0:00:00.000,0:00:02.000 ความปลอดภัยแบ่งเป็นสองประเภทนะครับ 0:00:02.000,0:00:04.000 คือความรู้สึก และความเป็นจริง 0:00:04.000,0:00:06.000 และมันไม่เหมือนกัน 0:00:06.000,0:00:08.000 คุณรู้สึกถึงความปลอดภัยได้ 0:00:08.000,0:00:10.000 แม้ว่าจริงๆไม่ได้เป็นเช่นนั้น 0:00:10.000,0:00:12.000 และคุณก็ปลอดภัยได้ 0:00:12.000,0:00:14.000 โดยไม่รู้สึกถึงมัน 0:00:14.000,0:00:16.000 จริงๆแล้ว มันเป็นสองแนวคิดที่แยกออกจากกัน 0:00:16.000,0:00:18.000 แต่ผนวกอยู่ในคำๆเดียว 0:00:18.000,0:00:20.000 และสิ่งที่ผมอยากนำเสนอในวันนี้ 0:00:20.000,0:00:22.000 ก็คือแยกมันออกจากกัน 0:00:22.000,0:00:24.000 เพื่อดูว่าสองอย่างนี้แยกออก 0:00:24.000,0:00:26.000 และรวมกันเมื่อไหร่ อย่างไร 0:00:26.000,0:00:28.000 โดยในส่วนนี้ภาษาเองเป็นที่ปัญหา 0:00:28.000,0:00:30.000 เพราะเรายังไม่มีคำที่สามารถสื่อความหมาย 0:00:30.000,0:00:33.000 สำหรับสิ่งที่เรากำลังจะกล่าวถึงได้ดีนัก 0:00:33.000,0:00:35.000 หากเราพูดถึงความปลอดภัย 0:00:35.000,0:00:37.000 ในทางเศรษฐศาสตร์ 0:00:37.000,0:00:39.000 มันคือการได้อย่างเสียอย่าง (trade-off) 0:00:39.000,0:00:41.000 ทุกครั้งที่คุณได้มาซึ่งความปลอดภัย 0:00:41.000,0:00:43.000 คุณมักจะแลกมาด้วยสิ่งที่คุณมี 0:00:43.000,0:00:45.000 ตั้งแต่เรื่องการตัดสินใจส่วนตัว 0:00:45.000,0:00:47.000 เช่น การที่คุณจะติดตั้งสัญญาณกันขโมยในบ้าน 0:00:47.000,0:00:50.000 หรือจะเป็นการตัดสินระดับชาติ ว่าคุณจะรุกรานประเทศใด 0:00:50.000,0:00:52.000 ล้วนต้องยอมเสียบางอย่างไปเพื่อแลกมาเสมอ 0:00:52.000,0:00:55.000 เงินบ้างล่ะ เวลาบ้างล่ะ ความสะดวกสบาย สมรรถภาพ 0:00:55.000,0:00:58.000 หรือเสรีภาพขั้นพื้นฐาน 0:00:58.000,0:01:01.000 และคำถามที่จะเกิดขึ้นในประเด็นด้านความปลอดภัย 0:01:01.000,0:01:04.000 ไม่ใช่คำถามว่ามันทำให้เราปลอดภัยขึ้นหรือไม่ 0:01:04.000,0:01:07.000 แต่กลับเป็นว่า คุ้มไหมที่ยอมเสียไปเพื่อให้ได้มา 0:01:07.000,0:01:09.000 คุณคงเคยได้ยินว่าหลายๆปีที่ผ่านมา 0:01:09.000,0:01:11.000 โลกของเราปลอดภัยขึ้น เพราะซัดดัม ฮุสเซ็นไม่ได้กุมอำนาจไว้แล้ว 0:01:11.000,0:01:14.000 นั่นอาจจะจริง แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวโยงกันถึงขั้นนั้น 0:01:14.000,0:01:17.000 คำถามคือ คุ้มค่าหรือเปล่า 0:01:17.000,0:01:20.000 และคุณสามารถตัดสินใจด้วยตัวเอง 0:01:20.000,0:01:22.000 และคุณก็จะตัดสินว่ามันคุ้มกับการรุกรานหรือเปล่า 0:01:22.000,0:01:24.000 นั่นคือวิธีคิดเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัย 0:01:24.000,0:01:26.000 ในบริบทของการได้อย่างเสียอย่าง 0:01:26.000,0:01:29.000 เอาล่ะ มันไม่ได้มีอะไรถูกหรือผิด 0:01:29.000,0:01:31.000 บางท่านในที่นี้ติดตั้งสัญญาณกันขโมยในบ้าน 0:01:31.000,0:01:33.000 บางท่านไม่ติด 0:01:33.000,0:01:35.000 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าบ้านคุณตั้งอยู่ที่ไหน 0:01:35.000,0:01:37.000 อยู่ตัวคนเดียว หรืออยู่กับครอบครัว 0:01:37.000,0:01:39.000 มีของใช้ราคาแพงจำนวนมากน้อยขนาดไหน 0:01:39.000,0:01:41.000 จะยอมรับกับความเสี่ยงที่โจรจะขึ้นบ้าน 0:01:41.000,0:01:43.000 ได้มากน้อยขนาดไหน 0:01:43.000,0:01:45.000 ทางการเมืองก็เช่นกัน 0:01:45.000,0:01:47.000 มีความคิดเห็นหลากหลาย 0:01:47.000,0:01:49.000 และบ่อยครั้งที่การได้อย่างเสียอย่าง 0:01:49.000,0:01:51.000 เป็นมากกว่าแค่ความปลอดภัย 0:01:51.000,0:01:53.000 และผมเชื่อว่ามันสำคัญมาก 0:01:53.000,0:01:55.000 ทุกคนมีสัญชาตญาณ 0:01:55.000,0:01:57.000 ในเรื่องการได้อย่างเสียอย่าง 0:01:57.000,0:01:59.000 เพราะเราทำกันทุกวัน 0:01:59.000,0:02:01.000 เช่น ตอนผมออกจากโรงแรมเมื่อคืน 0:02:01.000,0:02:03.000 การที่ผมล็อกประตูสองชั้น 0:02:03.000,0:02:05.000 การที่คุณขับรถมาที่นี่ 0:02:05.000,0:02:07.000 หรือตอนที่เราไปกินอาหารเที่ยง 0:02:07.000,0:02:10.000 เราเชื่อว่าอาหารไม่ได้เป็นพิษ เลยทานมันเข้าไป 0:02:10.000,0:02:12.000 พวกเราแลกบางอย่างมาด้วยการเสียบางอย่างไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า 0:02:12.000,0:02:14.000 หลายๆครั้งในหนึ่งวัน 0:02:14.000,0:02:16.000 เราไม่ค่อยรู้ตัวกันหรอก 0:02:16.000,0:02:18.000 เพราะมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต ทุกคนเป็นเหมือนกันหมด 0:02:18.000,0:02:21.000 รวมไปถึงสัตว์ทุกสายพันธุ์ด้วย 0:02:21.000,0:02:23.000 ลองนึกภาพกระต่ายน้อยกำลังกินหญ้าอยู่ในสวน 0:02:23.000,0:02:26.000 และมันต้องเจอสุนัขจิ้งจอก 0:02:26.000,0:02:28.000 ตอนนั้นแหละที่กระต่ายจำต้องสละบางอย่างเพื่อแลกกับความปลอดภัย 0:02:28.000,0:02:30.000 ถามตัวเองว่า "จะกินต่อดี หรือ จะหนีดี?" 0:02:30.000,0:02:32.000 และหากคุณลองคิดดูดีๆ 0:02:32.000,0:02:35.000 กระต่ายที่ถ่วงดุลแล้วตัดสินใจเลือกทางที่ถูกต้อง 0:02:35.000,0:02:37.000 มีแนวโน้มอยู่รอดและสืบพันธุ์ต่อไป 0:02:37.000,0:02:39.000 ในขณะที่กระต่ายที่ตัดสินใจผิด 0:02:39.000,0:02:41.000 จะถูกกินหรือไม่ก็หิวโซ 0:02:41.000,0:02:43.000 ทีนี้ คุณอาจจะคิดว่า 0:02:43.000,0:02:46.000 สายพันธุ์มนุษย์ประเสริฐอย่างพวกเรา 0:02:46.000,0:02:48.000 คุณ ผม และคนเราทุกคน 0:02:48.000,0:02:51.000 คงเก่งเรื่องถ่วงดุลการได้อย่างเสียอย่างแบบนี้แน่ๆ 0:02:51.000,0:02:53.000 ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น แต่ครั้งแล้วครั้งเล่า 0:02:53.000,0:02:56.000 ที่เราทำได้ไม่เข้าท่าเอามากๆ 0:02:56.000,0:02:59.000 และผมคิดว่านั่นเป็นปัญหาพื้นฐานที่น่าสนใจทีเดียว 0:02:59.000,0:03:01.000 ผมจะตอบสั้นๆนะครับ 0:03:01.000,0:03:03.000 จริงๆแล้ว มนุษย์เราตอบสนองกับการรับรู้ถึงความปลอดภัย 0:03:03.000,0:03:06.000 ไม่ใช่กับความเป็นจริง 0:03:06.000,0:03:09.000 ทั้งนี้ โดยมากแล้วจะไม่เป็นปัญหา 0:03:10.000,0:03:12.000 เพราะส่วนใหญ่ 0:03:12.000,0:03:15.000 ความรู้สึกกับความเป็นจริงมันเป็นไปในทางเดียวกัน 0:03:15.000,0:03:17.000 มันเป็นแบบนั้นจริงๆ 0:03:17.000,0:03:20.000 สมัยก่อนประวัติศาสตร์มนุษยชาติ 0:03:20.000,0:03:23.000 พวกเราล้วนได้พัฒนาศักยภาพนี้ 0:03:23.000,0:03:25.000 เพราะมันเป็นผลดีกับวิวัฒนาการ 0:03:25.000,0:03:27.000 คิดอีกแบบหนึ่ง 0:03:27.000,0:03:29.000 ได้ว่า การที่เรามีความสามารถตัดสินใจในสถานการณ์เสี่ยงๆ 0:03:29.000,0:03:31.000 ก็เพื่อเอื้อกับการดำรงชีวิต 0:03:31.000,0:03:34.000 ในสภาพแวดล้อมที่ต้องใช้ชีวิตเป็นกลุ่มชนเล็กๆบนที่ราบสูง 0:03:34.000,0:03:37.000 ในทวีปอัฟริกาฝั่งตะวันออกใน 100,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช 0:03:37.000,0:03:40.000 ซึ่งต่างจากการชีวิตในนครนิวยอร์กในปี 2010 (พ.ศ.2553) 0:03:41.000,0:03:44.000 ทีนี้ หลายๆครั้งที่การรับรู้ถึงภัยอันตรายเป็นไปแบบไม่สมเหตุสมผลนัก 0:03:44.000,0:03:46.000 จากการทดลองหลายๆครั้ง 0:03:46.000,0:03:49.000 แสดงให้เห็นว่าความไม่สมเหตุสมผลเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า 0:03:49.000,0:03:51.000 ทีนี้ผมจะลองยกความไม่สมเหตุสมผลให้ฟังสัก 4 อย่างนะครับ 0:03:51.000,0:03:54.000 พวกเรามักจะมีปฏิกิริยาเกินจริงกับภัยอันตรายที่เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและไม่ค่อยเกิดขึ้น 0:03:54.000,0:03:56.000 และลดความสำคัญของภัยอันตรายที่เกิดทุกวัน 0:03:56.000,0:03:59.000 เช่นเลือกที่จะบินหรือขับรถ 0:03:59.000,0:04:01.000 คนเรามักจะติดภาพว่าสิ่งแปลกปลอม 0:04:01.000,0:04:04.000 ทำให้เกิดภัยมากกว่าสิ่งที่คุ้นเคย 0:04:05.000,0:04:07.000 ตัวอย่างเช่น 0:04:07.000,0:04:10.000 คนเรากลัวโดนคนแปลกหน้าลักพาตัวเด็กๆ 0:04:10.000,0:04:13.000 ทั้งที่สถิติแสดงให้เห็นว่่าอัตราการลักพาตัวจากคนใกล้ชิดนั้นสูงกว่าเสียอีก 0:04:13.000,0:04:15.000 ส่วนนี้หมายถึงเด็กๆนะครับ 0:04:15.000,0:04:18.000 สาม เราจะรับรู้ภัยที่เกิดจาก 0:04:18.000,0:04:21.000 บุคคลที่เป็นรูปธรรมได้มากกว่าภัยอื่นๆที่เกิดจากบุคคลนิรนาม 0:04:21.000,0:04:24.000 ฉะนั้นบิน ลาเด็นก็น่ากลัวกว่าใครๆเพราะมีชื่อเสียงเรียงนาม 0:04:24.000,0:04:26.000 และอย่างที่สี่ 0:04:26.000,0:04:28.000 ผู้คนมักจะไม่ระวัง 0:04:28.000,0:04:30.000 สถานการณ์ที่พวกเขามีอำนาจควบคุม 0:04:30.000,0:04:34.000 และประเมินสถานการณ์ที่พวกเขาไม่ได้เป็นคนควบคุมสูงกว่าที่ควรจะเป็น 0:04:34.000,0:04:37.000 เช่น การโดดร่มหรือการสูบบุหรี่ 0:04:37.000,0:04:39.000 พวกเขาประเมินความเสี่ยงต่ำไป 0:04:39.000,0:04:42.000 หากภัยพุ่งเข้าหาคุณ เช่น กรณีก่อการร้าย 0:04:42.000,0:04:45.000 คุณจะตอบสนองมากเกินกว่าที่ควร เพราะคุณรู้สึกว่ามันไม่ไ้ด้อยู่ในการควบคุมของคุณ 0:04:47.000,0:04:50.000 มีอคติอื่นๆอีกนับไม่ถ้วนที่เป็น อคติทางการคิด (cognitive bias) 0:04:50.000,0:04:53.000 ซึ่งมีผลกับการตัดสินใจของเรา 0:04:53.000,0:04:55.000 ซึ่งก็มีวิทยการศึกษาสำนึก (heuristic) ที่ใช้ในเรื่องนี้ได้ 0:04:55.000,0:04:57.000 หมายความว่า 0:04:57.000,0:05:00.000 เราประเมินความเป็นไปได้ของสถานการณ์ใดๆ 0:05:00.000,0:05:04.000 โดยการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เรานึกได้ 0:05:04.000,0:05:06.000 ลองคิดดูว่ามันเป็นเช่นนั้นไหม 0:05:06.000,0:05:09.000 ถ้าวันหนึ่ง คุณได้ยินเรื่องเสือทำร้ายใครเข้าบ่อยๆ คุณย่อมคิดว่ามีเสือหลายตัวป้วนเปี้ยนอยู่รอบๆ 0:05:09.000,0:05:12.000 ในขณะที่หากไม่มีข่าวสิงโตทำร้ายใครเข้าหูคุณ คุณก็จะคิดว่าไม่มีสิงโตในแถบที่คุณอยู่ 0:05:12.000,0:05:15.000 วิธีนี้ใช้การได้จนกระทั่งวันที่เราประดิษฐ์หนังสือพิมพ์ขึ้นมา 0:05:15.000,0:05:17.000 เพราะหน้าที่ของหนังสือพิมพ์ 0:05:17.000,0:05:19.000 คือการบอกเล่าเรื่องเหลือเชื่อที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น 0:05:19.000,0:05:21.000 ซ้ำแล้วซ้ำอีก 0:05:21.000,0:05:23.000 ผมบอกได้เลยครับ ถ้าเรื่องใดๆเป็นข่าวได้ 0:05:23.000,0:05:25.000 ก็หมายความว่า 0:05:25.000,0:05:28.000 เหตุการณ์นั้นไม่ค่อยได้เกิดขึ้นหรอกครับ ถึงได้เป็นที่พูดถึง 0:05:28.000,0:05:30.000 (เสียงหัวเราะ) 0:05:30.000,0:05:33.000 เพราะถ้าเหตุการณ์ไหนธรรมดาไป ก็จะไม่ถูกจัดว่าเป็นข่าว 0:05:33.000,0:05:35.000 รถชน ความรุนแรงในประเทศ 0:05:35.000,0:05:38.000 เป็นสิ่งที่มักเป็นที่กังวล 0:05:38.000,0:05:40.000 อีกทั้งพวกเราเป็นสายพันธุ์ที่อยู่กับการบอกเล่าเรื่องราว 0:05:40.000,0:05:43.000 พวกเราตอบสนองกับเรื่องราวมากกว่าข้อมูล 0:05:43.000,0:05:45.000 รวมถึงเรื่องของจำนวนตัวเลข 0:05:45.000,0:05:48.000 ผมว่ามุขตลกนับเลขที่ว่า "หนึ่ง" "สอง" "สาม" "เยอะแยะ" นั่นน่าจะถูกต้อง 0:05:48.000,0:05:51.000 พวกเราตอบสนองกับตัวเลขแค่ไม่กี่หลัก 0:05:51.000,0:05:53.000 เช่นมะม่วงหนึ่งลูก มะม่วงสองลูก สามลูก 0:05:53.000,0:05:55.000 มะม่วง 10,000 ลูก 100,000 ลูก 0:05:55.000,0:05:58.000 ยังมีมะม่วงเหลือไว้ทานอีกเยอะหากมันเน่าไปแล้ว 0:05:58.000,0:06:01.000 ไหนจะครึ่งหนึ่ง หนึ่งส่วนสี่ หนึ่งส่วนห้า พวกเราเก่งเรื่องนั้น 0:06:01.000,0:06:03.000 แต่หากเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในพันล้าน 0:06:03.000,0:06:06.000 จำนวนนั้นจะแทบไม่มีตัวตนเลย 0:06:06.000,0:06:08.000 ฉะนั้นเรามีปัญหากับภัยอันตราย 0:06:08.000,0:06:10.000 ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นเป็นประจำ 0:06:10.000,0:06:12.000 อคติทางการคิดพวกนี้ 0:06:12.000,0:06:15.000 ทำหน้าที่กรองข้อมูลระหว่างเรากับความเป็นจริง 0:06:15.000,0:06:17.000 ผลก็คือ 0:06:17.000,0:06:19.000 ความรู้สึกกับความเป็นจริงก็แยกออก 0:06:19.000,0:06:22.000 กลายเป็นคนละเรื่องกัน 0:06:22.000,0:06:25.000 เราอาจจะรู้สึกถึงความปลอดภัยมากกว่าที่เป็นอยู่ 0:06:25.000,0:06:27.000 สัมผัสถึงความปลอดภัยที่ไม่ได้มีอยู่จริง 0:06:27.000,0:06:29.000 หรืออีกอย่าง 0:06:29.000,0:06:31.000 สัมผัสไม่ถึงอันตรายที่มีอยู่จริง 0:06:31.000,0:06:34.000 ผมเขียนเรื่องราวของ "โรงละครความปลอดภัย" มานับไม่ถ้วน 0:06:34.000,0:06:37.000 มันคือผลิดภัณฑ์ที่ช่วยให้ผู้คนรู้สึกปลอดภัย 0:06:37.000,0:06:39.000 ในขณะที่สิ่งเหล่านั้นแทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย 0:06:39.000,0:06:41.000 ไม่มีคำใดๆที่จะสื่อถึงสิ่งที่ทำให้เราปลอดภัย 0:06:41.000,0:06:43.000 โดยที่ไม่ได้้ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นเช่นนั้น 0:06:43.000,0:06:46.000 มันอาจจะเป็นสิ่งที่ซีไอเอ (CIA) ควรจะช่วยพวกเรา 0:06:48.000,0:06:50.000 ทีนี้ เรากลับมาพูดถึงประเด็นเศรษฐศาสตร์ 0:06:50.000,0:06:54.000 ถ้าเศรษฐศาสตร์ ถ้าระบบตลาดเป็นตัวกลางผลักดันความปลอดภัย 0:06:54.000,0:06:56.000 หากผู้คนยอมแลกอย่างหนึ่งไปเพื่อให้ได้อีกอย่างมา 0:06:56.000,0:06:59.000 โดยใช้ความรู้สึกปลอดภัยเป็นฐาน 0:06:59.000,0:07:01.000 พวกบริษัทหัวใสก็จะสร้าง 0:07:01.000,0:07:03.000 แรงจูงใจทางเศรษฐศาสตร์ 0:07:03.000,0:07:06.000 ด้วยการทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความปลอดภัย 0:07:06.000,0:07:09.000 ส่วนแนวทางนั้นมีอยู่สองทาง 0:07:09.000,0:07:11.000 อย่างแรก คุณทำให้ลูกค้าปลอดจากภัยอันตรายจริงๆ 0:07:11.000,0:07:13.000 และหวังว่าพวกเขาจะรับรู้ได้เอง 0:07:13.000,0:07:16.000 หรือสอง คุณเพียงให้ลูกค้าวางใจว่าปลอดภัย 0:07:16.000,0:07:19.000 และหวังว่าพวกเขาจะจับไม่ได้ 0:07:20.000,0:07:23.000 ฉะนั้น ปัจจัยที่จะำให้พวกเขาจับได้ 0:07:23.000,0:07:25.000 ก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง 0:07:25.000,0:07:27.000 ความรู้ความเข้าใจในเรื่องความมั่นคงปลอดภัย 0:07:27.000,0:07:29.000 ในเรื่องความเสี่ยง ในเรื่องภัยคุกคาม 0:07:29.000,0:07:32.000 ในเรื่องวิธีการรับมือ ว่าเป็นอย่างไร 0:07:32.000,0:07:34.000 หากเราเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว 0:07:34.000,0:07:37.000 ความรู้สึกที่ปลอดจากภัยนั้นๆก็จะค่อยๆมาควบคู่กับความเป็นจริง 0:07:37.000,0:07:40.000 ตัวอย่างเหตุการณ์จริงจำนวนมากพอจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจให้ถูกต้อง 0:07:40.000,0:07:43.000 ปัจจุบันเราต่างมีข้อมูลอัตราอาชญากรรมในท้องถิ่นที่เราอาศัย 0:07:43.000,0:07:46.000 เพราะเราใช้ชีวิตแถวนั้น และเรารับรู้เรื่องต่างๆมากพอควร 0:07:46.000,0:07:49.000 ฉะนั้นความรู้สึกกับความเป็นจริงก็ไปในแนวทางเดียวกัน 0:07:49.000,0:07:52.000 โรงละครความปลอดภัยแสดงให้เห็น 0:07:52.000,0:07:55.000 ถึงความชัดเจนของเหตุการณ์ที่ไม่เป็นไปตามที่ึควรจะเป็น 0:07:55.000,0:07:59.000 เอาล่ะ แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้ผู้คนจับไม่ได้? 0:07:59.000,0:08:01.000 ครับ ก็คือความไม่รู้ 0:08:01.000,0:08:04.000 หากคุณไม่เข้าใจเรื่องความเสี่ยงภัย คุณก็ย่อมประเมินต้นทุนความเสี่ยงไม่ได้ 0:08:04.000,0:08:06.000 เลยอาจทำให้คุณยอมเสียไปมากกว่าที่ได้มา 0:08:06.000,0:08:09.000 และความรู้สึกกับความเป็นจริงไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน 0:08:09.000,0:08:11.000 ไม่ค่อยมีตัวอย่างเหตุการณ์ 0:08:11.000,0:08:13.000 มีปัญหาที่เป็นธรรมชาติของ 0:08:13.000,0:08:15.000 เหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อย 0:08:15.000,0:08:17.000 อย่างเช่น ถ้าหากว่า 0:08:17.000,0:08:19.000 การก่อการร้ายแทบไม่เกิดขึ้นเลย 0:08:19.000,0:08:21.000 ฉะนั้นการประเมิน 0:08:21.000,0:08:24.000 วิธีรับมือที่ได้ผลก็เป็นไปได้ยาก 0:08:25.000,0:08:28.000 เราจึงต้องเสียผู้บริสุทธิ์ไปนับต่อนับ 0:08:28.000,0:08:31.000 และเป็นสาเหตุที่การโทษผีสางเทวดาใช้ได้ผล 0:08:31.000,0:08:34.000 เพราะไม่ค่อยมีกรณีที่ใช้ไม่ได้ผลให้เห็นมากนัก 0:08:35.000,0:08:38.000 บวกกับความรู้สึกที่บดบังความเป็นจริง 0:08:38.000,0:08:40.000 อคติทางการคิดที่ผมพูดไปแล้วก่อนหน้านี้ 0:08:40.000,0:08:43.000 ความกลัว ตำนานความเชื่อต่างๆ 0:08:43.000,0:08:46.000 เป็นแบบจำลองที่สะท้อนความเป็นจริงไม่ได้ดีนัก 0:08:47.000,0:08:50.000 ทีนี้ผมขออธิบายเพิ่มเติม 0:08:50.000,0:08:52.000 จากที่พูดไปมีเรื่องของความรู้สึกและความเป็นจริง 0:08:52.000,0:08:55.000 ทีนี้ผมอยากจะเพิ่มส่วนที่สามเข้าไป เป็นส่วนของ "แบบจำลอง (model)" 0:08:55.000,0:08:57.000 ความรู้สึกและแบบจำลองจะติดอยู่ในสมองเรา 0:08:57.000,0:08:59.000 สภาพความเป็นจริงจะอยู่รอบๆตัวเรา 0:08:59.000,0:09:02.000 ส่วนนี้ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะมันเป็นของจริง 0:09:02.000,0:09:04.000 ฉะนั้นความรู้สึกจะยึดเอาสัญชาติญาณเป็นหลัก 0:09:04.000,0:09:06.000 แบบจำลองจะขึ้นอยู่กับเหตุผลเป็นหลัก 0:09:06.000,0:09:09.000 ซึ่งค่อนข้างต่างกัน 0:09:09.000,0:09:11.000 ในโลกสมัยบรรพกาลที่เรียบง่าย 0:09:11.000,0:09:14.000 ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะต้องสร้างแบบจำลอง 0:09:14.000,0:09:17.000 เพราะความรู้สึกใกล้เคียงกับความเป็นจริงอยู่แล้ว 0:09:17.000,0:09:19.000 จึงไม่ต้องใช้แบบจำลองใดๆ 0:09:19.000,0:09:21.000 แต่สำหรับโลกสมัยใหม่ที่ซับซ้อนอย่างที่เราอยู่กันนี้ 0:09:21.000,0:09:23.000 แบบจำลองเป็นสิ่งจำเป็น 0:09:23.000,0:09:26.000 ในการเข้าใจความเสี่ยงภัยที่จะพบเจอ 0:09:27.000,0:09:29.000 ลองนึกดูก่อนหน้านี้เราไม่เคยหยั่งรู้ึถึงภัยจากเชื้อโรค 0:09:29.000,0:09:32.000 เราจะเข้าใจก็ต่อเมื่อมีแบบจำลอง 0:09:32.000,0:09:34.000 ฉะนั้น แบบจำลองที่ว่า 0:09:34.000,0:09:37.000 ถือเป็นสื่อนำเสนอความเป็นจริงที่ชาญฉลาด 0:09:37.000,0:09:40.000 ทั้งนี้ จะต้องจำกัดอยู่ในกรอบของวิทยาศาสตร์ 0:09:40.000,0:09:42.000 และเทคโนโลยี 0:09:42.000,0:09:45.000 พวกเราคงไม่รู้จักทฤษฏีการติดเชื้อทำให้เกิดโรค 0:09:45.000,0:09:48.000 จนถึงวันที่กล้องจุลทรรศน์ถูกประดิษฐ์ขึ้น 0:09:49.000,0:09:52.000 มันถูกจำกัดโดยอคติทางการคิด 0:09:52.000,0:09:54.000 แต่มันมีความสามารถ 0:09:54.000,0:09:56.000 เข้าครอบงำความรู้สึก 0:09:56.000,0:09:59.000 แล้วเราได้แบบจำลองเหล่านี้มาได้ยังไงน่ะหรือครับ? เราได้จากคนอื่น 0:09:59.000,0:10:02.000 จากศาสนา วัฒนธรรม 0:10:02.000,0:10:04.000 คุณครู ผู้อาวุโส 0:10:04.000,0:10:06.000 เมื่อสองสามปีก่อน 0:10:06.000,0:10:08.000 ผมไปท่องซาฟารีดูสัตว์ที่อัฟริกาใต้ 0:10:08.000,0:10:11.000 คนแกะรอยที่ไปกับผมเกิดที่อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ (Kruger) 0:10:11.000,0:10:14.000 เขามีแบบจำลองการเอาตัวรอดที่ซับซ้อนมาก 0:10:14.000,0:10:16.000 ขึ้นอยู่กับว่าคุณโดนสัตว์ชนิดไหนจู่โจม 0:10:16.000,0:10:18.000 เป็นสิงโต เสือดาว แรด หรือช้าง 0:10:18.000,0:10:21.000 และเมื่อไหร่ที่คุณรู้ตัวว่าต้องวิ่งหนี ต้องปีนต้นไม้ 0:10:21.000,0:10:23.000 หรือเมื่อไหร่ที่ไม่ควรปีน 0:10:23.000,0:10:26.000 ถ้าเป็นผมคงไม่รอดชีวิตกลับมา 0:10:26.000,0:10:28.000 แต่เขาเกิดที่นั่น 0:10:28.000,0:10:30.000 เขารู้ว่าจะอยู่รอดได้ด้วยวิธีไหน 0:10:30.000,0:10:32.000 ส่วนผมเกิดในนครนิวยอร์ก 0:10:32.000,0:10:35.000 ถ้าผมพาเขาไปนิวยอร์กบ้าง เชื่อว่าเขาคงจะตายตั้งแต่วันแรก 0:10:35.000,0:10:37.000 (เสียงหัวเราะ) 0:10:37.000,0:10:39.000 นั่นเป็นเพราะเราโตมาด้วยแบบจำลองที่ต่างกัน 0:10:39.000,0:10:42.000 พื้นฐานประสบการณ์ที่ต่างกัน 0:10:43.000,0:10:45.000 เราได้รับแบบจำลองมาจากสื่อต่างๆ 0:10:45.000,0:10:48.000 จากรัฐบาลที่เราเลือกมา 0:10:48.000,0:10:51.000 กลับไปที่แบบจำลองการก่อการร้าย 0:10:51.000,0:10:54.000 การลักพาตัวเด็ก 0:10:54.000,0:10:56.000 ความปลอดภัยจากการใช้เครื่องบิน ใช้รถ 0:10:56.000,0:10:59.000 แบบจำลองอาจมาจากวงการอุตสาหกรรม 0:10:59.000,0:11:01.000 สองอย่างที่ผมติดตามคือ วิธีการทำงานของกล้องวงจรปิด 0:11:01.000,0:11:03.000 และบัตรประจำตัว 0:11:03.000,0:11:06.000 แบบจำลองความปลอดภัยจากการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ข้องเกี่ยวกับสองสิ่งนี้ 0:11:06.000,0:11:09.000 แบบจำลองส่วนมากมาจากวิทยาศาสตร์ 0:11:09.000,0:11:11.000 ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ แบบจำลองด้านสุขภาพ 0:11:11.000,0:11:14.000 เช่นมะเร็ง ไข้หวัดนก ไข้หวัดหมู ซาร์ส 0:11:14.000,0:11:17.000 ความรู้สึกถึงความปลอดภัย 0:11:17.000,0:11:19.000 ของโรคพวกนี้ 0:11:19.000,0:11:21.000 ล้วนมาจากแบบจำลองทั้งนั้น 0:11:21.000,0:11:24.000 ผลงานทางวิทยาศาสตร์ส่งสาห์นมาถึงพวกเราผ่านสื่อ 0:11:25.000,0:11:28.000 ทั้งนี้แบบจำลองสามารถเปลี่ยนแปลงได้ 0:11:28.000,0:11:30.000 ไม่จำเป็นต้องตายตัว 0:11:30.000,0:11:33.000 เมื่อเราเริ่มคุ้นชินกับสภาพแวดล้อม 0:11:33.000,0:11:37.000 แบบจำลองก็จะยิ่งใกล้เคียงกับสิ่งที่เรารู้สึก 0:11:38.000,0:11:40.000 อย่างเช่น 0:11:40.000,0:11:42.000 ลองย้อนกลับมาไป 100 ปีที่แล้ว 0:11:42.000,0:11:45.000 ช่วงที่เริ่มมีไฟฟ้าใช้แรกๆ 0:11:45.000,0:11:47.000 ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าใกล้มันหรอก 0:11:47.000,0:11:49.000 ต่างคนต่างกลัวการกดปุ่มกริ่งหน้าบ้าน 0:11:49.000,0:11:52.000 กลัวว่าไฟฟ้าที่ฝังอยู่ในนั้นจะทำร้ายตัวเอง 0:11:52.000,0:11:55.000 แต่สำหรับคนยุคนี้ เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นอะไรที่ใครๆก็ใช้คล่อง 0:11:55.000,0:11:57.000 เราเปลี่ยนหลอดไฟเอง 0:11:57.000,0:11:59.000 โดยไม่เกรงกลัวใดๆ 0:11:59.000,0:12:03.000 แบบจำลองความปลอดภัยจากการใช้ไฟฟ้า 0:12:03.000,0:12:06.000 เป็นสิ่งที่เกิดมาพร้อมๆเรา 0:12:06.000,0:12:09.000 ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆตลอดช่วงชีวิตเรา 0:12:09.000,0:12:12.000 และพวกเราก็คุ้นเคยกับมัน 0:12:12.000,0:12:14.000 ส่วนเรื่องความเสี่ยง 0:12:14.000,0:12:16.000 บนอินเทอร์เน็ตของชนแต่ละรุ่นก็เช่นกัน 0:12:16.000,0:12:18.000 ลองเปรียบเทียบมุมมองด้านความปลอดภัยในอินเทอร์เน็ตของรุ่นพ่อแม่ 0:12:18.000,0:12:20.000 เทียบกับของรุ่นคุณ 0:12:20.000,0:12:23.000 เทียบกับที่รุ่นลูกจะมอง 0:12:23.000,0:12:26.000 แบบจำลองของคนแต่ละรุ่นเข้าครอบงำโดยไม่รู้ตัว 0:12:27.000,0:12:30.000 กลายเป็นสัญชาตญาณ เป็นความคุ้นชิน 0:12:30.000,0:12:32.000 จึงทำให้แบบจำลองเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น 0:12:32.000,0:12:34.000 แล้วท้ายสุดมาบรรจบกับความรู้สึก 0:12:34.000,0:12:37.000 โดยที่พวกคุณไม่รู้ตัวกัน 0:12:37.000,0:12:39.000 ฉะนั้นผมขอลองยกตัวอย่าง 0:12:39.000,0:12:42.000 กรณีไข้หวัดหมูเมื่อปีที่แล้ว 0:12:42.000,0:12:44.000 ณ ตอนที่โรคนี้ปรากฏครั้งแรก 0:12:44.000,0:12:48.000 ข่าวแรกๆที่ออกจากสื่อทำให้ผู้คนเกิดปฏิกิริยาเกินจริง 0:12:48.000,0:12:50.000 พอมีชื่อเรียกโรคนี้เฉพาะ 0:12:50.000,0:12:52.000 เลยเป็นเหตุให้มันน่ากลัวกว่าไข้หวัดทั่วๆไป 0:12:52.000,0:12:54.000 แม้ว่ามันจะอันตรายกว่าจริงๆก็ตาม 0:12:54.000,0:12:58.000 และทุกคนคิดว่าทำไมหมอถึงไม่มีวิธีต่อกรกับมัน 0:12:58.000,0:13:00.000 เลยยิ่งทำให้รู้สึกว่าเป็นมันสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ 0:13:00.000,0:13:02.000 และสองสิ่งนั้น 0:13:02.000,0:13:04.000 ทำให้มันดูอันตรายมากกว่าที่เป็นจริง 0:13:04.000,0:13:07.000 พอความแปลกใหม่เริ่มซาลง ผ่านไปเดือนหนึ่ง 0:13:07.000,0:13:09.000 ผู้คนเริ่มยอมรับ 0:13:09.000,0:13:11.000 และคุ้นเคยกับโรคนี้ 0:13:11.000,0:13:14.000 เมื่อไม่มีการประโคมข่่าว ความกลัวก็ค่อยๆลดลง 0:13:14.000,0:13:16.000 พอถึงฤดูใบไม้ร่วง 0:13:16.000,0:13:18.000 ผู้คนก็คิดว่า 0:13:18.000,0:13:20.000 หมอน่าจะมีวิธีรับมือกับโรคนี้แล้ว 0:13:20.000,0:13:22.000 ณ ตอนนั้นเราอยู่บนทางแยก 0:13:22.000,0:13:24.000 เราต้องเลือก 0:13:24.000,0:13:28.000 ระหว่างกลัวต่อไปหรือยอมรับมัน 0:13:28.000,0:13:30.000 จริงๆแล้วคือกลัวต่อไปหรือเพิกเฉย 0:13:30.000,0:13:33.000 แต่สุดท้ายพวกเขาเลือกที่จะสงสัย 0:13:33.000,0:13:36.000 และเมื่อวัคซีนปรากฏเมื่อฤดูหนาวปีที่แล้ว 0:13:36.000,0:13:39.000 คนจำนวนไม่น้อย จำนวนที่คาดไม่ถึงเลยล่ะ 0:13:39.000,0:13:42.000 ปฏิเสธที่จะใช้มัน 0:13:43.000,0:13:45.000 เป็นตัวอย่างที่ดี 0:13:45.000,0:13:48.000 ที่ความรู้สึกปลอดภัยของผู้คนเปลี่ยนไปได้อย่างไร แบบจำลองเปลี่ยนไปได้อย่างไร 0:13:48.000,0:13:50.000 ราวหน้ามือเป็นหลังมือ 0:13:50.000,0:13:52.000 ทั้งๆที่ไม่มีข้อมูลอะไรใหม่ๆเลย 0:13:52.000,0:13:54.000 และไม่มีอะไรใหม่ๆเพิ่มเข้ามาด้วย 0:13:54.000,0:13:57.000 เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก 0:13:57.000,0:14:00.000 ผมอยากจะบวกปัจจัยเพิ่มอีกอย่าง 0:14:00.000,0:14:03.000 พวกเรามีความรู้สึก แบบจำลอง และสภาพความเป็นจริง 0:14:03.000,0:14:05.000 ผมคิดว่าความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ 0:14:05.000,0:14:08.000 ขึ้นอยู่กับผู้ที่สังเกตการณ์ 0:14:08.000,0:14:10.000 การตัดสินใจว่าด้วยความปลอดภัยส่วนใหญ่ 0:14:10.000,0:14:14.000 มาจากกลุ่มคนที่มีความหลากหลาย 0:14:14.000,0:14:16.000 ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 0:14:16.000,0:14:19.000 ที่คิดไว้แล้วว่าจะยอมได้ยอมเสียอะไรบ้าง 0:14:19.000,0:14:21.000 จะพยายามโน้มน้าวผลักดันการตัดสิน 0:14:21.000,0:14:23.000 และผมขอเรียกว่า "ระเบียบวาระ" ของพวกเขาก็แล้วกัน 0:14:23.000,0:14:25.000 และคุณจะเห็นว่าระเบียบวาระ 0:14:25.000,0:14:28.000 จะมาในรูปแบบการตลาดบ้างล่ะ การเมืองบ้างล่ะ 0:14:28.000,0:14:31.000 พยายามโน้มน้าวคุณให้เลือกแบบจำลองหนึ่งแทนอีกแบบหนึ่ง 0:14:31.000,0:14:33.000 พยายามโน้มน้าวให้คุณเลิกใส่ใจกับแบบจำลอง 0:14:33.000,0:14:36.000 และให้คุณเชื่อความรู้สึกของคุณแทน 0:14:36.000,0:14:39.000 ทำให้ผู้คนหันมาเห็นด้วยกับแบบจำลองที่คุณไม่ชอบ 0:14:39.000,0:14:42.000 ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกนะครับ 0:14:42.000,0:14:45.000 ตัวอย่าง เป็นตัวอย่างที่ดีมากครับ คือความเสี่ยงภัยจากการสูบบุหรี่ 0:14:46.000,0:14:49.000 50 ปีที่ผ่านมา ความเสี่ยงภัยจากการสูบบุหรี่ 0:14:49.000,0:14:51.000 แสดงให้เห็นว่าแบบจำลองได้เปลี่ยนไปอย่างไร 0:14:51.000,0:14:54.000 และแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมมีวิธีต่อสู้กับ 0:14:54.000,0:14:56.000 แบบจำลองที่ไม่เอื้อประโยชน์พวกเขาอย่างไร 0:14:56.000,0:14:59.000 เปรียบเทียบกับการโต้ประเด็นผู้สูบบุหรี่มือสอง 0:14:59.000,0:15:02.000 ซึ่งน่าจะตามหลังมาจากนั้นอีก 20 ปี 0:15:02.000,0:15:04.000 เรื่องเข็มขัดนิรภัยก็เช่นกัน 0:15:04.000,0:15:06.000 ตอนผมเด็กๆ ไม่มีใครคาดเข็มขัดนิรภัยหรอกครับ 0:15:06.000,0:15:08.000 แต่ทุกวันนี้ ไม่มีเด็กคนไหนที่ยอมให้คุณออกรถ 0:15:08.000,0:15:10.000 ถ้าคุณไม่คาดเข็มขัดนิรภัยก่อน 0:15:11.000,0:15:13.000 ลองเปรียบเทียบกับการโต้ประเด็นถุงลมนิรภัย 0:15:13.000,0:15:16.000 ซึ่งน่าจะตามหลังมาจากนั้นอีก 30 ปี 0:15:16.000,0:15:19.000 ตัวอย่างแบบจำลองทั้งหมดได้เปลี่ยนแปลงไป 0:15:21.000,0:15:24.000 ทีนี้เราสรุปได้ว่า การเปลี่ยนแปลงแบบจำลองเป็นเรื่องยากทีเดียว 0:15:24.000,0:15:26.000 เพราะแบบจำลองจะตรึงอยู่ในความคิด 0:15:26.000,0:15:28.000 ถ้ามันเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับความรู้สึก 0:15:28.000,0:15:31.000 คุณจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าคุณถูกแบบจำลองครอบงำอยู่ 0:15:31.000,0:15:33.000 และอคติทางการคิดอีกรูปแบบหนึ่ง 0:15:33.000,0:15:35.000 คือสิ่งที่ผมเรียกว่า อคติแบบยืนยันความเชื่อ (confirmation bias) 0:15:35.000,0:15:38.000 พวกเรามักจะเลือกรับข้อมูล 0:15:38.000,0:15:40.000 ที่ตรงกับความเชื่อของเราเอง 0:15:40.000,0:15:43.000 และปฏิเสธรับข้อมูลที่ขัดกับความเชื่อ 0:15:44.000,0:15:46.000 ดังนั้นแม้ว่าหลักฐานที่มีจะขัดแย้งกับแบบจำลองของเรา 0:15:46.000,0:15:49.000 พวกเราก็มักจะเพิกเฉย แม้ว่าหลักฐานนั้นจะแจ่มแจ้ง 0:15:49.000,0:15:52.000 ฉะนั้นหลักฐานจะต้องแจ่มแจ้งน่าเชื่อถือมากถึงมากที่สุด พวกเราถึงจะยอมสนใจ 0:15:53.000,0:15:55.000 แบบจำลองใหม่ๆที่กินเวลานานก็จะยิ่งยาก 0:15:55.000,0:15:57.000 โลกร้อนเป็นตัวอย่างที่ดีทีเดียว 0:15:57.000,0:15:59.000 เราไม่ตอบรับกันเลย 0:15:59.000,0:16:01.000 กับแบบจำลองที่ครอบคลุมช่วงเวลา 80 ปี 0:16:01.000,0:16:03.000 เราไม่มีปัญหาเลยกับระยะเวลานานเท่ากับการรอเก็บเกี่ยวงวดหน้า 0:16:03.000,0:16:06.000 เราไม่ค่อยมีปัญหากับระยะเวลานานเท่ากับที่รอลูกๆเราโต 0:16:06.000,0:16:09.000 แต่ทว่า 80 ปีนั้นยาวนานเกินไปสำหรับเรา 0:16:09.000,0:16:12.000 เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นแบบจำลองที่ยอมรับได้ยากมาก 0:16:12.000,0:16:16.000 เราก็ยังสามารถยอมรับแบบจำลองสองแบบในเวลาเดียวกันได้ด้วย 0:16:16.000,0:16:19.000 เป็นปัญหาประเภทเดียวกับ 0:16:19.000,0:16:22.000 ที่เราเห็นด้วยกับสองมุมมองที่ขัดแย้ง 0:16:22.000,0:16:24.000 หรือ ความไม่ลงรอยกันของการรู้ (cognitive dissonance) 0:16:24.000,0:16:26.000 และท้ายที่สุด 0:16:26.000,0:16:29.000 แบบจำลองใหม่ก็จะแทนที่แบบจำลองที่มีอยู่เดิม 0:16:29.000,0:16:32.000 และความรู้สึกที่แรงกล้าก็ทำให้เกิดเป็นแบบจำลองได้ 0:16:32.000,0:16:35.000 เหตุการณ์ 11 กันยาก็ทำให้เกิดแบบจำลองเรื่องความปลอดภัย 0:16:35.000,0:16:37.000 ในหัวของคนมากมาย 0:16:37.000,0:16:40.000 อาชญากรรมที่เจอกับตัวเองก็เช่นกัน 0:16:40.000,0:16:42.000 ความกลัวเรื่องสุขภาพ 0:16:42.000,0:16:44.000 หรือเรื่องโรคต่างๆที่ตกเป็นข่าว 0:16:44.000,0:16:46.000 จิตแพทย์เรียกเหตุการณ์แบบนั้นว่า 0:16:46.000,0:16:48.000 อุบัติการณ์ภาพความทรงจำเสมือน (flashbulb event) 0:16:48.000,0:16:51.000 มันสามารถสร้างภาพจำลองขึ้นมาได้ทันที 0:16:51.000,0:16:54.000 เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่เร่งเร้าสะเทือนอารมณ์อย่างยิ่ง 0:16:54.000,0:16:56.000 ฉะนั้นในโลกแห่งเทคโนโลยีแบบนี้ 0:16:56.000,0:16:58.000 พวกเราไม่มีประสบการณ์ 0:16:58.000,0:17:00.000 ไปประเมินแบบจำลองใดๆได้ 0:17:00.000,0:17:02.000 เราพึ่งพาผู้อื่น พึ่งพาตัวแทน 0:17:02.000,0:17:06.000 เพียงแค่ตัวแทนระบุสิ่งที่ถูกหรือไม่ถูกต้องได้ก็ใช้ได้แล้ว 0:17:06.000,0:17:08.000 พวกเราพึ่งพาหน่วยงานของรัฐ 0:17:08.000,0:17:13.000 เพื่อรับรองว่ายาประเภทไหนปลอดภัย 0:17:13.000,0:17:15.000 ที่ผมบินมาที่นี่เมื่อวานนี้ 0:17:15.000,0:17:17.000 ผมไม่ได้เป็นคนตรวจเครื่องบินเอง 0:17:17.000,0:17:19.000 ผมพึ่งคนอื่นๆ 0:17:19.000,0:17:22.000 ในการตรวจสอบเครื่องบินว่าปลอดภัย 0:17:22.000,0:17:25.000 หรือที่พวกเราไม่ได้ระแวงว่าหลังคาจะถล่มใส่หัวเราเมื่อไหร่ 0:17:25.000,0:17:28.000 ไม่ได้เป็นเพราะพวกเราตรวจสอบเอง 0:17:28.000,0:17:30.000 แต่พวกเราค่อนข้างมั่นใจ 0:17:30.000,0:17:33.000 ว่าโครงสร้างอาคารได้มาตรฐาน 0:17:33.000,0:17:35.000 มันเป็นแบบจำลองที่เรายอมรับ 0:17:35.000,0:17:37.000 และเชื่อว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ 0:17:37.000,0:17:40.000 และค่อนข้างดีทีเดียว 0:17:42.000,0:17:44.000 ตอนนี้ สิ่งที่พวกเราต้องการคือ 0:17:44.000,0:17:46.000 ให้ผู้คนทำความคุ้นเคยกับแบบจำลองที่ดีกว่า 0:17:46.000,0:17:48.000 ให้มากกว่านี้ 0:17:48.000,0:17:50.000 ทำให้มันสะท้อนอยู่ในความรู้สึกพวกเขา 0:17:50.000,0:17:54.000 ให้พวกเขาใช้เพื่อตัดสินใจยอมเสียบางอย่างเพื่อแลกกับความปลอดภัย 0:17:54.000,0:17:56.000 และเมื่ออะไรไม่เป็นไปอย่างที่ควรเป็น 0:17:56.000,0:17:58.000 จะมี 2 ทางให้คุณเลือก 0:17:58.000,0:18:00.000 ตัวเลือกแรก คือ แก้ที่ความรู้สึกผู้คน 0:18:00.000,0:18:02.000 แก้ที่ความรู้สึกโดยตรง 0:18:02.000,0:18:05.000 มันเป็นการปรับเปลี่ยนยักย้าย แต่ก็อาจจะเห็นผลสักวันหนึ่ง 0:18:05.000,0:18:07.000 ตัวเลือกที่สอง เอาตรงๆนะ 0:18:07.000,0:18:10.000 ก็คือแก้ที่ตัวแบบจำลอง 0:18:11.000,0:18:13.000 การเปลี่ยนแปลงค่อยๆเกิดขึ้น 0:18:13.000,0:18:16.000 ประเด็นสูบบุหรี่ใช้เวลา 40 ปี 0:18:16.000,0:18:19.000 และนั่นไม่ได้ยากเท่าไหร่ 0:18:19.000,0:18:21.000 ในขณะที่บางสิ่งในที่นี้แก้ยาก 0:18:21.000,0:18:23.000 แก้ลำบากมาก 0:18:23.000,0:18:25.000 ข้อมูลดูเหมือนจะเป็นความหวังที่ดีที่สุดของเรา 0:18:25.000,0:18:27.000 และผมโกหก 0:18:27.000,0:18:29.000 ที่ผมพูดไว้ว่า "ความรู้สึก" "แบบจำลอง" และ"สภาพความเป็นจริง" 0:18:29.000,0:18:32.000 ที่ว่าสภาพความเป็นจริงจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่จริงๆมันเปลี่ยนได้ 0:18:32.000,0:18:34.000 พวกเราอยู่ในโลกของเทคโนโลยี 0:18:34.000,0:18:37.000 ความเป็นจริงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 0:18:37.000,0:18:40.000 ฉะนั้น อาจจะมีครั้งแรกในสายพันธุ์มนุษย์ของเรา 0:18:40.000,0:18:43.000 ที่ความรู้สึกไล่ตามแบบจำลอง แบบจำลองไล่ตามสภาพความเป็นจริง และความเป็นจริงก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ 0:18:43.000,0:18:46.000 แม้อาจจะตามกันไม่ทัน 0:18:47.000,0:18:49.000 แต่ใครจะรู้ล่ะ? 0:18:49.000,0:18:51.000 แต่ในระยะยาว 0:18:51.000,0:18:54.000 ความรู้สึกและสภาพความเป็นจริงเป็นสิ่งสำคัญ 0:18:54.000,0:18:57.000 และผมอยากจบการอภิปรายครั้งนี้ด้วยสองเรื่องสั้นๆเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น 0:18:57.000,0:18:59.000 ปี 1982 (พ.ศ.2525) ผมไม่แน่ใจว่าใครจำเรื่องนี้ได้หรือเปล่า 0:18:59.000,0:19:02.000 มีเหตุโรคระบาดที่เกิดขึ้นในช่วงสั้น 0:19:02.000,0:19:04.000 ของไทลินอลเป็นพิษในสหรัฐฯ 0:19:04.000,0:19:07.000 เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวทีเดียว ซึ่งเกิดจากใครสักคน 0:19:07.000,0:19:10.000 ใส่ยาพิษลงในขวดยาแล้วปิดฝาวางไว้ที่เดิม 0:19:10.000,0:19:12.000 ไม่นานก็มีคนซื้อไป 0:19:12.000,0:19:14.000 คนๆนี้ทำให้ 0:19:14.000,0:19:16.000 เกิดพฤติกรรมเลียนแบบในสังคมตามมาอีกหลายๆครั้ง 0:19:16.000,0:19:19.000 ทั้งที่อาจไม่มีภัยนั้นจริง แต่ผู้คนก็ยังกลัวกันอยู่ดี 0:19:19.000,0:19:21.000 และนี่เป็นแหล่งกำเนิด 0:19:21.000,0:19:23.000 นวัตกรรมผนึกขวดในอุตสาหกรรมยา 0:19:23.000,0:19:25.000 ฝาผนึกขวดที่เห็นทุกวันนี้มาจากเหตุการณ์นั้นเอง 0:19:25.000,0:19:27.000 นับว่าเข้ากับโรงละครความปลอดภัยเต็มรูปแบบ 0:19:27.000,0:19:29.000 ผบขอให้ทุกท่านลองไปคิดดูเป็นการบ้านนะครับ ว่าถ้าเป็นคุณจะแก้ไขอย่างไร ซัก 10 วิธีนะครับ 0:19:29.000,0:19:32.000 สำหรับผม ใช้หลอดฉีดยาก็ไม่เลวนะ 0:19:32.000,0:19:35.000 น่าจะทำให้ผู้คนรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น 0:19:35.000,0:19:37.000 มันทำให้พวกเขาวางใจว่าปลอดภัย 0:19:37.000,0:19:39.000 ใช้ได้ในสภาพความเป็นจริง 0:19:39.000,0:19:42.000 และเรื่องสุดท้าย เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อนผมเพิ่งคลอดลูก 0:19:42.000,0:19:44.000 ผมมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาล 0:19:44.000,0:19:46.000 ผมสังเกตเห็นว่า ทุกวันนี้เด็กที่คลอด 0:19:46.000,0:19:48.000 ต้องใส่กำไลข้อมือประจำตัวแบบเทคโนโลยีคลื่นความถี่ (RFID) 0:19:48.000,0:19:50.000 พร้อมทั้งใส่อีกอันหนึ่งให้คุณแม่ 0:19:50.000,0:19:52.000 ทั้งนี้ ถ้ามีใครสักคนที่ไม่ใช่คุณแม่ของเด็กอุ้มตัวเด็กออกจากเขตที่ตั้งไว้ 0:19:52.000,0:19:54.000 เสียงเตือนจะดังขึ้นทันที 0:19:54.000,0:19:56.000 ผมขอบอกว่า "มันดูเหมือนจะใช้ได้นะ 0:19:56.000,0:19:58.000 แต่ผมสงสัยว่า พวกลักพาตัวเด็ก 0:19:58.000,0:20:00.000 หนีออกจากโรงพยาบาลได้อย่างไร?" 0:20:00.000,0:20:02.000 ผมลองมาสืบค้นข้อมูล 0:20:02.000,0:20:04.000 ได้ความว่า เหตุการณ์แบบนี้แทบไม่เกิดขึ้นเลย 0:20:04.000,0:20:06.000 แต่คุณลองคิดดู 0:20:06.000,0:20:08.000 ถ้าคุณเป็นเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล 0:20:08.000,0:20:10.000 แล้วเกิดต้องพาตัวเด็กไปจากแม่ 0:20:10.000,0:20:12.000 เพื่อไปตรวจอะไรซักอย่าง 0:20:12.000,0:20:14.000 คุณควรจะมี "โรงละครปลอดภัย" ที่ดี 0:20:14.000,0:20:16.000 มิฉะนั้นแม่ของเด็กคนนั้นคงเอาคุณตายแน่ๆ 0:20:16.000,0:20:18.000 (เสียงหัวเราะ) 0:20:18.000,0:20:20.000 ฉะนั้นมันสำคัญกับพวกเรา 0:20:20.000,0:20:22.000 กับกลุ่มคนที่ออกแบบวิธีรักษาความปลอดภัยทั้งหลาย 0:20:22.000,0:20:25.000 กลุ่มคนที่วางนโยบายความปลอดภัย 0:20:25.000,0:20:27.000 หรือกระทั่งกลุ่มคนที่วางนโยบายสาธารณะ 0:20:27.000,0:20:29.000 ที่จะมีผลกระทบกับความปลอดภัย 0:20:29.000,0:20:32.000 ไม่ใช่เพียงสภาพความเป็นจริง แต่เป็นความรู้สึกและความเป็นจริงผนวกเข้าด้วยกัน 0:20:32.000,0:20:34.000 สิ่งที่สำคัญคือ 0:20:34.000,0:20:36.000 สองอย่างนี้คล้ายๆกัน 0:20:36.000,0:20:38.000 และเมื่อความรู้สึกและความเป็นจริงไปในแนวทางเดียวแล้ว 0:20:38.000,0:20:40.000 ก็จะทำให้เราเลือกที่จะเสียบางอย่างไปเพื่อแลกกับความปลอดภัยได้ดีขึ้น 0:20:40.000,0:20:42.000 ขอบคุณมากครับ 0:20:42.000,0:20:44.000 (เสียงปรบมือ)