WEBVTT 00:00:06.658 --> 00:00:10.791 อาจไม่จำเป็นที่จะต้องบอกคุณ ว่าสมองของคุณนั้นสำคัญแค่ไหน 00:00:10.791 --> 00:00:13.174 ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งที่เคยประสบ 00:00:13.174 --> 00:00:14.708 ความคิดและการกระทำของคุณ 00:00:14.708 --> 00:00:17.123 การรับรู้และความจำ 00:00:17.123 --> 00:00:20.354 ต่างก็ถูกประมวลผลที่นี่ ภายในศูนย์ควบคุมของร่างกาย 00:00:20.354 --> 00:00:23.935 ถ้านี่ดูเหมือนเยอะแล้ว สำหรับการทำงานของอวัยวะหนึ่ง 00:00:23.935 --> 00:00:28.043 อันที่จริง มันเป็นเพียงแค่ส่วนเล็ก ๆ เท่านั้น ที่สมองของคุณทำ 00:00:28.043 --> 00:00:31.209 กิจกรรมโดยส่วนใหญ่ของมัน เกิดขึ้นโดยคุณอาจไม่รู้ตัว 00:00:31.209 --> 00:00:33.913 เว้นเสียแต่ว่ามันจะหยุดลงกระทันหัน 00:00:33.913 --> 00:00:36.144 สมองถูกประกอบด้วย เซลล์ประสาทนับพันล้านเซลล์ 00:00:36.144 --> 00:00:38.206 และการเชื่อมโยงนับล้าน ๆ 00:00:38.206 --> 00:00:41.363 เซลล์ประสาทสามารถถูกกระตุ้น โดยสิ่งเร้าจำเพาะหรือความคิด 00:00:41.363 --> 00:00:44.749 แต่บ่อยครั้งที่ มันยังทำงานได้อย่างอัตโนมัติ 00:00:44.749 --> 00:00:47.262 บ้างก็ทำงานเป็นวงจรอย่างเป็นรูปแบบ 00:00:47.262 --> 00:00:51.642 บ้างก็ทำงานเป็นการประทุอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปิดการทำงาน 00:00:51.642 --> 00:00:54.011 หรือหยุดอยู่เป็นเวลานาน 00:00:54.011 --> 00:01:00.054 จนกว่าจะได้รับคำสั่งนับพัน เซลล์ประสาทอื่นในลักษณะที่เหมาะสม 00:01:00.054 --> 00:01:01.223 โดยภาพรวม 00:01:01.223 --> 00:01:05.555 ผลลัพธ์ในการกำกับจังหวะของ กิจกรรมสมองที่ถูกสร้างขึ้นจากภายในนี้ 00:01:05.555 --> 00:01:07.404 ครางเบา ๆ อยู่ในพื้นหลัง 00:01:07.404 --> 00:01:09.188 ไม่ว่าเรากำลังตื่น หลับ 00:01:09.188 --> 00:01:12.492 หรือพยายามที่จะไม่คิดอะไรเลยก็ตาม 00:01:12.492 --> 00:01:15.038 และหน้าที่ของสมอง ที่เกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติเหล่านี้ 00:01:15.038 --> 00:01:20.128 เป็นพื้นฐานของหน้าที่อื่น ๆ ของสมอง 00:01:20.128 --> 00:01:23.583 สิ่งสำคัญที่สุด ของกิจกรรมที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัตินี้ 00:01:23.583 --> 00:01:25.831 คือการทำให้พวกเรามีชีวิตอยู่ 00:01:25.831 --> 00:01:28.752 ตัวอย่างเช่น ขณะที่คุณกำลังสนใจวีดีโอนี้อยู่ 00:01:28.752 --> 00:01:32.661 กิจกรรมอัตโนมัติของสมอง ได้ช่วยคงการหายใจของคุณ 00:01:32.661 --> 00:01:38.048 ไว้ที่ 12 ถึง16 ครั้งต่อนาที เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ขาดอากาศหายใจ 00:01:38.048 --> 00:01:39.558 โดยไม่ต้องอาศัยสติสัมปะชัญญะ 00:01:39.558 --> 00:01:43.243 สัญญาณจากส่วนก้านสมอง จะถูกส่งผ่านไขสันหลัง 00:01:43.243 --> 00:01:45.766 ไปยังกล้ามเนื้อที่ทำให้ปอดของคุณพองตัว 00:01:45.766 --> 00:01:50.452 ทำให้มันขยายออกและหดลง ไม่ว่าคุณจะใส่ใจหรือไม่ก็ตาม 00:01:50.452 --> 00:01:54.601 วงจรกระแสประสาทที่เป็นพื้นฐาน ของกิจกรรมจังหวะอัตโนมัติดังกล่าว 00:01:54.601 --> 00:01:57.614 เรียกว่า ตัวสร้างรูปแบบการเคลื่อนไหวกลาง 00:01:57.614 --> 00:02:00.442 และควบคุมการทำพฤติกรรมทั่วไป ที่มีลักษณะซ้ำ ๆ 00:02:00.442 --> 00:02:01.314 เช่น การหายใจ 00:02:01.314 --> 00:02:02.399 การเดิน 00:02:02.399 --> 00:02:03.622 และการกลืน 00:02:03.622 --> 00:02:07.733 กิจกรรมของระบบประสาทเกิดขึ้นอยู่ เป็นพื้นฐานของการรับสัมผัสของเรา 00:02:07.733 --> 00:02:08.911 อาจดูเหมือนว่า 00:02:08.911 --> 00:02:12.084 เซลล์ประสาทในจอประสาทตา ที่แปลงแสงให้เป็นสัญญาณประสาท 00:02:12.084 --> 00:02:14.219 จะไม่ทำงานเมื่ออยู่ในที่มืด 00:02:14.219 --> 00:02:15.259 แต่ในความเป็นจริงแล้ว 00:02:15.259 --> 00:02:18.567 กลุ่มเซลล์ประสาทในจอประสาทตา ที่เชื่อมต่อกับสมอง 00:02:18.567 --> 00:02:20.349 ทำงานอยู่ตลอดเวลา 00:02:20.349 --> 00:02:25.331 และสัญญาณที่พวกมันส่งออกไป จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงเป็นอัตราการทำงาน 00:02:25.331 --> 00:02:27.329 แทนที่จะเป็นไปในรูปแบบการประทุเป็นครั้ง ๆ 00:02:27.329 --> 00:02:31.648 ฉะนั้น ในทุกระดับ ระบบประสาทของเรา จะทำงานร่วมกันกับกิจกรรมอัตโนมัติ 00:02:31.648 --> 00:02:36.253 ที่ช่วยมันแปลความหมายและตอบสนอง ต่อสัญญาณใด ๆ ที่มันอาจได้รับ 00:02:36.253 --> 00:02:40.882 และการขับเคลื่อนอัตโนมัติของสมองนี้ ไม่จำกัดอยู่แค่หน้าที่พื้นฐานในทางชีวภาพเท่านั้น 00:02:40.882 --> 00:02:42.524 ระหว่างที่คุณกำลังกลับบ้าน 00:02:42.524 --> 00:02:44.748 คุณเคยคิดว่าเย็นนี้จะรับประทานอะไร 00:02:44.748 --> 00:02:48.378 แล้วจากนั้นคุณก็ไม่ได้จำว่า คุณได้ใช้เวลาเดินมา 5 นาทีแล้ว 00:02:48.378 --> 00:02:50.911 ในขณะที่พวกเราไม่เข้าใจรายละเอียดทั้งหมด 00:02:50.911 --> 00:02:54.663 เรารู้ว่ากิจกรรมที่ดำเนินอยู่ ในหลาย ๆ ส่วนของสมองนั้น 00:02:54.663 --> 00:02:58.525 สามารถทำงานร่วมกัน เพื่อจัดการงานที่ค่อนข้างซับซ้อน 00:02:58.525 --> 00:03:02.120 ที่เกี่ยวข้องทั้งในด้านการคิด และการเคลื่อนไหว 00:03:02.120 --> 00:03:04.682 ที่นำคุณไปยังทิศทางที่ถูกต้อง รวมถึงทำให้คุณขยับขา 00:03:04.682 --> 00:03:06.711 ในขณะที่คุณกำลังคิดว่า เย็นนี้จะรับประทานอะไรดี 00:03:06.711 --> 00:03:10.070 สิ่งที่น่าสนใจที่สุด เกี่ยวกับการทำงานแบบอัตโนมัติของสมอง 00:03:10.070 --> 00:03:12.578 คือการที่มันเกี่ยวข้อง กับเรื่องที่น่าลึกลับที่สุด 00:03:12.578 --> 00:03:16.920 และเป็นปรากฏการณ์ที่เป็นที่เข้าใจน้อยที่สุด เกี่ยวกับร่างกายของเรา นั่นก็คือ การนอนหลับ 00:03:16.920 --> 00:03:20.036 คุณอาจจะพักผ่อนและ หยุดกิจกรรมต่าง ๆ ในตอนกลางคืน 00:03:20.036 --> 00:03:22.239 แต่สมองของคุณกลับไม่เป็นเช่นนั้น 00:03:22.239 --> 00:03:23.286 ในขณะที่คุณกำลังหลับ 00:03:23.286 --> 00:03:28.264 กิจกรรมอัตโนมัติที่ยังทำงานอยู่ ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนทีละเล็กทีละน้อย 00:03:28.264 --> 00:03:32.623 และท้ายที่สุดก็กลายเป็น คลื่นกระแสประสาทที่เป็นจังหวะขนาดใหญ่ 00:03:32.623 --> 00:03:34.933 ที่ครอบคลุมสมองของเรา 00:03:34.933 --> 00:03:38.044 การแปลงมาเป็นจังหวะของการนอนหลับ ที่เป็นระเบียบมากกว่า 00:03:38.044 --> 00:03:42.885 เริ่มจากกลุ่มเล็ก ๆ ของเซลล์ประสาท ที่รวมตัวอยู่ที่ไฮโปทาลามัส 00:03:42.885 --> 00:03:44.638 แม้ว่าพวกมันจะมีจำนวนที่น้อย 00:03:44.638 --> 00:03:46.458 แต่กลับส่งผลมาก 00:03:46.458 --> 00:03:51.097 ต่อการปิดการทำงานบริเวณก้านสมอง ซึ่งโดยปกติเป็นส่วนที่ทำให้คุณตื่น 00:03:51.097 --> 00:03:53.485 แล้วปล่อยให้บริเวณอื่นเช่น เปลือกสมองและไฮโปทาลามัส 00:03:53.485 --> 00:03:57.231 ค่อยเคลื่อนเข้าสู่จังหวะที่มันเลือกเอง 00:03:57.231 --> 00:03:58.741 ยิ่งเราหลับลึกมากเท่าไร 00:03:58.741 --> 00:04:02.729 จังหวะก็ยิ่งช้าลง และมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น 00:04:02.729 --> 00:04:09.303 โดยในช่วงที่หลับลึกที่สุดจะมีคลื่นเดลต้า ที่แอมพลิจูดสูง ความถี่ต่ำ 00:04:09.303 --> 00:04:12.562 แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ ในช่วงกลาง ของคลื่นการนอนหลับที่มีจังหวะช้านี้ 00:04:12.562 --> 00:04:15.564 กิจกรรมอัตโนมัติที่ถูกเชื่อมโยงกันของสมอง 00:04:15.564 --> 00:04:19.129 เปลี่ยนอย่างรวดเร็วไปเป็นการปะทุต่าง ๆ 00:04:19.129 --> 00:04:21.417 ทีมักพบเห็นได้ในเวลาที่เราตื่น 00:04:21.417 --> 00:04:24.241 นี่คือระยะนอนหลับที่เรารู้จักกันดีว่า REM sleep 00:04:24.241 --> 00:04:28.506 ที่ลูกตาของเราจะเคลื่อนไหวไปมา อย่างรวดเร็วขณะที่เรากำลังฝัน 00:04:28.506 --> 00:04:33.463 นักประสาทวิทยายังพยายามหาคำตอบ ต่อคำถามพื้นฐานอีกมากมาย 00:04:33.463 --> 00:04:36.519 เช่น หน้าที่ของมัน ในการฟื้นฟูความสามารถในการจดจำ 00:04:36.519 --> 00:04:38.358 การรักษาสมดุลของเซลล์ 00:04:38.358 --> 00:04:40.182 และการเพิ่มประสิทธิภาพของความจำ 00:04:40.182 --> 00:04:41.953 และที่ท้าทายยิ่งกว่านั้น พวกเขายังกำลังสำรวจว่า 00:04:41.953 --> 00:04:46.688 สมองสามารถทำงานที่มีความสำคัญ และซับซ้อนสำเร็จได้อย่างไร 00:04:46.688 --> 00:04:51.137 เช่น ขับรถ หรือแม้แต่หายใจ โดยที่ไม่ต้องอาศัยสติสัมปชัญญะ 00:04:51.137 --> 00:04:53.225 แต่ตอนนี้ จนกว่าเราจะเข้าใจ 00:04:53.225 --> 00:04:57.067 ทำงานภายในของหน้าที่แบบอัตโนมัติ ของพวกมันมากขึ้น 00:04:57.067 --> 00:05:00.154 เราต้องยกความดีความชอบให้กับสมอง ที่ฉลาดเฉลียว 00:05:00.154 --> 00:05:02.276 มากเสียยิ่งกว่าตัวเราเอง