WEBVTT 00:00:11.872 --> 00:00:15.281 หากคุณกำลังเป็นหวัด เมือกคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก 00:00:15.281 --> 00:00:19.364 แต่มันคืออะไร มันทำอะไรบ้าง นอกจากทำให้คุณรู้สึกแย่ 00:00:19.364 --> 00:00:23.539 ร่างกายของคุณสร้างเมือก ปริมาณมากกว่าหนึ่งลิตรขึ้นทุก ๆ วัน 00:00:23.539 --> 00:00:27.234 ในบริเวณพื้นผิวที่ชุ่มชื้นของร่างกาย ที่ไม่ได้ห่อหุ้มด้วยผิวหนัง 00:00:27.234 --> 00:00:28.524 เช่น ดวงตา 00:00:28.524 --> 00:00:29.352 จมูก 00:00:29.352 --> 00:00:30.255 ปาก 00:00:30.255 --> 00:00:31.054 ปอด 00:00:31.054 --> 00:00:33.369 และ กระเพาะอาหาร ก็มีสิ่งนี้ปกคลุมอยู่ 00:00:33.369 --> 00:00:36.386 และนั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมมันถึงถูกเรียกว่า "เยื่อเมือก" 00:00:36.386 --> 00:00:38.928 เมือกมีบทบาทสำคัญหลายอย่างต่อร่างกายของคุณ 00:00:38.928 --> 00:00:41.947 มันปกป้องเนื้อเยื่อบอบบาง จากการแห้งและปริแตก 00:00:41.947 --> 00:00:44.355 ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้ 00:00:44.355 --> 00:00:46.762 มันทำให้ดวงตาของคุณชุ่มชื้น คุณจึงสามารถกระพริบตาได้ 00:00:46.762 --> 00:00:49.365 มันปกป้องผนังกระเพาะอาหารของคุณจากกรด 00:00:49.365 --> 00:00:53.236 มันต่อต้านการคุกคาม โดยการกำจัดหรือดักจับสสาร 00:00:53.236 --> 00:00:55.227 ที่สามารถทำให้คุณป่วยได้ 00:00:55.227 --> 00:01:01.366 และท้ายที่สุด มันเป็นที่อยู่และเป็นแหล่ง ของแบคทีเรียประจำร่างกายจำนวนมหาศาล 00:01:01.366 --> 00:01:04.720 ไมโครไบโอตา (microbiota) ของคุณ ซึ่งอยู่ในความควบคุม 00:01:04.720 --> 00:01:07.083 เมือกประกอบด้วยสารประกอบ ที่แตกต่างกันหลายชนิด 00:01:07.083 --> 00:01:10.168 ได้แก่ โปรตีน ไขมัน และเกลือ 00:01:10.168 --> 00:01:15.851 แต่ส่วนประกอบสำคัญของน้ำเมือก คือ กลุ่มของโปรตีนืที่เรียกว่า มิวซิน (mucin) 00:01:15.851 --> 00:01:19.412 มิวซิน คือ โมเลกุลหลักที่มีขนาดใหญ่ในเมือก 00:01:19.412 --> 00:01:23.054 และมีความสำคัญ ในการทำให้เมือกมีสัมผัสที่ลื่น 00:01:23.054 --> 00:01:26.903 มันอยู่ในกลุ่มของโปรตีนที่เรียกว่า ไกลโคโปรตีน (Glycoprotein) 00:01:26.903 --> 00:01:30.465 ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนและน้ำตาล 00:01:30.465 --> 00:01:35.768 ในมิวซิน โซ่โมเลกุลสายยาวของน้ำตาล จะจับเข้ากับกรดอะมิโนจำเพาะ 00:01:35.768 --> 00:01:37.564 ที่อยู่ในแกนหลักของโปรตีน 00:01:37.564 --> 00:01:43.031 สายโซ่โมเลกุลน้ำตาลที่ชอบน้ำ (hydrophilic) ช่วยให้เมือกละลายในสารคัดหลั่งของร่างกาย 00:01:43.031 --> 00:01:45.909 เมือกซึ่งประกอบด้วยน้ำถึง 90 เปอร์เซนต์ 00:01:45.909 --> 00:01:48.831 สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ เพราะโซ่โมเลกุลของน้ำตาลเหล่านี้ 00:01:48.831 --> 00:01:52.003 บางโมเลกุลของมิวซิน สามารถมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมิวซินโมเลกุลอื่น ๆ 00:01:52.003 --> 00:01:55.602 เพื่อเกิดเป็นเครือข่ายซับซ้อนที่เป็นสิ่งกีดขวาง 00:01:55.602 --> 00:01:58.786 ต่อเชื้อก่อโรค และผู้บุกรุกอื่น ๆ 00:01:58.786 --> 00:02:03.148 นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมือกคือด่านแรก ที่ปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมภายนอก 00:02:03.148 --> 00:02:05.455 เช่น แบคทีเรีย และฝุ่นละออง 00:02:05.455 --> 00:02:09.314 มันถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมออกจากทางเดินหายใจ 00:02:09.314 --> 00:02:11.532 คล้ายสายพานลำเลียงเมือกลื่นไหล 00:02:11.532 --> 00:02:15.807 มันช่วยป้องกันแบคทีเรีย ที่พยายามเข้าไปในเนื้อเยื่อปอดอันบอบบาง 00:02:15.807 --> 00:02:20.302 หรือพยายามเข้าไปในกระแสเลือด ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง 00:02:20.302 --> 00:02:23.929 แบคทีเรียที่เป็นอันตรายเหล่านี้ ยังอาจทำให้เกิดโรคได้ด้วยเช่นกัน 00:02:23.929 --> 00:02:27.783 เมื่อมันรวมตัวกันและก่อตัวกลายเป็นเมือกลื่น ๆ ที่เรียกว่า ไบโอฟิล์ม (biofilm) 00:02:27.783 --> 00:02:29.325 แต่ในเมือกประกอบด้วยมิวซิน 00:02:29.325 --> 00:02:31.609 เปปไทด์ต้านจุลชีพ 00:02:31.609 --> 00:02:32.899 แอนติบอดี 00:02:32.899 --> 00:02:36.839 รวมถึงไวรัสที่ชอบเขมือบแบคทีเรีย ที่เรียกว่า แบคทีรีโอฟาร์จ (Bacteriophage) 00:02:36.839 --> 00:02:40.786 ทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกัน เพื่อป้องกันการก่อตัวของไปโอฟิล์ม 00:02:40.786 --> 00:02:43.518 ถ้าจุลินทรีย์มีอันตรายและทำให้คุณป่วย 00:02:43.518 --> 00:02:48.590 ร่างกายจะเพิ่มการสร้างเมือก เพื่อพยายามกำจัดมันอย่างรวดเร็ว 00:02:48.590 --> 00:02:53.573 จากนั้นระบบภูมิคุ้มกันจะปล่อย เซลล์เม็ดเลือดขาวเข้าไปในเมือกของคุณ 00:02:53.573 --> 00:02:57.290 อันที่จริง เมือกที่มีสีออกเขียว มักเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ 00:02:57.290 --> 00:03:01.265 สีของมันได้มาจากเอนไซม์ ที่ถูกสร้างโดยเม็ดเลือดขาวเหล่านั้น 00:03:01.265 --> 00:03:04.348 วิธีการจัดการแบคทีเรียแบบหลายทิศทางเช่นนี้ 00:03:04.348 --> 00:03:07.918 คือหนึ่งในเหตุผล ที่ทำให้เราไม่ต้องป่วยตลอดเวลา 00:03:07.918 --> 00:03:11.769 แม้ว่าเมือกจะช่วยต่อต้านแบคทีเรีย ที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ 00:03:11.769 --> 00:03:16.134 แต่แบคทีเรียส่วนใหญ่จำนวนมหาศาล ที่อาศัยอยู่ประจำในร่างกายไม่ได้เป็นอันตราย 00:03:16.134 --> 00:03:18.282 และหลายชนิดก็มีคุณประโยชน์อย่างมาก NOTE Paragraph 00:03:18.282 --> 00:03:21.368 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพวกมันอยู่ในเมือก 00:03:21.368 --> 00:03:23.335 ที่ซึ่งมันสามารถทำหน้าที่สำคัญต่าง ๆ ได้ 00:03:23.335 --> 00:03:25.053 เช่น การสังเคราะห์วิตามิน 00:03:25.053 --> 00:03:27.235 ระงับการติดเชื้อที่เป็นอันตราย 00:03:27.235 --> 00:03:30.867 และควบคุมการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ชนิดที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย 00:03:30.867 --> 00:03:34.333 ดังนั้น แม้ว่าคุณอาจนึก เอาเมือกไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของความเจ็บป่วย 00:03:34.333 --> 00:03:36.585 แต่จริง ๆ แล้วมันกำลังช่วยให้คุณแข็งแรง 00:03:36.585 --> 00:03:38.246 แน่ละ มันอาจฟังดูน่าขยะแขยง 00:03:38.246 --> 00:03:42.393 แต่คุณคิดออกอีกไหมว่าสสารใด ที่จะสามารถให้ความชุ่มชื้น 00:03:42.393 --> 00:03:43.802 รักษาความสะอาดของร่างกาย 00:03:43.802 --> 00:03:45.153 ต่อต้านการติดเชื้อ 00:03:45.153 --> 00:03:48.585 และช่วยควบคุมประชากรแบคทีเรีย ที่มีอยู่อย่างมหาศาลได้ 00:03:48.585 --> 00:03:51.504 นึกไม่ออกใช่ไหมล่ะ ก็มีแค่น้ำเมือกนี่แหละ