ความรักและการหลอกลวงของหิ่งห้อย
-
0:01 - 0:04ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ และมนุษย์คนหนึ่ง
-
0:04 - 0:06ฉันได้พยายามทำให้ตัวเอง
-
0:06 - 0:09อ่อนไหวต่อความมหัศจรรย์
-
0:09 - 0:12ฉันคิดว่า เมื่อคืน เจสัน เวบลี เรียกมันว่า
-
0:12 - 0:16"การวางแผนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความอัศจรรย์"
-
0:16 - 0:19ซึ่งโชคดีมากที่อาชีพนักชีววิทยาของฉัน
-
0:19 - 0:22ชักจูงฉันให้เข้าไปถึงส่วนลึกของชีวิต
-
0:22 - 0:24ของสิ่งมีชีวิตที่น่ามหัศจรรย์อย่างแท้จริง
-
0:24 - 0:27ที่ร่วมอาศัยอยู่ในโลกของเรา
-
0:27 - 0:28นั่นคือ หิ่งห้อย
-
0:28 - 0:31สำหรับหลายๆ คนที่นี่ ฉันรู้ว่าหิ่งห้อย
-
0:31 - 0:33ได้ปลุกความทรงจำที่วิเศษมากมายให้กับคุณ
-
0:33 - 0:37ชีวิตวัยเด็ก ช่วงฤดูร้อน
-
0:37 - 0:38หรือแม้แต่ TED Talks อื่นๆ
-
0:38 - 0:41อะไรบางอย่างเหล่านี้
-
0:45 - 0:48สิ่งที่จูงใจฉันให้เข้าไปสู่โลกของหิ่งห้อย
-
0:48 - 0:51ได้เริ่มขึ้น ตอนที่ฉันกลับไปเรียนระดับปริญญา
-
0:52 - 0:54บ่ายวันหนึ่ง ฉันกำลังนั่งอยู่ที่สนามหญ้า
-
0:54 - 0:56ที่แคลิฟอเนียเหนือ
-
0:56 - 0:59และทันใดนั้น
-
0:59 - 1:01แสงที่สงัดพวกนี้
-
1:01 - 1:04ได้ปรากฏขึ้นรอบๆ ฉัน
-
1:04 - 1:05และฉันก็เริ่มประหลาดใจ
-
1:05 - 1:08สิ่งมีชีวิตพวกนี้มีแสงได้ยังไง ?
-
1:08 - 1:09แล้วแสงที่กระพริบพวกนี้คืออะไร ?
-
1:09 - 1:11พวกมันกำลังคุยกันหรือ ?
-
1:11 - 1:14แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อแสงหมดไป ?
-
1:14 - 1:16ฉันโชคดีที่มีโอกาสให้คำตอบ
-
1:16 - 1:17กับคำถามพวกนั้น
-
1:17 - 1:21เพราะฉันได้สำรวจโลกแห่งรัตติกาลนี้
-
1:21 - 1:23เอาล่ะ ถ้าคุณเคยเห็น
-
1:23 - 1:26หรือเคยได้ยินเกี่ยวกับหิ่งห้อย
-
1:26 - 1:28คุณคงรู้ว่ามันสามารถเปลี่ยน
-
1:28 - 1:31ทิวทัศน์ทั่วไปของเราให้เป็นอีกสิ่งหนึ่ง
-
1:31 - 1:33ที่บอบบางเหมือนอยู่คนละโลกได้อย่างอัศจรรย์
-
1:33 - 1:34และนี่มันเกิดขึ้นทั่วทั้งโลก
-
1:34 - 1:37เช่น เชิงเขานี้บนสโมคกี้ เมาเท่นส์
(Smoky Mountains) -
1:37 - 1:41ที่ฉันพบว่ามันถูกเปลี่ยน
ให้เป็นเหมือนกับน้ำตกที่มีชีวิต -
1:41 - 1:45โดยแสงที่ดูลึกลับ
ของหิ่งห้อยพันธุ์บลู โกส (Blue Ghost) -
1:45 - 1:48หรือแม่น้ำริมทางในญี่ปุ่นที่ฉันเคยไปเที่ยว
-
1:48 - 1:52ที่มันให้กำเนิดแสงที่ล่องลอยอย่างเชื่องช้า
-
1:52 - 1:55ของหิ่งห้อยพันธุ์เจนจิ (Ganji)
-
1:55 - 1:57หรือในมาเลเซีย ไม้โกงกาง
-
1:57 - 2:00ที่ฉันมอง เบ่งบานยามกลางคืน
-
2:00 - 2:01ไม่ใช่ด้วยดอกไม้
-
2:01 - 2:04แต่เป็นแสงของหิ่งห้อย - (บี๊บ! บี๊บ!) -
นับพัน -
2:04 - 2:05ที่เปล่งแสง
-
2:05 - 2:08พร้อมกันอย่างสวยงาม
-
2:08 - 2:11ภูมิทัศน์ที่เรืองแสงพวกนี้
-
2:11 - 2:13ยังคงเติมเต็มความมหัศจรรย์ให้ฉัน
-
2:13 - 2:15และมันเชื่อมฉันกับเวทมนต์
-
2:15 - 2:18ของโลกแห่งธรรมชาติ
-
2:18 - 2:19และฉันได้พบกับความมหัศจรรย์อีกว่า
-
2:19 - 2:23แสงได้เกิดจากแมลงเล็กๆ พวกนี้
-
2:23 - 2:26โดยส่วนตัวแล้ว หิ่งห้อยเป็นสิ่งที่สวยงาม
-
2:26 - 2:27พวกมันมีเสน่ห์ดึงดูดใจ
-
2:27 - 2:29พวกมันเป็นที่รู้จักทั้งในงานศิลปะ
-
2:29 - 2:32และในบทกวี มาหลายร้อยปี
-
2:32 - 2:33ฉันได้ท่องเที่ยวไปทั่วโลก
-
2:33 - 2:35ได้เจอคนช่างคิดหลายคน
-
2:35 - 2:38พวกเขาบอกฉันว่า
พระเจ้าประทานหิ่งห้อยให้กับโลก -
2:38 - 2:40เพื่อมนุษย์จะได้มีความเพลิดเพลิน
-
2:40 - 2:42สิ่งมีชีวิตอื่น
ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับมันได้เช่นกัน -
2:42 - 2:47ฉันคิดว่าแมลงพวกนี้
มีความมหัศจรรย์อย่างแท้จริง -
2:47 - 2:51เพราะมันฉายความงดงาม
-
2:51 - 2:55ผ่านการแสดงที่สร้างสรรค์ของวิวัฒนาการ
-
2:55 - 2:57พวกมันถูกกำหนดรูปพรรณโดย
-
2:57 - 2:58แรงขับทางวิวัฒนาการอันทรงพลังสองประการ
-
2:58 - 3:02คือการคัดเลือกโดยธรรมชาติ
การดิ้นรนเพื่ออยู่รอด -
3:02 - 3:04และการคัดเลือกโดยการผสมพันธุ์
-
3:04 - 3:08การดิ้นรนเพื่อชิงโอกาสในการผสมพันธุ์
-
3:08 - 3:11ในฐานะที่เป็นคนบ้าหิ่งห้อย เป็นเวลา 20 มานี้
-
3:11 - 3:13มันค่อนข้างเป็นการเดินทางที่น่าสนใจ
-
3:13 - 3:15ฉันกับนักเรียนของฉันที่มหาวิทยาลัยทัฟส์
(Tufts University) -
3:15 - 3:17พร้อมกับผู้ร่วมงานคนอื่นๆ
-
3:17 - 3:20พวกเราได้ค้นพบเรื่องราวมากมายของหิ่งห้อย
-
3:20 - 3:22ทั้งการเกี้ยวพาราสี การผสมพันธุ์
-
3:22 - 3:25การการทรยศ และการฆาตกรรม
-
3:25 - 3:27ดังนั้นวันนี้ ฉันอยากจะเล่าให้พวกคุณฟัง
-
3:27 - 3:29สักสองเรื่อง ที่พวกเราได้นำมา
-
3:29 - 3:32จากการผจญภัยต่างๆ
-
3:32 - 3:35ในโลกที่ถูกซ่อนเอาไว้นี้
-
3:35 - 3:39หิ่งห้อย เป็นแมลงในกลุ่มแมลงปีกแข็ง
ที่มีความสวยงาม -
3:39 - 3:43และมีความหลากหลาย
-
3:43 - 3:48บนโลกนี้ มีหิ่งห้อยมากกว่า 2000 สายพันธุ์
-
3:48 - 3:50และสิ่งนี้ทำให้เกิดวิวัฒนาการสู่ความหลากหลาย
-
3:50 - 3:51ของสัญญาณการเกี้ยวพาราสี
-
3:51 - 3:55นั่นคือความแตกต่างในการที่จะหา
และดึงดูดเพศตรงข้าม -
3:55 - 3:57ประมาณ 150 ล้านปีที่ก่อน
-
3:57 - 4:00หิ่งห้อยสายพันธุ์แรกๆ อาจจะมีลักษณะแบบนี้
-
4:00 - 4:01พวกมันบินตอนกลางวัน
-
4:01 - 4:04และไม่เปล่งแสง
-
4:04 - 4:07แต่ตัวผู้จะใช้หนวดอันน่าทึ่งของมัน
-
4:07 - 4:11ดมกลิ่นน้ำหอมที่ปล่อยมาจากตัวเมียแทน
-
4:11 - 4:15หิ่งห้อยพันธุ์อื่น ตัวเมียเท่านั้นที่จะเปล่งแสง
-
4:15 - 4:19ตัวเมียดูอ้วนกลมน่าสนใจ และไม่มีปีก
-
4:19 - 4:21ทุกๆ คืน พวกมันจะปีนไปบนขอนไม้
-
4:21 - 4:23และเปล่งแสงอยู่หลายชั่วโมง
-
4:23 - 4:26เพื่อจะดึงดูดตัวผู้ที่บินไปมา แต่ไม่เปล่งแสง
-
4:28 - 4:30ในขณะนั้นหิ่งห้อยพันธ์ุอื่นๆ ทั้งสองเพศ
-
4:30 - 4:33ใช้การกระพริบแสงสว่างอันรวดเร็วเพื่อหาคู่
-
4:33 - 4:35ที่อเมริกาเหนือนี้
-
4:35 - 4:38มีหิ่งห้อยมากกว่า 100 ชนิด
-
4:38 - 4:41ที่มีความสามารถเฉพาะตัว
ในการปล่อยพลังงานออกมา -
4:41 - 4:44จากร่างกาย
-
4:44 - 4:46ในรูปของแสง
-
4:46 - 4:48พวกมันทำได้อย่างไร ?
-
4:48 - 4:50มันดูน่าทึ่งมาก
-
4:50 - 4:52แต่สัญญาณที่เป็นสารเรืองแสงที่ชีวภาพเหล่านี้
-
4:52 - 4:55เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาเคมี
ที่เรียบเรียงไว้อย่างละเอียดอ่อน -
4:55 - 4:58ที่เกิดภายในกระเปาะของตัวหิ่งห้อย
-
4:58 - 5:01ดาราหลักคือเอนไซม์ ลูซิเฟอเรส (luciferase)
-
5:01 - 5:03ซึ่งด้วยผลของวิวัฒนาการ
-
5:03 - 5:06มันได้หาทางพันส่วนแขนเล็กๆ ของมัน
-
5:06 - 5:10พันรอบโมเลกุลที่เล็กยิ่งกว่า ที่เรียกว่า
ลูซิเฟอริน (luciferin) -
5:10 - 5:12ในกระบวนการที่ทำให้มันถูกกระตุ้น
-
5:12 - 5:16ที่ทำให้มันเปล่งแสงออกมา
-
5:16 - 5:18เหลือเชื่อมาก
-
5:18 - 5:19แต่ ทำไมแสงพวกนี้
-
5:19 - 5:23ถึงมีเอื้อประโยชน์กับหิ่งห้อยสายพันธุ์แรกๆ
บางชนิด ? -
5:23 - 5:26เพื่อที่จะตอบคำถามนี้ได้ เราต้องเปิดไปดู
-
5:26 - 5:30อัลบั้มครอบครัว ไปยังภาพของสมัยเด็กๆ
-
5:30 - 5:34หิ่งห้อยเปลี่ยนรูปร่างไปอย่างสมบูรณ์
เมื่อมันเปล่งแสง -
5:34 - 5:36พวกมันใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิต
-
5:36 - 5:38มากถึงสองปี
-
5:38 - 5:41ในระยะตัวอ่อน
-
5:41 - 5:43ช่วงเวลานี้ของพวกมันก็เหมือนวัยรุ่น
-
5:43 - 5:46ที่ต้องกิน และเติบโต
-
5:46 - 5:48แสงแรกของมันเกิดขึ้น
-
5:48 - 5:50ในช่วงวัยรุ่นนี้แหละ
-
5:50 - 5:53ดัวอ่อนหิ่งห้อยแต่ละตัวสามารถเปล่งแสง
-
5:53 - 5:56ถึงแม้เมื่อพวกมันโตเต็มแล้วจะไม่สามารถทำได้
-
5:56 - 5:57แต่ เพื่ออะไรล่ะ ?
-
5:57 - 6:01เพื่อที่จะเป็นจุดสนใจหรือ ?
-
6:01 - 6:02เอาล่ะ พวกเรารู้ว่าตัวอ่อนพวกนี้
-
6:02 - 6:04สร้างสารเคมีที่มีรสชาติแย่
-
6:04 - 6:08นั่นทำให้มันมีชีวิตรอดในช่วงวัยเด็กอันยาวนาน
-
6:08 - 6:12พวกเราจึงคิดว่า
แสงพวกนี้ตอนแรกพัฒนาขึ้นไว้เพื่อเตือนภัย -
6:12 - 6:16สัญญาณเรืองแสงที่บอกว่า
" นั่นพิษ! อย่าเข้าใกล้" -
6:16 - 6:19กับทุกอย่างที่อาจเป็นผู้ล่า
-
6:19 - 6:22มันใช้เวลาหลายล้านปี
-
6:22 - 6:23ก่อนที่แสงพวกนี้
-
6:23 - 6:26จะพัฒนามาเป็นเครื่องมือสื่อสารอันชาญฉลาด
-
6:26 - 6:29ซึ่งไม่เพียงแต่จะสกัดความสามารถของผู้ล่า
-
6:29 - 6:32แต่ยังนำมาซึ่งคู่ครอง
-
6:32 - 6:35มาถึงการคัดเลือกโดยการผสมพันธุ์
-
6:35 - 6:37หิ่งห้อยที่โตเต็มที่บางตัว
-
6:37 - 6:39เช่น หิ่งห้อยตัวผู้นี้
-
6:39 - 6:43ได้พัฒนากระเปาะที่เปล่งแสงได้ในที่มืด
-
6:43 - 6:45ซึ่งจะทำให้การเกี้ยวพาราสีของมัน
-
6:45 - 6:48ยกสู่ระดับที่เหนือกว่า
-
6:48 - 6:51หิ่งห้อยตัวเต็มวัยจะมีชีวิตแค่ไม่กี่อาทิตย์
-
6:51 - 6:56และตอนนี้
พวกมันจะคิดแต่เรื่องการผสมพันธุ์อย่างเดียว -
6:56 - 6:58เพื่อจะพลักดันพันธุ์กรรมของพวกมัน
-
6:58 - 7:01ไปสู่หิ่งห้อยรุ่นต่อไป
-
7:01 - 7:04ดังนั้น เราจะตามหิ่งห้อยตัวผู้นี้ไปยังสถานที่
-
7:04 - 7:07ที่มันรวมตัวกับหิ่งห้อยตัวผู้ตัวอื่นอีกนับพัน
-
7:07 - 7:11ที่กำลังโอ้อวดสัญญาณการเกี้ยวพาราสีแบบใหม่ๆ
-
7:11 - 7:14มันน่าทึ่งที่แสงสว่างที่พวกมันเปล่งออกมา
-
7:14 - 7:16ให้พวกเราจะชื่นชม
-
7:16 - 7:18ที่นี่และความจริงที่อื่นๆ ทั่วโลก
-
7:18 - 7:22คือบทเพลงรักอย่างเงียบๆ
-
7:22 - 7:25ของหิ่งห้อยตัวผู้
-
7:25 - 7:30พวกมันโบยบินและเปล่งแสงอย่างสุดใจ
-
7:30 - 7:33ฉันคิดว่ามันโรแมนติกเหลือเกิน
-
7:33 - 7:36แล้ว ในขณะนั้น ตัวเมียไปอยู่ไหนหมดล่ะ ?
-
7:36 - 7:38พวกมันกำลังนั่งมองอยู่ที่เบื้องล่าง
-
7:38 - 7:40สำรวจหาตัวเลือกอยู่
-
7:40 - 7:42พวกมันมีตัวผู้มากมายให้เลือก
-
7:42 - 7:46และตัวเมียตัวนี้ ก็ช่างเลือกด้วยสิ
-
7:46 - 7:48เมื่อตัวเมียเห็นแสง
-
7:48 - 7:51จากตัวผู้ที่มันสนใจ
-
7:51 - 7:54มันจะเจาะจงหันกระเปาะแสงไปในทิศทางของตัวผู้
-
7:54 - 7:56และรอแสงตอบรับ
-
7:56 - 8:00มันคือสัญลักษณ์ที่บอกว่า "มานี่เถอะ"
-
8:00 - 8:03ตัวผู้ก็จะบินมาใกล้ขึ้น และเปล่งแสงอีกครั้ง
-
8:03 - 8:04ถ้นมันยังคงชอบตัวผู้อยู่
-
8:04 - 8:08พวกมันก็จะเริ่มการสนทนา
-
8:08 - 8:10สิ่งมีชีวิตนี้จะพูดคุยภาษารัก
-
8:10 - 8:13ผ่านแสง
-
8:13 - 8:18แล้ว อะไรที่ตัวเมียใช้พิจารณา
ว่าตัวผู้นั้นมีเสน่ห์ ? -
8:18 - 8:21เราตัดสินใจทำการสำรวจจากหิ่งห้อยบางกลุ่ม
-
8:21 - 8:23เพื่อที่จะหาคำตอบ
-
8:23 - 8:26เมื่อเราทดสอบตัวเมียด้วยการกระพริบแสงแอลอีดี
-
8:26 - 8:28เราจะพบว่ามันชอบตัวผู้
-
8:28 - 8:32ที่เปล่งแสงได้นานกว่า
-
8:32 - 8:36(เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)
-
8:36 - 8:37ฉันรู้ว่าพวกคุณกำลังสงสัย
-
8:37 - 8:40ว่าตัวผู้มีอะไรเป็นเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม ?
-
8:40 - 8:42เอาล่ะ เราจะมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
-
8:42 - 8:44เมื่อแสงดับลง
-
8:44 - 8:46อย่างแรกที่เราสังเกตได้
-
8:46 - 8:48เมื่อหิ่งห้อยคู่นี้ ติดกันเหมือนในรูป
-
8:48 - 8:51มันจะใช้เวลาด้วยกันทั้งคืน
-
8:51 - 8:52และเมื่อเราดูเข้าไปข้างใน
-
8:52 - 8:54เพื่อที่จะดูว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
-
8:54 - 8:56เราได้รู้ถึงสิ่งที่น่าทึ่งมาก
-
8:56 - 8:58เกี่ยวกับเรื่องการผสมพันธุ์ของหิ่งห้อย
-
8:58 - 8:59ขณะที่มันกำลังผสมพันธุ์
-
8:59 - 9:01ตัวผู้ก็วุ่นอยู่กับการปล่อย
-
9:01 - 9:03ทั้งอสุจิ
-
9:03 - 9:07และถุงเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสารอาหาร
-
9:07 - 9:12ที่เรียกว่า ของขวัญแต่งงาน
-
9:12 - 9:14เราจะมองเข้าไปใกล้ๆ
-
9:14 - 9:15ในคู่ที่กำลังผสมพันธุ์นี้
-
9:15 - 9:17เราจะเห็นของขวัญ
-
9:17 - 9:18ที่แสดงบนนี้เป็นสีแดง
-
9:18 - 9:22ในขณะที่มันกำลังส่งผ่านจากตัวผู้ ไปสู่ ตัวเมีย
-
9:22 - 9:25สิ่งที่ทำให้ของขวัญนี้มีค่ามาก
-
9:25 - 9:27คือมันเต็มไปด้วยโปรตีน
-
9:27 - 9:32ให้ตัวเมียใช้เป็นเสบียงอาหารให้กับไข่ของมัน
-
9:32 - 9:36ดังนั้นตัวเมียหมายตาต่อสิ่งมีค่านี้
-
9:36 - 9:38เมื่อมันได้กะขนาดของตัวที่อาจมาเป็นคู่ของมัน
-
9:38 - 9:41เราพบว่าตัวเมียใช้สัญญาณแสงของตัวผู้
-
9:41 - 9:43เพื่อจะเดาว่าตัวไหน
-
9:43 - 9:45มีของขวัญที่จะให้หล่อนมากกว่ากัน
-
9:45 - 9:50เพราะว่าสิ่งนี้จะทำให้ตัวเมียวางไข่ได้มากขึ้น
-
9:50 - 9:53และทำให้พวกมันมีลูกๆ
-
9:53 - 9:56ผ่านไปยังรุ่นต่อไปมากขึ้น
-
9:58 - 10:00แล้วใช่ว่ามันจะมีแต่ความหอมหวาน กับ แสง
-
10:00 - 10:02ความรักของหิ่งห้อยมันเสี่ยงมาก
-
10:02 - 10:05ช่วงเวลาส่วนใหญ่ หิ่งห้อยในวัยเจริญพันธุ์
-
10:05 - 10:08มันจะไม่โดนกิน ด้วยเหตุผลเดียวกับตอนเป็นตัวอ่อน
-
10:08 - 10:11พวกมันสามารถสร้างสารพิษที่น่ารังเกียจ
-
10:11 - 10:14ต่อนก และสัตว์กินแมลงอื่นๆ
-
10:14 - 10:16แต่ก็ยังมี
-
10:16 - 10:18หิ่งห้อยอีกสายพันธุ์หนึ่ง
-
10:18 - 10:22ที่ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลกลใดจึงไม่มีกลไก
-
10:22 - 10:25ที่สำคัญต่อการสร้างสารพิษป้องกันตัวเอง
-
10:25 - 10:28วิวัฒนาการที่เป็นจุดอ่อนแบบนี้
-
10:28 - 10:30ซึ่งถูกค้นพบโดยทอม ไอส์เนอร์ (Tom Eisner)
เพื่อนร่วมงานของฉัน -
10:30 - 10:32มันทำให้หิ่งห้อยสายพันธุ์นี้
-
10:32 - 10:36ต้องเเปล่งแสงตอนกลางคืน
-
10:36 - 10:39ด้วยจุดประสงค์ที่อันตราย
-
10:39 - 10:41ที่มีฉายาว่า "เฟมมา เฟทัล" (femme fatales)
-
10:41 - 10:43ซึ่งให้ไว้โดย จิม ลอยด์ (Jim Lloyd)
เพื่อนร่วมงานอีกคน -
10:43 - 10:46ตัวเมียพวกนี้รู้วิธีที่จะทำให้
-
10:46 - 10:50ตัวผู้สายพันธุ์อื่น มาสนใจ
-
10:50 - 10:52และแล้ว การล่าก็ได้เริ่มต้นขึ้น ด้วยผู้ล่า
-
10:52 - 10:54มันปรากฏให้เห็นในรูปล่างซ้าย
-
10:54 - 10:56มันจะนั่งเงียบๆ
-
10:56 - 10:59แอบดักฟังบทสนทนารัก
-
10:59 - 11:01ของเหยื่อที่มันสนใจ
-
11:01 - 11:03และนี่คือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
-
11:03 - 11:07เริ่มแรก เหยื่อตัวผู้จะเปล่งแสงถามว่า
"คุณรักผมไหม ?" -
11:07 - 11:11ตัวเมียของมันก็ตอบกลับ "อื้ม..อาจจะ"
-
11:11 - 11:14หลังจากนั้นตัวผู้ก็เปล่งแสงอีกครั้ง
-
11:14 - 11:17แต่ครั้งนี้ ผู้ล่าได้ปลอมตัวเข้าไปตอบแทน
-
11:17 - 11:23ซึ่งมันเลียนแบบทุกอย่างที่ตัวเมียตัวนั้นพูด
-
11:23 - 11:27มันไม่ได้ทำเพื่อความรักหรอก
มันแค่ต้องการพิษ -
11:27 - 11:31ถ้ามันเก่งจริง
มันจะสามารถล่อตัวผู้ให้เข้ามาใกล้ -
11:31 - 11:34พอที่จะเอื้อมถึงและจับไว้
-
11:34 - 11:37เหยื่อตัวนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นของว่าง
-
11:37 - 11:39ผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วโมง มันค่อยๆ
-
11:39 - 11:42กินเลือดเหยื่อ
-
11:42 - 11:46เหลือทิ้งไว้แค่ซาก
-
11:46 - 11:49การที่ไม่สามารถสร้างพิษเองได้
-
11:49 - 11:51ตัวเมียเหล่านี้จะต้องกินเลือด
-
11:51 - 11:56ของหิ่งห้อยพันธุ์อื่น
เพื่อจะได้สารเคมีไว้ป้องกันตัวเอง -
11:56 - 12:02ดังนั้น หิ่งห้อยแวมไพร์ตัวนี้
-
12:02 - 12:06เกิดขึ้นจากการคัดเลือกโดยธรรมชาติ
-
12:06 - 12:09ยังคงมีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับหิ่งห้อย
ให้เราได้ศึกษา -
12:09 - 12:13แต่เหมือนว่ายังคงมีอีกหลายเรื่อง
ที่ยังไม่ได้รับการบอกกล่าว -
12:13 - 12:15เพราะบนโลกนี้ ยังมีหิ่งห้อยมากมาย
-
12:15 - 12:18ที่กำลังจะสิ้นแสง
-
12:18 - 12:20ต้นเหตุหลักคือ พื้นที่ธรรมชาติหายไป
-
12:20 - 12:23แทบจะในทุกๆที่ ทั้งทุ่งและป่าไม้
-
12:23 - 12:26ป่าโกงกางและทุ่งหญ้า
ที่หิ่งห้อยต้องการเพื่อจะอาศัย -
12:26 - 12:29กำลังพ่ายต่อการพัฒนาและการขยายของเมือง
-
12:29 - 12:33อีกปัญหาหนึ่งคือ เราเอาชนะความมืด
-
12:33 - 12:37แต่การด้วยวิธีการนั้น
เราใช้แสงไฟยามค่ำคืนมากเกินไป -
12:37 - 12:40มันทำลายความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิตอื่น
-
12:40 - 12:44และหิ่งห้อยก็อ่อนไหวต่อมลภาวะทางแสง
-
12:44 - 12:46เพราะมันบดบังสัญญาณแสงของหิ่งห้อย
-
12:46 - 12:51ที่มีไว้สำหรับหาคู่
-
12:51 - 12:53เราจำเป็นต้องมีหิ่งห้อยด้วยหรือ ?
-
12:53 - 12:55จริงๆ แล้ว พวกมันเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่ง
-
12:55 - 12:57ในความหลากหลายทางชีวภาพ
-
12:57 - 13:00แต่ทุกครั้งที่สิ่งมีชีวิตสูญพันธุ์
-
13:00 - 13:03มันก็เหมือนกับการดับเทียนที่มีอยู่เต็มห้อง
-
13:03 - 13:06ทีละแท่ง
-
13:06 - 13:07คุณอาจจะไม่สังเกต
-
13:07 - 13:10เมื่อแสงแรกๆ ค่อยๆ ดับ
-
13:10 - 13:14จนสุดท้าย ก็จะเหลือแค่ห้องมืดกับคุณ
-
13:20 - 13:24ถ้าเราช่วยกันปั้นแต่งอนาคตของโลกนี้
-
13:24 - 13:27ฉันหวังว่าพวกเราจะสามารถหาทาง
-
13:27 - 13:30ที่จะทำให้แสงนี้ส่องสว่างต่อไป
-
13:30 - 13:32ขอบคุณค่ะ
-
13:32 - 13:35(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ความรักและการหลอกลวงของหิ่งห้อย
- Speaker:
- ซาร่าห์ ลิวอิส (Sara Lewis)
- Description:
-
นักชีววิทยา ซาร่าห์ ลิวอิส ได้ใช้เวลา 20 ปีที่ผ่านมา เข้าไปสู่เบื้องลึกแห่งความความมหัศจรรย์ และความสวยความของหิ่งห้อย ในการบรรยายที่น่าสนใจนี้ เธอทำให้พวกเรารู้ว่า แมลงปีกแข็งพวกนี้เปล่งแสงสงัดพวกนี้ออกมาได้อย่างไรและทำไม เกิดอะไรขึ้นเมื่อหิ่งห้อยกำลังผสมพันธุ์ และ ทำไมหิ่งห้อยตัวเมียกลุ่มหนึ่งจึงถูกเรียกว่า หิ่งห้อยแวมไพร์ (มันไม่น่ารักเท่าไหร่) พบกับความมหัศจรรย์ของหิ่งห้อยอีกมากมาย ในคำอธิบายของลิวอิส ข้างล่าง
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 13:51
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for The loves and lies of fireflies | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut accepted Thai subtitles for The loves and lies of fireflies | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut commented on Thai subtitles for The loves and lies of fireflies | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The loves and lies of fireflies | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The loves and lies of fireflies | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The loves and lies of fireflies | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut declined Thai subtitles for The loves and lies of fireflies | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut commented on Thai subtitles for The loves and lies of fireflies |
Kelwalin Dhanasarnsombut
Thanks for translation; I think this is fine. The content is quite technical and I think it's challenging for you; but you did it nicely :)
Please review the latest draft and click accept to send back to me (reviewer) and we can submit it for approval.
Apart from typo fixes, here are some suggestions :)
- Name should be translated into Thai; Should you think it's necessary, English word can be put in brackets.
- Please keep the original meaning as much as possible. Word play is allowed as long as it does not disturb the meaning of the context.
- Space either before and after ๆ (or just after is ok; I prefer it, but it's up to you).
- Applause should be translated into เสียงปรบมือ
Hope I didn't change your tone so much with alternative words. It may look a lot like awful lots of changes, but I only try to make it precise yet sounds like normal narrative. Please don't be upset and give up translating :)
Please let me know what do you think. Wish to see more of your work soon.
Best,
Note.
Kelwalin Dhanasarnsombut
I wish this draft is fine. Let me know if you wish to further change anything. I'll submit it to approving queue.