ถึงเวลาที่พวกเราเริ่มจะเอาชนะสงครามกับมะเร็งได้แล้ว
-
0:01 - 0:03เรากำลังประกาศสงครามกับโรคมะเร็ง
-
0:03 - 0:05และเราจะชนะสงครามนี้ภายใน ค.ศ. 2015
-
0:06 - 0:10นี่คือสิ่งที่รัฐสภาของสหรัฐอเมริกา
และสถาบันมะเร็งแห่งชาติประกาศ -
0:10 - 0:13เมื่อไม่นานมานี้ในปี ค.ศ. 2003
-
0:14 - 0:17ตอนนี้ ผมไม่รู้ว่าพวกคุณคิดยังไง
แต่ตัวผมเองนั้นไม่เชื่อเรื่องนี้ -
0:17 - 0:19ผมไม่คิดว่าเราชนะสงครามนี้ได้แล้ว
-
0:19 - 0:21และผมไม่คิดว่า จะมีใครที่นี่
สงสัยเรื่องนั้น -
0:22 - 0:24ทีนี้ผมจะบอกถึงเหตุผลหลัก
-
0:24 - 0:26ที่เราไม่สามารถเอาชนะสงครามกับโรคมะเร็งได้
-
0:26 - 0:29นั่นก็เพราะเรากำลังต่อสู้อย่างมืดบอด
-
0:29 - 0:32ผมจะเริ่มด้วยการแบ่งปันเรื่องราว
ของเพื่อนสนิทคนหนึ่งของผม -
0:32 - 0:34เขาชื่อ เอฮุด ครับ
-
0:34 - 0:37เมื่อไม่กี่ปีก่อน เอฮุดได้รับ
การวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งสมอง -
0:37 - 0:39แล้วก็ไม่ใช่แค่มะเร็งสมองทั่ว ๆ ไปนะครับ
-
0:39 - 0:42แต่เป็นมะเร็งสมองชนิดร้ายแรงที่สุด
-
0:42 - 0:43อันที่จริง มันร้ายแรงถึงขั้นที่
-
0:43 - 0:46คุณหมอบอกเขาว่า เขามีเวลาเพียงแค่ 12 เดือน
-
0:46 - 0:49และในระยะเวลา 12 เดือนนั้น
พวกเขาต้องหาวิธีรักษา -
0:49 - 0:51พวกเขาต้องหายารักษา
-
0:51 - 0:53และหากพวกเขาไม่สามารถ
หาทางรักษามันได้ เขาจะตาย -
0:54 - 0:55ข่าวดีก็คือ คุณหมอบอกว่า
-
0:55 - 0:58มีแนวทางในการรักษาให้เลือกมากมาย
-
0:58 - 0:59แต่ข่าวร้ายก็คือ
-
0:59 - 1:03การที่จะบอกได้ว่าการรักษานั้นได้ผลหรือไม่
-
1:03 - 1:06จำเป็นต้องใช้เวลาประมาณสามเดือน
-
1:06 - 1:08ดังนั้นพวกเขาก็ไม่มีเวลามากพอ
ที่จะลองทุกวิธีที่มี -
1:08 - 1:11ครับ แล้วเอฮุดก็เข้ารับการรักษาครั้งแรก
-
1:11 - 1:14ในระหว่างการรักษาครั้งแรกนั้น
ไม่กี่วันหลังจากเริ่มการรักษา -
1:14 - 1:18ผมได้พบเอฮุด และเขาบอกกับผมว่า
"อดัม ผมคิดว่าการรักษาได้ผลนะ -
1:18 - 1:21ผมคิดว่าผมโชคดีมาก ๆ เลยล่ะ
เพราะว่าบางอย่างกำลังเกิดขึ้น" -
1:21 - 1:23ผมเลยถามเขาต่อว่า "จริงหรอ
ว่าแต่ว่าทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ เอฮุด" -
1:23 - 1:25เขาตอบผมว่า "ก็ตอนนี้ผมรู้สึกแย่มาก ๆ อยู่ข้างใน"
-
1:25 - 1:27"ผมว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างได้ผลอยู่แน่ๆ"
-
1:27 - 1:28"ต้องใช่แน่นอน"
-
1:28 - 1:33ครับ แต่โชคร้ายที่สามเดือนหลังจากนั้น
เราได้รู้ว่ามันไม่ได้ผล -
1:34 - 1:36และเอฮุดก็เข้ารับการรักษาครั้งที่สอง
-
1:36 - 1:37เป็นอีกครั้งที่ผลออกมาเหมือนเดิม
-
1:37 - 1:40"ผมรู้สึกแย่มากเลย
ต้องมีอะไรเกิดขึ้นอยู่ข้างในแน่ ๆ" -
1:40 - 1:43แต่อีกสามเดือนต่อมา
ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่เราได้รับข่าวร้าย -
1:43 - 1:47จากนั้นเอฮุดก็เข้ารับการรักษา
ครั้งที่สาม แล้วก็ครั้งที่สี่ -
1:47 - 1:49แล้วก็เป็นไปตามที่คาดไว้
เอฮุดเสียชีวิตในท้ายที่สุด -
1:50 - 1:54ทีนี้ เมื่อใครสักคนหนึ่งคุณสนิทด้วยมาก ๆ
ต้องผ่านการฝ่าฟันอย่างหนัก -
1:54 - 1:56คุณก็จะท่วมท้นไปด้วยอารมณ์มากมาย
-
1:56 - 1:58หลายสิ่งหลายอย่างจะ
ผ่านเข้ามาในความคิดของคุณ -
1:58 - 2:00สำหรับผมแล้ว
ผมรู้สึกเจ็บแค้นเป็นส่วนใหญ่ -
2:00 - 2:05ผมเจ็บแค้นที่ว่า
เราทำได้ดีที่สุดแค่นี้เองหรอ -
2:05 - 2:07แล้วผมก็เริ่มมองเข้าไปให้ลึกขึ้น
-
2:07 - 2:10จากนั้นผมจึงพบว่าสิ่งที่หมอเสนอ
ให้เอฮุดนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด -
2:10 - 2:14และสิ่งที่หมอเสนอก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด
สำหรับผู้ป่วยมะเร็งสมองคนอื่น ๆ ด้วย -
2:14 - 2:17จริง ๆ แล้ว เรายังรับมือกับโรคมะเร็ง
ได้ไม่รอบด้านนัก -
2:18 - 2:20ผมขอยกสถิติหนึ่งขึ้นมา
-
2:20 - 2:23ผมมั่นใจว่าพวกคุณบางคน
คงได้เห็นมันมาก่อนแล้ว -
2:23 - 2:26สถิตินี้จะบอกพวกคุณว่ามีผู้ป่วยมะเร็ง
เสียชีวิตจากมะเร็งจริง ๆ กี่คน -
2:26 - 2:28ในกรณีนี้ คือ ผู้หญิงในสหรัฐอเมริกา
-
2:28 - 2:30ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930
-
2:30 - 2:33คุณจะเห็นว่าสิ่งต่าง ๆ
ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเยอะเลย -
2:33 - 2:34มะเร็งยังคงเป็นปัญหาใหญ่
-
2:34 - 2:36แต่คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
-
2:36 - 2:39คุณจะเห็นว่ามีคนเป็นมะเร็งปอดเพิ่มมากขึ้น
-
2:39 - 2:40ซึ่งต้องขอบคุณบุหรี่ทั้งหลาย
-
2:40 - 2:43แล้วคุณก็จะได้เห็นด้วยว่า
มะเร็งกระเพาะอาหารนั้น -
2:43 - 2:46ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้คน
ไปมากที่สุดในบรรดามะเร็งทุกชนิด -
2:46 - 2:48ถูกกำจัดไป
-
2:48 - 2:51ทีนี้ ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ
มีใครรู้บ้างไหม -
2:51 - 2:54ทำไมมนุษยชาติถึงไม่โดนจู่โจม
ด้วยมะเร็งกระเพาะอีกแล้ว -
2:54 - 2:59ความก้าวหน้าทางการแพทย์
ครั้งยิ่งใหญ่อะไรกัน -
2:59 - 3:02ที่ช่วยให้มนุษยชาติรอดพ้น
จากมะเร็งกระเพาะอาหาร -
3:03 - 3:07ใช่ยาชนิดใหม่
หรือการวินิจฉัยโรคที่ดีขึ้นหรือเปล่า -
3:07 - 3:08พวกคุณเข้าใจถูกแล้ว
-
3:08 - 3:11มันเป็นเพราะการเกิดขึ้นของตู้เย็นยังไงล่ะ
-
3:11 - 3:14ที่ทำให้เราไม่ต้องกินเนื้อบูด ๆ อีกต่อไป
-
3:14 - 3:16กลับกลายเป็นว่า
สิ่งที่ดีที่สุดที่เราคิดค้นมาได้ -
3:16 - 3:18จากสังเวียนของงานวิจัยด้านมะเร็ง
-
3:18 - 3:20คือการที่ตู้เย็นถูกสร้างขึ้นมา
-
3:20 - 3:21(เสียงหัวเราะ)
-
3:21 - 3:23ผมก็รู้สึกแบบคุณนั่นล่ะ
-
3:23 - 3:24เราทำกันได้ไม่ดีสักเท่าไร
-
3:24 - 3:26ผมไม่ได้จะลดทอนความก้าวหน้า
-
3:26 - 3:30รวมถึงทุกอย่างที่ได้ทำมาทั้งหมด
ในงานวิจัยด้านมะเร็งนะครับ -
3:30 - 3:33ลองดูสิว่า เรามีงานวิจัยเกี่ยวกับ
มะเร็งที่ดีมาราว ๆ 50 กว่าปี -
3:33 - 3:37ที่ทำให้เราค้นพบสิ่งที่สำคัญ ๆ
ที่สอนเราเกี่ยวกับมะเร็ง -
3:37 - 3:38แต่ถึงจะพูดแบบนั้นก็ตาม
-
3:39 - 3:41เรายังมีงานหนักอีกมากมาย
ที่ยังต้องทำอยู่ข้างหน้า -
3:43 - 3:46ผมขอโต้แย้งอีกครั้งว่า
เหตุผลหลักที่ทำไมมันถึงยังเป็นแบบนี้อยู่ -
3:46 - 3:48เหตุที่ว่าทำไมเราถึงยังทำมาได้ไม่ดีพอนั้น
-
3:48 - 3:50ก็เพราะว่าเรากำลังต่อสู้กับมะเร็งอย่างมืดบอด
-
3:50 - 3:52และจุดนี้เองที่การฉายภาพทางการแพทย์
จะเข้ามาเกี่ยวข้อง -
3:52 - 3:54และเป็นจุดที่งานของผมเองเข้ามาเกี่ยวข้อง
-
3:54 - 3:57และเพื่อจะทำให้คุณเข้าใจ
การฉายภาพทางการแพทย์ได้ดีที่สุด -
3:57 - 4:00ซึ่งใช้กับผู้ป่วยมะเร็งสมองทุกวันนี้
-
4:00 - 4:02รวมถึงใช้กับ
ผู้ป่วยมะเร็งชนิดอื่น ๆ ด้วย -
4:02 - 4:04ผมจะให้คุณดูเพทสแกน (PET Scan) อันนี้
-
4:04 - 4:05เรามาดูพร้อมกันเถอะ
-
4:06 - 4:07นี่คือเพท ซีทีสแกน (PET/CT Scan)
-
4:07 - 4:10และสิ่งที่คุณเห็นข้างใน เพท ซีทีสแกน นั้น
-
4:10 - 4:13คือซีทีสแกนที่แสดงให้คุณเห็นว่า
กระดูกอยู่ตรงไหน -
4:13 - 4:15และเพทสแกนที่จะบอกคุณว่า
เนื้องอกนั้นอยู่ที่ไหน -
4:16 - 4:18ทีนี้ สิ่งที่คุณเห็นได้ในตอนนี้
-
4:18 - 4:21ส่วนใหญ่แล้วเป็นโมเลกุลน้ำตาล
-
4:21 - 4:22ที่ถูกติดป้ายเล็ก ๆ เข้าไป
-
4:22 - 4:25ที่กำลังส่งสัญญาณออกมา
ภายนอกร่างกายมายังเรา -
4:25 - 4:26"เฮ้ ฉันอยู่นี่"
-
4:26 - 4:30โมเลกุลน้ำตาลพวกนี้นับพันล้านโมเลกุล
จะถูกฉีดเข้าไปในร่างกายของคนไข้ -
4:30 - 4:31แล้วก็จะแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย
-
4:31 - 4:34คอยหาเซลล์ที่หิวโหยน้ำตาล
-
4:34 - 4:37ตัวอย่างเช่น
คุณจะเห็นว่าหัวใจส่องสว่างอยู่ตรงนั้น -
4:37 - 4:39นั่นก็เพราะว่าหัวใจนั้นต้องการน้ำตาลมาก
-
4:39 - 4:42และคุณก็จะเห็นว่า
กระเพาะปัสสาวะก็ส่องสว่างเช่นกัน -
4:42 - 4:44ซึ่งก็เพราะว่า
กระเพาะปัสสาวะคืออวัยวะที่กำจัด -
4:44 - 4:46น้ำตาลออกไปจากร่างกายของเรา
-
4:46 - 4:48แล้วคุณก็จะเห็นจุดสว่างอื่น ๆ อีกเช่นกัน
-
4:48 - 4:50ซึ่งจุดพวกนี้เองที่เป็นเนื้องอก
-
4:50 - 4:52เทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก
-
4:52 - 4:55เป็นครั้งแรกที่มันทำให้เราสามารถมองเข้าไป
ในร่างกายของใครสักคนได้ -
4:55 - 4:57โดยที่ไม่ต้องเอาเซลล์พวกนั้นทั้งหมดออกมา
-
4:57 - 4:59แล้ววางไว้ใต้กล้องจุลทรรศน์
-
4:59 - 5:02และด้วยวิธีที่ไม่รุกรานแบบนี้ ทำให้เรา
สามารถมองเข้าไปในร่างกายของใครสักคน -
5:02 - 5:05แล้วถามว่า "เห้ย
มะเร็งแพร่กระจายแล้วหรือยัง -
5:05 - 5:06มันอยู่ไหนน่ะ"
-
5:06 - 5:08ซึ่งเพทสแกนนั้น กำลังแสดง
ให้คุณเห็นอย่างชัดเจนมาก -
5:08 - 5:11ว่าจุดสว่าง ๆ พวกนี้อยู่ตรงไหน
และเนื้องอกอยู่ตรงไหน -
5:11 - 5:15แต่ถึงแม้ว่ามันจะดูน่าอัศจรรย์สักเท่าไรก็ตาม
-
5:15 - 5:18ก็ยังมีความโชคร้ายว่า
มันก็ไม่ได้ดีเยี่ยมขนาดนั้น -
5:18 - 5:20คุณเห็นไหม จุดสว่างเล็ก ๆ ตรงนั้นน่ะ
-
5:21 - 5:25มีใครเดาได้ไหมว่าในเนื้องอกแต่ละก้อน
มีเซลล์มะเร็งกี่เซลล์ -
5:27 - 5:29ประมาณ 100 ล้านเซลล์ยังไงล่ะ
-
5:29 - 5:32และเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจตัวเลขนี้
-
5:32 - 5:34ผมจะบอกว่า ในจุดสว่างเล็ก ๆ ทุกจุดพวกนี้
-
5:34 - 5:36ที่คุณเห็นอยู่ในรูปนั้น
-
5:36 - 5:40จำเป็นจะต้องมีเซลล์มะเร็ง
อย่างน้อย 100 ล้านเซลล์ -
5:40 - 5:41ถึงจะทำให้เครื่องนี้ตรวจพบได้
-
5:41 - 5:44ทีนี้ ถ้าพวกคุณคิดว่ามันเป็นตัวเลขที่มาก
-
5:44 - 5:45ถูกต้องแล้ว มันคือตัวเลขที่มาก
-
5:47 - 5:49จริง ๆ แล้ว มันคือตัวเลขมหาศาลเลยล่ะ
-
5:49 - 5:51เพราะสิ่งที่เราต้องทำ
เพื่อให้เอาออกมาให้เร็วพอ -
5:51 - 5:54เพื่อที่จะทำอะไรกับมันได้
เพื่อที่จะทำอะไรที่ก่อให้เกิดผลที่ดีนั้น -
5:54 - 5:57คือเราต้องเอาเนื้องอก
ที่มีขนาดแค่หนึ่งพันเซลล์ออก -
5:57 - 6:00หรือถ้าเป็นไปได้ ก็คือเซลล์
แค่หยิบมือเดียวเท่านั้น -
6:00 - 6:02นั่นหมายความว่าเรายังอยู่ห่างจากจุดนั้นมาก
-
6:02 - 6:05ดังนั้นเราจะทำการทดลองเล็ก ๆ ที่นี่
-
6:05 - 6:07ตอนนี้ ผมจะให้พวกคุณแต่ละคน
เล่นเกมและจินตนาการว่า -
6:07 - 6:09คุณเป็นหมอผ่าตัดสมอง
-
6:09 - 6:13แล้วตอนนี้คุณก็กำลังอยู่ในห้องผ่าตัด
-
6:13 - 6:15และมีคนไข้คนหนึ่งนอนอยู่ข้างหน้าคุณ
-
6:15 - 6:19งานของคุณคือ คุณต้องทำให้แน่ใจว่า
เนื้องอกนั้นถูกเอาออกไปแล้ว -
6:19 - 6:21ตอนนี้คุณกำลังมองไปที่คนไข้ของคุณ
-
6:21 - 6:25และเมื่อคุณมองลงไปนั้น
ผิวหนังและกะโหลกของคนไข้ก็ถูกเปิดออกแล้ว -
6:25 - 6:27ตอนนี้คุณกำลังมองไปที่สมอง
-
6:27 - 6:28และสิ่งที่คุณรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับคนไข้คนนี้
-
6:28 - 6:31คือคนไข้มีก้อนเนื้องอกขนาดประมาณลูกกอล์ฟ
-
6:31 - 6:34ในสมองกลีบหน้าด้านขวาของเขา
-
6:34 - 6:35เท่านั้นล่ะที่คุณรู้
-
6:35 - 6:39คุณเลยมองลงไป แต่โชคไม่ดีที่
ทุกอย่างกลับดูเหมือนกันไปหมด -
6:39 - 6:42เพราะว่าเนื้อเยื่อมะเร็งและ
เนื้อเยื่อปกติของสมองนั้น -
6:42 - 6:43แท้จริงแล้วดูเหมือนกัน
-
6:43 - 6:45คุณเลยยื่นนิ้วโป้งของคุณลงไป
-
6:45 - 6:48แล้วเริ่มกดที่สมองสักจุดหนึ่ง
-
6:48 - 6:50เพราะว่าเนื้องอกมักจะแข็งและกระด้างกว่า
-
6:50 - 6:53คุณเลยยื่นนิ้วเข้าไปแล้วทำแบบนั้น
แล้วก็พูดว่า -
6:53 - 6:55"ดูเหมือนว่าเนื้องอกจะอยู่ตรงนี้นะ"
-
6:55 - 6:57แล้วคุณก็เอามีดออกมาแล้วผ่าเนื้องอกนั้นออก
-
6:57 - 6:59ทีละชิ้น ทีละชิ้น
-
6:59 - 7:00และในขณะที่คุณกำลังเอาเนื้องอกออกมา
-
7:00 - 7:03ก็จะมาถึงจุดที่คุณคิดว่า
-
7:03 - 7:05"โอเคล่ะ เสร็จแล้ว
ฉันเอาทุกอย่างออกมาหมดแล้ว" -
7:05 - 7:06และในขั้นนี้
-
7:06 - 7:09ขั้นที่ทุกอย่างดูเหมือนไม่เข้าท่าไปหมด
-
7:09 - 7:13คุณจะได้พบกับการตัดสินใจที่
ท้าทายที่สุดในชีวิตของคุณ -
7:13 - 7:14เพราะในตอนนี้คุณต้องตัดสินใจแล้วว่า
-
7:14 - 7:17คุณจะหยุดแต่เพียงเท่านี้
แล้วปล่อยคนไข้ไป -
7:17 - 7:20และในขณะเดียวกัน ก็ต้องเสี่ยงว่า
อาจมีเซลล์มะเร็งที่หลงเหลืออยู่ -
7:20 - 7:22ที่คุณมองไม่เห็น
-
7:22 - 7:25หรือว่าจะเอาขอบ ๆ ออกเพิ่มสักเล็กน้อย
-
7:25 - 7:27ประมาณหนึ่งนิ้วรอบ ๆ เนื้องอก
-
7:28 - 7:30เพื่อให้แน่ใจว่าเอาทุกอย่างออกหมดแล้วจริง ๆ
-
7:31 - 7:35มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย
-
7:36 - 7:38แต่โชคร้ายที่การตัดสินใจแบบนี้นั้น
-
7:38 - 7:41คือสิ่งที่หมอผ่าตัดสมอง
ต้องตัดสินใจอยู่ทุกวัน -
7:41 - 7:43ขณะที่ต้องพบกับคนไข้
-
7:43 - 7:46ผมจำได้ว่าผมคุย
กับเพื่อนสองสามคนในห้องทดลอง -
7:46 - 7:49เราพูดกันว่า
"พวก มันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้" -
7:49 - 7:52แต่ไม่ใช่แค่การพูดกับเพื่อนว่า
ต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้ -
7:52 - 7:54แต่มันจะต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้ที่นี่
-
7:54 - 7:56ซึ่งมันดูเป็นไปไม่ได้เลย
-
7:56 - 7:57แล้วพวกเราจึงมองย้อนกลับไป
-
7:57 - 8:00จำเครื่องเพทสแกนที่ผมบอกคุณได้ไหม
ทั้งเรื่องน้ำตาลและเรื่องอื่น ๆ -
8:00 - 8:03เราพูดกันว่า เห้ย
แทนที่เราจะใช้โมเลกุลน้ำตาล -
8:03 - 8:06เรามาลองใช้อนุภาคทองคำ
ที่มีขนาดเล็กมาก ๆ แทนไหม -
8:06 - 8:10แล้วตั้งโปรแกรมมันด้วย
คุณสมบัติทางเคมีที่น่าทึ่งของมัน -
8:10 - 8:12โดยเรามาตั้งโปรแกรม
เพื่อให้พวกมันหาเซลล์มะเร็งกัน -
8:12 - 8:14จากนั้นเราก็จะฉีดอนุภาคทองคำเหล่านี้เข้าไป
-
8:14 - 8:17ในร่างกายของคนไข้นับพันล้านอนุภาคอีกครั้ง
-
8:17 - 8:19แล้วเราปล่อยให้มันแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย
-
8:19 - 8:21เหมือนกับสายลับ
-
8:21 - 8:24ที่เดินและแวะไปหาเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย
-
8:24 - 8:25แล้วเคาะประตูของเซลล์นั้น ๆ
-
8:25 - 8:28แล้วถามว่า
"คุณเป็นเซลล์มะเร็ง หรือเซลล์ปกติ" -
8:28 - 8:30ถ้าคุณเป็นเซลล์ปกติ เราจะปล่อยผ่านไป
-
8:30 - 8:33แต่ถ้าคุณเป็นเซลล์มะเร็ง
เราจะเข้าไป และเปล่งแสงออกมา -
8:33 - 8:35แล้วรายงานกับเราว่า
"นี่ ดูนี่สิ ฉันอยู่นี่" -
8:35 - 8:37และเราจะเห็นมัน
ผ่านกล้องพิเศษบางตัว -
8:37 - 8:39ที่เราสร้างขึ้นในห้องทดลอง
-
8:39 - 8:42และเมื่อเราเห็นมัน
เราอาจจะนำทางหมอผ่าตัดสมอง -
8:42 - 8:45มุ่งไปยังเนื้องอกเท่านั้น
แล้วปล่อยสมองส่วนที่ปกติไว้ -
8:46 - 8:49เราได้ทดลองมันแล้ว
แล้วมันก็ทำงานได้ดี -
8:49 - 8:51ดังนั้นตอนนี้ผมจะแสดงตัวอย่างให้คุณดู
-
8:51 - 8:53สิ่งที่คุณกำลังดูอยู่นั้น
-
8:53 - 8:57คือภาพสมองของหนู
-
8:57 - 9:00เราได้ปลูกถ่ายเนื้องอกก้อนเล็ก ๆ
-
9:00 - 9:01เข้าไปในสมองของหนูตัวนี้
-
9:01 - 9:04ในตอนนี้ เนื้องอกก้อนนี้
กำลังขยายใหญ่ในสมองของหนูตัวนี้ -
9:04 - 9:06จากนั้นเราก็ตามหมอมา
แล้วขอให้หมอ -
9:06 - 9:09ช่วยผ่าตัดหนูตัวนี้
ราวกับว่ามันเป็นคนไข้คนหนึ่ง -
9:09 - 9:12และเอาชิ้นเนื้องอกออกทีละชิ้น ๆ
-
9:12 - 9:13และในขณะที่เขากำลังผ่าตัดอยู่นั้น
-
9:13 - 9:16เราจะถ่ายภาพเพื่อดูว่า
อนุภาคทองคำนั้นอยู่ที่ไหน -
9:16 - 9:18โดยเราจะเริ่มขั้นแรก
-
9:18 - 9:20โดยการฉีดอนุภาคทองคำพวกนี้
เข้าไปในหนูตัวนี้ -
9:20 - 9:23เราจะมาดูทางซ้ายสุดนี้
-
9:23 - 9:25รูปด้านล่างนั้น
-
9:25 - 9:27คือรูปที่แสดงให้เห็นว่า
อนุภาคทองคำอยู่ตรงไหน -
9:27 - 9:29ข้อดีก็คือ
อนุภาคทองคำพวกนี้นั้น -
9:29 - 9:31สามารถเดินทางไปถึงก้อนเนื้องอกได้ทั้งหมด
-
9:31 - 9:35แล้วพวกมันก็ส่องแสงออกมา เพื่อบอกเราว่า
"นี่ พวกเราอยู่ที่นี่ เนื้องอกอยู่ตรงนี้" -
9:35 - 9:36ในตอนนี้เราก็สามารถมองเห็นเนื้องอกได้
-
9:36 - 9:39แต่เราจะยังไม่เอาไปให้หมอดูทันที
-
9:39 - 9:42เราบอกหมอว่า รบกวนหมอผ่าเอาเนื้องอกออกไปที
-
9:42 - 9:45คุณจะเห็นว่า
หมอได้เอาก้อนเนื้องอกออกไปหนึ่งในสี่แล้ว -
9:45 - 9:47และคุณจะเห็นว่า
เนื้องอกส่วนหนึ่งได้หายไปแล้ว -
9:47 - 9:50จากนั้น หมอก็เอาเนื้องอก
ส่วนที่สอง ส่วนที่สามออก -
9:50 - 9:52และตอนนี้ดูเหมือนว่า
จะเอาออกไปจนหมดแล้ว -
9:52 - 9:54และในขั้น ๆ นี้ หมอกลับมาหาเราและบอกว่า
-
9:54 - 9:57"ผมทำเสร็จแล้ว
คุณอยากให้ผมทำอะไรอีกหรือเปล่า -
9:57 - 9:58ผมควรปล่อยไว้แบบนี้
-
9:58 - 10:01หรือคุณอยากให้ผมเอาบริเวณรอบ ๆ นั้น
ออกเพิ่มอีกสักหน่อย" -
10:01 - 10:02เราเลยบอกหมอว่า "เดี๋ยวก่อนครับ"
-
10:02 - 10:05เราบอกเขาว่า "คุณยังไม่ได้เอาสองจุดนั้นออก
-
10:05 - 10:07ดังนั้นแทนที่จะเอาขอบ ๆ ที่มีขนาดใหญ่ออก
-
10:07 - 10:09หมอแค่เอาจุดเล็ก ๆ พวกนั้นออกก็พอ
-
10:09 - 10:11เอามันออกมา แล้วมาดูกัน"
-
10:11 - 10:14หมอจึงเอามันออก
และไม่น่าเชื่อเลย -
10:14 - 10:16มะเร็งทั้งหมดหายไปแล้ว
-
10:16 - 10:17แต่สิ่งสำคัญ
-
10:17 - 10:20ไม่ใช่เพียงแค่มะเร็งนั้นหายไปจนหมด
-
10:20 - 10:21จากสมองของคนคนนี้
-
10:21 - 10:23หรือจากหนูตัวนี้
-
10:23 - 10:24แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ
-
10:24 - 10:27เราไม่ต้องผ่าเอาเซลล์สมองปกติออกไปมากมาย
-
10:27 - 10:29ระหว่างการผ่าเนื้องอกนั้น
-
10:29 - 10:31ดังนั้น ในตอนนี้ เราสามารถจินตนาการถึงโลก
-
10:31 - 10:35ที่หมอและหมอผ่าตัด รู้อย่างแน่ชัดว่า
จะต้องเอาส่วนไหนออกมา -
10:35 - 10:36ขณะผ่าเอาเนื้องอกออก
-
10:36 - 10:40โดยที่ไม่ต้องคาดเดาด้วยนิ้วโป้งอีกต่อไป
-
10:40 - 10:43ทีนี้ นี่คือสาเหตุว่าทำไม การเอาเนื้องอกเล็ก ๆ
ที่เหลืออยู่นั้นออก จึงสำคัญอย่างมาก -
10:43 - 10:46เนื้องอกที่หลงเหลืออยู่นั้น
ถึงแม้ว่าจะมีเซลล์เพียงแค่หยิบมือเดียว -
10:46 - 10:49จะเติบโตและก่อให้เกิดเนื้องอกขึ้น
-
10:49 - 10:51และนำเนื้องอกกลับมาใหม่
-
10:51 - 10:53จริง ๆ แล้วนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหมอผ่าตัดสมอง
-
10:53 - 10:55ร้อยละ 80 ถึง 90 ถึงล้มเหลวในท้ายที่สุด
-
10:55 - 10:59นั่นก็เพราะขอบเล็ก ๆ พวกนั้น
ที่เป็นเนื้องอกที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ -
10:59 - 11:02เพราะเนื้องอกเล็ก ๆ น้อยนิด
ที่ถูกทิ้งอยู่ในนั้น -
11:03 - 11:06ดังนั้น นี่จึงเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ
-
11:06 - 11:10แต่สิ่งที่ผมอยากจะแบ่งปันกับพวกคุณจริง ๆ
คือ จุดหมายที่เรากำลังมุ่งไปข้างหน้า -
11:10 - 11:12ในห้องทดลองที่สแตนฟอร์ดของผมนั้น
-
11:12 - 11:18นักศึกษากับผมถามว่า
ตอนนี้สิ่งที่เราควรจะทำคืออะไร -
11:18 - 11:20ผมคิดว่าจุดหมายที่เทคโนโลยีฉายภาพ
กำลังมุ่งไปหานั้น -
11:20 - 11:23คือศักยภาพในการส่องเข้าไปในร่างกายคน
-
11:23 - 11:27และสามารถมองเห็น
เซลล์แต่ละเซลล์แยกกัน -
11:27 - 11:29ศักยภาพนี้ จะทำให้เรา
-
11:29 - 11:32สามารถที่จะเอาเนื้องอกออกได้นาน
-
11:32 - 11:36ก่อนที่จะมีเซลล์ 100 ล้านเซลล์ข้างใน
ซึ่งจะทำให้เราจัดการกับมันได้จริง ๆ -
11:36 - 11:40ศักยภาพในการมองเห็นเซลล์แต่ละเซลล์
แยกกันนี้ ยังอาจทำให้เรา -
11:40 - 11:41ได้ถามคำถามที่ล้ำลึกมากมาย
-
11:41 - 11:43ดังนั้นในห้องทดลองตอนนี้
เรากำลังไปถึงจุด -
11:43 - 11:46ที่เราสามารถเริ่มถามคำถามกับ
เซลล์มะเร็งพวกนี้ได้มากมายอย่างแท้จริง -
11:46 - 11:50เช่น ถามมันว่า มันกำลังตอบสนอง
ต่อการรักษาแบบที่เราใช้หรือเปล่า -
11:50 - 11:53หากมันไม่ตอบสนอง เราจะได้หยุด
วิธีการรักษาแบบเดิมทันที -
11:53 - 11:56โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน
และไม่ต้องรอถึงสามเดือน -
11:56 - 11:59ซึ่งทำให้คนไข้แบบเอฮุด
-
11:59 - 12:03ที่กำลังจะต้องผ่านขั้นตอน
การทำคีโมที่เลวร้ายนั้น -
12:03 - 12:04ไม่ต้องทรมาน
-
12:04 - 12:07จากผลข้างเคียงที่น่ากลัวของยานั้นอีกต่อไป
-
12:07 - 12:10ทั้งที่จริง ๆ แล้วยาพวกนั้น
ไม่ได้ช่วยอะไรพวกเขาเลย -
12:10 - 12:13ถ้าจะให้ผมพูดตรง ๆ
-
12:13 - 12:16จริง ๆ แล้ว เรายังห่างไกลจากชัยชนะ
ในการทำสงครามกับมะเร็ง -
12:16 - 12:18ถ้ามองบนพื้นฐานความเป็นจริง
-
12:18 - 12:20แต่อย่างน้อยที่สุดผมก็มีความหวัง
-
12:20 - 12:24ว่าเราจะสามารถต่อสู้ในสงครามนี้ได้
ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่ดีขึ้น -
12:24 - 12:26ด้วยวิธีที่ไม่มืดบอดอีกต่อไป
-
12:26 - 12:27ขอบคุณครับ
-
12:27 - 12:29(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ถึงเวลาที่พวกเราเริ่มจะเอาชนะสงครามกับมะเร็งได้แล้ว
- Speaker:
- อดัม เดอลา เซอลา (Adam de la Zerda)
- Description:
-
เรียนรู้ความก้าวหน้าทางการแพทย์ล่าสุดในการต่อสู้กับมะเร็งจากนักวิจัยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด อดัม เดอลา เซอลา ผู้พัฒนาวิธีการในการจัดการกับเซลล์มะเร็งแบบใหม่ของเขาเอง โดยการใช้เทคโนโลยีฉายภาพที่ให้แสงสว่างด้วยอนุภาคทองคำ ซึ่งจะถูกฉีดเข้าไปในร่างกาย และคอยเสาะหาเซลล์มะเร็ง อดัม เดอลา เซอลา มีความหวังว่าห้องทดลองของเขาจะเป็นแสงที่นำทางให้ศัลยแพทย์สมองสามารถนำก้อนเนื้องอกที่ร้ายแรง ที่แม้ว่าจะมีขนาดเล็กมากที่สุดออกไปได้
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 12:42
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How we can start winning the war against cancer | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for How we can start winning the war against cancer | ||
Chanyanart Kiattiporn-opas accepted Thai subtitles for How we can start winning the war against cancer | ||
Chanyanart Kiattiporn-opas edited Thai subtitles for How we can start winning the war against cancer | ||
Purich Worawarachai edited Thai subtitles for How we can start winning the war against cancer | ||
Purich Worawarachai edited Thai subtitles for How we can start winning the war against cancer | ||
Purich Worawarachai edited Thai subtitles for How we can start winning the war against cancer | ||
Purich Worawarachai edited Thai subtitles for How we can start winning the war against cancer |