0:00:06.827,0:00:09.857 ผู้คนหลาย ๆ รุ่นต่างรู้สึกว่า[br]พวกเขามาถึงจุดสูงสุด 0:00:09.857,0:00:12.117 ของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี 0:00:12.117,0:00:14.198 หากลองมองกลับไป 100 ปี 0:00:14.198,0:00:16.947 เทคโนโลยีที่เรามีอยู่ในวันนี้ 0:00:16.947,0:00:19.903 อาจเป็นเพียงเวทย์มนต์ที่เป็นไปไม่ได้ 0:00:19.903,0:00:21.837 ดังนั้นจะมีจุดที่บอกเราได้ไหมว่า 0:00:21.837,0:00:26.767 เรามาถึงข้อจำกัดทางด้านความก้าวหน้า[br]ทางด้านเทคโนโลยี 0:00:26.767,0:00:31.258 และถึงอย่างนั้น เราใกล้ถึงจุดนั้นแค่ไหน 0:00:31.258,0:00:32.479 เมื่อ 50 ปีก่อน 0:00:32.479,0:00:36.788 นักดาราศาสตร์ชาวรัสเซีย นิโคไล คาร์ดาเชฟ[br](Nikolai Kardashev) ได้ตั้งคำถามดังกล่าว 0:00:36.788,0:00:40.419 เมื่อเขาหาวิธีการในการวัด[br]ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี 0:00:40.419,0:00:44.571 ถึงแม้เราต่างไม่มีไอเดียว่า[br]มันจะเป็นอย่างไร 0:00:44.571,0:00:47.789 ทุกสิ่งที่เราทำในอนาคตล้วนต้องใช้พลังงาน 0:00:47.789,0:00:51.498 ดังนั้นมาตรของคาร์ดาเชฟ [br]แบ่งแยกอารยธรรมที่เป็นไปได้ 0:00:51.498,0:00:55.508 ไม่ว่าจะเป็นอารยธรรมของมนุษย์ต่างดาว [br]หรือเราเอง 0:00:55.508,0:00:59.779 ออกเป็น 3 ประเภท ขึ้นอยู่กับการใช้พลังงาน 0:00:59.779,0:01:02.500 พลังงานน้อยนิดที่เราใช้ในตอนนี้ 0:01:02.500,0:01:05.249 นั้นไม่สำคัญเท่ากับพลังงานที่ยังไม่ได้ใช้ 0:01:05.249,0:01:08.218 อารยธรรมประเภทที่ 1 หรืออารยธรรมดาวเคราะห์ 0:01:08.218,0:01:12.310 สามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานทั้งหมด[br]ของดาวต้นกำเนิด 0:01:12.310,0:01:18.919 ในกรณีของโลก พลังงานที่ได้รับจากดวงอาทิตย์[br]คือ 174,000 เทราวัตต์ 0:01:18.919,0:01:22.370 ซึ่งเราเก็บเกี่ยวได้เพียง 15 เทราวัตต์[br]เท่านั้น 0:01:22.370,0:01:26.760 ส่วนใหญ่ได้มาจากการเผาไหม้[br]พลังงานแสงอาทิตย์ที่เก็บอยู่ในฟอสซิล 0:01:26.760,0:01:29.409 ในการที่จะเป็นอารยธรรมประเภทที่ 1 0:01:29.409,0:01:33.301 เราจะต้องเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ [br]โดยตรงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 0:01:33.301,0:01:36.611 โดยการคลุมดาวด้วยแผงโซลาร์เซลล์ 0:01:36.611,0:01:38.711 หากยึดตัวแบบซึ่งมองในแง่ดีสุด 0:01:38.711,0:01:42.090 เราอาจไปถึงจุดนั้นภายใน 4 ศตวรรษ 0:01:42.090,0:01:43.569 แล้วหลังจากนั้นหล่ะ 0:01:43.569,0:01:46.981 โลกได้รับเพียงแถบพลังงานเล็ก ๆ [br]จากดวงอาทิตย์ 0:01:46.981,0:01:51.620 ขณะที่พลังงานอีก 400 ยอตตาวัตต์ที่เหลือ[br]สูญเสียไปในอวกาศ 0:01:51.620,0:01:54.251 แต่อารยธรรมประเภทที่ 2 หรืออารยธรรมดาวฤกษ์ 0:01:54.251,0:01:57.801 สามารถใช้ประโยชน์[br]จากพลังงานในดาวต้นกำเนิดได้สูงสุด 0:01:57.801,0:02:00.562 แทนที่จะติดตั้งแผงโซลาร์รอบ ๆ ดาว 0:02:00.562,0:02:05.831 อารยธรรมประเภทที่ 2 จะติดตั้งให้มัน[br]โคจรรอบดวงดาว 0:02:05.831,0:02:09.652 สร้างรูปทรงทางทฤษฎีที่เรียกว่า ทรงกลมไดสัน 0:02:09.652,0:02:10.971 และระดับสาม นั่นหรือ 0:02:10.971,0:02:16.170 อารยธรรมระดับ 3 จะเก็บเกี่ยวพลังงานทั้งหมด[br]ในกาเเล็คซี่บ้านเกิดของตน 0:02:16.170,0:02:19.762 ซึ่งเราคิดในทางกลับกันได้ว่า 0:02:19.762,0:02:21.681 เราไปได้เล็กแค่ไหนกัน 0:02:21.681,0:02:24.492 สำหรับข้อจำกัดนั้น นักดาราศาสตร์[br]ชาวอังกฤษ จอห์น แบรโรว์ 0:02:24.492,0:02:28.972 ได้แบ่งอารยธรรมโดยขึ้นอยู่กับขนาด[br]ของวัตถุที่เป็นเจ้าของ 0:02:28.972,0:02:32.432 มีขนาดไล่ไปตั้งแต่สิ่งก่อสร้าง[br]ที่มีขนาดเท่าเรา 0:02:32.432,0:02:34.752 ถึงสิ่งที่เป็นองค์ประกอบ[br]ทางชีววิทยาของตัวเรา 0:02:34.752,0:02:37.642 ลึกลงไปจนถึงการปลดล็อคอะตอม 0:02:37.642,0:02:42.413 ปัจจุบันเราไปถึงการค้นพบระดับอะตอม[br]ถึงแม้ว่าการควบคุมนั้นยังมีขีดจำกัด 0:02:42.413,0:02:46.012 แต่เป็นไปได้ที่เราจะไปได้เล็กกว่าในอนาคต 0:02:46.012,0:02:48.514 ในการทำความเข้าใจถึงขอบเขตที่แท้จริง 0:02:48.514,0:02:54.542 อวกาศที่ค้นพบนั้นมีขนาดใหญ่กว่าร่างกาย[br]มนุษย์ถึง 10 กำลัง 26 เท่า 0:02:54.542,0:02:58.433 นั่นหมายความว่าถ้าคุณซูมออกไป[br]10 กำลัง 26 เท่า 0:02:58.433,0:03:01.273 คุณจะอยู่ในมาตรของอวกาศ 0:03:01.273,0:03:05.183 แต่ถ้าต้องการเข้าหาความยาวที่สั้นที่สุด[br]ที่เรียกว่า ความยาวพลังค์ 0:03:05.183,0:03:08.712 คุณคงต้องซูมเข้าไป 10 กำลัง 35 เท่า 0:03:08.712,0:03:13.782 เหมือนกับที่นักฟิสิกส์ ริชาร์ด ไฟน์แมน [br]กล่าวว่า"เรามีที่เหลืออีกมากข้างล่างนั่น" 0:03:13.782,0:03:15.143 แทนที่จะเป็นไปตามมาตรใดมาตรหนึ่ง 0:03:15.143,0:03:17.973 ดูเหมือนว่าอารยธรรมของเราจะถูกพัฒนาต่อไป 0:03:17.973,0:03:21.654 ตามมาตรคาร์ดาเชฟและแบรโรว์ 0:03:21.654,0:03:25.313 ความแม่นยำในมาตรวัดเล็ก ๆ ทำให้เรา[br]ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 0:03:25.313,0:03:29.013 และปลดล็อคแหล่งพลังงานใหม่ ๆ[br]เช่น พลังงานนิวเคลียร์ 0:03:29.013,0:03:30.614 หรือแม้กระทั่งปฏิสสาร 0:03:30.614,0:03:35.693 และพลังงานที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้เรา[br]ขยายและสร้างในขอบเขตที่ใหญ่ขึ้น 0:03:35.693,0:03:38.684 การพัฒนาที่แท้จริงทางด้านอารยธรรม จากนั้น 0:03:38.684,0:03:43.339 จึงเก็บเกี่ยวพลังงานทั้งจากดวงดาวและอะตอม 0:03:43.339,0:03:46.165 แต่คำทำนายเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงสำหรับ[br]มนุษย์เท่านั้น 0:03:46.165,0:03:48.050 สิ่งเหล่านี้มีความเป็นไปได้ถึงสองเท่า 0:03:48.050,0:03:51.324 ในการค้นพบสิ่งมีชีวิตในอวกาศ 0:03:51.324,0:03:54.305 หากเราค้นพบทรงกลมไดสัน[br]บนดวงดาวที่อยู่ห่างออกไป 0:03:54.305,0:03:57.146 นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสิ่งมีชีวิต 0:03:57.146,0:04:01.575 หรือ ถ้าหากว่ามีโครงสร้างที่ดูดกลืน[br]พลังงานจากดาว 0:04:01.575,0:04:02.635 เหมือนกับต้นไม้ 0:04:02.635,0:04:07.310 อารยธรรมต่างดาวสร้างขึ้น[br]เพื่อที่จะดูดกลืนพลังงานจากดาว 0:04:07.310,0:04:09.813 เหมือนกับนกฮัมมิ่งเบิร์ด 0:04:09.813,0:04:13.714 ถ้าหากนั่นยังไม่น่ากลัวพอ[br]เราค้นพบวัตถุบนท้องฟ้าที่มีขนาดหนาแน่น 0:04:13.714,0:04:15.675 มีขนาดใกล้เคียงกับดวงดาว 0:04:15.675,0:04:19.085 ที่ดูดกลืนพลังงานจากดาวที่ใหญ่กว่ามาก 0:04:19.085,0:04:21.095 แต่ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า 0:04:21.095,0:04:23.385 นี่เป็นหลักฐานของสิ่งมีชีวิตบนอวกาศ 0:04:23.385,0:04:25.735 บางทีอาจมีคำอธิบายเกี่ยวกับ[br]การค้นพบดังกล่าว 0:04:25.735,0:04:28.145 ที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตต่างดาวมาเกี่ยวข้อง 0:04:28.145,0:04:30.597 แต่นั่นไม่ได้หยุดเราในการตั้งคำถามว่า[br]"แล้วถ้า"