสิ่งสำคัญที่ทำให้สิ่งเหล่านี้ประสบความสำเร็จ
-
14:17 - 14:19ก็คือ ชื่อเสียง
-
14:19 - 14:21ในระบบการบริโภคแบบเก่านั้น
-
14:21 - 14:23ชื่อเสียงไม่ใช่สิ่งสำคัญมากนัก
-
14:23 - 14:25เพราะประวัติทางการเงินของเรา
-
14:25 - 14:28สำคัญยิ่งไปกว่าความเห็นของผู้ที่รู้จักคุณ
-
14:28 - 14:31แต่ในปัจจุบัน ในเว็บนั้น เราทิ้งร่องรอยของทางเดินไว้
-
14:31 - 14:34ด้วยการแจ้งโฆษณาที่ไม่เหมาะสม
-
14:34 - 14:37ด้วยทุกความคิดที่เราเสนอ ทุกความคิดเห็นที่เราแบ่งปัน
-
14:37 - 14:39เรากำลังแสดงให้เห็นว่าตัวเราแต่ละคนมีความร่วมมือได้ดีแค่ไหน
-
14:39 - 14:42และบ่งชี้ว่าเราเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน
-
14:42 - 14:44กลับไปที่ตัวอย่างแรกที่ดิฉันกล่าวถึง
-
14:44 - 14:46Swaptree
-
14:46 - 14:48ฉันเห็นว่าผู้ชายคนนั้น
-
14:48 - 14:51ได้ทำการแลกเปลี่ยนไปถึง 533 ครั้ง
-
14:51 - 14:54และประสบความสำเร็จทุกครั้ง
-
14:54 - 14:57กล่าวได้ว่า ดิฉันสามารถเชื่อใจเขาได้
-
14:58 - 15:00จำคำพูดต่อไปนี้เอาไว้
-
15:00 - 15:02มันเป็นเพียงระยะเวลา
-
15:02 - 15:05ก่อนที่เราจะสามารถสืบค้นแบบกูเกิ้ลได้
-
15:05 - 15:07เพื่อจะค้นหาภาพรวม
-
15:07 - 15:09ของคะแนนทางชื่อเสียงของเรา
-
15:09 - 15:11และต้นทุนทางชื่อเสียงนี่แหละ
-
15:11 - 15:14ที่จะกำหนดว่าเราสามารถบริโภคอย่างร่วมมือกันได้มากน้อยแค่ไหน
-
15:14 - 15:16กล่าวได้ว่า มันเป็นเงินตราทางสังคมแบบใหม่
-
15:16 - 15:19ที่จะทรงพลังพอๆกับประวัติทางการเงินของเรา
-
15:20 - 15:22เพื่อเป็นการสรุปทั้งหมดนี้
-
15:22 - 15:25ดิฉันเชื่อว่าเราอยู่ในช่วงเวลา
-
15:25 - 15:27ที่เรากำลังจะตื่นขึ้น
-
15:27 - 15:29จากการเมาค้างที่ยาวนาน
-
15:29 - 15:31ของความว่างเปล่าและของสิ้นเปลือง
-
15:31 - 15:33และเรากำลังจะผ่านก้าวที่สำคัญ
-
15:33 - 15:35เพื่อที่จะสร้างระบบที่ยั่งยืนกว่า
-
15:35 - 15:37ที่สามารถตอบสนองความต้องการของเรา
-
15:37 - 15:40เพื่อชุมชนของเรา และความเป็นตัวเราได้
-
15:40 - 15:42ดิฉันเชื่อว่ามันจะถูกเรียกว่า
-
15:42 - 15:44การปฏิวัติ ก็เป็นได้ --
-
15:44 - 15:47เมื่อสังคมเผชิญกับความท้าทายที่ใหญ่หลวง
-
15:47 - 15:49ก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง
-
15:49 - 15:51จากการตักตวงและบริโภคส่วนตัว
-
15:51 - 15:54ไปยังการค้นพบประโยชน์ของการร่วมมือกันอีกครั้ง
-
15:54 - 15:57ดิฉันมีหน้าที่ทำให้การแบ่งปันนั้นเท่ห์
-
15:57 - 15:59ดิฉันมีหน้าที่ทำให้การแบ่งปันนั้นทันสมัย
-
15:59 - 16:01เพราะดิฉันเชื่อจริงๆว่า
-
16:01 - 16:03มันสามารถเข้ามาแทนที่วิธีการดำเนินธุรกิจที่ล้าสมัย
-
16:03 - 16:05และช่วยให้เราก้าวกระโดด
-
16:05 - 16:07จากภาวะบริโภคนิยมที่สุดแสนจะสิ้นเปลือง
-
16:07 - 16:10และสอนให้เรารู้ว่าเมื่อไหร่คำว่าพอ แปลว่าพอจริงๆ
-
16:10 - 16:12ขอบคุณค่ะ
-
16:12 - 16:14(ปรบมือ)
- Title:
- เรเชล บอตส์แมน: เรื่องราวของการ "บริโภคที่อยู่บนพื้นฐานของการร่วมมือกัน"
- Speaker:
- Rachel Botsman
- Description:
-
ณ TEDxSydney, เรเชล บอตส์แมนกล่าวว่าเรา "เชื่อมต่อกันเพื่อแบ่งปัน" -- และแสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์อย่าง Zipcar และ Swaptree กำลังเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ไปอย่างสิ้นเชิง
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 16:14