WEBVTT

00:00:07.451 --> 00:00:10.221
อยากรู้ไหมครับ
ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร

00:00:10.221 --> 00:00:14.724
ว่าวันพรุ่งนี้ ปีหน้า หรือพันปีข้างหน้า 
จะเกิดอะไรขึ้น

00:00:14.724 --> 00:00:16.276
คุณไม่ได้สงสัยอยู่คนเดียวหรอกครับ

00:00:16.276 --> 00:00:20.620
ทัั้งรัฐบาล กองทัพ
ผู้นำโลกอุตสาหกรรม ก็สงสัยเหมือนกัน

00:00:20.620 --> 00:00:23.285
พวกเขาต่างว่าจ้าง "นักอนาคต"

00:00:23.285 --> 00:00:26.163
พยายามมาทำนายอนาคตดู

00:00:26.163 --> 00:00:29.120
พวกเขาบางคนทำนาย
ได้แม่นยำจนน่าทึ่งเชียวล่ะ

00:00:29.120 --> 00:00:30.790
ช่วงกลางศตวรรษที่ 20

00:00:30.790 --> 00:00:33.402
สถาบันวิจัยที่ชื่อว่า
แรนด์ คอร์โปเรชั่น (RAND)

00:00:33.402 --> 00:00:36.459
ระดมพลังสมองนักวิทยาศาสตร์
และนักอนาคตจำนวนหนึ่ง

00:00:36.459 --> 00:00:38.945
พวกเขาร่วมกันคาดการณ์
ว่าจะเกิดเทคโนโลยีหลาย ๆ อย่าง

00:00:38.945 --> 00:00:41.136
ที่ในปัจจุบัน 
พวกเรามองว่าเป็นของธรรมดา

00:00:41.136 --> 00:00:42.575
ตัวอย่างเช่น อวัยวะเทียม


00:00:42.575 --> 00:00:44.532
ยาคุมกำเนิด

00:00:44.532 --> 00:00:49.333
ห้องสมุดที่ค้นหาข้อมูล
ให้กับผู้อ่านได้ตามต้องการ

00:00:49.333 --> 00:00:52.288
วิธีหนึ่งที่นักอนาคต
ใช้คาดการณ์ทำนาย

00:00:52.288 --> 00:00:55.961
คือการวิเคราะห์การเคลื่อนไหว
และค่านิยมของสังคม


00:00:55.961 --> 00:00:59.605
มองหาแนวทางที่คาดว่า
น่าจะถูกเลือกเพื่อก้าวต่อไปในอนาคต

00:00:59.605 --> 00:01:01.852
โดยแต่ละแนวทางก็มี
ความน่าจะเป็นแตกต่างกันไป

00:01:01.852 --> 00:01:06.522
งานของพวกเขา
จะช่วยผู้วางแผนนโยบายและผู้นำโลก

00:01:06.522 --> 00:01:09.324
ให้พวกเขาชั่งน้ำหนักทางเลือกแต่ละทาง

00:01:09.324 --> 00:01:13.758
ซึ่งหากไม่ใช่วิธีนี้ ก็คงไม่อาจจินตนาการ
ได้ละเอียดและลึกซึ้งอย่างนี้ได้

00:01:13.758 --> 00:01:18.495
แน่ละครับ ว่าก็ต้องมีข้อจำกัด
ว่าคนเราจะคาดการณ์ถึงอนาคตได้แค่ไหน

00:01:18.495 --> 00:01:21.131
อย่างไรก็ต้องมีการค้นพบ
ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเกิดขึ้น

00:01:21.131 --> 00:01:24.805
การค้นพบที่สำหรับคน
ในยุคปัจจุบันแล้ว เป็นไปไม่ได้


00:01:24.805 --> 00:01:25.831
ลองจินตนาการดูนะครับ

00:01:25.831 --> 00:01:30.426
หากเราส่งตัวนักฟิสิกส์
จากช่วงกลางศตวรรษที่ 19


00:01:30.426 --> 00:01:33.142
ข้ามเวลามาศตวรรษที่ 21

00:01:33.142 --> 00:01:37.774
อธิบายให้เขาฟังว่า
มีธาตุประหลาดตัวหนึ่ง ชื่อ ยูเรเนียม 235

00:01:37.774 --> 00:01:42.215
ที่ตัวมันเองสามารถผลิตพลังงาน
มากพอจะใช้ได้ทั้งเมือง

00:01:42.215 --> 00:01:45.463
หรือทำลายทั้งเมืองได้ภายในพริบตา

00:01:45.463 --> 00:01:48.911
เขาย่อมอยากรู้ว่า
"แล้วพลังงานนี้มาจากที่ไหน"

00:01:48.911 --> 00:01:51.064
"นี่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์แล้ว
มันเวทมนตร์ชัด ๆ "

00:01:51.064 --> 00:01:53.995
ถ้าเราพูดกันจริง ๆ เขาก็พูดถูกนะครับ

00:01:53.995 --> 00:01:55.728
ความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์
ในยุคศตวรรษที่ 19 ของเขานั้น

00:01:55.728 --> 00:02:00.021
ไม่มีความรู้เรื่องกัมมันตรังสี
หรือฟิสิกส์นิวเคลียร์อยู่ด้วย

00:02:00.021 --> 00:02:04.108
ในยุคของเขา ต่อให้ทำนายอนาคตอย่างไร
ก็ไม่มีใครทำนายเรื่องรังสีเอ็กซ์

00:02:04.108 --> 00:02:05.582
หรือระเบิดปรมาณูได้

00:02:05.582 --> 00:02:07.420
อย่าว่าแต่ทฤษฎีสัมพันธภาพ

00:02:07.420 --> 00:02:09.504
หรือกลศาสตร์ควอนตัมเลยครับ

00:02:09.504 --> 00:02:11.037
ก็อย่างที่อาร์เธอร์ ซี. คลาร์ก พูดไว้

00:02:11.037 --> 00:02:15.754
"เทคโนโลยีล้ำหน้าล้ำสมัย
กับเวทมนตร์นั้นแยกกันไม่ออก"

00:02:15.754 --> 00:02:19.842
แล้วเราจะเตรียมตัวรับมือ
กับอนาคตที่เหมือนเป็นเวทมนตร์

00:02:19.842 --> 00:02:23.674
เหมือนอย่างที่ในสายตาคน
จากศตวรรษที่ 19 มองเราได้อย่างไร

00:02:23.674 --> 00:02:27.695
เราอาจคิดว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่
และเทคนิคการวิเคราะห์ที่ก้าวหน้า

00:02:27.695 --> 00:02:31.167
จะช่วยให้เราคาดการณ์อนาคตได้แม่นยำขึ้น

00:02:31.167 --> 00:02:33.492
เมื่อเทียบกับคนในศตวรรษที่ 19

00:02:33.492 --> 00:02:34.971
ซึ่งก็ไม่ผิดหรอกครับ

00:02:34.971 --> 00:02:38.058
แต่อย่าลืมว่า 
ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีของเรา

00:02:38.058 --> 00:02:43.376
ก็ยังก่อให้เกิดความท้าทาย
ที่ซับซ้อนและคาดเดาไม่ถูกด้วย

00:02:43.376 --> 00:02:47.491
สำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป การพยายาม
จินตนาการถึงเรื่องที่น่าทึ่งเกินจินตนาการ

00:02:47.491 --> 00:02:49.682
มันจะยากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะครับ

00:02:49.682 --> 00:02:51.348
คำถามก็คือ

00:02:51.348 --> 00:02:53.091
แล้วเราจะทำได้อย่างไร

00:02:53.091 --> 00:02:56.796
จริง ๆ แล้ว เราได้คำตอบ
ที่พอจะเข้าท่ามาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19

00:02:56.796 --> 00:02:58.760
และการปฏิวัติอุตสาหกรรม

00:02:58.760 --> 00:03:01.525
ที่วางรากฐาน
ให้กับโลกสมัยใหม่ของเราแล้วล่ะครับ

00:03:01.525 --> 00:03:04.326
ช่วงเวลานี้ที่เกิดการพัฒนาและการคิดค้น
เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ

00:03:04.326 --> 00:03:08.992
งานเขียนแนวใหม่ อย่างนวนิยายวิทยาศาสตร์
ก็เกิดขึ้นในแวดวงวรรณกรรม

00:03:08.992 --> 00:03:12.918
จูลส์ เวิร์น, แอช.จี. แวลส์ และนักคิดคนอื่น ๆ

00:03:12.918 --> 00:03:16.784
ได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งประดิษฐ์ในอดีต
ทำให้พวกเขาสร้างงานเขียนแสนอลังการ


00:03:16.784 --> 00:03:19.552
ที่บรรยายถึงขอบเขตใหม่
ของศาสตร์ต่าง ๆ ของมนุษย์

00:03:19.552 --> 00:03:22.418
และตลอดช่วงศตวรรษที่ 20
จวบจนถึงศตวรรษที่ 21

00:03:22.418 --> 00:03:26.211
นักเล่าเรื่องเหล่านี้ก็ยังคง
แบ่งปันภาพอนาคตของพวกเขา

00:03:26.211 --> 00:03:31.338
และคาดเดาอนาคตของโลกที่เราอาศัยกันต่อมา
อย่างถูกต้องในหลาย ๆ แง่มุม

00:03:31.338 --> 00:03:32.799
ใน "โลกวิไลซ์"
(Brave New World)

00:03:32.799 --> 00:03:37.217
ที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1932 
อัลดัส ฮักซ์ลีย์ ทำนายเรื่องยาต้านโรคซึมเศร้า

00:03:37.217 --> 00:03:40.310
นานก่อนที่ยาจำพวกนี้
จะถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย

00:03:40.310 --> 00:03:45.971
ในปี ค.ศ. 1953 เรย์ แบรดบิวรีย์
ทำนายเรื่องหูฟังใน "ฟาเรนไฮต์ 451"

00:03:45.971 --> 00:03:48.293
เขาเรียกมันว่า "ปลอกวิทยุ"

00:03:48.293 --> 00:03:50.997
และในเรื่อง "2001: สเปซ โอดิสซี่"

00:03:50.997 --> 00:03:58.076
อาร์เธอร์ ซี. คลาร์ก บรรยายถึง
จอแสดงข่าวสารฉบับพกพา ไว้ในปี ค.ศ. 1968

00:03:58.076 --> 00:04:01.524
งานที่มักจะมีทั้งเรื่องบันเทิง
และการสะท้อนสังคมเช่นนี้

00:04:01.524 --> 00:04:05.418
เราถูกชี้ชวนให้หยุดคิดกังขาชั่วครู่ 
แล้วลองคิดถึงผลที่จะตามมา

00:04:05.418 --> 00:04:10.628
เมื่อแนวคิดคุ้นเคยและที่ถูกปลูกฝังมานาน
เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

00:04:10.628 --> 00:04:11.497
จะว่าไป

00:04:11.497 --> 00:04:15.882
นวนิยายเชิงวิทยาศาสตร์ ทำให้คำพูด
ของนักปรัชญา มีแชล ฟูโก เป็นจริง

00:04:15.882 --> 00:04:20.867
"ผมไม่ใช่ศาสดา หน้าที่ผมคือ
การสร้างหน้าต่างจากที่ที่เคยเป็นกำแพง"

00:04:20.867 --> 00:04:25.699
โดยไม่ต้องผูกยึดกับแนวคิดปัจจุบัน
และการสรุปว่าอะไรที่เป็นไปได้บ้าง

00:04:25.699 --> 00:04:30.466
นิยายวิทยาศาสตร์กลายเป็น
เครื่องมือมีประโยชน์ที่สอนให้เราคิดนอกกรอบ

00:04:30.466 --> 00:04:32.331
นักอนาคตหลายคนตระหนักถึงเรื่องนี้ดี

00:04:32.331 --> 00:04:36.452
บางคนก็เริ่มที่จะเชิญ
บรรดานักเขียนเหล่านี้มาร่วมงาน

00:04:36.452 --> 00:04:40.765
เมื่อไม่นานมานี้เอง โครงการที่ใช้ชื่อว่า 
รู้แล้ว (iKnow) เสนอสถานการณ์

00:04:40.765 --> 00:04:43.464
ที่คล้ายคลึงกับเรื่องในนวนิยายวิทยาศาสตร์มาก

00:04:43.464 --> 00:04:45.941
ยกตัวอย่างสถานการณ์เช่น
การค้นพบอารยธรรมต่างดาว

00:04:45.941 --> 00:04:50.352
การพัฒนาการสื่อสารให้คนและสัตว์
สื่อสารกันได้อย่างไร้พรมแดน

00:04:50.352 --> 00:04:52.921
การยืดชีวิตคนให้ยืนยาวมากขึ้น

00:04:52.921 --> 00:04:55.116
ตกลงแล้ว อนาคตเราจะเป็นยังไงหรือครับ

00:04:55.116 --> 00:04:57.210
แน่ละ ไม่มีใครรู้ได้แน่นอน

00:04:57.210 --> 00:05:00.808
แต่นวนิยายวิทยาศาสตร์
ก็พอช่วยบอกความเป็นไปได้ให้กับเรา

00:05:00.808 --> 00:05:02.781
สุดท้ายแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับเราละครับ

00:05:02.781 --> 00:05:06.084
ว่าจะทำเรื่องไหนให้กลายมาเป็นความจริง