ความเป็นจริงอะไรที่คุณเนรมิตให้กับตัวคุณเอง
-
0:01 - 0:03ตอนโดโรธียังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย
-
0:03 - 0:04เธอชื่นชอบปลาทองมาก
-
0:05 - 0:09พ่อของเธออธิบายให้ฟังว่า
ปลาว่ายน้ำโดยการสะบัดหางไว ๆ -
0:09 - 0:10เพื่อพุ่งทะยานตัวเองไปในน้ำ
-
0:11 - 0:13โดโรธีตัวน้อยตอบกลับทันที
อย่างไม่ลังเล -
0:13 - 0:16"ค่ะ ป๊ะป๋า แล้วปลาก็ว่ายน้ำถอยหลัง
โดยการส่ายหัวไปมาด้วยค่ะ" -
0:16 - 0:18(เสียงหัวเราะ)
-
0:18 - 0:21ในใจของเธอ มันคือความจริง
เช่นเดียวกับความจริงในเรื่องอื่น ๆ -
0:21 - 0:23ปลาว่ายน้ำถอยหลังโดย
การส่ายหัวไปมา -
0:23 - 0:25เธอเชื่อเช่นนั้น
-
0:25 - 0:28แท้จริงแล้ว ในชีวิตของพวกเรา
ล้วนเต็มไปด้วยปลาที่ว่ายน้ำถอยหลัง -
0:28 - 0:31พวกเราสร้างสมมติฐานและ
ก้าวกระโดดสู่ตรรกะอย่างผิด ๆ -
0:31 - 0:32พวกเราเก็บซ่อนอคติไว้ในใจ
-
0:32 - 0:34เรารู้แต่ว่า พวกเราทำถูก
ส่วนพวกเขาเป็นฝ่ายผิด -
0:34 - 0:36พวกเราเกรงว่าจะเป็นคนที่แย่ที่สุด
-
0:36 - 0:38เราใฝ่หา
ความสมบูรณ์แบบที่ไม่อาจถึงพร้อม -
0:39 - 0:41เราเฝ้าบอกตัวเองว่า
อะไรคือสิ่งที่เราทำได้และทำไม่ได้ -
0:42 - 0:46ในใจเรา ก็เหมือนปลาที่ว่ายน้ำถอยหลัง
โดยการสะบัดหัวไปมาอย่างลนลาน -
0:46 - 0:47และเรายังไม่รู้สึกตัวอีกด้วย
-
0:49 - 0:51ผมจะขอกล่าวถึงข้อเท็จจริง
5 ประการของผมเองแก่ทุกท่าน -
0:51 - 0:53โดยมีอยู่ข้อเดียวที่โกหก
-
0:54 - 0:59หนึ่ง ผมจบจากฮาร์วาร์ดตอนอายุ 19
ด้านคณิตศาสตร์ ด้วยคะแนนเกียรตินิยม -
1:00 - 1:04สอง ปัจจุบันผมทำธุรกิจก่อสร้าง
ในเมืองออร์แลนโด -
1:05 - 1:08สาม ผมเคยแสดงบทนำใน
ละครซิทคอมทางโทรทัศน์ -
1:09 - 1:14สี่ ผมสูญเสียการมองเห็นจากการเป็น
โรคสายตาทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก -
1:15 - 1:19ห้า ผมเคยเป็นเจ้าหน้าที่ศาลใน
ศาลสูงสุดของสหรัฐฯ สองแห่ง -
1:20 - 1:22ข้อไหนที่เป็นเรื่องโกหกครับ
-
1:24 - 1:25ที่แท้แล้ว เป็นจริงหมดทุกข้อ
-
1:26 - 1:28ใช่ครับ ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง
-
1:29 - 1:31(เสียงปรบมือ)
-
1:33 - 1:36ณ จุดนี้ คนส่วนใหญ่คงสนใจแต่
การแสดงละครโทรทัศน์สินะครับ -
1:36 - 1:38(เสียงหัวเราะ)
-
1:40 - 1:41ผมทราบได้จากประสบการณ์
-
1:42 - 1:46ก็ได้ครับ เป็นเรื่อง "ระฆังช่วยชีวิต :
ชั้นเรียนใหม่" ทางช่อง NBC ครับ -
1:46 - 1:49และผมแสดงเป็น วิสเซิล ไวเซล
(Weasel Wyzell) -
1:50 - 1:54ในเรื่องเป็นคนที่มีบุคลิกออกเฉิ่ม ๆ
และเป็นเด็กเนิร์ด -
1:54 - 1:59ซึ่งทำให้เกิดความท้าทาย
ในการแสดงมาก -
1:59 - 2:01สำหรับเด็กผู้ชายอายุ 13
อย่างผม -
2:01 - 2:02(เสียงหัวเราะ)
-
2:03 - 2:06คราวนี้ คุณรู้สึกอึดอัดกับข้อ 4
อาการตาบอดของผมบ้างไหมครับ -
2:07 - 2:08เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
-
2:09 - 2:12เราได้สร้างสมมติฐานขึ้นมา
ที่ใคร ๆ ต่างเรียกว่า ความพิการ -
2:12 - 2:15ในฐานะผู้พิการทางสายตาคนหนึ่ง
ผมต้องเผชิญกับการเข้าใจผิด ๆ ของคนอื่น -
2:15 - 2:17เกี่ยวกับความสามารถของผมอยู่ทุกวัน
-
2:19 - 2:21อย่างไรก็ดีครับ ประเด็นของวันนี้
ไม่ใช่เรื่องอาการตาบอดของผม -
2:21 - 2:22แต่มันเกี่ยวกับ วิสัยทัศน์
-
2:23 - 2:27การมองไม่เห็นได้สอนให้ผม
ใช้ชีวิตอย่างเปิดตาเปิดใจให้กว้าง -
2:28 - 2:31มันสอนผมให้เห็น
เหล่าปลาที่ว่ายน้ำถอยหลัง -
2:31 - 2:32ภายในใจที่เราปรุงแต่งขึ้นมา
-
2:32 - 2:34การตาบอดได้จับให้ไปอยู่ในจุดโฟกัส
-
2:36 - 2:38ความรู้สึกของการมองเห็นเป็นเช่นไร
น่ะหรือ -
2:39 - 2:40มันเป็นไปอย่างฉับพลัน และ
รับข้อมูลเพียงอย่างเดียว -
2:41 - 2:43เพียงแค่ลืมตาก็มองเห็นโลก
-
2:43 - 2:45เห็นด้วยตาแล้วจึงเชื่อ
ภาพที่เห็นคือความเป็นจริง -
2:45 - 2:46ใช่ไหมครับ
-
2:47 - 2:49ครับ นั่นคือสิ่งที่ผมเคยคิด
-
2:50 - 2:54เมื่ออายุ 12 ถึง 25
จอประสาทตาผมเสื่อมสภาพไปทีละน้อย -
2:55 - 2:58การมองเห็นก็เริ่มแปลกขึ้นเรื่อย ๆ
-
2:58 - 3:01ในห้องโถงของบ้านหรรษากระจกเงา
และภาพลวงตาที่งานเทศกาล -
3:02 - 3:04พนักงานขายที่ผมรู้สึกสบายใจที่
ได้เห็นในร้านค้า -
3:04 - 3:05แท้จริงแล้ว คือหุ่นจำลอง
-
3:06 - 3:07เมื่อไปถึงที่ที่ผมจะล้างมือ
-
3:07 - 3:11ทันใดนั้น ผมก็เห็นว่าที่ผมจับอยู่นั้น
คือโถปัสสาวะ ไม่ใช่อ่างล้างมือ -
3:11 - 3:12ต่อเมื่อนิ้วได้สัมผัสถึงรูปร่าง
จริง ๆ ของมัน -
3:13 - 3:15เพื่อนคนหนึ่งเคยบรรยาย
รูปถ่ายที่อยู่ในมือผม -
3:15 - 3:17เพียงวิธีนี้ผมจึงจะมองเห็น
ภาพจริงที่ปรากฎ -
3:19 - 3:23วัตถุปรากฎขึ้น ปรับเปลี่ยนรูปร่าง
และสูญหายไปในความเป็นจริงของผม -
3:24 - 3:27มันทั้งลำบากและเหนื่อยล้าที่จะมองเห็น
-
3:28 - 3:31ผมปะติดปะต่อชิ้นส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน
เป็นภาพที่เกิดเพียงชั่วครู่ -
3:31 - 3:33วิเคราะห์คำใบ้ปริศนาอย่างมีสติ
-
3:33 - 3:36มองหาหลักการบางอย่าง
ในภาพอันลานตาที่แตกเป็นชิ้น ๆ -
3:37 - 3:38จนกระทั่งผมมองไม่เห็นอะไรเลย
-
3:40 - 3:41ผมได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่พวกเราเห็น
-
3:41 - 3:44มันไม่ใช่ความเป็นจริงโดยสากล
-
3:44 - 3:46มันไม่ใช่ความเป็นจริงเชิงวัตถุวิสัย
-
3:48 - 3:53สิ่งที่เราเห็นคือความเป็นจริงเฉพาะตัว
เฉพาะบุคคล และความเป็นจริงเสมือน -
3:53 - 3:55ที่สมองของเราได้สร้างมันขึ้นมา
อย่างชาญฉลาด -
3:56 - 3:58ขอผมอธิบายด้วยความรู้ทาง
ประสาทวิทยาสักเล็กน้อยนะครับ -
3:58 - 4:01เปลือกสมองส่วนการมองเห็นครองพื้นที่
ประมาณ 30 เปอร์เซนต์ของสมองคุณ -
4:02 - 4:05นั่นเทียบได้กับส่วนการรับสัมผัส
ที่มีอยู่ประมาณ 8 เปอร์เซนต์ -
4:05 - 4:07และ 2-3 เปอร์เซนต์ในส่วนของการฟัง
-
4:08 - 4:11ทุกวินาที ตาของคุณสามารถส่งข้อมูล
ไปยังเปลือกสมองส่วนการมองเห็น -
4:11 - 4:14มากเท่ากับข้อมูลนับสองพันล้านข้อมูล
-
4:14 - 4:18ร่างกายส่วนอื่น ๆ จะสามารถส่งข้อมูล
ไปยังสมองของคุณเพิ่มได้อีกพันล้านเท่านั้น -
4:19 - 4:23การมองเห็นจึงใช้หนึ่งในสาม
ปริมาตรของเนื้อสมองทั้งหมด -
4:23 - 4:26และสามารถกล่าวได้ว่าประมาณสองในสาม
นั้นเป็นแหล่งประมวลผลข้อมูลของสมอง -
4:27 - 4:28มันจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย
-
4:28 - 4:30ว่าภาพลวงตาของการมองเห็น
ถึงไม่อาจต้านทานได้อยู่ -
4:30 - 4:33แต่มันไม่ได้ก่อความผิดพลาด
เพราะการมองเห็นคือภาพมายา -
4:34 - 4:36ตรงนี้แหละที่เริ่มน่าสนใจ
-
4:36 - 4:38ในการสร้างประสบการณ์การมองเห็น
สิ่งต่าง ๆ -
4:38 - 4:41สมองของคุณจะอ้างอิงจากความเข้าใจ
เชิงมโนทัศน์ของคุณที่มีต่อโลก -
4:41 - 4:45ความรู้อื่น ความทรงจำ ความคิดเห็น
อารมณ์ความรู้สึก และการจดจ่อ -
4:46 - 4:50ทั้งหมดนี้ และนอกเหนือจากนี้ นำมา
เชื่อมโยงสมองของคุณกับการมองเห็น -
4:51 - 4:54การเชื่อมโยงนี้ทำงานสองทิศทาง
และมักเกิดขึ้นที่จิตใต้สำนึก -
4:54 - 4:56ยกตัวอย่างเช่น
-
4:56 - 4:58สิ่งที่คุณเห็น
จะมีอิทธิพลต่อความรู้สึก -
4:59 - 5:01และความรู้สึก
สามารถไปเปลี่ยนสิ่งที่คุณเห็นได้ -
5:02 - 5:04งานวิจัยจำนวนมากพิสูจน์ถึงเรื่องนี้
-
5:05 - 5:06ตัวอย่างเช่นหากคุณถูกขอให้ประมาณ
-
5:06 - 5:10ความเร็วในการเดินของคนที่อยู่ในวิดิโอ
-
5:10 - 5:14คำตอบของคุณจะต่างออกไป หากบอกให้
คุณประมาณความเร็วของเสือชีตาร์หรือเต่า -
5:15 - 5:18เนินเขาจะดูสูงชันขึ้น
หากคุณเพิ่งออกกำลังกายมา -
5:18 - 5:21และตำแหน่งของมันจะดูไกลออกไป
-
5:21 - 5:22หากคุณสะพายกระเป๋าเป้ใบหนัก ๆ
-
5:24 - 5:27เรามาพูดกันถึงเรื่อง
ความขัดแย้งที่เป็นพื้นฐานกันครับ -
5:28 - 5:33สิ่งที่คุณเห็นคือความซับซ้อนของ
โครงสร้างทางจิตที่ตัวคุณสร้างขึ้นเอง -
5:33 - 5:34แต่เป็นประสบการณ์ที่คุณรับข้อมูล
-
5:34 - 5:37เสมือนเป็นทางตรงในการสร้างภาพ
โลกรอบ ๆ ตัวคุณ -
5:38 - 5:40คุณเนรมิตความเป็นจริงให้ตัวเอง
และคุณก็เชื่อความจริงนั้น -
5:42 - 5:44ผมเคยเชื่อว่าเป็นความจริงของผม
จนมันพังทลาย -
5:45 - 5:47การเสื่อมสภาพของดวงตา
ได้ทำให้ภาพลวงตาสลายลง -
5:49 - 5:51การมองเห็นเป็นเพียงหนทางเดียว
-
5:51 - 5:53ที่พวกเราก่อร่างความเป็นจริงของเรา
-
5:53 - 5:56พวกเราเนรมิตความเป็นจริงของตัวเอง
ในหลากหลายทาง -
5:57 - 6:00ผมขอนำเรื่องความกลัวมาเป็นตัวอย่าง
นะครับ -
6:01 - 6:04ความกลัวได้บิดเบือนความจริงของคุณ
-
6:06 - 6:10ภายใต้ตรรกะของความกลัวที่บิดเบี้ยว
อะไรก็ตามล้วนดูดีกว่าความรู้สึกไม่มั่นคง -
6:10 - 6:13ความกลัวเติมเต็มช่องว่าง
ในทุกสถานการณ์ -
6:13 - 6:15ดึงความสนใจจากสิ่งที่คุณรู้
ไปหาสิ่งที่คุณกลัวจับจิต -
6:15 - 6:17นำพามาสู่สถานที่อันเลวร้ายที่สุด
ของความแยกแยะไม่ออก -
6:18 - 6:19ด้วยการตั้งข้อสันนิษฐาน
มาแทนที่เหตุผล -
6:20 - 6:23นักจิตวิทยาให้คำนิยามไว้ว่า
การสร้างความเลวร้าย (awfulizing) -
6:23 - 6:24(เสียงหัวเราะ)
-
6:24 - 6:26ใช่ไหมครับ
-
6:26 - 6:29ความกลัวแทนที่สิ่งที่คุณไม่รู้
ด้วยการคิดไปในแง่เลวร้ายเกินจริง -
6:30 - 6:32ณ ตอนนี้
ความกลัวคือการตระหนักรู้ในตัวเอง -
6:32 - 6:34เมื่อคุณเผชิญความต้องการที่ยิ่งใหญ่
-
6:34 - 6:36ให้มองออกไปภายนอกตัวคุณ
และคิดอย่างมีวิจารณญาณ -
6:36 - 6:39ความกลัวจะทำลายความสงบ
ส่วนลึกในจิตใจคุณ -
6:39 - 6:41บิดเบือนและบีบมุมมอง
ของคุณให้แคบลง -
6:41 - 6:43ถาโถมความสามารถ
ในการคิดวิเคราะห์ของคุณให้จมลง -
6:43 - 6:45ด้วยอารมณ์ความรู้สึกแปรปรวนต่าง ๆ
ที่เอ่อล้น -
6:46 - 6:49เมื่อคุณสบโอกาสที่บีบบังคับ
ให้ลงมือทำ -
6:49 - 6:51ความกลัวจะเป่าหูคุณ
ให้ไม่ต้องลงมือทำอะไร -
6:51 - 6:55ล่อลวงให้คุณได้แต่นิ่งดูดาย
ให้มันทำนายว่าตัวคุณเป็นเช่นนั้น -
6:58 - 7:00ตอนที่ผมถูกวินิจฉัยด้วยโรคตาบอด
-
7:00 - 7:03ผมรู้ว่าการตาบอดจะทำลายชีวิตผม
-
7:04 - 7:07การตาบอดคือคำตัดสินโทษประหาร
ความเป็นอิสระเสรีของผม -
7:07 - 7:09มันเป็นจุดจบของ
การประสบความสำเร็จของผม -
7:11 - 7:15การตาบอดหมายถึง
ผมจะใช้ชีวิตที่ไม่อาจประทับใจ -
7:15 - 7:16ต่ำต้อยและทุกข์ระทม
-
7:16 - 7:18แล้วก็คงจะโดดเดี่ยว
-
7:18 - 7:19ผมทราบดี
-
7:21 - 7:24นี่คือนิยายที่ถือกำเนิดจาก
ความกลัวของผม และผมก็เชื่อมัน -
7:25 - 7:27เป็นเรื่องโกหก
แต่มันคือความเป็นจริงของผม -
7:27 - 7:31ดังเช่นเหล่าปลาที่ว่ายน้ำถอยหลัง
ในความคิดของโดโรธี -
7:32 - 7:34หากผมไม่ได้เผชิญหน้ากับ
ความกลัวที่เป็นจริงของผม -
7:34 - 7:36ผมคงจะใช้ชีวิตแบบนั้น
-
7:36 - 7:37ผมแน่ใจว่าเป็นอย่างนั้น
-
7:40 - 7:42ดังนั้นคุณจะใช้ชีวิต
อย่างเปิดตาเปิดใจได้อย่างไร -
7:43 - 7:45มันคือกฎเกณฑ์ที่ต้องเรียนรู้
-
7:46 - 7:48สามารถสอนกันได้ ฝึกกันได้
-
7:49 - 7:50ผมจะสรุปอย่างสั้น ๆ นะครับ
-
7:52 - 7:54คุณต้องรับผิดชอบต่อตัวคุณเอง
-
7:54 - 7:56ในทุกขณะ ทุกความคิด
-
7:56 - 7:57และในทุกรายละเอียด
-
7:58 - 8:00มองให้โผล่พ้นความกลัวของคุณ
-
8:00 - 8:02ตระหนักว่ามันคือสมมุติฐานของคุณ
-
8:02 - 8:03ใช้พลังจากความเข้มแข็งในใจ
-
8:03 - 8:06เงียบเสียงคำติเตียนที่อยู่ในตัว
-
8:06 - 8:08แก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ
โชคชะตาและความสำเร็จ -
8:09 - 8:13ยอมรับจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง
และเข้าใจในความต่างนั้น -
8:14 - 8:15เปิดใจของคุณออกรับ
-
8:15 - 8:16คำอวยพรอันมากมาย
-
8:17 - 8:20ความกลัวของคุณ
คำติเตียนของคุณ -
8:20 - 8:22ฮีโร่ของคุณ ศัตรูตัวร้ายของคุณ
-
8:22 - 8:25เหล่านี้เป็นข้อแก้ตัวของคุณทั้งสิ้น
-
8:25 - 8:27การหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง
การคิดหาทางลัด -
8:27 - 8:29การให้เหตุผลแก้ตัว
การยอมแพ้ -
8:30 - 8:33เหล่านี้คือนิยายที่คุณ
เข้าใจว่ามันคือความจริง -
8:34 - 8:36จงเลือกที่จะมองผ่านมันไป
-
8:36 - 8:37จงเลือกที่จะปล่อยมันไป
-
8:38 - 8:41คุณคือผู้เนรมิตความเป็นจริง
ของตัวคุณเอง -
8:42 - 8:45ด้วยการเสริมสร้างความแข็งแกร่งนั้น
ความรับผิดชอบอย่างเต็มรูปแบบจะตามมา -
8:46 - 8:52ผมเลือกที่จะก้าวออกมาจากอุโมงค์แห่ง
ความกลัวมายังดินแดนนิรนามอันเป็นปริศนา -
8:52 - 8:55ผมได้เลือกที่จะสร้างชีวิตที่เปี่ยมสุข
-
8:56 - 8:58ห่างไกลจากความโดดเดี่ยว
-
8:58 - 9:01ผมได้ใช้ชีวิตอันสวยงาม
ร่วมกับโดโรธี -
9:01 - 9:03กับภรรยาแสนสวยของผม
-
9:03 - 9:05กับเจ้าแฝดสามที่เราเรียกว่า
"ทริปสกี้" -
9:06 - 9:08และสมาชิกคนล่าสุด
ของครอบครัวเรา -
9:08 - 9:10เจ้าตัวเล็ก
"น้องเคลเมนไทน์" -
9:11 - 9:12คุณหวาดกลัวอะไรครับ
-
9:14 - 9:15คำโกหกอะไร
ที่คุณพร่ำบอกกับตัวเอง -
9:17 - 9:19คุณปรุงแต่งความเป็นจริงและ
เขียนลงนิยายของคุณอย่างไร -
9:20 - 9:23ความเป็นจริงอะไร
ที่คุณเนรมิตให้กับตัวคุณเอง -
9:24 - 9:27ในอาชีพการงาน ในชีวิตส่วนตัว
และในด้านความสัมพันธ์ -
9:27 - 9:29รวมถึงในหัวใจและจิตวิญญาณ
-
9:29 - 9:31ปลาที่ว่ายน้ำถอยหลังของคุณ
ทำร้ายคุณได้อย่างใหญ่หลวง -
9:33 - 9:36พวกมันเป็นตัวบ่อนทำลายในบรรดาโอกาส
ที่พลาดไปและศักยภาพที่ไม่เคยล่วงรู้ -
9:37 - 9:40และยังก่อความรู้สึกไม่มั่นคงและ
ความไม่เชื่อใจ -
9:40 - 9:42ที่จะแสวงหาความสำเร็จสมปรารถนา
และการปฏิสัมพันธ์ -
9:44 - 9:46ผมจะกระตุ้นให้คุณค้นหามันออกมาให้ได้
-
9:47 - 9:52เฮเลน เคลเลอร์ เคยกล่าวไว้ว่า
สิ่งเดียวที่เลวร้ายกว่าการตาบอด -
9:52 - 9:54คือการมองเห็น แต่ปราศจากวิสัยทัศน์
-
9:55 - 9:59สำหรับผมแล้ว การตาบอด
คือพรอันประเสริฐ -
9:59 - 10:01เพราะการตาบอด
ได้มอบวิสัยทัศน์แก่ผม -
10:02 - 10:04ผมหวังว่าคุณจะได้พบ
ในสิ่งที่ผมพบนะครับ -
10:04 - 10:05ขอบคุณครับ
-
10:06 - 10:08(เสียงปรบมือ)
-
10:21 - 10:24บรูโน จิสซานี : คุณไอแซค ก่อนที่
จะลงจากเวที ผมมีคำถามหนึ่งครับ -
10:24 - 10:28ท่านผู้ชมของเราเป็น ผู้ประกอบการ
ผู้ปฏิบัติงาน นักนวัตกรรม -
10:28 - 10:31คุณซึ่งเป็นซีอีโอของบริษัท
แห่งหนึ่งในรัฐฟลอริดา -
10:31 - 10:34และหลายท่านคงสงสัยว่า
-
10:34 - 10:36การเป็นซีอีโอที่มองไม่เห็น
นั้นเป็นอย่างไรครับ -
10:36 - 10:40คุณมีอุปสรรคสำคัญแบบไหน
และคุณผ่านมันมาได้อย่างไรครับ -
10:40 - 10:43ไอแซค ลิดสกี: ครับ
อุปสรรคอันใหญ่ยิ่งนี้กลายมาเป็นพรของผมครับ -
10:43 - 10:45คือ ผมจะมองไม่เห็นท่าทีตอบกลับจากผู้คนครับ
-
10:46 - 10:48(เสียงหัวเราะ)
-
10:48 - 10:50แล้วพวกเสียงล่ะครับ
ไอแซค : ได้รับครับ -
10:50 - 10:54ตัวอย่างเช่น
ในการประชุมหัวหน้าแผนก -
10:54 - 10:56ผมจะไม่เห็นสีหน้าท่าทาง
ของพวกเขาครับ -
10:58 - 11:01ผมได้เรียนรู้ที่จะขอให้มีการ
บอกผลตอบกลับรูปแบบคำพูดมากขึ้น -
11:01 - 11:05โดยทั่วไปผมจะให้พวกเขาบอกผม
เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาคิด -
11:06 - 11:08ซึ่งในเรื่องนี้
-
11:08 - 11:12อย่างที่ผมเคยบอก มันกลายเป็นพร
อันแท้จริงให้ทั้งโดยส่วนตัวและบริษัท -
11:12 - 11:15เพราะเราจะมีการสื่อสารกัน
ในระดับที่ลึกซึ้งมากขึ้น -
11:15 - 11:17พวกเราหลีกเลี่ยงความคลุมเครือ
-
11:18 - 11:24และที่สำคัญที่สุด พวกเขาต่างรู้ว่า
สิ่งที่พวกเขาคิดเป็นสิ่งสำคัญจริง ๆ -
11:27 - 11:29บรูโน: คุณไอแซค ขอบคุณที่มา TED นะครับ
ไอแซค: ขอบคุณครับ คุณบรูโน -
11:29 - 11:33(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ความเป็นจริงอะไรที่คุณเนรมิตให้กับตัวคุณเอง
- Speaker:
- ไอแซค ลิดสกี (Isaac Lidsky)
- Description:
-
ความจริงไม่ใช่สิ่งที่คุณรับรู้ แต่เป็นสิ่งที่จิตของคุณคิดปรุงแต่งขึ้นมาเอง ไอแซค ลิดสกี ได้เรียนรู้บทเรียนอันลึกซึ้งนี้โดยตรง ยามที่เหตุการณ์ในชีวิตที่ไม่เป็นดังหวังได้ให้การตระหนักรู้อันทรงคุณค่าแก่เขา ในการบรรยายถึงชืวิตส่วนตัวและการครุ่นคิดไตร่ตรองตนเองนี้ เขาได้กระตุ้นให้เราทุกคนปล่อยวางข้ออ้าง การมโนนึกคิดไปเอง และความกลัวทั้งหลาย แล้วยอมรับในความรับผิดชอบอันแสนสุดยอดของการเป็นผู้เนรมิตความเป็นจริงให้แก่ตัวเราเอง
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 11:46
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for What reality are you creating for yourself? | ||
Retired user accepted Thai subtitles for What reality are you creating for yourself? | ||
Chanyanart Kiattiporn-opas edited Thai subtitles for What reality are you creating for yourself? | ||
Retired user declined Thai subtitles for What reality are you creating for yourself? | ||
Retired user edited Thai subtitles for What reality are you creating for yourself? | ||
Retired user edited Thai subtitles for What reality are you creating for yourself? | ||
Retired user edited Thai subtitles for What reality are you creating for yourself? | ||
Retired user edited Thai subtitles for What reality are you creating for yourself? |