10 วิธีที่จะทำให้บทสนทนาดียิ่งขึ้น
-
0:01 - 0:03เอาละค่ะ ฉันอยากจะขอให้ยกมือหน่อย
-
0:03 - 0:05มีใครบ้างที่เลิกเป็นเพื่อน
กับใครสักคนบนเฟสบุ๊ก (Facebook) -
0:05 - 0:09ด้วยเหตุที่พวกเขาชอบพูดโจมตี
การเมืองหรือศาสนา -
0:09 - 0:11การดูแลเด็ก
หรือแม้แต่อาหารบ้างไหมคะ -
0:11 - 0:13(เสียงหัวเราะ)
-
0:13 - 0:16แล้วมีกี่ท่านที่คอยหลบเลี่ยง
คนรู้จักอย่างน้อยหนึ่งคนอยู่ -
0:16 - 0:18เพียงเพราะคุณไม่อยากคุยกับเขา
-
0:19 - 0:21(เสียงหัวเราะ)
-
0:21 - 0:24ทราบไหมคะ เมื่อก่อน
เพื่อจะมีการสนทนาอย่างสุภาพ -
0:24 - 0:27เราก็แค่ทำตามคำแนะนำของ
Henry Higgins ใน "My Fair Lady" -
0:27 - 0:29พูดแต่เรื่องอากาศและสุขภาพของคุณ
-
0:29 - 0:33ทว่าทุกวันนี้ จากการเปลี่ยนแปลง
ภูมิอากาศและการต่อต้านการฉีดวัคซีน -
0:33 - 0:34(เสียงหัวเราะ)
-
0:34 - 0:35เรื่องพวกนั้นก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน
-
0:35 - 0:38ดังนั้น โลกใบนี้ที่พวกเราอาศัยอยู่
-
0:39 - 0:41ในโลกใบนี้ ที่ซึ่งทุก ๆ การสนทนา
-
0:41 - 0:43สามารถกลายเป็นการโต้เถียงได้
-
0:43 - 0:46โลกที่นักการเมืองไม่สามารถพูดคุยกันเองได้
-
0:46 - 0:48โลกที่แม้แต่เรื่องเล็กน้อย
ก็ยังมีคนคิดจะสู้กัน -
0:48 - 0:53ทั้งสู้เพื่อมัน และเพื่อล้มล้างมัน
อย่างแรงกล้า นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ -
0:53 - 0:56ศูนย์วิจัยพิว (Pew) ได้ทำการศึกษา
ผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 10,000 คน -
0:56 - 0:59และพบว่า ในเวลานี้
เรามีการแบ่งขั้วอำนาจกันมากขึ้น -
0:59 - 1:00เราแตกแยกกันมากขึ้น
-
1:00 - 1:03มากกว่าที่เคยเป็นมาในประวัติศาสตร์
-
1:03 - 1:05เรามีแนวโน้มประนีประนอมกันน้อยลง
-
1:05 - 1:07ซึ่งหมายความว่า เราไม่รับฟังกันและกันเลย
-
1:07 - 1:09และเราตัดสินใจว่าจะอยู่ที่ไหน
-
1:09 - 1:12จะแต่งงานกับใครดี
และคนที่เราจะคบเป็นเพื่อนด้วย -
1:12 - 1:14โดยขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราเชื่อแต่เดิม
-
1:14 - 1:17อีกครั้ง ที่มันส่อให้เห็นว่า
เราไม่รับฟังกันและกันเลย -
1:17 - 1:20การสนทนาต้องการความสมดุล
ระหว่างการพูดและการฟัง -
1:20 - 1:23และเราก็เสียสมดุลนั้นไป
ในระหว่างการสนทนา -
1:23 - 1:25ค่ะ ส่วนหนึ่งเกิดจากเทคโนโลยี
-
1:25 - 1:28สมาร์ทโฟนที่ทุกคนถืออยู่ในมือ
-
1:28 - 1:30หรือเอาไว้ใกล้ตัวที่สุดเพื่อจะได้
หยิบออกมาได้เร็ว ๆ -
1:30 - 1:32ตามผลการศึกษาของสถาบันพิว
-
1:32 - 1:37วัยรุ่นชาวอเมริกันประมาณหนึ่งในสาม
ส่งข้อความกว่า 100 ข้อความต่อวัน -
1:37 - 1:41หลาย ๆ คน ซึ่งแทบทุกคน
มักส่งข้อความหาเพื่อน -
1:41 - 1:43มากกว่าจะคุยกับเพื่อนแบบต่อหน้า
-
1:44 - 1:46มีหนึ่งบทความชิ้นเอกจาก
นิตยสาร The Atlantic -
1:46 - 1:49เขียนขึ้นโดยครูชั้นมัธยมปลาย
ชื่อ พอล บาร์นเวลล์ -
1:49 - 1:51เขาให้นักเรียนทำโครงการเกี่ยวกับการสื่อสาร
-
1:51 - 1:55เขาต้องการสอนให้เด็กรู้จัก
การพูดในหัวข้อเฉพาะโดยไม่ต้องดูกระดาษจด -
1:55 - 1:57เขากล่าวว่า "ผมได้ตระหนักว่า..."
-
1:57 - 2:00(เสียงหัวเราะ)
-
2:00 - 2:03"ผมได้ตระหนักว่า
ความสามารถในการสนทนา -
2:03 - 2:07อาจเป็นทักษะเดียวที่ถูกมองข้ามมากที่สุด
และเราล้มเหลวที่จะสอน" -
2:08 - 2:12เด็ก ๆ ใช้เวลาหลายชั่วโมงในแต่ละวัน
จดจ่อกับความคิดและผู้คนทางหน้าจอ -
2:12 - 2:14แต่น้อยคนนักที่จะมีโอกาส
-
2:14 - 2:16ฝึกฝนทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล
-
2:16 - 2:19มันอาจเป็นคำถามที่ฟังดูแปลก ๆ
แต่เราต้องถามตัวเองว่า -
2:20 - 2:21ยังมีทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อย่างไหน
-
2:21 - 2:27จะสำคัญไปกว่า การประคองบทสนทนา
ให้สอดคล้องและมีความมั่นใจได้อีกล่ะ -
2:27 - 2:29ฉันมีอาชีพที่ต้องพูดคุยกับบุคคลต่าง ๆ
-
2:29 - 2:32ผู้ได้รับรางวัลโนเบล, คนขับรถบรรทุก,
-
2:32 - 2:34เศรษฐีพันล้าน, คุณครูอนุบาล,
-
2:34 - 2:37ประมุขของรัฐ, ช่างประปา
-
2:37 - 2:40ฉันได้พูดคุยกับคนที่ฉันชอบ
และได้พูดคุยกับคนที่ฉันไม่ชอบ -
2:40 - 2:44ฉันได้พูดคุยกับคนบางคน
ที่ฉันไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งเป็นการส่วนตัว -
2:44 - 2:46แต่ฉันก็ยังมีบทสนทนาเยื่ยม ๆ กับพวกเขาได้
-
2:46 - 2:50ดังนั้น ฉันจึงอยากจะใช้ 10 นาทีต่อจากนี้
สอนพวกคุณเรื่องวิธีการพูด -
2:50 - 2:52และวิธีการรับฟัง
-
2:53 - 2:55หลายคนอาจเคยได้ยินคำแนะนำหลายอย่าง
ในเรื่องนี้กันมาบ้างแล้วนะคะ -
2:55 - 2:57อย่างเช่น ให้สบตาคู่สนทนา
-
2:57 - 3:01คิดหัวข้อที่น่าสนใจในการพูดคุยเอาไว้ล่วงหน้า
-
3:01 - 3:06มอง, พยักหน้า, และยิ้ม
เพื่อแสดงว่าคุณกำลังสนใจ -
3:06 - 3:09พูดทวนสิ่งที่ได้ยิน หรือรวบประเด็น
-
3:09 - 3:11แต่ฉันอยากให้คุณลืมมันไปให้หมด
-
3:11 - 3:12เพราะมันไร้ประโยชน์สิ้นดี
-
3:12 - 3:15(เสียงหัวเราะ)
-
3:15 - 3:19ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องเรียนรู้
เพื่อแสดงความสนใจ -
3:19 - 3:23หากว่าคุณกำลังสนใจอยู่จริง ๆ
-
3:23 - 3:25(เสียงหัวเราะ)
-
3:25 - 3:28(เสียงปรบมือ)
-
3:28 - 3:31ฉันใช้ทักษะเดียวกันนี้
ในการเป็นนักสัมภาษณ์มืออาชีพ -
3:31 - 3:34ที่ฉันใช้ในชีวิตประจำวัน
-
3:34 - 3:38ดังนั้น ฉันจะสอนคุณ
ถึงวิธีการสัมภาษณ์คน -
3:38 - 3:42และนั่นจะช่วยให้คุณเรียนรู้
การจะเป็นนักสนทนาชั้นเลิศได้ -
3:42 - 3:43เรียนรู้ที่จะมีการสนทนา
-
3:43 - 3:45โดยไม่ทำให้คุณเสียเวลา,
ไม่ทำให้รู้สึกเบื่อ, -
3:46 - 3:49และ ได้โปรดเถอะ
โดยไม่ทำให้ใครโมโหคุณ -
3:49 - 3:51เราต่างก็เคยมีการสนทนา
ที่เยี่ยมยอดด้วยกันทั้งสิ้น -
3:51 - 3:53เราเคยมีมันมาก่อน
เรารู้ดีว่ามันเป็นอย่างไร -
3:53 - 3:57การสนทนาที่จบลงด้วย
ความรู้สึกตราตรึงและมีแรงบันดาลใจ -
3:57 - 3:59ทำให้รู้สึกว่า
คุณได้สร้างความสัมพันธ์อย่างแท้จริง -
3:59 - 4:02หรือคุณเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้
-
4:02 - 4:03มันไม่มีเหตุผล
-
4:03 - 4:06ว่าทำไมการโต้ตอบส่วนใหญ่ของคุณ
จะเป็นอย่างนั้นบ้างไม่ได้ -
4:06 - 4:09ฉันมีกฎง่าย ๆ อยู่ 10 ข้อ
ฉันจะถ่ายทอดให้คุณฟังทุกข้อ -
4:09 - 4:13แต่อันที่จริง ถ้าคุณเลือกมาสักข้อหนึ่ง
และฝึกใช้จนชำนาญ -
4:13 - 4:16เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้เพลิดเพลินไปกับ
บทสนทนาดี ๆ แล้ว -
4:16 - 4:18ข้อแรก อย่าทำหลายอย่างไปพร้อมกัน
-
4:18 - 4:20และฉันไม่ได้หมายความแค่วางโทรศัพท์
-
4:20 - 4:23วางแท็บเล็ต วางกุญแจรถ
หรือวางอะไรก็ตามที่คุณถืออยู่ในมือ -
4:23 - 4:25ฉันหมายความว่า ให้อยู่กับปัจจุบัน
-
4:25 - 4:27อยู่กับ ณ ขณะนั้น
-
4:27 - 4:30ไม่คิดถึงเรื่องที่คุณเถียงกับเจ้านาย
-
4:30 - 4:33ไม่คิดว่าตอนเย็นจะกินอะไรดี
-
4:33 - 4:35ถ้าคุณไม่อยากจะคุย
-
4:35 - 4:36คุณก็ไม่ต้องคุย
-
4:36 - 4:38แต่อย่าคุยแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ
-
4:38 - 4:41ข้อสอง อย่าวิจารณ์
-
4:41 - 4:43ถ้าคุณอยากแสดงความเห็น
-
4:43 - 4:49โดยที่ไม่ต้องการการตอบกลับ
การโต้แย้ง ท้วงติงหรือการพัฒนาใด ๆ -
4:49 - 4:51คุณไปเขียนบล็อกเถอะค่ะ
-
4:51 - 4:54(เสียงหัวเราะ)
-
4:54 - 4:57มีเหตุผลที่ฟังขึ้นว่า ทำไมฉันจึงไม่ยอม
ให้ผู้เชี่ยวชาญมาเข้าร่วมการพูดของฉัน -
4:57 - 4:59ก็เพราะพวกเขาน่าเบื่อไงคะ
-
4:59 - 5:03ถ้าเขาเป็นพวกอนุรักษ์นิยม ก็จะเกลียดโอบามา
แสตมป์แลกอาหาร และการทำแท้ง -
5:03 - 5:05ถ้าเขาเป็นพวกเสรีนิยม เขาก็จะเกลียด
-
5:05 - 5:07ธนาคารยักษ์ใหญ่ บริษัทน้ำมัน
และ ดิก เชนีย์ -
5:07 - 5:08เดาไว้ได้เลย
-
5:08 - 5:10และคุณคงไม่ต้องการจะเป็นอย่างนั้น
-
5:10 - 5:15คุณต้องร่วมสนทนา
โดยคิดเสียว่าคุณกำลังเรียนรู้อะไรสักอย่าง -
5:16 - 5:18เอ็ม. สก๊อต เพ็คค์ (M. Scott Peck)
นักบำบัดชื่อดัง เคยกล่าวว่า -
5:18 - 5:22"การฟังที่แท้จริง จำเป็นต้องเก็บใจไว้
-
5:22 - 5:25และบางทีก็หมายถึง
ยอมสละความคิดเห็นส่วนตัวไปด้วย" -
5:26 - 5:29เขากล่าวว่า การได้สัมผัสถึงการยอมรับเช่นนี้
-
5:30 - 5:32ผู้พูดก็จะเริ่มรู้สึกอ่อนไหวน้อยลงไป
-
5:32 - 5:35และยิ่งมีโอกาสที่จะเปิดเผย
-
5:35 - 5:37ความในใจของเขาหรือเธอให้แก่ผู้ฟัง
-
5:37 - 5:40ขอย้ำอีกครั้งนะคะ จงคิดเสียว่า
คุณกำลังเรียนรู้อะไรสักอย่าง -
5:41 - 5:45บิลล์ ไนย์ : "ทุกคนที่คุณเจอ
ล้วนรู้ในบางสิ่งที่คุณไม่เคยรู้" -
5:45 - 5:47ฉันขอพูดอย่างนี้ว่า
-
5:47 - 5:50"ทุกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญในบางสิ่ง"
-
5:51 - 5:54ข้อสาม ใช้คำถามปลายเปิด
-
5:54 - 5:56ในกรณีนี้ ให้เอาอย่างนักข่าว
-
5:56 - 5:59ขึ้นต้นคำถามด้วย ใคร, อะไร,
เมื่อไหร่, ที่ไหน, ทำไม หรือ อย่างไร -
5:59 - 6:03ถ้าคุณใช้คำถามที่ซับซ้อน
คุณก็จะได้คำตอบเรียบ ๆ -
6:03 - 6:05ถ้าฉันถามคุณว่า "คุณกลัวหรือเปล่า"
-
6:05 - 6:08คุณก็จะตอบกลับด้วยคำพูด
ที่หนักแน่นมากที่สุดในประโยคนั้น -
6:08 - 6:12คือคำว่า " หวาดกลัว" และคำตอบคือ
"ใช่ ฉันกลัว" กับ "ไม่ ฉันไม่กลัว" -
6:12 - 6:14"คุณโกรธเหรอ" "ใช่ ฉันโกรธมาก"
-
6:14 - 6:17ให้เขาได้บรรยายออกมา
เพราะเขารู้ดีกว่าใคร -
6:17 - 6:20ลองใช้คำถาม เช่น "เป็นอย่างไรบ้าง"
-
6:20 - 6:21"คุณรู้สึกอย่างไร"
-
6:21 - 6:26เพราะต่อจากนั้น
พวกเขาอาจหยุดคิดทบทวนดูสักครู่ -
6:26 - 6:29และคุณจะได้คำตอบที่น่าสนใจ
กว่าเดิมขึ้นเยอะเลย -
6:29 - 6:31ข้อสี่ ไหลตามน้ำไป
-
6:32 - 6:35นี่หมายถึง ความคิดต่าง ๆ จะแล่นเข้ามาในหัว
-
6:35 - 6:38คุณต้องปล่อยให้มันไหลออกจากความคิดคุณไป
-
6:38 - 6:40เราเคยได้ฟังการสัมภาษณ์
-
6:40 - 6:42บ่อยครั้ง ที่แขกรับเชิญพูดนานอยู่หลายนาที
-
6:42 - 6:45จากนั้นก็กลับมาที่พิธีกร แล้วเขาก็ถามคำถาม
-
6:45 - 6:48ซึ่งเป็นคำถามที่อยู่ดี ๆ ก็โผล่มา
หรือเป็นคำถามที่ตอบไปแล้ว -
6:48 - 6:51หมายความว่า พิธีกรอาจจะ
เลิกฟังตั้งแต่สองนาทีที่แล้ว -
6:51 - 6:54เพราะเขาคิดคำถามสุดเจ๋งนี้ขึ้นมาได้
-
6:54 - 6:57และมันก็ติดอยู่ในใจเขา
จนเขาตัดสินใจถามคำถามนั้นออกมา -
6:57 - 6:59แล้วเราก็ทำสิ่งเดียวกันนี้เอง
-
6:59 - 7:02เวลาที่เรากำลังนั่งคุยกับใครสักคน
-
7:02 - 7:06อยู่ ๆ เราก็นึกขึ้นมาได้ว่า
เราเคยเจอฮิวจ์ แจ็คแมนที่ร้านกาแฟ -
7:06 - 7:07(เสียงหัวเราะ)
-
7:07 - 7:09แล้วจากนั้นเราก็เลิกฟัง
-
7:09 - 7:11เรื่องราวและความคิดต่าง ๆ
จะพรั่งพรูเข้ามาในหัวคุณ -
7:11 - 7:14คุณต้องปล่อยให้มันผ่านมา แล้วผ่านไป
-
7:14 - 7:18ข้อห้า เมื่อไม่รู้ ก็บอกว่าคุณไม่รู้
-
7:19 - 7:21ผู้ดำเนินรายการวิทยุ
โดยเฉพาะสถานีวิทยุแห่งชาติ (NPR) -
7:21 - 7:24จะตื่นตัวขึ้นมาก
ว่าเขากำลังถูกบันทึกเสียง -
7:24 - 7:28เขาจึงระวังมากขึ้น
ในการอ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญ -
7:28 - 7:30และสิ่งที่อ้างว่าตัวเองรู้ลึก รู้จริง
-
7:30 - 7:32ให้ทำแบบนั้นค่ะ กันไว้ดีกว่าแก้
-
7:32 - 7:34"คำพูดไม่ควรเป็นเพียงลมปาก"
-
7:35 - 7:38ข้อหก อย่าเทียบประสบการณ์คุณกับของเขา
-
7:39 - 7:42ถ้าเขาพูดถึงการสูญเสียสมาชิกในครอบครัว
-
7:42 - 7:45อย่าเริ่มพูดถึงตอนที่
คุณสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไป -
7:45 - 7:48ถ้าเขาพูดถึงปัญหาที่เจอในที่ทำงาน
-
7:48 - 7:50อย่าบอกว่าคุณเกลียดงานของคุณขนาดไหน
-
7:50 - 7:52มันไม่เหมือนกัน และจะไม่มีวันเหมือน
-
7:52 - 7:54ทุกประสบการณ์ เป็นเรื่องเฉพาะคน
-
7:54 - 7:57และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น
มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ -
7:57 - 8:01คุณไม่ต้องแย่งช่วงเวลานั้นมา
เพื่อแสดงว่าคุณเจ๋งแค่ไหน -
8:01 - 8:02หรือคุณเจ็บปวดมากเพียงใด
-
8:03 - 8:06เคยมีคนถามสตีเฟน ฮอว์กกิง
ถึงระดับไอคิวของเขา ซึ่งเขาตอบว่า -
8:06 - 8:09"ไม่รู้สิ คนที่โม้เรื่องระดับไอคิว
เป็นพวกขี้แพ้ทั้งนั้นแหละ" -
8:09 - 8:11(เสียงหัวเราะ)
-
8:11 - 8:14การสนทนา ไม่ใช่โอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง
-
8:17 - 8:18ข้อเจ็ด
-
8:19 - 8:21พยายามอย่าทวนคำพูดตัวเอง
-
8:21 - 8:23มันทั้งดูอวดดี และน่าเสียอารมณ์มาก
-
8:23 - 8:25และเราก็ชอบทำอย่างนั้นเป็นประจำ
-
8:25 - 8:29โดยเฉพาะ การพูดคุยในที่ทำงาน
หรือเวลาพูดกับลูก ๆ -
8:29 - 8:30เรามีเรื่องที่อยากจะย้ำเตือน
-
8:30 - 8:33เราจึงพูดใหม่หลาย ๆ รอบ
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า -
8:34 - 8:35จงอย่าทำแบบนั้น
-
8:35 - 8:37ข้อแปด อยู่ให้ห่างจากเรื่องยิบย่อย
(Stay out of the weeds) -
8:37 - 8:40พูดตามตรง คนอื่นเขาไม่สนใจ
-
8:40 - 8:43เรื่องปี, เรื่องชื่อ,
-
8:43 - 8:45เรื่องวันที่, รายละเอียดทั้งหลาย
-
8:45 - 8:47ที่คุณคิดเท่าไร ก็คิดไม่ออกสักที
-
8:47 - 8:49เขาไม่สนใจหรอก เขาสนแต่เรื่องคุณ
-
8:50 - 8:51เขาสนว่า คุณเป็นอย่างไร
-
8:52 - 8:54คุณมีอะไรที่เหมือนกับเขา
-
8:54 - 8:56ฉะนั้น จงลืมรายละเอียดซะ ทิ้งมันไปเลย
-
8:57 - 8:58ข้อเก้า
-
8:58 - 9:01ข้อนี้ไม่ใช่ข้อสุดท้าย
แต่เป็นข้อที่สำคัญที่สุด -
9:01 - 9:03ฟังนะคะ
-
9:03 - 9:06ฉันไม่อาจบอกได้ว่า
มีคนสำคัญสักเท่าไร ที่กล่าวว่า -
9:06 - 9:10การฟัง อาจเป็นทักษะที่สำคัญ
มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง -
9:10 - 9:12ที่คุณสามารถพัฒนาได้
-
9:12 - 9:13พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้
และฉันขอกล่าวด้วยคำพูดใหม่ว่า -
9:13 - 9:16"ถ้าคุณอ้าปากพูด
คุณก็กำลังอดที่จะเรียนรู้" -
9:16 - 9:20และคาลวิน คูลลิดจ์ เคยกล่าวว่า
"ไม่มีใคร ที่ฟังแล้วต้องตกงาน" -
9:21 - 9:22(เสียงหัวเราะ)
-
9:22 - 9:24แล้วทำไม เราถึงไม่รับฟังกันและกันล่ะ
-
9:25 - 9:27ข้อหนึ่ง เราชอบพูดมากกว่า
-
9:27 - 9:29เมื่อฉันได้พูด ฉันคือผู้ตัดสินใจ
-
9:29 - 9:32ไม่ต้องฟัง สิ่งที่ฉันไม่ได้สนใจ
-
9:32 - 9:33ฉันเป็นศูนย์กลางความสนใจ
-
9:33 - 9:35ฉันสามารถฉายแววความเป็นตัวตนออกมาได้
-
9:35 - 9:36แต่ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง
-
9:37 - 9:38คือ เราเสียสมาธิ
-
9:38 - 9:42ตามปกติ คนทั่วไปพูดประมาณ 225 คำต่อนาที
-
9:42 - 9:46แต่เราสามารถรับฟังได้มากถึง 500 คำต่อนาที
-
9:46 - 9:50เพราะ สมองเราพยายามเติมอีก 275 คำที่เหลือ
-
9:50 - 9:53คิดดูสิคะ ฉันรู้ว่ามันต้องใช้ความพยายาม
และพลังงาน -
9:53 - 9:55ในการตั้งอกตั้งใจฟังใครสักคนอย่างล้นเหลือ
-
9:55 - 9:58แต่ถ้าคุณทำไม่ได้
ก็เท่ากับคุณไม่ได้ร่วมวงสนทนาเลย -
9:58 - 10:01คุณเป็นแค่คนสองคนที่ตะโกนใส่กัน
ด้วยประโยคที่แทบไม่เกี่ยวข้องกันสักนิด -
10:01 - 10:03ในสถานที่เดียวกัน
-
10:03 - 10:04(เสียงหัวเราะ)
-
10:04 - 10:07คุณต้องรับฟังกันและกันค่ะ
-
10:07 - 10:09สตีเฟน โควีย์ กล่าวไว้อย่างสวยหรูว่า
-
10:09 - 10:13"เราแทบทุกคน ไม่ได้ฟังด้วยเจตนาที่จะเข้าใจ
-
10:13 - 10:16เราฟังด้วยเจตนาที่จะโต้ตอบ"
-
10:17 - 10:21กฎข้อสุดท้าย
ข้อสิบ พูดให้สั้นเข้าไว้ -
10:21 - 10:24[การสนทนาที่ดี ก็เหมือนกับกระโปรงสั้น
ต้องสั้นพอที่จะดึงดูดความสนใจ -
10:24 - 10:27แต่ก็ยาวพอที่จะครอบคลุมจุดสำคัญ
- พี่สาวของฉัน] -
10:27 - 10:28(เสียงหัวเราะ)
-
10:28 - 10:30(เสียงปรบมือ)
-
10:30 - 10:35ทั้งหมดนี้ย่อลงเป็นแนวคิดพื้นฐานเดียวกัน
ก็คือสิ่งนี้ -
10:35 - 10:38จงสนใจคนอื่น
-
10:38 - 10:41รู้ไหมคะ
ฉันเติบโตมากับคุณตาที่มีชื่อเสียงมาก -
10:41 - 10:43เราเคยจัดพิธีอย่างหนึ่งในบ้านของฉัน
-
10:43 - 10:45ผู้คนจะมาหาเพื่อพูดคุยกับคุณตาคุณยาย
-
10:45 - 10:48หลังจากพวกเขากลับไป
คุณแม่ก็จะเข้ามาหาเรา -
10:48 - 10:50แล้วบอกว่า "รู้ไหมจ๊ะ นั่นเป็นใคร
-
10:50 - 10:52เธอคือรองอันดับหนึ่งมิสอเมริกา
-
10:52 - 10:54เขาเป็นนายกเทศมนตรีเมืองซาคราเมนโต
-
10:54 - 10:57เธอได้รางวัลพูลิตเซอร์
เขาเป็นนักบัตเลต์ชาวรัสเซีย -
10:57 - 11:00และฉันได้เติบโตขึ้น
-
11:00 - 11:03โดยคาดว่าทุกคนมีพรสวรรค์ซ่อนอยู่ในตัว
-
11:04 - 11:07เรียนตามตรง ฉันคิดว่า
มันทำให้ฉันทำหน้าที่พิธีกรได้ดียิ่งขึ้น -
11:07 - 11:10ฉันหุบปากสนิท ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
-
11:10 - 11:12ฉันเปิดใจให้กว้าง
-
11:12 - 11:14และเตรียมพร้อมที่จะรู้สึกพิศวงอยู่เสมอ
-
11:14 - 11:16และฉันก็ไม่เคยผิดหวังเลย
-
11:17 - 11:19คุณลองทำดูบ้างสิคะ
-
11:19 - 11:21ก้าวออกไปพูดคุยกับผู้คน
-
11:21 - 11:22เปิดใจรับฟังพวกเขา
-
11:22 - 11:26และสิ่งสำคัญที่สุด
เตรียมใจให้พร้อมที่จะพิศวง -
11:26 - 11:28ขอบคุณค่ะ
-
11:28 - 11:31(เสียงปรบมือ)
- Title:
- 10 วิธีที่จะทำให้บทสนทนาดียิ่งขึ้น
- Speaker:
- เซเลสท์ เฮดลี (Celeste Headlee)
- Description:
-
เมื่องานของคุณขึ้นอยู่กับการที่คุณเจรจากับผู้อื่นได้ดีมากน้อยแค่ไหน เราเรียนรู้อะไรมามากมายถึงวิธีที่จะมีการสนทนา ทว่าเราส่วนใหญ่กลับทำได้ไม่ดีนัก เซเลสท์ เฮดลี เป็นนักจัดรายการวิทยุมาหลายสิบปี และเธอก็รู้องค์ประกอบของการมีบทสทนาชั้นเลิศ คือ ความซื่อตรง กระชับ ชัดเจน และการรับฟังที่เหมาะสม ในการบรรยายอันรู้ซึ้งนี้ เธอจะมาเผยกฎ 10 ประการที่เป็นประโยชน์เพื่อให้มีบทสนทนาที่ดียิ่งขึ้น "ก้าวออกไปพูดคุยกับผู้คน เปิดใจรับฟังพวกเขา" เธอกล่าว "และสิ่งสำคัญที่สุด เตรียมใจให้พร้อมที่จะพิศวง"
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 11:44
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for 10 ways to have a better conversation | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for 10 ways to have a better conversation | ||
Retired user accepted Thai subtitles for 10 ways to have a better conversation | ||
Retired user edited Thai subtitles for 10 ways to have a better conversation | ||
Phiratath Nopratanawong edited Thai subtitles for 10 ways to have a better conversation | ||
Retired user declined Thai subtitles for 10 ways to have a better conversation | ||
Retired user edited Thai subtitles for 10 ways to have a better conversation | ||
Retired user edited Thai subtitles for 10 ways to have a better conversation |