เบน ซอนเดอร์ส (Ben Saunders): ทำไมต้องเสียเวลาออกนอกบ้านด้วยล่ะ?
-
0:01 - 0:02ผมลากเลื่อนเป็นอาชีพ
-
0:02 - 0:06มันจึงไม่ยากนักที่จะทำให้สมองของผมสับสน
-
0:06 - 0:07แต่ผมจะอ่านคำถามนี้
-
0:07 - 0:10จากบทสัมภาษณ์หนึ่งเมื่อต้นปี
-
0:10 - 0:13"ไนทางปรัชญาแล้ว การเข้าถึงข้อมูลที่พร้อมอยู่ตรงหน้า
-
0:13 - 0:16ได้ขโมยความสามารถในการจินตนาการ
-
0:16 - 0:18หรือได้แทนที่การไขว่คว้าความฝันของเรา หรือไม่
-
0:18 - 0:21เพราะหากว่ามันเป็นเรื่องที่ทำได้ในสักที่ โดยใครสักคนแล้ว
-
0:21 - 0:24และเราสามารถเข้าร่วมได้ในโลกเสมือนจริง
-
0:24 - 0:27แล้วพวกเราจะออกจากบ้านไปทำไมกัน?"
-
0:27 - 0:30ผมมักจะได้รับการแนะนำในฐานะนักตะลุยขั้วโลก
-
0:30 - 0:32ผมไม่แน่ใจว่านั่นเป็นชื่ออาชีพที่ฟังดูล้ำสมัยที่สุดหรือ
-
0:32 - 0:37เป็นชื่ออาชีพแห่งศตวรรษที่ 21 หรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมได้ใช้เวลามากกว่า 2%
-
0:37 - 0:41ของทั้งชีวิตผม อาศัยอยู่ในเต๊นท์ที่ตั้งอยู่ใน Arctic Circle (เส้นขนานกับเส้นศูนย์สูตรที่ 23 องศา 28'S ของขั้วโลกเหนือ)
-
0:41 - 0:44เพราะงั้นผมก็ออกจากบ้านมาพอสมควร
-
0:44 - 0:48และโดยธรรมชาติของผม ผมเดาว่านะ ผมเป็นพวกชอบลงมือทำ
-
0:48 - 0:52มากกว่าที่จะเป็นคนคาดการณ์หรือสังเกตุการณ์สิ่งต่างๆ
-
0:52 - 0:56และไอ้เจ้าสองขั้วต่าง ระหว่างความคิดกับการกระทำนั่นแหละ
-
0:56 - 0:59ที่ผมจะลองสำรวจมันแบบสั้นๆ
-
0:59 - 1:03คำตอบที่ครอบคลุมที่สุดสำหรับคำถามว่า "ทำไม?"
-
1:03 - 1:05ซึ่งตามหลอกหลอนผมมาตลอด 12 ปีที่ผ่านมา
-
1:05 - 1:08ต้องขอยกเครดิตให้กับผู้ชายคนนี้ สุภาพบุรุษที่ดูปราดเปรียวท่านนี้
-
1:08 - 1:10ที่ยืนอยู่ข้างหลัง คนที่สองจากทางซ้าย
-
1:10 - 1:13จอร์จ ลี มัลลอรี่ (George Lee Mallory) หลายคนในนี้น่าจะรู้จักเขา
-
1:13 - 1:17ในปี 1924 เขาถูกเห็นเป็นครั้งสุดท้ายในตอนที่หายไปในหมู่เมฆ
-
1:17 - 1:18ใกล้ๆกับยอดเขาเอเวอเรสต์
-
1:18 - 1:21เขาอาจจะเป็นหรือไม่ได้เป็นคนแรกที่ไต่เขาเอเวอเรสต์
-
1:21 - 1:23มากกว่า 30 ปี ก่อนเอดมันด์ ฮิลลารี่ (Edmund Hillary)
-
1:23 - 1:26ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปถึงยอดหรือไม่ มันยังเป็นสิ่งลึกลับอยู่
-
1:26 - 1:29แต่เขาก็ได้รับการให้เครดิตจากการคิดวลีนี้ "เพราะมันอยู่ตรงนั้น"
-
1:29 - 1:32เอาล่ะ ความจริงผมก็ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเขาพูดมันจริงๆ
-
1:32 - 1:34มันมีหลักฐานน้อยมากที่บอกแบบนั้น แต่สิ่งที่เขาพูดจริงๆคือ
-
1:34 - 1:37อะไรที่ดีกว่านั้นมากๆ
-
1:37 - 1:40และเช่นกัน ผมปรินท์มันออกมา และผมก็จะอ่านมันออกมา
-
1:40 - 1:42"คำถามแรกที่คุณจะถาม
-
1:42 - 1:44และที่ผมจะต้องพยายามตอบก็คือ:
-
1:44 - 1:48อะไรคือประโยช์ของการไต่เขาเอเวอเรสต์?
-
1:48 - 1:51และคำตอบของผมก็จะต้องเป็น มันไม่มีประโยชน์หรอก
-
1:51 - 1:54มันไม่มีโอกาสที่จะได้รับประโยชน์ใดๆไม่ว่าทางใดก็แล้วแต่
-
1:54 - 1:56อ้อ เราอาจจะได้เรียนรู้นิดหน่อยเกี่ยวกับพฤติกรรม
-
1:56 - 1:58ของร่างกายมนุษย์ในที่สูง
-
1:58 - 2:01และเป็นไปได้ว่า พวกหมอๆอาจจะนำสิ่งที่ได้ค้นพบ
-
2:01 - 2:04เพื่อเปลี่ยนไปเป็นประโยชน์เกี่ยวกับการบินต่อไป
-
2:04 - 2:06แต่ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่มีอะไรเป็นประโยชน์ออกมาหรอก
-
2:06 - 2:09เราคงจะไม่นำทองหรือเงินชิ้นเล็กๆกลับออกมา
-
2:09 - 2:11และไม่ว่าจะเป็นอัญมณี หรือถ่านหิน หรือเหล็กกล้า ด้วย
-
2:11 - 2:14เราคงจะไม่เจอแม้แต่สักฟุตหนึ่งบนพื้นดินที่จะสามารถปลูก
-
2:14 - 2:18พืชเพื่อเป็นอาหารได้ เพราะงั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก
-
2:18 - 2:20ถ้าคุณไม่สามารถเข้าใจได้ว่ามีอะไรบางอย่างในตัวเรา
-
2:20 - 2:23ที่ตอบสนองต่อความท้าทายของขุนเขานี้
-
2:23 - 2:26และออกไปพบว่าการต่อสู้นี้
-
2:26 - 2:30เป็นการต่อสู้ของชีวิต ที่จะไต่สูงขึ้นไปและสูงขึ้นไปตลอดกาล
-
2:30 - 2:33ถ้างั้น คุณก็จะไม่เห็นเหตุผลหรอกว่าทำไมเราถึงไป
-
2:33 - 2:37สิ่งที่เราได้จากการผจญภัยนี้มีเพียงความสนุกเท่านั้น
-
2:37 - 2:40และความสนุกนั้นในท้ายที่สุดแล้วก็เป็นที่สุดของชีวิต
-
2:40 - 2:42เราไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อกินและหาเงิน
-
2:42 - 2:44เรากินและหาเงินเพื่อสนุกกับชีวิต
-
2:44 - 2:49นั่นคือความหมายของชีวิต และนั่นก็เป็นเหตุผลของชีวิต"
-
2:49 - 2:53ยังไงก็แล้วแต่ คำพูดของมัลลอรีที่ว่า การออกจากบ้าน
-
2:53 - 2:55การเริ่มต้นการผจญภัยอันยิ่งใหญ่นี้ เป็นอะไรที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานนั้น
-
2:55 - 2:59ไม่ได้สอดคล้องอย่างสมบูรณ์แบบกับประสบการณ์ของผมเท่าไหร่นัก
-
2:59 - 3:02ไกลที่สุดเท่าที่ผมได้ออกจากประตูบ้านของผมนั้น
-
3:02 - 3:05เกิดขึ้นเมื่อฤดูใบไม้ผลิปี 2004 ผมยังไม่รู้แน่ชัดว่า
-
3:05 - 3:08อะไรเข้าสิงผม แต่แผนของผมคือ
-
3:08 - 3:12การข้ามมหาสมุทรอาร์คติกเพียงลำพังโดยไร้การช่วยเหลือใดๆ
-
3:12 - 3:15ผมวางแผนว่าจะเดินจากชายฝั่งตอนเหนือของรัสเซีย
-
3:15 - 3:18ไปยังขั้วโลกเหนือ และจากนั้นเดินต่อไปยังชายฝั่งตอนเหนือของแคนาดา
-
3:18 - 3:21ไม่มีใครเคยทำแบบนี้มาก่อน ผมอายุ 26 ในตอนนั้น
-
3:21 - 3:23ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้
-
3:23 - 3:27และแม่ของผมก็แน่นอน ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เอามากๆ
-
3:27 - 3:29(เสียงหัวเราะ)
-
3:29 - 3:32การเดินทางจากสถานีอากาศที่ชายฝั่งตอนเหนือ
-
3:32 - 3:34ของไซบีเรียไปยังจุดเริ่มต้นจริงๆของผม
-
3:34 - 3:37สุดขอบของน้ำแข็ง ชายฝั่งของมหาสมุทรอาร์คติก
-
3:37 - 3:40ใช้เวลาประมาณห้าชั่วโมง และสำหรับใครที่ชอบดู
-
3:40 - 3:43เฟลิกซ์ บาว์มการ์ทเนอร์ (Felix Baumgartner) ผู้ไม่เกรงกลัวสิ่งใด บินขึ้นไป มากกว่าตอนที่ตกลงมา
-
3:43 - 3:46คุณคงจะเข้าใจความรู้สึกหวาดหวั่น
-
3:46 - 3:49ในขณะที่ผมนั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์มุ่งหน้าไปทางเหนือ
-
3:49 - 3:52และความรู้สึกใกล้ตาย ถ้ามีอะไรใกล้เคียงน่ะนะ
-
3:52 - 3:56ผมนั่งอยู่ตรงนั้น สงสัยว่าผมพาตัวเองมาอยู่ในสถานการณ์อะไรกันเนี่ย
-
3:56 - 3:58มันมีทั้งส่วนที่เป็นความสนุก ความรื่นรมย์
-
3:58 - 4:00ผมอายุ 26 ผมจำได้ว่าการนั่งอยู่ตรงนั้น
-
4:00 - 4:02มองลงไปยังเลื่อนของผม สกีของผมพร้อมแล้ว
-
4:02 - 4:04ผมมีโทรศัพท์ดาวเทียม ปืนอัดลม
-
4:04 - 4:06เผื่อว่าผมถูกจู่โจมโดยหมีขั้วโลก
-
4:06 - 4:09ผมจำได้ว่ามองออกมานอกหน้าต่างและมองเห็นเฮลิคอปเตอร์ลำที่สอง
-
4:09 - 4:12เราต่างมุ่งหน้าสู่อาทิตย์รุ่งอรุณอันเหลือเชื่อของไซบีเรีย
-
4:12 - 4:15และบางส่วนในตัวผมรู้สึกเหมือนกับการผสานกัน
ระหว่างเจสัน บอร์น (Jason Bourne) -
4:15 - 4:18และวิลเฟรด เธซีเกอร์ (Wilfred Thesiger)
ส่วนเล็กๆในตัวผม -
4:18 - 4:24รู้สึกภูมิใจในตัวผมเอง แต่ส่วนใหญ่แล้วผมน่ะโคตรกลัวเลย
-
4:24 - 4:26และการเดินทางครั้งนั้นยาวนาน 10 อาทิตย์ ทั้งหมด 72 วัน
-
4:26 - 4:29ผมไม่ได้เจอใครเลย เราถ่ายภาพนี้กันใกล้ๆกับเฮลิคอปเตอร์
-
4:29 - 4:31หลังจากนั้น ผมไม่ได้เจอใครอีกเลยใน 10 อาทิตย์
-
4:31 - 4:33ขั้วโลกเหนือนั้นตั้งอยู่เป๊ะๆ ตรงกลางทะเล
-
4:33 - 4:37เพราะงั้นผมกำลังเดินทางบนพื้นผิวแช่แข็งของมหาสมุทรอาร์คติก
-
4:37 - 4:41องค์การนาซ่าอธิบายสภาพของปีนั้นว่าแย่ที่สุดเท่าที่เคยมีสถิติมา
-
4:41 - 4:44ผมลากอาหาร เชื่อเพลิง และสิ่งจำเป็นต่างๆ หนักรวมกัน 180 กิโล
-
4:44 - 4:47หรือประมาณ 400 ปอนด์ อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของ 10 สัปดาห์นั้น
-
4:47 - 4:50อยู่ที่ -35 หนาวที่สุดคือ -50
-
4:50 - 4:57เพราะงั้นขอย้ำอีกซักครั้ง มันไม่ได้มีอะไรมากมายให้รู้สึกสนุกสนานกับด้วยได้
-
4:57 - 4:58ยังไงก็แล้วแต่ หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทั้งหลายเกี่ยวกับการเดินทางนี้
-
4:58 - 5:01ก็คือ เพราะผมเดินอยู่บนทะเล
-
5:01 - 5:05เหนือเจ้าเกล็ดน้ำแข็งที่ลอยมั่ง เลื่อนมั่ง ย้ายมั่ง
-
5:05 - 5:07ที่ลอยอยู่บนผิวหน้าของมหาสมุทรอาร์คติก
-
5:07 - 5:09มันเป็นสภาพแวดล้อมที่อยู่สภาวะการณ์เลื่อนไหลอย่างสม่ำเสมอ
-
5:09 - 5:11เกล็ดน้ำแข็งมักจะเคลือนย้าย แตกหัก เลือนไปมา
-
5:11 - 5:15แข็งตัวอีกครั้ง เพราะงั้นทิวทัศน์นั้นที่ผมเห็นเกือบ 3 เดือน
-
5:15 - 5:18เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผม เป็นไปได้ว่าไม่มีใครคนใด
-
5:18 - 5:23ได้เห็นภาพนี้ ทิวทัศน์นี้ ที่ผมเห็นมา 10 สัปดาห์
-
5:23 - 5:27และนั่น ผมเดาว่า น่าจะเป็นเหตุผลที่ดีที่สุดสำหรับการออกนอกบ้าน
-
5:27 - 5:31ผมสามารถเล่าให้คุณฟังได้ว่ามันเป็นยังไง
-
5:31 - 5:33แต่คุณจะไม่มีทางได้รู้เลยว่ามันเป็นยังไง
-
5:33 - 5:36และยิ่งผมพยายามอธิบายว่าผมเหงา
-
5:36 - 5:39ผมเป็นเพียงมนุษย์คนเดียวบนพื้นที่ 5.4 ล้านตารางไมล์
-
5:39 - 5:44มันหนาว ในวันที่เลวร้าย มันเป็นได้เกือบ -75 และมีลมพัด
-
5:44 - 5:48คำอธิบายก็ยิ่งสั้นลง และผมก็ไม่สามารถที่จะอธิบายได้อย่างเป็นกลางอีกต่อไป
-
5:48 - 5:52ดังนั้น ดูเหมือนว่าสำหรับผม การลงมือ
-
5:52 - 5:57พยายามสัมผัส มีส่วนร่วม บากบั่น
-
5:57 - 6:02มากกว่าที่จะดูและสงสัย นั้นเป็นที่ๆ
-
6:02 - 6:05เนื้อแท้ของชีวิตจะถูกค้นพบ
-
6:05 - 6:09เป็นความสุขที่เราจะดูดดื่มได้จากชั่วโมงและวันของเรา
-
6:09 - 6:11และผมจะขอเพิ่มคำเตือนเอาไว้ตรงนี้
-
6:11 - 6:13ในประสบการณ์ของผม มันมีอะไรคล้ายสิ่งเสพย์ติด
-
6:13 - 6:18อยู่ในการลิ้มลองชีวิตสุดขอบเท่าที่มนุษย์จะทำได้
-
6:18 - 6:20เอาล่ะ ผมไม่ได้หมายถึงเพียงในสภาวะ
-
6:20 - 6:22การใช้ชีวิตหาญกล้า บ้าระห่ำ ลูกผู้ชาย ตามสไตล์ Edwardian
-
6:22 - 6:24แต่ยังหมายถึงในสภาวะของการเป็นมะเร็งตับอ่อนอีกด้วย
-
6:24 - 6:26มันมีอะไรบางอย่างที่เสพย์ติดในสิ่งเหล่านี้ และในกรณีของผม
-
6:26 - 6:29ผมคิดว่าการเดินทางในขั้วโลกไม่ได้เป็นเพียง
-
6:29 - 6:30จากแค่นิสัยชอบลองอีกต่อไป
-
6:30 - 6:34ผมอธิบายไม่ได้ว่ามันดียังไง จนกว่าคุณจะได้ลองมัน
-
6:34 - 6:38แต่มันมีศักยภาพที่จะผลาญเงินทั้งหมดที่ผมมี
-
6:38 - 6:41ทำลายทุกความสัมพันธ์ที่ผมเคยสร้างไว้
-
6:41 - 6:46เพราะงั้นจงระวังกับสิ่งที่คุณต้องการให้ดี
-
6:46 - 6:48มัลลอรีกล่าวว่ามีอะไรบางอย่างในตัวคน
-
6:48 - 6:51ที่ตอบสนองต่อความท้าทายของภูเขา
-
6:51 - 6:53และผมสงสัยว่ามันจริงรึเปล่าที่มีอะไรบางอย่าง
-
6:53 - 6:56ในความท้าทายนั้น ในความพยายามนั้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
-
6:56 - 6:59ในความท้าทายอันยิ่งใหญ่ ไม่เสร็จสิ้น ไม่สมบูรณ์นั้นที่เผชิญหน้ากับมนุษยชาติ
-
6:59 - 7:03ที่เรียกหาเรา และจากประสบการณ์ของผมแล้ว นั่นเป็นความจริงแท้ทีเดียว
-
7:03 - 7:05มันมีความท้าทายที่ยังไม่เสร็จสิ้น
-
7:05 - 7:08ที่ได้ร้องเรียกหาผมมาเกือบทั้งชีวิตของการเป็นผู้ใหญ่ของผม
-
7:08 - 7:10หลายคนในนี้คงรู้เรื่องนี้
-
7:10 - 7:12นี่เป็นภาพถ่ายของกัปตันสก๊อตกับทีมของเขา
-
7:12 - 7:14สก๊อตออกเดินทางเมื่อกว่าร้อยปีมาแล้วเพื่อพยายาม
-
7:14 - 7:17ที่จะเป็นคนแรกที่ไปถึงขั้วโลกใต้
-
7:17 - 7:19ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ที่นั่น มันไม่เคยถูกทำเป็นแผนที่มาก่อนเลย
-
7:19 - 7:21ในตอนนั้น เรารู้เกี่ยวกับพื้นผิวของดวงจันทร์
-
7:21 - 7:24มากกว่าที่เรารู้เกี่ยวกับใจกลางของแอนตาร์กติกาซะอีก
-
7:24 - 7:27สก๊อต ก็อย่างที่หลายคนรู้ๆกัน พ่ายแพ้ให้กับ
-
7:27 - 7:29โรอัลด์ อมุนด์เซน (Roald Amundsen) และทีมจากนอร์เวย์ของเขา
-
7:29 - 7:32ซึ่งใช้สุนัขและลากเลื่อน ขณะที่ทีมของสก๊อตเดินเท้า
-
7:32 - 7:34ทั้งห้าคนสวมเครื่องลากและลากเลื่อนไปด้วย
-
7:34 - 7:38และพวกเขาก็ไปถึงขั้วโลกเพื่อพบว่า ธงนอร์เวย์ได้ปักอยู่ตรงนั้นแล้ว
-
7:38 - 7:42ผมจินตนาการว่ามันคงขมขื่นและท้อแท้
-
7:42 - 7:44ทั้งห้าหันหลังกลับและเริ่มเดินกลับไปยังชายฝั่ง
-
7:44 - 7:48และทั้งห้าคนตายในระหว่างการเดินทางกลับนั้น
-
7:48 - 7:50มีความเข้าใจผิดบางอย่างในทุกวันนี้ที่ว่า
-
7:50 - 7:53ทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องของการสำรวจและผจญภัย
-
7:53 - 7:55เมื่อผมพูดเกี่ยวกับแอนตาร์กติกา ผู้คนมักพูดว่า
-
7:55 - 7:56"มันน่าสนใจดีนะ แต่ไม่ใช่ว่า
-
7:56 - 7:59รายการ Blue Peter เคยทำแบบนั้นด้วยการขี่จักรยานไปแล้วหรอกเหรอ"
-
7:59 - 8:03หรือ "ดีจัง ยายของฉันกำลังจะ
-
8:03 - 8:05ล่องเรือไปแอนตาร์กติกาปีหน้าแหละ
-
8:05 - 8:08นายจะมีโอกาสได้เจอเธอที่นั่นมั้ย?"
-
8:08 - 8:10(เสียงหัวเราะ)
-
8:10 - 8:13แต่การเดินทางของสก๊อตยังไม่เสร็จสิ้น
-
8:13 - 8:16ไม่มีใครเคยเดินจากสุดชายฝั่งของแอนตาร์กติกา
-
8:16 - 8:17ไปยังขั้วโลกใต้แล้วกลับมาอีกครั้ง
-
8:17 - 8:20มันเป็นความพยายามอันหาญกล้า
-
8:20 - 8:23ของยุคทองแห่งการสำรวจในสมัย Edwardian
-
8:23 - 8:25และสำหรับผม มันเป็นช่วงเวลารุ่งเรือง
ดูจากทุกอย่าง -
8:25 - 8:27ที่พวกเราได้ทำกันมาในศตวรรษนี้
-
8:27 - 8:31จากโรคลักปิดลักเปิด ถึงแผงวงจรแสงอาทิตย์
นี่เป็นช่วงเวลารุ่งเรือง -
8:31 - 8:33ที่ใครสักคนก็น่าที่จะทำงานนี้ให้สำเร็จ
-
8:33 - 8:35เพราะงั้น สั้นๆก็คือว่า นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังจะทำ
-
8:35 - 8:38ในช่วงเวลานี้ของปีหน้า ในเดือนตุลาคม
ผมจะนำทีมที่มีสามคน -
8:38 - 8:41มันคงจะใช้เวลาประมาณสี่เดิอนในการเดินทางไปกลับ
-
8:41 - 8:44นั่นเป็นแผนภาพครับ
เส้นสีแดงนั้นชัดเจนว่าเป็นครี่งทางไปสู่ขั้วโลก -
8:44 - 8:45เราต้องหันกลับ และกลับมาอีกครั้ง
-
8:45 - 8:47ผมรู้ดีว่านี่คงเหมือนการประชด เพราะผมจะบอกว่าพวกเราจะ
-
8:47 - 8:50เขียนบล็อกและทวีตเกี่ยวกับมันตลอดการเดินทาง
และคุณก็สามารถเข้าร่วม -
8:50 - 8:53มีประสบการณ์เสมือนจริงในเหตุการณ์นี้ได้
-
8:53 - 8:56ในแบบที่ไม่มีใครเคยมีมาก่อน
-
8:56 - 8:58และมันก็จะเป็นโอกาสสี่เดือน ที่ในท้ายที่สุด
-
8:58 - 9:02ผมจะได้คำตอบที่ชัดเจนกับคำถามที่ว่า "ทำไม?"
-
9:02 - 9:07และชีวิตพวกเราทุกวันนี้ ทั้งปลอดภัยและสะดวกสบาย
-
9:07 - 9:10กว่าเมื่อก่อน
ไม่มีเสียงเรียกร้อง -
9:10 - 9:13ให้มีนักสำรวจมากเท่าไหร่นักอีกแล้ว
ครูแนะแนวที่โรงเรียนของผม -
9:13 - 9:16ไม่เคยเอ่ยถึงมันว่าเป็นทางเลือกหนึ่ง
-
9:16 - 9:19ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากผมอยากรู้
-
9:19 - 9:21ว่ามีดาวกี่ดวงบนทางช้างเผือก
-
9:21 - 9:23เจ้าหัวยักษ์บนหมู่เกาะอีสเตอร์เก่าแก่แค่ไหน
-
9:23 - 9:26พวกคุณส่วนใหญ่ก็สามารถหาคำตอบมันได้ในทันที
-
9:26 - 9:28โดยไม่ต้องแม้กระทั่งยืนขึ้น
-
9:28 - 9:31เอาล่ะ ถ้าหากผมได้เรียนรู้อะไรใน 12 ปีที่ผ่านมา
-
9:31 - 9:34ของการลากของหนักๆไปรอบๆที่เย็นๆ
-
9:34 - 9:38สิ่งนั้นก็คือว่า แรงบันดาลใจและการเติบโตที่แท้จริง
-
9:38 - 9:42มาจากความยากลำบาก ความท้าทาย
-
9:42 - 9:45การก้าวออกจากความสบายและความคุ้นเคย
-
9:45 - 9:48ไปสู่ที่ๆเราไม่รู้จักเท่านั้น
-
9:48 - 9:51ในชีวิตหนึ่ง เราต่างมีลมพายุที่ต้องฝ่า ขั้วโลกที่ต้องไปให้ถึง
-
9:51 - 9:53และผมคิดว่า โดยเชิงเปรียบเทียบแล้ว
อย่างน้อย -
9:53 - 9:56เราต่างสามารถที่จะได้ประโยชน์จากการออกไปนอกบ้าน
-
9:56 - 10:00ให้มากขึ้นสักหน่อย
หากเพียงเราสามารถรวมความกล้าได้ -
10:00 - 10:03ผมขอวิงวอนจากใจ ให้พวกคุณเปิดประตูบ้านสักนิด
-
10:03 - 10:06แล้วมองออกไปว่ามีอะไรอยู่ข้างนอกนั้นบ้าง
-
10:06 - 10:07ขอบคุณมากครับ
-
10:07 - 10:16(เสียงปรบมือ)
- Title:
- เบน ซอนเดอร์ส (Ben Saunders): ทำไมต้องเสียเวลาออกนอกบ้านด้วยล่ะ?
- Speaker:
- Ben Saunders
- Description:
-
นักสำรวจ เบน ซอนเดอร์ส อยากให้คุณออกไปข้างนอก! ไม่ใช่เพราะมันมีแต่ความสนุกและสุขสันต์อยู่ตลอดเวลาหรอกนะ แต่เพราะมันเป็นที่ที่เนื้อแท้แห่งชีวิตอยู่เป็น "ความสุขที่เราสามารถดื่มด่ำได้จากชั่วโมงและวันของเรา" การเดินทางครั้งต่อไปของซอนเดอร์สน่ะหรือ? คือพยายามจะเป็นคนแรกในโลกที่เดินจากชายฝั่งแอนตาร์กติกาสู่ขั้วโลกใต้ แล้วก็เดินกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 10:37
Dimitra Papageorgiou approved Thai subtitles for Why bother leaving the house? | ||
Pattapon Kasemtanakul accepted Thai subtitles for Why bother leaving the house? | ||
Pattapon Kasemtanakul commented on Thai subtitles for Why bother leaving the house? | ||
Pattapon Kasemtanakul edited Thai subtitles for Why bother leaving the house? | ||
Pattapon Kasemtanakul edited Thai subtitles for Why bother leaving the house? | ||
Chatthip Chaichakan edited Thai subtitles for Why bother leaving the house? | ||
Chatthip Chaichakan edited Thai subtitles for Why bother leaving the house? | ||
Chatthip Chaichakan edited Thai subtitles for Why bother leaving the house? |