การที่จะเลี้ยงลูกสาวให้มีความกล้า ต้องส่งเสริมความท้าทาย
-
0:01 - 0:05สมัยฉันยังเด็ก
ฉันหมกมุ่นกับหนังสือบันทึกสถิติโลก -
0:05 - 0:09และฉันอยากจะมีสถิติโลกของตัวเอง
-
0:09 - 0:11แต่มีปัญหาเล็กน้อยอยู่อย่างหนึ่ง
-
0:12 - 0:14ฉันไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย
-
0:15 - 0:18ฉันจึงเลือกที่จะทำสถิติโลก
ในอะไรสักอย่างหนึ่ง -
0:18 - 0:21ที่ไม่ใช้ความสามารถอะไรทั้งสิ้น
-
0:22 - 0:25ฉันจึงเลือกที่จะทำสถิติโลก
-
0:25 - 0:26ใน "การคลาน"
-
0:28 - 0:31(เสียงหัวเราะ)
-
0:31 - 0:34ทีนี้ สถิติที่บันทึกไว้ในตอนนั้น
คือประมาณ 20 กิโลเมตร -
0:36 - 0:39แต่ไม่รู้ว่าทำไม
มันถึงดูไม่ยากเท่าไหร่นะ -
0:39 - 0:41(เสียงหัวเราะ)
-
0:43 - 0:44ฉันชวน แอนน์
เพื่อนซี้มาร่วมด้วย -
0:44 - 0:48เราทั้งคู่ตกลงกันเสร็จสรรพ
เราไม่ต้องฝึกอะไรเลยด้วยซ้ำ -
0:48 - 0:51(เสียงหัวเราะ)
-
0:51 - 0:53และเมื่อถึงวันแห่งการพยายามบันทึก
-
0:53 - 0:57เราก็เอาผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์มาติดไว้
ที่ผิวด้านนอกของกางเกงยีนส์ตัวเก่ง -
0:57 - 0:58จากนั้น เราก็เริ่มออกตัว
-
0:59 - 1:02แล้วเราก็มีปัญหาในทันทีทันใด
-
1:02 - 1:04เพราะเนื้อผ้ากางเกงนั้นเสียดสีกับผิวเรา
-
1:04 - 1:05แล้วมันก็เริ่มขูดจนเป็นแผล
-
1:06 - 1:08ไม่นาน เข่าของเราทั้งคู่
ก็ถลอกปอกเปิก -
1:09 - 1:10ชั่วโมงต่อมา
-
1:11 - 1:12ฝนก็เริ่มตก
-
1:14 - 1:16จากนั้น แอนน์ก็ล้มเลิกไป
-
1:17 - 1:19แล้วฟ้าก็มืดครึ้มลง
-
1:21 - 1:23คราวนี้ เลือดไหลรินจากเข่า
ซึมผ่านกางเกงยีนส์ของฉัน -
1:24 - 1:26และฉันก็เกิดภาพหลอนจากความหนาวเย็น
-
1:26 - 1:28ความเจ็บปวด และความซ้ำซาก
-
1:28 - 1:32และเพื่อให้คุณเห็นภาพ
การผ่านความทุกข์ทรมานอันแสนสาหัส -
1:33 - 1:37ฉันคลานรอบ โรงเรียนมัธยมปลาย
รอบแรกใช้เวลาไป 10 นาที -
1:38 - 1:41รอบสุดท้ายใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง
-
1:42 - 1:46หลังจาก 12 ชั่วโมงแห่งการคลานผ่านไป
-
1:46 - 1:48ฉันก็หยุดลง
-
1:48 - 1:51ฉันมาได้ไกลถึง 13.7 กิโลเมตร
-
1:52 - 1:56ดังนั้น ฉันจึงอดคว้าบันทึกสถิติโลก
การคลาน 20 กิโลเมตรไปครอง -
1:56 - 2:00เป็นเวลาหลายปีที่ฉันคิดว่า
นี่คือเรื่องราวแห่งความล้มเหลวอันย่อยยับ -
2:00 - 2:03แต่ในวันนี้ ฉันมองมันต่างออกไป
-
2:03 - 2:05เพราะตอนที่ฉันพยายามจะบันทึกสถิติโลก
-
2:06 - 2:07ฉันได้ทำสามสิ่งด้วยกัน
-
2:07 - 2:09หนึ่ง คือ ฉันได้ก้าวออกจากคอมฟอร์ทโซน
-
2:09 - 2:12สอง ฉันได้ปลุกการฟื้นตัวจากความปวดร้าว
-
2:12 - 2:14และสาม ฉันก็ได้ค้นหาความมั่นใจในตนเอง
-
2:14 - 2:16ตลอดจนความเชื่อมั่นในการตัดสินใจ
-
2:16 - 2:18ฉันมิเคยล่วงรู้ตราบจนวันนี้
-
2:18 - 2:21แต่สิ่งเหล่านั้น
ไม่ใช่เครื่องหมายแห่งความล้มเหลว -
2:21 - 2:24สิ่งเหล่านั้น คือ
ตราประทับแห่งความกล้าหาญ -
2:25 - 2:28ต่อมา ในปี ค.ศ. 1989
ฉันมีอายุได้ 26 -
2:28 - 2:30ฉันเป็นนักผจญเพลิงจากซานฟรานซิสโก
-
2:31 - 2:35และฉันเป็นผู้หญิงคนที่ 15 ของสำนักงาน
จากผู้ชาย 1,500 คน -
2:35 - 2:39(เสียงปรบมือ)
-
2:41 - 2:43และคุณคงจะนึกภาพออกนะคะ
เมื่อฉันไปถึง -
2:43 - 2:46มีข้อกังขามากมายว่าเราจะทำงานได้หรือไม่
-
2:46 - 2:51แม้ว่าฉันจะเป็น นักกีฬาพายเรือ มหาวิทยาลัย
ที่สูง 178 ซม. หนัก 68 กิโล -
2:51 - 2:56และใครคนหนึ่งที่ทนพิษบาดแผลที่เข่า
ได้นานถึง 12 ชั่วโมงก็ตาม -
2:56 - 2:57(เสียงหัวเราะ)
-
2:57 - 3:00ฉันรู้ดีว่า
ฉันยังต้องพิสูจน์ความเข้มแข็งอยู่ -
3:00 - 3:02วันหนึ่ง มีสายแจ้งเหตุเพลิงไหม้เข้ามา
-
3:02 - 3:04และแน่นอน
เมื่อทีมดับเพลิงของฉันไปถึงที่เกิดเหตุ -
3:04 - 3:08ควันทะมึนพวยพุ่งออกมาจากทางเข้าอาคาร
-
3:08 - 3:11ฉันอยู่กับชายร่างกำยำคนหนึ่ง
ชื่อว่า "สกิป" -
3:11 - 3:13เขาเป็นผู้ถือหัวฉีดน้ำดับเพลิง
ส่วนฉันก็อยู่ทางด้านหลัง -
3:13 - 3:15มันเป็นไฟประเภทที่เกิดขึ้นทั่วไป
-
3:15 - 3:18มันเต็มไปด้วยกลุ่มควัน
มันร้อนมาก -
3:19 - 3:20และทันใดนั้นเอง
-
3:20 - 3:22ก็เกิดระเบิดขึ้น
-
3:22 - 3:24ทั้งสกิปกับฉันต่างเซไปข้างหลัง
-
3:24 - 3:27หน้ากากของฉันถูกกระแทกไปอยู่ด้านข้าง
-
3:27 - 3:29ในชั่วขณะแห่งความวุ่นวายสับสน
-
3:29 - 3:32ฉันพยุงตัวเองขึ้นมา
-
3:32 - 3:34ควานหาหัวฉีดน้ำดับเพลิง
-
3:34 - 3:37และทำในสิ่งที่นักผจญเพลิงสมควรทำ
-
3:37 - 3:38ฉันพุ่งตรงเข้าไป
-
3:38 - 3:40เปิดน้ำ
-
3:40 - 3:42และฉีดน้ำสกัดไฟด้วยตัวเอง
-
3:43 - 3:45การระเบิดนั้นเกิดขึ้นจากเครื่องทำน้ำร้อน
-
3:45 - 3:48ดังนั้น จึงไม่มีใครได้รับอันตราย
และไม่ใช่เรื่องราวใหญ่โต -
3:48 - 3:51แต่ต่อมา สกิปกลับเข้ามาหาฉันแล้วพูดว่า
-
3:51 - 3:53"เธอทำได้เยี่ยมมาก แคโรไลน์"
-
3:53 - 3:55ด้วยน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความแปลกใจเช่นนี้
-
3:55 - 3:57(เสียงหัวเราะ)
-
3:58 - 4:01ฉันเลยสับสน เพราะการดับไฟนั้น
ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย -
4:01 - 4:06แล้วทำไมเขาถึงมองฉันราวกับ
เป็นสิ่งที่สุดแสนอัศจรรย์ล่ะ -
4:06 - 4:08จากนั้น ฉันจึงได้เข้าใจ
-
4:08 - 4:11สกิป ชายหนุ่มผู้มีจิตใจดีงาม
-
4:11 - 4:14และนักผจญเพลิงที่เก่งกาจ
-
4:14 - 4:17ไม่เพียงคิดว่าผู้หญิงไม่มีทางเข้มแข็งได้
-
4:17 - 4:20แต่ยังคิดว่าผู้หญิงกล้าหาญไม่ได้อีกด้วย
-
4:21 - 4:22และไม่ได้มีเพียงเขาแค่คนเดียว
-
4:24 - 4:26ทั้งเพื่อน ๆ คนรู้จัก อีกทั้งคนแปลกหน้า
-
4:26 - 4:28รวมถึงผู้ชายและผู้หญิงในวงการเดียวกัน
-
4:28 - 4:29ถามฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
-
4:29 - 4:33"แคโรไลน์ ทั้งไฟ ทั้งอันตรายสารพัด
-
4:33 - 4:35เธอไม่กลัวบ้างเหรอ"
-
4:35 - 4:38พูดตามตรง ฉันไม่เคยได้ยิน
นักผจญเพลิงผู้ชายถูกถามแบบนี้เลย -
4:39 - 4:40ฉันจึงเริ่มอยากรู้
-
4:41 - 4:44ว่าทำไมจึงไม่มีใครคิดว่าผู้หญิงต้องกล้าหาญ
-
4:46 - 4:48คำตอบก็เริ่มปรากฏเด่นชัดขึ้นมา
-
4:48 - 4:49เมื่อเพื่อนคนหนึ่งมาคร่ำครวญให้ฟัง
-
4:49 - 4:52ว่าลูกสาวตัวน้อยของเธอ
เป็นคนที่ขี้ตื่นได้ง่ายมาก -
4:52 - 4:54ฉันจึงเริ่มสังเกตเห็นว่า
-
4:54 - 4:56จริงอยู่ ที่ลูกสาวของเธอหวาดวิตก
-
4:56 - 4:59แต่ยิ่งไปกว่านั้น
คนเป็นพ่อแม่กลับหวาดหวั่นหนักยิ่งกว่า -
5:00 - 5:03ส่วนใหญ่ เวลาเธอออกไปข้างนอก
พวกเขามักจะพูดกับเธอว่า -
5:03 - 5:07"ระวัง" หรือไม่ก็ "อย่า"
-
5:09 - 5:12เพื่อน ๆ ของฉันไม่ไช่พ่อแม่ที่แย่หรอกค่ะ
-
5:12 - 5:14พวกเขาเพียงทำสิ่งที่
คนเป็นพ่อแม่ส่วนใหญ่เขาทำกัน -
5:14 - 5:18ซึ่งจะคอยตักเตือนลูกสาวของพวกตน
มากกว่าจะตักเตือนลูกชาย -
5:19 - 5:24น่าตลก ที่มีการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับ
"เสาผจญเพลิงเด็กเล่น" -
5:24 - 5:29นักวิทยาศาสตร์พบว่า เด็กผู้หญิง
มักจะถูกเตือนเรื่องอันตราย -
5:29 - 5:32จากทั้งพ่อ และแม่ ว่าเสาผจญเพลิง
อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ -
5:32 - 5:36และถ้าเด็กผู้หญิง
ยังยืนยันจะเล่นเสาผจญเพลิงอยู่ -
5:36 - 5:39พ่อหรือแม่ก็มักจะเข้าไปช่วย
-
5:39 - 5:41แต่เด็กผู้ชายล่ะ
-
5:41 - 5:44พ่อแม่กลับสนับสนุนพวกเขาให้เล่นมัน
-
5:44 - 5:47แม้ว่าเด็กอาจกลัวว่ามันจะเกิดอันตราย
-
5:47 - 5:52พ่อแม่ก็มักจะให้คำแนะนำแก่เด็ก
ให้เล่นเสาผจญเพลิงได้ด้วยตัวเอง -
5:53 - 5:57แล้วการทำเช่นนี้
เป็นการส่งสารอะไรถึงตัวเด็ก -
5:58 - 6:02มันสื่อว่า เด็กผู้หญิงเปราะบาง
และต้องการความช่วยเหลือมากกว่า -
6:02 - 6:06และเด็กผู้ชายควรจะ
เรียนรู้เรื่องยาก ๆ ได้ด้วยตัวเอง -
6:07 - 6:09มันบ่งบอกว่าเด็กผู้หญิงควรหวาดกลัว
-
6:09 - 6:12และเด็กผู้ชายควรกล้าหาญ
-
6:13 - 6:16และอีกเรื่องที่แปลกคือ
เมื่ออายุยังน้อยเท่านี้ -
6:16 - 6:18ร่างกายของเด็กชายกับเด็กหญิง
มีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก -
6:18 - 6:21อันที่จริง เด็กหญิงมักแข็งแรงกว่า
จนย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น -
6:21 - 6:22และมีความคิดที่เติบโตกว่า
-
6:22 - 6:24แต่ผู้ใหญ่อย่างเรากลับทำราวกับ
-
6:24 - 6:27เด็กผู้หญิงนั้นเปราะบางกว่า
-
6:27 - 6:29ต้องการความช่วยเหลือมากกว่า
-
6:29 - 6:30และรับมือกับเรื่องยาก ๆ ไม่ได้นัก
-
6:31 - 6:34นี่คือข้อความที่เราซึมซับตั้งแต่เด็ก
-
6:34 - 6:37และเป็นข้อความที่ปลูกฝังเรา
เมื่อเติบโตขึ้น -
6:37 - 6:40ทั้งผู้หญิงเรา
และผู้ชายก็เชื่อข้อความนั้น -
6:40 - 6:41แล้วทราบไหมคะ
-
6:42 - 6:45เมื่อเราเป็นพ่อแม่คนแล้ว
เราก็ส่งต่อข้อความนั้นให้ลูกของเรา -
6:45 - 6:46สืบไปเป็นทอด ๆ
-
6:47 - 6:49ตอนนี้ ฉันได้คำตอบแล้ว
-
6:49 - 6:52ว่าทำไมผู้หญิง ต่อให้เป็นนักดับเพลิง
-
6:52 - 6:54ถึงได้ถูกสังคมคาดหวังให้หวาดกลัว
-
6:54 - 6:57และนี่เป็นสาเหตุ
ที่ทำให้ผู้หญิงมักกลัวสิ่งต่าง ๆ เสมอ -
6:58 - 7:01ฉันรู้ว่าใครบางคนคงไม่เชื่อ
ถ้าฉันบอกเรื่องนี้ให้คุณฟัง -
7:01 - 7:04แต่ฉันไม่ได้ต่อต้านความกลัวหรอกนะคะ
-
7:04 - 7:08ฉันรู้ดีว่า ความกลัวเป็นความรู้สึกที่สำคัญ
เรามีไว้เพื่อคุ้มครองตัวเราให้ปลอดภัย -
7:08 - 7:11แต่ปัญหานั้นก็คือ
เราสอน และสนับสนุนให้เด็กหญิง -
7:11 - 7:14มีความรู้สึกกลัว
เป็นปฏิกิริยาตอบสนองอย่างแรก -
7:14 - 7:16ทุกครั้งเมื่อเธอเจอสิ่งที่ไม่คุ้นเคย
-
7:18 - 7:20ฉันจึงเป็นนักเล่นร่มร่อนมาหลายปีแล้ว
-
7:22 - 7:24(เสียงปรบมือ)
-
7:24 - 7:26ร่มร่อนจะเป็นร่มชูชีพที่คล้ายปีก
-
7:26 - 7:30และมันร่อนได้ดีมาก
-
7:30 - 7:33แต่ก็มีหลายคนคิดว่า
มันเหมือน ผ้าปูที่นอน -
7:33 - 7:34ที่มีสายเชือกขึงอยู่
-
7:34 - 7:36(เสียงหัวเราะ)
-
7:36 - 7:38แล้วฉันก็ใช้เวลาไปมาก
-
7:38 - 7:40กับการสูบลมผ้าปูพวกนี้
-
7:40 - 7:41วิ่งลงเขา แล้วร่อนไปในอากาศ
-
7:43 - 7:44ฉันเข้าใจค่ะ ว่าคุณคิดอะไรอยู่
-
7:44 - 7:47คุณคงคิดว่า
"แคโรไลน์ กลัวหน่อยก็ดีนะ" -
7:49 - 7:51ซื่งแน่นอน คุณพูดถูกค่ะ
-
7:51 - 7:53ฉันขอยืนยันว่า ฉันก็กลัวเป็น
-
7:53 - 7:54แต่บนยอดเขานั้น
-
7:54 - 7:57ขณะรอโอกาส
ให้ลมเหมาะ ๆ พัดผ่านมา -
7:57 - 7:59ฉันกลับมีความรู้สึกมากมาย
หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย -
7:59 - 8:01ความลุ้นระทึก ความมั่นใจ
-
8:02 - 8:04ฉันรู้ตัวว่าฉันร่อนได้ดี
-
8:04 - 8:07ฉันรู้ว่าสภาพอากาศดี
ไม่เช่นนั้น ฉันคงไม่ไปอยู่บนเขา -
8:07 - 8:10ฉันรู้ว่า มันรู้สึกสดชื่นสักปานใด
ที่ได้โบยบินอยู่บนท้องฟ้า -
8:10 - 8:13ฉันขอย้ำว่า ตัวเองก็รู้สึกกลัว
-
8:13 - 8:15แต่ฉันจะพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน
-
8:15 - 8:18ไตร่ตรองก่อนว่า เข้ากับกาลเทศะไหม
-
8:18 - 8:20แล้วจึงกลัว ในสิ่งที่ควรจะกลัว
-
8:20 - 8:22ซื่งบ่อยครั้ง
ความกลัวก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่า -
8:22 - 8:26ความลุ้นระทึก,
ความตั้งตารอคอยอย่างใจจดจ่อ -
8:26 - 8:27และความมั่นใจของฉันหรอกค่ะ
-
8:27 - 8:29ดังนั้น ฉันไม่ได้ต่อต้านความกลัว
-
8:29 - 8:32ฉันเพียงแต่ส่งเสริมความกล้าหาญ
-
8:35 - 8:38เอาล่ะ ฉันไม่ได้บอกว่า
ลูกสาวคุณต้องมาเป็นนักผจญเพลิง -
8:38 - 8:40หรือต้องมาโดดร่มนะคะ
-
8:40 - 8:45แต่ฉันกำลังบอกว่า เราเลี้ยงลูกสาวเรา
ให้ขี้กลัว หรือแม้แต่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ -
8:46 - 8:49ทั้งหมด เริ่มต้นเมื่อเราห้ามไม่ให้พวกลูก ๆ
เล่นอะไรผาดโผน -
8:49 - 8:52ความกลัวที่เราได้เรียนรู้
ประสบการณ์ที่เราไม่เคยได้รับ -
8:52 - 8:54คงอยู่กับเราจวบจนเป็นหญิงสาว
-
8:54 - 8:58และกลายเป็นอุปสรรคนานัประการ
ที่เราประสบและพยายามจะลบเลือน -
8:58 - 9:00ความลังเลต่อการเอ่ยปากพูด
-
9:00 - 9:03การอ่อนน้อมเพื่อให้ได้เป็นที่รัก
-
9:03 - 9:06และการขาดความมั่นใจ
ในการตัดสินใจของเราเอง -
9:07 - 9:09ถ้าเช่นนั้นแล้ว
เราจะกล้าหาญได้อย่างไร -
9:10 - 9:12ฉันมีข่าวดีมาฝากค่ะ
-
9:12 - 9:14ความกล้าหาญ ได้มาด้วยการเรียนรู้
-
9:14 - 9:16เหมือนกับการเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง
-
9:16 - 9:18เพียงแต่มันจำเป็นต้องมีการฝึกฝน
-
9:18 - 9:20ข้อแรก
-
9:20 - 9:21เราต้องหายใจเข้าลึก ๆ
-
9:21 - 9:23แล้วส่งเสริมลูกสาวเรา
-
9:23 - 9:26ให้เล่นสเก็ตบอร์ด หรือปีนต้นไม้
-
9:26 - 9:29หรือตะเกียกตะกายเสาผจญเพลิงนั่น
-
9:29 - 9:32แม่ของฉัน เลี้ยงดูฉันมาแบบนี้
-
9:32 - 9:33เมื่อก่อน ท่านยังไม่รู้
-
9:33 - 9:36ว่านักวิจัยตั้งชื่อเรียกให้มันว่า
-
9:36 - 9:38"Risky Play" (การเล่นแบบเสี่ยงอันตราย)
-
9:38 - 9:42และผลวิจัยบอกว่า Risky Play
สำคัญต่อการเรียนรู้ของเด็กทุก ๆ คน -
9:42 - 9:45เพราะมันฝึกการประเมินอันตราย
-
9:45 - 9:47ฝึกการรอคอยความยินดีในผลสำเร็จ
-
9:47 - 9:49ฝึกความไม่ย่อท้อ
-
9:49 - 9:50ฝึกความมั่นใจ
-
9:51 - 9:53หรือพูดอีกอย่างหนึ่ง
-
9:53 - 9:56เมื่อลูกเราออกไปสู่โลกภายนอก
แล้วฝึกปรือความกล้าหาญ -
9:56 - 9:59พวกเขาได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตอันล้ำค่า
-
10:01 - 10:05ข้อสอง เราต้องเลิกจู้จี้จุกจิกกับลูกสาวเรา
-
10:05 - 10:08ดังนั้น ให้สังเกตตัวเองเวลาเตือนลูกคราวหน้า
-
10:08 - 10:10"ระวังนะ เดี๋ยวหนูจะบาดเจ็บเอา"
-
10:10 - 10:12หรือว่า "อย่าทำอย่างนั้น มันอันตราย"
-
10:12 - 10:16จงจำไว้ว่า สิ่งที่คุณเพียรบอกกับลูก
จริง ๆ แล้วก็คือ -
10:16 - 10:18"ลูกสาวคุณไม่ควรผลักดันตัวเอง"
-
10:19 - 10:21"ลูกคุณยังเก่งไม่พอ"
-
10:21 - 10:23"ลูกคุณควรจะรู้สึกกลัว"
-
10:24 - 10:26ข้อสาม
-
10:26 - 10:29ผู้หญิงอย่างเราเอง
ก็ต้องฝึกให้มีความกล้าด้วย -
10:30 - 10:33เราไม่อาจสอนลูก ๆ ได้
ถ้าเราไม่เริ่มจากสอนตัวเองก่อน -
10:34 - 10:36จำไว้อีกอย่างหนึ่ง
-
10:36 - 10:39"ความกลัว" กับ "ความลุ้นระทึก"
-
10:39 - 10:41ให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กัน
-
10:42 - 10:44มือเราสั่น หัวใจเต้นเร็วขึ้น
-
10:44 - 10:46และความรู้สึกกดดัน
-
10:46 - 10:47ฉันเชื่อว่า ใครหลายคนในที่นี้
-
10:48 - 10:50ครั้งสุดท้ายที่คุณกลัวจนลนลาน
-
10:50 - 10:53คุณอาจจะรู้สึกตื่นเต้นสุดขีด
-
10:53 - 10:55แล้วก็พลาดโอกาสตรงนั้นไป
-
10:56 - 10:57ฉะนั้น ฝึกเถอะค่ะ
-
10:58 - 11:01และถึงลูกเราควรจะเล่นข้างนอก
เพื่อฝึกให้มีความแน่วแน่ -
11:01 - 11:07ฉันเข้าใจว่า ผู้ใหญ่คงไม่อยาก
ปีนต้นไม้หรือเล่นสเก็ตบอร์ดเหมือนเด็ก ๆ -
11:07 - 11:10ดังนั้น ผู้ใหญ่อย่างเราควรจะฝึก
-
11:10 - 11:12ทั้งที่บ้าน และที่ทำงาน
-
11:12 - 11:14หรือฝึกที่นี่เลย โดยรวบรวมความกล้า
-
11:15 - 11:17เข้าไปคุยกับคนที่คุณนับถือ
-
11:18 - 11:22สุดท้าย สมมุติว่าหากลูกเรา
-
11:22 - 11:24ขี่จักรยานบนยอดเขาสูงชัน
-
11:25 - 11:28ที่เธอดึงดันว่ากลัวเกินกว่าจะขี่ลงเขาได้
-
11:28 - 11:30ขอให้ส่งกำลังใจถึงเธอไปพบกับความกล้า
-
11:31 - 11:35ท้ายที่สุดแล้ว เขาลูกนั้นอาจจะชันเกินไป
-
11:35 - 11:39แต่เธอจะตัดสินใจได้
ด้วยความกล้า ไม่ใช่ความกลัว -
11:40 - 11:44เพราะแท้จริงแล้ว
นี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาสูงชันตรงหน้า -
11:44 - 11:46แต่มันคือ ชีวิตในวันข้างหน้าของลูกเรา
-
11:46 - 11:48ให้พวกเธอมีเครื่องมือ
-
11:48 - 11:50เพื่อที่จะรับมือ และประเมิน
-
11:50 - 11:54กับอันตรายที่เราปกป้องให้ลูกไม่ได้
-
11:54 - 11:57หรือปัญหาทั้งมวลที่เราไม่อาจชี้แนะ
ในยามที่เราไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว -
11:58 - 12:01ทุก ๆ อย่างที่ลูกของเรา ณ ที่แห่งนี้
-
12:01 - 12:02และแห่งหนใดก็ตามบนโลก
-
12:02 - 12:04จะเจอในชีวิตวันหน้าของพวกเธอ
-
12:06 - 12:07จะว่าไปแล้ว
-
12:08 - 12:11สถิติโลกของการคลานในตอนนี้ --
-
12:11 - 12:14(เสียงหัวเราะ)
-
12:14 - 12:17คือ 56.6 กิโลเมตร
-
12:19 - 12:22และฉันอยากเห็นเด็กผู้หญิงสักคน
มาทำลายสถิตินั้น -
12:22 - 12:28(เสียงปรบมือ)
- Title:
- การที่จะเลี้ยงลูกสาวให้มีความกล้า ต้องส่งเสริมความท้าทาย
- Speaker:
- แคโรไลน์ พอล (Caroline Paul)
- Description:
-
บรรดาเด็กสาวจอมแก่นที่กล้าเล่นสเก็ตบอร์ด ปีนต้นไม้ ปีนป่ายสิ่งต่าง ๆ แล้วตกลงมาเป็นแผล จากนั้นก็ลุกขึ้นมา -- เติบใหญ่เป็นผู้หญิงที่กล้าหาญ
เรียนรู้เทคนิคที่จะจุดประกายประสิทธิผลของความกล้าเสี่ยงกันสักนิด และเลี้ยงดูลูกสาวให้มีความมั่นใจในตนเอง ด้วยเรื่องราวของ "แคโรไลน์ พอล" ผู้เป็นทั้งนักผจญเพลิง, นักเล่นร่มร่อน และนักผจญภัยครบสูตร - Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 12:41
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for To raise brave girls, encourage adventure | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for To raise brave girls, encourage adventure | ||
Retired user accepted Thai subtitles for To raise brave girls, encourage adventure | ||
Retired user edited Thai subtitles for To raise brave girls, encourage adventure | ||
Pongsapak Vanichrundorn edited Thai subtitles for To raise brave girls, encourage adventure | ||
Retired user declined Thai subtitles for To raise brave girls, encourage adventure | ||
Retired user edited Thai subtitles for To raise brave girls, encourage adventure | ||
Retired user edited Thai subtitles for To raise brave girls, encourage adventure |